โลกคือพระเจ้า...รู้หรือไม่...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ผู้รู้แจ้ง, 19 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ช่วยแปลให้

    ขาว-ปลอกคอ ทำงาน : หมายถึง กลุ่มคนทำงานมืออาชีพที่ใช้สมองเป็นหลัก

    ตรงข้ามกับ

    น้ำเงิน-ปลอกคอ ทำงาน : หมายถึง กลุ่มคนทำงานที่ลงมือ ลงแรงเป็นหลัก

    ทีนี้ หากเอามาใช้อธิบาย ปัญหาสังคมวิทยา

    white-collar : ก็คือ พฤติกรรมการใช้ความฉลาดแกมโกง การตลาดที่ไม่ดีมีข้อมูลไม่
    ตรงความเป็นจริง .... คือ การโกรง หรือ ก่ออาชญากรรมด้วยการใช้ปัญญา รูปลักษณ์ดีๆ
    กระทำโดยมืออาชีพ หรือ ใช้ตำแหน่งงาน หรือ ฐานะที่สูง ฯ

    blue-collar : ก็ปล้นกันจะๆ อะไรทำนองนั้น
     
  2. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    อ้างอิง : tro

    ตกลง ....จะต้อง เข้าถึง....ให้ได้
    ....
    หรือว่า...หลุดพ้น จาก มัน ให้ได้...หรือครับ

    **********

    แท้จริงที่กล่าวไปเป็นเพียงเล่นคำ สาระหาต่างกันไม่ จะแปลอย่างนี้ก็ได้ว่า

    "เมื่อเข้าถึงจึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นจึงเข้าถึงแล้ว"
     
  3. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    ไม่มีผู้เข้าถึง จึงไม่มีผู้หลุดพ้น
    ไม่มีผู้หลุดพ้น จึงเรียกว่าหลุดพ้น
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อโหสิ ค่ะ [​IMG]

    ชอบอโหสิกรรม ถ้ามีโอกาสจะรีบทำ (ชอบพอๆกับอนุโมทนาบุญเลยนะ [​IMG])
     
  5. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    สุขาปฏิปทา สำหรับผู้มีอินทรีย์แก่กล้าแล้ว เรารู้ตัวเองดีแค่ไหน?

    ศรัทธามีมาก ก็ดีอยู่ จะได้เป็นผู้ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ (เหมือนผม)

    ศรัทธามากไป ก็หลงได้เช่นกัน ดังนั้นจึงต้องอาศัยปัญญาควบคู่กันไป ส่งเสริมกันไป

    การปฏิบัติที่ถูกทาง เกิด ปิติ ปัสสัทธิ โอภาส ล้วนดีทั้งนั้น

    แต่หากไม่รู้แบบอุเบกขา มันก็หลงไปวิปัสสนูปกิเลสได้เช่นกัน

    ทั้งแนวทาง ทั้งผลของการปฏิบัติ ไม่อาจไปยึดอะไรไว้ได้เลย แม้เพียงอย่างเดียว

    เพราะมันก็เป็นเพียง สักแต่ว่า สักแต่ว่า สักแต่ว่า.................
     
  6. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    คำกล่าวเช่นนี้ ยังไม่พ้นจริง เพียงเข้าถึงธรรมระดับหนึ่ง แล้วเข้าใจไปว่า จิตยิ้มแล้ว...
     
