ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

และแล้วทุกอย่างก็ลงตัว เป็นอันว่าเปิดตัวกันแล้วครับท่าน สี่ยอดกุมารี โปรดอย่ากระพิบตาแล้วจะมีของดีตามมาครับ เอ้าพวกเราอย่ามัวโลเลฝึกไห้หนักภัยพิบัตีกำลังจะมาเดี๋ยวจะลอดกระชอนลงไปอยู่ข่างล่างละก็ไม่มีไครช่วยนะครับ

 

เอาบุญมาฝากครับ วันนี้ผมไปเลี้ยงเพลพระมาพระมีสี่องค์แต่ลงมาฉันท์สามองค์ และได้ถวายเงินจำนวน1000บาทเพื่อสร้างพระด้วยครับ ขอไห้บุญนี้จงถึงพวกเราทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

คุณอ้อยครับ อยากเห็นดินสีอรุณบ้างจังครับ เผื่อจะพอมีบุญได้ทำบ้าง ถ้าไม่มีดินก็เอาสีที่คุณอ้อยใช้อยู่นั้นละครับ

สายลม

 

ที่บ้านสายลม อยู่ตรงไหนครับ และมีการสอนนั่งสมาธิ วันไหน เวลาไหนบ้างครับ

 

ขอบคุณ คุณSawiiika สำรับข้อมูลดีๆครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมติดตามที่กระทู้นี้เลยครับ
http://palungjit.org/threads/กำหนดการที่บ้านสายลม.115635/page-3

 

ขอขอบพระคุณค่ะ ที่ยกให้เป็นกระทู้ชั้นครู พวกเราทุกคนในที่นี้จะได้มีกำลังใจปฏิบัติต่อไปค่ะ สาธุ

 

อยากจะบอกท่านกัลยาณมิตรทั้งหลายว่า พวกท่านทุกคนที่ไม่ได้ถูกเลือกมาทำหน้าที่เหมือนพวกเราแล้วท่านคิดว่าจะไม่ต้องทำหน้าที่นะค่ะ คิดผิดนะคะ เพราะพวกท่านทุกคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเองค่ะ ต้องเร่งปฏิบัติเพื่อไว้ช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวให้พ้นภัยนะคะ อย่ามัวหวังแต่พึ่งคนอื่นค่ะ อันนี้พระศาสดาท่านฝากบอกมาค่ะ

ท่านว่าหลังจากภัยพิบัติผ่านไป จะอยู่กันอย่างลำบากไปสักระยะนึง เพราะฉะนั้นเตรียมตัวกันให้พร้อมรับสถานะการณ์นะคะ แต่ไม่ใช่ให้แตกตื่นค่ะ คนดีย่อมตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ค่ะ เอาใจช่วยทุกท่านให้ก้าวหน้าในการปฏิบัติค่ะ

ส่วนดิฉันแล้วก็น้องๆ ก็ยังไม่ทิ้งท่านกัลยาณมิตรไปไหนนะคะ เราก็ยังคงมีหน้าที่นำธรรมะของสมเด็จท่านแล้วก็พระศาสดามาฝากเรื่อยๆค่ะ อนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะคะ

 

ทุกคนมีหน้าที่ทั้งนั้นละจ้า ช่วงภัยจะลำบากกันหน่อย แต่หลังภัย มีอะไรดีๆ รออยู่

สู้ๆ นะครับ

 

ขอชมเชยน้องอ้อยหน่อยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติและเพื่อเป็นตัวอย่างให้ท่านกัลยาณมิตรท่านอื่นรู้ไว้เพื่อจะได้ฝึกปฏิบัติกันต่อไปค่ะ

น้องอ้อยเมื่อก่อนไม่ได้มโนฯเลยนะคะ แต่พอรับได้แล้วไปได้ยังกับติดจรวด เนื่องจากของเก่าทำมาดีค่ะ พัฒนาไปได้แค่ข้ามคืนเดียว แต่ว่าน้องเขายังไม่ค่อยเข้าใจในความสามารถอันหลากหลายของมโนฯนัก

