จุดนัดพบศิษย์กรรมฐานแพงสายเลือดที่ ๔ สายตรง "ผู้ครอบครูรับดวงธรรม"

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 25 สิงหาคม 2009.

  1. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ทุกคนเวลาที่ตั้งจิตแล้วภาวนาไปได้ระยะ จังหวะและอาการจะเริ่มเปลี่ยน และเสียงสวดหรือทำนองจะเปลี่ยน บางคนคิดว่าอุปทาน เพราะเบื้องต้นนั้นเราไม่สามารถเข้าใจความหมายได้ แต่มันมีอาการอยากจะพูดออกสำเนียงเช่นนั้น มันยั้งไม่ได้ ปล่อยไปเลยนะคะ แล้วจิตพยายามขอครูท่านทำให้เราเข้าใจ อย่างที่บอกนะคะ ช่วงแรกๆ นั้นเราจูนเครื่องกันก่อน ต่อไปเราเข้าใจสภาวะแล้ว จะพูดหรือเห็นผ่านตาในได้แจ่มยิ่งขึ้น

    สมัยเด็กๆ นะคะ เวลาที่ท่านตาทั้งหมดมารวมกัน ยายสายของยายผีป่าท่านก็เป็นครูธรรม (เมื่ออัพเกรทได้ช่วยคนจะเป็นครูนะคะ) พอทำพิธี (ผู้หญิงต้องนั่งหลังผู้ชาย) ทุกท่านพูดจากันคนละภาษาสลับกันไปบ บางทีก็ภาษาเดียวกัน คุยกันสนุกสนาน เข้าใจกัน เหมือนตอนที่เราฟังท่านตากับท่านนาคาสนทนาธรรมกันผ่านความเป็นทิพย์นั่นเอง คือเมื่อเรามีจิตเป็นทิพย์ องค์ณาณรวมตัวกันเกิดดวงธรรม เราไม่ใช่เราแล้วนะคะ เราจะไปอดีตก็ได้ อนาคตก็ได้ หรือจะเชิญครูท่านใด หรือครูท่านจะมาสงเคราะห์ก็จะรับได้เข้าใจ อย่างครูท่านมานี่นะคะ เมื่อเราจูนเครื่องพร้อมรับพลังท่านได้ดีแล้ว เหมือนเรานั่งดูผุ้ใหญ่มาเยี่ยมมาเยือนกัน นั่งฟังท่านคุยธรรมกัน ท่านพาไปนั่นนี่สนุกมาก บางทีท่านเห็นเราบินได้พอออกฉายเดี๋ยวได้แล้ว ท่านก็จะมายืนส่งเราที่ประตู โบกมือให้พร

    ........................แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหว ก็ร้องหาท่านได้นะคะ

    ท่านไม่ทิ้งเราโดดเดี๋ยวแน่นอนจ้า

    ..........................

    อย่างวันที่ท่านตากับท่านนาคามีทิพย์ผ่านมาสนทนาด้วยนั้น ยายผีป่านั้นหาได้เห็นสองท่านไม่ เห็นหลายๆ ท่านรวมทั้งพวกเราด้วย ในเครื่องแบบที่เป็นทิพย์ ไม่เชื่อถามท่านนาคาสิคะ ว่าท่านเห็นยายผีป่่าสภาพไหน เห็นพี่น้องท่านอื่นๆ สภาพไหน

    ........................................
     
  2. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    คุณยาย ตอบคำถาม แบบพาผมเดินไปจุดเริ่มต้นเลยครับ อิอิ คุณยายรู้ได้ยังไง ว่า คุณหมูเล็กวางอารมณ์ แบบไหน ( โทรคุยกันหรือครับ )
    วันนี้ พอ คุณ 2หมู ได้ อ่าน ได้ กรุณาโทรมาเล่าให้ฟัง การทำกรรมฐาน แบบ อรหันต์นิทรา (นิยายหนังจีนกำลังภายใน บรรลุขั้นสุดยอดได้ ต้องนอนฝึก) ซึ่งได้จากคำแนะนำของ ครูธรรม สายใต้

    ผมติดตรงนี้มานานหลายปีแล้ว พอจะกำหนดลมหายใจ หรือ จะ ทำกรรมฐาน จิตจะไปรวม ตรงหน้าพาก ซะทุกที แล้วก็ จะ ปวด ทำมากๆ ก็จะมึนงง แจ่ก็พยายามทำไปทั้งมึนๆ
    อย่างวันนี้ ก็ ดูลมหายใจทั้งวัน แล้วก็ มึนหัวทั้งวัน สงสัย กรรมเก่าคงมาก

    มีแววว่า จะหลับไปเลย...นะ คุณ หมูจ๋า อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  3. DMZ_ZONE

    DMZ_ZONE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +649
    ขออนุโมทนากับคุณยายผีป่าและทุกท่านครับ
    ผมเสียดายมาก ครับที่ไม่ได้ไปครอบครูครั้งนี้ด้วยเหตุบางอย่าง ถ้ามีโอกาส คงได้เป็นศิษย์ร่วมสำนักครับ
     
  4. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ร่วม ออกแบบใบประกาศ วิชาทรงธรรม
    โค้งสุดท้ายแล้วครับ

    ออกความเห็นได้ เต็มที่ครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • finish-3.jpg
      finish-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121 KB
      เปิดดู:
      99
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  5. pyramid

    pyramid Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2005
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +28
    น่าจะเพิ่มว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ (ตรงกับ ขึ้น ๔ ค่ำ เ้ดือน ๑๒ ปี ชวด ฉลู ขาล เถาะ) เป็นต้น แต่ว่า ในวงเล็บ ให้เขียนเป็นตัวเลข

    ๕ ล ๑๒ คือแบบที่เขาเขียนดวงอ่ะ


    คงไม่ว่ากระไรที่มาเสนอควำเห็น นะครับ


     
  6. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    โห...ใบเซอร์นี่เขียนไม่กี่คำก็เต็มแล้วเนาะ กะว่าจะเพิ่มคำล่างอวยพรนะคะอย่างใบโมทนาบัตรทั่วไป แต่ใช้เป็นว่า

    ขอดวงธรรมจงบังเกิดผล นำพาสู่ทางหลุดพ้นวัฏสงสาร

    ส่วนช่วงวาระการครอบครูนั้น เนื่องจากบางท่านครอบวันที่ ๒๒ บางท่านครอบวันที่ ๒๓ ตรงตามวันพิธี แต่ไม่ตรงเวลากัน บางท่านมาทีหลัง ก็มีครอบทั้งวันที่ ๒๔ ตอนบ่ายและเย็นด้วยค่ะ

    .................................

    ดังนั้นจะเอาวันที่ท่านครอบ หรือวันรวมดีคะ คือ ๒๒ - ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ (ตัวเลขต้องใช้อักษรไทยทั้งหมดนะคะ ส่วนจะเขียนเป็นแบบอักษรฤกษ์ยามมันต้องเอาวันใดวันหนึ่งนะคะ ขอเสียงด้วยค่ะว่าจะเอาตรงวันที่แต่ละท่านครอบ หรือนับรวมดีคะ)

    ..................
     
