ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Pleased, 30 พฤษภาคม 2009.

  1. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    รับทราบครับ ไว้ในโอกาสต่อไปนะครับ
     
  2. deviroth

    deviroth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    924
    ค่าพลัง:
    +2,692
    เพื่อนผมลำดับที่ 14 ติดเรียนครับ ขอสละสิทธิ์ 1 ที่ ขออภัยมา ณ ที่นี้
     
  3. Jexxy

    Jexxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +437
    วันเสาร์ ต้อง พาลูก ไป หา หมอ นัดตรวจซ้ำค่ะ (เพิ่งออกจากโรงพยาบาล)
    -*- ไม่อยากเลื่อน รอบ แต่ขอ เข้า สาย นะค๊ะ

    อาจจะ เกือบ 11โมง หรือ เกือบ เที่ยง -*-
     
  4. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    รับทราบครับ ไว้โอกาสหน้า
     
  5. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    รับทราบครับ ยินดีครับ
     
  6. หนุ่ม01

    หนุ่ม01 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +39
    เหมือนเดิมครับพี่ คาดว่าถึงบ้านพี่ไม่เกิน8.30ครับ
     
  7. sakichan02

    sakichan02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +328
    ผู้บำเพ็ญธรรมต้องหนักแน่นมั่นคง

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="93%" border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR><TD>ฟ้าให้กำเนิดสรรพสิ่ง แผ่นดินรองรับสรรรพสิ่งฟ้าดินจึงมีบุญคุณต่อสรรพสิ่งยิ่งนัก ในบรรดาสรรพสิ่งนั้น มีเพียงมนุษย์ประเสริฐที่สุดจิตวิญญาณเดิมของมนุษย์นั้นดีงาม แต่เพราะรากฐานแห่งความดีงามนั้นไม่มั่นคง จึงง่ายต่อการแปดเปื้อนกับสิ่งชั่วร้าย จนจิตวิญญาณเดิมเสื่อมไป ไม่รู้จักบำเพ็ญธรรมขัดเกลาตน เอาแต่หลงใหลมัวเมาอยู่กับสิ่งมายาทางโลก
    โลกนี้จึงมีทั้งคนดีและคนชั่วปะปนกัน เพราะความชั่วนั้นหัดง่ายความดีนั้นฝึกยาก ทำให้สังคมโลกทุกวันนี้คุณธรรมเสื่อมถอย มีแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นด้วยความโลภเกิดการรบราฆ่าฟันไม่หยุดหย่อนบาปกรรมใหญ่หลวงบรรยากาศแห่งความชั่วร้ายพวยพุ่งสู่เบื้องบนจนเป็นที่มาแห่งเภทภัยมหันตภัยต่างๆ นานา สวรรค์เบื้องบนทรงเมตตาปรานี ไม่อาจทนดูชาวโลกก่อกรรมสร้างเวร จนเกิดเป็นมหันตภัย จึงบัญชาให้เหล่าเทพ พุทธะ สู่เมืองมนุษย์โปรดผู้คน ตักเตือนชี้แนะโน้มนำให้ชาวโลกละชั่วทำดี สร้างกุศลโดยไม่เผยชื่อตนหรือพิมพ์หนังสือธรรมะโปรดสัตว์ หรือ บรรยายธรรมชี้แนะให้ผู้คนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือตั้งโรงธรรมเผยแผ่ธรรมะ ผลิตหนังสือธรรมะโปรดคนอย่างกว้างขวาง เหล่านี้ล้วนเป็นการสร้างมหากุศลผู้มีคุณธรรมในจิตสันดาน จึงจะสามารถเข้าใจบำเพ็ญธรรมและประพฤติ
    อนุตตรธรรมจุติสู่โลกมนุษย์เพื่อโปรดผู้คน ขณะเดียวกันเหล่ามารก็จุติตามมาด้วย เพื่อขัดขวางผู้มุ่งทางธรรมดังคำกล่าวที่ว่า “หยกไม่ผ่านเจียระไน ไม่ควรเป็นหยกงาม”การปฏิบัติธรรมของมนุษย์ ถ้าไม่ได้ผ่านการทดสอบจากมารมรรคผลก็ยากที่จะบรรลุธรรมสูงเท่าไร มาร(อุปสรรค) ก็ยิ่งสูงเท่านั้น ผู้ปฏิบัติธรรมมักจะต้องผจญมารเสมอเหล่ามารมักจะหากลวิธีการต่างๆ เพื่อขัดขวางการปฏิบัติธรรม
    ถ้าหากผู้ใฝ่หาธรรมไม่มีความตั้งใจแน่วแน่มั่นคงแล้วก็ไม่อาจผ่านการทดสอบจากเหล่ามาร (ท้อใจ) ดังนั้น ผู้ที่ตั้งใจเดินเส้นทางบำเพ็ญธรรมจักต้องหนักแน่นมั่นคง มีความวิริยะอุตสาหะ ทนต่อการนินทาว่าร้ายทั้งปวง จึงจะสามารถประสบความสำเร็จ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=right>พระมารดา
    วันที่ 21 กรกฎาคม 2522 เวลา 20.00 น.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=243 border=0><TBODY><TR><TD width=243>เตือนพระบุตร เร่งรุดเคาะ ระฆังทอง
    อนาทร คิดถึงลูก ดังไฟโหม
    ห่วงลูกหลง ไม่เชื่อคำ แม่นำโน้ม
    ลูกจับโยน จดหมายแม่ ไม่ใส่ใจ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sakichan02

