ถ้าอยากประสบความสำเร็จในเรื่องการสอบ ต้องไปไหว้พระประจำจังหวัด__ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ

ลองดูครับ
ถ้าศีลคุณไม่บริสุทธิ์ คุณจะสงบไหม
ทุกอย่างก็ต้องเริ่มที่ฐานสิครับ ไม่ใช่อยู่ดีๆๆๆกระโดดไปยอดเลยนะ
ทาน ศีล สมาธิ = คงเข้าใจนะครับ
เครื่องยนต์ไฮโดรเจนของท่านนะ ไม่เกิดจากธรรมชาติเลยนะ เกิดจากคุณสตาร์ทเครื่องยนต์
เรื่อง ขอพรกับศีลห้า คนละเรื่องครับ อ่านดีๆๆครับปฏิบัติ กับ ขอ ไม่เหมือนกัน เหมือนจะใช้ปัญญาพิมพ์ จริงๆๆเลย...............

 

ขอให้ สมาธิ รู้วิธีในการตอบเร็วๆๆนะครับ เอาใจช่วย

 

ทานเป็นการสละอารมณ์
ศีลเป็นฐานความั่นคงที่สุดเพราะศีลคือความปกติของจิตที่สะอาดหมดจด
สมาธิเป็นความตั้งมั่นของจิตที่ไม่ซัดส่ายมีกำลัง
ปัญญาคือการรู้ความจริงของขันธ์ อายตนะ สัจจะ ธาตุ ที่พระไตรลักษณ์แสดงให้รู้
สติคือผู้รู้ ตื่น เบิกบาน
จิตเป็นผู้รู้คิดนึกปรุงแต่ง(เจตสิก)
ใจเป็นผูู้้เฉยๆ เป็นกลาง สบายๆ โปร่งโล่ง
ทุกๆสิ่งมีความสัมพันกันและกันเหมือนดั่งเชือกที่ฝานมัดรวมกัน
ไปด้วยกันอาศัยกันและกันขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้
มากเกินก็ไม่ได้น้อยเกินก็ไม่ดี
ต้องเป็นกลางพอดีๆจนกว่าอินทรีย์จะสมบูรณ์พร้อม
จนกว่าจิตจะคลายอุปทาน
จนกว่าจิตมันจะฉลาด
ปัญญาจึงคือวิชชาความสว่างพูดแบบตรงๆคือ
รู้ความจริงว่ามีแต่ทุกขฺทั้งมวลที่ปรากฏ
จิตย่อมไม่ส่งออกทุกข์ย่อมไม่ปรากฏ
อนุโมทนาครับ
อ้อง

 

สาธุ อนุโมทนากับท่านด้วยนะครับ
ต้องแบบนี้สิครับ ผู้มีปัญญา

 

ขอบคุณค่ะ ที่แนะนำสิ่งดีๆให้เสมอ หนู..เวลาไปไหว้พระ ก็ได้แต่นั่งนิ่ง ไม่รู้จะขออะไร แต่ว่าเวลาเข้าสมาธิ จะขอให้ตัวเองมีปัญญา ครั้งหนึ่งได้เจอ พระอาจารย์ สารีบุตร ท่านกว่าวกับหนูว่า "ปัญญาหากขาดโอกาสได้ใช้ ปัญญา นั้นก็ไร้ซึ่งความหมาย เจ้าควรไปกราบ พระสีวลี เป็นอาจารย์ ด้วย เพราะเจ้าจะได้มีโอกาสใช้ปัญญา " ซึ่งก็คือที่มาว่า ทำไมหนูถึงได้บูชาพระอาจารย์ สีวลีด้วย
ขอบคุณนะคะ ที่เตือนสติ เพราะยิ่งใกล้สอบ ยิ่งกดดัน คิดอะไรไม่ออก แถวยังมีเพื่อนๆที่มีปัญหาโทรมาบ่อยมาก ครั้งจะเฉย ก็เหมือนใจดำ "เฮ้อเอาตัวไม่รอดเลย แต่กลับช่วยคนอื่นได้ จะดีใจหรือเสียใจดีค่ะ"
พึงอ่านหนังสือเสร็จ เลยมา พักสมอง อ่านข้อความที่ดีๆจากทุกๆท่าน อ่านแล้วก็มีกำลังใจทุกครั้งเลย ขอบคุณนะคะ ^^