  7. chanunnon

    chanunnon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +755
    นับรวมก็ดีน่ะคะยายสำนักเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ไม่แยกวันกันเนาะ อิอิ

    ปล ตกลงเราต้องสวดมนต์ก่อนไหมคะเนี่ยยาย ที่ทำไปแล้วไม่ผิดเนาะ สาธุ
     
  8. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838

    ขอเรียนให้ท่านทราบว่า ยายผีป่่างงว่าทำไมมือยังไม่ได้คลิกที่คำว่าอ้างอิงเลย กำลังมาอ่านทวนข้อความน้องนัฐหญิง มือไม่ได้จับที่ปุ่มคลิกใดๆ เลยนะคะ ก็คิดว่า จะตอบน้องแต่ขออ่านและเอาคำตอบที่ใช่ที่สุดก่อน ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมแค่คิดว่าจะตอบน้อง กระทู้ของน้องก็มาโผล่เป็นการตอบแบบอ้างอิงได้ หรือว่าเว็บพลังจิตปรับปรุงบอร์ดให้สามารถสั่งการคลิกกระทู้ทางจิตได้คะ

    แต่ทีนี้ระบบเว็บมีการช่วยสะกดคำ และแก้ไขคำด้วย แต่บางทีเราต้องการเขียนคำคำหนึ่ง อย่างคำว่า สู ก็โดนเปลี่ยนอัตโนมันติว่า สู่ หรือ สู้ บางทีอ่านเห็น บางทีไม่ได้ทวนคำ ก็อาจผิด และเนื่องจากยายผีป่าไม่ค่อยทวนคำ เลยตกหล่นบ่อย อย่างนี้ไปเว็บท่าขนุน โดนใบแดงประจำเทียวหละ

    ....................................

    เอ้า..เข้าสู่คำตอบนคะ

    เวลาที่จิตเราน้อมนำในศีลธรรม นับถือครูอย่างไม่มีข้อกังขา บางทีแค่ยกมือพนมก็ปีติมากแล้วนะคะ จิตเราจะทำไปเอง บางวันยายผีป่าแค่กำลังจะตั้งนะโม ก็กลายเป็นสวดมนต์บทอื่นๆ ต่อโดยนะโมยังไม่จบเลย เพราะคำเหล่านั้น จิตเราแปลงไวกว่าการพูดแล้วค่ะ สวดมนต์ไปน้ำตาคลอไป สะอึกสะอื้นเพราะปีติที่ได้เกิดมาเป็ฯลูกพระลูกธรรมท่าน คือจิตเรามันรับรู้เองไม่ต้องเสแสร้างนะคะ ส่วนบางทีก็อยากสวดมนต์ยาวๆ มีบทแปลกๆ บางทีก็นิ่งกับวิปัสสนา ส่วนมากจะใช้วิธีการนอนภาวนาให้หลับในณาณเลย

    ..................................

    ถ้าอยากให้มีอาการปีติที่เรียกว่า วิปัสสณูปกิเลส ๑๐ นั้น เราก็สวดมนต์เข้ากรรมฐานไปเรื่อยๆ แต่ถ้าอยากมีอาการคล้ายวิปัสณูปกิเลสแต่ไม่ใช่ ก็น้อมจิตเชิญครูท่านเลย ให้ท่านมาสงเคราะห์ อันนี้ติดเทอร์โบเลยค่ะ คือบอกท่านว่า เราจะเรียนอะไร เดี๋ยวครูจัดให้ เมื่อก่อนสมัยเป็นนักเรียน ก็อายเพื่อนนะคะ เวลาที่บางทีครูมาตอนเรานึกถึงท่าน มาคนแก่ เราก็พูดแบบแก่ๆ หน้าตาไปหมด เดินงุ้มหลัง เหมือนร่างทรง ก็บอกท่านว่า "ขอให้ท่านมาคุมเราเพื่อให้เกิดณาณรู้ คือสอนกรรมฐาน ท่านก็จะเริ่มตั้งแต่ดลให้เราเข้าสมาธิได้แบบที่เราถนัด เชื่อมเข้าสู่สภาวะต่างๆ ตามที่กำลังเรารับได้

    อย่างน้องนัทนี่ต้องใช้กรรมฐานเป็นกำลังสู้วิบากกรรมนะคะ การเจริญวิปัสสนาณาณ ๑๖ จึงเหมาะ ท่านจึงมากะเกณฑ์ตรงนี้ให้ค่ะ ถ้าไม่ผ่านอาการผรณาปีติ (ตัวพองโต มือเท้าใหญ่ เหมือนคนผิดปรกติ) โอภาสปีติ (เห็นแสงสีต่างๆ เราต้องอย่าหลงชอบมอง แต่ให้ตั้งจิตตามแสงและกำหนดให้เป็นดวงแก้วนะคะ จะมีน้ำหูน้ำตาไหล ตัวเย็นสลับร้อนบ้าง)โอกันตะปีติ (ตัวโยกโคลงเคลง อาจเหมือนเหาะได้) นี่คือหนึ่งในอาการนะะ แม้กระทั่งการนิ่งสงบ เยือกเย็น ชอบกับการทรงอารมณ์ในสมาธิจุดนั้น ก็ถือเป็นวิปัสณูปกิเลส ๑๐ ประการเช่นกัน ทุกคนต้องผ่านตรงนี้ ขอให้อย่าเกาะที่อาการ ปล่อยไป หากไปยินดี สงสัย หรือกลัวอาการ จะไม่ถึงไหนนะคะ

    แต่เวลาที่ครูท่านมา เราจะรู้ นิมนต์ท่านสอนเลยนะคะ

    ท่านอื่นๆ ก็ยึดตรงนี้ได้เช่นกันจ้า
     
  9. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    บางท่านบอกว่า ยายผมไม่มีห้องพระแบบบ้านยาย ผมจะไปนั่งปฏิบัติที่ไหน

    ขอตอบว่า ...ห้องพระอยู่ที่เรา น้อมเอามาตั้งใว้ที่จิตของเรา สังขารของเรา นึกเมื่อไร ไหว้เมื่อนั้น ปฏิบัติเมื่อนั้น

    ขนาดยายผีป่าหลับนอนกับสามี ยังปลงสังขารและพิจารณาอาการต่างๆ เป็นข้อธรรมจนผัวเบื่อ บางคนบอกว่า อย่างนี้ไม่ปรามาสพระหรือ พระท่านยิ่งชอบเจ้าค่ะ คือเราเอาอาการต่างๆ การกระทำต่างๆ มาพิจารณาให้เกิดปัญญาหาทางหลุดพ้น

