ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ตอนที่เเบ่งจักรวาลออกจากกัน จะมีสองกลุ่ม กลุ่มนึง คือ ปัจจุบัน พวกเขาจะดู

เเต่อีกจักรวาลนึงจะอยากได้ เขาอยากได้ ปัจจุบัน อยากได้ปัจจุบันตลอดกาล

ทำอยู่อย่างนี้ ตลอดเลยคะ อยากได้ ชีวิต ณ ปัจจุบัน

อยากได้นับถือตนเอง อยากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เเก้เท่าไรก็เเก้ไม่ได้

เพราะว่า ความอยากมันเป็น นิสัยของมนุษย์บางจำพวก

เเละการที่เราจะทำให้เขาอยู่กับปัจจุบันได้ มันก็ คือ การดูเพียงเท่านั้น

มันไม่มีกฎว่าต้องทำอย่างนั้น เชื่ออย่างนี้ เป็นเเบบนั้น

ถ้าเมื่อไรที่มีการสอนเเละสั่ง มันก็จบที่คำว่า จักรวาลเเห่งตลอดกาลของการทำตาม

สรุปก็ไม่ได้จบที่ปัจจุบันอยู่ดี เพราะ ปัจจุบันมันไม่มีอะไรเลย

มีเเต่ความไม่รู้ เเละ รู้ตัว ณ ปัจจุบัน

มันไม่มีศาสนา คำสอน หรือ สิ่งใดมาบอกว่าเราต้องคิดอะไร ทำยังไง เป็นอย่างไร

มันมีเเต่ความไม่รู้ เเละ ไม่รู้ เเละ ไม่รู้อะไรเลย คะ

 

*** ศาสนาของโลก ****

คือ โลกุตตระธรรม...เป็นธรรมหลุดพ้น
โลกุตตระธรรม....คือ ธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน
โลกุตตระ...สอนผู้หนึ่งให้เป็นพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้า....สอนสาวกให้เป็นอรหันต์
อรหันต์...โปรดสอนสัตว์โลก สืบทอดต่อไป
สิ่งที่สอนสำคัญที่สุด....คือ สัจจะ
เพื่อนำ การตัดลดกิเลสนิสัย...ให้เกิดขึ้นจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สิ้นสุด ****

ศาสนาคริสตร์ จะสิ้นสุดลง
มนุษย์ทั้งโลก จะเข้ามาถือในสัจจะธรรมเดียวกัน

เพราะ เขาและเธอ พบแล้วว่าอะไรคือความจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อย่าละทิ้งใครเลย ช่วยแล้วก็ช่วยให้หมด มีลูกอยู่10คนอยากจะช่วยลูกแค่5คนที่ดีๆอีก5คนที่มันไม่ดีไม่ช่วยก็มานั่งสงสารมันอีก ดูเสด็จพ่อของเราสิ ลูกมีกี่คนๆช่วยหมดมีเป็นล้านท่านจะเฆี่ยนตีซักคนที่มันนิสัยไม่ดีก็ไม่มีซักคน เพราะอยากช่วยต้องทนกับผู้คนที่ต้องช่วยหลากหลายชนชั้นและนิสัย สงสารเขาเถิดไอความไม่รู้นี้มันน่ากลัวเราก็รู้จะทนมองไปได้ซักกี่น้ำเดวก็ไปช่วยเขาอีก เขาเรียกเจ็บแล้วไม่จำ...ไม่ได้อ้างอิงถึงใครน่ะพูดกับตัวเองอยู่

 

555 คุณ Falkman ตรงใจ
ช่วงนี้ฤดูพายุแล้ว
ไม่มีรายงานพายุเข้าอีกเหรอคะ
ติดตามอยู่เหมือนกัน

 

*** กาลเปลี่ยนแปลงโลก ****

ศาสนาพุทธ ...จะเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
เมื่อ พบความจริงว่า...พระพุทธเจ้ามีสัจจะเป็นผู้นำให้ทำ
พระพุทธเจ้า หลุดพ้นจากกิเลสนิสัย หลุดพ้นทุกข์ พ้นไปจากโลก ....ได้ด้วยสัจจะ
ไม่ใช่ ศีล...ที่มนุษย์เรายุคนี้เข้าใจ
เราจะพบว่า....สัจจะ สามารถนำมาใช้ตัดลดนิสัยของมนุษย์ได้จริง
ต่างจากศีล...ที่กว้างใหญ่ ครอบคลุม จนทำกันไม่ได้จริง
เมื่อ มนุษย์นำสัจจะ....มาขจัดกิเลสนิสัยตนเอง
โลก ...ก็จะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดี
โลก....จะอุดมสมบูรณ์ เหมือนในอดีตกาล

