ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    ^
    ^
    ^
    ^
    อนุโมทนา สาธุ ที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน แสดงให้เห็นว่ามีจิตใจที่บริสุทธิ์ไม่มีอคติกับคนที่ไม่รู้ คนเราบางคนบางคำพูดหรือกริยาท่าทางแสดงให้เห็นได้ชัดว่ามีอคติเหลืออยู่ จิตยังไม่บริสุทธิ์ ขอให้ท่านเจริญๆเทอญ สาธุ..
     
  2. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE width=560 border=0><TBODY><TR><TD>ดาวน์โหลดคู่มือกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศในรูปไฟล์ PDF

    01 สถานการณ์สภาพภูมิอากาศ02 ประหยัดพลังงาน
    03 อยู่เย็นเป็นสุขอย่างชาญฉลาด

    04 พลังงานแห่งอนาคต
    05 สอดคล้องกับธรรมชาติ


    เราสามารถยุติภาวะโลกร้อนได้



    [​IMG]
    [​IMG]



    01 สถานการณ์สภาพภูมิอากาศ
    อุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพิ่มขึ้น 0.8 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่การเริ่มต้นปฏิวัติอุตสาหกรรม แม้ดูเหมือนจะ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ผลกระทบนั้นมหาศาล แผ่นน้ำแข็งทั่วโลกหดตัวลงทุกปี สภาพอากาศรุนแรง และพายุหมุนเขตร้อนเพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตผู้คนนับล้าน และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้น



    ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เหมือนสิ่งที่เราเคยพบเห็นมาในอดีต ภาวะโลกร้อนกระทบไปทั้งโลก และเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในทุกประเทศและทุกทวีป แต่เราสามารถหยุดมันได้้ ภาวะโลกร้อนมิได้เป็นภัยคุกคามจากอวกาศ แต่มาจากน้ำมือมนุษย์เรานี่เองที่ปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซต์และแก๊สเรือนกระจก อื่นๆ ออกสู่บรรยากาศ​



    เรายังมีความหวัง เำพราะหากมีสาเหตุจากตัวเราเอง เราก็สามารถยุติได้ด้วยตัวเราเองด้วย โดยเทคโนโลยีที่จำเป็นนั้นมีอยู่แล้ว
    [​IMG]



    โลกของเรา - ดาวเคราะห์แห่งเรือนกระจก


    [01] รังสีจากดวงอาทิตย์ตกกระทบให้ความอบอุ่นต่อผิวโลก
    [02] พลังงานสะท้อนจากผิวโลกออกไปในรูปของความร้อน
    [03] แก๊สเรือนกระจกกักเก็บความร้อนที่เหลือไว้ในชั้นบรรยากาศ
    แต่มนุษย์กำลังรบกวน สมดุลธรรมชาตินี้





    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    [​IMG]เราต้องลดปริมาณการปล่อยแก๊สเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งภายในพ.ศ. 2593
    ประเทศอุตสาหกรรมจะต้องลดให้ได้มากถึงร้อยละ 80 หากเราทำเช่นนี้เราจะทำให้อุณหภูมิืเฉลี่ยผิวโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เห็นร่วมกันว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นอันตราย

    เรา สามารถนำแหล่งพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ แสงอาทิตย์ ลม พลังงานน้ำขนาดเล็ก ความร้อนใต้ภิภพ และชีวมวลมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของโลกได้ครึ่งหนึ่งในกลาง ศตวรรษนี้ เพียงแค่เราหยุดการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง และลงมือทำเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพทางพลังงาน โดยที่การพัฒนาเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป และเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนามีการพัฒนาที่ยั่งยืน

    เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เราไม่ต้องการสิ่งใดนอกเหนือไปจาก "การปฏิวัติพลังงาน" ซึ่งหมายถึง การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานของวิธีการที่เราผลิตพลังงาน การใช้ชีวิต และการเดินทางของเรา และพฤติกรรมของเราโดยรวม ประเทศอุตสาหกรรมต้องมีบทบาทเป็นผู้นำ ส่วนประเทศกำลังพัฒนาต้องไม่เดินตามความผิดพลาดที่ประเทศอุตสาหกรรมก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนเป็นภัยคุกคามระดับโลก ซึ่งต้องการการปฏิบัติการระดับโลก เวลาเหลืออยู่ไม่มากนัก มาร่วมกันสร้างวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสภาพภูมิอากาศกันเถอะ



    http://www.volunteerspirit.org/project/921
     
  3. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6661 ข่าวสดรายวัน


    วิกฤตแล้ง-น้ำแห้ง ชาวบ้านไม่พอใช้




    แม่ฮ่องสอน - นายคมสันต์ สุวรรณอัมพา หน.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ ในจังหวัด เริ่มลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ รับรายงานภัยแล้งจากอำเภอต่างๆ เข้ามาแล้ว 3 อำเภอจากทั้งหมด 7 อำเภอ คือ เมือง, ขุนยวม และแม่สะเรียง แต่จากรายงานพบว่าข้อมูลยังไม่เพียงพอและชัดเจน ทางปภ.สั่งให้ทางอำเภอดังกล่าวลงไปจัดทำรายละเอียดจนถึงระดับหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างแท้จริงแล้ว

    สำหรับการช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางปภ.เน้นปัญหาเรื่องน้ำบริโภคเป็นอันดับแรก รองลงมาได้แก่น้ำที่ใช้ในการอุปโภค ส่วนปัญหาเรื่องน้ำทำการเกษตร พบว่ายังไม่มีผลกระทบ ในระยะนี้ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากประชาชนที่เป็นเกษตรกรอาศัยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถจะรู้ว่าแหล่งใดที่มีน้ำและแหล่งใดที่ขาดแคลนน้ำ จะมีการหลีกเลี่ยงการเพาะปลูกพืชการเกษตรในแหล่งที่ขาดน้ำ ทำให้ไม่มีรายงานเรื่องภัยแล้งในพื้นที่การเกษตรในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเดือนเม.ย. ปัญหาภัยแล้งเรื่องน้ำที่ใช้ในการเกษตรอาจจะมีการรายงานขึ้นมาก็เป็นได้

    ล่าสุดทางจังหวัดสั่งการให้โยธาธิการจังหวัดขุดลอกหิน ทราย ในลำน้ำปาย ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก ที่ได้แห้งลงอย่างน่าเป็นห่วง และหากระดับน้ำลดลงมากกว่านี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อน้ำกิน น้ำใช้ ของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณสองข้างฝั่งลำน้ำปายอย่างแน่นอน

    หน้า 30

    ประกาศสงครามต่อสู้ไข้เลือดออก



    อุดรธานี - น.พ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ประกาศทำสงครามต่อสู้กับโรคไข้เลือดออก ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ฤดูกาลระบาดของโรค การดำเนินงานการสร้างสุขภาพจะประสบความสำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และมีการให้ความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้อง พร้อมการกระตุ้นเพื่อจุดประกายให้ทุกคนตระหนักและเห็นความสำคัญ โรคไข้เลือดออกนับเป็นโรคที่มีอันตรายและเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในแต่ละปี อุดรธานีเป็นจังหวัดที่มักมีการระบาดของโรค ล่าสุดในปี 2551 พบผู้ป่วย 297 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

    น.พ.สัญชัย กล่าวอีกว่า วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก คือ การกำจัดลูกน้ำยุงลาย จากการศึกษาพบว่าร้อยละ 95 ของลูกน้ำยุงลาย มักพบในภาชนะกักเก็บน้ำในครัวเรือน ความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ประชาชนและภาคีเครือข่ายมีส่วนสำคัญยิ่งที่จะช่วยในการป้องกันไข้เลือดออกได้ผล ดังนั้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจึงจัดโครงการประกาศทำสงครามกับโรคไข้เลือดออก ในปี 2552 โดยในปีนี้มีภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพกว่า 500 คน เข้าร่วมในโครงการ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูกาลระบาดของโรคและลดอัตราการป่วย