    อย่างเมื่อก่อนตอนแรกรักกันใหม่ๆ กว่าจะเข้าได้เข้าเข็มกันนั้น โหมโรงกัน พูดคำหวานๆ ให้กันชื่นอกชื่นใจ คนรู้ไม่เท่าทันก็หลงไหลได้ปลื้ม แต่สำหรับยายผีป่าไม่ปลื้มนะคะ กลับรู้สึกว่าน่าสะอิดสะเอียน ฉันร้ว่าสักวันมันต้องน่าเบื่อกว่านี้ จะเรียกว่าจิตด้านชาก็ได้นะคะ แต่เราทำหน้าที่ของภรรยา แม่บ้าน เราต้องเก็บมันไว้เพื่อพิจารณาในใจ อย่าพิจารณษดัง เดี๋ยวผัวเตะก้านคอหักตาย ลงข่าวหน้าหนึ่งเป็นแน่ แต่พออยู่ๆ กันไปเขาเรียกว่าของตาย ไม่ต้องโหมโลง ไม่ต้องหาของมาประโลมมาก ไม่ต้องพูดมาก จับพลิกๆ ฮ่าฮ่า เราก็มาพิจารณาถึงความไม่เที่ยง ถึงความจอมปลอมมันไป แล้วบอกว่า เออ...นี่คือคน มันตอแแหลจริงๆ ไม่อยากเกิดนะ กามภูมินี่น่ากลัวทีสุด พระพุทธเจ้ากี่แสนล้านพระองค์แล้ว เรายังไปไม่ถึงไหน เพราะติดในกามภูมินี่เอง เคยสูงสุดชั้นพรหม ก็ยังลงมา เคยตกนรกชั้นหฤโหดสุดๆ ยากหลุดพ้น ก็ยังโผล่มาได้อีก คิดดูสิคะว่ากามภูมินี่มันลวงให้เราหลงเสียเวลาได้เพียงไร แต่ท่านที่เป็นพุทธภูมิคือปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้านี่กำลังใจต้องดีนะคะ หากไม่เข้มแข็งพอ ต่อประสบการณ์อีกนานนนนนนส์มั๊กๆ เชียวเน้อ

    ............................................

    ทุกคนที่ยังเวียนว่ายตายเกิดนี่ เพราะติดพุทธภูมิค่ะ พอรู้ว่าไม่ไหวแล้ว จะหักดิบ โหย...มันไม่ใช่เรืองง่ายเลยนะคะ

    ดังนั้นการมีครูมาคุมเรา มันเป็นตัวเร่งเครื่องที่ดีมากค่ะ คือจะหลงไปทิศไหน ครูมาดล มาสะกิดแล้ว จะไปบาร์ไปคลับ ไปนั่นนี่ แต่จิตเราจะเริ่มปฏิเสธได้ง่ายขึ้น

    ..........................
    ขอแจ้งเรื่องผลการทดสอบการใช้เปลือกประดู่เลือด(อาจารย์มืดนำมาให้) นำมาต้มแล้วผสมน้ำในอ่าง แช่ตัวอาบ น้องเอิร์ทเขาน้ำเหลืองไม่ดี ยุงกัด ริ้นตัวเล็กๆ กัดแผลก็เปื่อยโดยไม่ต้องเกา ขาด่าง ยายผีป่ากลัวลูกจะอดเป็นนางแบบดัง เลยต้องหาตัวนี้มาแก้ไข

    ผลคือต้มแช่ตัวหนึ่งครั้ง วันนี้ผิวที่ขรุขระกลับเนียนขึ้น และแผลแห้ง สะเก็ดหลุดออกเอง อาจารย์มืดบอกว่า สามน้ำก็หายค่ะ

    เชื่อว่าท่านที่เป็นเอดส์แผลเปื่อย และแผลจากเบาหวาน สะเก็ดเงิน น่าจะใช้ได้ ใช้อาบหรือขัด ห้ามรับประทานเป็นพิษนะคะ

    เดี๋ญวจะส่งตัวเปลือกยาไปให้คุณหมอสุสัณฑ์ ที่ศิริราชท่านวิจัย เผื่อช่วยผู้ป่วยโรคผิวหนังได้นะคะ หรือถ้าคุณหมอเคยทราบผลวิจัยแล้วก็กรุณาแจ้งรายละเอียดด้วยนะคะ
     
  10. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    คุณนัตชายคะ...สงสัยที่มึนเพราะคุณนัตไม่ทำแบบผ่อนสายกลางกระมังคะ

    ขอยกตัวอย่างดังนี้นะคะ

    ยายผีปาบอกให้คุณนัตเฝ้าดูน้ำในหม้อต้ม แล้วมาบอกยายผีป่าว่า เห็นอะไรบ้าง

    คุณนัตก็ทำตามด้วยการที่ไปยืนจ่อหน้าเตา หน้าหม้อ (น้ำ) คอยดูว่าทุกขั้นตอนนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ร้อนก็ไม่ผินหน้าออก เหงื่อตกก็ไม่ยอมทิ้งช๊อตเด็ด

    ขอให้คิดใหม่นะคะ ให้เราพิจารณษตามความเหมาะสม

    เอาตั้งแต่

    ยายผีป่าจะต้มน้ำร้อนไปเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์อะไร ถ้าจะต้มเพื่ออาบ ก็เอาน้ำประปา น้ำที่ไม่ได้ใช้ดื่มก็ได้ ประหยัดกว่า แต่ถ้าหากว่า แกจะต้มดื่มก็น้ำฝนหรือน้ำกรองสะอาด แล้วทีนี้ต้องถามว่า น้ำนี้จะใช้แค่ไหน ไม่ใช่ว่าจะเอามาชงกาแฟสองสามถ้วย ต้มเสียหม้อเบอร์ ๓๒ เปลืองน้ำและเปลืองไฟ แต่ไม่ใช่ต้มทีละแก้ว ชงสามแก้ว ต้มสามครั้ง (สอนให้รู้เป้าหมายก่อนเบื้องต้น)

    ทีนี้เราก็เลือกหม้อที่เหมาะกับการต้มน้ำ หากเลือกไม่ได้นะคะ ให้หาที่มี แต่ต้องหาอุปกรณ์เสริมที่จะมาช่วยให้เราหยิบจับหม้อได้อย่างปลอดภัย

    เราก็ต้องรู้ว่าต้องใช้ไฟสูงระดับใด ถ้าไม่รู้ก็เอาแบบไฟปานกลางก่อน จะลดจะเพิ่มมันง่ายกว่า (สมดุล)

    เราไปชะโงกดูอาการเดือดช่วงแรกๆ ก็พอนะคะ แล้วมาทำอย่างอื่นช่วงที่รอ แต่ให้มีสติรู้ว่ากำลังต้มน้ำไว้ มีสติหากได้ยินเสียงน้ำเริ่มเดือด มีสติเมื่อน้ำเดือดเต็มที่ เราไม่ได้ต้มด้วยเครื่องอัตโนมัติ มันจึงต้องคอยรู้ว่าเดือดหรือยัง แต่อย่ากังวล มันเดือดเมื่อไร มันดังปุดๆ ขึ้นมาเอง เราก็ไม่อึดอัดที่ต้องคอยเฝ้าคอยจ้องหม้อนะคะ

    เราไม่ได้ทิ้งหม้อ แต่เรารู้ว่าเรากำลังต้มน้ำ เรารู้ว่าเรารอน้ำเดือด เรารุ้ว่าเราจะชงกาแฟ เรารู้ว่าใครจะดื่มกาแฟ

    ....................................

