ติดตามกิจกรรมพระกรรมฐาน

http://www.baanruenthai.com/readarticle.php?article_id=193

ขอเชิญร่วมทำบุญอฐิษฐานจิตแผ่นทองคำเปลว​

เพื่อนำไปปิดพระพุทธรูป ๘ องค์ ท้าวมหาพรหม ๔ องค์​

และปิดยอดพระมหาเจดีย์พุทธบูชา ๕ ยอด​

ณ วัดพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.​

วันเสาร์ที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ เวลา ๐๖.๓๐ น.​

ร่วมทำบุญอฐิษฐานจิตพระผงพระพุทธชินราช เพื่อนำไปบรรจุกรุในพระมหาเจดีย์พุทธบูชาเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาใน อนาคตกาลและร่วมทำบุญจารึกชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิดของท่าน ลงบนแผ่นดวงโภคทรัพย์เพื่อนำไปบรรจุใต้ฐานพระพุทธรูป ๘ องค์ ในงานทำบุญตักบาตรฟังธรรมพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ วันเสาร์ที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๖.๓๐ น.เป็นต้นไป ณ ศาลาการเปรียญวัดพุทธบูชา ถนนพุทธบูชา ซอย๓๐ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.สอบถามรายละเอียดที่โทรศัพท์ ๐๘๙-๐๖๓๓-๘๖๓ หรือ ๐๘๑-๕๘๖-๑๐๒๓ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน [B]และเนื่องจากมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดิน ๑๑ไร่ ที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ถวายแด่พระราชภาวนาพินิจ ( หลวงปู่สนธิ์[/B][COLOR=#004400] อนาลโย) เพื่อสร้างวัดป่าอนาลโย ผู้มีจิตศรัทธาจะสร้างกุฎิสงฆ์ ๕ หลัง หลังละ ๖๐,๐๐๐ บาท.ห้องน้ำ-สุขา ๑๐ ห้อง ห้องละ ๒๕,๐๐๐ บาท.เสาศาลาเอนกประสงค์เสาละ ๒๐,๐๐๐[/COLOR][B] บาท.ร่วมทำบุญได้ที่กุฎิเจ้าอาวาสวัดพุทธบูชาหรือในงานทำบุญ ตักบาตรพระกรรมฐานวันเสาร์ที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ ตั้งแต่เวลา ๐๖.๓๐ น.เป็นต้นไป[/B] [SIZE=4]เพิ่มเติม[/SIZE]

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี​

๙ วัด ๙ พระมหาเจดีย์​

ณ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์​

ถนนรามอินทรา เขตคันนายาว กทม.​

วันเสาร์ที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ เวลา ๑๐.๐๐ น.​

หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลธานี ได้เคยปรารภกับ ( ศิษย์ ) หลวงพ่อโสภณ โอภาโส วัดบึงลัฎฐิวัน ว่า ในภายภาคหน้าจะเป็นยุคที่ครูบาอาจารย์ท่านจะสร้างพระมหาเจดีย์ฯ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุบูรพาจารย์ เพื่อที่สาธุชนจะได้รำลึกถึงพระพุทธเจ้า และบูรพาจารย์ รวมทั้งเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เพื่อให้ผู้มีบุญและมีจิตศรัทธาจะได้มีโอกาสสร้างบารมีติดตามพระพุทธองค์ไป สู่แดนนิพพานในอนาคตกาล และให้สาธุชนกราบสักการบูชายังจิตให้เป็นมหากุศลต่อไป ขณะนี้การก่อสร้างพระมหาเจดีย์ ยังขาดปัจจัยอีกเป็นจำนวนมาก และที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่มีดังนี้

<o></o>

๙ เจดีย์ ๙ จังหวัด มีดังนี้​

๑. พระมหาเจดีย์ ศรีบุรีรัมย์ วัดระหาน อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ( หลวงปู่จันแรม เขมสิริ ประธานฝ่ายบรรพชิต )
<o></o>
๒. พระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ( หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป )
<o></o>
๓. พระมหาเจดีย์พุทธบูชา วัดพุทธบูชา เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ( หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย )
<o></o>
๔. พระมหาเจดีย์พุทธเมตตามหามงคล วัดป่าหนองไคร้ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ( หลวงปู่ประสาร สุมโน )
<o></o>
๕. พระเจดีย์พิพิธภัณฑ์ วัดป่าวิเวกพัฒนาราม ตำบลพรเจริญ อำเภอพรเจริญ จังหวัดหนองคาย ( หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร )
<o></o>
๖. พระเจดีย์มหามงคล ถวายแด่หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
<o></o>
๗. พระธาตุเจดีย์ศรีอยุธยา สัมมาสัมโพธิญาณ วัดบึงลัฏฐิวัน ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ( หลวงพ่อโสภณ โอภาโส )
<o></o>
๘. พระรัตนเจดีย์ วัดถ้ำบูชา อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ( หลวงพ่อคำ กาญจนวัณโณ )
<o></o>
๙. พระมหาธาตุเจดีย์ วัดป่าบ้านค้อ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ( หลวงพ่อไชยา อภิชโย )<o></o>
ขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกได้โปรดดลบันดาลให้ผู้มีจิตศรัทธา และครอบครัวในการสร้างพระมหาเจดีย์ ๙ แห่งนี้ จงประสบแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ด้วยจตุรพิธพรชัย คือ อายุ วรรณ สุขะ พละ ธนสารสมบัติอันพึงปรารถนาในปัจจุบันชาติ และในทุกภพทุกชาติทุกประการเทอญฯ
<o></o>
ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์ ๙ แห่ง หรือร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาได้ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ หรือบริจาคโอนเงิน

รายละเอียดการโอนเงิน
ชื่อบัญชี “ ผ้าป่า 9 วัด สร้าง 9 มหาเจดีย์ ”
<o></o>
ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์<o></o>
<o></o>
เลขที่บัญชีออมทรัพย์ 171-2-377008
<o></o>
ผู้ประสานงาน
1. คุณกิตติ วิเศษศักดากร โทร.081-441-5223<o></o>
<o></o>
2. รศ.<st1></st1><st1>มานพ ตันตระบัณฑิตย์ มานพ ตันตระบัณฑิตย์</st1> โทร.089-063-3863
3. คุณสิริภา ลิขิตศรัณย์ โทร.02-947-5000
<o></o>
กำหนดการ
- เวลา 06.45 น.พระกรรมฐานเดินทางมาถึงสถานที่
<o></o>
- เวลา 07.30 น.ร่วมตักบาตรพระกรรมฐานจำนวน 9 รูป และพระติดตาม 6 รูป รวม 15 รูป<o></o>
- เวลา 08.00 น.ประธานจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระภิกษุสงฆ์เจริญพุทธมนต์<o></o>
<o></o>
- เวลา 08.30 น.ร่วมถวายภัตตาหารเช้า พระภิกษุฉันท์ภัตตาหารเช้า <o></o>
<o></o>
- เวลา 10.00 น.ร่วมทอดผ้าป่า ถวายจตุปัจจัย เครื่องไทยทานและแสดงพระธรรมเทศนา เพิ่มเติม

 

พระธาตุหลวงปู่มั่นครับ

 

ขอเชิญร่วมหล่อสร้างพระพุทธโสธร๓๐นิ้วเพื่อสันติสุข

http://palungjit.org/threads/%E0%...82.205100/

 

โมทนาสาธุครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

เรียนเชิญทำบุญซื้อ อิฐ หิน ดิน ทราย เหล็ก ปูน สร้างศาลาแก้วถวายสมเด็จองค์ปฐม

เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานสมเด็จองค์ปฐมและศาลาแก้วพระจุฬามณี ที่ จ.นครศรีธรรมราช (สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ)