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ศีลกับพระพุทธเจ้า ****

ศีล มีมาก่อนพระพุทธเจ้า
พ่อแม่ปู่ย่าทวดของพระพุทธเจ้าท่านถือศีลมาก่อน
แต่พระโคดม เข้าไปอยู่ในป่าคนเดียว
พยายามค้นหาความจริง ว่าศีลที่ถือกันมานั้น จะพาให้พ้นทุกข์ได้จริงหรือ
แล้วพระองค์ก็พบว่า ศีลปาณานั้น เกิดเป็นมนุษย์ไม่สามารถทำได้จริง
ยิ่งใครพูดว่าตัวเองทำได้ ก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องโกหก พูดไม่ตรงความจริงอีก
ถ้ารับศีล พยากรณ์ให้กับตนเอง แล้วทำไม่ได้จริง มันกลับส่งผลเสียย้อนกลับมา

พระพุทธเจ้า จึงพิจารณาความสำคัญอยู่ที่ การทำได้จริง
เพราะการทำได้จริง ตามคำที่กล่าวพยากรณ์ออกมา จะไม่เป็นการทำลายศีลพยากรณ์นั้น
การทำได้จริง คือ การทรงได้ สามารถทรงให้เกิดขึ้นได้จริง
จึงเป็นการเดินไปตามความจริง ตามสัจจะธรรม
คือกล่าวในสิ่งที่สามารถทำได้จริง แล้วก็ทำได้จริง จึงเกิดเป็นความจริง

พระพุทธเจ้าจึงมองเห็นว่า ศีลเป็นเรื่องที่กว้างใหญ่เกินความสามารถมนุษย์
พระพุทธเจ้าจึงพิจารณาคำสอนเป็น สัจจะ
คือ พยากรณ์สิ่งที่จะทำที่สามารถทำได้จริง เป็นสิ่งที่แคบกว่า
ศีลปาณา ที่กว้างจาก ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
จึงย่อเป็นสัจจะ ที่ชัดเจนกว่า เช่น
ไม่ฆ่ามนุษย์ ไม่ฆ่าวัวควาย ไม่ฆ่าหมู
และสามารถนำไปใช้กับผู้ที่มีกรรม ผู้กำลังสร้างกรรมกับสัตว์โลก
เป็นเรื่องเฉพาะเจาะจงลงไป เป็นการบุคลิกให้แต่ละคนที่มีนิสัย มีกรรมไม่เหมือนกัน

หลังจากพิจารณาคำสอน คือ สัจจะได้แล้ว
ท่านจึงออกจากป่าเริ่มโปรดสัตว์โลกด้วยสัจจะ จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตพระพุทธเจ้า

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ไม่เจตนา ****

ศีลปาณา ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต วันหนึ่งคืนหนึ่ง
เป็นสิ่งยิ่งใหญ่ กว้างใหญ่ ทำได้ยาก
เพราะมนุษย์ต้องหายใจ ต้องเดิน ต้องเคลื่อนไหว ต้องกิน ต้องขับถ่าย

มนุษย์ สัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก เรามองเห็นเราก็ไม่ฆ่า
แต่สัตว์เล็กกว่าขนตา เล็กกว่าปลายขนตา เขาก็มีชีวิต มีวิญาณ เรามองไม่เห็น
ในแต่ละวัน เราก็ยังทำร้าย ทำลายชีวิตเขา โดยไม่รู้ตัว
ศีลปาณาที่รับมาปฏิบัติ มนุษย์เราจึงไม่สามารถทรงไว้ได้จริง
เกิดการทำลายศีล ที่ตัวเราได้กล่าวพยากรณ์เอาไว้
ว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต วันหนึ่งคืนหนึ่ง

หลายคนมักจะบอกว่า ไม่เจตนาทำ
แต่การกระทำเกิดขึ้นมาแล้ว ไปทำร้าย ทำลายเขาไปแล้ว
ตัวกระทำไม่ตาย มันจึงส่งผลตอบแทนกลับมา

หนอนเล็กตัวหนึ่งมาเกาะที่หนังเรา หนอนมันคิดว่ามันเกาะบนไม้ผุๆ
มันก็เกาะกินหนัง กินเนื้อเราไปเรื่อย จนเนื้อมันเน่าเป็นแผลเจ็บปวด
แบบนี้ถ้าไปถามหนอนเขา เขาก็บอกว่า เขาไม่เจตนามาทำร้ายเราเหมือนกัน
นี้เป็นตัวอย่างผลที่ย้อนกลับมา โดยที่เราไม่รู้เหตุ ไม่รู้ผล เพราะขาดการพิจารณา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ให้ศีล รับศีล ****

การให้ศีล ...คือ การพยากรณ์ให้กับผู้รับศีลไปปฏิบัติ
การรับศีล....คือ การรับคำพยากรณ์ตามศีลนั้น แล้วนำไปปฏิบัติ
การกล่าวตาม...คือ การพยากรณ์ให้กับตนเอง
ดินน้ำลมไฟ....คือสักขีพยาน

ศีลปาณา... พยากรณ์ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต วันหนึ่งคืนหนึ่ง
เมื่อกล่าวพยากรณ์ไปแล้ว จึงต้องทำให้ได้จริง เพื่อไม่ทำลายศีล
ถ้าทำได้เป็นสิ่งเลิศวิไล สุดจะบรรยายได้
แต่ถ้าทำไม่ได้ คือ การทำลายศีล คือไม่ทำตามที่พยากรณ์ไว้ คือทำไม่ได้จริง
ผลการกระทำไม่ตาย เกิดเป็นตัวตนที่ไม่ตายจึงย้อนส่งผลกลับมาเหมือนหอกทิ่มแทงตัวเอง

การที่จะส่งให้เขาทำ...ผู้ให้ต้องทำได้ก่อน
ถ้าผู้ให้ทำไม่ได้....ก็เหมือนยื่นหอกให้กับเขา จะกลายเป็นภัยต่อตัวเขา
ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลตาม หลักสัจจะธรรม
ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

ดินน้ำลมไฟ จะห่อหุ้มกรรมของเราไว้
จึงเกิดเป็นภัยพิบัติทั้งปวง !!!