อย่างเมื่อสองวันก่อน คนแถวบ้านน้องเขาเสียชีวิตลง น้องก็มาถามว่า แล้วอย่างนี้เขาจะไปที่ไหน (คือเมื่อก่อนน้องเขายังไม่เห็น เขาก็มักจะมาถามค่ะ) ดิฉันก็เลยบอกว่าตรวจดูซิ ตรวจได้ ลองฝึกดู จากนั้นสักพักน้องเขาก็มาบอกว่า เขาต้องลงไปข้างล่างแน่ๆ มีวิธีช่วยไหม เราก็ว่าอุทิศบุญให้เขาซิ (คือวิญญานมารออยู่หน้าบ้านน้องเขา) แล้วดูว่าเป็นไง หลังจากนั้นน้องก็มาถามว่า ทำไมจากคนแก่กลายเป็นสาวไปเลย เห็นจะๆนะพออุทิศบุญให้ไปแล้วจากคนแก่กลายเป็นสาวไปเลย เราก็ว่าก็บนสวรรค์เขาไม่มีแก่ เป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมด น้องเขาเลยถึงบางอ้อ

เมื่อวานนี้มีท่านกัลยาณมิตรที่คุยกันมาพักนึง ก็ช่วยแก้ปัญหาให้เขาไปบ้างแล้ว มาบอกเล่าถึงปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ เราก็ว่าเดี๋ยวจะช่วยลองดูให้ ทีนี้เราก็เลยให้น้องอ้อยไปลองเช็คกับพระศาสดา น้องก็กลับมาบอกว่าท่านว่าอย่างนี้ๆๆแต่คิดว่ามันเป็นเรื่องในอดีต ไม่ใช่ชาตินี้ที่ทำให้เขาเกิดปัญหา ดิฉันก็เลยบอกว่า เอาละงั้นก็ฝึกย้อนดูอดีตซิ ไปดูอดีตเขามาว่าเป็นยังไง น้องอ้อยก็งงถามว่าทำยังไง ดิฉันก็ว่าก็ขึ้นไปขอบารมีพระศาสดาให้พาไปดูอดีตของคนๆนี้ น้องก็ไปนะสักพักใหญ่ก็กลับมาบอกว่า โอย...เหมือนดูหนังอินเดียยังไงยังงั้นเลย มันจริงหรือเปล่ายังงงๆอยู่เนี่ย แต่น่ากลัวมากเลย

ที่น้องอ้อยว่าน่ากลัวเพราะย้อนไปเจออดีตพิธีการฆ่าคนโดยควักหัวใจออกมาทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อบูชายัญ เลยทำให้น้องอ้อยช๊อคไป ขอไม่เล่ามากไปกว่านี้เพราะต้องรักษาสิทธิของเพื่อนกัลยาณมิตรท่านนี้

นั่นคือการฝึกให้น้องอ้อยใช้ความสามารถของมโนฯให้เป็นค่ะ ซึ่งน้องอ้อยก็ทำได้ถือว่าผ่านค่ะ พระศาสดารับรองแล้ว

ที่เอามาเล่าให้ฟังนี้ขอบอกก่อนนะคะว่า พวกเราไม่ใช่หมอดู แล้วก็ไม่ได้รับดูดวงให้ใคร แต่ก็มีบ้างที่เราเอาความสามารถไปช่วยเหลือท่านกัลยาณมิตรบางท่านได้ โดยที่ต้องเป็นไปตามความเมตตาของพระศาสดานะคะ เพราะท่านจะโปรดเฉพาะคนที่ท่านโปรดได้เท่านั้น ถ้าท่านไม่โปรดก็แสดงว่าเราทำอะไรไม่ได้ค่ะ ดังนั้นก็ขอให้ทุกท่านปฏิบัติกันเอาเองนะคะ ของอย่างนี้เป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตนค่ะ ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ทำดีค่ะ

 

อนุโมทนาครับ เวลาอยากรู้อะไร อย่าใช้กำลังตนเองนะครับ เน้นขอบารมีพระ

ให้ท่านสงเคราะห์ให้เราเห็น ป้องกันเราหลงตัวเองไปในตัว และการใช้กำลังฌาณ

ตัวเองดูมันเสื่อมได้ เพี้ยนได้เสมอครับ

 

เห็นด้วยค่ะว่า ธรรมะของพระศาสดาท่านง่ายๆเอง แต่ทำไมคนมาตีความกันซะให้ยากก็ไม่รู้ค่ะ มิน่าคนสมัยท่านถึงได้บรรลุโสดาบันกันได้ง่ายๆ

เรื่องความอยากนี่มีกันทุกคนค่ะ เมื่อก่อนแรกๆดิฉันก็อยากได้พระบรมสารีริกธาตุ พอได้มาแล้วก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ยึดติดซะแล้ว เมื่อก่อนสะสมพระเครื่องตามพ่อ ตอนนี้ก็เฉยๆไม่ห้อยพระอีกเลย เพราะมีพระรัตนตรัยอยู่ในใจตลอดเวลา เริ่มปลงไปได้ทีละอย่างๆค่ะ