    การเฝ้าดูลมหายใจ ท่านสามารถทำได้แม้เวลาทำงาน เวลานั่งชมทีวี คือเรารู้ว่า "ฉันไม่ประมาท"

    ถ้าไม่หยใจเข้าเราก็ตาย นี่แสดงว่า ฉันกำลังหายใจเข้านะ ถ้าฉันไม่หายใจออกก็ตาย นี่ฉันยังไม่ตาย แสดงว่าฉันกำลังหายใจออกนะ แล้วเราใช้สติดูมัน ไม่ใช่ใช้การบังคับเส้นประสาทสมองดูมัน
     
  11. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ขอบคุณหลายครับ สำคัญซะด้วย วัน ว เวลา น :cool:
     
  12. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    *** ลดขนาดตัวหนังสือลงได้ครับ ยาย ผมยังว่า ใหญ่ไปหน่อย ***

    *** ขอออกเสียงว่า ระยะเวลากี่วัน วันไหน ถึง วันไหน เป้นประวัติศาสตร์ เลยว่า เป็น ช่วงเวลานี้ ***

    ถ้าระบุ สถานที่ จะดีไหมครับ ยาย เพื่ออยู่จนถึงแก่ เฒ่า มาอ่านเจอ ได้ ลำลึกถึงความหลัง

    ***เราใช้สติดูมัน ไม่ใช่ใช้การบังคับเส้นประสาทสมองดูมัน ***
    ขอบคุณครับ ยาย ผมก็พยายามอยู่ครับ แต่ทำทีไร มัน ควบรวมกิจการ ซะทุกที 555
    ขำทั้งน้ำตา นะ เนี่ย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • finish-4.jpg
      finish-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.1 KB
      เปิดดู:
      59
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  13. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ขอความเจริญ ในดวงธรรม สู่จิตประภัสสร ทุกท่านครับ

    ยาย ;ทริปอัพเกรดที่บ้านท่านตาแพง พันธุ์ทอน (อำเภอ อุทุทพรพิสัย ศรีสะเกษ)
    มีโอกาส จะจัดเมื่อไหร อีกครับ เผื่อ มีโอกาส ใด้ร่วม เพราะ จิตบอกกล่าวว่า ควรจะไป อีกครั้งครับ...คือที่บ้านคุณตา จะใด้ไม่ลำบาก สังขารของคุณตา ท่าน ครับ นั่นคือ การแสดง มุทิตา ครูอาจารย์ ที่ ท่านเมตตา ประศาสตร์ วิชชา

    ยาย ; ขอความเห็นด้วยครับ ในใบประกาศนั่น ขอเปลียน จาก วิชา เป็น วิชชา ใด้ไหมครับ

    คุณหมูเล็ก จากที่สัมผัส มี ดวงพลังที่ฝ่ามือ เหมือน ในละครช่อง 7 น่ะ อิอิอิ...
    คุณใจหม่น รับพลังใด้ดีขึ้นครับ อาราธนาครูธรรม ท่านช่วยเหลือในงานพิธี ต่างๆ ใด้ตามสมควร (แต่ ระวัง เรื่อง การเขม่น จาก พอหมอ ท่านอื่น บ้างครับ ในโอกาส ต่อไปข้างหน้าครับ )

    จากกระทู้ จุดนัดพบศิษย์กรรมฐานแพงสายเลือดที่ ๔ สายตรง "ผู้ครอบครูรับดวงธรรม" หน้า 28 มรภาพ ที่ยาย พนมมือนั้น การพนมมือบุคคลปกติ นั่นจะเฉียงเล็กน้อย แต่ ในภาพแขน.... นั่น คือ กายทิพย์ และ มี พ่อ แม่ ครูธรรม ท่าน เมตตา ครับ
    กายทิพย์ แต่ละท่านสวยงาม ตามวาระธรรม ที่ทุกท่านใด้ครองธรรมะ ในจิต ที่สว่างแล้ว ครับ

    อยากจะให้ หลายท่าน ใด้อ่านหนังสือ ที่ใด้รับแจก ในงานบ้านยาย 22-24 ตุลาครับ " รวมนิทานบ้านตลิ่งชัน-สบายใจ มกราคม -มิถุนายน " ครับ มีข้อธรรม ที่กินใจ มากมายครับ โดยเฉพาะ เรื่องสุดท้าย

    " สามตา กับพระฤาษี " ดวงธรรม ที่ประภัสสร แล้ว งดงาม สว่างจ้า เช่นใด นั่นคือ เธอ ดำริ ออกจาก กาม ...พรหมจรรย์ ...
    ขอเธอทั้งหลายผู้เจริญ จงหยั่งใจลงไปให้เห็นเถิดว่า..สิ่งที่งดงามในใจ ไม่ใช่สิ่งใดหรอก คือความเพลิดเพลิน ในธรรม ต่างหากเล่า ผู้ประกอบด้วย ธรรม ดำรงอยู่ในธรรม อยู่เนืองนิตย์ ย่อม จะมีความสุข ปรากฏ ดุจดัง ดวงแสงสว่าง อยู่เช่นนี้ ยาวนาน โดยไม่เสื่อมคลาย

    กายทิพย์ นั่นคือ บารมี ที่ จิต ใด้สั่งสม มาด้วยดีแล้ว วิปัสสนาญาณ โดย ปัญญา เถิด ทั้ง พรหมวิหารธรรม และ บารมี 10 ทัศน์ ....เมตตา ..อุเบกขา ...

    ผม นาคา อ่าน มาสุดท้าย ปิติ น้ำตา คลอ ชั่วระยะหนึ่ง ครับ
     
  14. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    [​IMG]
    ใบประกาศ วิชาทรงธรรม

    พอดี ผมใด้ แวะอ่านข้อมูล ในห้องภัยพิบัติ กระทู้ ร่วมหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมทองคำ 10 นิ้ว ที่วัดทุ่งแสง ..กาญจนบุรี (หน้าล่าสุด ) ครับ มีท่านหนึ่ง นำบทความมาลง และ แปะ link ใว้ จึงเข้าไปอ่านข้อมูล ที่ หลวงพ่อฤษี ท่านกล่าวใว้

    และ ยาย ใด้โพสส์ข้อมูลใว้ครับ ;
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD width="100%">> หลวงพ่อฤาษีลิงดำ </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ทรัพย์ใต้ดินเมืองกาญจนบุรี </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ยายผีป่า<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_333869", true); </SCRIPT>

    ครั้งหนึ่ง เขาที่เป็นทางเข้าปากทางหมู่บ้านยายผีป่า เส้นทางที่เคยเป็นเดินทัพหลายยุคหลายสมัย เมื่อก่อนเคยเป็นเขาที่มีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น แต่ตอนนี้ความเจริญมาทำลาย การครอบครองถือสิทธิ์มาแปรสภาพความอุดมสมบรูณ์นั้นเสีย ทวดของยาย(ทหารผ่านศึกสมัยสงครามโลก) บอกว่า แต่ก่อนทองไหลมาตามลำห้วยมาก ทวดกับพวกทหารยี่ปุ่นร่อนกันได้หลายทีเดียว และเมื่อไม่กี่ปี ตอนที่ผู้ช่วยเก๋ยังเด็กๆ ค่ะ ฝนตกหนัด ซะดินของเขาที่ปากทางลงมา ทองขนาดเท่ากำปั้นผู้ใหญ่ไหลลงมาด้วย พ่อของคนในหมู่บ้านแถวนั้นเก็บได้ ตอนนี้คนเก็บตายไป แต่ลูกหลานยังอยู่

    และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการฆ่ากัน เพราะมีสมบัติที่ขุดเจอแถวบ้านยาย แย่งกันครอบครอง (ไม่บอกว่าตรงไหน เพราะเคยเล่าไว้คร่าวไฃๆ ไปค้นหาเอาเอง)

    และที่หมู่บ้านที่ยายอยู่นั้นเคยเป็นเมืองโบราณ บ้านของยายตั้งบนที่ๆ เคยเป็นที่พักกองทัพ (ฝ่ายเลี้ยงช้าง และกองเสบียง กองลำเลียง นี่รู้จากความฝันที่ผีมาบอก)