*** ตัวที่ทำไม่ได้ ****

ศีลเป็นสิ่งที่กว้าง ยิ่งใหญ่
ศีลที่รับแล้ว ทำไม่ได้...คือ การทำลายศีล
คือ พยากรณ์เอาไว้แล้ว แต่ทำไม่ได้ตามที่พูด

จึงเกิดเป็นตัวกระทำที่ทำไม่ได้ เป็นตัวทำไม่ได้
และส่งผลย้อนกลับมาที่ตัวเอง
เป็นกรรมนานาชนิด เหมือนเป็นหอกทวนทิ่มแทงตัวเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ย้อนเวลาศาสนาของโลก ****

ศาสนาของพระพุทธเจ้า
ไม่ใช่ศาสนาของมหาบพิตรเจ้า

ศาสนาของพระพุทธเจ้ามีนิกายเดียว
คือ นิกายตถาคต

สมณะในนิกายตถาคต
มุ่งตัด กิเลส ตัญหา มานะชั่ว กามคุณ
ไม่ใช่สะสม !!!

สมณะในนิกายตถาคต ทรงศาสนา
ไม่ใช่ ทำลายศาสนา

สัจจะของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของง่าย ๆ
แต่ก็มีผู้ทำได้จนสำเร็จอรหันต์

เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว
ช่วงสองพันกว่าปีย้อนหลังจากปัจจุบัน
เหล่ากษัตริย์พระราชาสมัยนั้น เห็นว่าสัจจะพระพุทธเจ้าทำยาก
ได้ขอลดสัจจะพระพุทธเจ้าลง จึงเกิดการสังคยานัย สังคยานา ครั้งแรกขึ้น

สังคยานัย ก็คือ ทำกันไม่ได้
สัจจะพระพุทธเจ้า จึงเริ่มถูกบดบังตั้งแต่การสังคยานาครั้งแรก
แล้วนำศีลของพราหมณ์ที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายของพระพุทธเจ้าถือกันมานาน
เข้ามาใช้ในศาสนาของพระโคดม

ปัจจุบันศาสนาของพระโคดม เหมือนมีไฟแดงฉานกำลังร้อนรน
จากนิกายตถาคตเดียวกัน เกิดเป็นหลายนิกาย
สัจจะคำสอนที่ใช้ในการประหัตประหารกิเลส การตัดกิเลสตัญหาด้วยสัจจะหายไป
มีความเชื่อพิธีกรรมที่ไม่ใช่สัจจะทำ สัจจะธรรมความจริงเข้ามาปะปนอยู่มาก




*** หลัก ๓ ประการ ในพุทธศาสนา ****

ศาสนาพุทธ มุ่งหลุดพ้นกิเลสตัณหาทั้งปวง
จึงมีแต่ตัด ไม่มีเพิ่ม

พระพุทธเจ้าใช้ความจริง
ใช้สัจจะทำ ทำคำพยากรณ์ที่พูดไปให้เป็นความจริง...จึงไม่ใช้ความเห็น

พระพุทธเจ้าไม่ใช้วัตถุ
เพราะกลัวที่จะต้องกลับมาเกิดเพื่อมาเอา มาครองวัตถุอีก
พระองค์จึงไม่ใช้พิธีกรรม

ศาสนาพุทธ จึงมีหลักอยู่ ๓ ประการ
๑. ใช้ความจริง
๒. ไม่ใช้วัตถุ
๓. เป็นการกระทำกับจิตวิญญาณ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ศาสนาอยู่ที่ไหน ****

ท่านเห็นศาสนาอย่างไร
... ศาสนาอยู่ที่ไหน ?

ศาสนาอยู่ที่ ตัวที่ทำได้ ตัวที่ตัดได้
ศาสนา จึงอยู่กับ ผู้ทำได้

ผู้ทำไม่ได้ ...จึงนับถือแต่วาจา กายก็ยังไม่ได้นับถือ
คงปล่อยให้ใจวิ่งไปทั่วจักรวาล

เราเชื่อหรือว่า...ชาติหน้าเราจะเกิดเป็นมนุษย์อีก
เพราะตัวกระทำมันไม่ตาย
ตัวกระทำจะจัดสรรในการเกิดของทุกวิญญาณ
เนื้อก็พรหมลิขิตหนังก็พรมลิขิต เป็นเพราะสิ่งที่เคยทำเอาไว้

