เมื่อ"ฆราวาสโสดาบัน"ถามปัญหา"หลวงปู่สิมอรหันต์"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 20 กันยายน 2009.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ท่านต้องรู้ก่อนนะครับว่า "จิตสังขาร=อาการของจิต=เจตสิก"
    ส่วนคำว่า "เที่ยง" โปรดเข้าใจไว้ด้วยว่า จิตไม่ดับตายหายสูญไปไหน ต้องเป็นไปตามกรรม
    ไม่ใช่เที่ยงแบบสัสสตทิฐิที่ เกิดเป็นอะไร ก็จะต้องเกิดเป็นแบบนั้นตลอดไป กรรมดีกรรมชั่วไม่อาจให้ผล...

    หมดเวลา เวลาหมด พรุ่งนี้มาว่ากันใหม่

    ;aa24
     
  2. pantham phuakph

    pantham phuakph เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +444
    คนที่รู้แจ้งอริยสัจ ต้องเป็นพระอรหันตผล ใช่หรือไม่

    พุทธบริษัททุกท่าน หากท่านใดเป็นอริยบุคคล ก็ขอยินดีด้วย
     
  3. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ขอถามหน่อครับว่าเอาอะไรมาคิด ก่อนที่จะโพสต์อะไรลงไปเนี่ย สุดยอดจริงๆเลยครับ จะบอกว่าคนที่รู้เห็นอริยสัจนั้นจะเป็นพระอรหันต์ เขาไม่มาทำเรื่องอย่างนี้กันหรอกใช่ไหมครับ สุดยอดจริงๆครับ
    อนุโมทนาครับ
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เอางี้ เราพูดใหม่
    หลวงปู่ดูลย์ บอก จิตเห็นจิต อย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
    คุณพูด ตีความเป็น จิตเราเห็นจิตสังขารว่าไม่ใช่เราอย่างแจ่มแจ้งเป็นมรรค

    ประมาณว่า จิตคือจิตเราบ้าง จิตคือจิตสังขารที่ไม่ใช่เราบ้าง
    แปลว่า จิตของคุณพูดมีหลายความหมาย ไม่แน่นอน
    ยังมีแถมต่ออีกว่า "จิตสังขาร=อาการของจิต=เจตสิก"

    พูดไปพูดมา รวมๆตีความคำสอนหลวงปู่กลายเป็น
    จิตเราเห็นจิตสังขาร(อาการของจิต เจตสิก)ว่าไม่ใช่เราอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
    ประมาณว่าต้องใช้จิต(ที่เที่ยง)ไปดูจิตสังขารให้เห็นว่าจิตสังขารไม่เที่ยง ถึงจะเห็นไตรลักษณ์ของจริง คุณเข้าใจแบบนี้ใช่ไหม

    แล้วก็เคยบ่นๆว่า พวกดูจิต ที่ดูได้แต่อาการจิตเป็นพวกดูได้ไม่ถึงจิต แปลว่าทำไม่ถูก

    [​IMG]

    เราว่าหลวงปู่ดูลย์ สอนถูกแล้วแถมไม่ต้องตีความอีกด้วย จิตเห็นจิต อย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
    จิตก็คือจิต ต้องเห็นจิตนั้นอย่างแจ่มแจ้ง ถึงจะเป็นมรรค เรียกว่าดูได้ถูกที่ถูกตัว ดูไม่ผิดฝาไม่ผิดตัว
    ดูอาการจิต เป็นของคนเริ่มต้นภาวนาที่ยังเห็นไม่ถึงฐานจิต เรียกว่าดูจิตขั้นเบบี๋อย่างเรานี่แหละ ยังไม่ใช่มรรค ได้แค่หัดรู้ทางเดิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2009
  5. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
     
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    #86

    ตามความเห็นดังกล่าว

    ก็กล่าวลงได้ทั้งสองแบบ จิตส่งนอก ย้อนได้ว่าอะไรเป็นตัวส่ง จิตส่งนอกยังย้อนได้ว่า เพราะยังมีจิตซิถึงยังส่งได้

    พระท่านปฎิบัติแล้วมาถ่ายทอด ยังไรก็ของแท้

    อย่าไปคุยกับคนตาบอดเลย เสียเวลา เสียอารมณ์
     
  7. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
    ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
    จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
    ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นนิโรธ

