การแก้กฎแห่งกรรมด้วยการฝึกอารมณ์จิตพระโสดาบัน

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 18 ตุลาคม 2009.

แท็ก: แก้ไข
หน้า 1 ของ 2
  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    ต้องแก้กฎแห่งกรรมด้วยการฝึกอารมณ์จิตพระโสดาบัน คือ

    ๑. จงมีสติสัมปชัญญะ ที่จะพิจารณาว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง จงอย่าคิดว่าความตายจะเข้ามาถึงเราในวันพรุ่งนี้ จงคิดว่าความตายอาจจะมาถึงเราวันนี้อยู่เสมอ การ คิดว่าจะตาย จะได้ทำความดี เมื่อตายแล้วควรหนีอบายภูมิ ( นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน )

    ๒. จงมีสติสัมปชัญญะ ที่จะยึดความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่งด้วยความเคารพ ไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า เห็นความดีของพระพุทธเจ้า เห็นความดีของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ความดีของพระอริยสงฆ์ โดยถือเอาพระอรหันต์เป็นสำคัญ จงมอบความนับถือความมั่นใจในพระรัตนตรัยอย่างถวายชีวิต

    ๓. จงมีสติสัมปชัญญะ ในการปฏิบัติศีลอย่างเคร่งครัด ฆราวาสเฉพาะศีล ๕ เพราะศีล ๕ เป็นศีลของพระโสดาบันและพระสกิทาคามี ส่วนพระอนาคามีจะทรงศีล ๘ สำหรับพระอรหันต์ฆราวาสไม่มี เป็นอรหันต์วันนี้นิพพานวันนี้ เป็นอรหันต์คืนนี้ ไม่เกินพรุ่งนี้ต้องนิพพาน พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า พระโสดาบันก็ดี พระสกิทาคามีก็ดี มีแค่ปัญญาเล็กน้อย มีสมาธิเล็กน้อย แต่ศีลบริสุทธิ์ แค่นี้ก็เป็นพระโสดาบันได้แล้ว ปิดประตูอบายภูมิอย่างเด็ดขาดแน่นอน

    ๔. จงมีสติสัมปชัญญะ ที่จะใชักำลังใจ ของพระอรหันต์ไว้ประจำใจ คือขึ้นชื่อว่ามนุษยโลก มันเป็นทุกข์เราไม่ต้องการมัน เทวโลกกับพรหมโลกมีสุขจริง แต่ไม่นาน เราไม่ต้องการมันอีก เราต้องการจุดเดียวคือ นิพพาน อย่างนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์ รักษากำลังใจตามนี้ไว้ เมื่อสิ้นอายุขัยเมื่อไร ก่อนจะตายเป็นอรหันต์เมื่อนั้น แล้วก็ไปนิพพาน



    ทั้งหมดนี้...เป็นอริยสมบัติของบุคคล ในการเข้าสู่กระแสพระนิพพานเป็นเบื้องต้น( โสดาบันและสกิทาคามี ) ซึ่งมาจากการที่ละสังโยชน์ได้ ๓ ประการ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส

    สำหรับ สักกายทิฏฐิในทางปฏิบัติต้องใช้อารมณ์ตามลำดับคือ ใช้อารมณ์ขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูงสุด

    อารมณ์ขั้นต้นให้ใช้อารมณ์แบบเบาๆ คือมีความรู้สึกตามธรรมดาว่า ชีวิตนี้ต้องตายไม่มีใครเลยในโลกนี้ที่จะมีชีวิตได้ตลอดกาลคู่ไปกับฟ้าดินในที่สุดก็ต้องตายเหมือนกันหมด แต่ท่านให้ใช้อารมณ์ที่สั้นเข้ามาอีกคือให้ทำความรู้สึกไว้เสมอว่า ความตายไม่ใช่จะมาถึงเราในวันพรุ่งนี้ ให้คิดว่าเราอาจจะตายวันนี้ไว้เสมอ จะได้ไม่ประมาทในชีวิตเป็นอารมณ์ของพระโสดาบันและพระสกิทาคามี