<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 coordsize="21600,21600" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" oreferrelative="t" o:spt="75"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><vath o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></vath><o:lock v:ext="edit" aspectratio="t"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 151.5pt; HEIGHT: 101.25pt" alt="" type="#_x0000_t75" o:button="t"><v:imagedata src="file:///COCUME~1KruitLOCALS~1Tempmsohtml11clip_image001.jpg" o:href="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=581428&stc=1&thumb=1&d=1242140339"></v:imagedata></v:shape>

<v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 480pt; HEIGHT: 5in" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///COCUME~1KruitLOCALS~1Tempmsohtml11clip_image002.jpg" o:href="http://i587.photobucket.com/albums/ss314/npk2009/IMG_4542.jpg"></v:imagedata></v:shape>

" บุญกุศลใดที่พึงจะได้รับ ก็ขอให้ทุกท่านได้รับเช่นเดียวกันถ้วนหน้าสถาพร ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ที่สุดถึงซึ่งพระนิพพานด้วยกันเทอญฯ สาธุ" <o></o>
<o> </o>

 

ปฏิ สังขา โยนิโส ปิณฑะปาตัง ปะฏิเสวามิ
ข้าพเจ้าพิจารณาแล้วโดยแยบคาย คือพิจารณาโดยใช้ปัญญาไตร่ตรองอย่างดีแล้ว คำนึงถึงเหตุผลแล้ว จึงฉันอาหารบิณฑบาต

เนวะ ทะวายะ นะ มะทายะ นะ มัณฑะนายะ นะ วิภูสะนายะ
(โดยรู้ตระหนักว่า) มิใช่เพื่อจะสนุกสนาน เห็นแก่เอร็ดอร่อยหลงมัวเมา สวยงามโอ่อ่าโก้เก๋

ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา ยาปะนายะ
ที่ฉันนี้ก็เพื่อให้ร่างกายนี้ดำรงอยู่ ให้ชีวิตดำเนินไปได้

วิหิงสุปะระติยา
เพื่อระงับความหิวกระหาย หรือการขาดอาหาร ซึ่งเป็นภาวะที่บีบคั้นเบียดเบียนร่างกาย

พรหมจริยานุคคหายะ
เพื่ออนุเคราะห์พรหมจริยะ คือเพื่อเกื้อหนุนชีวิตที่ประเสริฐ

อิ ติ ปุราณัญจะ เวทะนัง ปะติหังขามิ นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ
ด้วยการรับประทานด้วยปัญญาอย่างนี้ เราจะระงับเวทนาเก่า คือแก้ความทุกข์ร้อนกระวนกระวายเนื่องจากความหิวได้ กับทั้งจะไม่ให้เกิดเวทนาใหม่ เช่น ไม่อึดอัด แน่น จุกเสียด ท้องเสีย เป็นต้น เนื่องจากรับประทานมากเกินไป หรือกินของไม่ดีมีพิษ

ยาตรา จะ เม ภะวิสสะติ
และเราก็จะมีชีวิตดำเนินไปได้

อะนะ วัชชะตา จะ
พร้อมทั้งจะเป็นการบริโภคที่บริสุทธิ์ ไม่มีโทษ ปราศจากข้อเสียหาย หมายความว่า ไม่มีโทษภัย ไร้ข้อบกพร่องเสียหายที่จะพึงตำหนิติเตียนได้ เช่น ไม่ต้องทำการแสวงหาโดยทางทุจริตผิดธรรม ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสังคม ไม่เบียดเบียนธรรมชาติแวดล้อม ไม่เบียดเบียนทั้งภายในและภายนอก

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนเมษายน-มิถุนายน
ขอเชิญเพื่อนสมาชิก มาโพสต์กิจกรรมพระกรรมฐาน
http://larndham.net/index.php?showtopic=33740&st=290

 

สติสูตร


[๓๔๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่มีสมาธิอันสงบ ไม่มีสมาธิอัน
ประณีต ไม่มีสมาธิที่ได้ด้วยความสงบ ไม่มีสมาธิที่ถึงความเป็นผู้มีอารมณ์เป็นหนึ่ง
จักแสดงฤทธิ์ได้หลายๆ อย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็น
คนเดียวก็ได้ ฯลฯ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้ ข้อนี้ย่อมไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้ เธอจักฟังเสียงสองชนิด คือ เสียงทิพและเสียงมนุษย์ ทั้งที่
อยู่ไกลและใกล้ ด้วยทิพโสตอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์ ข้อนี้ย่อมไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้ จักกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วยใจว่าจิตมีราคะจักรู้ว่า
จิตมีราคะ ฯลฯ หรือจิตยังไม่หลุดพ้นจักรู้ว่า จิตยังไม่หลุดพ้น ข้อนี้ย่อมไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้ จักระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือ ระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง
สองชาติบ้าง ฯลฯ จักระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้ง
อุเทศด้วยประการฉะนี้ ข้อนี้ย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ จักเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ
กำลังอุบัติ ฯลฯ ด้วยทิพจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ จักรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้
เป็นไปตามกรรม ข้อนี้ย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ จักกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ
ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ข้อนี้ย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุมีสมาธิอันสงบ มีสมาธิอันประณีต มีสมาธิ
ที่ได้ด้วยความสงบ มีสมาธิที่ถึงความเป็นผู้มีอารมณ์เป็นหนึ่ง จักแสดงฤทธิ์ได้
หลายๆ อย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ฯลฯ
จักใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ จัก
ฟังเสียงสองชนิด คือ เสียงทิพและเสียงมนุษย์ ทั้งที่อยู่ไกลและใกล้ ด้วย
ทิพโสตอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ จักกำหนด
รู้ใจของสัตว์อื่นของบุคคลอื่นด้วยใจว่า จิตมีราคะก็จักรู้ว่า จิตมีราคะ ฯลฯ หรือ
จิตยังไม่หลุดพ้นก็จักรู้ว่า จิตยังไม่หลุดพ้น ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ จักระลึก
ชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง ฯลฯ จักระลึกถึง
ชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้ ข้อนี้
ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ จักเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ กำลังอุบัติ ฯลฯ จักรู้ชัดซึ่ง
หมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ จักกระทำให้แจ้งซึ่ง
เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ


จบสูตรที่ ๖


มีใครฝึกทิพยจักษุมั้ยครับ
http://larndham.net/index.php?showtopic=36087&st=50

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนเมษายน-มิถุนายน
ขอเชิญเพื่อนสมาชิก มาโพสต์กิจกรรมพระกรรมฐาน
http://larndham.net/index.php?showtopic=33740&st=290

 

กำหนดการบำเพ็ญกุศล
อุทิศถวายอดีตเจ้าอาวาส วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนเมษายน-มิถุนายน
ขอเชิญเพื่อนสมาชิก มาโพสต์กิจกรรมพระกรรมฐาน
http://larndham.net/index.php?showtopic=33740&st=290

ในดิถีตรงกับวันขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ คณะศิษยานุศิษย์ได้เคยบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายอดีตเจ้าอาวาส ได้แก่

๑. พระญาณรักขิต (สุข)
๒. พระอมราภิรักขิต (อมร เกิด ป.ธ.๙)
๓. พระพรหมมุนี (เหมือน ป.ธ.๙)
๔. พระวินัยรักขิต (จันทร์)
๕. พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท จันทร์ ป.ธ.๔)
๖. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน ป.ธ.๕)
๗. พระธรรมดิลก (จนฺทูปโม ทองดำ ป.ธ.๗)
๘. พระเทพวรคุณ (ชาคโร สิงห์ ป.ธ.๖)
๙. พระพรหมมุนี (สุจิณฺโณ บู่ ป.ธ.๙)
๑๐. พระเทพสุเมธี (เขมี สนอง ป.ธ.๔)

โดยมีการจัดเป็นประจำเสมอมาในศกนี้ คงจัดทำเช่นเคย ณ ศาลาอุรุพงศ์ วัดบรมนิวาส มีกำหนดการดังนี้

