หลวงปู่พิบูลย์ถูกถ่วงน้ำไม่ตาย

555..เปงยังงัย โดนบ้างแล้วปรามาสพระ บอกแล้วความเชื่อหากสถาปนาขึ้นในใจคนแล้ว มันจะอยู่เหนือเหตุและผลตลอด เคยเห็นกับตามาแล้ว คือเพื่อนผมคนนึงเอาขี่ดินธรรมดามาปั้นเพื่อหลอกว่าเป็นลูกอมหลวงพ่อ...พร้อมนิยายปาฏิหารย์ศักดิ์สิทธิ์มอบให้เพื่อนอีกคนนึงเพื่อแก้เผ็ดที่มาหลอกขายพระเก๊มัน ปรากฏว่าเพื่อนที่ได้รับลูกอมไปเชื่อสนิท เอาไปเลี่ยมแขวน แล้วมีประสบการณ์ถูกหวยอีกต่างหากทั้งที่ไม่เคยขอ ไม่เคยนึกถึงหลวงพ่อที่เขาหลอกว่าเป็นผู้สร้างลูกอม นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ดีๆเกิดขึ้นอีกหลายอย่าง เช่นค้าขายดีขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะจิตตานุภาพในตัวของเขานั่นเองที่ถูกกระตุ้นให้เกิดความเชื่อความศรัทธาขึ้นจากนิยายที่เพื่อนหลอก ทำให้เกิดอำนาจจิตแห่งตนที่เรียกว่าจิตตานุภาพขึ้น จึงทำให้คิดแต่สิ่งดีๆว่าจะเกิดและอำนาจจิตก็สร้างสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นมาได้ ปัจจุบันนักวิทยาศสาตร์ทางจิตของรัสเซียทุ่มเทศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้อย่างเต็มที่มายาวนาน นักพลังจิตของเขาสามารถเพ่งช้อนงอ เคลื่อนของได้ บังคับจิตคนอื่นได้ในระยะทางไกล ถ้าอยากทำความเข้าใจเรื่องจิตตานุภาพโดยละเอียดให้ไปอ่านหนังสือชื่อนี้ของหลวงวิจิตรวาทการ

ดังนั้นเวลาที่คนถูกหลอกมาแล้ว ถ้าเรารู้มาบอกแล้วเขาไม่เชื่อไม่ฟังก็ช่างหัวมันเถอะ อย่าเอามาเครียด คนโง่อาจต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะแยกแยะความจริงออก ผมเคยคุยกับหลวงปู่ฯองค์หนึ่งที่ท่านศึกษามามากในที่สุดมาจบตามแนวคัมภีร์หลักในพุทธศาสนาซึ่งตรงที่สุด หลวงปู่ฯท่านก็รู้ว่าที่สำนักใหญ่ๆหลายสำนักที่มีคนเชื่อเป็นแสนๆนั้นสอนผิด (ขุดบ่อล่อปลาทั้งนั้น) และความหลงผิดในวิธีการปฏิบัติรวมถึงพิธีกรรมที่อ้างอิงนิยายปาฏิหารย์ที่มนุษย์ทั่วไปมองไม่เห็นจะหลอกยังงัยก็ได้ เดี๋ยวก็จำไปอุปทานเอง ยังปรากฏให้เห็นอยู่ทุกวัน แต่หลวงปู่ฯก็ไม่ยอมบอกโยมๆว่าที่ถูกเป็นยังงัย และ ก็ไม่ยอมเปิดสอนด้วย ท่านบอกว่าเราเอาตัวเรารอดก็พอแล้ว ผมยังแซวท่านเลยว่านี่หล่ะพวกมหายานถึงเรียกพวกเราว่า หินยานที่แปลว่ายานอันคับแคบ จะไปคนเดียว หลวงปู่ฯท่านก็หัวเราะ แต่สรุปว่าหลวงปู่ฯก็ไม่อยากออกมาบอกใครว่าที่ถูกมันคือยังงัย เพราะท่านคงเคยเจอเหตุการณ์บัวใต้โคลนตมที่รังแต่จะเป็นอาหารของเต่าและปลาอย่างนี้นี่เอง

 

ชอบๆๆครับ ผมเห็นด้วยกับวลีนี้ ก็แค่แหย่ขาให้ปลาตอดอ่ะพี่น้อง ตัวผมเองก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน ก็แค่เช็คเรทติ้งว่ายังพอมีกะเค้าอยู่ให้ได้ขำๆกระชุ่มกระชวยไปวันๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ..ว่าแต่ว่าเอ หม้อต้มปลาหายไปไหนวะ...555.