    อารมณ์ขั้นกลาง ท่านให้ทำความรู้สึกเป็นปกติว่าร่างกายของคนและสัตว์ตลอดจนวัตถุทุกชนิดเป็นของสกปรกทั้งหมดร่างกายคนและสัตว์มีสิ่งที่น่ารังเกียจฝังอยู่ก็คือ อุจจาระ ปัสสาวะ น้ำเลือดน้ำเหลือง น้ำหนอง เป็นต้น เมื่อมีความรู้สึกตามนี้ ก็พยายามทำอารมณ์ให้ทรงตัวจนเกิดความเบื่อหน่ายในร่างกายทั้งหมดไม่ยึดถือว่าร่างกายใดเป็นที่น่ารักน่าปรารถนาเป็นอารมณ์ของพระอนาคามี

    อารมณ์สูงสุดทำให้มีความรู้สึกตามนี้ คือมีความรู้สึกว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราเราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา มีอาการวางเฉยในร่างกายทุกประเภทเป็นอารมณ์ของพระอรหันต์

    คำว่าวิจิกิจฉาแปลว่า สงสัย คือสงสัยในความดีของพระพุทธเจ้าสงสัยในความดีของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สงสัยในความดีของพระอริยสงฆ์มีพระอรหันต์เป็นต้น สงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่จริง ถ้ามีจริงๆพระพุทธเจ้าน่ะดีไหม คำสอนของพระองค์ดีจริงๆหรือเปล่า นี่สงสัยพระธรรมเลยแล้วสงสัยว่าพระอริยสงฆ์ในพระพุทธศาสนานี่มีจริงหรือไม่มีจริงหนักๆเข้าก็เลยคิดว่าไม่มี เพราะตัวสงสัย พระพุทธเจ้าจริงๆก็ไม่มีพระไตรปิฎกที่มีอ่านกันอยู่ ก็เป็นพระไตรปิฎกโกหกมดเท็จ ใครเขียนขึ้นมาก็ไม่รู้เขียนแบบโกหกขึ้นมาว่าโลกนั้นมี โลกนี้มี ระลึกชาติไม่ได้ จิปาถะกันไปเลยสงสัยพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาที่เขาบอกว่า พระสงฆ์น่ะเป็นพระสงฆ์จริงๆหรือว่าเป็นตัวเบียดเบียนประชาชน ทำให้สังคมมีความทุกข์ มีความเร่าร้อนเพราะพระไม่เห็นจะทำอะไร ได้แต่บิณฑบาต แล้วก็กิน กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็บิณฑบาตแล้วก็บอกบุญบ้าง ขอบุญบ้างเรี่ยไรกันบ้าง จิปาถะ ไม่เห็นมีอะไรให้เกิดเป็นประโยชน์นี่ไม่สงสัยนะ ถึงขั้นไม่เชื่อถือเอาเลย ลักษณะอย่างนี้เป็นสังโยชฃน์ข้อที่ ๒ที่ทำให้คนเราต้องลงอบายภูมิ ขอยืนยันว่า ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ ต้องลงอบายภูมิเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานแน่นอน

    สีลัพพตปรามาสคือปฏิบัติในศีลให้ครบถ้วนทุกประการ ด้วยความเต็มใจการปฏิบัติศีลครบถ้วนสำหรับฆราวาส มีศีล ๕ ใช้ได้แน่นอนถ้าจะทำให้คนดีจริงๆก็มีกรรมบถ ๑๐ ด้วย ถ้ามีทั้งศีล ๕ มีกรรมบถ ๑๐อย่างนี้จะมีความสุขอย่างยิ่งทั้งปัจจุบันและสัมปรายภพ ถ้าปฏิบัติตนได้อย่างนี้องค์สมเด็จพระมหามุนี คือพระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า ท่านทั้งหลายเมื่อตายแล้วจากชาตินี้ก็ดี หรืออีกกี่ชาติก็ตาม จะไม่พบคำว่าอบายภูมิเลยการเกิดเป็น สัตว์นรกก็ดี เป็นเปรตก็ดี เป็นอสุรกายก็ดี เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ดีไม่มีสำหรับท่าน จะเวียนว่ายตายเกิดเฉพาะ การเกิดเป็นคน เป็นเทวดา หรือพรหมเท่านั้น