    หน้า 30

    ปรากฏการณ์เต็มท้องฟ้า ดาวล้อมเดือน-จันทร์บังพฤหัสฯ-ลู่หลิน



    [​IMG]
    เมื่อเช้ามืดวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 นอกจากเป็นวันที่ดวงจันทร์เคลื่อนไปอยู่ท่ามกลางดาวเคราะห์ 3 ดวง ได้แก่ ดาวพุธ ดาวอังคาร และดาวพฤหัสบดี ยังเป็นวันที่ประเทศไทยและพื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีปเอเชียเห็นดาวพฤหัสบดีถูกดวงจันทร์บัง

    ปรากฏการณ์ในเช้ามืดวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เริ่มต้นขณะที่ดวงจันทร์ปรากฏอยู่ต่ำใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออก จึงสังเกตได้ยาก โดยเฉพาะในกรณีที่มีหมอกบดบังในบริเวณใกล้ขอบฟ้า แม้ท้องฟ้าปลอดโปร่งปราศจากเมฆ

    ดวงจันทร์บังดาวพฤหัสบดีที่เห็นได้ในประเทศไทยครั้งที่ผ่านมา เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันที่ 19 กรกฎาคม 2544 แต่เห็นได้เฉพาะภาคใต้ตอนล่างเท่านั้น และหลังจากครั้งนี้ก็จะเกิดอีกในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 เห็นได้เฉพาะภาคใต้ตอนล่างอีกเช่นเดียวกัน สำหรับในกรุงเทพฯ เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2541 และหลังจากปีนี้จะเกิดอีกครั้งในวันที่ 25 ตุลาคม 2577

    ส่วนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นวันที่ดาวหางลู่หลินที่ส่งแสงสีเขียวจากก๊าซพิษ เริ่มโคจรเข้าใกล้โลก และปลายเดือนมีนาคมคาดว่าดาวหางจะจางลงไป จากการศึกษาพบว่า วงโคจรของดาวหางลู่หลินเกือบเป็นพาราโบลา แสดงว่านี่อาจเป็นครั้งแรกที่มันเคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ระนาบวงโคจรเอียงทำมุม 178 องศา กับระนาบวงโคจรโลก มันจึงเคลื่อนที่สวนทางกับทิศทางการเคลื่อนที่ของโลกและดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ มันเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2552 ที่ระยะห่าง ประมาณ 181 ล้านกิโลเมตร ก่อนจะใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ระยะห่างประมาณ 61.5 ล้านกิโลเมตร

    ลู่หลิน
    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/KGMNduikM28&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    หน้า 28

    จระเข้ด่างขาวสมบูรณ์-สัตว์หายากมีแค่1ใน5ล.



    [​IMG]
    "บูย่า บลอง" หรือ "เจ้าหมอกสีขาว" อายุ 22 ปี เป็นจระเข้สีขาวซึ่งอาศัยอยู่ที่เกเตอร์แลนด์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มันไม่ใช่จระเข้เผือก แต่เป็นอาการที่เรียกว่า "ด่างขาวสมบูรณ์" นับเป็นอาการทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากยีนจะไปลดสีของผิว โดยโอกาสที่จระเข้ "ด่างขาวสมบูรณ์" เกิดคือ 1 ใน 5 ล้านตัว

    นายทิม วิลเลียมส์ เจ้าหน้าที่เกเตอร์แลน
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ด์ กล่าวว่า "จระเข้ขาวที่มีตาสีฟ้านี้มีผู้ชอบเข้าชมกันมาก มันก็เหมือนกับจระเข้อื่นๆ กินอาหารชนิดเดียวกัน แต่โอกาสที่มันจะมีชีวิตรอดอยู่ในธรรมชาตินั้นมีน้อย แม้ว่ามันจะมีลำตัวยาว 10-11 ฟุต แต่ความที่เป็นสีขาวทำให้หลบซ่อนตัวยาก เป็นเป้าของนักล่าอื่นได้ง่าย"

    สำหรับ "บูย่า บลอง" นี้มีผู้พบมันที่หนองน้ำในรัฐนิวออร์ลีนส์ เมื่อนำมาที่เกเตอร์แลนด์ สวนสัตว์จะต้องสร้างที่อยู่ให้มันใหม่ เนื่องจากจระเข้ "ด่างขาวสมบูรณ์" แพ้แสง พวกมันจะอยู่กลางแจ้งโดนแดดตรงๆ ไม่ได้ แม้พวกมันต้องการวิตามินดีซึ่งสามารถได้รับจากแสงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่สามารถตากแดดได้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องผสมวิตามินดีในอาหารให้แทน
    ปลาเดิน



    [​IMG]
    ปลาหน้าตาแปลกตัวนี้มีชื่อว่า "ฟร็อกฟิช" หรือ "Antennarius striatus" มันเป็นปลาเดินได้และกำลังเดินช้าๆ อยู่บนพื้นใต้ระดับน้ำทะเล 15 เมตร "ฟร็อกฟิช" ชอบอาศัยอยู่ตามโขดหินและปะการังในทะเลเขตร้อน

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/F8VyOuJ8Uak&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    หน้า 28


    ดาวเคราะห์จากระบบสุริยะอื่น

    หมุนก่อนโลก



    [​IMG]นักดาราศาสตร์ประสบความสำเร็จในการสร้างภาพที่ได้จากการสำรวจดาวเคราะห์ที่แสดงสภาพบรรยากาศของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอื่นได้เป็นครั้งแรก

    คณะนักดาราศาสตร์นำโดย เกรเกอรี ลาฟลิน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในซานตาครูซ ทำการสำรวจดาวเคราะห์ "เอชดี 80606บี" (HD 80606b) ซึ่งเป็นดาวเคราะห์แก๊สยักษ์ที่มีมวลมากกว่าดาวพฤหัสบดีสี่เท่า โดยข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์นี้เป็นข้อมูลที่สำรวจในย่านรังสีอินฟราเรดโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ของนาซ่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทั้งก่อนหน้าและหลังที่ดาวเคราะห์ดวงนี้จะโคจรมาเข้าใกล้ดาวฤกษ์แม่ที่สุด

    ภาพของเอชดี 80606บี ที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงเสี้ยวสีน้ำเงินบางเฉียบในด้านที่หันออกจากดาวฤกษ์ ส่วนอีกด้านหนึ่งมีสีแดงสด แสดงถึงโลกที่มีความแตกต่างอย่างสุดขั้วระหว่างกลางวันและกลางคืน

    การสำรวจนี้มีโชคเข้าข้างอยู่ด้วย จากมุมมองของกล้องสปิตเซอร์ ดาวเคราะห์ดวงนี้ลบไปอยู่หลังดาวฤกษ์ หรือปรากฏการณ์อุปราคาทุติยภูมิ ในช่วงก่อนที่อุณหภูมิของดาวเคราะห์จะขึ้นสูงสุด ทำให้ยานสามารถวัดอุณหภูมิของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์แยกจากกันได้

    สปิตเซอร์พบว่า ช่วงที่ดาวเคราะห์เข้าใกล้ดาวฤกษ์ที่สุด อุณหภูมิจะพุ่งขึ้นสูงถึงประมาณ 1,230 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนยิ่งกว่าลาวาเหลวจากภูเขาไฟเสียอีก

    เมื่อบรรยากาศของดาวเอชดี 80606บี ร้อนขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น จะทำให้เกิดพายุใหญ่รุนแรงพัดจากด้านกลางวันไปยังด้านที่เป็นกลางคืนด้วยความเร็วถึงห้ากิโลเมตรต่อวินาที การหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์ก็ทำให้พายุม้วนเป็นวงก่อเป็นระบบพายุขนาดใหญ่ ซึ่งจะสลายตัวไปเมื่ออุณหภูมิของดาวลดลง

