ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

พระที่คล้องใจ



เมื่อมีผู้ไปขอของดีจำพวกวัตถุมงคลจากหลวงปู่ไว้ห้อยคอหรือพกติดตัว หลวงปู่จะสอนว่า

"จะเอาไปทำไม ของดีภายนอก ทำไมไม่เอาของดีภายใน พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละ ของวิเศษ"

ท่านให้เหตุผลว่า

"คนเรานั้น ถ้าไม่มี พุทธัง ธัมมัง สังฆัง เป็นของดีภายใน ถึงแม้จะได้ของดีภายนอกไปแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร"

"ทำอย่างไรจึงจะได้เห็นพระจริงๆ เห็นมีแต่พระปูน พระไม้ พระโลหะ พระรูปถ่าย พระสงฆ์ ลองกลับไปคิดดู"

 

พระแผง ชุด 23 องค์
หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

Credit : คุณ ตุ้ย เวป Uamulet คร้าบ ขออนุญาตินำภาพมาให้เพื่อนสมาชิก เวปพลังจิตดูกันนะครับ

 

จะเอาดีหรือจะเอารวย



อีกครั้งหนึ่งที่คณะผู้เขียนได้มานมัสการหลวงปู่ เพื่อนของผู้เขียนท่านหนึ่งต้องการเช่าพระอุปคุตที่วัดเพื่อนำไปบูชา โดยกล่าวกับผู้ที่มาด้วยกันว่า บูชาแล้วจะได้รวย

เพื่อนของผู้เขียนท่านนั้นแทบตะลึง เมื่อมากราบหลวงปู่แล้ว ท่านได้ตักเตือนว่า

"รวยกับซวยมันใกล้ๆ กันนะ"

ผู้เขียนได้เรียนถามหลวงปู่ว่า "ใกล้กันยังไงครับ"

ท่านยิ้มและตอบว่า "มันออกเสียงคล้ายกัน"

พวกเราต่างยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ สักครู่ท่านจึงขยายความให้พวกเราฟัง

"จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ จะรักษามันก็ทุกข์ หมดไปก็เป็นทุกข์อีก กลัวคนจะจี้จะปล้น ไปคิดดูเถอะมันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอาดี ดีกว่า"

คำว่า ดี ของหลวงปู่ มีความหมายลึกซึ้งมาก ผู้เขียนขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของ ในหลวง ของเราในเรื่องทำความดี มาเปรียบ ณ ที่นี้ ความตอนหนึ่งว่า

"...ความดีนี้ ไม่ต้องแย่งกัน ความดีนี้ ทุกคนทำได้ เพราะความดีนี้ทำแล้วก็ดี ตามคำว่า ดี นี้ ดีทั้งนั้น ฉะนั้น ถ้าช่วยกันทำดี ความดีนั้นก็จะใหญ่โต จะดียิ่ง ดีเยี่ยม..."

 

เปิดมาระยะหนึ่งแล้วคร้าบ ตาม link นี้นะครับ

watthummuangna วัดถ้ำเมืองนะ

 

...ฝัน...
...พระพรหมปัญโญ...​

​

๑. ฝัน ว่ากินมือหลวงพ่อกลั่น
๒. ฝัน ว่ามีคนแบกพระไตรปิฎกมาให้กิน
๓. ฝัน ว่าพระสำเร็จได้ ๒ อย่างๆ ละ ๓ องค์
๔. ฝัน ว่าแบกขันพระสำเร็จท่านสำเร็จแล้ว
๕. ฝัน ว่ากินดาว ๓ ดวง
๖. ฝัน ว่าพระครูบอกที่สำเร็จให้ที่ว่างๆ ๒ แห่ง
๗. ฝัน ว่าพบคัมภีร์วิเศษทางทิศอุดร
๘. ฝัน ว่ากุฎิที่อยู่กลายเป็นแก้ว นั่งอยู่มองเห็นตัวเองในแก้ว แล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ลอยมาประกาศชื่อของท่านให้รู้ และให้เห็น
๙. ฝัน ว่าไปเทศน์แจง
๑o. ฝัน ว่าพระเข้าตัว พระพรหม พระอินทร์ มานมัสการพระพุทธเจ้า
๑๑. ฝัน ว่าครองไตรของท่านเจ้าคุณ เปรียญ ๙ มีพระ ๕oo องค์
๑๒. ฝัน ว่าพระพุทธเจ้านิมิต ๔, ๓
๑๓. ฝัน ว่าพระท่านว่านกเขาเป็นรัตนะ ๓ วันพฤหัสบดี
๑๔. ฝัน ว่าพระเจ้าแผ่นดิน รัชกาลที่ ๙ มาประชุมคุยกับเรา
๑๕. ฝัน ว่าได้สมเด็จนางพญา ๓ องค์
๑๖. ฝัน ว่าได้สวดมนต์ธัมมจักร ผีลุกขึ้นเต้นไปมาจนหมด​