พระพุทธเจ้าจึงพยายามสร้างการกระทำที่เป็นที่พึ่งได้
กระทำทั้งกาย วาจา ใจ ...เรียกว่าสัจจะทำ

ขอให้ท่านนำไปพิจารณา
ทุกท่านที่มีโอกาสอ่าน เป็นผู้โชคดี
เหลือได้เปิดโอกาสพ้นทุกข์ให้ตนเอง
ด้วยการนำ สัจจะ ไปปฏิบัติตัดกิเลสนิสัย
ขอให้เชื่อ แล้วทำให้เกิดขึ้นจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

[FONT=DSU_MonTaNa][FONT=DSU_MonTaNa]โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต[/FONT][/FONT]
[FONT=DSU_MonTaNa][/FONT]
[FONT=DSU_MonTaNa]​

 

...เป็นธรรมดาที่ คุณ Falkman จะไม่เข้าใจ....เพราะคนที่รู้..นั้น เป็นคนอื่น..ซึ่ง ผม ก็ ไม่ทราบว่า เป็นใคร เหมือน กัน... แต่ ที่พูดแบบนี้ ก็ เพื่อป้องกัน ความเข้าใจผิด และ การกล่าว ปรามาสเอาไว้ ก่อน..เรียกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน...และ ไม่ประมาท...คงไม่เสียหายอะไรนะครับ....

 

..................................
. หล่อล่องลม = หล่อลากดิน .
. หล่อลากดิน = หล่อล่องลม .
..................................

หรือเปล่า......?
.....................................
ถ้าใช่ก็นับถือในความพยายาม
ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัย และขออโสิกรรม
.....................................

 

ลูกเห็บยักษ์ถล่มเชียงใหม่ ชาวบ้านวุ่นหาหมวกกันน็อกกันศีรษะ​

​

เชียงใหม่ 2 เม.ย.-นายประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงความเสียหายจากลูกเห็บยักษ์ขนาดเท่าไข่ไก่กระหน่ำพื้นที่ อ.ฝาง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาใน 5 ตำบล นานเกือบชั่วโมง ว่า

เบื้องต้นได้รับรายงานมีบ้านเรือนเสียหายกว่า 4,000 ครัวเรือน รวม 17 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ ต.สันทราย ชาวบ้านต้องหาที่หลบกำบังลูกเห็บกันวุ่นวาย เพราะไม่เคยเจอลูกเห็บขนาดใหญ่มาก่อน บางคนต้องหาหมวกกันน็อกหรือกะละมังมาครอบศีรษะ เพราะลูกเห็บยักษ์ตกลงมาทะลุหลังคาบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมกับรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ทราบแล้ว เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย

2009-04-02 14:51:24

พายุลูกเห็บพัดถล่มชัยภูมิ บ้านเรือน-สัตว์เลี้ยงเสียหาย​

​

ชัยภูมิ 31 มี.ค. - เกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มจังหวัดชัยภูมิ จนไฟฟ้าดับทั้งตำบล บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงเสียหาย

พายุฝนและลูกเห็บที่กระหน่ำอย่างรุนแรงในพื้นที่ตำบลบ้านหัน อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ นานนับชั่วโมง ทำให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่น บ้านเรือนได้รับความเสียหาย และในหมู่บ้านตลาด แรงลมพัดจนบ้านพังยุบลงมาทั้งหลัง ทับวัวแม่ลูกอ่อนตาย 1 ตัว โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ก็ทำให้ไฟฟ้าดับไปทั้งตำบล ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการแก้ไขรวมถึงตรวจสอบความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-03-31 11:05:21

พายุถล่ม 3 อำเภอพิษณุโลก ไม้ใหญ่หักโค่นหลายจุด​

​

พิษณุโลก 31 มี.ค. - ผู้ว่าฯ พิษณุโลก เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือราษฎรใน 3 อำเภอ หลังเกิดพายุกระหน่ำอย่างแรงเช้าวันนี้ โค่นต้นไม้ใหญ่ทับบ้าน พร้อมเตือนประชาชนรับมืออาจมีพายุถึงสงกรานต์

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมนายกิตติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลงพื้นที่ติดตามความเสียหายจากพายุกระหน่ำอย่างหนักเมื่อเช้าที่ผ่านมา (31 มี.ค.) ในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอวัดโบสถ์ และอำเภอวังทอง เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนเสียหลายหลัง

โดยเฉพาะอำเภอวังทอง แรงลมพัดโค่นต้นสะเดาทับบ้านนายเชาวลิต เถื่อนศรี อายุ 52 ปี เลขที่ 99/2 หมู่ 7 บ้านเนินคลี ต.ชัยนาม ทำให้หลังคากระเบื้องแตก ข้าวของเครื่องใช้เปียกน้ำ พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยังปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านนายเชาวลิต ใช้ขวานช่วยตัดทอนกิ่งไม้บนหลังคา และกำชับให้ อบต.ชัยนาม และนายอำเภอวังทองเร่งให้ความช่วยเหลือจัดหาอุปกรณ์ก่อสร้างมาซ่อมแซมความเสียหาย

