สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

สงสัยจะฉลาดมากไปหน่อย เลยรู้กันอยุ่สองคน รับกันเองสองคน ประมาณว่า ดูรูปโจวเหวินฟะ แล้วบรรลุธรรม
อ้างไปเรื่อง ดูกิเลส ดูกาย ไปโน่น มีรับรองว่า แจ่มด้วย

ผมไม่เห็นว่า มันจะมีอะไร มันมีแต่ความเพ้อเจ้อในตัวคุณ ทั้งคู่นั่นแหละครับ ผมก็พูดตรงๆ พอพูดตรงๆ โน่น แถไปเรื่องไหนต่อไหน
นั่นแหละครับ กิเลส

ขอโทษนะครับที่ผมไม่ค่อยรักษาหน้าใคร นอกจากรักษาธรรม

 

นั่นสินะ ควรคุยกับคนที่คุยรู้เรื่อง เพื่อ ลดกรรม
ไม่มีใครทำร้ายเราได้ มีแต่เราที่ทำร้ายตนเอง ปาดคอตัวเอง ให้คนอื่นดู ก็มี

ปล. ข้อความนี้ อาจเข้าข่าย อกุศลกรรมบท 10

 

จะดูจิต จะเอาวิปัสสนากัน ก็อย่าลืมรากฐานของวิปัสสนานะครับ สมาธิเติมมันบ้าง เดี๋ยวมั่วแต่ดูจิต จิตส่งใน จิตส่งนอก ไม่รู้ตัว ^-^

 

เด็กพิเศษ ในความหมายของคุณขวัญ ไม่รู้ว่าหมายถึง ออทิสติก หรือเปล่านะ
แต่เรื่องที่เราเล่า ประเด็นคือ เด็กยุคใหม่มีความก้าวร้าวสูง เนื่องจากการเลี้ยงดูที่ตามใจ
เรายกเรื่องนี้มา เพื่อชี้ว่า การจะบอกว่าแต่ละคนคิดและทำต่างกันเพราะมีเหตุผลของตัวเอง มีคนบางกลุ่มที่เข้าใจ บางกลุ่มไม่เข้าใจ
แบบนี้เป็นกิเลสนะ ดูออกไหมเนี่ย มันเหมือนกับบอกว่า "ฉันจะคิดของฉันอย่างนี้ คนอื่นคิดอย่างไร ก็แล้วแต่ แตกต่างกันไป มีบางคนเข้าใจฉันก็พอ" คุณว่าตลกดีไหมล่ะ กิเลสเนี่ย หุๆๆๆ
แล้วยิ่งคุณนิวรณ์มาแบ่งแยกว่า มีการปฏิบัติหลายแนว ต่างแนวทางคุยกันไม่รู้เรื่อง อันนี้ก็ไม่ถูกต้อง ชี้ให้เห็นว่า ธรรมไม่ครอบ ไม่เป็นกลาง และที่สำคัญ ไม่ใช่ธรรม

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>โชแปง, haha4959, jinny95, ขันธ์, หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นั่นมันเรื่องของครูอนุบาลแล้วมั๊งครับ
ถ้ามีปัญหาอย่างที่ว่าจริง คงต้องเรียนตามสถาบันที่เหมาะสมแล้วล่ะ
ไม่เรียนมาถึงมหาลัยนี่หรอก
แต่ว่า คุณกำลังหลงประเด็นนะครับ กระชับเข้ามาหน่อย อย่าแตกออก...!

 

อะไรของคุณนิวรณ์ ไปถึงบุพการีโน่น เกี่ยวกันไหมเนี่ย...แล้วคนเสื่อมศรัทธา มีศรัทธาอะไรยังไง เรื่อยเปื่อย

 

เด็กออทิสติก เป็นกลุ่มหนึ่งของเด็กพิเศษ แต่ที่เราพูดถึงนั้น หมายถึงกลุ่มสมาธิสั้น ที่อยู่ร่วมกับคนปกติ แต่เรียนรู้อย่างคนปกติไม่สมบูรณ์ ต้องมีวิธีการเรียนการสอน ที่พิเศษเพิ่มเติม แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ อาการจะเป็นน้อยลงเพราะสมองรับตัวเข้าสู่สมดุลย์

ประเด็นคือ เราต้องการบอกว่า คนมีหลายแบบ มีหลายลักษณะ จะใช้รูปแบบเดียวไปตัดสินคนบางกลุ่ม ที่เขาไม่เหมือนเรา จะเป็นการตัดสิทธิ และการเรียนรู้ของเขา และอาจเป็นเหตุไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกัน

ถ้าพูดแล้วไม่เข้าใจ ก็หยุดเถอะ จะกลายเป็นว่า พูดอย่างหนึ่ง เข้าใจอย่างหนึ่ง

 

คุณ นิวรณ์ คุณนั่นมันมารเข้าแทรก
เรื่อง เด็กพิเศษนั้นมันไกล จากตรงนี้มาก
เรื่องเข้าใจ เพื่อน ก็ไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจอะไรมาก เพราะจะไปทึกทักเอาเองยังไง