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๒
•เวลา ๑๗.๐๐ น. พระภิกษุสามเณรวัดบรมนิวาส
ทำวัดสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลถวาย อดีตเจ้าอาวาสทุกรูป

วันศุกร์ ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๒
•เวลา ๐๙.๑๕ น.
แสดงพระธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์
พระสงฆ์ ๔ รูป สวดคาถาธรรมบรรยาย
•เวลา ๑๐.๑๕ น. พระสงฆ์สมณศักดิ์ ๑๐ รูป สวดพระพุทธมนต์
ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์สมณศักดิ์ ๑๐ รูป อนุโมทนา
•เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสามเณร ๑๒๐ รูป
•เวลา ๑๒.๐๐ น. พระสงฆ์สมณศักดิ์ ๒๐ รูป สวดมาติกา - บังสุกุล เป็นอันเสร็จพิธี

วัด บรมนิวาส จึงขอเรียนเชิญบรรดาศิษยานุศิษย์ และท่านผู้เคารพนับถือใน พระเดชพระคุณท่านเจ้าอาวาสทุกรูป เพื่อร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย ในครั้งนี้ตามกำหนดการข้อมูล

จากเว็บไซต์วัดบรมนิวาส วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร

วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร
โทร.๐๒-๒๑๔-๐๗๐๘

ใน การนี้ทางวัดได้อัญเชิญอัฐิ ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ( สิริจนฺโท จันทร์ ป.ธ.๔) กับ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน ป.ธ.๕) มาบำเพ็ญกุศลและสักการะบูชา ปีละครั้งเท่านั้น



เชิญอ่านประวัติและพานำเที่ยววัดบรมนิวาส
ในธรรมะใกล้ตัว


ใน วัดบรมนิวาส: อรัญวาสีแห่งกรุงเทพฯ
ตอนที่ 1 ต้นทางแห่งพระปฏิบัติ
http://dungtrin.com/mag/?33.tour
ตอนที่ ๒ กับเสาหลักกรรมฐาน
http://dungtrin.com/mag/?34.tour

พานำเที่ยวโดยวีระวงศ์เองครับ
http://larndham.net/index.php?showtopic=36323





<!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--> <!--emo&:02:--><!--endemo--><!--emo&:16:--><!--endemo--><!--emo&:12:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo-->

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

กำหนดการบำเพ็ญกุศล
อุทิศถวายอดีตเจ้าอาวาส วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนเมษายน-มิถุนายน
ขอเชิญเพื่อนสมาชิก มาโพสต์กิจกรรมพระกรรมฐาน
http://larndham.net/index.php?showtopic=33740&st=290

ต่อไปจะขอเล่าถึงประวัติอดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส
ที่มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งข้อมูลได้มาจากเว็บไซต์วัดบรมนิวาส
ในส่วนของประวัติอดีตเจ้าอาวาส
( วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร )
และผมได้รวบรวมเอง อีกทั้งภาพประกอบ
ขอเชิญติดตามชมนะครับ

แก้ไขโดย วีระวงศ์ เมื่อ 15 ก.ย. 52 - 16:36

สดุดีพระมหาเถระ
ผู้มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา



พระอมราภิรักขิต (อมร เกิด)
อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส รูปที่ ๒

•สังเขปประวัติพระอมราภิรักขิต (อมร เกิด)

พระอมราอภอรักขิต (อมร เกิด) เป็นชาวบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นสุทธิวิหาริกของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔(รัชกาล ที่ ๔ เมื่อครั้งยังผนวช เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทให้) เมื่อยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศ เป็นพระศิษย์หลวงเดิมองค์หนึ่ง ในจำนวนศิษย์หลวงเดิม ๔๘ องค์ ที่ยังบวชอยู่เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๑.

ท่านศึกษาภาษาบาลีสอบไล่ได้เปรียญ ๙ ประโยค เป็นผู้แตกฉานในพระไตรปิฎกและอรรถกถา พุดภาษาบาลีได้คล่องแคล่ว และศึกษาภาษาอังกฤษจนพูดได้เจนเหมือนคนอังกฤษ แต่รูปร่างของท่านไม่สวยงาม เล่ากันมาว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยรับสั่งเปรียบท่านกับมีดว่า "ฉันมีมีดอยู่เล่ม ๑ คมดีจริง ๆ แต่รูปร่างดูไม่ได้" แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นพระปลัดของพระองค์ท่านตลอดมา ภายหลังก็ได้เป็นพระปลัดของ พระญาณรักขิต (สุข) วัดบรมนิวาสอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไปอยู่ที่วัดนั้น.

พระอมราภิรักขิต เคยเป็นสมณฑูตไปประเทศลังกา ๒ ครั้ง และไปประเทศกัมพุชา ๑ หรือ ๒ ครั้ง ได้แต่งหนังสือไว้หลายเล่มดังจะเก็บความมากล่าว




•ไปลังกาครั้งแรก

เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๓ มีพระลังกาคณะหนึ่ง ๔ รูป และสามเณร ๑ รูป พร้อมอุบาสกผู้เป็นศิษย์ ๓ คน เดินทางเข้ามาเฝ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้โปรดให้มาพักอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ถวายความอุปการะเป็นนิตยภัตองค์ละ ๓ ตำลึง พระลังกาคณะนี้อยู่ในเมืองไทยถึง ๒ ปี จึงทูลลากลับเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๕ และขอพระบรมราชานุเคราะห์ในการกลับด้วย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้จัดเรือหลวงชื่อจินดาดวงแก้วเป็นพาหนะ ทรงมอบให้พระบาทสมเด็นพระ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเลือกพระส่งออกไปสืบข่าวพระพุทธศาสนาในลังกาและแสวงหายืมคัมภิร์พระ ไตรปิฎกเป็นต้น ที่ยังไม่มีในเมืองไทยหรือที่ยังบกพร่องมาคัดลอกไว้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเลือกได้พระวัดบวรนิเวศวิหาร ๕ องค์ มี พระพุทธญาณ ๑ พระอมร ๑ พระสุภูติ ๑ พระคัมภีร์ ๑ พระพุทธวีร ๑ มีคฤหัสถ์เป็นไวยาวัจกรอีก ๕ คน อีกทั้งทรงมีสมณศาสน์ไปถึงสังฆปริณายกในลังกาด้วย.

พระ ลังกาและพระไทยได้เข้าไปถวายพระพรลา ในพระบรมมหาราชวังแล้ว พร้อมด้วยคฤหัสถ์ไปลงเรือหลวงที่นอกสันดอนออกไปเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๓๘๕ เมื่อไปถึงแล้วจึงไปนมัสการพระเถระและปูชนียสถาน ขอยืมคัมภีร์พระไตรปิฎกเป็นต้นมา ๔๐ คัมภีร์กลับมาถึงเมืองไทยในเดือน ๖ ข้างขึ้น พ.ศ. ๒๓๘๖.
ต่อไปนี้.

•ไปลังกาครั้งที่ ๒

เมื่อ เดือน ๑๒ ข้างแรม พ.ศ. ๒๓๘๖ นั้นเอง พระลังกาทวงถามคัมภีร์ที่ให้ยืมมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้จัดเรือหลวง ชื่ออุดมเดช นำคัมภีร์พระไตรปิฎกที่ยืมมานั้นไปส่งคืน ทรงมอบให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดพระไปด้วยอีก ๖ รูป คือ พระสุภูติ ๑ พระสงฺฆรกฺขิต ๑ พระปิลินฺทวจฺฉ ๑ พระพระยญฺญทตฺต ๑ พระอาสภ ๑ พระอมร ๑ กับสามเณรแก่น เปรียญ ๑ และพระสิทฺธตฺถ ซึ่งเป็นสามเณรลังกาเข้ามาบวชแล้วกลับไปอีก ๑ มีคฤหัสถ์เป็นไวยาวัจกร ๑๐ คน เมื่อคืนพระไตรปิฎกและเที่ยวไปนมัสการพระเถระและปูชนียสถานแล้ว ก็ยืมคัมภีร์พระไตรปิฎกเป็นต้นมาอีก ๓๐ คัมภีร์ ในเวลากลับ มีภิกษุสามเณรและอุบาสกโดยสารมาด้วย ๔๐ เศษ ถึงเมืองไทยในเดือน ๔ ปีนั้น.