ส่วนอำเภอวัดโบสถ์ ต้นไม้ล้มขวางเส้นทางท่างาม-บ้านยาง เจ้าหน้าที่เร่งใช้เลื่อยยนต์ตัดเพื่อให้รถสัญจรได้ และมีบ้านเรือน 2 หลัง ที่หมู่ 5 ต.บ้านยาง ถูกต้นไม้ทับเช่นกัน รวมทั้งหลังคาโรงจอดรถของโรงพยาบาลวัดโบสถ์ถูกแรงลมพัดทรุดลงมา

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ช่วงนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังผลกระทบจากพายุฤดูร้อนเป็นพิเศษ ซึ่งอาจต่อเนื่องไปถึงสงกรานต์ เพราะมีหย่อมความกดอากาศสูงจากจีนแผ่เข้ามามีอิทธิพลกับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน โดยเฉพาะการระวังต้นไม้ที่อยู่ใกล้บ้านให้ตัดทอนกิ่งหรือโค่นทิ้ง เพื่อป้องกันความเสียหาย.- สำนักข่าวไทย

2009-03-31 14:36:55

ลำปางประกาศพื้นที่พิบัติวาตภัย 9 อำเภอ​

​

ลำปาง 31 มี.ค.- นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมีนาคมนี้จังหวัดลำปางประสบพิบัติภัยจากพายุฤดูร้อนหลายครั้ง ทำให้บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

จึงประกาศให้ 9 อำเภอ 13 ตำบล 50 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ประสบวาตภัย คือ อ.ห้างฉัตร แม่เมาะ แม่ทะ เมืองปาน แจ้ห่ม เสริมงาม สบปราบ เถิน และแม่พริก สามารถนำงบประมาณทดลองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดวงเงิน 50 ล้านบาท ออกมาช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ให้คืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เบื้องต้นมีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังและบางส่วนประมาณ 1,500 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังให้นายอำเภอแต่ละพื้นที่นำงบทดลองราชการอำเภอละ 1 ล้านบาท มาดำเนินการช่วยเหลือเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

2009-03-31 16:30:21

ลำปางประเมินความเสียหายพายุถล่มกว่าล้านบาท​

​

ลำปาง 2 เม.ย. -นายเสฎรวุฒิ วงศ์หอคำ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เปิดเผยหลังสำรวจความเสียหายของพื้นที่จากพายุลูกเห็บกระหน่ำอย่างหนักกลางดึกที่ผ่านมา (2 เม.ย.) ว่า เบื้องต้นพบบ้านเรือนเสียหาย 451 หลัง 13 หมู่บ้าน 2 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 1,145 ราย คือ ต.เมืองปาน และ ต.แจ้ซ้อน โดยเฉพาะ ต.เมืองปาน เสียหายถึง 9 หมู่บ้าน

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่การเกษตรกว่า 30 ไร่ สัตว์เลี้ยง เป็ด-ไก่ตาย เนื่องจากถูกลูกเห็บตกใส่ 150 ตัว ประเมินความเสียหายทั้งหมดกว่า 1 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่ถูกพายุลูกเห็บตกใส่หลังคา จะเร่งนำกระเบื้อง 25,000 แผ่น เข้ามาแจกจ่ายในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) พร้อมกับรายงานความเสียหายต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ขณะเดียวกัน ยังมีสถานที่ราชการได้รับผลกระทบต้นไม้หักโค่นตามแรงลม เช่น โรงพยาบาลเมืองปาน สภ.เมืองปาน วัด และโรงเรียน 3 แห่ง.-สำนักข่าวไทย

2009-04-02 16:14:22

มีผู้เสียชีวิตจากพายุฤดูร้อน-บ้านเรือนเสียหายหนัก​

​

ภูมิภาค 31 มี.ค.- พายุฤดูร้อนสร้างความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่พิจิตรและยโสธร ทั้งบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตถูกต้นมะพร้าวโค่นทับ

นายประพาส คงแตง นายอำเภอสากเหล็ก จ.พิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจพื้นที่ 3 ตำบล ประสบภัยพายุฤดูร้อน ซึ่งพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงหลายหมู่บ้านช่วงเที่ยงวันนี้(31 มี.ค.) เบื้องต้นมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 30 หลัง โดยเฉพาะบ้านหนองตะเคียน หมู่ 1 ต.คลองทราย ต้นมะพร้าวปลูกไว้หลังบ้านเลขที่ 107 โค่นทับร่างนางสุกัญญา เงินมา อายุ 33 ปี ขณะเก็บเสื้อผ้าที่ตากไว้เพื่อหลบฝน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลพิจิตร นอกจากนี้ ยังพัดผลผลิตมะปราง มะยงชิด มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองใกล้เก็บเกี่ยวส่งออกร่วงหล่นจำนวนมากตามแรงลม

ส่วน จ.พิษณุโลก นอกจากบ้านเรือนหลายหมู่บ้าน ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ ถูกพายุฝนกระหน่ำเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน ยังมีนาข้าวที่กำลังออกรวงกว่า 1,000 ไร่ มีสภาพราบเรียบไปกับพื้นและมีน้ำท่วมขัง ต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนสายท่างาม-แก่งเจ็ดแคว บางจุดพาดสายไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าขัดข้อง

