๐๐๐ เรื่องของ

เรื่องของ….ศีล ๕

คิดว่าหลายๆท่านคงคิดว่า “ศีล ๕ นั้นใครๆก็จำได้ เรียนมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว จะมาเขียนบอกทำไมอีก” ผมก็คิดเช่นเดียวกัน ศีล ๕ มีอะไรบ้างนั้นมิใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ จำได้มั้ย เข้าใจรึเปล่า และ บาปรึเปล่า ผมได้อ่านจากหลายๆกระทู้ จึงได้เห็นว่า หลายๆคนไม่เข้าใจเรื่องศีล ๕ คิดว่าทำโน้น ทำนี้ จะบาปรึเปล่านะ นรกรึเปล่านะ เอาเป็นว่า มาเริ่มกันเลยครับ ​

“ธรรมะอย่าศึกษาด้วยสมอง จงศึกษาด้วยจิต”​

<O

หมายถึง ความประพฤติดีทางกายและวาจา, การรักษากายและวาจาให้เรียบร้อย, ข้อปฏิบัติสำหรับควบคุมกายและวาจา ให้ตั้งอยู่ในความดีงาม, การรักษาปกติตามระเบียบวินัย, ปกติมารยาทที่สะอาดปราศจากโทษ, ข้อปฏิบัติในการเว้นจากความชั่ว, ข้อปฏิบัติในการฝึกหัดกายวาจาให้ดียิ่งขึ้น, ความสุจริตทางกายวาจาและอาชีพ​

<O

ศีลห้าหรือ เบญจศีล เป็นศีลในลำดับเบื้องต้นในพุทธศาสนา ที่ศาสนิกชนพึงถือ ไม่เฉพาะแต่เหล่าสงฆ์เท่านั้น ศีลห้าจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 'นิจศีล' นั่นคือ ศีลที่ยึดถือป็นนิจ (นิตย์) ด้วยเหตุนี้ ในพิธีกรรมทั้งปวงในพุทธศาสนา หลังจากกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัยแล้ว พุทธศาสนิกพึงอาราธนาศีล และรับศีลห้าก่อนเสมอ​

<O

อานิสงค์ และ กรรมวิบาท สามารถเกิดขึ้นได้เลยในชาตินี้ และมีผลในชาติต่อๆไปอีกด้วย ทุกข้อย่อมทำให้เกิดในนรก,สัตว์ดิรัจฉาน,เปรต ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตของเราว่าดีหรือเลว ถ้าจิตอาฆาตแค้น วิบากจะยิ่งมากขึ้น เช่นการ ฆ่ามด เป็นสัตว์ตัวเล็กๆ เราไปเหยียบโดยมิได้ตั้งใจ กับการที่เราไปไล่ขยี้มดด้วยความที่โกรธแค้น ที่มันมาขึ้นอาหารเรา นี้จิตมันต่างกันนะ<O​

<O

;aa24dannce_;aa24
</O​

ศีล ๕ ประกอบไปด้วย

<O​

๑. ปาณาติปาตา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งปวง รวมถึงการทำร้ายสัตว์ หรือมนุษย์ด้วย แม้แต่คิด หรือวางแผน ก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้แล้ว แค่คิดปกป้องตนเองแล้วทำให้เค้าโกรธแค้น ก็ผิด เพราะ เราได้ไปทำกับเขาก่อนในอดีตชาติ ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่ได้ผลกรรมเช่นนี้อีก ศีลข้อนี้เราจะรักษาได้ก็ต้องอาศัย เมตตาเป็นปัจจัย<O​

<O
อานิสงค์ จากศีลข้อ ๑ คือ รูปร่างหน้าตาสวย อายุยืนเต็มอายุขัยหรือเกิน ศัตรูทำร้ายไม่ได้ ไม่ถูกฆ่าตาย
<O
กรรมวิบาก จากศีลข้อ ๑ คืออวัยวะพิการ โรคภัยเบียดเบียน อายุสั้น​

<O​

๒. อทินฺนาทานา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการลักทรัพย์ เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ รวมถึงการเบียดบัง ฉ้อราษฎร์บังหลวง เอาเปรียบคนอื่นด้วย แม้แต่คิด หรือวางแผน ก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้แล้ว ในข้อนี้หลายท่านจะสงสัย เราไปโกหก แต่เราไม่มีเจตนาหลอกลวงเขาจะผิดไหม เช่น ไปซื้อยาที่มีราคาแพง เพื่อนำมาให้พ่อแม่ แต่กลับบอกว่าซื้อมาถูกๆ นั้นเจตนามิได้หลอกลวงเพื่อความชิบหาย แต่เพื่อความสบายใจอันนี้ไม่เป็นไร​