    ข้อความนี้เข้าใจว่าเป็นคำสอนของบูรพาจารย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    แล้วหลวงปู่ซึ่งได้กล่าวไว้ด้วยตนเองจะคลาดเคลื่อนได้อย่างไร???
    สติปัญญาพระอรหันต์ จะคลาดเคลื่อนได้อย่างไร???
    ถ้ามีคนบอกว่า "น่าจะคลาดเคลื่อนจากสภาวะธรรมที่หลวงปู่สอน"
    มันขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด
    เพราะมันหมายถึงว่า หลวงปู่ใช้ภาษาผิด ซึ่งก็เท่ากับกล่าวหาหลวงปู่อยู่ดี
    แล้วคำว่า "น่าจะ" ก็แสดงให้เห็นว่า ไม่มีความมั่นใจเท่าใดนัก แสดงว่ายังไม่แจ้งพอ

    สรุปว่า มีอยู่ 2 นัย
    1 สภาวะธรรมหลวงปู่ถูกต้อง แต่กล่าวผิด หรือใช้ภาษาผิด ทำให้คลาดเคลื่อน จึงต้องแก้ให้ถูกเป็น "ความส่งออกนอกของจิต เป็นสมุทัย"
    2 สภาวะธรรมหลวงปู่ไม่ถูกต้อง จึงกล่าวออกไปผิด

    แต่จากบทความในหนังสือที่อ้างถึง จะเป็นลักษณะเดียวกับข้อที่ 1
    ซึ่งก็ยังเท่ากับกล่าวหาหลวงปู่อยู่ดี...ว่าใช้ภาษาคลาดเคลื่อนไปจากสภาวะธรรมของตน(หลวงปู่ดูลย์)
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG]ตัดเข้าโฆษณา....


    ขอให้วัดทุกวัดทั่วประเทศเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล

    กำหนดการแสดงธรรมการเจริญสต-จิตตภาวนา ในเดือนตุลาคม
    วันจันทร์ ที่ 5 ตุลาคม 2552 13.00 น ที่ การประปานครหลวง (แผนที่)
    วันพุธ ที่ 14 ตุลาคม 2552 13.00 น ที่ วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนา)
    วันอาทิตย์ ที่ 18 ตุลาคม 2552 13.30 น ที่ ยุวพุทธิกสมาคมฯ(ในพระบรมราชูปถัมภ์)
     
  9. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ขอแจมด้วยอีกครั้งเดียวพอครับให้คุณคนผู้ใหญ่ของผมได้อ่านอีกครั้ง ครั้งที่แล้วอ่านหน้า๓๖ วันนี้เอาทั้งย่อหน้าเลยครับรวมทั้งหัวเรื่อง พระอาจารย์ปราโมทย์ หรือเปล่าที่เขียนไม่รู้เพราะเขาระบุว่าอย่างนั้น และหนังสือของท่านเรื่อง แก่นธรรมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโลเขียนไว้อย่างนี้ ข้อความตอนหนึ่ง
    หน้า ๓๕-๓๖
    ๔.๑ จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
    ผู้เขียน(หลวงพ่อปราโมทย์)ได้ทราบจากพระราชวรคุณ เจ้าอาวาสวัดบูรพารามและเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ธรรมยุต) ผู้เป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่ เป็นผู้ดูแลใกล้ชิดหลวงปู่มาหลายสิบปี และเป็นพระอุปัชฌาย์ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาของผู้เขียน ว่าในความเป็นจริงคำสอนเรื่องอริยสัจแห่งจิตที่หลวงปู่กล่าวไว้ กับคำสอนที่พิมพ์เผยแพร่กันในชั้นหลังนั้น มีการลำดับข้อความสลับกันบ้าง เพราะสานุศิษย์ไปปรับถ้อยคำให้สละสลวยดังเช่นที่พิมพ์เผยแพร่กันอยู่ในปัจจุบันนี้
    ข้อความที่ว่า "จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย" นั้นน่าจะคลาดเคลื่อนจากสภาวธรรมที่หลวงปู่สอน เพราะแท้จริงจิตจะเป็นตัวสมุทัยไปไม่ได้ เนื่องจากจิตเป็นวิญญาณขันธ์อันจัดอยู่ในกองทุกข์ ไม่ใช่ตัณหาอันเป็นตัวสมุทัย หากใช้ถ้อยคำให้ตรงกับสภาวะธรรมจริงๆ จะต้องใช้คำว่า "ความส่งออกนอกของจิต เป็นสมุทัย ผลแห่งความส่งออกนอกของจิต เป็นทุกข์" ทั้งนี้เพราะ ความส่งออกนอกของจิตก็คือความทะยานอยากหรือตัณหา อันเป็นตัวสมุทัยตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง และความส่งออกนอกของจิตอันเป็นผลให้เกิดทุกข์นั้นที ๒ ลักษณะคือ