ที่ จ.ยโสธร ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนเช่นกัน โดยอาคารเรียน 2 ชั้น โรงเรียนบ้านแดงประชาสรรค์ ต.พระเสาร์ อ.มหาชนะชัย แรงลมหอบหลังคาสังกะสีหายไปทั้งแถบ สื่อการเรียนการสอนเปียกน้ำเสียหาย ซึ่งนายมนตรี สิงห์ชา ผู้อำนวยการโรงเรียน รายงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) เขต 1 ถึงความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 300,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนถูกลมพัดหลังคาปลิวหายไปทั้งหมด 11 หลัง ยุุ้งเก็บข้าวเปลือก 4 หลัง ต้นมะม่วงหักโค่นนับ 1,000 ต้น ล่าสุด อบต.พระเสาร์ นำช่างโยธาออกสำรวจพื้นที่ พร้อมจัดหาเต็นท์ให้ชาวบ้านพักอาศัยชั่วคราวระหว่างรอการซ่อมแซม.-สำนักข่าวไทย

2009-03-31 18:04:35

วางระเบิดร้านเสื้อผ้ามือสองที่ยะลา บาดเจ็บ 2​

​

ยะลา 31 มี.ค. - พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา นำชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจาก ตชด.44 ตรวจสอบความเสียหายร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ริมถนนสุขยางค์ หมู่ 2 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา หลังเกิดเหตุระเบิดช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (31 มี.ค.) เจ้าของร้านบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายวิจิตร สุรมโนกุล อายุ 64 ปี กับนางอรทัย สุรมโนกุล อายุ 54 ปี

การตรวจสอบพบว่าเสื้อและโต๊ะภายในร้านเสียหายหลายรายการ รวมทั้งชิ้นส่วนของระเบิดกระจายเกลื่อน และเศษวงจรอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านพร้อมชายวัยรุ่นนั่งซ้อนท้ายมา 2 คน อายุประมาณ 25-27 ปี ซึ่งเข้ามาทำทีเดินเลือกซื้อเสื้อผ้า และพูดคุยกับเจ้าของร้านก่อนกลับไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งสเกตช์ภาพของผู้ก่อเหตุ เพื่อติดตามจับกุม เนื่องจากพยานสามารถจำใบหน้าชายทั้งสองได้. - สำนักข่าวไทย

2009-03-31 15:57:34

จนท.เร่งช่วย โลมา เฟรเซอร์ ติดเลนเกยหาด ภูเก็ต​

​

ภูเก็ต 31 มี.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา มูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบโลมาขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร ติดเลนอยู่ห่างจากชายหาดปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 50 เมตร จึงเร่งนำโลมาลงไปยังน้ำลึกและพยุงตัวไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่ จากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลนภูเก็ต เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาล เนื่องจากโลมาเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมามุงดูจำนวนมาก

ต่อมา นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมงประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก พร้อมด้วย น.ส.พ.สนธยา มานะวัฒนา นายสัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนภูเก็ต เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมฉีดยากันช็อกให้โลมา 1 เข็ม จากนั้นได้นำกลับไปปฐมพยาบาลที่สถาบันฯ อย่างเร่งด่วน โดยระบุว่า เป็นโลมาพันธ์

 

ออสเตรเลียหย่อนอาหารให้เมืองที่ถูกน้ำท่วมตัดขาด​

​

ซิดนีย์ 2 เม.ย.-นายสตีฟ แวน รัฐมนตรีบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย เผยว่า เฮลิคอปเตอร์ได้นำอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปหย่อนให้ประชาชนราว 2,300 คนที่ตกค้างตามบ้านเรือนจากน้ำท่วมฉับพลัน ทางแนวชายฝั่งตะวันออกของประเทศในวันนี้

นายแวนระบุว่า เหตุน้ำท่วมฉับพลันทำให้ขณะนี้ยังมีประชาชน 2,270 คนตกค้างตามบ้านเรือน และได้รับการปันส่วนฉุกเฉินแล้ว เพราะคาดว่าประชาชนจะถูกน้ำท่วมตัดขาดจนถึงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งหน่วยบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของรัฐจะเฝ้าติดตามสวัสดิภาพของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง และจัดส่งอาหารไปให้ทางเฮลิคอปเตอร์

น้ำท่วมฉับพลันในหลายเมืองรอบอ่าวคอฟส์ ฮาร์เบอร์ ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางเหนือราว 570 กม. เมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านหลายพันคนติดอยู่ตามบ้านเรือน และอีกหลายร้อยคนต้องอพยพหนีน้ำ และในวันนี้ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ประกาศเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติเพิ่มเติมในเขตคลาเรนซ์ แวลลีย์

สำนักอุตุนิยมวิทยายังคงประกาศเตือนการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต่อไป คาดว่าคืนนี้จะมีฝนตกหนักทางตอนเหนือของอ่าวคอฟส์ ฮาร์เบอร์ ส่วนชายหาดส่วนใหญ่ยังคงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเนื่องจากไม่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