*ขออนุญาติแก้คำบางคำให้เขียนแบบยุคปัจจุบันนะครับ​

 

แหวนปลอกมีด
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

Credit : พี่วิทย์ญาณเสน และ เวปสวนขลัง

แหวนแหวนปลอกมีด ที่ทางวัดสะแกจัดสร้างและทันลป.ดู่ ท่านเมตตาอธิฐานจิตปลุกเสกให้ มีทั้งหมด 3 รุ่นสามารถแยกลำดับตามปี พ.ศ. ได้ดังนี้

๑.แหวนปลอกมีด ปี๒๕๒๓ (รุ่นเกลียวปืน)

จัดเป็นแหวนปลอกมีดรุ่นแรกที่ทางวัดสะแกจัดสร้างไว้ เป็นเนื้อโลหะผสม
ซึ่งนำชนวนโลหะจากพระรูปหล่อลอยองค์ลป.ดู่ปี๒๕๒๒(เนื้อออกแดง)
และชนวนโลหะจากพระรูปหล่อลอยองค์ลป.ทวดปี๒๕๒๒(เนื้อออกเหลือง)

จำนวนที่จัดสร้างคือ

เนื้อโลหะผสมออกสีแดง จำนวน ๑,๐๐๐ วง
เนื้อโลหะผสมออกสีเหลือง จำนวน ๑,๐๐๐ วง

ลักษณะในท้องแหวนของรุ่นนี้เป็นเกลียวขลดรอบในวงแหวน เนื่องจาก แหวนรุ่นนี้ไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ และโดยลักษณะเกลียวคล้ายเกลียวปืนบางกลุ่มจึงเรียกว่า "แหวนเกลียวปืน"

 

๒.แหวนปลอกมีด ปี๒๕๒๙ (รุ่นซื้อที่ดิน)

จัดเป็นแหวนปลอกมีดรุ่น๒ที่ทางวัดสะแกจัดสร้างไว้ สาเหตุของชื่อรุ่นซื้อที่ดิน เนื่องจากแหวนรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อหาทุนสำหรับซื้อที่ดินเพิ่ม
โดยนำเอาชนวนพระประทานพรมาหลอมผสมในเนื้อแหวน

จำนวนการจัดสร้าง จำนวน ๓๐๐ วง

การตอกโค๊ตมีการตอกทั้งด้านนอกวงแหวนและ/หรือในวงแหวน(บางวงตอกด้านนอก บางวงตอกด้านใน บางวงตอกทั้งข้างนอกข้างใน)

 

๓.แหวนปลอกมีด ปี ๒๕๓๒

จัดเป็นแหวนปลอกมีดรุ่น๓ที่ทางวัดสะแกจัดสร้างไว้ โดยจัดสร้างไว้มี ๓ เนื้อ คือ

เนื้อทองคำ จำนวน ๑๐๘ วง
เนื้อเงิน จำนวน ๓,๐๐๐ วง
เนื้อโลหะผสมออกสีแดง จำนวน ๕,๐๐๐ วง
เนื้อโลหะผสมออกสีเหลือง จำนวน ๕,๐๐๐ วง

การตอกโค๊ตจะตอกไว้ใต้ท้องแหวน โดยโค๊ตที่ตอกนี้มี๒แบบคือ แบบยันต์นะ จม และ แบบยันต์นะ นูน

ส่วนแหวนปลอกมีดนอกเหนือจากนี้ถ้าไม่เป็นของหลวงน้าสายหยุดซึ่งไม่ทัน
หลวงปู่ดู่อยู่แล้วและมีประมาณ 3 รุ่นแล้วก็จะเป็นของปลอมไปเลย
หวังว่าคงคลายความสงสัยของเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยนะครับ.....