 

ขอให้กำลังใจจากการสอบครับ ต้องคิดเสมอว่าเราต้องทำได้ ต้องมีความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว ไม่ย่อท้อ ลำบากแค่ไหนก็ยอมทน เราต้องทำให้ดีที่สุดครับ

 

ขอให้สอบได้นะครับ จะเป็นกำลัังใจให้
มันไม่ยากเหมือนวิชา เทอร์โปโรจี หรอกครับ

 

ถึงคุณต้นละ...คุณลองไปอ่านให้ดีก่อน..ผมยังไม่เคยบอกว่า..ถ้าไม่รักษาศิลแล้วทำให้จิตสงบ...ผมแค่บอกว่าการรักษาศิลไม่ได้ทำให้เกิดปัญญาได้...ทำไมพระพุทธองค์ถึงให้เรารักษาศิล....เอาตัวอย่างง่ายๆ..ข้อมุสา..ถ้าเราโกหกก็จะกลัวว่าคนจะรู้ว่าเราโกหกทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นความดันสูงขึ้น...การดื่มก็เช่นกัน ทำให้ขาดสติ..และแอลกอฮอยังไปทำลายน้ำตาลในเม็ดเลือดทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย...ทำให้ความดันสูงขึ้นเช่นกัน...มันเป็นเรื่องทางกายวิภาค........เมื่อหัวใจเต้นเร็วขึ้นความดันสูงขึ้นมันจะทำให้การทำจิตให้สงบยากขึ้นแค่นั้นเอง....พระพุทธองค์ให้เราดูในกายของเราแค่นั้นเอง...ถ้าเราละเมิดศิลห้า..กายวิภาคของเรามันไม่อยู่ในสภาวะสมดุล...มันทำใจสั่นหัวใจเต้นเร็วความดันสูงขึ้นซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกายจริงมั๊ย........

.............โชคดี...มีแต่สิ่งดีๆในชีวิต...ทุกๆคน...

 

แหม.....ไอ้เรื่องไฮโดรเจน..ผมแค่ยกตัวอย่าง..ว่า...ทุกอย่างย่อมกลับสู่สิ่งตั้งต้นของมัน..
เราทำสมาธิอยู่ทุกๆวันนี่ก็เพราะว่าเราต้องการให้จิตเรากลับสู่สภาวะตั้งต้นของจิตใช่มั๊ย...
สภาวะตั้งต้นของจิตก็คือ...จิตว่าง..เป็นกลาง..ไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง...นั่นก็คือจิตของเด็กทารก..ซึ่งเป็นจิตที่ว่าง..สามารถรับคลื่นความถี่ต่างๆได้ดี.....จิตของทารกจะว่าแล้วก็คือจิตของอรหันต์น่ะเอง..ปล่อยว่าง..ว่าง....บริสุทธิ์...........

 

ท่านครับ
ผมอ่านมาแล้ว
ท่านเคยได้ยินไหม ปฏิบัติบูชา = ทำให้เกิดปัญญานะครับ ถ้าสิ่งของบูชา = จะได้ลาภ ยศ สรรเสริญ ( ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรครับ )
เรื่องที่ท่านกล่าวเรื่องหัวใจเต้นนะ เป็นเรื่องของกายภาพครับ เป็นปกติอยู่แล้วครับ ตกใจก็เต้นแรง กลัวก็เต้นแรง โมโหก็เต้นแรง ปกติอยู่แล้ว
ผมจะอธิบายสักข้อนะ ถ้าเรารักษาข้อ ๔.ไม่บริสุทธิ์ แล้วเราทำสมาธิ จิตของเราเองก็จะไม่สงบเพราะ จิตของเราจะวนเวียนแต่ที่ข้อ ๔. เพราะจิตเป็นอกุศล แล้วก็จะไม่สงบ ของทำดูนะครับ
ท่านเอง ลอง ศึกษา ทาน ศีล สมาธิ ใหม่ก่อนก็แล้วกันครับ แล้วค่อยมาทำจิตให้สงบนะครับ