 

ช่วงนี้ถูกใช้แรงงานเด็กค่ะ ^^
จริงๆแล้วเป็นการฝึกให้เราได้เรียนรู้น่ะค่ะ
นู๋รักพี่me,myselfที่สุดเล๊ยยยยยยยยยยยย กราบขอบพระคุณที่ตักงามๆเลยค่ะ ^_^

สองวันก่อน คุณยายท่านหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเสียชีวิตค่ะ ตอนกลางคืนก็นั่งคุยกับพี่me,myselfอยู่ แต่ระหว่างนั้นอ้อยก็เปิดจิตเพื่อจะคุยกับน้องฟูๆและน้องปุ้มปุ้ยเทวดา,นางฟ้าตัวน้อยๆที่อ้อยเคยอุทิศบุญให้จนกลายเป็นเทวดาและนางฟ้าแต่ก็ยังอยู่ด้วย อาจจะไปซนตามประสาเด็กน่ะค่ะ ก็เลยจะถามว่าวันนี้ไปซนที่ไหนมาบ้าง แต่พอเปิดจิตปุ๊บ เห็นคุณยายท่านนี้มานั่งอยู่หน้าร้าน น้องฟูๆกับน้องปุ้มปุ้ยยืนคุมเชิงอยู่ไม่ให้เข้ามา เทวดา นางฟ้าที่ดูแลเราอยู่ก็กั้นไม่ให้เข้ามาในร้านได้ เค้าเลยต้องนั่งพับเพียบรออยู่หน้าร้าน

อ้อยก็ถามคุณยายท่านนี้ว่ามารอนานหรือยัง เค้าตอบว่ามานั่งรอเกือบทั้งวันแต่อ้อยไม่เปิดจิตก็เลยติดต่อไม่ได้ อ้อยเลยบอกพี่me,myself พี่เลยให้อ้อยตรวจดู อ้อยก็ตรวจดูว่าคุณยายท่านนี้จะต้องไปที่ไหน ปรากฏว่าเห็นไฟแดงฉานเป็นเปลวไฟจากนรก คิดในใจว่าเห็นทีจะไม่ได้การ เลยรีบบอกพี่me,myselfว่าเค้าไม่ได้ไปดีแน่ พี่me,myselfบอกว่าให้อุทิศบุญกุศลให้เค้า อ้อยก็ตั้งใจน้อมจิตถึงพระศาสดาและสมเด็จองค์ปฐม เพื่อทำการอุทิศบุญกุศลของอ้อยไปให้คุณยายท่านนี้ ปรากฏว่า ภาพคุณยายแก่ๆที่นั่งอยู่ต่อหน้าต่อตา พลันกลายเป็นนางฟ้าส๊วย สวย รัศมีเปล่งปลั่ง อ้อยก็อ้าปากค้าง คิดในใจว่า สงสัยตรูอุทิศให้ผิดคนแน่เลยอ่า รีบแจ้นไปบอกพี่me,myselfว่า ทำไมคนแก่กลายเป็นนางฟ้าสวยๆล่ะ (เอ่อเน๊าะความโง่ของคนเรานี่ไม่มีขีดจำกัดจริงๆโดยเฉพาะกับอ้อยเนี่ย เปิ่น เอ๋อ เป๋อ นี่เป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว)พี่me,myselfก็บอกว่า ก็เค้าได้รับบุญกุศลจากอ้อยไง เค้าก็ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ แต่อ้อยไม่นึกว่าจากคนแก่ๆจะกลายเป็นนางฟ้าแสนสวยไปได้อ่า จบข่าวค่ะ

อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อวานพี่me,myselfฝึกให้อ้อยย้อนอดีตของกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ตอนแรกอ้อยก็ขึ้นไปถามพระศาสดาถึงปัญหาของพี่คนนี้ ว่าจะแก้ยังไง ถามเสร็จลงมาบอก พี่me,myselfก็ถามอ้อยต่ออีก ก็ขึ้นไปถามอีก ขึ้นๆลงๆจนอ้อยชักเวียนหัว จนท้ายที่สุดทราบว่าน่าจะเกิดจากการกระทำในอดีตของพี่คนนี้ คราวนี้พี่me,myseflให้อ้อยไปขอบารมีพระศาสดาเพื่อย้อนดูอดีตของพี่คนนี้ เอา ก็ เอา ครูว่าไง ศิษย์ปฏิบัติตามอยู่แล้วค่ะ

