ใครมีร่างทรง..องค์เทพมาคุยกันหน่อย

ไม่รู้เหมือนกัน อะ

แต่ถ้าเป็นตัวเรา ที่สังเกตตัวเราเองนะ

เราพบว่า ถ้าเรา ยึดมั่นถือมั่น กับเรื่องไหนมาก แบบว่า ถึงจิตและวิญญาณ เลยนะ

เรา มักจะมี ปิติ ร้องไห้ กับเรื่องนั้น เสมอๆ ถ้าความรู้สึก เข้าถึงในเรื่องนั้นๆ

มันทำให้เรารู้ตัว ว่าเรายึดอะไร ไว้บ้าง และควรจะวางใจ อย่างไร

ยึดมั่น ถือมั่น เรื่องใด ก็ มักจะ ร้องไห้ เพื่อสิ่งนั้น

การไม่ยึด มั่น ถือ มั่น ต่อสิ่งทั้งปวงได้ คือหนทางแห่งการหลุดพ้นจากทุกข์

แต่ทำได้ยากจริงๆ นะ ยิ่งยึดมาก ก็ทุกข์มาก ไม่ยึด ก็ ไม่ทุกข์

คนส่วนใหญ่มักเลือก... เพราะ... ไม่รู้

 

ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม สวดมนต์ เจริญภาวนาสามาธิ แล้วทุกอย่างจะรู้แจ้งเห็นจริง

 

อนุโมทนากับทุกท่าน

สิ่งที่คุณพิษณุ สุริยา พูดมานั้น ตรงเลยล่ะครับ ตรงมาก ๆ ไม่ทราบว่า คุณพิษณุ สุริยา นี่อายุ? แล้วครับ ดูท่าทางหน้าจะเคยผ่านประสบการณ์ "เข้าทรง" มา ไม่ใช่น้อยเลยนะครับ 555 แต่ก็ อนุโมทนา ด้วยแหละ ที่อุตส่าห์ นำประสบการณ์มาพิมพ์ ถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน ได้รับรู้กัน และที่สำคัญ ทุกท่านที่คิดว่า ตนมีองค์ พยายาม แยกให้ออกนะครับ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของท่าน นั้น เป็น อุปาทาน ที่จิตใต้สำนึกของเราสร้างขึ้นมา หรือว่า เป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาล

อ๋อ ผมขอเสริมสักนิดนะครับ อาการที่คุณพิษณุ กล่าวมา ก่อนที่เจ้าจะประทับทรง ตามความเห็นของผม ก็คือ เทพท่านต้องการจะแกว้งให้จิต ของร่างสอดส่าย เพื่อเป็นการปรับความสมดุล ก่อนที่ท่านจะสื่อจิต ลงประทับทรง นะครับ....สาธุ

แต่อย่างไร ก็ดี อย่าให้ทุก ๆ ร่าง ระลึกไว้เสมอว่า การเป็นร่างทรง ไม่ได้สามารถไปนิพพาน ได้นะครับ เราจะไปนิพพาน จะเป็นอรหันต์ ได้ เราต้องปฏิบัติ ด้วยตัวของเราเองครับ...สาธุ

 

ร่างทรง (ไทน์คับ)