    ความจริงพระโสดาบันไม่ใช่ของสูงเป็นของธรรมดา ที่เรียกกันว่าชาวบ้านชั้นดีท่านพระอริยะเบื้องสูงท่านกล่าวว่าธรรมที่จะทำให้คนเป็นพระโสดาบัน เหมือนกับของเด็กเล่น คือเป็นของทำง่ายๆเพียงแต่มีพรหมวิหาร ๔ ประจำใจ เราก็เป็นพระโสดาบันได้แบบสบายๆเมื่อกล่าวโดย

    สรุป พระโสดาบันมีอารมณ์โดยย่อดังนี้

    ๑.มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องตายแน่

    ๒.ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้าพระธรรม พระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า

    ๓.ฆราวาสมีศีล ๕ ทรงอารมณ์เป็นปกติ

    ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นอารมณ์ในขณะที่ปฏิบัติ เมื่ออารมณ์ทรงตัวแล้วอารมณ์ที่ปักหลักมั่นคงอยู่กับใจจริงๆ ก็เหลือเพียงสอง ที่ท่านเรียกว่า องค์ ก็คือ

    หนึ่ง ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรมพระอริยสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้าอย่างมั่นคงจริงจัง

    สอง มีศีล ๕ บริสุทธิ์ผุดผ่องจริง

    สุดท้าย ด้วยคุณบารมี ของพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆ รัตนะ ทั้งสามประการ จงดลบันดาลให้ ท่านผู้อ่านทั้งหลาย จงมีแต่ความสุขสวัสดิพิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล ให้จงเจริญไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ มี อายุ วรรณะ สุขะพละ และปฏิภาณ ปรารถนาสิ่งใด ขอให้ได้สิ่งนั้น สมความปรารถนาจงทุกประการ ณ กาลบัดนี้ และตลอดไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน




    สรุปอีกที

    การสะเดาะเคราะห์ สำหรับผู้ไม่เชื่อง่ายดายจนเกินไปต้องอย่างนี้

    ต้องแก้กฎแห่งกรรมด้วยการฝึก อารมณ์จิตพระโสดาบัน คือ

    ๑. จงมีสติสัมปชัญญะ ที่จะพิจารณาว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง จงอย่าคิดว่าความตายจะเข้ามาถึงเราในวันพรุ่งนี้ จงคิดว่าความตายอาจจะมาถึงเราวันนี้อยู่เสมอ การ คิดว่าจะตาย จะได้ทำความดี เมื่อตายแล้วควรหนีอบายภูมิ ( นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน )....(ตัด สักกายทิฏฐิ)




    ๒. จงมีสติสัมปชัญญะ ที่จะยึดความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่งด้วยความเคารพ ไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า เห็นความดีของพระพุทธเจ้า เห็นความดีของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ความดีของพระอริยสงฆ์ โดยถือเอาพระอรหันต์เป็นสำคัญ จงมอบความนับถือความมั่นใจในพระรัตนตรัยอย่างถวายชีวิต.......(ตัด วิจิกิจฉา)




    ๓. จงมีสติสัมปชัญญะ ในการปฏิบัติศีลอย่างเคร่งครัด ฆราวาสเฉพาะศีล ๕ เพราะศีล ๕ เป็นศีลของพระโสดาบันและพระสกิทาคามี........(ตัด สีลัพตปรามาส)

    ส่วนพระอนาคามีจะทรงศีล ๘ สำหรับพระอรหันต์ฆราวาสไม่มี เป็นอรหันต์วันนี้นิพพานวันนี้ เป็นอรหันต์คืนนี้ ไม่เกินพรุ่งนี้ต้องนิพพาน พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า พระโสดาบันก็ดี พระสกิทาคามีก็ดี มีแค่ปัญญาเล็กน้อย มีสมาธิเล็กน้อย แต่ศีลบริสุทธิ์ แค่นี้ก็เป็นพระโสดาบันได้แล้ว ปิดประตูอบายภูมิอย่างเด็ดขาดแน่นอน