จากนั้นก็จะมีภาพอดีตโผล่มาให้เราเห็น เหมือนเราไปยืนดูใกล้ๆน่ะค่ะ จากนั้นก็ตามที่พี่me,myselfบอกค่ะ รายละเอียดขออนุญาตไม่ลงลึกนะคะ อ้อยเองดูไปด้วยก็ใจระทึกไปด้วย เสียดายไม่ได้พกยาดมไปด้วย เกาะขาพระศาสดาแน๊นแน่น

สุดท้ายต้องกราบขอบพระคุณพี่me,myselfอีกรอบนะคะสำหรับการฝึกประสบการณ์จริง บอกแล้วอยู่ใกล้ครูก็ดีแบบนี้นี่เอง ขอบพระคุณค่ะ อิอิ

 

ขอบพระคุณ คุณนัทมากๆนะคะ ^_^
อนุโมทนาค่ะ

 

คนแรก ปรากฏตัวแล้ว เพศหญิง อยู่ที่กรุงเทพ
คนที่สอง ปรากฏตัวตามมา เพศหญิง อยู่แคนนาดา ทิศตะวันออก
คนที่สาม ปรากฏตัวถัดมาเป็นลำดับ เพศหญิง อยู่เชียงใหม่ ทิศเหนือ
คนที่สี่ ยังไมปรากฏตัว อาจเป็นชายหรือหญิงก็ได้และน่าจะมาจากทางตะวันตก(คาดคะเน)

ตอนแรกว่าจะพิมพ์ว่าคนที่สี่น่าจะเป็นผู้หญิง แต่พระท่านคงดลใจให้พิมพ์อย่างนี้"อาจเป็นชายหรือหญิงก็ได้" ในใจก็คิดว่าสงสัยจะเป็นผู้ชายซะล่ะหว่า เป็นผู้ชายจริงๆซะด้วยสิ

หนังการ์ตูนชอบพูดว่า " พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ "

ยังไงก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับ กับกุศลอันยิ่งใหญ่นี้

 

ขออนุญาตเรียนถามคุณอ้อยสักหน่อยนะคะ
เนื่องจากคุณอ้อยเพิ่งก้าวผ่านจากเริ่มต้นมายังขั้นสูงได้ไม่นานนัก

ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้มโน ปรกติคุณอ้อยตั้งอารมณ์กับพระกรรมฐานกองไหนคะ

คือ ตอนนี้เรียนตามตรงว่าดิฉันเหมือนจะปฏิบัติมาติดอยู่
เห็นนิมิตบางท่านบางองค์ได้อยู่เหมือนกัน แต่จางๆ
อธิษฐานจิตขอบารมีท่านให้พาไป ก็ยังออกไปไหนไม่ได้
แต่ก็รู้จักตัดฟุ้งซ่าน ทรงอารมณ์อุเบกขาอยู่บ้างแล้ว
เลยเริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อดีค่ะ

แหมขอซักนิดนะ ถ้ากราบพระบาทถามสมเด็จฯและพระศาสดาในกรณีของดิฉันโดยตรง
จะเป็นการรบกวนคุณอ้อย และเบื้องบนเกินไปหรือเปล่าคะ

ขอบพระคุณอย่างสูงเลยนะคะ

 

อ่านเเล้วเอิ๊กค่ะ ฝนยังอยู่หลังพี่ๆไกลเลยค่ะ เพราะฝนกว่าจะได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ต้องผ่านด่านพระอาจารย์ก่อนค่ะ ไม่ใช่ว่าท่านจะไม่ให้ฝนขึ้นไปนะคะ เเต่จิตพระอาจารย์ท่านทราบว่าฝนขึ้นไปเพราะอะไร ถ้าฝนขึ้นไปเพราะเรื่องของคนอื่น ทันทีเลยค่ะขึ้นไปเจอพระอาจารย์ท่านดุ เนื้อหามีว่า เรื่องของตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเเล้วจะไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเค้าทำไม เอาตัวเองให้รอดก่อนดีก่อนเเล้วค่อยยุ่ง