ผมได้ศึกษษาธรรมมะได้พอควรจนสามารถสื่อถึงพลังงานได้คือผมปฏิบัติธรรมที่ วัดใน จ.เชียงใหม่ อำเภอสันกำเเพง ผมปฏิบัติเกือบปีเเล้วครับ จนสามารถสื่อรู้ถึงพลังงานได้เท่าที่ผมศึกษษมาเป็ฯเรื่องสมัยพุทกาลล้วนๆ ที่นี่ปฏฺบัติเเบบพุธทกาล ผมสามารถสื่อถึงพลังงานกับ ต่างดาวได้ซึ่งตอนนี้เขาก็อยู๋กับผม เเละสื่อถึง องค์พ่อยมทูต องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ คือสื่อเเบบว่าให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ผ่านร่างสังขารจนสามารถคุยกับสิ่งศักดิ์สิดเหล่านั้นได้ ผมสื่อกับองค์พ่อยมทูตว่าการเป็น ร่างทรง ดีไหม องค์พ่อบอกว่าไคที่เป็นร่างทรงจะต้องตกนรกเเต่พลังงานทื่มาอยู่กับสังขารนั้นไม่ตกนรก ที่ผมปฏฺบัติมา ก็คล้ายกับร่างทรงเเต่ไม่ไช่ร่างซง คือให้พลังงานผ่านสังขารของผมเเล้วกลับ ภายใน5-10นาที เเต่ถ้าบารมีไม่เพียงพอก็อยู๋ต่อ เเต่ร่างทรงอยู่ต่อเเละนานด้วยการเป็นร่างทรงตอนที่ทรงผูถูกทรงจะมีภาวะที่ไม่รู้ตัว เเต่ว่าปฏิบัติอย่างผมยังมีภาวะที่รู้ตัวอยู่ เเต่สังขารบังคับไม่ได้เเต่ฝืนได้ไนบางครั้ง เเต่ร่างซงไม่รู้ตัวเลย ยำนะคับ การเป็นร่างทรง ตกนรกเเน่ เเละผิดกด สวรรค์ด้วย
ที่ผมพูดมาผิดถูกอย่างไรขออภัยหั้ยลูกด้วย ลูกไม่ขอติดกรรม ไม่ขอเอาคืน
ที่พูดมาจะเชื่อหรือม่ายเชื่อก้อเเละเเต่จะพิดจารานาเเล้วกัน ยำที่เขียนมาไม่ไช่ตัวผมเเต่เป็นสิ่งสักสิด....... ผมจะช่วยเหลือหมู๋มวลมนุดหั้ยกลับบ้านเกิดของเราที่เราจากมาคือกลับเเดนนิพพาน

 

อนุโมทนา พลังที่ท่านได้รับ เป็นพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบน มนุษย์มีเพียงดวงจิตเดียว เป็นอาตมัน ส่วนพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นปรมาตมัน เราสามารถเปรียบดวงจิตได้ดั่งตู้เอกสารที่มีหลายลิ้นชัก แต่ละลิ้นชักประกอบไปด้วย ชาติ ภพ และเจตจำนงค์ในอดีตชาติจำนวนมากมาย ซึ่งจะเป็นเหตุปัจจัยให้กับปัจจุบัน และอนาคต ที่นิยมเรียกกันว่า การข้ามภพข้ามชาติ หากเรามองพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพลังอย่างหนึ่งก็ได้ ที่เรียกกันว่า ปราณะ นที หรือ ประจุไฟฟ้าลบ สิ่งนี้เป็นพลังสถิตย์ที่มีอยู่ภายใน แต่สามารถดึงจากภายนอกมาได้จากลมหายใจ (ปราณ) ลมหายใจจะต้องมีการฝึกฝนและละเอียดเพียงพอที่จะจุดประกายพลังนี้ออกมา ระดับของความเข้มข้นที่นิยมเรียกกันว่า พลังออร่า ครับ

การสื่อสารทางจิตในลักษณะนี้ได้ ร่างจะต้องมีบุญบารมีสูง เนื่องจากเป็นชุมทางของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ใช่ร่างหรือองค์บารมีประจำกาย แต่จะเป็นสื่อสารทางจิตเท่านั้น เดี๊ยวจะหลงไปว่าตนเป็นร่างพระพุทธเจ้า ซึ่งเปนเรื่องละเอียดอ่อน ต้องระมัดระวังให้ดึ