    ข้างบ้านยายเป็นป่าช้าที่ฝังศพนักรบมาหลายสมัยล่ะมัง เพราะวันดีคืนดี แสงก็ลอยมาให้เราตกใจกึ่งสนใจ เรื่อยๆ ค่ะ มีหลายสีค่ะ

    นี่ถ้ามีแผ่นดินไหว เขาถล่มเรื่อยๆ เจอแน่ค่ะ คือเราอยากได้สมบัติ แต่ต้องได้หลังภัยภิบัติ คือคนที่อยู่แถวนั้นตายกันระเนระนาด แต่พอสมบัติโผล่ คนมีเงินก็เข้าไปฮุบ แล้วเอาสมบัติมาสร้างบารมีตัวเอง

    เอาล่ะ ยายได้รับคำสั่งมาว่า

    อย่าอยากได้ในสิ่งที่มันไม่ก่อประโยชน์ที่แท้จริง

    เอาเป็นว่า ถ้าเราคือเจ้าของ หรือสร้างบุญมานั้น สักวันเราก็ต้องได้เป็นเจ้าของจ๊ะ

    แต่ทุกอย่างมันเกิดได้ ก็เสื่อมได้จ๊ะ<!-- google_ad_section_end -->
    ***************************
    ค่ำ คืน ที่ เราเดินผ่าน ทางไปบ้านหลัง ที่ 2 ...บริเวณ กว้างๆ ....
     
  15. หมูเล็ก

    หมูเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ส่งการบ้านครับ

    การบ้านพ่อหมู ค่อนข้างยาวทนอ่านหน่อยนะครับ
    สวัสดีครับ พี่น้องลูกธรรมร่วมสำนักทุกท่าน หลังจากที่แม่หมูส่งการบ้าน

    แล้วพ่อหมูอยู่ไม่ได้ต้องมารายงานตัวบ้าง(โดนบ่น)เนื่องจากเจ้าคุณยาย

    ถามถึงแล้ว ขอสารภาพตามตรงว่าขยันน้อยมาก(เป็นนิสัยไม่ดีไม่ควรเอา

    เยี่ยงอย่าง)เนื่องจากเมื่อก่อนตอนยังไม่อ้วนเท่านี้เคยลองฝึกนั่งสมาธิมา

    บ้าง
    นั่งไปก็คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยคอยจ้องว่านั่งไปแล้วจะได้สภาวะไหน ญาณ

    ไหน จะรู้สึกอย่างไร
    จะเห็นอะไรบ้างเป็นอย่างนี้เรื่อยมา จนอ้วนย่างที่เห็นนี่แหละครับ พอ

    อ้วนแล้วยิ่งแย่นั่งแปร็บเดียวก็
    ปวดเมื่อยเสียแล้ว แถมบางครั้งมีอาการพิเศษคือใบหน้าเกือบจะทิ่มพื้น

    แล้วสามารถเด้งกลับขึ้นมาได้อีก(หลับซะงั้นแหละแถมบ่อยซะด้วย)ทำให้

    เกิดอาการต้อแต้ในการปฎิบัติเพราะว่าไปไม่ถึงไหนเสียที
    แต่หลังจากไปครอบครูมาแล้วยอมรับว่ามีความต้องการปฎิบัติมากขึ้นแต่

    ก็ยังไม่ยอมทิ้งนิสัยเดิม
    (นิสัยเสีย)และยังมีความกังวลว่าปฎิบัติจะเป็นเหมือนเดิมจึงยังไม่ได้นั่ง

    สมาธิเลยสักครั้งนึง
    ย้อนไปคิดถึงคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์หลายท่าน ที่ให้ละวางทุกอย่าง

    ไม่ต้องคิด ไม่ต้องสงสัย
    ไม่ต้องกังวล เมื่อวางได้แล้วจิตจะสงบและเกิดสมาธิเอง แต่ไม่เคยทำได้เลย

    ฟุ้งซ่านตลอด
    แต่มีโชคดีว่าก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านได้ขอเบอร์โทรศิษย์พี่ศิษย์น้อง

    ไว้หลายคนจึงได้โทรไปปรึกษากับศิษย์พี่ท่านหนึ่งเป็นจอมยุทธ์แห่งแดน

    ใต้ ซึ่งศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลายรวมทั้งท่านตาให้การยอมรับ ในวรยุทธ์

    ผมถามศิษย์พี่ว่า การที่จะทำให้จิตสงบนั้นจะทำอย่างไร และสภาวะที่จิต

    สงบนั้นเป็นอย่างไร เพราะว่าในชีวิตประจำวัน ยังไม่เคยสัมผัสสภาวะนั้น

    เลย และแล้วศิษย์พี่ก็ตอบมาว่าความจริงแล้วในชีวิตประจำวันของทุกคนรวมทั้งตัวผมด้วยจะมีช่วงเวลาที่

    จิตสงบและละวางจากทุกสิ่งเหมือนกันแต่มักจะไม่มีสติระลึกรู้สภาวะนั้น

    ได้ทัน ตอนไหนหรือครับ ผมรีบถามทันที ศิษย์พี่ถาม
    กลับมาว่าน้องหมูนั่งสมาธิแล้วชอบหลับใช่ไหม บ่อยครับผมตอบไปด้วย

    ความซื่อและถามกลับไปว่าตอนหลับนี่มีอะไรเหรอครับ ศิษย์พี่ รีบบอกว่า

    ไม่ใช่ตอนหลับนะครับน้องหมู ให้สังเกตุอารมณ์ตอนที่ใกล้จะหลับว่าเวลา

    นั้นจิตจะไม่อยากจะคิด ไม่ต้องการรับรู้ สิ่งต่างๆ ตอนนั้นนะแหละ จิต

    เป็นอุเบกขาให้จำสภาวะนั้นของจิตให้ได้ ตอนปฎิบัติให้วางอารมณ์

    จิตอย่างนั้น เวลานั่่งสมาธิจิตจะนิ่งได้ง่าย เมื่อได้ฟังแล้วยังรู้สึกว่ายากอยู่ดีหลังคุยกับศิษย์พี่เรียบร้อยแล้วก็ท้อแท้

    ใจว่าเรามันไม่เอาถ่านเสียเลย หลังจากนั้นก็ทำภารกิจทางโลกตามปรกติตอนกลางคืนเจ้าตัวเล็กหลับ

    ก็เข้าเวปพลังจิตแอบดูพี่น้องส่งการบ้านและหากระทู้ธรรมอื่นๆอ่านไปตามเรื่อง จนดึกมากเวลา

    ประมาณ 03.30 น. คิดว่าควรจะนอนได้แล้วแต่ความรู้สึกตอนนั้นยังไม่ง่วงอยากนั่งสมาธิแต่

    ด้วยพื้นฐานเป็นคนขยันน้อยไปหน่อย เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าศิษยืพี่ได้แนะเคล็ดวิชาพิจารณาอารมณ์

    ก่อนหลับเป็นอย่างไร เอาอย่างนี่้ดีกว่านอนสังเกตอารมณ์ไปเรื่อยๆ(คนอะไรขี้เกียจซะไม่มี)แต่ยัง

    รักดีเรามันศิษย์มีครูจึงสวดมนต์ทั้งที่นอนอยู่ อย่าตกใจว่าขยันนะครับสวดแค่นะโม 3 จบจะ