    ๔. จงมีสติสัมปชัญญะ ที่จะใชักำลังใจ ของพระอรหันต์ไว้ประจำใจ คือขึ้นชื่อว่ามนุษยโลก มันเป็นทุกข์เราไม่ต้องการมัน เทวโลกกับพรหมโลกมีสุขจริง แต่ไม่นาน เราไม่ต้องการมันอีก เราต้องการจุดเดียวคือ นิพพาน อย่างนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์ ....(ตัด อวิชชา สังโยชน์ตัวสุดท้าย ตกบันไดพลอยโจน เส้นทางลัดตัดเข้านิพพาน)
    รักษากำลังใจตามนี้ไว้ เมื่อสิ้นอายุขัยเมื่อไร ก่อนจะตายเป็นอรหันต์เมื่อนั้น แล้วก็ไปนิพพาน


    www.oknation.net
     
    HONGTAY, 18 ตุลาคม 2009

    #1
  2. paul1234

    paul1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +634
    <TABLE style="WIDTH: 194pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=258 border=0><COLGROUP><COL style="WIDTH: 38pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1865" width=51><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3145" width=86><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3181" width=87><COL style="WIDTH: 26pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1243" width=34><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt" height=20><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 38pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=51 height=20> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=86> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=87> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 26pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=34> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt" height=21><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=21> </TD><TD class=xl67 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>อนุโมทนา... สาธุ...</TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 24.75pt; mso-height-source: userset" height=33><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; HEIGHT: 24.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=4 height=33>ขอให้เจริญในธรรม..และถึงซึ่งนิพพาน</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=31> </TD><TD class=xl69 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>ทาน ศิล สมาธิ ปัญญา</TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    paul1234, 18 ตุลาคม 2009

    #2
  3. olelovedog

    olelovedog Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +42
    อนุโมทนาสาธุคับ

    นิพพานัง สุขัง ขอให้เกิดกับทุกคนนะครับ
     
    olelovedog, 18 ตุลาคม 2009

    #3
  4. monrak

    monrak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +234
    อนุโมทนาครับ

    ทุกวันนี้เราอยู่กับความไม่เทียงไม่แท้ เพียงเพราะยึดว่า กายนี่คือเรา กายนี้เป็นของเรา

    จึงเกิดเป็น ทุกข์ ทุกข์นั่น ทุกนี่ ทุกนานา เป็นของเรา

    ไม่ละไม่ว่างมันก็เป็นทุกข์ของเราเป็นเฃ่นนี้ไปเรื่อยแล

    แล้วเราจะยึดติดไปทำไม ทุกอย่างล้วน อนิจจัง อนัตตา
     
    monrak, 19 ตุลาคม 2009

    #4
  5. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    พระอานนออกมาข้างนอกแล้วยืน แอบสะอื้น กล้ำกลืนทุกข์โถมทวี องค์พระมุนินจะสิ้นแล้ว แต่เรานี้ อาสวะมีไม่สิ้นไป องค์พระบรมครู จะทอดทิ้งเราไห้อยู่ อย่างเดียวดาย
    นับแต่วันพรุ่งนี้ไม่มีได้ รับไช้องค์พราะภควัน...

    อานนนี้จะปูอาส ทั้งถือบาต จีวร... ถวายน้ำสง พระพัก ล้างพระกร บ้วนพระโอถ อีกตามจร ผู้ใดใครหนอภายหน้า . . โอ้เราดังนกหัดบิน แม่นกมาสิ้นศูนย์ชีวา ...ปีกนั้นยังไม่กล้าขาไม่แข็งแรงพอ ยังบินถลาต้องระวังรั้งรอ . .ปีกแม่แผ่คอยบินคลอได้พอหล่อเลี้ยง ชีวัน . . .

    เปรียบดังเช่นเรา ได้เพียงพระโสดาบัน ... ยังไม่ทันสำเร็จเป็นพระอรหัน . . .
    พระศาสดา ก็จะมาปรินิพพาน ในราตรีนี้ไม่นานผ่านเลยลาลับล่วงไป... โอ้เราทำฉันใด เมื่อสิ้นแล้วพระผู้ทรงชัย. . . พระอานนกำสด น้ำตานองหยดรินไหล....

    องค์พระทศพล ไม่เห็นอานนอยู่ในนั้น จึงตรัสถามว่า อานนไม่ไหนกัน . . พระภิษุผู้รู้เหตุการ กราบทูลถวาย ไปว่า.. . ว่าท่านพระอานนท์ไป แอบยืนร้องไห้ฟูมฟายน้ำตา. . . เศร้าระมทหมองไหม้ อกใจนั้นไห้เหว่ว้า. . . ยามใดสิ้นศูย์พระอดุลยศาสดา ก็ดังชีวา พระอานนท์นั้นสิ้นไป. . .