สำหรับ วิมุตติ เขาก็ทำดีอยู่แล้ว คุณไม่ต้องไปเตือนเขาหรอกครับ

 

คุณลองสังเกตุ นักศึกษาของคุณดูสิ ว่ามีพวกที่ก้าวร้าว แอบแฝงอยู่บ้างไหม
พวกที่คิดนอกกรอบ แปลกๆ ตามสถิติมี 5-10% อยู่รวมกับคนปกติ บางคนเป็นก็ไม่รู้ว่าเป็น เดี๋ยวนี้เขามีแบบทดสอบ ให้ทำในโรงเรียนถึงระดับมัธยม ยังพบว่ามีเลย พวกที่เรียนไม่จบป.4 แต่ประดิษฐ์หรือเก่งทางเครื่องจักรกล หรือคิดค้นเก่งๆ ในเมืองไทยมีเยอะ ก็เข้าข่ายคนพิเศษนี้เหมือนกันนะ มีพรสวรรค์ในงานเฉพาะด้าน ที่เด่นกว่าคนอื่น

ปล.อยากบอกว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา สังเกตตัวเอง และคนอื่น เห็นความจริง ยอมรับในความต่าง เพราะ ทำกรรมมาไม่เหมือนกัน และรับกรรมไม่เหมือนกัน และบางทียังไม่ถึงเวลาที่รู้ธรรมมันก็ยังไม่เข้าใจอยู่นั่นเอง แต่พอถึงเวลาจะได้รู้ธรรม แค่เห็นใบไม้ไหว ก็เข้าใจธรรม

 

ปัญหาคือธรรมะไม่ได้ หรือ ไม่ได้ธรรมะ

 

ปัญหา คือ เข้าถึงธรรม หรือเข้าไม่ถึงธรรม ต่างหาก
ได้มา ไม่ได้มา ไม่ใช่สาระ
ได้มา ใช้ไม่เป็น ก็ไร้ประโยชน์
เมื่อเข้าถึงแล้ว ย่อมเป็นไปโดยไม่ต้องอาศัยเจตนา

;aa24

 

8ib8ib

ถ้า มี มีดไม้ ก็ เอา ไปจี้หัวจ่อปาก แล้ว บังคับให้ตอบไปเลย

ถ้า ตอบ ไม่ ถูก ใจ จะ ยิงหัวทิ้ง

ตกลงจะขอให้เค้าตอบให้ตรงใจท่าน ว่างั้น

 

มองตัวเอง มองคนอื่นทำไม ก๊ะ อิอิ

เข้ามาบ่นคร้า ขอประทานอภัย หุหุ

 

อาจานเกสท์ ผมไม่แปลกใจกับคำตอบในคคห.ของคุณเลย
ทุกครั้งที่คุณจะเลี่ยงตอบคำถามผม มักออกอาการแบบนี้เป็นประจำ
เช่นการปฏิบัติของผมเด็กๆบ้างหละ แค่เด็กประถมบ้างหละ
มีความรู้แค่เด็กอนุบาลบ้างหละ เที่ยวนี้เด็กลงไปอีกแค่เนอร์สเซอรี่
หวังว่าเที่ยวหน้าผมคงไม่กลายเป็น....ไปหละ...จำไว้นะ

ขอเถอะอาจานเกสท์ อย่าทำตัวเป็นเด็กเหลือขอ เก้อ

 

ขอให้เป็นธรรมที่ตรงต่อพระบรมศาสดา
ถึงจะไม่ถูกใจใคร จะฆ่าให้ตายก็ช่างมัน

;aa24

 

มอง กับ สังเกต เหมือนกันไหม คะ

พอดี เกิด สงสัย ว่า เข้าใจ ตรงกัน ไหม คะ

 

ไม่สงสัยดีกว่าไหม สงสัยมาก ก็ตีความมาก ให้ปัญญาภายในเขาบอกเองดีกว่าไหม

ความรู้ภายในมีมากมาย ไปสนใจแต่ภายนอก แล้วเมื่อไหร่จะเจอ

 

1.สงสัย แล้วถาม เพื่อ คลายสงสัย และ กระทบให้รู้ว่า เข้าใจตรงกัน ไหม

2.ถ้าไม่ใส่ใจ ผ่านไปเลย ก็ได้ ก็ดีไปอีกแบบ แบบมองข้ามไป

3.หรือ เห็นแล้ว ไม่ติดใจ ไม่สงสัย ก็ดีอีก ไม่มีอะไรค้างคา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

4. รอปัญญาภายใน คิดเองตอบเอง อาจมีผิดได้ เพราะคิดเข้าข้างตัวเอง ขาดข้อเท็จจริงจากภายนอก

พอดี มันเกิดเป็น ข้อ1. แต่ตอนนี้เลิกสงสัยแล้ว การสื่อสารสมบูรณ์ เมื่อได้ข้อมูลกลับมาถึงแม้ไม่ชัดแจ้ง ก็เอามาประกอบความคิดแล้วสรุปลงเอาเองได้ จบไปอีกแบบ แม้จะจบไม่สมบูรณ์แบบ แจ่มแจ้ง