    ดาวเอชดี 80606บี ถูกค้นพบโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ชาวสวิสที่หอดูดาวเจนีวา ในปี 2544 โคจรรอบดาวฤกษ์เป็นวงรีครบรอบทุก 111.4 วันโลก เป็นหนึ่งในจำนวนดาวเคราะห์ระบบสุริยะอื่นประเภท "พฤหัสร้อน" ประมาณสิบสองดวงที่หมุนรอบตัวเองด้วยอัตราเท่ากับการโคจรรอบดาวฤกษ์ จึงหันหน้าเข้าหาดาวฤกษ์เพียงด้านเดียวและเป็นกลางวันตลอด ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นกลางคืนตลอด

    เนื่องจากวงโคจรเป็นวงรีมากเหมือนไข่ไก่ ช่วงที่ดาวเคราะห์อยู่ใกล้ดาวฤกษ์มากที่สุดได้รับรังสีรุนแรงกว่าช่วงที่อยู่ไกลดาวฤกษ์ที่สุดถึงกว่า 800 เท่า

    ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีการค้นพบดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอื่นมาแล้วร่วม 330 ดวง แต่นักดาราศาสตร์เชื่อว่ายังมีอีกจำนวนมากมายมหาศาลที่รอการค้นพบอยู่

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/hXrT3tFRA98&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    หน้า 28


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 298 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6661 ข่าวสดรายวัน


    บ้านโดมพลังงานสีเขียว-ไอเดียจากยุคกลาง




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>บ้านทรงโดมหลังนี้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน แต่รูปแบบของบ้านนำมาจากการก่อสร้างในยุคกลางที่เริ่มออกแบบกันตั้งแต่ ค.ศ. 1382 ที่ประเทศสเปน

    เจ้าของบ้านโดมชื่อนายริชาร์ด ฮอว์กส์ มีอาชีพเป็นสถาปนิก กล่าวว่า "การออกแบบในลักษณะนี้เรียกว่าทิมเบรลวอลต์ติ้ง ก่อสร้างด้วยอิฐบาง ทำให้บ้านมีน้ำหนักไม่มากแต่คงทน นอกจากนี้ยังใช้คอนกรีตน้อย ตัวบ้านรักษาความร้อนได้ดี ทำให้บ้านอบอุ่น ที่หลังคามีการติดตั้งเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ สร้างกระแสไฟฟ้าได้ 3,600 กิโลวัตต์อาวร์ เราไม่ต้องจ่ายเงินค่าไฟ ทั้งยังได้เงินจากการขายค่าไฟในส่วนที่เหลือ" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ทั้งนี้ เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์จะจับความร้อนและนำไปไว้ยังหม้อเก็บความร้อน ซึ่งพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยหม้อเก็บความร้อนนี้สามารถเก็บพลังงานได้มากกว่าหม้อหุงต้มที่ใช้กันอยู่ถึง 7 เท่า แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วมีขนาดเล็กกว่ามาก ส่วนอากาศที่ผ่านมายังหม้อเก็บความร้อนจะไหลเวียนไปทั่วบ้านผ่านช่องอากาศ ทำให้บ้านอบอุ่น
    [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>"อุเทน-ปทุมวัน"จับมือทำบุญครั้งแรกในรอบ75ปี

    อุทิศส่วนกุศลนักศึกษาทั้ง2สถาบันที่ล่วงลับ

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 23 ก.พ. ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร รศ.ดร.สมเกียรติ จงประสิทธิพร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน นายสมพงษ์ ชีไธสง คณะบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย พร้อมด้วยนักศึกษาทั้ง 2 สถาบันจำนวน 40คน ร่วมกันทำบุญถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์จำนวน 9 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นักศึกษาที่เสียชีวิตจากเหตุตีกันก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และฟังธรรมเทศนาในช่วงบ่ายจาก พระราชพิพัฒนาทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมฯ ในหัวข้อเรื่องความสามัคคี ทั้งนี้การร่วมกันทำบุญทั้ง 2 สถาบันที่มีข่าวทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำโดยเมื่อไม่นานที่ผ่านมาก็เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 75 ปีนับตั้งแต่มีการก่อตั้งสถาบัน
    รศ.ดร.สมเกียรติ กล่าวว่า การทำบุญร่วมกันครั้งนี้เป็นความหวังและความพยายามของทั้ง 2 สถาบันมาโดยตลอด แม้นักศึกษาบางส่วนจะมีความเกเรไปบ้าง แต่ผู้บริหารก็พยายามขัดเกลา ด้วยการพัฒนาทางด้านวิชาการ และความร่วมมือ อยากให้สังคมให้โอกาสกับนักศึกษา ส่วนที่มีการพูดคุยเรื่องการเรียนร่วมกันนั้นมีมานานแล้ว โดยจะมีการผลักดันให้เริ่มตั้งแต่การศึกษาหน้า เริ่มจากปีที่1 ก่อนเนื่องจากเป็นการเรียนวิชาพื้นฐานที่สามารถเรียนร่วมกันได้
    ด้านนายสมพงษ์ กล่าวว่า คาดหวังว่าการจัดกิจกรรมครังนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี รู้สึกปลื้มใจและดีใจ ซึ่งผู้บริหารทั้ง 2 ฝ่ายก็พูดคุยกันมาตลอดโดยหวังเห็นภาพนักศึกษาทั้ง 2 สถาบันตีกันจะลบเลือนไปจากสังคม และปรองดองกันมากขึ้น จากนี้ไปก็คงจะมีการจัดกิจกรรมร่วมกันอีก เช่น ค่ายอาสา ปลูกป่าชายเลน หรือการแข่งขันฟุตบอล เพื่อสร้างความสามัคคีต่อไป
    นายอารมณ์ สมัครณรงค์ นายกองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย กล่าวว่า การทำบุญร่วมกันในครั้งนี้ก็รู้สึกดี โดยหลังจากที่มีการประชุมร่วมกันก็พูดคุยกันบ่อยขึ้น ขณะนี้ก็เป็นเพื่อนดีต่อกัน อนาคตก็อยากให้มีการจัดกิจกรรมถ้ามีการไปมาหาสู่กันอีกเรื่อยๆ ส่วนคนที่เกเรอยากให้กลับใจมาตั้งใจเรียน เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่เริ่มต้นใหม่ได้
    นายชัยณรงค์ อทุยาน นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย กล่าวว่า การทำบุญครั้งนี้เพื่อคนที่จากไป ถ้าการทำกิจกรรมร่วมกันเกิดขึ้นเร็วกว่านี้ คงไม่มีคนตาย ต่อไปหวังว่าจะไม่มีใครต้องบาดเจ็บล้มตายอีก ส่วนคนที่จากไปแล้วก็คิดเสมอว่าอยู่กับเรา อยากให้มีกิจกรรมร่วมกันอีก รวมทั้งต้องการให้สื่อมวลชนเสนอภาพดีๆ อย่างกิจกรรมวันนี้


    </TD><TD vAlign=top align=left>




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"หวัดนก"คร่าเวียดนาม



    เมื่อ 22 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า นายแพทย์ เหงียง ฮง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในจังหวัดกวางนินห์ ประเทศเวียดนาม แถลงว่า ผู้ป่วยหญิงวัย 23 ปีที่ล้มป่วยด้วยอาการติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์อันตราย "เอช 5 เอ็น 1" เสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา และนับเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนกรายแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา จากการสอบสวนพบว่าติดเชื้อเพราะสัมผัสไก่

    หน้า 7


    เหมืองจีนบึ้มเละ-ตายเจ็บนับร้อย!



