ปิดรับบริจาค รวมบันทึกการเดินทางตามรอยพระอาจารย์ ณ บึงลับแล ๒๕๕๒/ร่วมบุญใหญ่หน้า ๑๐๘

มารายงานตัวแบบเรื่องเล่า และเอาบุญมาฝาก

... กลับมารายงานตัวด้วยความสมบูรณ์เต็มร้อย ก่อนอื่นต้องอนุโมทนากับกัลยาณมิตรทุกท่านที่ได้เดินสายทำบุญในเทศกาลปีใหม่ไทยที่ผ่านมาและก็ขอนำบุญที่ได้ร่วมทำมาตลอดวันหยุด ๑๐ วันเต็มกลับมาฝากกัลยาณมิตรทุกท่านเช่นเดียวกันขออนุโมทนาบุญร่วมกันค่ะ

เมื่อคืนนั่งพิมพ์ข้อความเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ยาวมาก พอจะส่งปรากฎว่าเว็บล่ม ข้อความที่นั่งพิมพ์ทั้งหมดหายวับไปกับสายตา ได้แต่อยากจะหัวเราะเป็นภาษาปาปัวนิวกินี แต่กลัวเจ้าของเขาจะบอกว่าหัวเราะไม่เหมือน เลยได้แต่ปิดคอมแล้วไปเปิดเทปเสียงหลวงพ่อนอนฟังจนหลับไป

วันหยุด ๑๐ วันที่ผ่านมา ได้หยุดก็เหมือนไม่ได้หยุด เนื่องจากมีเหตุกราณ์จราจลในกรุงเทพฯ เลยทำให้ต้องคอยเกาะติดสถานการณ์ทำตัวเป็นเจ้าสำนักข่าวไทย คอยรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ให้กับผองกัลยาณมิตรที่เดินสายทำบุญตามต่างจังหวัดให้ได้รับทราบเหตุกราณ์และเส้นทางว่าตรงไหนปลอดภัย ตรงไหนไม่มีการปิดถนน ส่วนตัวเองก็ตะเวนทำบุญไหว้พระพร้อมกับร่วมสวดให้กับบ้านเมือง พร้อมทั้งไปร่วมแสดงกตัญญตาให้กับท่านเจ้าประคุณพระธรรมสิริชัย (บุญเลิศ โฆสโก) อดีตเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามเป็นครั้งสุดท้าย

เหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดประทุวุ่นวายในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมา ถ้าใครได้เคยไปร่วมงานกฐินวัดท่าขนุนในปีที่แล้ว (๒๓ ตค.๕๑) จะทราบดีว่าพระอาจารย์ท่านได้บอกกล่าวเตือนสติบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านไว้ที่สำนักสงฆ์เกาะพระฤาษี ซึ่งคำพูดของท่าน หญิงได้เคยนำเอาไปวางไว้ในกระทู้ข่าวมรณภาพของท่านเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามตั้งแต่ต้นเดือน พย.ปีที่แล้ว เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ตรงกับที่ท่านกล่าวและเพื่อเป็นการเตือนสติให้กับตัวเองกลาย ๆ แล้วในที่สุดเหตุการณ์สำคัญที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดก็เกิด คือเหตุการณ์ความวุ่นวายของการเมืองไทยเกิดขึ้นมาในช่วงวันเวลาที่พระอาจารย์ท่านได้เคยกล่าวไว้แล้วอีกเช่นกัน เลยทำให้ตัวเองไม่ค่อยตกใจหรือตื่นตูมสักเท่าไหร่ เพราะเหมือนกับทราบและได้รับรู้เตรียมใจเผื่อล่วงหน้าไว้แล้วเลยทำให้มีสติพิจารณาข่าวสารข้อมูลได้ตลอด ตรงนี้ต้องขอบอกว่าเป็นเพราะความเมตตาีของพระอาจารย์ที่มีต่อลูกศิษย์ลูกหาของท่านโดยแท้เชียว

เมื่อวานได้ไปสักการะและร่วมสรงน้ำพระแก้วมรกตในพระบรมมหาราชวัง ไปถึงพบว่าที่พระอุโบสถข้าง ๆ ปราสาทพระเทพบิดรได้มีพิธีสวดให้บ้านเมือง องค์บูรพกษัตริย์์และองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์์ ก็เลยได้นั่งร่วมสวดด้วยจนเสร็จพิธี และได้ทราบข่าวต่อว่าทุกวันพระและวันอาทิตย์ ที่พระอุโบสถในวัดพระแก้วหลังนี้จะมีพิธีสวดมนต์ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐ น. ก็ขอกราบเรียนเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านที่ไม่มีกิจกรรมทางโลกในวันหยุดให้ไปร่วมสวดได้