    ทราบความดังนั้นพลันองค์พระทรงชัย ไห้ตามพระอานนท์มาไกล้แล้วน้ำธรรมไห้ ปลอบโยน.. .ลดความเศร้าหมองที่เข้าครองในกมล แก่พระอานนท์ ไห้คลายทุกข์ทน วินยา. .
    -----------------------------------------------------

    ทรงตรัสว่า อานนท์เอ๋ย...อย่าเลยอย่าเศร้า อย่าโศกซรึมเซาอย่าเฝ้าอลัยไห้หาย จนน้ำตานองหน้าอยู่ทำไม เราเคย สอนธรรม ย้ำมาก่อนไช่ไหม ว่าบุคคลต้องพลัดพลากจากไป จากสิ่งที่รักพอใจ . .
    อันสรรพสิ่ง จริงดังที่เห็น . .ไม่เว้นทุกผู้ เกิดแล้วตั้งอยู่ พอตั้งอยู่แล้วดับไป เธอนั้นจงครวญไคร่ไว้ประจำ
    เกิดแล้ว ต้องตาย ไปทุกรูปทุกนาม เป็นไครจากไหนก็ตาม เมื่อถึงยาม ย่อมมีความเสมอกัน. .. .

    อีกไม่นานหรอกอานนท์เอ๋ย . . .ธรรมจะเผยมาไกล้ ไห้เธอซึ้งใจทั่วในฤทัยชื่นเย็น . .

    เพลงพุทธประวัติของวัดเกตุม สมุทรสาคร 11แผ่น 1000บาท ร่วมสร้างโรงพยาบาล เกตุบดี
    สนใจเชิญซื้อเอง หรือฝากผมซื้อได้ส่งฟรี . . (เพราะดีนะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2009
    2ชาติตรัสรู้, 19 ตุลาคม 2009

    #5
  6. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    อนุโมทนาสาธุ
    ---------------------------------
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    นิพพานังปรมัง สุขขัง ปัจจุปันนังอธิษฐามิ
     
    tanakorn_ss, 19 ตุลาคม 2009

    #6
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ไม่ว่าท่านหรือใคร แม้แต่เรา ทำเลวมามากแค่ไหน

    เมื่อบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน

    จะเกิดอนุภาพอโหสิกรรมอัตโนมัต

    ดังนี้ ทุกคนในโลกรวมกันก็ไม่เท่าทรัพย์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ

    พระเจ้าจักรพรรดิที่ชาวโลกถือว่า<WBR>เป็นสิ่งประเสริฐ แม้สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์ จะมีมากมายมหาศาลก็ไม่เท่าเสี้ยวหนึ่งของการได้บรรลุเป็นพระ<WBR>อริยบุคคลเพียงขั้นพระโสดาบันเท่านั้นยังประเสริฐกว่า

    คุณธรรมของพระโสดาบัน คือพระโสดาบันทั้งหลาย ผู้พ้นอบายภูมิแล้ว

    เมื่อเทียบกับจิตของพระ<WBR>สัพพัญญูทั้งหลายแล้ว ยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของถึงความเป็น พระสัพพัญญูของพระพุทธเจ้า
     
    Sriaraya5, 19 ตุลาคม 2009

    #7
  8. siranyapat

    siranyapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +382
    อนุโมทนาสาธาๆๆๆๆ เหมือนความคิดข้าพเจ้าเลยแต่บัดนี้สิ้นความสงสัยแล้วก่อนที่จะอ่าน ถึงข้อความนี้แค่เสี้ยววินาทีก็มาเจอ เดชะบุญจริงๆค่ะ งั้นคงตกนรกแน่ๆ เหมือนกับรู้ใจข้าพเจ้าเลยยอมรับว่ามีความคิดเช่นนี้อยู่นานทั้งๆที่ปฎิบัติธรรมเองมานานแต่ยังไม่เคยเจอครูบาอาจารย์จริงๆจังๆแค่ไปกราบแทบทุกท่านแต่ไม่เคยได้ขอเป็นศิษย์ ไม่เคยคุยเรื่องธรมมะ คือคล้ายๆเราความู้น้อยไม่กล้าคุยคิดว่าความคิดเราคงเหมือนคนทั่วๆไปที่มีฐิถิท่านอาจารย์คงจะรำคาญ
     