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 22 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดโศกนาฏ กรรมเหมืองระเบิดสุดสยองอีกครั้งในประเทศจีน หนนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างร้อย 74 ศพ บาดเจ็บและติดอยู่ในเหมืองอีกนับร้อยชีวิต

    เหมืองถ่านหินมรณะตั้งอยู่ชานเมืองไท่หยวน มณฑลชานซี หนึ่งในเขตอุตสาหกรรมสำคัญของจีน ก่อนเกิดเหตุมีคนงานอยู่ในเหมือง 436 คน เบื้องต้นคาดว่าต้นตอมาจากก๊าซระเบิด พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 74 ราย บาดเจ็บ 92 ราย สาหัส 21 ราย ติดอยู่ในเหมืองราว 60 ราย โดยคนติดอยู่ข้างในพยายามใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกับญาติพี่น้อง เพื่อขอความช่วยเหลือ

    โศกนาฏกรรมเหมืองระเบิดครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 14 เดือน หลังจากเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2550 เคยเกิดเหตุเหมืองแร่ระเบิดเช่นกัน ดับ 105 ศพ ขณะที่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า สั่งการให้หน่วยกู้ภัยทำทุกวิถีทางช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในเหมืองออกมาให้ได้ แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย

    นายซิ่ว หวนเจิ้ง คนงานผู้รอดชีวิตวัย 27 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนกับเพื่อนร่วมชุดทำงานอยู่ห่างจากจุดระเบิด ช่วงแรกๆ ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะร้ายแรง เพราะเจ้าหน้าที่ข้างบนไม่ได้สั่งอพยพ ต่อมาไฟฟ้าดับทั้งเหมืองจึงรู้ว่าต้องหนีและใช้เวลา 50 กว่านาทีจึงเดินมาถึงปากเหมือง ระหว่างทางเป็นลมสลบไป 1 ครั้งเพราะขาดออกซิเจน ด้านคนงานไม่ทราบชื่ออีกคนเผยว่า ความจริงต้องตายไปแล้วเพราะต้องลงไปทำงานตรงจุดดังกล่าว แต่บังเอิญแลกเวรกับเพื่อนจึงรอดมาราวปาฏิหาริย์

    รายงานระบุว่า จีนมีสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในเหมืองถ่านหินสูงสุดในโลก เฉพาะในปี 2551 ทางการจีนแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต 3,200 ศพ แต่องค์กรคุ้มครองแรงงานแย้งว่ายอดที่แท้จริงสูงกว่านั้น เพราะเจ้าของเหมืองและผู้นำท้องถิ่นมักปิดข่าวความสูญเสียเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกปิดเหมือง

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
    ชาวสามง่าม2ตำบลเปิดศึกแย่งน้ำกัน เหตุผันน้ำไม่พอทำนา-นายอำเภอโร่ไกล่เกลี่ยวุ่น



    พิจิตร - บริเวณประตูระบายน้ำคลองทุ่งกระจี หมู่ที่ 16 ต.เนินปอ อ.สามง่าม มีเกษตรกรชาวนาจาก ต.เนินปอ และ ต.หนองโสน กว่า 500 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำคลองที่ชลประทานกำแพงเพชรผันมาช่วยชาวนานอกเขตชลประทานในกรณีพิเศษในพื้นที่ จ.พิจิตร 200 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยลดปัญหาภัยแล้ง โดยสาเหตุเกิดจากที่ชาวนาจำนวน 7 หมู่บ้านของตำบลเนินปอที่รับน้ำตามรอบเวรได้ 3 วัน แต่น้ำที่รับมาไม่ถึงปลายคลอง และไม่เพียงพอต่อพื้นที่นาข้าวกว่า 2 หมื่นไร่ และจะต้องถึงเวลาปิดประตูน้ำเพื่อผันน้ำไปช่วยชาวนาที่ตำบลหนองโสนตามรอบเวร แต่ชาวนาตำบลเนินปอขอให้ขุดประตูระบายน้ำฝังท่อน้ำเพิ่มขึ้นอีก 1 จุด เพื่อเพิ่มช่องระบายน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อจะขอน้ำให้ชาวนาที่เดือดร้อนหนัก ต้นข้าวอีก 2-3 วันไม่ได้รับน้ำจะแห้งตายก่อน แต่ชาวหนองโสนไม่ยินยอม อ้างว่าให้เป็นไปตามรอบเวรการจ่ายน้ำปกติ จึงเกิดการถกเถียงกันและเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมจึงเกิดทะเลาะวิวาทกัน และยึดประตูน้ำไว้ยังไม่ยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าไปขุดฝังท่อหรือเปิดน้ำได้

    ต่อมา นายวิเศษ ธีระการุนวงศ์ นายอำเภอสามง่าม และนายทวี สว่างศร ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 4 กำแพงเพชร เดินทางมาเจรจาหาข้อยุติให้ชาวนา โดยนายอำเภอสามง่ามได้เจรจากับเกษตรกรชาวนาตำบลหนองโสนนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงหาข้อยุติได้ โดยให้ชาวนาฝ่ายตำบลเนินปอขุดขยายเพิ่มท่อน้ำได้เพื่อให้ชาวนาที่ยังไม่ได้รับน้ำได้รับน้ำได้บ้าง และปล่อยน้ำให้ฝ่ายตำบลหนองโสน พร้อมๆ กับเฉลี่ยน้ำให้เท่าๆ กันรับประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นการลดข้อยุติ เบื้องต้นชาวนาพอใจและเคารพในข้อตกลงเบื้องต้น

    นายทวีศักดิ์ สว่างศร ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 4 กล่าวว่า ในปีนี้สำนักชลประทานที่ 4 โดยชลประทานกำแพงเพชรได้ผันน้ำมาช่วยชาวนาในพิจิตรในโครงการชลประทานวังบัว และโครงการชลประทานวังยาง ควบคุมพื้นที่ 5 อำเภอฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยม ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมายประมาณ 2 แสนไร่เศษ แต่ปัจจุบันเกษตรกรปลูกพืชทางการเกษตรเกินเป้าหมาย 30 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับลำคลองดังกล่าวนั้นเป็นคลองทิ้งน้ำตามธรรมชาติ ไม่ใช่คลองส่งน้ำของชลประทานจึงเป็นปัญหาและศักยภาพการส่งน้ำมาให้นั้นไม่สมบูรณ์ จึงเกิดปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการจัดสรรน้ำให้เป็นระบบและรัดกุม อีกทั้งขอยืนยันว่าน้ำที่มาจากแม่น้ำจะส่งมาถึงเดือนเม.ย.นี้ อย่างเพียงพอ

    หน้า 25

    "ชัยภูมิ"แล้งจัด-ชาวนาเดือดร้อนกว่า4หมื่น



    นครราชสีมา - จากสถานการณ์ความแห้งแล้งและสภาพอากาศที่ร้อนในขณะนี้ส่งผลให้อาชีพขายน้ำเพื่อใช้สำหรับรดต้นไม้เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ได้อย่างดงาม โดยเฉพาะที่ศูนย์จำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถือว่าเป็นแหล่งจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด ผู้ประกอบการจำหน่ายต้นไม้จำเป็นที่จะต้องสั่งน้ำมาเตรียมสำรองไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งนี้เพื่อรดต้นไม้ให้มีความชุมชื้นอยู่ตลอด เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอาจจะส่งผลให้ต้นไม้ไม่ออกดอกและใบ ทำให้ธุรกิจขายน้ำเป็นที่นิยมภายในศูนย์จำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับแห่งนี้

    ด.ช.พรชัย พิชัยสงคราม อายุ 14 ปี นักเรียน ชั้นม.3 หารายได้พิเศษด้วยการขายน้ำรดต้นไม้ เปิดเผยว่า ช่วงนี้ซึ่งมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้ตนมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำเพื่อใช้รดต้นไม้วันละไม่ต่ำกว่า 450 บาท เนื่องจากผู้ประกอบการจำหน่ายต้นไม้ต้องการใช้น้ำในการรดต้นไม้มากกว่าเดิม โดยในแต่ละวันทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนและหลังจากเลิกโรงเรียนรวมทั้งในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตนจะช่วยแม่นำรถอีแต๋นไปสูบน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อนำน้ำไปส่งตามที่ลูกค้าสั่ง

    นายวัลลภ เทพภักดี ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานล่าง ประกอบด้วย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสุรินทร์ ว่า พบว่ามีจังหวัดที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว 1 จังหวัด คือ ชัยภูมิ มีพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 3 อำเภอ 16 ตำบล 183 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 1,456 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,336 ครัวเรือน ผู้ประสบภัย 44,442 คน ได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งแล้ว พร้อมทั้งได้มีการจัดส่งเครื่องจักรกลและรถบรรทุกน้ำ 19 คัน เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 6 เครื่อง เข้าไปยังพื้นที่