<O
อานิสงค์ จากศีลข้อ ๒ คือทรัพย์สินไม่มีภัยจากไฟไหม้ น้ำท่วม โจรขโมย และหาความยากจนมิได้ ทรัพย์ที่หามาได้แล้วย่อมมั่นคงถาวรอยู่ที่ไหนก็ย่อมเป็นสุข เพราะไม่มีใครเบียดเบียน<O
กรรมวิบาก จากศีลข้อ ๒ คือ ทรัพย์ย่อมฉิบหาย เป็นผู้ยากจนเข็ญในไร้ที่พึง<O​

๓. กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย เพียงแค่คิดก็ผิดแล้ว​

<O​

อานิสงค์ จากศีลข้อ ๓ คือ คนในปกครองหรือคณะทั้งหมดจะเป็นคนที่อยู่ในโอวาท ว่าง่ายสอนง่าย ไม่ละเมิดในแบบแผน กฎระเบียบที่วางไว้ สามี ภรรยา มินอกใจ เป็นที่รักของคนทั้งหลาย ไม่ต้องเกิดเป็นหญิงหรือเป็นกระเทยอีก<O
กรรมวิบาก จากศีลข้อ ๓ คือ ร่างกายทุพลภาพ ขี้เร่ มากไปด้วยโรค มีศัตรูรอบด้าน อาภัพ ไม่มีคู่ครอง<O​

๔. มุสาวาทา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการพูดเท็จ คำหยาบ หรือพูดส่อเสียด รวมถึงการพูดให้คนแตกสามัคคีกันด้วย<O​

อานิสงค์ จากศีลข้อ ๔ คือ พูดแล้วอยากมีคนฟัง เชื่อถือ
กรรมวิบาก จากศีลข้อ ๔ คือ เป็นผู้มีวาจาไม่เป็นที่เชื่อถือ มีกลิ่นปากเหม็นจัด จะถูกกล่าวดูถูกเสมอ<O​

๕. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการดื่มน้ำเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทในข้อนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีสติแล้วผิดศีลข้ออื่นๆอีก<O​

อานิสงค์ จากศีลข้อ ๕ คือ มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์<O
กรรมวิบาก จากศีลข้อ ๕ คือ สติไม่สมประกอบ เป็นบ้า เป็นโรคเส้นประสาท ปวดหัว​

<O;aa10;aa10;aa10​

การที่เราได้รับกรรมวิบากในขณะนี้(ชาตินี้) นั้นหมายถึงเราได้เบียดเบียนไว้ในชาติปางก่อนแล้ว อภัยทาน เท่านั้นที่จะหยุดการเบียดเบียนซึ่งกันและกันได้และพิจารณาตลอดเวลาว่าเราได้ทำผิดศีลรึเปล่า พยายามรักษาศีลให้ได้เป็นนิจ ถ้าการประกอบอาชีพทำให้เราไม่สามารถรักษาศีลได้ ก็ขอให้น้อมจิตเป็นกุศล เช่น เราเป็นชาวประมง ก็น้อมจิตว่า เราได้จับปลาไปเพื่อให้ผู้คนทั้งหลายได้บริโภค มิได้ทำเพื่อความเครียดแค้น หมั่นทำบุญ ถวายสังฆทาน หรือขณะที่เราจะทำสมาธิ เราก็น้อมจิตว่า ขณะนี้ข้าพเจ้าได้มีศีล ๕ ครบถ้วนมิได้บกพร้องข้อใด เป็นต้น​

<O;aa13​

การรักษาศีลย่อมมีอานิสงส์มากมายจนสุดที่จะบรรยายให้ไหมดได้ แต่เมื่อกล่าวโดยหลักใหญ่ ๆ ซึ่งปรากฏในคำกล่าวสรุปหลังจากที่พระท่านให้ศีลว่ามี ๓ ประการ คือ​

๑.ศีลเป็นเหตุให้ไปสู่สุคติ (สีเลนะ สุคติง ยันติ)
๒.ศีลเป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ (สีเลนะ โภคะสัมปะทา)
๓.ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน (สีเลนะ นิพพุติง ยันติ)​

และเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว ศีลนั้นมี "ความไม่เดือดร้อน" เป็นอานิสงส์ที่สูงสุด​

​

ขอท่านเจริญในธรรม<O</O​

 

อนุโมทนาครับ บางข้อแค่เพียงคิดก็ผิดแล้ว บางคนอาจจะคิดไม่ถึงครับ

 

ถ้าเพื่อนชวนให้กินเบีย>>>> 1 อึก<<< จะผิดศีลข้อ 5 ป่ะคับ

 

1อึก 1หยด หรือ 1แก้ว

มันเป็นสิ่งมึนเมารึเปล่าครับ

แล้วตรงกับศีลข้อไหนรึเปล่า

พิจารณาดู