อย่าคิดเเค่ว่าฝนจะโดนเเค่ในมโนมยิทธินะคะ เพราะฝนว่าต้องมีการคิดบัญชีรวบยอดม้วนเดียวจบที่วัดเร็วๆนี้ เเล้วจะไม่มีใครช่วยฝนได้ เพราะท่านเทศน์รวมกันเเล้วท่านจะดุเป็นรายๆไป ใครไปทำอะไรมาความผิดของตัวเองย่อมรู้ดีอยู่กับใจ คนๆนั้นก็โดนไป ของฝนคนไม่พ้นเรื่องใช้มโนมยิทธิรบกวนพระพุทธเจ้าท่าน เพราะพระอาจารย์ท่านสั่งไว้ว่าห้ามถามนู่นๆนี่ๆ เเต่ฝนใช้ไปในทางอยากรู้อยากเห็นซะมาก

เวลาฝนจะไปยุ่งไปโม้กับใครพระอาจารย์ท่านก็ตามค่ะ พระอาจารย์ฝนท่านไปหาพี่ Me, Myself กับพี่อ้อยเรียบร้อยเเล้ว ท่านไปเองเลยค่ะ ไปเเนะนำองค์ท่านเองว่าเป็นพระอาจารย์ของฝน เหวอเลยค่ะเพราะปกติพระอาจารย์ท่านจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของญาติโยม เเต่พระอาจารย์ท่านใช้ความเป็นสิทธิ์ขาดที่ได้รับจากสมเด็จองค์ปฐมเเละพ่อเเม่ฝนในการเป็นผู้ปกครองดูเเลฝนอย่างเต็มตัว

เจ้ากรรมนายเวร ผีสางทั้งหลายยังเข้าใกล้ฝนไม่ได้เลยค่ะ พระอาจารย์ท่านดักหมด ท่านคุ้มครองดูเเล สั่งสอนฝนเข้มงวดมากๆๆ เพราะถ้าท่านไม่เข้มงวดกับฝนซักองค์ ก็ไม่มีใครเอาฝนอยู่ค่ะ จิตผูกพันมาเเบบที่ฝนเคารพตามติดพระอาจารย์มานับชาติไม่ถ้วนค่ะ พระอาจารย์ท่านมีบุญคุณกับฝนมากค่ะ ถ้าไม่ได้พระอาจารย์ท่านฝนก็ไม่ได้มาเกิดบนโลกใบนี้ค่ะ สำคัญเท่าๆกับพ่อเเม่ในชาติปัจจุบันเลย

ฝนไม่มีสัญญาของการเกิดลงมาค่ะ ฝนเลยไม่สามารถช่วยเหลือใครได้มากนัก ส่วนใหญ่พระอาจารย์ท่านรับทำเเทนหมดค่ะ เอาบุญของท่านให้ เลยดูเหมือนว่าชีวิตฝนจะจืดๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฝนในเเต่ละวัน เรื่องงานที่รับมอบหมายที่ให้ฝึกกสิณ เมื่อคืนพระอาจารย์ท่านก็รับอาสาทำหน้าที่เเทนฝน เเต่ว่าสมเด็จองค์ปฐมท่านก็ต้องการให้ฝนสร้างกุศลไว้เหมือนกันจะได้กลับบ้านพร้อมพระอาจารย์ท่านได้

ดังนั้นอย่าถามเรื่องส่วนตัวกับฝนเลยค่ะ ฝนไม่สามารถตอบอะไรได้ทั้งนั้น เพราะพระอาจารย์ท่านไม่อนุญาตให้ฝนยุ่งค่ะ ฝนสัญญากับพระอาจารย์ที่วัดของท่านไว้เเล้วว่าฝนจะเป็นเด็กดี ฝนไม่อยากผิดคำสัญญาค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ

ป.ล. ฝนไม่ได้จุดเทียนเด้อค่ะ ฝนจำภาพอุคคหนิมิตของกสิณได้ค่ะ เเต่ของไฟก็ยากนิดๆค่ะ เพราในอดีตชาติฝนฝึกทั้งจากกองไฟเเละจากเทียนค่ะ สีค่อนข้างต่างกันเพราะสีของกองไฟจะเป็นส้มเข้มออกเเดงๆ เเต่สีของเปลวเทียนจะเหลืองๆ พอนั่งๆของเก่ามันเลยมาทั้งสองเเบบสลับกันไปมา ฝนเลยงงๆ ต้องไปถามสมเด็จท่านว่าจะให้ฝนเอาเเบบไหน ท่านว่าเอาเเบบเทียน เเล้วท่านก็เอาเทียนพรรษาให้ฝนดูค่ะ

 