    siranyapat, 19 ตุลาคม 2009

    #8
  9. siranyapat

    siranyapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +382
    อนุโมทนาสาธาๆๆๆๆ เหมือนความคิดข้าพเจ้าเลยแต่บัดนี้สิ้นความสงสัยแล้วก่อนที่จะอ่าน ถึงข้อความนี้แค่เสี้ยววินาทีก็มาเจอ เดชะบุญจริงๆค่ะ งั้นคงตกนรกแน่ๆ เหมือนกับรู้ใจข้าพเจ้าเลยยอมรับว่ามีความคิดเช่นนี้อยู่นานทั้งๆที่ปฎิบัติธรรมเองมานานแต่ยังไม่เคยเจอครูบาอาจารย์จริงๆจังๆแค่ไปกราบแทบทุกท่านแต่ไม่เคยได้ขอเป็นศิษย์ ไม่เคยคุยเรื่องธรมมะ คือคล้ายๆเราความู้น้อยไม่กล้าคุยคิดว่าความคิดเราคงเหมือนคนทั่วๆไปที่มีฐิถิท่านอาจารย์คงจะรำคาญ
     
    siranyapat, 19 ตุลาคม 2009

    #9
  10. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    หิริ หรือความละอายแก่ใจในการทำบาป

    โอตัปปะ หรือ ความเกรงกลัวต่อบาป
     
    jinny95, 19 ตุลาคม 2009

    #10
  11. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ถ้าเป็นคนดีไปแล้วจะชั่วก็ทำยากเหมือนกันนะครับ ต้องทำชั่วทั้งที่มีสติ ยากส์
    ไม่รอปฎิบัติธรรมตอนแก่ใกล้ตายเลย
    ควรจะสำรวมจิต ทำให้ติดนิสัยไว้ บรรลุกันไปเลยครับ
    ตอนที่ใจพร้อมกายพร้อมนี่แหละ
     
    Bull_psi, 19 ตุลาคม 2009

    #11
  12. guest_1

    guest_1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +41
    การเกิดดับของขันธ์ 5
    เปรียบดังการแตกตัวของ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น
    พระโสดาบัน ท่านเท่าทัน การแตกนิวเคลียสของอะตอม
    ในปฏิกริยานิวเคลี่ยร์ฟิชชั่น ด้วยปัญญา
    จึงทำให้ภพชาติหดย่นเข้ามา

    ท่านแยกตัวออกมาจากการเกิดดับ ได้อย่างชัดเจน
    เปรียบกับ การมองจากนอกโลกมายังโลก
     
    guest_1, 19 ตุลาคม 2009

    #12
  13. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด
     
    อวยชัย จิรชัยธร, 19 ตุลาคม 2009

    #13
  14. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แค่รู้ว่าอะไรคือการปรุงแต่ง โดยเนื้อแท้ต้นตอของความปรุงแต่ง ก็เก่งมากกว่าวาจาอันสวยหรูนักหนาแล้ว เพราะความจริงคือ พระโสดาบันท่านรู้ต้นเหตุแล้ว ไม่ได้รู้แค่ความปรุงแต่งไปเพื่ออะไรก็ตาม พระโสดาบันท่านเห็นเป็นของไม่มีสาระ น้ำเน่า ยิ่งกว่าละครเสียอีก เพราะความปรุงแต่งนี้แหละ ที่สำคัญการที่ท่านรู้ได้ว่าอะไรคือการปรุงแต่งนั้นเพราะว่าท่านมีสติอย่างยอดเยี่ยม ไอ้ที่หลงเพ้อพกติคนโน้น ชมคนนี้ เพราะหากเป็นเหตุเป็นเชื้อของกิเลสตัณหา ท่านไม่ทำ เพราะท่านคืออริยะบุคคล ผู้มีสติ เข้าถึงกระแสแห่งธรรมนั้นแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ขออนุโมทนาครับ กับท่านที่บรรลุโสดาบันอย่างแท้จริงแล้ว แต่ผมยัง ยังก่อน ยังไม่หมด ยังไม่ครบ ยังไม่เสร็จ
     
    kengkenny, 20 ตุลาคม 2009

    #14
  15. wintakarukae

    wintakarukae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +31
    นี่ขนาดไม่ได้เป็นโสดาบันนะ ยังพูดได้เป็นตุเป็นตะว่าพระโสดาบันท่านรู้อะไร คิดอะไร เก่งจริงๆ พี่เก่งของเรา :)
    เออ แล้วไหนว่าจะหยุดโพส ไหงหยุดไม่ได้ซักกะที มันเป็นยังไงกันเรอะ?
     