 

จิตของพระอรหันต์ = จิตที่บริสุทธิ์ มีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ปรุงแต่ง
จิตทารก = จิตบริสุทธิ์แบบทารก(ปุถุชน) ไม่มีสติ มีการปรุงแต่ง
ลองศึกษาเรื่อง หมดกิเลส = พระอรหันต์ ใหม่นะครับ ค่อยพิมพ์ให้ผมอ่าน

 

เรื่องไฮโดเจน ผมหมายถึงไม่ได้กลับ แบบเดิมนี้ครับ กลับรูปแบบอย่างอื่น

 

:boo: สาธุๆ ขอบพระคุณค่ะ คุณแม่ ขอให้พรนั้นคืนสู่คุณแม่และครอบครัวด้วยเช่นกันคะ
น่าอิจฉา ลูกคุณแม่จังเลยนะคะ ที่มีแม่ใจดีแบบ คุณแม่
ตอนนี้หนูก็ปล่อยวางได้เยอะแล้วคะ จริงๆแล้วเวลาหนูไปไหว้พระก็ไม่เคยขออะไร เพราะไม่รู้ว่าตัวหนูอยากได้อะไร (โลภมากคะ อยากได้เยอะ เลยไม่ขอดีกว่า) ก็ได้แต่แอบคิดในใจว่า ถ้าได้...ก็คงดี แต่ไม่ได้ขอออกไปหรอกนะคะ
ขอบคุณคุณแม่นะคะ ที่เข้ามาแนะนำอะไรดีๆ หนูมั่นใจค่ะ ว่า หนูจะทำได้ดีที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่จะสอบ ด้วยนะคะ จะได้เจอกันที่
คณะแพทยศาสตร์ ....

 

สาธุๆ ^^ รู้สึกดีขึ้นมากเลยนะคะ ขอบคุณมากๆเลย นี้ไง ที่คนพูดว่า คนไทยเมืองพุทธศาสนา มีน้ำใจ ให้กันเสมอ แม้ไม่รู้จักกัน
ขอบคุณมากค่ะ จะทำให้ดีที่สุด

 

ขอขอบคุณนะคะที่ให้เกีรติเรียกคุณแม่
มีลูกสาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว ยินดีต้อนรับอย่างยิ่งค่ะ

ใกล้วันสอบเข้ามาทุกทีแล้วหนูอย่าเครียดนะคะลูก
โดยเฉพาะวันศุกร์นี้อย่านอนให้ดึกนะคะ
พยายามพักผ่อนให้เต็มที่เข้านอนแต่หัววัน
แต่คุณแม่ก็รู้นะว่าเป็นใครก็คงนอนไม่หลับหรอก
เราก็ใช้สมาธิช่วย สวดมนต์ไหว้พระทำจิตใจให้ผ่องใส
นอนภาวนาไปเรื่อยๆ ทำร่างกายให้ผ่อนคลายทุกๆส่วน
ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่นแจ่มใสพร้อมที่จะลุยกับอุปสรรคทั้งปวง

และก่อนออกจากบ้านตอนเช้าก็อย่าลืมกราบขอพรคุณพ่อคุณแม่ของหนูซะก่อนนะคะ
2องค์นี้คือพระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่จะให้พรหนูเลยล่ะคะ
หลังจากนั้นแล้วก็ลุยให้เต็มที่เลย
อนาคตที่ดีรออยู่ข้างหน้าแล้ว สู้ สู้ นะคะลูก
เป็นกำลังใจให้หนูด้วยใจจริงค่ะ