และวันเสาร์ที่ ๒๕ เมษายนนี้ ทางกรุงเทพฯ จะจัดทำบุญดวงเมืองครั้งใหญ่ รวมถึงที่วัดวรเชษฐ (วัดที่เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพขององค์สมเด็จพระนเรศวร) จ.อยุธยา จะจัดพิธิบวงสรวงดวงพระวิญญานองค์สมเด็จพระนเรศวร,บูรพกษัตริย์ ๔๘ พระองค์ และดวงเมือง ก็ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่านที่มีวาระทางธรรมเดินทางไปร่วมงานได้ตามสถานที่และวาระของแต่ละคน ส่วนกัลยาณมิตรท่านใดที่ติดวาระทางโลกก็ขอให้ร่วมส่งใจโดยพร้อมเพรียงกัน

อีกเรื่องที่ติดค้างกัลยาณมิตรทุกท่านไว้ ก็คือเรื่องงานบุญวันวิสาขบูชา (๘-๑๐ พค.) ซึ่งตอนแรกได้มีการพูดคุยกันในกลุ่มเล็กๆ ว่าจะไปร่วมงานที่วัดท่าขนุนและวันรุ่งขึ้นจะเดินทางต่อไปบึงลับแลและไปพักค้างคืนปฎิบัติธรรมที่นั้น ๑ คืน ซึ่งได้กราบเรียนถามพระอาจารย์ไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๓ เมย.ที่ผ่านมาซึ่งท่านได้เมตตาตอบว่าไปได้และไปค้างคืนได้ แต่เนื่องจากสภาพปัจจัยภายนอกที่มากระทบหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพบ้านเมืองที่ยังไม่นิ่ง สภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวนทั้งลมและฝนซึ่งเ็ป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเดินเท้าที่ค่อนข้างจะอันตรายทำให้ต้องชะลอออกไปก่อนอย่างน่าเสียดาย แต่วาระก็ยังมีอยู่ไม่ได้ทิ้งหายไป เพราะหลังจากวาระวันวิสาขบูชา ก็ยังมีวาระของวันอาสาฬหบูชา/พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์โสฬส (๗ กค.) เนื่องจากทางราชการได้ประำกาศให้วันที่ ๖ กค.เป็นวันหยุดราชการ ทำให้ในเดือน กค.จะมีวันหยุดติดต่อกันยาวถึง ๔ วัน คือวันที่ ๔-๗ กค.

และมีบุญเล็ก ๆ ของชาวคณะที่ได้พูดคุยกันไว้ในกลุ่มว่าจะทำร่วมกันถวายพระอาจารย์ก็คือ กฐินของพวกเรา โดยตั้งใจกันไว้ว่าจะร่วมบุญ ๑ กอง (๑๐,๐๐๐ บาท) ซึ่งงานนี้ต้องขอยกความดีความชอบให้กับน้องศาล (กาลกตา) ทีีเป็นผู้เปิดประเด็นบุญขึ้นมาและได้รับความสนับสนุนและเห็นชอบจากกัลยาณมิตรอีกหลายท่าน เพราะฉะนั้นก็ขอแจ้งข่าวให้ทราบว่า คณะเราจะร่วมบริจาคเงินกันตามกำลังทรัพย์ กำลังศรัทธาจากทุก ๆ คน ทุก ๆ สายที่จะไปเป็นสะพานบุญ ไม่ว่าจะเป็นการไปบอกบุญในที่ทำงาน เพื่อน ครอบครัวหรือญาติพี่น้องแล้วคณะเราจะนำเข้าไปถวายร่วมกัน แต่ใจหญิงอยากจะจัดเป็นพุ่มเล็กๆ แล้วนำไปถวายพระอาจารย์ในวันงานกฐิน คือวันที่ ๒๓ ตค. แต่ก็ขอรอเสียงส่วนใหญ่อีกครั้งหนึ่งว่า จะรวบรวมนำไปถวายที่บ้านอนุสาวรีย์ก่อนวันงานหรือว่านำไปถวายที่วัดในวันงานดี

ที่บอกกล่าวมาทั้งหมดก็คือการรายงานตัวแบบเรื่องเล่า อาจจะยาวสักนิดแต่ก็สามารถทำให้กัลยาณมิตรทุกท่านได้อ่านได้โดยไม่ต้องโทรแจ้งเป็นรายบุคคลให้เสียเงิน ถ้ามีอะไรคืบหน้าหญิงจะนำมารายงานให้ทราบอีกเป็นระยะๆ เพราะอย่างที่บอกกระทู้นี้คือ กระทู้รวมสารพัดเรื่อง (จับฉ่าย) ของชาวคณะอยู่แล้วค่ะ อิ อิ อิ :z16(smile)

 