    สมาทานพระกรรมฐานก็จำบทสมาทานได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็คิดเอาว่าขอนอบน้อมนมัสการ
    หลวงปู่ สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ หลวงปู่ปาน หลวงปู่ฤษี สำเร็จลุน

    ท่านตาแพงและครูบาอาจารณ์ทุกท่าน ขอจงยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่สภาวะแห่งเมฆจิต สามารถ

    กำหนดหยั่ง รู้อดีต ปัจจุบัน อนาคตได้และหากมีสิ่งใดที่จะเกิดกับข้าพเจ้าและครอบครัวขอให้รู้ได้

    โดยมิต้องกำหนด และตลอดเวลาที่กำหนดจิตขอให้ช่วยคุ้มครองดวงจิตของลูกให้ปลอดภัยด้วยเทอญฯ

    หลังจากนั้นก็พยายามกำหนดจิตตามลมหายใจ หายใจเข้า นะมะ หายใจออก พะทะ โดยไม่สนใจว่า

    ภาวะนาถูกหรือผิดไม่อยากคิดอะไรมากแล้วเพราะดึกแล้วเมื่อนอนภาวนาได้สักพักก็เกิดนิมิต ตอน

    แรกคิดว่าฝันไปเฉยๆตัวเรานั้นไปยืนอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านวุ่นวายมองรอบๆตัวก็ไมเห็นมี

    ใครมาด้วยแต่มีกระแสจิตมากระทบว่าให้มองผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกว่ากระแสนั้นเป็นครูบาอา

    จารณ์ท่านมาคอยบอกเมื่่อมองไปีที่ผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40 มีหน้าตาผิวพรรณปรกติเหมือน

    คนทั่วไปแต่เมื่อมองไปแล้วเหมือนกับว่ากระแสจิตของเราไปกระทบผัสสะของเขาเข้า ทำให้เขารู้สึก

    ว่าเราจ้องมองมาที่เขา ทันใดนั้นเขาก็เกิดอาการลุกลี้ลุกลน แล้วสภาพของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนไป
    ดูผอมแห้งซูบซีด ผมฟู หน้าตาเ******่ยวย่น เหมือนคนอายุ 70-80 ปี ครูบาอาจารย์ส่งกระแสสัมผัส

    มากระทบผม (ที่ใช้คำว่ากระแสสัมผัสเนื่องจากไม่มีเสียง มีแต่ความรู้สึกแล้วเกิดความเข้าใจในกระแสนั้นทันที)บอกว่าดูไว้ลูก คนนั้นเขาเป็นปอบโดยเดรัจฉานวิชาที่เขาไปรับเอามาเอง ส่งผลทำให้เขา

    เป็นแบบนี้ ท่านบอกว่าไม่ต้องกลัวให้เข้าไปดูใกล้ๆ ในใจผมเองตอนนั้นก็ไม่รู้สึกกลัวเพราะว่ามั่นใจว่า
    มีครูบาอาจารย์มาคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 3 ท่าน เมื่อจะเคลื่อนกำลังใจเข้าไปดูใกล้ๆผู้หญิงคนที่เป็นปอบ

    นั้นก็พยามวิ่งหนี แต่เหมือนกับว่าทุกอย่างย่นระยะเข้ามาใกล้เราเองจนกระทั่งปอปนั้นจนมุมหนีไป

    ไหนไม่ได้ และพยายามยกมือขึ้นมาปัดป้อง ปิดบังหน้าตา ด้วยอาการทุรนทุราย ครูบาอาจารย์

    ท่านบอกว่าแผ่เมตาให้เขาสิลูกผมก็ยกมือขวาขึ้น และยื่นไปใกล้ใบหน้าของปอปตนนั้นและแผ่เมตาให้
    ระหว่างนั้นผมก็ได้ยินเสียงภรรยาเรียกผมว่า "เป็นอะไร" "ไปไหนมา" "ทำอะไรอยู่" ก่อนที่

    ผมจะตอบภรรยา พลันมีกระแสสัมผัสเข้ามากระทบบอกผมว่า "อย่าเพิ่งตอบตอนนี้อันตรายระวัง

    เดี๋ยวจะโดนปอปแทรก"ผมจึงยังไม่ตอบ และกำหนดจิตแผ่เมตาต่อไป สักครู่หนึ่งนิมิตนั้นก็หายไป
    รู้สึกตัวว่ายังนอนอยู่บนเตียงในท่าตะแคงเหมือนเดิมจึงพลิกตัวนอนหงายแล้วบอกภรรยาว่า
    "ไม่ีมีอะไร" "ไม่เป็นไร"นอนเถอะดึกมากแล้ว เพราะรู้สึกยังไม่อยากพูดอะไรในตอนนั้น
    ตื่นขึ้นมาทำภารกิจต่างๆเรียบร้อยจึงถามภรรยาว่าเมื่อคืนเรียกทำไมเธอจึงตอบมาว่าคิดว่าผมละเมอ
    แล้วเคยอ่านในกระทู้ของยายที่โพสไว้ว่าถ้าสามีนอนละเมอให้จับพลิกตะแคงหันหลังให้(แต่ผมนอน

    ตะแคงอยู่พอดีจึงไม่ต้องออกแรงถีบให้ยุ่งยาก)แล้วถามความลับตอนนี้เขาจะบอกเราทุกอย่าง แต่ผม

    ไม่ยอมบอกอะไรเลย (แหมเกือบไม่รอด)ผมจึงถามว่าล้วผมละเมอว่าอย่างไรบ้าง ภรรยาตอบว่า
    ฟังไม่รู้เรื่องเพราะว่าเป็นภาษาที่ไม่เคยรู้จักคล้ายกับภาษาในคลิปที่ท่านพี่นาคาพูดนั่นแหละ
    จึงเล่าให้ฟังว่าไม่ได้ละเมอ ครูบาอาจารย์ท่านพาไปเที่ยวมาและมั่นใจว่าไม่ได้ฝันเพ้อเจ้อไปเองแน่

    นอน เพราะในนิมิตนั้นมีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา ตอนบ่ายจึงโทรไปปรึกษาศิษย์พี่(จอมยุทธ์แห่ง

    แดนใต้)ท่านพิจารณาแล้วบอกว่า ครูบาอาจารย์ท่านพาไปดูงาน ให้เตรียมตัวทำงานได้แล้วนะแถม

    ยังบอกว่า ปอปนั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับผม และบ้านยังห่างกันไม่มากอีกด้วย(ห่างกันไม่เกิน3ซอย)
    ตายละหว่าย้ายบ้านหนีดีกว่ามั้ง ท่านพี่บอกว่าอีกไม่นานต้องพบเจอกันหนีไม่ได้หรอกมันเป็นหน้าที่
    แต่ไม่เป็นไรไม่ต้องกลัวนะครูบาอาจารย์ท่านคุมอยู่แล้วก็หัวเราะเบาๆ ตอนเย็นจึงโทรไปส่งการบ้าน
    กับท่านจ้าคุณยาย(เพราะไม่ขยันพิมพ์ แต่ที่ต้องพิมพ์มาโพสเพราะว่าท่านยายบอกว่าน่าจะเป็น

    ประโยชน์กับพี่น้องบ้าง อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้หลายๆคน ว่าดูซิขยันน้อยอย่างนี้ครูบาอาจารย์

    ท่านยังเมตตามาสงเคราะให้เลย) ท่านยายบอกว่าดีใจด้วยนะจะได้เป็นหมอแล้วแต่ไม่ใช่หมอแบบ