    sakichan02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +328
    วิธีปฏิบัติธรรมชั้นสูง

    เต๋า (ธรรม) เป็นจิตเดิมแท้ของมนุษย์ เป็นพื้นฐานของชีวิต ซึ่งมีทั้งขุ่นมัวและผ่องใส ขุ่นมัวเป็นที่มาของผ่องใสยิ่งขุ่นมัวมากก็ยิ่งทำให้ความผ่องใสปรากฏเด่นขึ้น ผู้มีจิตผ่องใส ย่อมจะมักน้อย จิตขุ่นมัว คือ โลภ โกรธ หลง การมีตัณหาทะยานอยากมาก จักส่งผลกระทบถึงจิต จนไม่สามารถแยกแยะดีชั่ว ซึ่งบรรลุธรรมยาก
    ดังนี้ผู้บำเพ็ญธรรมจักต้อง นิ่ง สงบ สมาธิ พิจารณาบรรลุ เมื่อนิ่งจึงเกิดความสงบ เมื่อสงบจึงเกิดสมาธิ เมื่อมีสมาธิจึงสามารถพิจารณา เมื่อพิจารณาจึงสามารถบรรลุ
    ทำจิตให้เกิดภาวะว่างเปล่า จึงจะพบความจริงที่ละเอียด จะพบปรากฏการณ์ต่างๆ อันอัศจรรย์ ถ้าหนีหลักการนี้ ย่อมเข้าไม่ถึงธรรม ขอให้ลูกๆ ทั้งหลาย จงเข้าใจหลักการนี้ แล้วพากเพียรบำเพ็ญ ย่อมบรรลุมรรคผลแน่นอน
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=right>พระมารดา(เหลาหมู่)
    21 กุมภาพันธ์ 2522
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา mindcyber.com!
     
  9. sakichan02

    sakichan02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +328
    วจีกรรม

    วจีกรรม คือกรรมที่เกิดจากปาก วจีกรรมมีทั้งเจตนาและไม่เจตนา วจีกรรมคือการพูด การพูดคือเสียงจากใจ ใจตรงก็พูดตรง ใจไม่ตรงก็พูดไม่ตรง
    การชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น เสกสรรปั้นแต่งเรื่องราวนี้คือวจีกรรมเจตนา ถ้าพูดเรื่องบกพร่องของคนอื่นโดยไม่ตั้งใจก็เป็นวจีกรรมไม่เจตนา แต่ก็เป็นวจีกรรมทั้งสิ้น
    ถ้าผู้อื่นมีความผิดพลาด จักต้องชี้ถึงส่วนดีของเขาก่อนจากนั้นจึงค่อยๆ ชี้แจงถึงส่วนบกพร่องของเขา ทำให้เขาได้สติถ้าเอาแต่พูดถึงส่วนบกพร่องของผู้อื่นอย่างสนุกปากมักทำให้คนไม่พอใจจนเกิดความแค้นเคือง ผู้พูดยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ฟังก็เชื่อว่าเป็นความจริง จากปากหนึ่งแพร่สู่อีกปากหนึ่งถ่ายทอดกันเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น ผู้ถูกนินทา แม้มีปากก็ไม่อาจโต้แย้งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม วจีกรรมของผู้พูด บาปจึงหนักหนามาก ถึงเป็นเรื่องจริง ก็ต้องปิดส่วนไม่ดีของผู้อื่น จึงจะไม่เป็นการสร้างวจีกรรม
    ผู้ที่ปากคอจัดจ้านชอบวิพากษ์วิจารณ์นินทา ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ล้วนแต่เป็นบาปแห่งวจีกรรมทั้งสิ้นแม้ว่าผู้พูดแต่เดิมเป็นคนมีบุญวาสนามาก เพราะวจีกรรมดังกล่าวจนต้องถูกตัดทอนบุญวาสนา ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คบหาสมาคมด้วย ดังนั้นจึงควรพูดแต่น้อย อย่าสร้างวจีกรรมจนถูกตัดบุญวาสนา
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=right>พระมารดา
    วันที่ 4 เมษายน 2522 เวลา 20.00 น.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=243 border=0><TBODY><TR><TD width=243>ต่อให้ลูก มีเงินทอง กองเท่าภูเขา
    ไม่ได้เอา ไปสักบาท เมื่อตักษัย
    ต่อให้ลูก สรวมแพรพรรณ งามเพียงไร
    ร้อนหนาวได้ คุ้มแดดลม พอสมควร ต่อให้เจ้า เสพอาหาร พิสดารเหลือ
    อร่อยเนื้อ ชีวิตเขา เจ้ารับบาป
    ต่อให้เจ้า เล่นสำราญ หวานกำซาบ
    เหมือนฝันลับ ชั่วเวลา ไม่ช้านาน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>wel lcome_mokey
     