    <!-- google_ad_section_end --> อ่านอะไรอ่านให้มันเห็นใจความที่แท้จริงของเนื้อหากันหน่อยได้ไหมครับ เดี้ยวก็ได้อายเด็กกันหมดหรอกครับ ดังนั้น เรื่องของเรื่องคือ สภาวะธรรมเรื่องอริยสัจแห่งจิตที่หลวงปู่สอนนั้นคืออะไร อะไรที่หลวงปู่สอน ครับ ถ้ายึดจากตัวข้อความในหนังสือนั้นถูกต้องไหม ถ้าไม่ถูกแล้วที่ใดที่ถูก อันนี้ต้องค้นหาแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2009
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แน่ใจนะ ว่าจะวิจารณ์ อริยสัจจรอบอรหัตถมรรคกับเขาด้วย

    ดี...

    งั้นอธิบายประโยคที่พี่ภูติเองยังย่ำพล้ำสิ

    "จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค"

    พี่วิมุตติช่วยอธิบายโดยไม่ต่อเติมหน่อย* ...อย่าลืมนะว่า พวก
    คุณนั้นเชื่ออยู่อยากหนึ่งว่า จิตไม่เกิดไม่ดับ จิตดวงเก่าไม่มี
    จิตดวงใหม่ไม่มี มีแต่จิตที่ติดตลอด

    แล้วช่วยอธิบายหน่อยว่า จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง ต้องอย่าง
    แจ่มแจ้งด้วยนะ ว่าจิตอะไรไปเห็นจิตอะไร...

    * * * *

    * เพราะเมื่อไหร่ที่ต่อเติม หรือ เพิ่มอรรถาธิบาย พวกคุณจะมองว่า
    เป็นการ "กล่าวหาว่าหลวงปู่ใช้ภาษาผิด"
     
  11. wintakarukae

    wintakarukae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +31
    งูเห็นหางงูไง
     
  12. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    มีแต่ความคราย ก็ยังเอาตัวมาเสนอเหรอครับคุณตัวผู้ใหญ่ ระวังความงัวจะเข้าแทรกทำให้ธาตุไฟแตกนะครับ ถ้าตัวผู้ใหญ่ไม่พอก็ให้คุณตัวผู้ใหญ่พอเขาว่ากันไปครับ ตอบออกมาได้ น่าสงสารจัง งูเห็นหาง ถ้างั้นคนที่ย้ำอยู่กับที่ก็เห็นรอยเท้าตัวเองก็เป็นอย่างคำถามเขานะสิ ครับ ผมอยากจะเสริมนะแต่เห็นจิตเป็นงูกินหางมันยังไม่ใช่ เดี้ยวพี่คุณผู้ใหญ่เขาคงออกมาตอบมั้งครับ
    ม่ายเห็นจะได้เรื่องเลยงูกินหางเอ้ยงูเห็นหาง
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ผมมีตัวช่วย

    พี่วิมุตติ เคยฟังพระอีกท่านที่เทศน์เร็วๆไหม

    ท่านแก้แบบนี้

    "จิตส่งออกไม่มี! จิตตัวมันเองนั่นแหละเป็นสมุทัย ไม่ต้องไปส่งออกส่งเอิกอีก!"

    รู้สึกไหมว่า แก้ไปแล้ว แก้คำหลวงปู่ไปแล้ว แก้แบบว่าไม่ทิ้งรอยเดิมเลยด้วยซ้ำ
    แต่ยังก่อน...อย่าพึ่งไปต่อว่าพระอีกท่าน กล่าวหาหลวงปู่ใช้ภาษาผิด
    มาดูเหตุผลให้ครบๆเสียก่อน

    พระท่านนั้นกล่าวว่า ที่มันเป็นสมุทัยเลย เพราะจิตมันแนบติดกับอวิชชา! ตัว
    มันจึงเป็นสมุทัย...แล้วก็เป็นทุกข์ด้วย [ อย่างงเลยนะ ผมอธิบายให้ว่า ตอนนี้
    ท่านพูดถึงจิตของปุถุชน -- ดังนั้นหากจะเลี่ยงคำว่าจิต ก็จะเลิกพูดคำว่าจิตไปเลย
    แล้วไปยกคำว่า ตัณหา หรือ อวิชชา ก็ได้มารับไปแทน ]