    wintakarukae, 20 ตุลาคม 2009

    #15
  16. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    บ้าหรือป่าวนี่คนนี้ นี่ สงสัยจะฝึกมากจนบ้าไปแล้ว รักษาตัวให้ดีๆนะ ห่วงผมมากระวังจะกลายเป็นบ้าเสียก่อน นะครับ พอเข้าไปฟังพระเทศน์ในห้องเชตก้อบอกว่าเรานี่สงสัยชอบแชตนะ แล้วจะให้เราทำยังไง หรือคนที่กำลังปฏิบัติเขาจะบ้ากันไปหมดแล้วทุกคน คุยกับใครไม่ได้พูดกับใครไม่ได้อย่างนี้เรียกว่าการปฏิบัติ หรือคนที่บรรลุแล้วไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ มิน่าๆ เพราะมีคนอย่าง wintakarukae สังคมมันถึงได้วุ่นวายอย่างนี้นี่เอง ขนาดโดนถามว่าคนที่ไม่กล้าใช้ชื่อของตัวเองมาโพสต์ตินั่นตินี่ แล้วเที่ยวไปทำเป็นว่าตนดี ตนเห็นธรรมเพราะมีอาจารย์ดีบ้าง ฝึกตนดีแล้วบ้าง เที่ยวสอนคนโน้นคนนี้ ไอ้ชื่อนี่ไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือ แน่ใจแล้วหรือว่าสิ่งที่ทำนี้มันดี หากยังคิดว่าดีอยู่ก็ทำไปไม่ได้ว่าอะไรหรอก อย่างดีก้อแค่โดน คนโง่ๆ คนหนึ่ง ที่คิดว่าตัวเองฉลาดนักหนา นั่งสมาธิ วิปัสสนาอย่างโน้นอย่างนี้โม้ให้คนอื่นอย่างโน้นอย่างนี้ฟัง แต่ตนเองไม่เข้าใจเลย วันนึงมันก็เสื่อมไป มาติมาคอยว่าผมก็เท่านั้นเองผมไม่ได้คิดมากไปกว่า ถ้าสิ่งที่คุณ wintakarukae ทำไปเพราะคิดว่าดีแล้วก็เอาเถอะ เพราะมันไม่ใช่กรรม ของผมที่ผมไปคอยขัดขวางคนโง่เขลาบางคนที่หลงตัวหลงตนอยู่ เพราะนี่คือพุทธศาสนาอันมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม เป็นพระศาสดา บางคนถ้าผมไม่ทักก็อาจเกินเลยไปมากกว่านั้น ส่วนหากท่านทั้งหลายคิดว่าการทักของผมผิดไปจากพระสัทธรรม ก็รบกวนไปถามครูบาอาจารย์ของท่านเถิด โดยเฉพาะคุณ wintakarukae รีบๆเลย จะได้ไม่หลงตนอยู่อย่างนี้ เพราะหากยิ่งทำอย่างนี้ความศรัทธาที่ตนมีต่อตนและที่ผู้อื่นมีต่อตนมันก็จะหดหายไปเรื่อยๆ เพราะมัวแต่คอยติเตียนคนอื่นทั้งที่ดูจะไม่มีสาระแต่อย่างใด อาจเป็นเพียงเพราะบางอย่างที่คุณเข้าใจของคุณอยู่คนเดียวเท่านั้น ทั้งที่ตนเองก็แย่กว่าเขาเหล่านั้นอย่างมากมายเหลือเกิน ผมเชื่อว่าถ้าจิตใจคุณเป็นอย่างนี้นะคุณwintakarukae คุณก็คงต้องฝึกอีกหลายๆๆๆชาติเลย หรือบางทีอาจหลายอสงไขยก็ได้ เหตุเพราะ เรื่องใดที่เป็นของคุณคุณไม่ใส่ใจ แต่กลับเอาความเป็นคุณมาอบรมสั่งสอนคนอื่น ถ้าอย่างนี้ดีก็เร่งทำไปเถอะให้มันพอให้มันพ้น บุญกุศลหนะนะ ผมอนุโมทนาด้วย เพราะเผื่อบางทีการทำบุญทำกุศลจะช่วยทำให้จิตใจดีขึ้น เอามาเสริมกับสมถะ และ วิปัสสนาที่ครูบาอาจารย์ของคุณสอนมาก็อาจจะทำให้คุณได้อย่างที่ควรได้และเป็นอย่างที่ควรเป็น ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ คนอื่นคิดอย่างไรผมไม่รู้ ผมแนะนำคุณแค่นี้ครับ
    อีกเรื่องครับ ไม่ว่าคุณจะคิดสิ่งใดทำสิ่งใดลงไปนั้นเพราะอะไรก็ตามก็มีแต่คุณคนเดียวที่รู้ความหมายของสิ่งที่คุณนั้นกระทำลงไป คนอื่นเขาได้แค่อ่านและแปลความหมายจากสิ่งที่เขาเห็นเท่านั้น หากเขามีปัญญาหรือเข้าใจเขาก็จะพิจารณาได้เอง ว่าที่เขาอ่านอยู่นั้นเป็นการปรุงแต่งด้วยอะไรเกิดขึ้นด้วยอะไร ซึ่งแน่ใจอย่างยิ่งว่าคุณและสหายของคุณคงยังไม่เข้าใจอย่างแน่นอน ถึงได้ใช้ชื่อหรือยูสเซอร์มากมาย ทำให้ server ของ เวปพลังจิต ต้องมีปัญหาบ่อยครั้งเพราะต้องรองรับ data base อันไร้สาระของพวกคุณทั้งหลายโดยไม่ใช่เรื่องเพียงเพราะแค่ต้องการที่จะคอยว่าผู้อื่น ติเตียนผู้อื่น แต่ไม่กล้าที่จะว่าจะคุยเสนอแนะกับผู้อื่นตรงๆ มักจะเก็บเอาไว้และหาทางปล่อยออกมาอย่างไม่มีสาระ นี่ละเป็นเหตุที่เวปล่มบ่อยๆ เพราะคนๆหนึ่ง มีชื่อเป็นสิบ ใช้ยูสเซอร์เป็นสิบเลยก็มี ช่างน่าเวทนากับผู้ที่เรียกตนว่านักปฏิบัติเหล่านั้นนักหนาเหลือเกิน ถ้าแค่คนเรายอมรับในสิ่งที่เห็นในสิ่งที่เป็นของสิ่งต่างๆ ก็ไม่จำเป็นมากนักหรอกไอ้ยูสเซอร์พวกนี้อะนะ แค่เรื่องนี้ คุณทำได้หรือเปล่า คุณ wintakarukae
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2009
    kengkenny, 20 ตุลาคม 2009