:book) :book) :boo:

 

สาธุๆ
หนูก็ดีใจนะคะ ที่คุณแม่ไม่ว่า ตอนแรกที่ส่งข้อความยังกลัวคุณแม่จะโกรธเลย ที่เรียกแบบนั้น ^^ ดีใจที่มีแม่ทางธรรม งั้น ต่อไปนี้ หนูขออนุญาติ ฝากเนื้อ ฝากตัวเป็นลูกสาวแม่ด้วยคนเลยนะคะ
กับแม่จริงๆ หนูก็ไม่ได้สนิดด้วย มีอะไร ก็คิดเอง ไม่เคยปรึกษา เพราะท่านค่อนข้างรักลูกชายมาก หนูก็เลยไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย หนูโตมาแบบคิดเองตัดสินใจเอง เพราะแม่ไม่สนับสนุนให้เรียน เลยต้องทำงาน หาเงินเรียนเองหากปรึกษาแม่ คงไม่ได้เรียนหรอกนะคะ เพราะแม่เชื่อพี่ชาย พี่ชายไม่อยากให้หนูเรียน คือครอบครัวหนูฐานะไม่ดี แม่มีลูกหลายคนเลยนำไปฝาก ลุง,น้า ตากับยาย เลี้ยง แยกกันอยู่ จนโต พ่อเสียถึงได้มาอยู่รวมกัน แต่ความรู้สึกหนูก็ยังรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด (แต่ตอนนี้มี คุณแม่อมริศา เป็นแม่อีกคน ^^รู้สึกดีใจจริงๆคะ)
ช่วงนี้ยอมรับว่า ตื่นเต้น (ยังไม่ถึงวันสอบเลย ยังนอนไม่หลับ) ^^ แต่ดีนะคะ ทำให้ตื่นใส่บาตร ทัน เพราะตั้งแต่อากาศหนาว หนูก็นอนตื่นสาย ใส่บาตรไม่ทัน พอตื่นเต้น ก็เลยทำให้ รู้สึกตัวตื่นมาใส่บาตรทัน
พ่อหนูเสียนานแล้วคะ แล้วหนูจะทำตามที่คุณแม่บอกนะคะ ก่อนไปสอบ จะไปกราบแม่ขอพรเพราะ ยังไงท่านก็ ให้กำเนิดหนู และเป้นพระองค์เดียวที่เหลืออยู่
ขอบพระคุณคุณแม่ มากเลยคะ

 

ไหว้หนังสือ
แล้วหยิบมาอ่าน

 

พี่มีเพืื่อนอยู่แพทย์จุฬาหลายคนมาก เพราะ่ว่าช่วงเอ็นท์นั้นยังฮิตเข้าหมออยู่
และรู้สึกว่าตอนนี้ก็ยังฮิตอยู่...
ก็ถามสารทุกข์สุขดิบกันประจำว่าเรียนเป็นไงบ้าง
เพื่อนพี่ก็เหนื่อยโทรมกันมาก มันบอกว่าไม่เหมือนกับที่คิดไว้ มันกดดันกว่านั้นเยอะ
แต่ว่าก็เข้ามากันแล้ว ก็ต้องสู้ต่อไป
พี่จึงอยากให้น้องแน่ใจจริงๆว่าน้องอยากเข้าคณะนี้ หมอเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละมาก
โดยเฉพาะเวลาที่ต้องให้ไปกับการศึกษาตำรา.... และบางทีก็มีการแข่งขันสูง
มันจะเป็นอีกสังคมนึงที่น้องต้องวางใจให้หนักแน่นมากๆ
พี่ไม่อยากให้น้องเข้าไปเรียนอย่างไม่มีความสุข
และก็ไม่อยากให้น้องเครียดมากถ้าสอบไม่ติด
เพราะบางทีสิ่งที่เหมาะกับเราอาจจะเป็นสิ่งที่เรายังไม่ได้นึกถึงมันก็ได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าน้องตั้งใจจะเข้าจริงๆ พี่ก็แนะนำให้ไหว้องค์เสด็จพ่อร.5
และเจ้าที่ ณ สถานที่ที่น้องสอบ
เวลาสอบก็คิดว่าเป็นไงเป็นกัน เราทำเต็มที่ ได้เท่าไหนก็เท่านั้น วันนี้ข้าขอสู้ตาย555