  10. sakichan02

    sakichan02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +328
    โรคเข้าทางปาก ภัยออกจากปาก

    ภาษิตว่า “โรคเข้าทางปาก ภัยออกจากปาก” เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องโดยแท้ เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์ สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ระมัดระวังการกินการดื่ม ไม่จำกัดปริมาณการกิน ไม่พิถีพิถันเรื่องอนามัยความไม่สะอาดจึงง่ายต่อการติดโรค เพราะเชื้อโรคล้วนเข้าทางปาก จึงได้ว่าโรคเข้าทางปาก
    ภัยพิบัติของคน ส่วนใหญ่ มักเนื่องจากการไม่ระมัดระวังคำพูด หรือพูดว่าเสียดสีผู้อื่น หรือชอบวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น ก่อให้เกิดความเจ็บแค้นจนเป็นสื่อนำแห่งภัยพิบัติจึงได้ว่า “ภัยออกจากปาก” โดยเฉพาะพวกหญิงปากจัด ที่ปากอยู่ไม่สุข ชอบพูดนินทาช้าวบ้านอย่างสนุกปาก ซึ่งไม่เพียงแต่ตนเองจะผิดศีลทางวจีกรรม ยังทำให้ผู้อื่นต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วยบุคคลดังกล่าว จัดอยู่ในกลุ่มคนพาลที่อันตรายมาก บั้นปลายคงต้องประสบภัยพิบัติเพราะปากเป็นแน่แท้ ตายแล้วตกสู่นรกขุมตัดลิ้นเสวยทุกข์เวทนา ดังนั้นเวลาจะพูดอะไรจึงควรคิดก่อน พูดแต่น้อบไม่พูดเสียดสีนินทาผู้อื่น ไม่พูดถึงข้อเสียของผู้อื่นไม่พูดวิพากษ์วิจารณ์ผู้อาวุโสกว่า ควรเปิดเผยแต่เรื่องดีและปกปิดเรื่องไม่ดีของผู้อื่น จึงไม่ก่อวจีกรรม ไม่พูดเรื่องที่จะก่อความเจ็บแค้นแก่ผู้อื่น จึงจะไม่เกิดภัยแก่ตน ข้อเสียที่สุดของนักบำเพ็ญธรรมก็คือ การพูดโดยไม่คิดก่อน ผู้รู้ตัวว่าบกพร่องข้อนี้ ก็จงรีบปรับปรุงตัวใหม่ ขอให้เอาอย่างมนุษย์ทองคำที่ปิดผนึกปากตัวเอง จึงจะไม่ถูกตัดทอนความเจริญ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=right>พระมารดา(เหลาหมู่)
    วันที่ 7 พฤษภาคม 2522 เวลา 20.00 น.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=243 border=0><TBODY><TR><TD width=243>นักวิชาการ พูดทฤษฏี แต่ไม่ทำ
    ฝ่ายกสิกรรม ไม่ใฝ่ธรรม หวังแต่ผล
    พวกกรรมกร ทำลวกหยาบ ขาดอดทน
    ค้าฉ้อฉล เอาแต่ได้ ไม่สัตย์จริง หากบัดนี้ ไม่มีภัย ลงเก็บกวาด
    ไม่เหลือ ปราชญ์ สักคนเห็น เป็นแก่นสาร
    จึงให้เกิด น้ำลมไฟ มารอนราญ
    แปดภัย ผลาญ พร้อมทำลาย ภัยสงคราม

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sakichan02

    sakichan02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +328
    มนุษย์เกิดจากอะไร, เพื่ออะไร?

    คนเราบางคนอาจไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดมาจากอะไร ?และเพื่ออะไร ? ถ้าหากยังมีความสงสัยเช่นว่านี้อยู่ก็จะทำให้ฐานชีวิตหนักแน่นมั่นคงในทางธรรมหย่อนยานลงไป เพราะเกิดจากศรัทธาครึ่ง ๆ กลาง ๆ นั้นเอง เพราะถ้ารู้จุดมุ่งหมายและความมุ่งหวังที่แท้จริงแล้ว คงจะกระเตื้องขึ้นกว่านี้หลายเท่าตัว ทำไม ?คนเราต้องเกิด เกิดมาเพื่ออะไร ? ปัญหาเช่นนี้นอกจากเราจะมาพิจารณาด้วยเหตุและผลแล้ว ยังต้องลงมือปฏิบัติในหลักการหรือเหตุผลนั้น ๆ ด้วย ทำนองเดียวกับการใช้ปัญญาหาเหตุผลของสรรพสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย แต่เหตุผลของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์เป็นวิทยาศาสตร์อยู่ในตัวเสร็จ คือมีทั้งเหตุมีทั้งผลและพร้อมที่ท้าพิสูจน์ได้ทุกเมื่อ ทุกโอกาส เช่นการนั่งสมาธิแล้วเกิดมีญาณหยั่งรู้ เหล่าสัตว์ที่เป็นอทิสมานกาย เช่น ภูติ ผี ปีศาจหรือสัตว์นรก เป็นต้น ถ้ายังไม่ลงมือปฏิบัติให้ถูกหลักเกณฑ์ตามหลักที่ทรงวางไว้แล้วด่วนปฏิเสธว่าสิ่งดังกล่าวไม่มีไม่ได้ พระพุทธเจ้าพระองค์รู้ดีกว่าใคร ๆ ทั่วไตรโลกธาตุ จึงประมวลเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งหลายว่าเกิดจากอะไร อะไรเป็นต้นเหตุ ? แล้วจะหาหนทางดับเหตุแห่งความทุกข์เดือดร้อนมันได้อย่างไร ? นี้เป็นสิ่งที่มวลพุทธบริษัทจะต้องใคร่คิดพิจารณา
    สัตว์โลกทั้งหลายเกิดจากอำนาจของกุศลกรรมและอกุศลกรรม ตราบใดที่ยังมีกรรมทั้งสองนี้อยู่ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายก็เวียนว่านตายเกิดอยู่ตราบนั้น แต่ถ้าปฏิบัติในทางที่เป็นอกุศล คือ ความชั่วก็นับวันแต่จะเพิ่มภพเพิ่มชาติให้แก่ตนและบุคคลอื่น โดยมีความทุกข์กาย ทุกข์ใจ เป็นผลอย่างไม่มีวันสิ้นสุดแต่ถ้าประพฤติปฏิบัติในทางกุศลกรรม คือทางบุญกุศล เราก็จะเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ มีสวรรค์ พรหม นิพพาน เป็นที่ไปแต่การที่เราจะไปถึงจุดมุ่งหมายปลายทางที่สงบสุขและสูงที่สุดของอมตะธรรมได้นั้น เราจะต้องเริ่มปูหนทางตั้งแต่ การให้ทานการรักษาศีล การเจริญสมาธิภาวนา เพื่อเกิดปัญญาญาณ จนรู้แจ้งแทงตลอดในพระอริยสัจธรรมของพระพุทธเจ้า จึงจะพ้นทุกข์ได้นี้คือจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการเกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์ เพื่อทำที่สุดของความทุกข์ให้แจ้งนั้นเอง ทุกคนเกิดขึ้นมาไม่ปรารถนาความทุกข์ แต่ก็ได้รับทุกข์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ปรารถนา มันเป็นเพราะอะไร ? ความหมายที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า คือ ให้พ้นทุกข์ด้วยการปฏิบัติธรรมดังกล่าว จึงจะพ้นจากทกข์ได้ ใครจะปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติไม่สำคัญ พระพุทธองค์ไม่ได้อนาทรร้อนพระหฤทัยแต่อย่างใด ใครอยากพ้นทุกข์ก็เร่งปฏิบัติตามที่พระองค์ตรัสไว้ ส่วนการปฏิบัติเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำด้วยตนของตนเองจะให้คนอื่นทำให้ได้อย่างไร อยากจะมีความทุกข์ต่อภพต่อซาติต่อไปอีก ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ทาน ศีล สมาธิ ภาวนา ถ้าถือเป็นเรื่องไร้สาระก็อย่าไปสนใจเลย แต่เวลาได้รับทุกขเวทนาจากกรรมชั่วของตนก่อไว้ ก็อย่าไปโทษใครเขาก็แล้วกัน อย่าถือโทษโกรธเคืองเทวดาฟ้าดินที่ไหน ต้องโทษตัวของเราเองที่เลินเล่อมัวเมาประมาท ทานไม่ให้ ศีลไม่รักษา ภาวนาไม่ทำ จึงต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับโลกเช่นนี้
    สรุปแล้วคนเราไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ ล้วนเกิดมาแต่อำนาจของกรรมทั้งสิ้น จึงขอน้อมเอาจูฬกัมมวิภังคสูตรที่มีมาในพระไตรปิฎก เป็นพระสูตร ว่าด้วยการทำกรรมของสัตว์โลกและผลของกรรมที่ได้รับแต่ละอย่างเพื่อเป็นเครื่องอ้างอิงว่า คนเราทำอะไรไว้อย่างไร ก็จะได้รับอย่างนั้น และเพื่อเป็นการเน้นถึงผลบาปบุญของสัตว์ที่ทำ อันเป็นตัวแปร และเป็นปัจจัยให้สัตว์โลกต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป ถ้าเรารู้ว่าสิ่งไหนไม่ดีก็ลดสิ่งนั้น ถ้าสิ่งไหนดีก็เพิ่มสิ่งนั้น และแล้วก็จะได้ผลแห่งความดีที่เราปฏิบัติอย่างแน่นอน