ใน คราวนี้มีอุบาสกชาวเมืองสิงขัณฑสิริวัฒนบุรีมีจดหมายแสดงความชื่นชมยินดีมาก ราบ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความตอนหนึ่งว่า "ด้วย ข้าพเจ้าได้พบพระสงฆ์ไทยผู้มีชื่อว่า อมร ซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ ที่ไปกับพระสุภูติผู้เป็นใหญ่นั้น ๑ ข้าพเจ้ามีความชอบใจด้วยพระอมรนั้นพูดได้เหมือนอังกฤษทีเดียว ถ้าแม้พระอมรนั้นมิได้ไปกับพระสุภูติเป็นใหญ่นั้นแล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่าการงานทั้งปวงก็จะขัดขวางอยู่โดยมาก แล้วข้าพเจ้าดูพระอมรองค์นี้พูดจากล้าหาญดีเปรียบเหมือนทหารที่แกล้วกล้า"

สมเด็จ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้ทรงพระนิพนธ์พระราชประวัติรัชกาลที่ ๔ ก็กล่าวถึงพระอมราภิรักขิตไว้ตอนหนึ่งว่า "ครั้นภายหลัง เป็นครั้งที่ ๒ ทรงพระราชศรัทธาเลื่อมใสในศาสนวงศ์ที่เกาะลังกานั้น จึงมีรับสั่งให้พระอมราภิรักขิตแต่ยังเป็นพระปลัดในพระองค์ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) นั้นออกไปยังเกาะลังกาเป็นครั้งที่ ๒ กับพระสมุทมุนีด้วย คุมเครื่องบรรณาการและเครื่องราชบรรณาการเหมือนครั้งก่อนนั้น ครั้นกลับเข้ามา ได้ถือหนังสือของพระสังฆราชเถระที่เกาะลังกา รักใคร่สรรเสริญพระอมราภิรักขิต ยังเป็นพระปลัดนั้น ชาวลังกาชื่นชมชอบว่าเป็นพหูสูต ผู้ฉลาดในธรรมวินัยโดยแท้ จะหาผู้ใดที่มาสู่ประเทศลังกาเสมอท่านมิได้ คราวนั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบจึงตรัสว่า พระปลัดมีความชอบแก่ชาวลังกา ก็เป็นที่สง่าแก่พระนครสยามด้วย จึงพระราชทานรางวัลเป็นนิตยภัต ราคา ๔ ตำลึง เสมอพระราชาคณะ แล้วตรัสประภาษว่า ที่พระราชาคณะว่างเมื่อใด จะทรงตั้งเมื่อนั้น การนั้นก็เหมือนเทียบที่พระราชาคณะี" ดังน

ภาพจาก
http://www.spiceday.com/viewthread.php?tid=8364
ท่องอนุราธปุระพิชิตเขาสิคิริยาใน "ศรีลังกา" - ท่องเที่ยวทั่วไทย ไปไหนไปกัน - - :spiceday.com สไปซ์เด

 

อานิสงค์จากการจัดสร้างสิ่งพิมพ์อันเกียวกับธรรมะ
http://larndham.net/index.php?showtopic=34699&st=0&#entry647970
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มี คนคิดทำร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วจะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรงกิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรมความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ(เกินความคาดฝัน)ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุ่น มีปัญญาเลิศล้ำ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่าง เอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่ กล้า สามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ


หลวงพ่อ จรัญ ฐิตธมโม

จากคุณ : ธรรมชาติสร้าง


____________________________________
<!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--> "ส่งเสริมเขาไป เดินทางก้าวไม่หยุด ก็ถึงจุดหมายได้" ล.ป.เลี่ยม ฐิตธัมโม วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มอบให้ ณ ชมรมพุทธ ทีโอที ในมหามงคลวโรกาส ครบรอบ79-80พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ธันวาคม2549

"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
" เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"
จากคุณ : มุ่งเต็มใจ

 

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนเมษายน-มิถุนายน
ขอเชิญเพื่อนสมาชิก มาโพสต์กิจกรรมพระกรรมฐาน
http://larndham.net/index.php?showtopic=33740&st=300

http://larndham.net/index.php?showtopic=36078&st=26
หลวงปู่ท่อน ญาณธโร เมตตาแสดงธรรม ณ บ้านอารีย์
http://larndham.net/index.php?showtopic=36078&st=26

รูปแบบการแสดงธรรมขององค์ท่าน สบายๆ ครับ...







<!--emo&:61:--><!--endemo-->

ถ้าตั้งสติแล้วไม่ห่วงใคร
ใครจะเป็นใครจะตาย
ก็เรื่องของเขา
เรื่องของเรา
มีหน้าที่ภาวนา




อิริยาบท สบายๆ ที่หลายๆท่าน คงเคยเจอ ครับ..










ธรรมทั้งหลาย
มีใจไปถึงก่อน
จะทำบาป ทำบุญ
ก็ใจเป็นไปก่อน



บันทึกธรรมจากหลวงปู่ หน้าที่ 87




<!--emo&:64:--><!--endemo-->

สังขารความคิดปรุงแต่ง มันไม่ใช่เรา
แต่มันลากเราให้ติด ให้ทุกข์ ไม่รู้จักจบจักสิ้น
เพราะฉะนั้น จงอย่าเชื่อสังขาร




บันทึกธรรมจากหลวงปู่ 109




ระลึกถึงท่าน อีกชุดครับ...










อนุโมทนาทุกบุญกุศลบารมีครับ....



<!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:59:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:02:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:16:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:09:--><!--endemo--><!--emo&:07:--><!--endemo-->

____________________________________
"ส่งเสริมเขาไป เดินทางก้าวไม่หยุด ก็ถึงจุดหมายได้" ล.ป.เลี่ยม ฐิตธัมโม วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มอบให้ ณ ชมรมพุทธ ทีโอที ในมหามงคลวโรกาส ครบรอบ79-80พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ธันวาคม2549

"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
" เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"
​

จากคุณ : มุ่งเต็มใจ

 

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนเมษายน-มิถุนายน
ขอเชิญเพื่อนสมาชิก มาโพสต์กิจกรรมพระกรรมฐาน
http://larndham.net/index.php?showtopic=33740&st=300

ประธานในการจัดงาน มูลนิธินันทกิจ โดยบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด
ร่วมกับชมรมเมตตาธรรมแห่งโลก ขอเชิญตักบาตรพระกรรมฐาน 15 รูป
และร่วมฟังธรรมบรรยาย หัวข้อ ศีล สติ สมาธิ ปัญญา
และวัปสสนากรรมฐาน จากพระวิทยากร 4 ท่าน
ได้แก่ พระศรีญาณโสภณ (วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก กทม.)
พระครูเกษมธรรมทัต (วัดมเหยงค์ พระนครศรีอยุธยา)
พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก (วัดสุนันทวาราม จ.กาญจนบุรี)
หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก (วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีษะเกษ)

งานธรรมบรรยาย มีในวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2552
ณ หอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กำหนดการเริ่มตั้งแต่เวลา 6.30 – 16.30 น

โดยในช่วงเช้าตักบาตรพระกรรมฐาน 15 รูป
และฟังธรรมบรรยาย โดยพระศรีญาณโสภณและพระครูเกษมธรรมทัต
ส่วนในช่วงบ่าย ฟังธรรมบรรยายจากพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
และหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ฟรีตลอดงาน
เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงแห่งแผ่นดิน

