ทำไมเวลาที่เรานั่งสมาธิจะรู้สึกเหมือนกระตุก เพื่อนๆผู้รู้ช่วยตอบกันหน่อยนะ

มีคำถามหล่ะเพื่อนๆ
ทำไมเวลาที่เรานั่งสมาธินะ ซักพักเนียหล่ะจะรู้สึกเหมือนกระตุก อธิบายไม่ถูกนะว่าเป็นไงแต่แน่ๆอาการไม่ใช่กระตุกทางร่างกายนะ และก็ พอกระตุก ก็ไม่มีไรนั่งต่อไปได้ ก็แปลกดี มันเป็นอาการของอะไรหรอ และเกิดจากอะไร และจะแก้ได้มั้ย ขอถามอีกอย่างนะ การพิจารณา ถึงสังขารตัวเอง เช่นพิจารณาถึงโครงสร้างอวัยวะภายใน หรือ เส้นเลือด เนียเรียกว่าไรดี แบบเราทำกสิณไมเป็นอ่ะ แบบเวลาร้อนๆ หรือเย็นๆ ก็จะพิจารณาร่างการตัวเลือกไปทีละส่วนๆ เช่นเอาหน้าก่อนเวลาร้อน ก็คิดถึงสมองกระดูก เลือด เส้นประสาท มันก็หายร้อนด้วยหล่ะ วิธีนี้เรียกว่ากีฬาทางจิตได้ป่าว หรืออุปทานไปเอง เพื่อนช่วยตอบหน่อยนะเราสงสัยน่ะ

 

ไม่ต้องแก้หรอกครับ อาการกระตุกเป็นอาการหนึ่งของปิติ
แต่ละคนอาการไม่เหมือนกัน
สนใจลองหาอ่านเพิ่มเติมเอานะครับ

 

พิจารณากาย เรียก กายคตานุสสติกรรมฐาน อาจารย์สายอีสานอย่างหลวงบปู่ชอบเรียก ม้างกาย ที่คล้ายกัน คือพิจารณาศพ เรียก อสุภกรรมฐาน

พิจารณาไปจนจิตเป็นสมาธิ จิตกับกายจะค่อยๆแยกจากกัน อย่างหลายๆท่านที่เป็นนักอ่าน หรือนักดูหนัง ดูละคร เวลาอินกับเรื่อง คนอื่นมาเรียกไม่ได้ยิน ก็เช่นเดียวกัน

การพิจารณากายนี้ดีมาก ชอบทำจนเป็นสามธิอย่างนี้นับว่ามีบุญวาสนามาก ไม่เรียกว่าเป็นกีฬาทางจิต แต่เป็นทางสายเอกเลยทีเดียว

 

ผมก็เป็นบ่อยๆครับ

เป็นภาวะที่จิตใจเริ่มเข้าสู่ความสงบ ดิ่งลงเรื่อยๆครับ ให้สังเกตตัวเองดูว่า บางทีหลังจากกระตุ๊ก อาจจะทันที หรืออีกแป๊ปนึง จิตจะเหมือนเลื่อนระดับ มัน สงบ มากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนที่ร่างกายกระตุก อาจจะเป็นเพราะเป็นการตอบสนองของร่างกาย ปรับตัวเองในขนาดที่จิตใจสงบลงเรื่อยๆ กระตุกเพราะมันไม่สอดคล้องกับสภาวะจิต มันจึงกระตุกเพื่อปรับตัว

ไม่ต้องไปแก้ไขอะไรน่ะครับ ที่คุณทำน่ะ ผมว่าถูกต้องแล้ว คือกระตุกก็ช่างมัน เราก็ภาวนาของเราต่อ

ส่วนการพิจารณาสังขาร ถ้าจะพิจารณา ผมแนะนำ ให้พิจารณาเบื้องต้น แค่ 5 อย่างพอ
คือ เกศา โลมา นักขา ทันตา ตะโจ แปลว่า" ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง "
พิจารณาเรียงไปเรื่อยๆ เข้าแล้วก็ออกย้อนกลับ