    ที่มา mindcyber.com!
     
  12. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    พรุ่งนี้อย่าลืมที่นัดหมายไว้นะครับ
     
  13. Dookbuabarn

    Dookbuabarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +225
    เรียน คุณภารดรภาพ

    ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่ทำให้มีการพบปะสังสรรค์กันในระหว่างกลุ่มคนมีองค์
    ทำให้มีความเข้าใจในสิ่งที่ลังเลสงสัยอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้เป็นการเห็นด้วยตาเนื้อ
    แต่เป็นการสื่อสัมผัสที่รับรู้ได้ด้วยตนเอง

    ในสภาวะเช่นนั้น ทำให้เราได้รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ใช่ตัวเรา มีตัวรู้ที่ตามดู
    การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่หรือดับไป ในขณะนั้นซึ่งเป็นเพียงสภาวะที่ผ่านเข้ามา มิได้จีรังยั่งยืนแต่อย่างใด

    เพียงแต่ทำให้เราได้เข้าใจได้ว่า ในสภาวะความเป็นโลกทิพย์ หรือจิตวิญญาณนั้นมีอยู่จริง สภาวะจิตที่สื่อสัมผัสได้ในขณะนั้น ต้องรู้ด้วยว่า เกิดจากการปรุงแต่งหรือไม่ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่มีใครจะรู้ดีกว่าตัวเราเอง ที่เป็นผู้รู้และผู้ปฏิบัติเอง
    ทุกอย่างเป็น ปัจจัตตัง

    ขอขอบคุณทุกๆท่านทีให้การต้อนรับกันแบบอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างยิ่ง

    ถ้ามีโอกาสจะแวะไปเยี่ยมเยียนทุกๆท่านอีกครั้งนะคะ




     
  14. Dookbuabarn

    Dookbuabarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +225
    เรียน คุณภารดรภาพ

    ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่ทำให้มีการพบปะสังสรรค์กันในระหว่างกลุ่มคนมีองค์
    ทำให้มีความเข้าใจในสิ่งที่ลังเลสงสัยอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้เป็นการเห็นด้วยตาเนื้อ
    แต่เป็นการสื่อสัมผัสที่รับรู้ได้ด้วยตนเอง