 

ชอบๆๆสไตล์การเล่าเรื่องหรือการแซวของคุณซักวันจะคิดออกแสดงว่าเป็นคนรักการอ่าน จึงมีการเขียนที่ดี

 

แหมก็พอปลาตอด ก็เอาแหเหวี่ยง จับมาทั้งฝูงเลยงัย 555

แค่นี้ก็พอแล้วครับ

ปกติของที่ได้มา ผมจะพกแค่สามวัน ถ้าไม่เห็นผล ก็เก็บเลยครับ

แต่นี้เห็นกันตั้งแต่วันแรก แบบนี้ยาวครับยาว

ปล. ผมว่าไม่ใช่ตะกรุดนะหน้าทอง เพราะอ่านคาถาแล้ว ไม่มีเรียกจิต เรียกธาตุ อะไรเลย
ดังนั้น ต้องเป็นอิ่นแต่งงาน แน่แน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเครื่องรางแบบนี ต้องมีการเรียกจิตด้วยแน่แน่

 

ขอบคุณครับ(deejai)

 

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน มาติดตามอ่านด้วยความเคารพครับ

 

เนื่องจากผมเคยบูชาตะกรุดกันสะท้อนมาจากในเวปแห่งนี้ล่ะ แล้วพอของครูบาธรท่านออกตะกรุดกลองสะท้อน ก็ต้องแปลกใจว่าทำไมของที่เราเคยเช่ามามันแปลกประหลาดพิศดารเหลือเกินเลยทีเดียว ต้องจารในงานศพในช่วงส่งศพไปป่าช้า ตรงนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ตรงที่ว่า ให้โยมรอบๆวัดบูชาไปใช้ไม่ได้ เพราะกลัวโดนตู้ของใส่กัน ให้ส่งไปที่ทางกรุงเทพได้บูชากัน ตรงนี้ล่ะทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ถ้าคนจะตู้ของใส่กันกรรมใครก็กรรมมัน ก็ให้มันย้อนกลับไปน่ะดีแล้ว ตอนนั้นด้วยความที่ตามกระแสที่พวกชั่วนี้มันปั่นกันเลยอินตาม เสียค่าโง่เช่ามาด้วยดอกนึง ไอคนพวกนี้น่ะมันคงเข้าไปให้หลวงพ่อเขียนให้มันแล้วเอามาขายเอากำไรเข้ากระเป๋าสตางค์ตัวเอง ที่น่าตกใจไปกว่านั้นตะกรุดดอกนี้น่ะ เป็นตะกรุดที่ไม่มีกระแสพลังออกมาเลยจากตัวตะกรุด เพราะผมไปให้พระกรรมฐานที่รู้จักกันท่านจับพลังท่านบอกว่าไม่มีพลังอยู่เลย คิดเอาแล้วกันแบบนี้มันเอามาหลอกให้เราบูชากันเลยชัดๆ จากการได้สอบถามจากครูบาแม้วและครูบาธร ทั้งสองท่านก็บอกว่าเรียนวิชามาสารพัดทั่วภาคเหนือไม่เคยได้ยินวิชาอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ไม่ทราบตอนนี้ถ้าจะให้คืนมันจะรับคืนรึเปล่า?

 