วันนี้ฝนมีเรื่องมาโม้ต่ออีกเเล้วค่ะ เรื่องวันนี้เกี่ยวกับกิเลสมารที่มันมาเข้าเเทรกฝนได้เมื่อตอนนู้น

ฝน - หนูสงสัยเรื่องกิเลสมารค่ะ

สมเด็จองค์ปฐม - กิเลสมารมันเข้ามาเเทรกได้ในระหว่างที่คนกำลังจิตตกหรือเครียด เมื่อความเครียดเกิดขึ้น จิตเบื้องต่ำก็จะชักพาเราไปในทางที่ไม่ดี ต้องใช้สติให้มากๆอย่าให้มันจัดการเราได้

ฝน - เเล้วคราวที่เเล้วหนูผ่านได้ยังไงคะเป็นคืนเดียวเอง

สมเด็จ - เพราะพี่เจ้าเอาตัวท่านเข้ามาขวางไว้ บอกว่าถ้าจะทำอะไรเจ้าให้เอาชีวิตของท่านไปเเลกกัน

ฝน - ขนาดนั้นเชียวเหรอคะ

สมเด็จ - ท่านทำได้ มารมันกลัวพี่เจ้าเพราะท่านมองเห็น เเต่มารมันชอบเจ้าเพราะเจ้าชอบให้มันหลอกได้ตลอดเวลา คนที่ยังไม่บรรลุถึงพระอรหันต์ จิตของคนๆนั้นยังมีทั้งความดีเเละความชั่วปนๆกันไป ดังนั้นต้องใช้สติเป็นตัวหลักในการนำพาชีวิตของเราให้ก้าวต่อไปในทางที่ดี

ฝน - เเล้วถ้าเป็นคนอื่นๆถามท่านจะสอนพวกเค้าเรื่องของกิเลสมารว่ายังไงคะ

สมเด็จ - พ่อจะสอนว่าอย่าใช้ชีวิตด้วยความประมาท พยายามใช้สติวิเคราะห์ดูว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นคัดค้านต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านไหม ถ้าใช่ เราต้องทำจิตทวนกระเเสของกิเลส เช่น บางคนเบื่อที่จะทำความดี ต้องตามไปดูเหตุผลว่าเพราะอะไร เพราะเบื่อพระพุทธศาสนา เบื่อที่ว่าพระพุทธศาสนาไม่เห็นช่วยชีวิตเค้าให้ดีขึ้นได้ ทำดีไม่ให้ได้ดีตอบเเทนผลเเห่งความดีที่ทำเลย กลายเป็นเบื่อที่จะทำดีต่อไป

สมเด็จ - ต้องตามมาดูกันต่อไปว่าเพราะอะไรความดีที่ทำมายังไม่ตอบสนองเเก่คนๆนั้น สิ่งเเรกที่ต้องดูคือ ในอดีตคนๆนั้นทำกรรมชั่วมาเยอะไว้เเค่ไหนเเล้วทำดีในปัจจุบันมาเเค่ไหน ถ้ากรรมชั่วมันมากกว่ากรรมดีผลของกรรมชั่วมันก็มากระทบยาวนานกว่า ทำให้กรรมดีส่งผลออกมาช้า ถึงจะช้าเเต่ก็จะคุ้มค่าที่รอคอย เเต่ที่สุดเเล้วคนเราไม่ควรทำดีหวังผลเพราะไม่งั้นจะไม่ได้อะไรตอบเเทนจากการทำดี เพราะการทำความดีที่หวังผลตอบเเทนนั้นไม่เรียกว่าการทำดีในพระพุทธศาสนา

สมเด็จ - ดังนั้นเราจะเห็นว่ามีคนเยอะเเยะที่ทำชั่วเเต่ยังอยู่สุขสบายดี ที่เป็นเบบนั้นเพราะเค้าทำกรรมดีมายาวนาน ผลกรรมของความชั่วเลยยังไม่สนองตอบ อย่าเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนทำชั่วเเล้วได้ดีมีความสุข เพราะถ้าเราคล้อยตามเห็นผิดเป็นชอบตามเค้า จิตเบื้องต่ำก็จะพาเราไปในที่ต่ำ ทำให้กรรมชั่วสนองเราหนักขึ้น

ฝน - ค่ะ

อ่านธรรมะวันละนิด จิตเเจ่มใสค่ะ

 

ชอบที่พี่นัทพิมพ์จังเลย ตลกดี อ่านเเล้วนึกถึงการ์ตูนพวก superman ค่ะ