ท่านใดที่มีข้อสงสัยติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์กิจกรรม
02-743-4000 กด 0, คุณจิระภา 089-538-7919 เวลา 9:00 - 17:00 น.
และท่านสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้ที่...

http://www.twinlotus.com/nanthakid/register.html




____________________________________
ต้นไม้ เมื่อรากไม่มีอันตรายยังมั่นคง
ถึงบุคคลตัดแล้วย่อมงอกขึ้นได้อีกทีเดียว
แม้ฉันใดทุกข์นี้ เมื่อตัณหานุสัยอันบุคคลยังขจัดไม่ได้แล้ว
ย่อมเกิดขึ้นร่ำไป แม้ฉันนั้น...
​

จากคุณ : gallery

 

เมื่อต้นเดือนกันยายน2552 ผมได้ไปร่วมบุญกุศลที่มูลนิธิหลวงปู่มั่นหรือวัดพุทธบูชา ได้ถวายทานต่างๆ ฟังธรรม เจริญภาวนาไปตามลำดับ ขณะช่วงถวายพระเครื่องหรืออธิษฐานจิตพระเครื่องอยู่หลวงปู่ครูบาอาจารย์อาวุโสท่านหนึ่ง ท่านถามว่าเป็นพระโพธิสัตว์หรือ ผมก็คิดว่าจะตอบท่านอย่างไรดีจึงจะถูกต้องครอบคลุม ก็คิดว่าเราจะตอบด้วยคำที่เราตั้งสัจจะ อธิษฐานของเราดีกว่า จำช่วงนั้นไม่ได้แน่ชัดเท่าไหร่ แต่คล้ายท่านได้ตอบว่า เป็น(พระโพธิสัตว์)ได้สำเร็จครับ

"ส่งเสริมเขาไป เดินทางก้าวไม่หยุด ก็ถึงจุดหมายได้" ล.ป.เลี่ยม ฐิตธัมโม วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มอบให้ ณ ชมรมพุทธ ทีโอที ในมหามงคลวโรกาส ครบรอบ79-80พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ธันวาคม2549

"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
" เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"
มุ่งเต็มใจ

 

อีกนัยหนึ่ง แสดงว่า ทานของสัตบุรุษ มี ๕ อย่าง คือให้ทานโดยศรัทธา ๑ ให้ทานโดยเคารพ ๑ ให้ทานตามกาลอันควร ๑ เป็นผู้มีจิตคิดอนุเคราะห์ให้ทาน ๑ ให้ทานโดยไม่กระทบตนและผู้อื่น ๑ ถ้าตรงข้ามกับ ๕ ข้อนี้ก็ชื่อว่าเป็นทานของอสัตบุรุษ


ทานของสัตบุรุษนัยที่ ๑

๑. ให้ทานโดยเคารพ คือให้โดยความเต็มใจ ไม่ได้ให้ด้วยความเกรงกลัวหรือจำใจให้ เวลาให้ก็ให้ด้วยกิริยาที่นอบน้อมยิ้มแย้มแจ่มใส

๒. ให้ทานโดยยำเกรง คือเคารพในทานของตนและเคารพในผู้รับ การ เลือกให้แต่ของดี ของมีประโยชน์ ของสะอาดมีรสดี เป็นต้น ชื่อว่าเคารพทานของตน อีกประการหนึ่งผู้ที่ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ผู้ที่ให้ของที่เลิศ ย่อมได้ของที่เลิศ ผู้ที่ให้ของที่ดี ย่อมได้ของดี ผู้ที่ให้ของที่ประเสริฐย่อมเข้าถึงสถานที่ประเสริฐ นรชนใดให้ของที่เลิศ ให้ของที่ดี ให้ของที่ประเสริฐ นรชนนั้นจะบังเกิดในที่ใดๆ ย่อมมีอายุยืน มียศ นี้เป็นพระดำรัสของพระพุทธเจ้า

การ เลือกผู้รับที่สมควรแก่ของ และเลือกผู้รับที่เป็นผู้มีศีล มีคุณธรรม ชื่อว่า เคารพในผู้รับ ข้อนี้มิได้หมายความว่าถ้าผู้รับเป็นสัตว์ดิรัจฉาน หรือเป็นผู้ไม่มีศีลแล้ว ไม่ต้องให้ ควรให้ทั้งสิ้น แต่ของที่ดี ของที่ประณีต ของที่สะอาด มีรสเลิศ ย่อมสมควรแก่ผู้รับที่เลิศ คือผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรม ผู้มีศีลยิ่งกว่าผู้อื่น ยิ่งให้แก่ผู้มีศีลจำนวนมากเป็นประโยชน์สุขแก่ผู้มีศีลจำนวนมาก ที่เรียกว่า สังฆทาน ยิ่งมีผลมากจนประมาณไม่ได้ว่าเท่านั้นเท่านี้ชาติ

๓. ให้ด้วยมือของตน ข้อ นี้หมายความว่า เวลานี้เราเป็นมนุษย์ มีมือ มีเท้า มีอวัยวะครบบริบูรณ์ เราจึงควรทำทานนั้นด้วยมือตนเอง ไม่ควรใช้ผู้อื่นทำแทนอยู่เสมอๆ ถ้าจะใช้ก็ควรใช้เป็นบางครั้งบางคราวในเวลาจำเป็น นอกจากนั้นแล้วควรทำทานด้วยมือของตนเอง เพราะนอกจากจะทำให้เกิดเจตนาที่เป็นบุญในขณะที่กำลังให้แล้ว ในวัฏฏะอันยาวนานนี้ เราไม่อาจทราบได้ว่าเราจะเกิดเป็นคนมือขาดเท้าขาดเมื่อใด ถ้าเราเกิดเป็นคนมือขาดแล้ว แม้ของมีอยู่และเราอยากให้ทานด้วยมือของเราเอง เราจะให้ได้อย่างไร นอกจากจะอาศัยผู้อื่นทำแทนเท่านั้น

๔. ให้โดยไม่ทิ้งขว้าง ข้อนี้หมายถึงไม่ทิ้งขว้างการให้ คือให้อยู่โดยสม่ำเสมอ ให้อยู่เป็นประจำ

๕. เห็นผลในอนาคตจึงให้ หมาย ความว่า ให้เพราะเชื่อว่า ทานมีจริง ผลของทานมีจริง ทานทำให้เกิดในสวรรค์ได้จริง แม้เกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นผู้มั่งคั่งบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน หรือเชื่อว่าทานเป็นการขัดเกลาความตระหนี่ เป็นบันไดก้าวไปสู่สวรรค์และมรรคผล นิพพานได้ สัตบุรุษท่านเชื่ออย่างนี้จึงให้ทาน

ถ้าเป็นทานของอสัตบุรุษ ก็มีนัยตรงข้ามกับที่กล่าวนี้

 

ทานของสัตบุรุษนัยที่ ๒

๑. ให้ทานโดยศรัทธา ผู้ ที่เป็นสัตบุรุษ คือคนดีทั้งหลายนั้นย่อมให้ทานเพราะเชื่อกรรม และผลของกรรมว่ามีจริงจึงให้ ครั้นให้แล้วย่อมเป็นผู้มั่งคั่งมีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีรูปงาม น่าดูน่าเลื่อมใส มีผิวพรรณงดงามในที่ๆ ทานนั้นเผล็ดผล

๒. ให้ทานโดยเคารพ คือ ให้ด้วยกิริยาที่เคารพ นอบน้อม ครั้นให้แล้วย่อมเป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีบุตร ภรรยา ทาส และคนใช้หรือคนงาน เป็นผู้เคารพเชื่อฟัง สนใจสดับรับฟังคำสั่ง ตั้งใจใคร่รู้ในที่ๆ ทานนั้นเผล็ดผล