Credit : พี่วิทย์ญาณเสน และ เวปสวนขลัง

 

ขอบคุณน้องเคนที่มาเล่าประสปการณ์สู่กันฟังครับ ห่างหายไปนานเรื่องประสปการณ์ใครมีประสปการณ์อะไรก็มาเล่ากันนะครับผม หุหุหุ

 

ขอเล่าประสปการณ์ที่ผมได้รับพระของ ลป.ดู่ ให้ฟังสักเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เองครับเรียกว่าหมาดๆก็ว่าได้ครับ เคยเล่าลงในกระทู้แจกพระของ พี่ nuis500 แล้วครับ แต่เพื่อเผยแพร่ประสปการณ์ที่พบเจอมาต้องเขียนอีกรอบครับ เผื่อคนที่ยังไม่ได้อ่านจะได้มีกำลังใจในการปฎิบัติธรรมครับ

"ข้าจะให้ของแก"



จากกระทู้ : แจกพระเนื่องในวันคล้ายวันเกิด By พี่ nuis500 ครับ
http://www.watthummuangna.com/board/...ead.php?t=9865

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคืน วันที่ 30 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมานี้เองครับ ซึ่งผมได้เห็นกระทู้ของ พี่ nuis500 มาระยะหนึ่งแล้ว (เกือบเดือน) ที่พี่เขาตั้งใจจะแจกพระ ลป.ดู่ ในวันเกิดของพี่เขาครับ และมีการเปิดให้ลงชื่อรอรับพระกันมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งพี่เขาจะได้รวบรวมรายชื่อทั้งหมดไปจำสลากเพื่อหาผู้โชคดีที่จะได้รับพระเครื่องของ ลป.ดู่ ใน วันที่ 31 พ.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดพี่เขาครับ

ซึ่งแน่นอนผมก็ไม่พลาดที่จะลงชื่อรอรับกับเขาด้วยเหมือนกันครับ แฮ่ๆ (กิเลศหนาเตอะ) ซึ่งในคืน วันที่ 30 พ.ค. คืนนั้นผมก็ได้ลงมาสวดมนต์ ไหว้พระ หน้าหิ้งพระที่บ้านเป็นปกติเช่นทุกคืนครับ แต่วันนี้เกิดรู้สึกอยากนั่งสมาธิภาวนาขึ้นมาซะอย่างนั้น ซึ่งทุกทีผมเป็นคนขี้เกียจครับ ไม่ค่อยนั่งสมาธิอะไรกับเขาหรอก ส่วนมากชอบนั่งสวดมนต์ แผ่เมตตามากกว่าครับ

คืนนั้นหลังจากสวดมนต์เสร็จ (ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง) บรรยากาศกำลังดี เงียบกริบ ผมก็จัดแจงหาเบาะมารองเพื่อนั่งสมาธิภาวนาตามจริตของตนเองเป็นปกติ ซึ่งผมก็ได้ใช้องค์ภาวนาเป็น บทสวดจักรพรรดิบ้าง บทไตรสรณ์คมณ์บ้างครับ โดยไม่ลืมที่จะจับภาพองค์ภาวนาเป็นภาพ หลวงปู่ดู่นั่งสมาธิครับ

ผมนั่งภาวนาไปสักระยะหนึ่ง น่าจะประมาณ 10 นาทีได้ อยู่ๆภาพหลวงปู่ที่ผมทรงอยู่ก็เกิดอาการอย่างหนึ่งขึ้นมาคือ เป็นสิ่งที่ผมรับรู้ได้ด้วยจิตคือคำพูดที่ท่านพูดว่า

"ข้าจะให้ของแก"

ซึ่งผมก็สะดุดภาวนาเลยครับ และมานึกถึงคำภาวนาใหม่ ซึ่งผมก็ได้คิดในใจว่า

"บ้าแล้วตู คิดไปเองอีกแล้วไม่ไหวเลย"
((ตอนนั้นผมไม่ได้คิดเรื่องการจับสลากหาผู้โชคดีในวันรุ่งขึ้นเลย))

ก็ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ได้รับรู้มาคิดว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา เรียกง่ายๆว่า อุปาทาน นั่นเองครับ . . .

ผมนั่งได้อีกสักครู่ก็คลายออกจากสมาธิ เข้าพักผ่อนดังเช่นปกติทุกวัน
รุ่งเช้า วันที่ 31 พ.ค. ประมาณช่วงเย็นมั้งครับ ผมได้รับ pm จาก พี่หญิง (บุตรธรรม) แจ้งมาบอกว่า

"ผมเป็นหนึ่งในผู้โชคดีได้รับพระ ลป.ดู่ จากการจับสลากที่ วัดสะแก กับเขาด้วย"



ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกตกใจ และแปลกใจครับ และพลันนึกถึงสิ่งที่ผมพบเจอเมื่อคืนที่หลวงปู่ท่านบอกกับผมว่า

"ข้าให้ของแก"