หากสื่อสารในระดับภาคเอกภพหรือจักรวาลได้ ก็เท่ากับพระองค์ได้เปิดภาคนี้ให้คุณ นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง เพราะมีน้อยคนนักที่จะได้รู้เรื่องราวของ จักรวาลวิทยา งั้นคุณลองถามท่านดูว่า เอกภพเกิดมากได้อย่างไร สรรพสิ่งทั้งชีวิตอินทรีย์ และวัตถุอินทรีย์เกิดมาได้อย่างไร มนุษย์มาจากไหน ทำไมมนุษย์มีความหลากหลายในพันธุวิศวกรรม (DNA) มนุษย์ต่างภพ และ UFO มีความเป็นมาอย่างไร เขามีสังคมความเป็นอยู่อย่างไร

ลองหาคำตอบจากพระองค์ท่านดูแล้วกัน

อันนี้ ไม่ค่อยจะเห็นด้วย ท่านยามาเป็นผู้ครองแห่งแดนนรก บุคลิกของท่านดุดัน พร้อมเสียงหัวเราะที่ดังกังวาล เป็นที่น่าเกรงขาม พระองค์ท่านจะเป็นผู้ตัดสินความของมนุษย์ที่อยู่ในแดนนี้ โดยมีนิรบาลเป็นผู้จดบันทึกบาปบุญ

การที่อ้างว่าใครเป็นร่างทรง แล้วตกนรกนั้น อันนี้ขอแย้ง อย่าลืมคนที่ร่างทรงมีหลายลักษณะ ทั้งที่ทรงเป็นอาชีพ ทรงเฉพาะวันสำคัญทางศาสนา ทรงเฉพาะกิจช่วยเหลือเครือญาติหรือผู้ที่ผูกพันธ์กันมา คนมีองค์ใช่ว่าจะเป็นร่างทรงกันทุกคน คนที่เป็นร่างทรงนั้น เนื่องจากมีกรรมหนักที่ผูกพันธ์กับท่าน จำเป็นต้องรับใช้เพื่อสร้างบุญกุศล แล้วจะต้องตกนรกได้อย่างไร

คนทรงเจ้า หลอกมนุษย์
เจ้าเข้าทรง ช่วยเหลือมนุษย์
คนหลอกคน อับปรีย์จันไร ยิ่งกว่าคนทรงเจ้าเสียอีก

ดังนั้น คุณอย่าได้มีอคติกับร่างทรงและด่วนสรุป โดยปราศจากการศึกษาเชิงลึกเสียก่อน

ปกติเจ้าเข้าทรง ร่างมีสติแต่ไม่สามารถบังคับได้ เพราะกายธาตุไม่ได้ปรับจูนให้เข้ากับพระองค์ได้แต่แรก กล่าวง่ายๆ ท่านใช้ร่างเพื่อทำภารกิจบางอย่าง แต่หากร่างปฏิบัติไตรสิกขา พลังทิพย์จะก่อเกิดให้พลังเบื้องบนสามารถใช้กายสังขารนี้ได้อย่างแนบเนียน ไม่มีการกระชากลากถู อย่างนี้ เรียกว่า ญาณแฝง ประหนึ่งเหมือนว่าร่างคุยกับเรา แต่จริงๆ แล้วกลับไม่ใช่ร่าง แต่เป็นพระองค์ท่านต่างหาก ที่กำลังคุยกับเรา

ขอให้ท่านกลับไปทบทวนว่าผิดกฎสวรรค์ข้อไหน

ที่คุณพูดมาทั้งหมด เป็นการออกตัวตั้งแต่แรก แต่การสื่อสารของคุณยังไม่ชัดแจ้ง เพราะทิพย์จักขุญาณของคุณไม่เพียงพอต่างหาก ขอให้คุณกลับไปปฏิบัติสมาธิให้สม่ำเสมอ และเข้าฌานสมาบัติให้ได้ ความพรั่งพรู่ของอภิญญาจะมากขึ้นตามลำดับ