    คุณหมอsanyaนะ แล้วหมออะไรเหรอครับยาย ยายตอบว่าก็หมอผีไง ผมบอกว่าไม่เอาหรอกไม่

    อยากเป็น เดี๋ยว๔กผีหักคอเอา ยายอกว่าครูบาอาจารย์ท่านจะดูแลเองว่าให้ใครทำหน้าที่อะไร แถม

    ยังย้ำอีกว่า ปอปอยู่หางจากบ้านเธอนิดเดียวเองนะ เดี๋ยวอีกไม่นานก็จะได้เจอกับเขา ได้ฟังแล้วอยาก

    ย้ายบ้านหนีซะเดี๋ยวนี้เลย เหนื่อยใจจริง
    ถึงศิยษ์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักทั้งหลาย อย่าเข้าใจผิดนะครับว่าต้องนอนจึงทำได้ เพราะว่าศิษย์พี่(

    จอมยุทธ์แห่งแดนใต้)ท่านบอกว่าให้ใช้อารมณ์สบายๆตอนก่อนหลับนะครับมิใช่ตอนนอนหลับ
    เหมือนหลวงปู่ฤษีลิงดำตอนขึ้นไปเที่ยวดาวดึงส์ครั้งแรกท่านนั่งพิงโอ่งแล้วรู้สึกสบายขึ้นไปเที่ยวโดย
    ไม่ได้ตั้งใจ ต่อไปนี้ผมจะพยายามตั้งใจปฎิบัติเพราะทราบแล้วว่าครูบาอาจารย์ท่านมาสงเคราะห์จริง
    จะเพิ่มความขยันให้มากขึ้นครับ และขอให้พี่น้องที่มีประสบการณ์ในการปฎิบัติท่านอื่นมาโพสให้
    ได้รับรู้กันบ้างอย่าเก็บไว้คนเดียว อย่างเช่นท่านที่เขียนยันต์ได้ และอีกหลายท่านที่ยังไม่ส่งการบ้าน
    และขอให้ศิยษ์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักทั้งหลายมีความก้าวหน้าในการปฎิบัติทุกท่าน แล้วอย่าลืมมาโพส

    เล่าให้ฟังบ้างนะครับ:cool::boo:
     
  16. หมูเล็ก

    หมูเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +2,144
    คุณหมูเล็ก จากที่สัมผัส มี ดวงพลังที่ฝ่ามือ เหมือน ในละครช่อง 7 น่ะ อิอิอิ...
    คุณใจหม่น รับพลังใด้ดีขึ้นครับ อาราธนาครูธรรม ท่านช่วยเหลือในงานพิธี ต่างๆ ใด้ตามสมควร (แต่ ระวัง เรื่อง การเขม่น จาก พอหมอ ท่านอื่น บ้างครับ ในโอกาส ต่อไปข้างหน้าครับ )

    ขอคาราวะศิษย์พี่ ต้องขอบคุณที่ชี้แนะ แต่ที่ท่านพี่เปรียบ กับละครช่อง 7 มันโบราณ นะครับเป็นแบบนี้ไได้ไหมครับ มันเทห์ดี ทันสมัยด้วย แบบว่าชอบ อ่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    กลับมาแล้วจ้าแม่ค้าส้มตำชื่อเอื้อม

    วันนี้ลงของเพิ่มนิดหน่อย ออกไปตำส้มตำเกือบเที่ยง เพาะรู้ว่าคนส่วนมากนิยมทานส้มตำสายๆ บ่ายๆ เพราะอะไรน่ะรึ ก็เพราะร่างกายนั้นต้องการสารกระตุ้น เปรี้ยว หวาน เผ็ด ยิ่งสายฮอร์โมนส์ยิ่งต้องการรสชาดจัดจ้าน ไม่เชื่อลองดูสิคะ เวลาง่วงซึม เพลียๆ ได้ผลไม้รสเปรี้ยว หรือส้มตำรสจัดจ้านเข้าไปหน่อย ตาสว่างเลยจ้า

    ................................

    มีทัวร์มาลงทัวร์แรก ยายผีป่าก็บอกว่า เราจะไม่มีการบังคับลูกค้าทั้งทางตรงและทางอ้อม คือจะให้เขาเลือกเอาเองว่าอยากทานอะไร หากเขาอยากทานของเราก็ซื้อนะ ทีนี้น้องออมบอกว่าแม่ทำไมไม่เรียกลูกค้า ยายผีป่าก็ตอบว่า พี่กุมารยังนั่งเฉยๆ จะเรียกทำไม พี่กุมารทองบอกแม่ว่า "พวกนี้เขามีข้าวกล่องจัดมาบนรถแล้ว" น้องออมฟังเแล้วอยากพิสูจน์ ก็ไปถามเขาว่า ทานอะไรไหมคะ แม่หนูทำส้มตำ ขนมจีนน้ำยามาอร่อยมาค่ะ เขาก็ตอบว่า น่าทานจริงจ๊ะแต่ทานบนรถแล้ว น้องออมเลยถามว่า ข้าวกล่องหรือคะ เขาก็ยิ้มๆ แล้วตอบว่า ใช่ค่ะ น้องออมเลยวิ่งมาที่แม่ แล้วถามว่า พวกมารถทัวร์พวกนี้เขามีข้าวกล่องให้ทุกคันเลยหรือแม่ แล้วเราจะขายของได้อย่างไร

    ก็เลยตอบว่า ทุกคันจะแจกข้าวกล่องนะลูก แต่เดี๋ยวถ้าหนูกลัวเราไม่ได้ขาย เอาอย่างนี้นะ พี่กุมารและท่านอื่นๆ จะช่วย แต่หนูต้องไปไหว้ที่ศษลปู่ท่านก่อน บอกทุกท่านนะ ว่าเราขอแรงหนุนหน่อย เพราะว่ากุมารทองของเรานั้นจะไม่ทำอะไรถ้าเจ้าที่เจ้าถิ่นที่นี่ท่านยังไม่เปิดทางให้ เรียกว่า ไม่ข้ามเขตว่างั้นเหอะ น้องออมบอกว่าแม่ๆ นั่นรถทัวร์มาแล้ว คนไทยเยอะมากเลย

    น้องออมกลัวขายไม่ได้เพราะแต่ละคนถือเข้ากล่องมาอีกเช่นเคย เลยชวนกุมารทองทั้งหมดให้ตามไปเจราบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าถิ่น แล้ววิ่งลงมาบอกแม่ว่า "แม่ๆ หนูไปบอกปู่กับทุกองค์แล้วนะ เดี่ยวหนูไปซื้อไอติมปั่น น้ำแข็งใสมาเลี้ยงกุมาร"

    ยายผีป่าก็ยิ้มๆ แล้วปล่อยให้ลูกทัวร์เดินไปทั่วทุกที่ก่อน น้องออมยิ่งร้อนใจเพราะเห็นพวกเขาไม่แวะที่ไหนเลย น้ำร้อนก็แค่ไปยืนๆ ดู ไม่ลงอาบ แล้วทีนี้พอเขาผ่านหน้าร้าน น้องออมบอกว่า แม่ๆ พวกนี้ลาวเหมือนแม่ ยายผีป่าก็เลยส่งเสียงภาษาลาวว่า

    "มาเด้อส้มตำบ้านเฮา มาหม่วนสื่นโฮแซว ทักทายไทยบ้านเฮาแหน่เด้อ"

    เท่านั้นแหละ พวกเผ่าเดียวกันมารุมล้อมหน้าร้านยายผีป่า พอเขาเห็นเครื่องปรุง ทำเอาสั่งคนละสองครก ตำจนกล้ามขึ้น มาสั่งเพิ่มจนมะละกอหมด ขายวันนี้ได้สองพันบาท ร้านอื่นๆ เขาถามว่าทำไมเข้าแต่ร้านเราล่ะ

    "ก็ลาวรักลาวนี่" น้องออมบอกตามตรง แต่ไม่ยอมบอกว่าไปติดสินบนทิพย์ท่านไว้ ยายผีป่าเลยถามว่าทำไมไม่บอกละว่าทิพย์ท่านช่วย น้องออมบอกว่า "ขืนบอกพวกเขาก็ไปไหว้กันหมด แล้วทีนี้ท่านจะช่วยใครก่อนละแม่"

    .....................................................