2009-04-02 15:28:00

ที่มา http://news.mcot.net

 

​

พระพุทธเจ้าทรงสำแดงยมกปาฏิหาริย์ ข่มพวกเดียรถีย์ที่ต้นมะม่วงคัณฑามพฤกษ์

ภาพที่เห็นนั้น เป็นตอนพระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ที่เมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ในวันเพ็ญกลางเดือนแปดก่อนวันเข้าพรรษาหนึ่งวัน

ปาฏิหาริย์ คือ การแสดงให้คนเห็นเป็นที่อัศจรรย์ ซึ่งสามัญชนหรือคนที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อนแสดงไม่ได้ มีตั้งแต่อย่างต่ำ เช่น เล่นกล หรือที่เรียกว่าแสดงปาหี่ ขึ้นไปจนถึงเดินบนน้ำ ดำดิน ลุยไฟ กลืนกินตะปู ที่พวกฤาษีแสดง ตลอดถึงการเหาะเหินเดินอากาศที่ผู้มีฤทธิ์แสดง ปุถุชนแสดงได้ พระอรหันต์ผู้ได้ฌาณได้ฤทธิ์ก็แสดงได้

ยมก แปลว่า คู่หรือสอง ยมกปาฏิหาริย์ คือ การแสดงคู่ น้ำคู่กับไฟ คือเวลาแสดง ท่อน้ำใหญ่พุ่งออกจากพระกายเบื้องบนของพระพุทธเจ้า เปลวไฟพุ่งเป็นลำออกจากพระกายเบื้องล่าง เป็นต้น

ยมกปาฏิหาริย์แสดงได้แต่ผู้เดียว คือผู้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ส่วนพระอรหันตสาวก และเดียรถีย์ ฤาษีชีไพรแสดงได้แต่ปาฏิหาริย์ธรรมดา เช่น เดินบนน้ำ ดำดิน เป็นต้น

สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ครั้งนี้ คือที่โคนต้นมะม่วง หรือ คัณฑามพฤกษ์ ในเมืองสาวัตถี มูลเหตุที่ทรงแสดงคือ เพราะพวกเดียรถีย์นักบวชนอกศาสนาพุทธ ท้าพระพุทธเจ้าแข่งแสดงปาฏิหาริย์ว่าใครจะเก่งกว่ากัน พวกเดียรถีย์ทราบว่าพระพุทธเจ้าจะแสดงยมกปาฏิหาริย์ที่โคนต้นมะม่วง จึงให้สาวกและชาวบ้านที่นับถือพวกตน จัดการโค่นต้นมะม่วงเสียสิ้น ทราบว่าบ้านใครสวนใครมีต้นมะม่วงก็ใช้อิทธิพลทางการเงินซื้อ แล้วโค่นทำลายหมด แม้หน่อมะม่วงที่เกิดในวันนั้นก็ทำลายไม่เหลือ

แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ที่โคนต้นมะม่วงจนได้ โดยมีผู้นำผลมะม่วงสุกมาถวาย ทรงฉันเสร็จแล้ว รับสั่งให้คนปลูกเมล็ดลงดิน แล้วพระองค์ทรงใช้น้ำที่ล้างพระหัตถ์รด ปรากฎว่าหน่อมะม่วงโตพรวดพราด แตกกิ่งก้านสูงขึ้นถึง ๕๐ ศอก ผลที่สุดพวกเดียรถีย์พ่ายแพ้ไป

ที่มา http://84000.org/tipitaka/picture/f62.html

___________________________________________________

ข่าวดี ชาวโลกจะได้พบพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์​

พระศรีอริยเมตไตรยนั้น ท่านลงมาเกิดกึ่งพุทธศาสนานี้ จากนี้ไปคุณอาได้เห็นแน่ครับ เทวดาท่านบอกผมมาอย่างนั้นนะ ผมขอยกข้อความกระทู้ที่ได้เคยพิมพ์ไปแล้วบางส่วนมานะครับ และที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า

"หลังจากกึ่งพุทธกาลแล้ว พุทธศาสนาจะรุ่งเรืองอีกวาระหนึ่ง และก็จะมีพระอริยเจ้ามากคล้ายสมัยพระองค์อยู่"

ทราบไหมครับว่าจะเริ่มเกิด ตอนไหนครับ บอกให้ก็ได้ครับ ไม่เกินปลายปี 2549 ครับ พระมหาโพธิสัตว์ ที่เป็นตัวการในครั้งนี้มีชื่อว่า "ศรีอาริยเมตไตรย" ก็เพราะพระมหาโพธิสัตว์องค์นี้ลงมาเกิดนั่นละครับ ทำให้มีพระโพธิสัตว์หลายองค์ ที่ลงมาเกิดทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่บารมีต้นถึง ปลายปลาย บางท่านก็ลงมาก่อน เริ่มตั้งแต่หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จนถึงปัจจุบัน

ท่านลงมาส่วนหนึ่งก็เพื่อปูทางให้กับพระศรีอาริยเมตไตรย สังเกตุไหมครับ ปัจจุบันนี้มีหลายท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ เป็นจำนวนมากเพราะเหตุนี้ละครับ บางท่านลงมาแล้วก็ลาพุทธภูมิเลยก็มี