    หน้า 25

    กาญจน์ทุ่มงบ5แสนช้างป่า300ตัว ลุยแก้ไขปัญหาอาหารและแหล่งน้ำช่วงฤดูแล้ง



    กาญจนบุรี - นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี ได้อนุมัติงบประมาณเป็นเงินจำนวน 5 แสนบาทให้กับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันเข้าไปดูแล เกี่ยวกับปัญหาช้างป่าที่ขาดแคลนอาหารและแหล่งน้ำในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากในพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี มีช้างป่าเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยเฉพาะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2508 ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมด 536,594 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี คือ อำเภอเมือง อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอหนองปรือ และอำเภอบ่อพลอย

    นายชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า ในอดีตที่ผ่านมานั้นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระมีแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร แหล่งโป่ง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่เหมาะสมในการดำเนินชีวิตของสัตว์ป่าที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นช้างป่า กระทิง วัวแดง กวางป่า เลียงผา เก้ง และนกชนิดต่างๆ ซึ่งพื้นที่ในอดีตและปัจจุบันนั้นแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะเกิดภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลก และการกระทำของมนุษย์เอง ทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงแก่พื้นที่อยู่อาศัย แหล่งน้ำแหล่งอาหารของสัตว์ป่าขาดความอุดมสมบูรณ์ไม่เพียงพอสำหรับสัตว์ป่าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจำนวนช้างป่าที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระจำนวน 176 ตัว ซึ่งมีพื้นที่ในการหาอาหารเป็นบริเวณกว้าง มีผลทำให้ช้างป่าบางตัวต้องออกมาหาอาหารนอกเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และทำความเสียหายให้กับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกรที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ จนทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับช้างป่าซึ่งอาจถูกทำร้าย และถูกตามล่าได้ง่ายมากขึ้น

    รอง ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีช้างป่าที่อาศัยอยู่ตามอุทยานต่างๆ อาทิ เขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ รวมทั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกรวม 124 ตัว ซึ่งรวมกับช้างป่าที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระแล้ว เท่ากับมีช้างป่าทั้งหมด 300 ตัว ซึ่งจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ดังกล่าวให้ควบคู่กันไปในคราวเดียวกันด้วย

    หน้า 28
     
  4. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    **เป็นเพราะตัวของเราเอง ไปยึดถือ ว่าควรอยู่ตรงนี้ ไม่ควรอยู่ตรงนี้**
    การที่ดวงจิตของท่าน คิดแบบนี้ เพราะว่ากิเลสของท่านเองฉุดลากให้นึก
    ให้คิดแบบนั้น มันกำลังครอบงำดวงจิตที่สว่างไสวของท่านอยู่
    **ขออนุโมทนา กับท่านด้วยที่ท่านได้ ขอขมากรรมต่อสิ่งที่ท่านได้กระทำลงไปครับ**
     
  5. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    โอ้ยย ร้อนกายจริงๆ
     
  6. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    ร้อนกายได้ แต่อย่าใจร้อนนะครับ

    ร้อนกายได้ แต่อย่าให้ใจเราร้อนนะครับ
    :z12
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2009
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    หากคุณโนอาร์ต้องการข้อมูลเพื่อการเตือนภัยพิบัติแจ้งมาได้ครับ

    และขอเป็นกำลังใจในการตั้งกลุ่มที่สกลนครครับ
     
  8. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ทำถูกต้องแล้วครับ สาธุ ครับ
     
  9. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    โปรดชี้แนะด้วยครับ

    ที่จริงแล้วผมติดตามเกี่ยวกับภัยพิบัติมาพอสมควร (ในทางโลกหรือทางวิทยาศาสตร์)
    ส่วนทางธรรมผมก็ติดตามมา ประมาณ 1-2 ปีได้ แต่ความเชื่อของผมเองผมเชื่อทางธรรมมากกว่า ทุกวันผมก็เลยฝึก สมาธิกรรมฐานบ่อยๆ ก็ได้เว็บแห่งนี้ละครับที่ให้คำแนะนำ หากสิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินทั้งกายวาจาใจก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วย
    ส่วนเรื่องข้อมูลผมก็มีบ้างพอสมควรส่วนใหญ่เป็นรูปแบบเอกสาร แล้วก็วีดีโอที่รวบรวมมาส่วนใหญ่เน้นไปทางวิทย์มากว่า แต่ใจจริงผมก็มีจิตศรัทธา อยากช่วยเพื่อมนุษย์ที่ยังไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้ จึงหาเพื่อนที่มีเจตณารมณ์เดียวกัน เผยแพร่เรื่องราวเหล่านี้ให้คนรอบข้างได้รับรู้ เลยจัดตั้งกลุ่มสกลนครขึ้น ถ้าทางเว็บจะกรุณาข้อมูลเพิ่มเติมก็ขออนุโมทนาครับ ทุกครั้งที่ผมพูดเรื่องนี้ไปส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เชื่อเท่าไหร่....ก็คงต้องพยายามต่อไป แต่ตอนนี้ผมก็คนที่เชื่อเรื่องนี้มา1 คนแล้วครับ แต่ดีที่เขาเป็นเพื่อนร่วมงาน และเป็นคนที่ทำหน้าที่เป็นวิทยากรฝึกอบรมนักศึกษาที่มาพัฒนาจิตที่วัดแห่งหนึ่ง ก็เลยเอาข้อมูลให้เขาไปแล้ว...ถ้าหากผิดพลาดไปขอภัยด้วยนะครับ ไม่มีแนวคิดด้านลบแต่อย่างใด ขอบคุณครับ
     
  10. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    :) มายิ้ม ให้กำลังใจ สร้างสรรค์ สิ่งดีๆ ต่อไป ให้สังคม จะได้เป็นสังคมสีขาว
     
  11. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    อันนี้ตรงกันครับเจตนาเดียวกันครับถ้าอย่างไรแล้วผมอาจจะแลกข้อมูลทางภูมิประเทศทางภาคใต้กับคุณพอจะมีข้อมูลทางภูมิศาสตร์ทางพื้นที่ที่คุณอยู่ให้ศึกษาไหมครับเวลานี้จำเป็นต้องรับรู้ข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกพอสมควรเพราะว่าใกล้สมควรแก่เวลาในการรีบเร่งแล้วครับ กราบขอบพระคุณคุณด้วยครับถ้ามีข้อมูลกรุณาส่งไว้ในกระทู้นี้ไม่ทราบว่าพี่ kananun กับพี่ เกษม จะอนุญาตหรือไม่ครับที่จะโพสลงบนกระทู้นี้เพราะที่ผมอยู่นั้นเป็นพื้นที่เกาะแก่งจะไม่ค่อยทราบเรื่องพื้นที่บนบกมากนักเพราะว่าถนนหนทางจะจำกัดและการเคลื่อนย้ายขนส่งทำได้ลำบากเลยต้องการข้อมูลบนบกมากๆครับ
     
  12. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775

    ยินดีแบ่งปันข้อมูลครับ เพราะเราเชื่อว่า ความรู้หลายๆอย่างนั้นเป็นประโยชน์และช่วยชีวิตคนอีกมากมายครับ

    ว่าแต่ตอนนี้เหตุการณ์ต่างๆปรากฏชัดขนาดนี้ หากคนเขาไม่เชื่อก็เป็นไปด้วยอำนาจกฏของกรรมแล้วครับ

    เราช่วยคนที่ช่วยได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เขาปฏิบัติธรรม สร้างกุศลทำความดีกันให้มากเป็นทางเดินที่ถูกต้องไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติ หรือไม่ เร็วช้า อย่างไรก็ตาม