ไอ้คนพวกเนี่ยไม่ได้ทำมากินอยู่แต่เพียงวัดเดียวไปทำมาหากินอยู่หลายวัดเลยทีเดียว ผมได้มีโอกาสเข้าไปกราบพระเกจิหนุ่มรูปหนึ่งแถวๆอยุธายา ก็นั่งคุยกับท่านสอบถามท่าน ด้วยความที่ว่าผมได้ศึกษาพระเวทย์มาบ้างเล็กน้อย ก็ลองถามท่านว่า วิชาที่ใช้ตอนปลุกเสกนี่มีหลักการเรียกสูตรเรียกนามอย่างไร อุปเท่ห์การใช้งานเป็นอย่างไรแล้วเป็นไปตามที่ไอ้พวกนั้นมาประชาสัมพันธ์ในอินเทอร์เนตจริงหรือเปล่า ท่านก็บอกว่า พวกนั้นเอาฉันไปแต่งแต้มระบายสีขนาดนั้นเลยหรอ สาเหตุเพราะไอ้คนพวกเนี่ยมันเอาวัตถุมงคลที่ท่านทำออกมาแล้วไปประชาสัมพันธ์พร้อมกับบิดเบือนวิชาของท่านให้มันดูเหลือเชื่อเกินจริง ท่านก็บอกว่าพอกระแสมันเริ่มดียอดสั่งจองมาที่วัดมีมากขึ้น พักหลังๆมันมีวัตถุมงคลรุ่นเสริมชุดพิเศษออกมาให้เห็นเพราะมีคนเขาเช่าไปแล้วแวะกลับเข้ามากราบท่านที่วัด แล้วสอบถามเรื่องวัตถุมงคลกับท่านซึ่งท่านเองยังสงสัยเลยว่ามีได้ไงไม่เคยทำแบบนี้ รุ่นพิเศษอะไรไม่มี มีแต่ของที่ให้ข้อมูลเขาไปช่วยประชาสัมพันธ์บนอินเทอร์เนตเท่านั้น และที่น่าสงสัยยิ่งๆเข้าไปอีกคือ มีการขอวัตถุมงคลจำนวนนึงออกไปอ้างว่าจะนำเงินมาถวายแต่ภายหลังแต่ปรากฏว่าเรื่องราวมันชักไม่ชอบมาพากล ของพวกนั้นออกเป็นของเสริมบ้าง พวกของรุ่นพิเศษบ้าง เพราะถ้าของตรงๆมันต้องออกจากทางวัดเลย ทางวัดจะทำการจัดส่งไปให้ผู้ที่สั่งจอง ท่านก็ไว้ใจคนกลุ่มนี้ให้เอาไปจัดการ ช่วงหลังๆท้ายๆจึงสังเกตได้ว่าทำไมของไม่ส่งตรงจากวัด ทำไมต้องมาส่งตรงจากไอคนพวกนี้ด้วย แล้วการทำมากินของไอคนพวกนี้มันก็ลุกลามไปเรื่อยๆในวงกว้างเริ่มไปหากินในแหล่งใหม่อยู่เรื่อยๆ แล้วที่สำคัญคือไอพวกนี้น่ะมันจอมสร้างภาพระดับเทพ ถ้าส่งมันไปประกวดออสก้าร์คงได้รับรางวัลรวดเดียวหมดทุกรางวัล สร้างภาพตัวให้ดูเหมือนเป็นคนดี ใจบุญ ทอดสะพานบุญ แต่แท้จริงแล้วมันกำลังบ่อนทำลายศาสนา หลอกหากินกับพระ

 

น้องลีของขึ้นอีกแย้ว

 

หนูไม่รู้ หนูปล่อยวาง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

นั่นสิ ขึ้นบ่อยเกิน ระวังเหนื่อยนะ 555
พักซะบ้าง เก็บแรงไว้เพื่องานครั้งหน้าดีกว่าครับผม 555

 

ว่าแต่ว่างานเสาร์๕จะนิมนต์พระเกจิ ๙ รูปมาสมโภชน์ฤๅษีทันใจ จะมนต์ใครดี หลวงปู่อายุมากๆต้องนิมนต์เป็นองค์แถม เพราะงานกลางคืนด้วยคงมาไม่ไหว คงต้องนิมนต์รุ่นอายุไม่เกิน ๗๕ เป็นหลัก เกจิบางองค์ดังแต่ก็ไม่กล้านิมนต์อีกเพราะท่านอยู่ค่ายนายทุนเด๋วมันสั่งไม่ให้มา หรือหากมาก็เท่ากับเราช่วยทำ pr ส่งเสริมให้พวกนายทุน

 

วันเสาร์จะเอาชาไปถวายหลวงปู่ทองสุข วัดกิ่งแก้ว ปรากฎว่าท่านป่วย หลานมารับไปดูแลที่บ้าน อากาศสัปดาห์ที่แล้ว เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว พระผู้เฒ่าป่วยกันระนาว เมื่อเช้านี้ก็เอาอีกแล้วเริ่มมีลมหนาวพัดเย็นๆอีก

 

หลวงพ่อตี๋ ครับ น่าจะไม่มีนายทุนหนุนหลัง
พระมหาสุรศักดิ์ ก็สุดยอด

 

น่าสนใจทั้งคู่เลยคร๊าบ

 

ปี๕๓นี้ยังน่ากลัวว่าครูบาอาจารย์จะจากไปอีกหลายรูป

 

ในงานเสาร์๕มหาเศรษฐีนี้ คงต้องใช้ Staff ในการรับส่งดูแลพระเกจิแต่ละรูป ที่ไม่เกี่ยวกับ Staff ฝ่ายอื่นๆก็ ๙ ชุดแล้ว เพราะบางองค์ต้องไปรับไปส่งขึ้นลงเครื่องจากสนามบิน ใครมีรถจะอาสาแจ้งเข้ามาได้เลยครับ

 

