จริตใหญ่ ทั้งสอง

ตั้งแต่ผมเข้ามาหาความรู้ใน พลังจิตดอทคอม เนี่ยมีเรื่องแปลกๆตลกๆแฮะ..(ฮา)

ผมว่านะ บางทีเราควรผ่อนคลายกันบ้าง
น่าจะจัดกิจกรรมอะไรบางอย่าง อาจจะเอาคนปฏิบัติแต่ละแนวนั่นแหละ
มามี๊ตติ้ง กันจะถก จะเสวนาธรรมก็ยังไม่ต้องทำ
อาจจะวิ่งแข่งกัน เล่นการละเล่นอะไรก็ได้ เพื่อคลายกำหนัด
น่าจะเกิดประโยชน์ไม่น้อยสำหรับผู้ปฏิบัติเอง..

 

แค่คิดตามก็ฮาแล้วนะนี่
ต่อมาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก

 

ท่าน บอยอย่าคิดว่า ถกๆกันนี่จะทะเลาะกันซิครับ ได้ความรู้ต่างหาก กระทู้สำหรับแสดงความคิดเห็น คิดอย่างไรก็ลงกันไป คนที่คิดไม่เป็นก็เย็นสะบายไป

ฝึกพุทธะ ก็เพื่อรู้จักตัวเอง ก็อาศัยกัลยาณมิตร ที่นี่แหละ ได้เห็นตัวเองมากขึ้น

 

ท่านวิษณุอย่าลืมตอบคำถามด้วยนะ ทวง ก็รู้ว่า ทวง

 

อาจานวิฯครับ เมื่อคุณได้รับความรู้มาจากท่านอาจารย์มาแล้ว
ย่อมรู้ดีว่าจริตทั้งสองมีความหมายอย่างไร
เพราะผมเองก็ยังไม่เคยฟังและก็ไม่เคยปรามาสท่านด้วยว่าสอนผิด

คุณแจกแจงแสดงให้ผมได้เข้าใจด้วยครับ
ว่า ตัณหาจริต เป็นอย่างไร ทิฏฐิจริต เป็นอย่างไร???
มันต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร???

;aa24

 

ยึ๋ย..
คิดดีก็ได้ดี คิดไม่ดีก็ได้ไม่ดีเนาะ จริงๆด้วย
แต่ผมไม่ได้มีเจตนาว่าทะเลาะกันนา..
ไปมี๊ตติ้งนี่ก็ใช่จะมาปรับความเข้าใจเื่นื่องจากความไม่ลงลอยในความคิดเห็นแต่ละท่านกันซะเมื่อไหร่กันเล่า..หุ๋ย

งั้นตามสบายจ้า..
ผมไม่ค่อยได้อ่านน่ะ เลยออกความเห็นตามไม่เป็น มันก็สบายไปอย่างไม่รู้นี้แหละ แฮ่ๆ..


เอ่อ..อ่านแล้วรู้แ้ล้วก็วางด้วยนะครับ อย่ายึดมั่นถือมั่นมันมากแค่สักแต่ว่าก็พอล่ะ..
หวังว่าคงไม่มีสภาวะจิตดั่ง กำตำราฟาดหัวกัน(ความยึดมั่นถือมั่นในทิฏฐิ) อย่างที่เป็นบ่อยๆนะครับ ..(ฮา)

 

จ้าท่านบอย

 

ผมเคยฟังผ่านๆน่ะครับ เห็นมีบางคนไปปรามาสไว้ว่าท่านสอนผิดเรื่องจริตนี่ พอดีเจอ ในพระไตรปิฏก เลย เอามาฝากให้ดูนะครับเผื่อคนที่ปรามาส จะได้รู้สำนึกบ้าง ว่าไม่รู้จริงดันไปกล่าวตู่อีก



คุณแจกแจงแสดงให้ผมได้เข้าใจด้วยครับ
ว่า ตัณหาจริต เป็นอย่างไร ทิฏฐิจริต เป็นอย่างไร???
มันต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร???

ตาม ที่ผมเข้าใจนะครับ ผมเปรียบเทียบ เหมือน เรียน สายวิทย์และสายศิลปะ

สายศิลปะ นี่จะเหมาะกับพวกชอบ จินตนาการ เพ้อฝันอ่อนไหว อ่อนโยน นุ่มนวล ช่างจรรโลงจินตนาการอย่างเลิศหรู สวยงาม เรียกได้ว่า มีตัณหาจริต

สายวิทย์ นี่จะเหมาะกับผู้ ชอบคิดค้น ทดลอง มีเหตุผล ตรงไปตรงมา ชอบคำนวน ตั้งสมมุติฐาน ค้นคว้า ด้วยความคิด หาความจริง เรียกได้ว่า มีทิฏฐิจริต

 

ผมถามคุณว่า ตัณหาจริต เป็นอย่างไร ทิฏฐิจริต เป็นอย่างไร???
มันต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร???

เพราะคุณกลัวคนปรามาส ว่า ๒ คำนี้ไม่มี
ในเมื่อคุณยกมา เพื่อแสดงว่า ๒ คำนี้มีจริงๆ
งั้นคุณก็ต้องบอกผมได้สิว่า เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
และมีลักษณะเป็นอย่างไร

ไม่ใช่ให้เปรียบเทียบ ถึงเปรียบเทียบก็เปรียบเทียบไม่ถูกต้อง
ทั้งวิทย์ ทั้งศิลป เป็นสายวิชาชีพ

วันหลังหัดเอาพระไตรปิฎกชั้นหนึ่ง มาบ้าง
ซึ่งขณะนั้นมีแค่พระสูตร พระวินัยเท่านั้น
ที่คุณยกมา เป็นชั้นหลัง เอาพระสูตรมาขยายความ


"ดูก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยจะเป็นศาสดาแทนเรา เมื่อเราล่วงลับไป"

;aa24

 

อาจานวิฯ วันจันทร์ค่อยเจอกัน
เผอิญเสาร์-อาทิตย์นี้ไม่ว่าง ต้องไปงานบุญ
อย่าฟุ้งซ่าน ให้มากนัก

อ่านมาก ฟุ้งมาก
อ่านน้อย ฟุ้งน้อย พลอยรำคาญ
ปฏิบัติ(สมาธิ)มาก ฟุ้งน้อย ถ้อยประคอง
ปฏิบัติน้อย ดูแต่(อาการ)จิต ติดความคิด

;aa24<!-- google_ad_section_end -->

 

จ้า