    ในสภาวะเช่นนั้น ทำให้เราได้รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ใช่ตัวเรา มีตัวรู้ที่ตามดู
    การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่หรือดับไป ในขณะนั้นซึ่งเป็นเพียงสภาวะที่ผ่านเข้ามา มิได้จีรังยั่งยืนแต่อย่างใด

    เพียงแต่ทำให้เราได้เข้าใจได้ว่า ในสภาวะความเป็นโลกทิพย์ หรือจิตวิญญาณนั้นมีอยู่จริง สภาวะจิตที่สื่อสัมผัสได้ในขณะนั้น ต้องรู้ด้วยว่า เกิดจากการปรุงแต่งหรือไม่ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่มีใครจะรู้ดีกว่าตัวเราเอง ที่เป็นผู้รู้และผู้ปฏิบัติเอง
    ทุกอย่างเป็น ปัจจัตตัง

    ขอขอบคุณทุกๆท่านทีให้การต้อนรับกันแบบอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างยิ่ง

    ถ้ามีโอกาสจะแวะไปเยี่ยมเยียนทุกๆท่านอีกครั้งนะคะ




     
  15. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ ขอให้เจริญในธรรมและขอให้บารมีสูงมากยิ่งๆ ขึ้นครับ
     
  16. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
  17. Jexxy

    Jexxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +437
    เข้ามาขอบคุณ คุณภาราดรภาพ อีกครั้งค่ะ เมื่อวันงาน ยุ่งเหยิงนิดหน่อย ต้องขอ อภัยอีกครั้งนะค๊ะ -*- มีโอกาส ต้องขอไป อีก หลายๆ รอบ กลับมาเริ่มรู้สึกเข้าที่ เข้าทางบ้างแล้วค่ะ เพียงแต่ ......ท่านให้ดูเพื่อเรียนรู้เฉยๆ ยัง ไม่ให้ทำอะไรทั้งสิ้น แม้แต่นั่งสมาธิ... ท่านกำลังสอนให้รู้ว่า มีอะไรบ้าง ต้องเจออะไรบ้างค่ะ -*- กลับบ้านมา ร่างเหนื่อยมาก กินข้าวทีเดียว 4 ชาม วันนั้น ทั้งวัน ไม่ได้กินอะไร เลยค่ะ ไม่หิวด้วย ตอนไปที่งาน ก็ ท่านไม่ให้หยิบ เพราะ มีเนื้อสัตว์ น่ะค่ะ กินได้แค่ คุ๊กกี้ถุงเดียว กะ น้ำแดง T_T ...........





    มีคำถามเพิ่มค่ะ Green Tara คือ ใครเหรอค๊ะ วันนี้ จิตภาวนาแต่
    "Om Tare Tuttare Ture Svaha" -*-
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2009
  18. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ อย่างน้อยที่สุดทุกๆ ท่านที่ได้มาร่วมในวันงาน
    ต่างก็ได้รับพลังบารมีอย่างเต็มกำลัง และได้สานไมตรีจิตให้กับญาติธรรม
    รวมถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่ได้หวังผลใดๆ ตอบแทน
    แม้ว่ารุ่นนี้จะมีอาวุโสเยอะหน่อย แต่ก็น่ารักทุกๆ คน ก็หวังว่าจะได้ร่วมบุญกันอีก
    คราวหน้าถ้ามา ก็จะมอบหนังสือ ปริศนา แลมนตรา ตามรอยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอารยธรรมเขมร
    ให้เป็นที่ระลึก รวมไปถึงจะมอบให้กับพี่แอ็ดและเพื่อนพี่เขาด้วยนะครับ
    หนังสือเล่มนี้จะได้ไขปริศนาคำถามเกี่ยวกับพระแม่ตารา และ
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสายวัชรยานอย่างแจ่มแจ้งเลยที่เดียวครับ
     
  19. อคติ

    อคติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +395
    สวัสดีครับพี่ภราดร ผมปอนด์นะครับ(เพื่อนก้อง) ได้สติมาจากบ้านพี่เยอะเลย
    เสียดายมากที่ต้องกลับออกมาก่อน ยังไงจะหาโอกาสไปอีกให้ได้ครับผม
    แล้วก็ยังคงต้องขอคำแนะนำจากพี่อีกหลายๆครั้งนะครับ ขอบคุณพี่มากๆเลย
    ที่จัดงานดีๆแบบนี้ขึ้นมา
     
  20. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ยินดีครับ ใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหาชีวิต
    แต่หากขาดประสบการณ์ ถามผู้รู้ที่มีเมตตาและคุณธรรมจะดีที่สุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...