ก่อนหน้าผมไม่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังมันเป็นมาอย่างไร เล่นเวปนี้มาเรื่อยๆ เป็นขาจรที่เข้ามาอ่านและติดตามเรื่องราวต่างๆ
เริ่มแรกเลยคือเข้ามาอ่านดูแล้วเจอตะกรุดกันสะท้อน เกิดความสนใจเลยเช่าบูชามาดอกนึง แล้วพอต่อมาได้ติดตามกระทู้วัตถุมงคล
พระเกจิหนุ่มรูปหนึ่งที่อยุธยา ก็เกิดความศรัทธา จึงได้เข้าไปกราบท่าน นั่งพูดคุยกับท่านเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่ท่านทำขึ้น
ได้พบว่า ไอ้คนพวกนี้มันเข้ามาอาสาประชาสัมพันธ์วัตถุมงคลของทางวัด ท่านก็ให้ข้อมูลไป แต่ข้อมูลที่ถูกนำเสนอกับข้อมูลที่ท่านให้ไปมันถูกบิดเบือนเกิน
ความจริง พอสอบถามเข้าไปอีกก็พบว่าไอ้พวกมารศาสนาพวกนี้ได้ขอวัตถุมงคลท่านบางส่วน โดยอ้างว่าจะเอาไปทำโน้นทำนี่
หลังจากได้วัตถุมงคลไปแล้ว มันก็เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดขึ้น วัตถุมงคลรุ่นพิเศษนอกเหนือจากที่ทางวัดออก
มันออกมาให้เห็นกันในอินเทอร์เนต โดยอ้างว่านำได้ไปพุทธาภิเษกหลายๆที่ ออกมาให้บูชากัน อีกทั้งที่เมื่อก่อนจะมีการจัดส่งจากทางวัดโดยตรง ระยะหลังนี้จะเอา
ของไปสต๊อกไว้ที่ตัวเองแล้วทำการจัดส่งเอง ทำให้ตัวผมเองย้อนกลับไปคิดว่าแล้วตะกรุดกันสะท้อน
ที่เคยบูชามามันจะเป็นแบบนี้ไหมวะเนี่ย พอดีว่าตอนนั้นได้เจอครูบาธรและครูบาแม้ว จึงสอบถามทั้งสองท่านนี้ว่า วิชากันสะท้อนแนวนี้มึรึเปล่า
ท่านทั้งสองบอกว่า ตั้งแต่เรียนมาสารพัดวิชาทั่วทั้งภาคเหนือไม่เคยได้ยินวิชาแบบนี้มาก่อนเลย ทำให้ความสงสัยผมกระจ่างชัดขึ้นในทันที
ว่า "กูโดนหลอกแล้ว" เพราะกระบวนการทำไมมันเหมือนกันกับที่อยุธยาไม่มีผิด มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง

 

ใครมีข้อมูลพระเกจิเก่งจริง ดีไม่โลภ ไม่มีนายทุนหนุนหลังจะแนะนำบ้างครับ จาได้แอบไปดู ถ้าโอเค จะได้นิมนต์มางานเสาร์๕มหาเศรษฐีของพวกเราไว้แต่เนิ่นๆ

 

เมื่อมาพิจารณาเข้าไปถึงที่สุดแล้ว คิดอย่างมีเหตุมีผล ว่าทำไมตะกรุดกันสะท้อนถึงไม่เปิดให้บูชากันที่วัด ทำไมต้องส่งมาเปิดให้บูชาที่กรุงเทพ
หากนำเรื่องราวทั้งสองเรื่องราวนี้เข้ามาพิจารณาร่วมกันแล้วจะพบว่าวิธีการมันเหมือนกันไม่มีผิด ตะกรุดกันสะท้อนนั้นคงเป็นค่าตอบแทนที่พระ
มอบให้ไอ้คนพวกนี้ แล้วไอ้คนพวกนี้ก็คิดแล้วว่าถ้าเอามาจำหน่ายที่บริเวณวัดพวกมันก็จะไม่ได้ตังค์เข้ากระเป๋าตัวเองกัน จึงนำออกมาให้บูชากัน
ในอินเทอร์เนตแล้วก็บิดเบือน แต่งเรื่องหลอกลวง ตามความสามารถที่พวกมันถนัดกัน เรื่องนี้หากคิดเข้าไปให้ถึงที่สุดแล้ว พระที่มอบค่าตอบแทน
เป็นวัตถุมงคลให้ ท่านจะไม่รู้เลยหรืออย่างไรว่า มีกระบวนการแบบนี้เกิดขึ้น เพราะคนที่บูชาไปมันต้องมีแน่ๆที่จะเข้าไปหาท่านที่วัดแล้วการสอบถามหาข้อเท็จจริง มีหรือที่พระท่านจะไม่รู้ว่าไอ้คนพวกนี้มันทำอะไร หากท่านเป็นพระแท้จริง ท่านต้องห้ามปรามแล้วว่าทำแบบนี้ไม่ถูกนะไปหลอกลวงญาติโยมเขา
แต่ถ้าท่านรู้เห็นเป็นใจทำเป็นนิ่งๆเฉยๆไม่รู้ไม่เห็น แบบนี้ต่อไปเรายังจะกราบท่านได้ลงอีกหรือ?