    หากไปฟังเทศน์ชุดใหม่ล่าสุดในวันนี้ จะได้ความเพิ่มอีกว่า พระอนาคามีก็มอง
    ไม่เห็นอริยสัจจรอบอรหัตถมรรค เพราะไปเห็นจิตว่าเที่ยงอยู่ ทำอย่างไรจิตผู้รู้
    ก็ทรงแต่สมาธิ มองไม่เห็นว่าจิตมันจะส่งออกได้อย่างไร อนาคามีหากกล่าวธรรม
    ในส่วนอรหัตถมรรคผิดหมด! แล้วท่านก็กล่าวว่า มันต้องย้อนมาดูจิตที่ว่างอยู่นั้น
    มันไม่จริง จิตว่างไม่มี! จึงเห็นอัตานุทิฏฐิ แล้วถอนอัตนุทิฐิในการเห็นจิตผู้รู้เที่ยง
    จิตที่ทรงฌาณอยู่คือจิตส่งออกนอก จึงเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง! แบบอรหันต์

    * ไปฟังเอานะ เพราะที่ผมยกมากล่าวไม่ใช่การถอดคำ ก็น่าจะคลาดเคลื่อน เพราะ
    ผมไม่ได้มีความทรงจำแบบเครื่องบันทึกเทป เมื่อมากล่าวซ้ำย่อมต้องเจือทิฏฐิตัวเอง
    ลงไปเป็นธรรมดา *
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2009
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขออนุญาติครับ

    จิตไม่มีสัณฐาน ไม่ใช่รูป ไม่ใช่ดวงครับ

    การบอกว่า จิตมีหัว กะหาง จึงไม่สอดคล้อง

    รบกวนท่านอธิบายใหม่ครับ
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เล่นด้วย (หนุกๆ)

    งู เห็น งู ไง

    หัวงูเห็นหัวงู ไง

    ถ้างูเห็นหางงู ก็ เข้าข่าย จิตเห็นอาการจิต

    เห็นหางงูมันไหวๆ ก็พอเดาได้ ว่า หางตรู..เอง นิหว่า เหอๆ นี่ระดับ เดะๆ

    ถ้าหัวงูเห็นหัวงูได้ นี่ระดับปรมาจารย์แร้ว...[​IMG]
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับไม่ต้องรีบร้อนฟลัดกระทู้ก็ได้ครับ
    รอผมตอบของท่านให้หมดก่อน เห็นว่าจะงามกว่านะครับ
    ท่านเอาคำเหล่านี้มากระทบกระเทียบเท่ากับ
    ท่านกำลังดูถูกธรรมของท่านนิยายธรรมอยู่นะครับ

    เรื่องง่ายๆเพียงนี้ท่านยังไม่มีสามัญสำนึกเลย
    ผมก็ไม่แปลกใจว่าเรื่องง่ายๆแค่ศีล ท่านยังสับสน
    ยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้กำกับรักษาศีล...

    ;aa24
     
  18. wintakarukae

    wintakarukae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +31
    บ่นอาราย ไปชกกับตัวเองที่กระทู้โน้นให้เสร็จก่อนดีกว่า :)
     
  19. wintakarukae

    wintakarukae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +31
    อ้าวก็ท่านถามว่าจิตดวงไหนเห็นจิตดวงไหน เราก็ตอบให้ว่าไม่จำเป็นต้องมีหลายดวงจึงจะเห็นตัวมันเองได้ ก็เลยยกตัวอย่างให้ฟังว่า งูมันก็ยังเห็นตัวมันเองได้ หากเป็นงูตัวสั้น มันก็ยังส่องกระจกดูตัวมันเองได้ ไม่ได้บอกว่าจิตเป็นงูมีหัวมีหางสักหน่อยนี่ :)
    แค่ต้องการเสนอให้มองเห็นมุมอื่นบ้างว่าไม่ใช่ต้องมีสองดวงจึงจะเห็นกันได้
    ไม่อย่างนั้นก็ต้องเถียงต่อแบบใช้ตรรกะว่า แล้วจิตมันมีดวงตาเห็นรูปทรงสัณฐานที่ไหนกันเล่า :)
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ถ้าท่านไม่หนีก็ดีแล้ว
    แต่ช่วยกรุณาตอบคำถามที่ถามไปด้วยครับ
    ก็เพราะท่านคิดเองว่าเป็นการต่อล้อต่อเถียง
    จึงทำให้ท่านพูดออกมายิ่งกว่าปากตลาดเสีย
    ผมหละอายแทนครูบาอาจารย์ของท่านจริงๆเลย

    ใครหละครับที่ใช้ให้ท่านต่อล้อต่อเถียง
    ที่พูดคุยกันอยู่นี้เป็นการถกธรรมเป็นค้นหาความจริงครับ
    ตรงไหนหละที่ไม่เกี่ยวกับธรรม ท่านบอกมาสิครับ
    ทุกวันนี้เราอยู่กับธรรมทั้งนั้นตลอดเวลา
    ไม่เป็นโลกียธรรม ก็เป็นเรื่องโลกุตรธรรมครับ.....

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...