๓. ให้ทานตามกาลอันควร ครั้น ให้แล้ว ย่อมเป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และย่อมเป็นผู้มีความต้องการที่เกิดขึ้นตามกาลบริบูรณ์ ในที่ๆ ทานนั้นเผล็ดผล คือ เป็นผู้มีทรัพย์มาตั้งแต่วัยเด็ก สามารถจะนำทรัพย์สินนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในขณะที่ยังมีกำลังวังชา แข็งแรง สติปัญญาเฉียบแหลม ไม่ใช่ได้ทรัพย์มาเมื่อหมดกำลังกายและกำลังปัญญาจะนำทรัพย์สินนั้นไปใช้ให้ เกิดประโยชน์แล้ว

กาลทาน หรือทานที่ให้ในกาลอันควรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงไว้ใน
กาลทานสูตร อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ว่ามีอยู่ ๕ อย่าง คือ

๑. อาคันตุกะทาน คือทานที่ให้แก่ผู้มาสู่ถิ่นของตน หมายความว่าผู้นั้นเป็นผู้มาใหม่ ยังไม่รู้จักสถานที่และบุคคลในถิ่นนั้น เราก็ช่วยสงเคราะห์ให้ที่พักหรือข้าวของต่างๆ เพื่อให้เขาได้รับความสะดวกสบาย แม้พระภิกษุที่จรมาจากที่อื่น ท่านยังไม่รู้จักทางที่จะไปบิณฑบาตเป็นต้น ภิกษุที่อยู่ก่อนหรืออุบาสก อุบาสิกา ก็ช่วยอนุเคราะห์ท่าน ด้วยการถวายอาหารบิณฑบาต และของใช้ที่จำเป็นแก่สมณะ ทำให้ท่านได้รับความสะดวกสบายไม่เดือดร้อน อย่างนี้จัดเป็น อาคันตุกะทาน และเป็นกาลทาน

๒. คมิกะทาน คือทานที่ให้แก่ผู้เตรียมตัวจะไป หมายความว่า ให้แก่บุคคลที่เตรียมตัวจะไปยังถิ่นอื่น สัตบุรุษย่อมสงเคราะห์คนที่จะเดินทางไปนั้น ด้วยค่าพาหนะ หรือด้วยยานพาหนะ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภคที่สมควร

๓. ทุพภิกขทาน คือ ทานที่ให้ในสมัยข้าวยากหมากแพง ผู้คนอดอยาก ได้รับความเดือดร้อน แม้ในสมัยที่น้ำท่วม ไฟไหม้ ผู้คนเดือดร้อนไร้ที่อยู่ การให้ที่พักอาศัย และข้าวของ เครื่องใช้ข้าวปลาอาหารในเวลานั้น ก็จัดเป็นกาลทาน

๔. นวสัสสะทาน การให้ข้าวใหม่แก่ผู้มีศีล

๕. นวผละทาน การให้ผลไม้ใหม่แก่ผู้มีศีล

ที่ ข้อ ๔ และข้อ ๕ จัดเป็นกาลทาน เพราะข้าวใหม่ก็ดีผลไม้ที่ออกใหม่ตามฤดูกาลก็ดี มิใช่ว่าจะมีอยู่เสมอตลอดปี มีเป็นครั้งเป็นคราวตามฤดูกาลเท่านั้น สัตบุรุษย่อมนำข้าวใหม่และผลไม้ที่เพิ่งออกใหม่ ถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงศีล แล้วจึงบริโภคเองต่อภายหลัง ท่านที่เคยมีชีวิตอยู่ในชนบทคงจะเคยพบเห็นว่า เวลาที่ข้าวออกรวงเป็นน้ำนม ชาวนาก็จะเก็บเอารวงข้าวอ่อนมาทำเป็นข้าวยาคูถวายพระ ข้าวแก่อีกนิดก็เอามาทำเป็นข้าวเม่า ข้าวสุกแล้วก็เอามาสีเป็นข้าวสารหุง ถวายพระภิกษุผู้ทรงศีลก่อน แม้ชาวสวนเมื่อผลไม้แก่จัดเขาก็จะเก็บเอามาถวายพระเสียก่อน แล้วจึงนำออกขายหรือบริโภคเอง คนที่มิใช่ชาวนาชาวสวนบางคน เมื่อเห็นข้าวใหม่หรือผลไม้ออกใหม่วางขายตามตลาด ก็ซื้อมาแบ่งถวายพระเสียก่อนแล้วจึงบริโภค นับว่าท่านเหล่านี้ ได้ทำบุญของท่านถูกกาละเทศะเป็นอย่างยิ่ง ตรงต่อคำสอนของพระบรมศาสดา ในข้อ
กาลทาน

บางแห่งท่านรวมเอาการให้ข้าวใหม่ และการให้ผลไม้ใหม่ไว้เป็นข้อเดียวกัน แล้วเพิ่ม คิลานทาน คือ การให้ทานแก่คนเจ็บไข้ไร้ที่พึ่ง ด้วยยา และอาหารเป็นต้น ซึ่งคิลานทาน นี้ก็สมควรจะเป็นกาลทานได้เช่นกัน
เพราะเหตุที่กาลทาน เป็นทานที่ให้ในเวลาจำกัดทำไม่ได้โดยสม่ำเสมอ พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่าเป็นทานที่มีผลมาก ยิ่งให้ในผู้มีศีลผู้ประพฤติตรงยิ่งมีผลมาก แม้บุคคลผู้อนุโทนาต่อทานของผู้นั้น หรือช่วยเหลือให้ทานของผู้นั้นสำเร็จผล ก็ได้รับผล ทั้งบุญของผู้ให้ก็ไม่บกพร่อง เพราะฉะนั้นบุคคลจึงควรยินดีในการให้ทาน ทานที่บุคคลให้แล้วย่อมมีผลมาก ทั้งยังติดตามไปเป็นที่พึ่งแก่เขาในโลกหน้าด้วย

๔. มีจิตคิดอนุเคราะห์จึงให้ หมาย ความว่า สัตบุรุษนั้นเมื่อเห็นผู้ใดได้รับความลำบาก ขาดแคลนสิ่งใด ก็มีจิตคิดช่วยเหลือคนเหล่านั้นด้วยความเต็มใจ โดยไม่หวังผลตอบแทนโดยไม่คิดว่าเมื่อเราช่วยเหลือเขาแล้ว เขาจะต้องตอบแทนคุณของเรา แต่ช่วยเหลือเพราะต้องการให้คนเหล่านั้นได้รับความสุขสบาย ครั้นให้แล้วย่อมเป็นผู้มั่งคั่ง มีโภคะมาก และเป็นผู้มีจิตน้อมไปเพื่อบริโภคกามคุณ ๕ ที่สูงๆที่ประณีต ที่เป็นของดียิ่งๆ ขึ้นไปในที่ที่ทานนั้นเผล็ดผล

๕. ให้ทานโดยไม่กระทบตนและผู้อื่น หมาย ความว่าไม่กระทบคุณงามความดีของตน และไม่กระทบคุณงามความดีของผู้อื่น บางคนเคยทำทานด้วยทรัพย์สินและเงินทองครั้งละมากๆ แต่บางคนก็ทำเพียงครั้งละเล็กๆ น้อยๆ ตามฐานะของตน คนที่ทำมากบางคนทำแล้วก็ชอบข่มคนอื่น ชอบกล่าววาจาดูถูกผู้อื่นที่ทำน้อยกว่า เป็นการยกตนข่มท่านอย่างนี้ชื่อว่าทำให้คุณงามความดีของตนลดน้อยลง