    ตั้งแต่เปิดมาสองวัน เอาเฉพาะค่าเคื่องปรุงอาหาร ๑๓๐๐ บาท ไม่รวมค่าน้ำมันรถ และไม่รวมค่าอุปกรณ์ซึ่งเป็นทุนต่อเนื่อง ขายมาได้สองวันสามพันบาท ค่าแม่ครัวซึ่งเป็นแม่ย่าเตรียมของ และค่าพี่สะไภ้ช่วยขาย สองวันตกไป ๘๐๐ บาท ไม่รวมค่าลูกๆ วิ่งไปซื้อของกินอีก

    ตกลงว่า ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ดีใจที่ได้สอนลูกให้มาช่วยแม่จัดของ ขายของ รับลูกค้า ล้างจานกันแม้กระทั่งใบตอง แต่ใบตองนี่สิคะ ล้างเสร็จแล้วก็ไปเอาที่ล้างแล้วมาล้างอีก เลยต้องไปให้ญาติช่วยดูแลให้

    ..........................................

    การค้าขาย การทำอะไร เราอย่าเครียดว่าจะต้องขายได้เท่านั้นเท่านี้ หากไม่ได้แล้วเครียด ยายผีป่าคิดเสมอว่า ถ้าเราใส่ใจในรสชาดและบริการ ต่อให้ขาดทุนเงิน แต่ได้ใจลูกค้า เขาอร่อย เขาชมจากใจ นี่คือกำไรที่ยายผีป่ายิ้มได้ อย่างวันนี้มีไฮโซมาสั่ง (เขามารถเบ๊นซ์ แต่งกายแบรนด์เนม) ยายผีป่าเลยบอกเขาว่า เชิญทานส้มตำโลโซนะคะ เขาก็มองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจทาน สั่งสามจาน คนละจาน (สงสัยอยู่เมืองนอกจนชินเพราะคนเมืองนอก ทานคนละจาน) กลายเป็นว่า เขาบอกว่านี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ทานส้มตำข้างทางและอร่อยมาก ถามว่าลูกอะไรนี่ "ยายผีป่าบอกว่า มะกอดป่าค่ะ เขางง เลยตอบว่า โอลีพ หรือโอลิเว่อร์ เจ้าค่ะ" เขาก็เลยเข้าใจ

    การปฏิบัติธรรมเหมือนกัน อย่าซีเรียสว่า จะบรรลุอะไร ขอเพีงเราตั้งใจ ใส่ใจ เข้าใจ เดี๋ญวได้เอง ไปได้แค่ไหน พอใจแต่นัั้นก่อน อย่าตำหนิตัวเองจนหดหู่ อย่ายกตัวเองจนพอง

    .................................

    คุณหมูพ่อหมูแม่ คงสงสัยว่าทำไมยายผีป่ากับอาจารย์นาคาจึงพูดคล้ายกัน เหมือนคุยสายด้วยกันมาก่อน

    ไม่ค่ะ...อยา่งที่บอกตอนวันครอบครูนะคะ ว่า ยายผีป่ากับท่านนาคานั้น ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่ค่อยได้พูดกันทางสายหรือข้อความส่วนตัวนัก และที่คุยไม่เคยคุยเรื่องนี้ เรื่องการปฏิบัตินั้นหรือมีเรื่องใครบอกอะไร ตอบอย่างไร ไม่เคยคุย

    เขาถึงบอกว่า

    "เมื่อรู้แจ้งตามสภาวะนั้นๆ จะเห็นจริงเหมือนกันหมด"
     
  18. sirapong_s

    sirapong_s Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +33
    รายงานบ้างครับ เปิดดูเป็นประจำแต่ดูผมจะไปไม่ถึงไหน เลยไม่รู้จะส่งการบ้านอะไรดีครับ
    ลมหายใจยังไม่นิ่งเลยครับ เพราะว่าเมื่อไปได้สัก 15 นาทีก็จะเริ่มปวดหลังมากเรียกว่าอาการเหน็บชาที่ขาสู้ไม่ได้เลย (สงสัยทำกรรมาเยอะ)พอปวดหลังก็นั่งต่อไม่ได้นานครับอย่างมาก 30นาทีก็ท้อแล้วคิดว่าตัวเองยังห่างไกลอีกหลายท่านอยู่ขุมครับ
    แต่ถ้านั่งอ่านหนังสือแล้วจับลมหายใจเป็นพักๆ จะรู้สึกนิ่งกว่านิ่งเมื่ออ่านเสร็จจะรู้สึกตัวเบาและเหมือนจิตนิ่งมากครับ (ค่อยๆพยายามกันไป)
     
  19. หมูเล็ก

    หมูเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +2,144
    คุณหมูพ่อหมูแม่ คงสงสัยว่าทำไมยายผีป่ากับอาจารย์นาคาจึงพูดคล้ายกัน เหมือนคุยสายด้วยกันมาก่อน

    ไม่ค่ะ...อยา่งที่บอกตอนวันครอบครูนะคะ ว่า ยายผีป่ากับท่านนาคานั้น ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่ค่อยได้พูดกันทางสายหรือข้อความส่วนตัวนัก และที่คุยไม่เคยคุยเรื่องนี้ เรื่องการปฏิบัตินั้นหรือมีเรื่องใครบอกอะไร ตอบอย่างไร ไม่เคยคุย

    เขาถึงบอกว่า

    "เมื่อรู้แจ้งตามสภาวะนั้นๆ จะเห็นจริงเหมือนกันหมด"[/QUOTE]


    ทราบดีครับว่าไม่ได้คุยกัน ที่บอกว่าทำไมตอบเหมือนกันเชียว:cool: โทรคุยกันหรือเปล่านะแซวเล่นครับ ตั้งแต่รับคลื่นได้บ้าง(แม้จะเล็กน้อย)ความลังเลสงสัยก็ถูกทำลายไปแล้วครับ แต่กรณีไหนผมเพ้อเจ้อไปเองยายช่วยเตือนด้วยนะครับ ไม่อยากหลงทางเข้าป่าครับ :boo:
     
  20. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ขายได้ 2 000 ครก ละ 20 ต้องตำ = 100 ครก โดยประมาณ
    ถ้า 1 ครก ตำ 30 ครั้ง ต้อง ยก แขน 3000 ครั้ง
    จะคิดทำไมเนี่ย ....

    ตกดึก ระวัง ละเมอ ตำส้มตำนะครับ ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...