คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->รักไร้พ่าย<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2079637", true); </SCRIPT> อยากให้คุณไปที่สำนักของแม่ชีพิมพาหลายๆครั้ง และใช้สติและปัญญาพิจารณาด้วยความรอบคอบ ใช้หลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้า โดยไม่มีอคติต่อใคร...หรือเชื่อใครโดยหมดใจ แล้ววันหนึ่ง..คุณจะรู้ความจริง... อย่าเชื่อผม...ให้ไปพิสูจน์หลายๆครั้ง หลักการสอนที่ถูกต้อง..ต้องไม่ขัดหลักธรรมและวินัย ที่สำคัญ..ไม่ขัดต่อหลักกฏแห่งกรรม ถ้าลบล้างกรรมได้..จะเก่งเกินพระพุทธเจ้า ขนาดพระโมคคัลลาน์ท่านยังต้องชดใช้กรรมเก่า... ชำระกรรม..ให้เบาบางได้..โดยเร่งภาวนาและทำความดี เปรียบกรรมดีเสมือนน้ำในตุ่มที่เป็นน้ำจืด กรรมชั่วเป็นน้ำเค็มเพียง 1 ช้อนชา ถึงจะปนน้ำเค็ม 1 ช้อนชาในตุ่มที่เป็นน้ำจืด รสชาติแห่งน้ำในตุ่มที่เป็นน้ำจืดก็คงยังไม่เปลี่ยน แต่...เราปฏิเสธไม่ได้ว่า..มีน้ำเค็ม 1 ช้อนชาผสมอยู่ในตุ่ม ดังน้นกรรมชั่วลบล้างไม่ได้..แต่เราทำกรรมดีเพื่อหนีกรรมชั่วได้ ขึ้นอยู่กับกำลังกรรมดีหรือกรรมชั่วอย่างไหนจะมากกว่ากัน ธรรมะสวัสดี<!-- google_ad_section_end -->
เราเข้าไปอ่านมาแล้ว ขอออกความเห็นนิดนึงนะ เรื่องตาทิพย์นั้น เวลาจิตเข้าสู่ อุปจาระสมาธิ (เกือบถึง ฌาณ) เวลานั้นจิตมันเข้าภวังค์คือ คล้ายๆกึ่งหลับกึ่งตื่น ถ้าใจน้อมไปถึงเรื่องอะไร จิตมันจะสร้างภาพนั้นขึ้นมาได้เอง (คล้ายๆฝัน หรือ อุปทานขึ้นมาเอง) นักปฏิบัติมือใหม่ เป็นกันทุกคนอ่ะ บางคนเห็นเป็นแสง สี แล้วก็เข้าใจว่าตัวเองบรรลุชั้นนั้นชั้นนี้ มีเยอะไป ไม่ใช่ตาทิพย์อะไรหรอก แม่ชีบอกว่า ถ้าฝึกกสินตาทิพย์ จะทำให้ลบกรรมออกบางส่วน อันนี้ไม่เป็นความจริงนะ เพราะบาปก็ส่วนบาป บุญก็ส่วนบุญ มันคนละส่วนกัน เมื่อเสวยบุญใน "สวรรค์" จนหมด จิตก็จะไปปฏิสนธิิใน "อบายภูมิ" อยู่ดี บาปไม่ได้หายไปไหนเลย ไม่มีใครไปลบบาปได้ เพราะบุญ-บาป ถูก บันทึกไว้ที่ ชวนจิต อย่าคิดเอาเองเลยนะ การทำให้คนอื่นเข้าใจผิด เป็นบาปมหันต์แก่ผู้นั้น จะทำบุญไปล้างบาปไม่มีในพระพุทธศานานะ อย่าเก่งเกินพระพุทธเจ้าเลยนะ เค้าเรียกว่า อุตริมนุษย์ธรรม และผู้ที่อวดก็ไม่พ้น นรก แน่ๆ เราว่าให้ยึดพระไตรปิฏก เป็นหลักดีกว่า บอกให้แม่ชีไปอ่าน พระไตรปิฏก ให้ดีซะก่อน ก่อนจะไปสอนใคร ถามตัวเองดูก่อนว่าตัวเองพ้น นรก รึยัง --------------------------------
แม่ชีพิมพา ที่เป็นของจริงน่ะมี แต่ชื่อพิมพา อุ้มปรีชา ท่านอยู่วัดกำแพงบางจาก ภาษีเจริญ ท่านสอนให้มีตาทิพย์ มองเห็นโอปะติกะ ได้ หนังสือโลกทิพย์ เคยลงเมื่อ สิบกว่าปีก่อน หนังสือโลกทิพย์ไปสัมภาษณ์ศิษย์มาแต่ละคนเลย ยืนยันว่าเห็นกันจริงๆ แม่ชีพิมพา อุ้มปรีชา ท่านไม่เคยสอนออกนอกอภิธรรม ส่วนแม่ชีพิมพา ที่เจ้าของกระทู้แนะนำ ผมว่าอาศัยชื่อเสียงเก่าๆของแม่ชีพิมพา อุ้มปรีชามากกว่า เพราะชื่อคล้ายกัน เรียกแม่ชีพิมพา เหมือนกัน
ผมเคยไปพบแม่ชีพิมพา อุ้มปรีชา เมื่อสิบกว่าปีก่อน... แต่ไม่อยากวิจารณ์ เนื่องจากท่านเป็นแม่ชี จึงอยากให้ทุกท่านที่อยากพิสูจน์ไปที่วัดกำแพง บอกก่อนสำนักแม่ชีพิมพา อยู่นอกเขตวัด ถ้าจะให้ดี..ลองถามความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติของแม่ชีพิมพา กับพระทุกรูปในวัดกำแพง...โดยเฉพาะท่านเจ้าอาวาส ผมเชื่อว่า...พระท่านคงไม่มุสา และคงเล่าความจริงเกี่ยวกับแม่ชี หวังว่า..สิบปากว่า..ไม่เท่าตาเห็น พูดไปก็เหนื่อย..ไปพิสูจน์..จะได้หมดข้อสงสัย
ขี้เกียจไปอ่ะค่ะ เล่ามาเลยดิคะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ
ขายประคำหยก ..เป็นเครื่องประดับบนสวรรค์ ผู้ที่ไปฝึกกับแม่ชีต้องมีประคำหยก เอาเงินทำบุญ..แล้วจะลบบัญชีบาป เท่าที่จำได้..
บิดเบือนพระไตรปิฏก เพื่อหาเลี้ยงตัวเองแบบนี้ เมย์ว่าต้องไปเกิดใน อเวจีมหานรก แหงเลยค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ
เป็นธรรมดา..โลกนี้คนโง่มากกว่าคนฉลาด เรื่องแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล... เมื่อครั้งที่พระสารีบุตร...ได้ไปโปรดอ.สัญชัย ที่เคยเป็นอาจารย์ของท่านฯ อ.สัญชัย ได้ถามประโยคนี้แก่พระสารีบุตร เลือกการปฏิบัติที่เหมาะสมกับตน เลือกครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ.. จะได้ไม่เสียเวลาหลงทาง..ให้เนิ่นช้า