เพราะอะไร

เพราะ เราอุตส่าห์ละความตระหนี่ นำทรัพย์สินเงินทองออกทำบุญให้ทาน แต่แล้วเราก็กลับทำลายความดีของเราเองด้วยการเพิ่มกิเลส คือดูถูก ดูหมิ่นผู้อื่น ทั้งผู้ที่ทำบุญให้ทานน้อยนั้นเกิดได้ยินคำพูดอันไม่เพราะหูนั้นเข้า ถ้าเขาขาดโยนิโสมนสิการ จิตใจที่เป็นกุศลของเขาก็ดับวูบลง แล้วอกุศลคือความโทมนัสเสียใจก็จะเกิดขึ้นแทน อย่างนี้ชื่อว่าทำลาย คุณงามความดีของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเสื่อมจากคุณความดี คือกุศลที่มีอยู่ หรือบางคนเป็นผู้รักษาศีล ๕ โดยเคร่งครัดแต่ได้ให้สุรายาเมาเป็นทานแก่ผู้อื่นไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆ ก็ตามทำให้ผู้รับมึนเมา ขาดสติ สามารถจะกระทำบาปอกุศลต่างๆ มีการฆ่าสัตว์เป็นตนได้ อย่างนี้ก็เป็นการให้ที่กระทบความดีของตนและผู้อื่นเช่นกัน เพราะเราเป็นผู้มีศีลอยู่แล้ว แทนที่จะชักชวนคนอื่นให้เขามีศีลอย่างเรา กลับทำให้เขาเสื่อมเสียจากศีล ทานอย่างนี้สัตบุรุษท่านไม่กระทำ สัตบุรุษครั้นให้ทานโดยไม่กระทบตนและผู้อื่นแล้ว ย่อมเป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และโภคทรัพย์นั้น ย่อมไม่เป็นอันตรายจากไฟ จากน้ำ จากพระราชา จากทายาทหรือจากคนที่ไม่เป็นที่รักในที่ๆ ทานนั้นให้ผล

ที่มา:

http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html

 

ขอเชิญร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดถ้ำประทุน อ บางละมุง จ ชลบุรี ครับ

สร้างพระมหาเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดถ้ำประทุน อ บางละมุง จ ชลบุรี

ชอบใจมากในกระทู้ตรงที่ หนึ่งในอานิสงส์ของการสร้างพระเจดีย์ คือ ภยันตรายไม่แผ้วพาน <!--emo&:15:--><!--endemo-->

____________________________________
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ เมตตา อธิษฐาน อุเบกขา


​

จากคุณ : oreo1234

 

• ประชาสัมพันธ์งานบุญ เทศน์มหาชาติมหาเวสสันดรชาดก •



สวัสดีค่ะสมาชิกลานธรรม
ขออนุญาตใช้พื้นที่เวปร่วมประชาสัมพันธ์งานบุญ ร่วมเป็นเจ้าภาพเทศน์มหาชาติ
มหาเวสสันดรชาดก ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

ดังรายละเอียดต่อไปนี้ค่ะ

กำหนดการเทศน์มหาชาติมหาเวสสันดรชาดก
ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ถนนพระรามที่ ๕ เขตดุสิต
กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐

วันเสาร์ที่ ๒๘ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑
เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๑.๐๐ น. เทศน์คาถาพัน มี ๑,๐๐๐ คาถา
เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. นิมนต์พระฉันภัตตาหารเพล
เวลา ๑๒.๐๐ น. เชิญรับประทานอาหาร
เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๓.๔๐ น. เทศน์กัณฑ์ทศพร พระพุทธวรญาณ มี ๑๙ คาถา
เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๕.๓๐ น. เทศน์กัณฑ์หิมพานต์ มี ๑๓๔ คาถา
เวลา ๑๕.๕๐ – ๑๗.๐๐ น. เทศน์ทานกัณฑ์ มี ๒๐๙ คาถา
เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๘.๐๐ น. เทศน์กัณฑ์วนปเวศน์ มี ๕๗ คาถา
เวลา ๑๘.๓๐ – ๒๐.๐๐ น. เจริญพระพุทธมนต์นะวัคคะหาสะมายุธัมม์
ธรรมเป็นเครื่องเจริญอายุด้วยกำลังนพเคราะห์

วันอาทิตย์ที่ ๒๙ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑
เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๙.๓๐ น. เทศน์กัณฑ์ชูชก มี ๗๙ คาถา
เวลา ๐๙.๐๐ – ๐๙.๔๕ น. เทศน์กัณฑ์จุลพน มี ๓๕ คาถา
เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๑.๐๐ น. เทศน์กัณฑ์มหาพน มี ๘๐ คาถา
เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. นิมนต์พระฉันภัตตาหารเพล
เวลา ๑๒.๐๐ น. เชิญรับประทานอาหาร
เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๓๐ น. เทศน์กัณฑ์กุมาร มี ๑๐๑ คาถา
เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. เทศน์กัณฑ์มัทรี มี ๙๐ คาถา
เวลา ๑๕.๐๐ – ๑๕.๓๐ น. เทศน์กัณฑ์สักกบรรพ มี ๔๓ คาถา
เวลา ๑๕.๔๐ – ๑๖.๓๐ น. เทศน์กัณฑ์มหาราช มี ๖๙ คาถา
เวลา ๑๖.๔๐ – ๑๗.๒๐ น. เทศน์กัณฑ์ฉกษัตริย์ มี ๓๖ คาถา
เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๘.๓๐ น. เทศน์กัณฑ์นครกัณฑ์ มี ๔๘ คาถา
เวลา ๑๙.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. เจริญพระพุทธมนต์นะวัคคะหาสะมายุธัมม์
ธรรมเป็นเครื่องเจริญอายุด้วยกำลังนพเคราะห์


ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
มูลนิธิเบญจมบพิตร โทรศัพท์ ๐๒ – ๒๘๒ – ๙๓๑๑ , ๐๘๑ – ๙๑๔ –๕๙๗๘
โทรสาร ๐๒ – ๒๘๐ – ๐๖๓๔
ฝ่ายเผยแผ่และประชาสัมพันธ์ (ฝผป.) โทรศัพท์ ๐๒ – ๒๘๒ – ๓๒๘๖ ,
๐๘๙ – ๙๖๓ – ๘๗๔๕ , ๐๒ – ๒๘๒ –๓๓๔๙ , ๐๘๖ – ๕๕๕ – ๗๘๓๘
สมาคมเบญจมบพิตร (สบบ.) โทรศัพท์ ๐๒ – ๒๘๒ – ๖๐๑๐ , ๐๘๖ – ๐๐๓ – ๒๒๑๐ ,
๐๘๑ – ๒๕๗ – ๔๓๓๑
หรือบริจาคโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี งานเทศน์มหาชาติฯ
ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงาน ก.พ. บัญชี เลขที่ ๒๐๑ – ๐ – ๕๕๐๔๓ – ๘
จาก นั้นส่งสำเนาสลิปการโอนเงิน พร้อมรายละเอียดที่อยู่ของท่านไปที่ มูลนิธิเบญจมบพิตร เลขที่ ๖๙ วิหารสมเด็จ ถนนพระรามที่ ๕ แขวง / เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐
เพื่อจะได้อนุโมทนาบัตรและประกาศเกียรติคุณให้ถูกต้องมอบให้ท่านเป็นจาคานุสสติสืบต่อไป



http://larndham.net/index.php?showtopic=36313 <!--emo&:115:--><!--endemo--> <!--emo&:103:--><!--endemo-->

 

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีมหากุศล
สร้างพระมหาธาตุเจดีย์
http://larndham.net/index.php?showtopic=35884&st=0

หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม
วัดกัลยาณธัมโม ( วัดโชคไพศาล ) บ. หนองนาหาร ,สมสนุก ต.นาซอ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
วันเสาร์ ที่ 10 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 08.30 น.