  7. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    ไม่มีผู้มีจิตยิ้ม ท่านวิมุตติ
     
  8. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    ไม่มีผู้เข้าถึง ไม่มีผู้หลุดพ้น แล้วมันจะมีผู้มีจิตยิ้มได้อย่างไร
     
  9. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    สักแต่ว่า สักแต่ว่า คือการสะดุดๆ ติดๆ ขัดๆ กับสภาวะและขณะจิต
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ปฏิบัติทางไหน ก็เกิดวิปัสนูกิเลส ได้ทั้งนั้น
    ถ้าขาดสติ ถูกกิเลสครอบงำ รู้ไม่ทันกิเลสตัณหาอารมณ์ของตนที่เกิดจากจิตตน
     
  11. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    สะดุดๆ ติดๆ ขัดๆ ศีลมันก็ลุ่มๆ ดอนๆ สมาธิมันจะมีได้อย่างไร
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ทุกลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษ ย่อมมีข้อดีและข้อด้อยในตัวเอง
    ถ้ารู้ตัวแล้วรู้จักใช้ให้ถูกทาง ก็เหมือนรู้จักข้อดีข้อเสียของตนเอง
    ก็จะรู้จักใช้ข้อดี และระวังข้อเสีย ของตนเอง จึงเรียกว่าใช้ปัญญาตนช่วยเหลือตน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2009
  13. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    พูดตามทฤษฎีเลย หุๆๆๆ

    จิตยิ้มได้ ผู้มีจิตยิ้ม ไม่มี

    ผมก็ตอบไปถูกแล้วหนิครับ

    เราไม่ได้คุยกันว่า เราเป็นอย่างนั้น ตัวเราเป็นอย่างนี้แล้วนะ เน้นไปตรงสภาวะเลย...

    ปล.อย่ามาทำเท่ห์แถวนี้ มหาปาดมีเยอะ อิอิอิ
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ความรู้จริง คือ

    รู้ว่ารู้ รู้ว่าไม่รู้ แล้วจบ ที่รู้

    สิ่งที่แสดงออกมา มากกว่า รู้ หรือ ไม่รู้ คือความคิด คือสมมุติบัญญัติ

    ปล. อวิชชา อยากออกมาเท่ห์ มั่ง
     
  15. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    มันมีสภาวะมันก็มีผู้มีสภาวะสิท่านวิมุตติ
     
  16. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    แล้วที่กล่าวมา สมมติหรือเปล่าครับ...
     
  17. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    พระพุทธเจ้าท่านบอกให้หยุด ท่านก็มัวไปนั่งดูสภาวะมันอยู่นี่แหล่ะ
     
  18. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านตอบมาแบบนี้ แปลว่าไม่เข้าใจจริง

    สติรู้ ดูสภาวะ

    อะไรจะเป็นผู้รู้ ผู้ดู ก็ช่าง

    อะไรจะเป็นผู้ถูกรู้ ถูกดู ก็ช่าง

    เอาเป็นมาก เห็น รู้ แล้วกัน

    แล้วจะต้องไปมีเราเป็นผู้รู้ ดู มี สภาวะ ทำไมกันล่ะ

    รู้ไปที่รูปนามปรมัตถ์

    ท่านอย่าไปติดบัญญัติว่า ต้องมีคนดู คลาดไปแล้วล่ะท่าน
     
  19. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    เปลี่ยนจากสภาวะหนึ่งไปอีกสภาวะหนึ่งไม่รู้จบ ท่านจะนั่งดูสภาวะไปถึงเมื่อไหร่?
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ความคิดที่เป็นสมมุติบัญญัติ ที่ออกมาจาก จิต นั้นย่อมต่างกันด้วยภูมิธรรมของจิต
    จิตที่พ้นจากอวิชชา ย่อมบริสุทธิ์สว่างแจ่มใส เต็มไปด้วยปัญญา จึงแสดงออกด้วยความรู้ ที่เป็นคุณ เป็นจริง เป็นธรรมแท้

    จิตที่ยังมีอวิชชา อย่างเราๆ สมมุติบัญญัติที่แสดงออกมาจากจิตนั้น ก็ย่อมผิดเพี้ยนไม่มากก็น้อย มีแต่เราที่ต้องระวังความคิดที่ออกจากจิตตนนั้น เพราะวางใจไม่ได้ ด้วยมีอวิชชา จึงต้องหมั่น รู้ตัว รู้สึกตัว จะได้ไม่ถูกครอบงำไว้นาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...