หากคุณคิดว่ามีญาณบารมีแก่เกล้าพอที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็จะขออนุโมทนาเต็มกำลัง ในเมื่อมีของดีอยู่แล้ว ก็จงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ สิ่งสำคัญจะอย่าคิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ แต่ขอเป็นคนพิเศษ ก็เพียงพอแล้ว ขอให้ท่านเจริญไปด้วย อายุ วรรณ สุขะ พลัง และโภคทรัพย์ เทอญฯ

 

คุณ ไทน์

ขอตอบอีกข้อหนึ่ง
"ผมจะช่วยเหลือหมู๋มวลมนุดหั้ยกลับบ้านเกิดของเราที่เราจากมาคือกลับเเดนนิพพาน"

การที่ท่านมีของดีแล้ว แต่ไม่มีมหาเมตตา มหาปัญญา และมหาอุบาย ก็อยากที่จะนำพาสรรพสัตว์ให้ถึงฝั่งหมายได้
หากยังคิดไม่ได้ ก็กลับไปคิดเป็นการบ้านแล้วกัน ว่าจะเริ่มสร้างบารมีอย่างไร
จึงจะเหมาะสมกับจริตตนและศักยภาพของตัวตนจริงๆ สักที

เก่งแต่พูดอย่างเดียวนั้นไม่ได้ มันต้องลงมือปฏิบัติด้วย จึงจะรู้แจ้งเห็นจริง
หากคิดจะทำดี ก็ต้องไม่กลัวคนเขาจะนินทรา

 

^
^
^
^
^
^
ป๋า มาหาเหยื่อ ไปงาน เน้อออออ อิอิ
สงสัยจะได้รุ่น สาม มาอีก
ฮิฮิ

 

ร้ายจริงๆ นะ เด๊ยวตั้งฉายาว่า กุมารีทอง คะนองฤทธิ์
รุ่น สาม เก็บไว้ก่อน มันยาวไป
เด๊ยวของจะไม่ขลังจ๊ะ

 

ทองราคามันไม่แน่นอน
ขอ กุมารี ใบเงิน ใบทอง ใบพัน นะก๊ะ อิอิ
;aa46;aa46

 

ตอนแรก ป๋ะป๋า มีรางวัลจะมอบให้ ตอนนี้ ชักจะเปลี่ยนใจแล้วดิ
อย่างนี้ ต้องงด ฐานเล่นของสูง

 

แว๊กกกกกกกกกกกกก หนูตัวเตี้ย พกพาสะดวก ^^"

 

ดีค่ะเราเองก็เป็นร่างทรงค่ะค่ะของเจ้าแม่ตะเคียนทองค่ะไม่ก่อนม่เชื่อเรื่องนี้ค่ะแต่พอเจอกับตัวก็เลยเชื่อ100%ว่าองค์เทพร่างทรงมีจริง

 

อ่านแล้วก็ทำให้ระลึกถึงอดีต....ที่ผ่านมา....และทำให้ย้อนถึงภาพต่างๆที่เคยเป็น...และทำให้ตนเองมีสติ..นึกคิดว่ามันผ่านมาได้อย่างไร....คนเรานั้น...เลือกเกิดไม่ได้...แต่เลือกที่จะเป็นได้....
อาชีพ...ร่างทรง...เป็นง่ายจะตายไป.....ในเมื่อคุณมีวัตถุดิบในมือ...คือญาณบารมีขององค์เทพฯ อำนาจ บารมี เงินทอง แม้กระทั่งเรื่องผู้หญิงคุณจะเอากี่คน สิ่งต่างๆรอคุณอยู่ เข้ามาซิ...วงการร่างทรงอาชีพอันหอมหวาน...และคุณรู้ไหม..ในทุกๆปี องค์เทพของคุณก็จะเรื่อยระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ...และองค์ในร่างของคุณก็จะทวีคูณความยิ่งใหญ่....และใหญ่ที่สุดเท่าที่คุณประสบพบเจอมา....นั้นก็คือ....องค์กิเลส.....