*********************************************************************
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญทอดกฐินมหากุศลในครั้งนี้ได้โดย

1. ถวายหลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม โดยตรงที่วัดและระบุในใบปวารณาบัตรว่า “ สร้างเจดีย์ ”
2. ธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.วานรนิวาส 47120
3. เช็คขีดคร่อม ( A/C Payee Only )
ในนามหลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม

4. โอนเงินผ่านธนาคาร
ชื่อบัญชี : พระอาจารย์แตงอ่อน กัลยาณธัมโม
ธนาคาร : กรุงศรีอยุธยา สาขา : วานรนิวาส
ประเภท : ออมทรัพย์
หมายเลขบัญชี : 181- 1 – 35549 -1

5. สำหรับท่านใดต้องการ “ ใบอนุโมทนาบัตร ” กรุณาส่งสำเนาหลักฐานการทำบุญพร้อมทั้งชื่อ- สกุล ที่อยู่
เบอร์โทรศัพท์ อย่างชัดเจน มาตามที่อยู่วัดกัลยาณธัมโม
( วัดโชคไพศาล )
6. ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
1. คุณปรีชา บุตรศรี โทร. 081-4881587
2 . คุณชื่นจิตร ธนาฤกษ์มงคล โทร. 081-2856834
ขอ อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ได้ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวจงประสบแต่ความสุขความเจริญ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปณิธานธนสารสมบัติตลอดกาลนานเทอญ.


หลวงปู่แตงอ่อน กัลยาณธัมโม ภาพเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ.2552


อนุโมทนาครับ

ผม เพิ่งได้มีโอกาสมาเล่นอินเตอร์เน็ต หลังจากได้ไปร่วมงานถวายผ้าป่าสร้างอาคารเรียน เมื่อ 8 ส.ค.52 ที่ผ่านมา รวมทั้งงานวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ฯ เมื่อ 13 ส.ค.52 ด้วย

ไม่รวมถึงวัดอื่นๆ ที่ได้ไปร่วมบุญด้วย เช่น

วัดป่าบ้านตาด ร่วมงาน 96 ปี หลวงปู่ ดังบรรยากาศที่คุณวีระวงศ์ และคุณนิลุบล ได้ลงไปแล้ว

วัดหลวงปู่อ่อนสา ได้กราบสังขารท่าน และนมัสการหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณที่ท่านมาคารวะ เช่นเดียวกัน

มูลนิธิหลวงปู่มั่น ดูรองเท้าหลวงปู่ เป็นหนังสี่ชั้น ดังเคยได้ยินมา

วัด หลวงปู่บุญหนาที่ไม่ค่อยมีปัจจัยถวาย น้อมกายวาจาใจกราบท่าน และหนังสือหยดน้ำบนใบบัวที่ได้มาจากวัดป่าบ้านตาด แต่แผ่นดินไหว หลวงปู่บอกว่าเทวดาพอใจเหมือนครั้ง นายทาสีได้ถวายเข็มในงานกฐินในครั้งพุทธกาล ผมได้ยินเหมือนเสียงฟ้าร้องดังจนแผ่นดินสะเทือน แต่หลวงปู่บอกว่าในครั้งพุทธกาลก็แบบนี้ล่ะ ไม่ได้ไหวถล่มทลายแบบที่ญี่ปุ่น หลวงปู่เล่าประวัติที่ท่านเป็นเณรอยู่กับหลวงปู่อ่อน เมื่อครั้งที่หลวงปู่มั่นอยู่วัดหนองผือ อาจเป็นเพราะหลวงปู่กล่าวถึงหลวงปู่มั่นก็เป็นได้ เทวดาจึงมาก

วัด หลวงพ่อสมภพ ท่านไม่สบาย ต้องนั่งรถเข็น ได้ฟังเทศน์ท่านตอนหลัง โอ้โห เสียดายไม่ได้ฟังจากองค์ท่านโดยตรง แต่ท่านก็พอพูดได้ ให้พรเจาะจงไปทีละคนๆ เลยทีเดียว

วัดหลวงพ่อเลื่อน มีปาฏิหาริย์ มีคณะที่ไปด้วยท่านค่อยข้างเป็นเศรษฐี แค่เปรยๆบอกว่าที่วัดนี้เหลือที่ท่านจะสร้างพระแค่องค์เดียว แต่ไม่มีใครกล้าเป็นเจ้าภาพ เพราะท่านอยากสร้างพระหิน องค์ใหญ่ ค่าใช้จ่ายประมาณ 2 ล้าน ลิ้นยังไม่ทันเข้าปาก ท่านเศรษฐีบอกว่า "ผมรับเป็นเจ้าภาพเอง" อึ้งจริงๆ หลวงพ่อทันใจที่สุด จะเรียกว่าก่อนถึงใจก็ยังได้

ได้ไปกราบที่ วัดหลวงปู่อุ่นหล้า ท่านเมตตามาก กระต่ายที่วัดก็เยอะมาก

วัดดอยธรรมเจดีย์และได้ไปกราบหลวงปู่แบนที่สวนป่าแถว อ.ดงหลวง

วัด ป่าทรัพย์ทวี ของหลวงพ่อกัณหา ได้ทำบุญ แต่ตอนเราอธิษฐานอะไรเสร็จเงยหน้ามา หลวงพ่อมองอย่างตั้งใจ และค่อยๆ พยักหน้าขึ้นลงๆ จนเราเกรงท่านเพิ่มเข้าไปใหญ่ และได้ไปส่องกระทิงป่าด้วย

วัดของหลวงพ่อญาณะ ที่เขาใหญ่ ได้กราบท่านพระอาจารย์และได้ กราบหลวงปู่สุภา อายุ 115 ปี ได้พบท่านอาจารย์..... ที่ท่านนั่งรถเข็นและท่านชอบพูดว่าผมลาออก ด้วย


แต่ ด้วยทริปยาวมาก ผมเองก็มีข้อจำกัด จึงขออนุญาต ลงรูปงานเฉพาะวัดป่ากัลยาณธัมโม ซึ่งขออนุญาตลงในกระทู้นี้ เพราะตั้งกระทู้เองต้องรออีก 1 วัน คงได้แต่หัวข้อแน่ๆ ส่วนงานวัดป่าบ้านตาดนั้น มีหลายท่านได้ลงบรรยากาศไปแล้ว



งาน วันที่ 8 ส.ค.52 ผ้าป่าสมทบทุนก่อสร้างอาคารเรียน ประธาน คือ ท่าน อ.พรหมณฐ มาไม่ได้ ได้มอบให้รองประธานคือ คุณอนุรักษ์และคุณจันทร์ทิพย์ รวมทั้งคุณบาส และท่านอื่นๆ มาร่วมงานกัน ได้ยอดปัจจัย ประมาณ 1ล้าน 4 แสนกว่าๆ



ไปถึงตอนเช้า ได้โอกาส ใส่บาตรหลวงปู่ท่ามกลางสายฝนครับ



ระหว่าง เข้าวัด เห็นรถหลวงปู่ไม่มีกระจก ต้องใช้ร่มบัง แต่ก็ดูทุลักทุเล ตอนหลังน้องสาวได้เล่าให้พี่อนุรักษ์ฟัง พี่เขาจึงรับเป็นเจ้าภาพกระจกนิรภัย ติดหน้ารถกอล์ฟถวายหลวงปู่ สาธุครับ



ช่วยกันติดต้นผ้าป่าฯ



ของแจกสำหรับนักเรียน ทั้งชุดเรียน หนังสือ สมุด ดินสอ ฯลฯ



เจ้าภาพกล่าวคำถวายผ้าป่า



บรรยากาศ การถวายผ้าป่า



หลวงปู่ให้พร



ถวายบริวารผ้าป่า

ว้า photobucket.com ผมมีปัญหา ไม่ได้เข้านาน หาเปิดหน้าที่ 2 และหน้าต่อๆ ไปไม่ได้ ท่านใดทราบแจ้งด้วยนะครับ ไม่รู้จะเข้าไปเอารูปอย่างไร



____________________________________
"ส่งเสริมเขาไป เดินทางก้าวไม่หยุด ก็ถึงจุดหมายได้" ล.ป.เลี่ยม ฐิตธัมโม วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มอบให้ ณ ชมรมพุทธ ทีโอที ในมหามงคลวโรกาส ครบรอบ79-80พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ธันวาคม2549

"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
" เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"
​

จากคุณ : มุ่งเต็มใจ