คิดขึ้นมาทันทีแล้วใจมันเอ่อล้นด้วยความปิติครับ หลวงปู่โปรดผมอีกแล้ว โปรดศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ค่อยตั้งใจปฎิบัติเหมือนที่หลวงปู่ท่านย้ำนักย้ำหนาว่า 'เวลาเหลือน้อยแล้ว ให้รีบพากันปฎิบัติ' นึกถึงคำนี้ทีไรใจมันฮึดสู้ทุกทีครับ

และในวันนั้นผมก็ได้รู้จากในกระทู้ที่ พี่ทิพ แกมาแจ้งรายชื่อผู้โชคดีได้รับพระ ซึ่งก็มีชื่อผมจริงๆครับ ผมได้รับ พระพิมพ์ใบโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ มาหนึ่งองค์จากการจับสลากในวันนั้นครับ จะว่าผมหลอนตัวเองเมื่อคืน ผมคิดว่าคงไม่ใช่แล้วล่ะครับ หลวงปู่ท่านอยู่กับเราตลอดเวลาจริงๆครับ และท่านเมตตาพวกเราเสมอครับ ถ้าทำจริง

เรื่องที่เล่ามานี้ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้แก่ทุกท่านที่ขวนขวายหาธรรมะเข้าประดับใจ และเป็นกำลังใจในการปฎิบัติธรรมให้กับทุกท่านครับ อย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจว่าหลวงปู่ท่านไม่มาโปรดเลยครับ เชื่อผมเถอะว่า เวลา วาระ โอกาศ เป็นของทุกคนได้ ถ้าตั้งใจจริงครับ



พระผงพิมพ์ใบโพธิ์องค์นี้แหละที่ผมได้รับจากการจับสลาก

 

ใช่แล้วครับ วันที่ 23 วันเกิดหลวงตาครับ ส่วนวันที่ 22 ได้ข่าวว่าจะมีงานวางศิลาฤกษ์วิหารจักรพรรดิที่วัดครับ ถ้ามีโอกาศน่าไปมากครับผม

 

"พ พาน" ของหลวงปู่



หลวงปู่เคยปรารภธรรมกับผู้เขียนว่า

"ถ้าแกเขียนตัว พ พาน ได้เมือไร นั่นแหละจึงจะดี"

ผู้เขียนถามท่านว่า เป็นอย่างไรครับ พ พาน ?

ท่านตอบว่า

"ก็ตัว พอ น่ะซี"

คนเราจะมีชีวิตอยู่ในโลก
ไม่จำเป็นต้องร่ำรวย มีฐานะ แล้วจึงจะมีความสุข
มีคนที่ลำบากอีกมาก
แต่เขารู้จักว่า อะไรคือสิ่งที่พอตัว
ก็สามารถอยู่อย่างเป็นสุขได้
นี่ก็อยู่ที่คนเรา รู้จักคำว่า "พอ" หรือไม่

รู้จัก "พอ" ก็จะมีแต่ความสุข
ไม่รู้จัก "พอ" ถึงแม้จะร่ำรวย มีเกียรติ ตำแหน่งใหญ่โตอะไร
มันก็ไม่มีความสุขได้เหมือนกัน
คนที่มีเงิน ก็ยิ่งอยากมีเพิ่มขึ้นอีก
คนที่ทำงาน ก็อยากกินตำแหน่งสูงขึ้น
มีสิ่งใดก็เป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด...

 

พระสมเด็จยุคแรกของหลวงปู่ดู่
สมเด็จเนื้อดิน 7 ทุ่ง



Credit : ข้อมูลจาก พี่สายสิญจน์ ภาพ ของผมเองครับ

โดดเด่นเรื่องเมตตา มหานิยม มาแต่โบราณ พระสมเด็จรุ่นนี้ สร้างราวปี 2503 ซึ่งเป็นข้อมูลสมัย ที่พูดคุยกันกับลูกศิษย์ (หนังสือ วัด ลงว่า พ.ศ. 2492-2493) โดย สร้างจากดิน อาถรรพ์ ดังนี้

1.ข้าวจากนาข้าวที่อุดมสมบูรณ์เจ็ดทุ่ง ถือว่า ให้ผลดีทางด้านความอุดมสมบูรณ์

2.ข้าวร้างนาซึ่งคือข้าวที่หลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวไปแล้วดีทางแคล้วคลาด

3.ผงถ่านโพธิ์ใต้แม่ คือต้นโพธิ์ เล็กๆที่เกิดใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ โดยที่ต้นเล็กจะต้องไม่พ้นร่มเงาต้นใหญ่ ดีทางคุ้มครอง ดุจดัง ลูกรักในความดูแลของแม่