    เพราะภัยจากกฏของกรรมวิ่งตามเราทุกลมหายใจ ทุกมโนจิต
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ ยิ่งมีคนมาช่วยกันมากๆเข้า การรวมกำลังกันก็จะเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นครับ ฝ่ายที่คอยจะเข้ามาโจมตีพวกเรา ก็จะค่อยๆ หมดกำลังใจล่าถอยไปในที่สุด เปรียบเสมือนต้นไม้ไผ่เพียง 2-3 ต้น ย่อมไม่อาจต้านทานต่อกระแสลมพายุ ที่พัดโหมกระหน่ำเข้ามาอย่างรุนแรงได้ ต้องถูกพัดหายกระจัดกระจายหักโค่นไปในที่สุดครับ

    แต่ถ้าพวกเรารวมกำลังกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ เหมือนป่าไม้ไผ่ที่เกาะกลุ่มรวมกันอยู่อย่างเหนียวแน่น ต่อให้ต้องเจอกับพายุพัดมาอย่างรุ่นแรงสักเพียงไหน ก็ไม่อาจทำอันตรายแก่ป่าไม้ไผ่นั้นได้เลยครับ หรืออย่างที่คนโบราณได้กล่าวสอนเอาไว้ว่าความสามัคคีกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนี้ หากเกิดขึ้นได้กับหมู่คณะใด ย่อมจะเอาชนะต่อข้าศึกศัตรูและอุปสรรคทั้งปวงได้อย่างแน่นอนครับ
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คนดีในความคิดของฉัน
    โดย เด็กหญิงเสาวลักษณ์ แก้วไทย
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    ในสังคมปัจจุบันนี้มีทั้งคนดีและคนชั่วปะปนกัน ทุกคนต้องการให้คนเป็นคนดี ไม่มีใครอยากให้ใครเป็นคนชั่ว แต่คงจะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครสามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด บ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้าพัฒนาได้รวดเร็ว ด้วยการเปิดโอกาสส่งเสริมให้คนดีได้เข้ามาบริหารปกครองบ้านเมือง อย่าส่งเสริมให้คนชั่วเข้ามาปกครองบ้านเมือง เพียงเท่านี้ประเทศชาติบ้านเมืองจะพัฒนาก้าวไกล ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข

    ถ้าจะถามว่า “คนดีคือคนที่เป็นอย่างไร” แน่นอนว่าคำตอบที่ได้คงจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ตอบ เด็กตอบหรือผู้ใหญ่ตอบ ผู้ตอบมีความรู้และประสบการณ์มากน้อยเพียงใด จริง ๆ แล้วคุณลักษณะของผู้ที่เป็นคนดีมีมากมายหลายประการ แต่ถ้าจะให้เหมาะกับสภาพการณ์บ้านเมือง สภาพสังคมในปัจจุบัน ในภาวะที่บ้านเมืองของเราค่อนข้างที่จะสับสนวุ่นวาย คนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มีปัญหาหลายปัญหาที่ต้องแก้ไข ในความคิดของฉันคนดีจึงต้องเป็นคนที่มีความจริงใจ สามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของสังคม ปัญหาของประเทศชาติได้ตามสภาพบทบาทหน้าที่ของตนเอง ซึ่งจะต้องมีลักษณะดังนี้

    ประการแรก คนดีต้องขยันเรียนรู้ ความรู้เป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานประการแรกสุดของทุกคนที่จะช่วยสร้างสติปัญญา สร้างความคิด รู้จักรับผิดชอบชั่วดี หากคนไม่มีความรู้ความคิดที่ถูกต้องมีเหตุมีผลเสียแล้ว คงยากที่จะไปทำสิ่งอื่นให้เกิดผลดี คนดีต้องตื่นตัวอยู่เสมอ สนใจการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง

    ประการที่สอง คนดีต้องมีความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบในที่นี้ความหมายกว้างครอบคลุมไปถึงความตั้งใจจริงที่จะทำงานทุกอย่างให้สำเร็จเรียบร้อย บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คนดีต้องเห็นความสำคัญของงานในหน้าที่ของตนเอง ใครมีบทบาทหน้าที่อะไรให้ทำไปตามบทบาทหน้าที่นั้น เด็กต้องเห็นความสำคัญของงานในบทบาทหน้าที่ของเด็ก พ่อแม่ต้องเห็นความสำคัญของงานในบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่ ครูต้องเห็นความสำคัญของงานในบทบาทหน้าที่ของครู ผู้บริหารบ้านเมืองต้องเห็นความสำคัญของงานในบทบาทหน้าที่ของผู้บริหารบ้านเมือง เป็นต้น เท่านี้ก็จะนำไปสู่ความรับผิดชอบได้โดยอัตโนมัติ

    ประการที่สาม คนดีต้องซื่อสัตย์สุจริต หมายถึงคนดีต้องประพฤติชอบ จริงใจ ซื่อตรง ไม่คดโกง คนดีต้องซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อตนเอง ต่อบุคคลรอบข้าง ต่อสังคมและต่อประเทศชาติ สังคมใดมีแต่คนซื่อตรง ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น สังคมนั้นจะมีแต่ความสงบสุขและพัฒนาได้รวดเร็ว คนดีต้องซื่อสัตย์ทั้งในความคิด การพูดและการกระทำ นั่นหมายความว่าคนจะดีได้ต้องเริ่มจากการคิดที่ออกมาจากใจจริง ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่คิดคดโกง ไม่คิดเอาแต่ประโยชน์ของตนเพียงฝ่ายเดียว คนดีต้องพูดดีพูดเพราะ พูดแต่ในสิ่งที่สร้างสรรค์เกิดประโยชน์ทั้งแก้ผู้พูดและผู้ฟัง คนดีต้องทำดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนเอง สังคมและประเทศชาติ กล่าวโดยสรุปคือคนดีต้องซื่อสัตย์สุจริตคิดดี พูดดีและทำดี นั่นเอง

    ประการที่สี่ คนดีต้องรู้รักสามัคคี ความรักความสามัคคีของทุกคนในชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนต้องการให้มีในเวลานี้ เพราะความรักความสามัคคีปรองดองกันเป็นหนทางนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจ ก่อให้เกิดความเข้มแข็ง ทำให้งานทุกอย่างสำเร็จได้ตามความต้องการ ช่วยแก้ปัญหาให้ลุล่วงได้ ประเทศชาติจะสงบสุข ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขได้ถ้าทุกคนมีความรัก ความสามัคคีกัน เริ่มตั้งแต่ความรักความสามัคคีในครอบครัว ในชุมชน ในหมู่บ้าน ในอำเภอ ในจังหวัดและในประเทศชาติ

    ประการสุดท้าย ที่เป็นลักษณะของคนดีคือ คนดีต้องสร้างคนดี หมายความว่าคนในสังคมมีจำนวนมาก หากมีคนดีเพียงไม่กี่คนอยู่ในท่ามกลางคนไม่ดีจำนวนมาก คงจะไม่มีโอกาสที่จะทำความดีได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน จำเป็นต้องมีการพึ่งพาอาศัยกัน ต้องมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฉะนั้น คนดีจะดีได้อย่างยั่งยืน ทำความดีได้ตลอดเวลา จำเป็นอย่างยิ่งที่คนรอบข้างต้องเป็นคนดีด้วย จึงจะสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันทำความดีได้อย่างเต็มที่ ผู้ใดก็ตามที่มีความสามารถโน้มน้าวชักชวนคนอื่นให้ทำความดีให้เป็นคนดีได้ ถือว่าเป็นคนดีที่ควรแก่การยกย่องมากที่สุด สังคมใดที่มีคนดีมากกว่าคนชั่ว สังคมนั้นจะเจริญ ในทางตรงข้ามถ้าสังคมใดมีคนชั่วมากกว่าคนดี สังคมนั้นคงจะเจริญก้าวหน้าได้ยาก