    #16
  17. หงษ์

    หงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +821
    ขอร่วมอนุโมทนากระทู้นี้อย่างสูงเจ้าค่ะ(||)จริงค่ะ ที่ทุกสิ่งไม่เที่ยง ไม่แท้ ไม่ทน แม้แต่ร่างกายเรายังไม่ใช่ของเรา เหมือนคนที่เรารักก็ไม่ใช่ของเรา ทุกข์ขัง อนิจจัง อนัตตา จะพยายามทำดีให้มากๆกว่าเดิมค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะ:VO
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 49.jpg
      49.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.8 KB
      เปิดดู:
      50
    • 48.jpg
      48.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.2 KB
      เปิดดู:
      56
    หงษ์, 20 ตุลาคม 2009

    #17
  18. อ_เอกวัฒน์

    อ_เอกวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +270
    ขออนุโมทนาในธรรม ขอธรรมนั้นจงมีแก่เราเทอญ
    การแก้กฎแห่งกรรมด้วยการฝึกอารมณ์จิตพระโสดาบัน<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
     
    อ_เอกวัฒน์, 21 ตุลาคม 2009

    #18
  19. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +1,088
    รู้แล้ว....ก็ดีแล้ว....4444
     
    GUYTHUM, 1 มกราคม 2010

    #19
  20. acspclubs

    acspclubs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +579
    สาธุครับท่าน

    นิพพานัง ปรมัง สุขัง

    การไม่เกิด...ดีที่สุดครับ ^^
     
    acspclubs, 17 เมษายน 2010

    #20
หน้า 1 ของ 2

แชร์หน้านี้

Loading...