 

กิเลสเป็นตัวสำคัญมาก สำหรับผู้ที่อยู่บนทางสายนี้
หากคุณได้สื่อมาแล้ว ยังหลงระเริง กับแสงในกำมือ
มัวมักมาก กับชื่อเสียง ละเลยการปฏิบัติ
หากสัจจะธรรม ที่ว่าทุกสิ่งย่อมเสื่อมไปตามกาล
แน่นอนค่ะ แสงในมือคุณย่อมค่อยๆเหลือน้อย
หากอยากให้แสงในมือคงอยู่ ทำได้ เพียงการเติมเชื้อไฟ
นั่นคือการปฏิบัติ เจริญสมาธิ และสติ ^^
ในเมื่อมีแสงอยู่ในมือ จงใช้มัน เพื่อส่องทางให้คนที่ยังหาทางไม่เจอ
^-^

 

สัจจะธรรม ของแท้ นั้นไม่มีอะไรเลย....ขาว...ดำ..นั้นเป็นเพียงสมมุติ.......องค์เทพญาณบารมี...นั้นล้วนเป็นอาตมัน...และปรมัตตะ...องค์อาจ...เกรียงไกร...ร้อยมือ...พันกร...รูปงาม...นามเพราะ...ล้วนสาวกอุปโลกท์ขึ้น...คุณธรรมต่างหากเหล่าที่ยิ่งใหญ่...ท่านลองมองสิ่งที่อยู่ในตัวท่านซิ...มองให้นาน...มองให้มีสติ....มองให้ลึก....และพิจารณาตามด้วยหลักธรรมชาติ...ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า....แล้วท่านจะเห็น....ว่ามันไม่มีอะไรเลย...ไม่มี...และไม่มีจริงๆ

 

ผมขอให้คุณเบียร์ฯ มีสติให้มาก...ผมรู้ว่าตอนนี้พลังงานในตัวคุณเข้มข้นมาก...ดันจนจะล้นอยู่แล้ว...ใครห้ามก็ไม่ฟัง..ใครลั้งก็เอาไม่อยู่....อยากไปหาคนที่เป็นร่างทรง...อยากพูดคุยกับคนที่เป็นเหมือนกัน...พอได้คุย..มันเหมือนกับระบาย...มันเหมือนกับพบเจอเพื่อนเก่า...มันเพลิดเพลินจนบอกไม่ถูก...ความอัดอั้นตันใจ...มันหลั่งไหลออกมา...
ผิดไหมที่มีองค์? ไม่ผิดหรอก เป็นผลดีด้วยซ้ำ เราจะสามารถทำงานใหญ่ได้ และถ้าทำดี ปฎิบัติชอบเราสามารถก้าวหน้าได้เร็วและได้ดีมากกว่าคนปกติที่ไม่มีองค์
แต่ก็ไม่ใช่ทำตัวเละเทอะเปอะเปื้อนกระหิ่มยิ้มย่องว่ามีของดี....ขอโทษเวลาตกเนี้ยปางตาย.....ก็เพราะตัวเองประมาท....และหลง...เป็นตัวสำคัญ

 

คุณเคยมีอาชีพเป็นร่างทรงหรือครับ

คนเป็นร่างทรงที่ดีๆ ก็มีนะครับ ที่ไม่ยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ และโภคทรัพย์
แต่ใครบางคน อาจยึดติดความเป็นอัตตา ความยิ่งใหญ่ในอุปทาน กิเลส และอวิชชา อันนี้น่ากลัวครับ

 

จริงๆ คุณเป็นคนที่มองสภาวะธรรมได้ดี
และเข้าใจว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมขั้นสูง
อนุโมทนาครับ

 