    คนดีไม่ใช่ลักษณะเพียงห้าประการที่กล่าวข้างต้นเท่านั้น คุณสมบัติของคนดียังมีอีกมากมายเกินกว่าที่จะยกมาอธิบายในที่นี้ได้หมด เพียงแต่เห็นว่าคุณสมบัติทั้งห้าประการนั้นเป็นสิ่งที่คนในสังคมต้องการให้มี ต้องการให้เกิดขึ้นในตัวของทุกคน ในยามที่บ้านเมืองประสบปัญหา สรุปให้เห็นชัดเจนที่สุด คนดีคือคนที่คิด พูดและทำในสิ่งที่ตนเองไม่เดือดร้อน ตนเองพอใจ ผู้อื่นไม่เดือนร้อน ผู้อื่นพอใจและเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม

    ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดเป็นลักษณะของคนดีในความคิดของฉัน ที่เป็นความต้องการ เป็นความคาดหวังของสังคมในเวลานี้และในอนาคต โตขึ้นฉันจะทำตัวเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครู เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติและชักชวนคนอื่นให้เป็นคนดี ให้ทำความดีเท่าที่สามารถจะทำได้ ทุกคนลองสำรวจตัวเองดูซิว่าเป็นคนดีแล้วหรือยัง ถ้าคิดว่ายังไม่เป็นคนดี ขอให้เริ่มเสียตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้าเป็นคนดีอยู่แล้ว ขอให้เป็นคนดีและทำความดีต่อไป เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดแก่ตนเอง สังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต

    เด็กหญิงเสาวลักษณ์ แก้วไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดทะเลมิตรภาพที่ 151 หมู่ที่ 6 ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

    รางวัลชนะเลิศ กลุ่มที่ 1 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6
    โครงการเยาวชนไทยใสสะอาดประกวดเรียงความ ประจำปี พ.ศ.2549

    *************************************************
    ที่มา http://www.rd.go.th/publish/fileadmin/download/Composition49/n101_K_Saowaluck.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1186823133.jpg
      1186823133.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.6 KB
      เปิดดู:
      1,245
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2009
  15. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    จากกรุณาของพี่ๆ กระผมขอเสริมข้อมูลทางใต้เล็กน้อยก่อนน่ะครับเพราะว่าจากที่ผ่านมาข้อมูลทางภาคใต้นั้นได้หยิบยกขึ้นมาเสนอแนะต่อเหล่าเคลือยาทธรรมทางภาคใต้ได้รับมือเหตุอันจะเกิดขึ้นหากท่านยังดำรงค์อยู่ในความประมาทครับที่ผมพยามหยิบยกข้อมูลทางภาคใต้มาให้ทราบกันก็คือว่าหากเมื่อใดเหตุร้ายนี้เกิดขึ้นจากข้อมูลที่ผ่านย่อมสรุปได้โดยทันทีว่าพื้นที่ทางภาคใต้นั้นจะได้รับผลกระทบจากเหตุภัยที่ค่อนข้างจะรายแรงหรือว่ารุนแรงที่สุดเกิดความเสียหายมากที่สุดจึงขอนำข้อมูลมาให้พี่น้องทางภาคใต้ได้เก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้เพื่อว่าอาจจะได้เป็นประโยชน์ในภายภาคหน้าครับ ผมเป็นคนจังหวัดสุราฎร์ธานี จะมีพื้นที่ที่ใช้ในการกักเก็บน้ำเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองของจังหวัดมากนัก คือ เขื่อนรัชปภา หรือ เขื่อนเชียวหลาน ซึ่งอยู่ในอำเภอบ้านตาขุนซึ่งเป็นเส้นทางผ่านมาจากจังหวัดกระบี่ และ ภูเก็ตได้ ในพื้นที่บริเวณนั้นค่อนข้างสูงเหนือระดับน้ำทะเลอยู่มากพอสมควร และ อยู่ในเขตุอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าอยู่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ถนนเข้าสู่เขาหรือป่านั้นค่อนข้างเยอะและหลายเส้นทางเหมาะแก่การเดินทางเป็นหมู่คณะแม้ยามมีภัยจากที่ผมคาดไว้ก็คือหากอพยพจากภาคใต้ตอนล่างขึ้นมาก็จะสามารถพบเส้นทางนี้และอาจจะใช้เป็นจุดระวังภัยพื้นฐานได้ก่อนเพราะว่าเป็นเขตุที่ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถใช้ประโยชน์ได้จากส่วนรวมหรือที่เข้าใจคือวัดวาอารามเท่านั้นที่จสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ได้บ้างเช่นถ้ำน้อยใหญ่ต่างๆที่อยู่บริเวณตีนเขาซึ่งมีวัดอยู่ตลอดเส้นทางเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและการอพยพเพื่อค้นหาจุดหมายใหม่และค่อนข้างปลอดภัยเพราะว่าแม้ว่าเขื่อนนั้นอาจจะแตกลง(นี้เป็นเพียงการคาดการน่ะครับ)น้ำที่ไหลออกจากเขื่อนก็จะมุ่งลงไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ลาดต้ำกว่าบริเวณนั้นมาก[​IMG] [​IMG] ที่สำคัญคือจากถนนบริเวณเขาสกที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้นจะมีเส้นทางหลักเพื่อว่าอาจจะต้องเดินทางต่อไปเพื่อให้ถึงบริเวณภาคกลางได้นั้นจะต้องผ่านบริเวณที่ เรียกว่า อำเภยไชยา ครับ บริเวณอำเภอ ไชยานั้น จะสามารถใช้เป็นที่พักแรมได้เช่นกันเพราะถนนและพื้นที่ในอำเภอนั้นค่อนข้างมีพื้นที่ๆมีความสูงคือติดเนินเขาหลายลูกนั้นเอง และ พื้นที่บริเวณนั้น ณเวลานี้ผมรับรองได้ว่าปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายไม่เหมือนเช่นอย่างในอดีตครับ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานี้แหละครับที่ท่านเสด็จไปดูแลชาวบ้นที่นั้นเสมอเมื่อในอดีตกล่อมเกลาจิตรใจพสกนิกรของพระองค์ให้เป็นคนดีพึ่งพาอาศัยกันและกันเมื่อครั้งสิ้นยุคของกลุ่มกองโจรคอมมิวนิสเมื่อ30กว่าปีก่อนนี้พ่อผมเล่าให้ฟังครับผมไปที่นั้นเมื่อตอน10ก่าปีก่อนรถก็เสียแต่ชาวบ้านทางช่วยสงเคราะห์ให้ปลอดภัยทุกอย่างครับทั้งๆที่ผมและลุงนั้นพูดภาษากลางกันโดยตลอดและอีกครั้ง พ่อและลุงผมได้ประสพอุบัติเหตุค่อนข้างจะหนักมากทางรถยนต์กลับได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านหลายคนเลยครับบริเวณนั้นนั่นเองในบริเวณใกล้เคียงมีพื้นที่อีกหลายจุดวันหลังผมจะมาแนะนำสถานที่จุดอื่นต่อไปครับ[​IMG]
    [​IMG]
     
  16. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    หากมีอะไรต้องปรับปรุงอย่างไรพี่เกษมแนะนำได้ครับเพราะผมไม่ค่อยได้โพสใกระทู้ใดๆที่เยอะๆขนาดนี้ผมจึงไม่รู้ว่าจะขาดตกบกพร่องอย่างไร พี่บอกผมด้วยนะครับ
     
  17. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    อนุโมทนากับทีมงานทั้งเก่าและใหม่ทุกๆคนครับ ขอสิ่งดีงามและความสำเร็จจงบังเกิดผลต่อทุกๆคนโดยถ้วนหน้ากันครับ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข้อมูลดีแล้วครับ รูปภาพก็สวยงามมาก แต่ถ้าเราโพสต์ภาพขนาดใหญ่มาก จะทำให้ความกว้างของตัวหนังสือ ในแต่ละบรรทัดขยายตามไปด้วย ทำให้อ่านได้ค่อนข้างลำบาก ถ้าเราต้องการใส่รูปภาพขนาดใหญ่ ควรแยกออกมาต่างหากอีกโพสต์หนึ่ง ส่วนโพสต์ที่เป็นข้อความ ก็ใส่รูปภาพที่ย่อให้เล็กลงมาหน่อย จะทำให้อ่านได้ง่ายและสบายตาขึ้นครับ ผมขออนุญาต จัดเรียงข้อความของคุณ ragpon มาให้อ่านกันได้ง่ายขึ้นดังนี้ครับ