ขอให้น้องโชคดีนะคะ

 

สาธุๆ
ขอบคุณมากนะคะ ^^ ที่แนะนำ
ถ้าน้องตั้งใจจะเข้าจริงๆ พี่ก็แนะนำให้ไหว้องค์เสด็จพ่อร.5
และเจ้าที่ ณ สถานที่ที่น้องสอบ
เรื่องที่เรียนแพทย์ หนักและกดดัน ก็มีพี่ๆเจ้าหน้าที่ของมหาลัยมหิดล มาแนะนำที่ดรงเรียนเหมือนกันค่ะ ทำให้พอรู้บ้าง แต่ไม่รู้ว่าคณะแพทย์ จุฬาฯ จะเป็นอย่างไร ก็ขอบคุณพี่ที่เข้ามาบอก
บอกตามตรงๆ ชีวิตที่ผ่านมาผิดหวังมาตลอด ตั้งแต่เด็ก อยากให้แม่รักเลี้ยงดูเราเหมือนแม่คนอื่นๆ เช่น ไปทานข้าวกับแม่ แม่พาไปซื้อของ ทำกับข้าวกินกัน ที่สำคัญ อยากให้แม่ถามเรื่องเรียนหนูบ้าง แต่ตอนนี้ทำใจแล้วละ ว่าเป็นไม่ได้
หวังว่าจะมีเพื่อน ชวนไปไหนมาไหน (ไม่ได้คบเพราะจะให้ ส่องกรรมให้ หรือให้หนูช่วยติดต่อ วิญญาน) ตอนนี้ทำใจได้แล้ว เพราะพวกนั้นก็มาเวลาทุกข์ เท่านั้น แต่ก็สุขใจนะคะ ที่เค้าทุกข์มาหาหนู แต่กลับออกไปอย่างสบายใจ ทิ้งไว้แค่ความเหงา ว่าทำไมหนูต้องเดียวดายแบบนี้
หวังคนรัก ดูเค้าก็มีอนาคตที่ดีรอ และคงไปได้ดี ไม่แปลกหรอกถ้าเค้าจะไม่มองหนูเลย ก็หนูนะ ไม่มีอะไรเลย ครอบคัว(ต่างคนต่างอยู่ ยังพอทำใจ แต่นี้ ยังขัดแข้ง ขัดขาเหมือนศัตรูกันก็ไม่ปาน แม่ก็รักแต่พี่ชาย จนจะหมดตัวแล้ว) เรียนก็ยังไม่รู้ผล ว่าจะได้เรียนที่ไหน ยังไง
สิ่งที่หนูหวัง มี2 อย่าง คือได้ตายอย่างสงบ โดยไม่ต้องฆ่ตัวตาย(หวังมากเลยนะคะ) หวัง2 หวังจะได้เรียนแพทย์ เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือออกช่วยคน อยากเป็นอย่างหมอโฮโต๋ เดินทางช่วยคน แบบนั้นเลย
2วันจะสอบแล้ว ตื่นเต้นอีกแล้ว ขอบคุณทุกๆท่านนะคะ ที่เข้ามาให้กำลังใจ เวลาหนู นึกถึงแล้ว มันรู้สึกดี รู้สึกว่า ความดีที่เราทำ คงส่งผลนะ เลยทำให้เจอคนดีๆมีน้ำใจ เข้ามาให้พร (ต้องสำเร็จแน่)เพราะ หนูรู้ว่าคำอวยพรของคนดีมีศีล อย่างทุกๆท่าน จะเป็นจริง สาธุๆ
ขอบพระคุณมากคะ