ฮืมม! น่าสนใจค่ะน้องชไม ขอรอภาวะบ้านเมืองให้มันนิ่งสงบ ผู้คนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสกว่านี้อีกสักนิด ช่วงนี้็ตัวพี่เองอยู่ปฎิบัติภาวนาที่บ้าน ที่ห้องพระ ที่วัดใกล้บ้านก็พอจะช่วยคลายอาการอยากปลีกวิเวกได้บ้างค่ะ


<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Cboss%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->

โมทนาค่ะ

ย้ายไปจัดตั้งที่ชั้น ๗ แล้วหรือ วันที่หญิงไป (๑๕ เมย) ยังจัดอยู่บริเวณชั้นล่างฝั่งอิเชตันอยู่เลยค่ะ แต่ขอบอกกล่าวให้ทราบว่า งดงามมากอย่างที่คุณกฤศแจ้งไว้จริงๆ

อีกข่าวที่อยากแจ้งเพิ่มเติม สำหรับกัลยาณมิตรบางท่านที่ยังไม่ทราบรายละเอียด วันเสาร์ที่จะถึงนี้ (๒๕ เมย.) ที่หญิงได้แจ้งไว้แล้วว่าจะมีการทำบุญเมือง นอกจากสถานที่หลักที่จัดพิธีบริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ แล้ว ทราบมาว่ามีการจัดทั่วประเทศค่ะ แต่จะเป็นสถานที่ใดบ้างนั้นคงต้องคอยตามข่าวกันอีกที

ส่วนกัลยาณมิตรท่านใดที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และจะไปร่วมพิธีที่ลานคนเมือง ขอแจ้งให้ทราบว่าพิธีการจะเิริ่มเวลา ๐๖.๓๐ น. มีสมเด็จพระพุฒาจารย์วัดสระเกศ (สมเด็จเกี่ยว) วัดสระเกศวรมหาวิหาร เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าการ กทม. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระราชครูวามเทพมุนี เป็นผู้ทำพิธีบวงสรวง โดยเิริ่มต้นจะเป็นพิธีทางพรา์หมณ์ บวงสรวงเทพยดา ใช้เวลาประมาณ ๓๐-๔๕ นาที จากนั้นจะต่อด้วยพิธีทางศาสนาอิสลาม , คริสต์ , ฮินดูและพุทธ ใช้เวลาศาสนาละ ๓๐ นาที และเมื่อพิธีการทางศาสนาต่างๆ แล้วเสร็จ จะมีการถวายภัตตาหารเพลแด่พระราชาคณะที่นิมนต์มาร่วมในพิธี กำหนดเวลาในพิธีการครั้งนี้แล้วเสร็จเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. และทราบมาว่าสำหรับผู้ที่มาร่วมงานพิธีในครั้งนี้ จะได้รับพระเสาชิงช้าเป็นที่ระลึก โดยมีกำหนดแจกไว้ประมาณ ๑๐,๐๐๐ องค์ค่ะ ก็ขอกราบเรียนเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านที่ไม่ติดกิจธุระทางด้านไหน ไปร่วมงานเพื่อบ้านเมืองในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน...

 

เดิมที ตั้งใจว่าจะไปกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพราะต้องการไปค้างคืนนั่งปฎิบัติธรรมที่นั้นด้วย แต่เนื่องจากปัจจัยภายนอกที่มากระทบหลาย ๆ อย่าง ทั้งสภาพของบรรยากาศการเมืองและสภาพของดินฟ้าอากาศ โดยเฉพาะสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินเท้าเข้าป่าในช่วงนี้สักเท่าไร เลยต้องขอเลื่อนวาระทริปนี้ออกไป เพื่อความสบายใจและเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของชาวคณะทุกคน

แต่ก็มอง ๆ เผื่อไว้ในเดือน กค. ช่วงวันอาสาฬหบูชาอยู่เหมือนกัน เพราะตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน แต่ถ้าติดฝนมาก ๆ ก็คงต้องงดเหมือนเช่นเคยค่ะ เนื่องจากเส้นทางเดินเท้าไปบึงลับแลยังเป็นเส้นทางปิด ทางเดินชันมากทั้งตอนที่ไต่ขึ้นและลงเขา และสภาพป่าที่ได้รับฝนมาก ๆ ป่าจะเปลี่ยนและรก โอกาสที่จะหลงป่าหรือต้องเดินดั้นด้นบุกป่านับว่ามากคงไม่เดินไปสบาย ๆ เหมือนตอนทริปครั้งที่ ๑ ก็นับว่าอันตรายพอสมควร แต่ไม่ต้องห่วงเพราะชาวคณะคิดไว้ว่า ถ้ามีโอกาสจะไปกันทุกปีอยู่แล้ว ถ้าภายในปีนี้วาระที่มองไว้ไปกันไม่ได้จริง ๆ ก็เป็นช่วงเดือน กพ.หรือไม่ก็เป็นช่วงหน้าแล้งปีหน้าค่ะ<!-- google_ad_section_end -->