4. ดินเจ็ดท่าน้ำที่คนเดินพลุ่กพล่าน เจ็ดท่า ซึ่งดีทาง ล้างเสน่หยาแฝด

5.ดินโป่ง คือดินที่ มีอาถรรพ์ ซึ่งเชื่อกันว่ามีเทพารักษ์คุ้มครองอยู่

6.ดินขุยปูนา เฉพาะ ขึ้นสามค่ำเดือนสาม ดีทางมหาอุด

7.รังหมาล่าที่เกาะตาพระ หูพระ ที่ร้างแล้ว ในโบสถ์ เป็นดินทีมีความเป็นศิริมงคลอย่างสูง ถ้าขึ้นที่ตาพระประธานข้างซ้าย ก็ต้องปิดตาขวา เวลาขึ้นไปเอา ถ้าขึ้นที่หูซ้ายก็ต้องปิดหูขวาไปเอา เป็นเคล็ดครับ

ส่วนผสมทั้งหมด ต้องไปพลีมาก่อน ส่วนขั้นตอนการสร้างทำตามตำราที่หลวงปู่ได้ศึกษามา แล้วมามากดพิมพ์แต่ ละองค์ แล้วเบิกเนตรตั้งองค์พระทีละองค์ด้วยดินสอ แล้วปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง

เดิมทีไม่ค่อยมีใครสนใจเช่าพระรุ่นนี้มากนัก ส่วนใหญ่เช่าบูชาแต่เนื้อผงปัถมัง ลายดินสอ หลวงปู่จึงบอกว่า เนื้อดินก็เป็นของดี และแรงมากนะ

บางคนหลวงปู่บอกกับลูกศิษย์ ว่า 'ถ้าข้าเป็นแก ข้าจะเช่าไว้ สัก 2-3 องค์' ซึ่ง หลวงปู่แนะนำให้กับลูกศิษย์ อีกหลายคนให้มีไว้ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ลูกศิษย์จึงหันกลับมาเช่าบูชาพระเนื้อดินรุ่นนี้และหมดก่อนเนื้อผงปัถมัง ลายดินสอ แต่สุดท้ายก็หมด ทุกอย่าง

ประสปการณ์รุ่นนี้ มีผู้ไปใช้อาราธานาทำน้ำมนต์ล้างคุณไสย์ ซึ่งได้ผลชงัดจึงกลับไปเหมาที่วัดเป็นจำนวนมากในสมัยนั้น (ดูหนังสือ ของทางวัดหน้า 166-167 ส่วนข้อมูลเรื่องมวลสาร ได้มาจาก หลวงพี่ดำครับซึ่งเป็นข้อมูลจริงและได้มาจริง รวมทั้งข้อมูลที่ผมได้ยินมาเองสมัยนั้นทั้งสิ้น)

มีคำแนะนำจากหลวงพ่อสายหยุด ว่า ถ้านำพระรุ่นนี้ ทำน้ำมนต์ อย่า แช่นาน เพราะเป็นเนื้อดิน นะครับ และ ครั้งหนึ่ง มีศูนย์พระเครื่องชื่อดัง ไปเช่ามาจำหน่ายที่ศูนย์พระตนเองที่พันทิพ ประตูน้ำ หลายร้อยองค์ ประจวบเหมาะกับ มี เศรษฐีภูเก็ตเรืองอาคมสายเขาอ้อท่านหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านพระ เมื่อได้ สัมผัสกับพระเครื่องรุ่นนี้ ถึงกับบอกกับเจ้าของศูนย์ว่า ขอเหมาหมดเป็นจำนวน หลายร้อยองค์ เป็นเงินหลายแสนบาทที่เดียว ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่า พระสมเด็จรุ่นนี้ดีเพียงใด

 

สมเด็จยุคแรก เนื้อผงปถมัง



Credit : ข้อมูลจาก พี่สายสิญจน์ ภาพ ของผมเองครับ

พระสมเด็จรุ่นนี้ สร้างจากเนื้อผงปัถมัง ที่ หลวงพ่อใหญ่อดีตเจ้าอาวาส มอบผงวิเศษและผงสมเด็จวัดระฆังแท้ๆที่แตกหักให้เป็นจำนวนมาก และ หลวงปู่ดู่ เป็นผู้อธิฐานจิต เบิกพระเนตรจารตั้งองค์พระ เป็นพระเก่าสร้างประมาณปี 2492-93 ปัจจุบันราคายังไม่แรงพอจับได้ครับ