ขอบคุณท่านภราดรภาพน่ะครับสำหรับคำถามที่น่าหวาดเสียวสำหรับผม...ก็ทำให้ผมคิดตึกตรองว่าเคยมีอาชีพเป็นร่างทรงไหม.....ขอตอบว่าไม่เพราะในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยขอ....ไม่เคยเรียกร้องเงินทอง.....ค่าพานครูยี่สิบเก้าบาทไม่มีออกให้...ไม่เคยนำเงินเหล่านี้ไปใช้ในการประทังชีวิต...หรือมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการทรงเจ้าเป็นอาชีพ....ไม่เคยคิดและไม่พึงปฎบัติ....หน้าที่หลักคือช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันให้พ้นทุกข์....แต่ลืมไปว่ามนุษย์ก็ยังเป็นปถุชนที่ยังอุดมไปด้วยกิเลส ที่นานเข้าเริ่มรับไม่ได้....ที่ว่าไม่ใช่ร่างทรงอาชีพก็เพราะ...
1.ผมยังไม่ชิน...และยังละอาย...กับคุณยายคุณตาอายุเจ็ดสิบแปดสิบ มานั่งกราบปะงกประงก....มันรับไม่ได้...เพราะผมรู้ว่าตนเองไม่ได้มีคุณธรรมอันวิเศษวิโสอะไรเลย...เป็นเพียงสะพานไม้พุๆของครูบาอาจารย์เท่านั้น
2.ความต้องการของคนมันมากขึ้น...จนน่าสะอิดสะเอียน...เพราะถ้าช่วยนี่คุณคิดว่าเป็นสัมมาทิฐิหรือเปล่า....แล้วถ้าเป็นเทพที่ทรงคุณอันบริสุทธิ์ท่านจะช่วยไหม...
3. ผมยังมีทางอยู่รอดของชีวิตด้วยอาชีพสุจริตอื่น...โดยไม่คิดเอาครูบาอาจารย์มาหากินเลี้ยงชีพ...ทั้งๆที่มีแรงเชียร์อยู่รอบด้าน...แต่ก็ไม่หวั่นแม้มันจะมามาก...
4.ทำไมผมดูเหมือนจะรู้พฤติกรรมของร่างทรงอาชีพ....ขอตอบท่านว่าอยู่ในแวดวงเนี้ยมามากกว่าสิบกว่าปีครับ...จนรู้ว่ามันไม่ได้กว้างสักเท่าไหร่หรอก แต่ขอให้เข้าใจว่าผมไม่ได้อวด...เพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้มีดีอะไรมาอวด...แต่อยากแชร์ประสบการณ์เท่านั้น....
5. ผมยอมรับ...ร่างทรงองค์เทพของจริงมี...แต่จะมีซักกี่เปอร์เซ็นต์ของร่างทรงที่มีอยู่ล่ะครับท่าน....เพราะในปัจจุบันในสภาวะของคนไร้ที่พึ่งโดนหลอกกันเยอะมากครับ...องค์เทพเราจะรู้ว่าดีหรือไม่ดีได้จากการสัมผัส...แต่คน...ขอเน้นคน...หน้าไหว้หลังหลอกนั้นเราจะรู้มั๊ย...แต่กว่าจะรู้ก็โดนไปเยอะเลย...อยากจะให้ทุกท่านเดินสายกลางเข้าไว้..น่ะครับ;hi2

 

สาธุ...สาธุ...สาธุ...ไม่มีอะไร...ไม่มีอะไรจริงๆครับท่าน
ปัจจุบันกิเลสยังท่วมหัวท่วมหูอยู่ครับท่านยังต้องฟาดฟันกับมันอยู่ตลอด
ชนะคนอื่นได้..แต่เอาชนะกิเลสในตัวเนี้ยไม่ได้ซักที......
ขออนุโมทนาในความดีของท่านภราดรภาพน่ะครับ...ได้เผยแพร่สิ่งดีๆให้กับเพื่อนมนุษย์....และเป็นครูอาจารย์ที่ประเสริฐ:d