    [​IMG]

    จากกรุณาของพี่ๆ กระผมขอเสริมข้อมูลทางใต้เล็กน้อยก่อนน่ะครับ เพราะว่าจากที่ผ่านมา ข้อมูลทางภาคใต้นั้นได้หยิบยกขึ้นมา เสนอแนะต่อเหล่าเครือญาติธรรมทางภาคใต้ ได้รับมือกับเหตุอันจะเกิดขึ้น หากท่านยังดำรงค์อยู่ในความประมาทครับ ที่ผมพยามหยิบยกข้อมูลทางภาคใต้มาให้ทราบกัน ก็คือว่าหากเมื่อใดเหตุร้ายนี้เกิดขึ้น จากข้อมูลที่ผ่านมาย่อมสรุปได้โดยทันทีว่า พื้นที่ทางภาคใต้นั้น จะได้รับผลกระทบจากเหตุภัยที่ค่อนข้างจะร้ายแรงหรือว่ารุนแรงที่สุด เกิดความเสียหายมากที่สุด

    ผมจึงขอนำข้อมูลมาให้พี่น้องทางภาคใต้ ได้เก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้เพื่อว่าอาจจะได้เป็นประโยชน์ในภายภาคหน้าครับ ผมเป็นคนจังหวัดสุราฎร์ธานี จะมีพื้นที่ที่ใช้ในการกักเก็บน้ำเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองของจังหวัดมากนัก คือ เขื่อนรัชปภา หรือ เขื่อนเชียวหลาน ซึ่งอยู่ในอำเภอบ้านตาขุน ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านมาจากจังหวัดกระบี่ และ ภูเก็ตได้ ในพื้นที่บริเวณนั้นค่อนข้างสูงเหนือระดับน้ำทะเลอยู่มากพอสมควร และ อยู่ในเขตุอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่า

    เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ถนนเข้าสู่เขาหรือป่านั้นค่อนข้างเยอะ และหลายเส้นทางเหมาะแก่การเดินทางเป็นหมู่คณะแม้ยามมีภัย จากที่ผมคาดไว้ก็คือหากอพยพจากภาคใต้ตอนล่างขึ้นมา ก็จะสามารถพบเส้นทางนี้และอาจจะใช้เป็นจุดระวังภัยพื้นฐานได้ก่อน เพราะว่าเป็นเขตที่ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ จากส่วนรวมหรือที่เข้าใจคือวัดวาอารามเท่านั้น

    ที่จะสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ได้บ้าง เช่นถ้ำน้อยใหญ่ต่างๆ ที่อยู่บริเวณตีนเขา ซึ่งมีวัดอยู่ตลอดเส้นทาง เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและการอพยพ เพื่อค้นหาจุดหมายใหม่และค่อนข้างปลอดภัย เพราะว่าแม้ว่าเขื่อนนั้นอาจจะแตกลง(นี้เป็นเพียงการคาดการณ์นะครับ)น้ำที่ไหลออกจากเขื่อน ก็จะมุ่งลงไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ลาดต่ำกว่าบริเวณนั้น

    ที่สำคัญคือจากถนนบริเวณเขาสก ที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้นจะมีเส้นทางหลัก เพื่อว่าอาจจะต้องเดินทางต่อไป เพื่อให้ถึงบริเวณภาคกลางได้นั้น จะต้องผ่านบริเวณที่เรียกว่า อำเภยไชยาครับ บริเวณอำเภอไชยานั้น จะสามารถใช้เป็นที่พักแรมได้เช่นกัน เพราะถนนและพื้นที่ในอำเภอนั้น ค่อนข้างมีพื้นที่ๆมีความสูงคือติดเนินเขาหลายลูกนั้นเอง และ พื้นที่บริเวณนั้น ณ เวลานี้ผมรับรองได้ว่าปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย ไม่เหมือนเช่นอย่างในอดีตครับ

    เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานี้แหละครับ ที่ท่านเสด็จไปดูแลชาวบ้านที่นั่นเสมอเมื่อในอดีต เพื่อกล่อมเกลาจิตใจพสกนิกรของพระองค์ท่านให้เป็นคนดี พึ่งพาอาศัยกันและกัน เมื่อครั้งสิ้นยุคของกลุ่มกองโจรคอมมิวนิสต์เมื่อ 30 กว่าปีก่อนนี้ พ่อผมเล่าให้ฟังครับผมไปที่นั้นเมื่อตอน 10 กว่าปีก่อนรถก็เสียแต่ชาวบ้านข้างทาง ช่วยสงเคราะห์ให้ปลอดภัยทุกอย่างครับ ทั้งๆที่ผมและลุงนั้นพูดภาษากลางกันโดยตลอดและอีกครั้ง พ่อและลุงผมได้ประสพอุบัติเหตุค่อนข้างจะหนักมากทางรถยนต์ กลับได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านหลายคนเลยครับ บริเวณนั้นนั่นเองในบริเวณใกล้เคียง มีพื้นที่อีกหลายจุด วันหลังผมจะมาแนะนำสถานที่จุดอื่นต่อไปครับ

    ragpon 23 ก.พ.52 06:51 PM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2009
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา

    [​IMG]

    จาการ์ตา 23 ก.พ. - เกิดแผ่นดินไหวระดับปานกลางวัดความรุนแรงได้ 5.9 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย แต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายและคำเตือนเกิดคลื่นสึนามิ

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในเวลา 12.56 น. ตามเวลาประเทศไทย มีศูนย์กลางห่างจากเมืองทานาห์มาซาในจังหวัดสุมาตราเหนือไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 74 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 21 กิโลเมตร

    หมู่เกาะอินโดนีเซียตั้งอยู่บนบริเวณที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเปลือกทวีปมาบรรจบกัน จึงมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดอยู่เสมอ. - สำนักข่าวไทย

    2009-02-23 14:26:50

    ชาวออสเตรเลียร่วมร้อยหนีไฟป่าครั้งใหม่

    [​IMG]

    แคนเบอร์รา 23 ก.พ.- ชาวออสเตรเลียราว 100 คน อพยพออกจากบ้านเรือนในรัฐวิกตอเรียในวันนี้เพราะเกิดไฟป่าครั้งใหม่ใกล้ชุมชนที่อาศัยอยู่

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังควบคุมไฟป่า 3 จุดใหญ่ในวันนี้ ขณะที่ทางการเตือนว่า หลายชุมชนเสี่ยงอันตรายเพราะมีกระแสลมแรง อากาศแล้งและร้อนขึ้น ชาวเมืองวอร์เบอร์ตัน ทางตะวันออกของนครเมลเบิร์นราว 100 คน อพยพออกจากบ้านเรือนไปตั้งที่พักชั่วคราวเพื่อรอให้แนวไฟป่าผ่านพ้นไป ด้านทางการเตือนประชาชนให้ยึดนโยบาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    สงสัยครับ

    ขอบคุณข้อมูลจากท่าน เกษม ครับ แต่ผมมีข้อสงสัยครับ ในเมื่อเราเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติอย่างครบครันทั้งทางกายทางใจ จนเราลืมคิดไปหรือป่าวครับ (หรือผมไม่รู้เอง) เมื่อเหตุการณ์นั้นมาถึง คนส่วนมากที่ไม่สนใจธรรมะ มีจิตเป็นอกุศล ชอบรบรา ฆ่าฟันกัน แย่งชิงอาหาร แย่งที่พักอาศัย เราชาวพุทธที่ยึดมั้่นในธรรมจะมีวิธีการ จัดการกับเรื่องพวกนี้อย่างไร เพราะส่วนใหญ่แนะนำแต่ในเรื่องของ การฝึกสมาธิ กรรมฐาน สถานที่หลบภัย การเตรียมตัวเบื้องต้น ทำไมเราไม่เพิ่ม การเตรียมตัวรับมือกับเหล่าคน อธรรมยังงัย ? ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...