อ้อ!! อย่าไปคาดหวังผลอะไรจากการปฏิบัติน่ะครับ ใจเย็นๆทำไปเรื่อยๆ ให้ได้ทำก็หรุแล้ว

เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

ถูกต้องนะค๊าๆๆๆ แต่เมื่อเกิดนิมิตรใดๆขึ้น อย่าไปยึดติดนะค่ะ

 

คุณยังดีมากกว่าผมนะครับ มากๆ เลยหล่ะ ... เพราะเป็นแค่กระตุก ...
ส่วน NiNe นั้น ถึงขั้น ตกใจสะดุ้งสุดตัวเลย ... สมาธิหลุดแบบเฉียบพลัน ... จะเป็นบ้ามั๊ยเนี่ย ???...

 

คล้ายๆกัน ผมนั่งสมาธิอยู่ในห้องกลางดึก สักพักนึงจะรู้สึกกระตุกอยู่ข้างหลังเป็นจังหวะๆ คล้ายมีคนดึง
ตอนแรกนึกว่าคิดไปเอง แต่แรงกระตุกมันเริ่มแรงขึ้น ๆ
จนผมทนไม่ไหวอยากรู้เต็มที่ กลั้นใจลืมตา รีบหันกลับไปมองด้านหลัง
....
พระเจ้าช่วย
...
..

แฟนผมกระตุกบอกผม
นอนได้แล้วนั่งอยู่ได้ดึกแล้ว

*** The end ****

 

ลักษณะของการกระตุกแบบที่เห็น เป็นการเตือนสภาวะ ของ ผู้ดูแลรักษาของท่านเอง(อีกมิติ) ให้หยุดการเจริญ ฌาน เพราะเป็นระดับ ฌาน ปานกลาง เป็นระดับ หรือช่องทาง ที่ควรเจริญ ธรรม หมายถึง เจริญสิ่งที่ปรากฎ สิ่งที่เกิดขึ้นภายในของท่าน ไม่ควรเจริญในฌานต่อไป ให้ยุติ เสีย เพราะ ผู้ที่ดูแลท่าน มาเตือนแก่ผู้ปฏิบัติ ให้ดำเนิน ทางสายกลาง อย่าได้ ดำเนินฌาน ไปแนวสุดโต่ง

การดำเนินฌาน อย่าสุดโต่ง จะปลอดภัย..... สำหรับผู้ที่มีบารมีเพียงพอเท่านั้น จึงจะทำสุดโต่งได้ ....หากเราไม่แน่ใจในบารมีเรา ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอะไร? เพราะ จะทำลายโอกาส ที่เราจะเข้าใจในธรรม ในระดับที่สูงยิ่งขึ้น เอาแต่พอดีครับ

อธิบายให้มากกว่านี้ ก็ ไม่มีประโยชน์ ดำเนินตามที่ว่าไปก่อน ... ขอให้เจริญ

 

ผมเป็นแต่สัปหงก... ประมาณว่าจะหลับ

 

อาการทางกายนั่นแหละ ยังไม่ใช่ปิติอะไรหรอก เกิดจากกระแสประสาทมันเคลื่อนตัวไม่สัมพันธ์กันกับสมอง จะเป็นตอนจิตเริ่มเป็นสมาธิขั้นต้น เนื่องจากโหมดการทำงานของสมองเข้าสู่ภาวะสงบนิ่งทำให้กระแสประสาทวิ่งเร็วขึ้น แต่ในกล้ามเนื้อมันยังอยู่ในภาวะเครียดไปอีกขณะหนึ่งกระแสประสาทจึงวิ่งช้ามันจึงไม่สัมพันธ์กันก็เลยมีการกระตุกเล็กๆ ปล่อยสักพักเดี๋ยวก็หาย

 

สัปหงก ก็ ดี ดูมันไป มันจะสัปหงก ได้สักกี่น้ำ ดูมันไป ครู ทั้งนั้น ที่มา
นิวรณ์ คือ ครู ของเรา สิ่งที่มาให้เปรียบเสมือน เหตุการณ์ ที่เราจะต้องผ่าน ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง ตามสภาวะของมัน ลุยโลด ดูอย่างเดียว