"ศรีอาริยเมตไตรย" ที่ลงมาจุตินั้น มีคำทำนายที่เกี่ยวกับตัวท่านมากมาย คือ ง่ายๆเลยตั้งแต่หัวจรดเท้า มีผู้ที่ทำนายหมดแล้วว่ามีตำหนิที่ร่างกายอะไรบ้าง
ตัวอย่างที่พระพุทธเจ้า คำทำนายไว้ว่า พระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรย ลงมาเกิดกึ่งศาสนานั้น จะมีแผลเป็นดุจรอยหนูเจาะที่ศรีษะท่าน ที่ผมบอกคำทำนายของพระพุทธเจ้า นี้ไว้เพราะว่าถ้าเห็นหน้าท่านขึ้นมาจะได้รู้ว่าเป็นใคร ลองไปซื้อหนังสือ เรื่องศรีอาริยเมตไตรย โดยรหัสยญาณนะครับ แล้วลองไปอ่านดูว่าท่านเป็นอย่างไร

การจะทำให้พุทธศาสนารุ่งเรืองอีกวาระหนึ่ง และมีพระอริยเจ้ามากคล้ายสมัยพระองค์อยู่นั้น ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาไม่สามารถทำได้แน่ ผู้ที่จะทำได้ขนาดนี้ ต้องมีทั้ง บุญบารมีและอิทธิฤทธ์ รองจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้นก็คือ พระมหาโพธิสัตว์นามว่า "ศรีอาริยเมตไตรย" ซึ่งถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ที่เป็นรุ่นพี่ของพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ และเหตุการณ์ที่ผมบอกนี้ จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับพระโพธิสัตว์ท่านนี้เพียงท่านเดียว

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ บอกว่า " อภิญญาจะปรากฏขึ้นจนเป็นสาธาณะ ปี 2545 " แต่ก็ยังไม่เห็นใช่ไหมครับ เพราะอะไร ก็เพราะบุคคลคนนี้คนเดียวละครับ ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคนผู้นี้คนเดียวครับ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าท่านผู้นี้ จะสอนทั้งพุทธภูมิและสาวกภูมิครับ เป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านอภิญญามากที่สุดครับ

ถ้าสิ่งที่พิมพ์มานี้ไม่เป็นจริง พระพุทธเจ้าท่านจะทรงพยากรณ์ไหมครับ ผมขออธิบายเรื่อง "ศรีอาริยเมตไตรย" ที่ท่านมาเกิดนิดหนึ่งนะครับ นอกจากพระพุทธเจ้าท่านจะทรงพยากรณ์แล้ว ยังมีอีกหลายท่านครับ เช่น พระครูอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ) และหลวงปู่มั่น ท่านก็ยังบอกไว้ในหนังสือทิพย์อำนาจของหลวงปู่เส็ง ท่านเรียกว่า "พระมหาโพธิสัตว์"

นอสตราดามุส ท่านเรียกว่า "ศรัทธาใหม่" นิสัยที่ นอสตราดามุส ทำนายไว้ก็ตรงกับ "พระศรีอาริยเมตไตรย" ท่านผู้นี้มีอิทธิฤทธิ์ครับ

ผมเอาเรื่องนี้มาบอก ไม่ต้องการมาปลุกปั่นเรื่องนี้นะครับ แต่บอกไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติเวลาอีกไม่นาน ท่านคงได้เห็นแน่ครับ แล้วถ้าท่านปรากฏตัวออกมาจริงก็คงไม่บอกว่าเป็นใครครับ ท่านจะบอกว่าเป็น "พระศรีอาริยเมตไตรย" เพื่ออะไร คนที่เป็นนั้นท่านไม่บอกพูดบอกเพื่อโฆษณาตัวเองแล้วครับ

พระมหาโพธิสัตว์ นั้นใจท่านสูงครับ ความอวดไม่มีแล้วครับ ส่วนพระมหาโพธิสัตว์ที่มาเกิดนั้น ท่านรักษาศีล 5 เป็นปกติครับ ทำแต่ความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง และก็ปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนาครับ ซึ่งพระมหาโพธิสัตว์ท่านอื่นก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน ส่วนตำหนิที่มีผู้ทำนายพระศรีอาริยเมตไตรยนั้น ตรงกับตัวท่านทุกประการครับ

ปัจจุบันท่านก็ปฏิบัติของท่านอยู่ครับ ผมว่าไม่ต้องไปสนใจมากครับ ฟังหูไว้หูดีที่สุด ถึงเวลาแล้วเห็นเองครับ วันหลังเดี๋ยวผมไม่อธิบายเรื่องนี้แล้วดีกว่า เดี๋ยวสนใจแต่เรื่องนี้ไม่สนใจเรื่องการปฏิบัติคงจะมีดีแน่เลยครับ เรื่องแปลกที่รู้มามีมากกว่านี้อีกครับ

ขอบคุณครับ

abmin จากเว็บพระธรรม


***************************************************​