พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผมไม่แน่ใจว่าอาทิตย์นี้ร้านแขก เค้าจะเปิดหรือเปล่าครับ ไม่อย่างนั้น มะตะบะก็น่าสนใจมากครับ แต่ปัญหาที่ใหญ่มากๆเลยครับ จำเป็นต้องไปที่ร้านแขกก่อนไปรับขาหมูไม่เช่นนั้น นำหมูเค้าร้านอิสลามไม่จืดแน่ครับเป็นบาป เป็นบาป หุ หุ
     
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 03:27 PM</TD></TR><TR title="โพส 1802741" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>dragonlord</TD><TD class=alt1>อีก 2 เดือนก็จะหมดวาระกรรมในต่างแดนแล้วคะ กลับไปจะไปลองแน่ๆคะ

    ว่าแต่คุณหนุ่ม กับ คุณเพชร สนใจเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าว มังกรอ้วนกลม ซักตัวไม๊คะ


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ขาหมูเจริญแสงครับ รับรอง

    ร้านนี้อายุมาประมาณ 40 กว่าปีแล้วนะครับ
    ต้องลองไปชิมดู
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มังกรอ้วนกลม นี่กินข้าวด้วยหรือ...หุ..หุ...นึกว่าอิ่มทิพย์...
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948


    ผมลืมไป ขืนนำขาหมูเข้าร้านอิสลาม เดี๋ยวเขาไล่ตีแน่เลย

    ไว้ผมโทร.ไปคุยอีกครั้งนะครับ
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พี่ท่านหนึ่งที่เคารพเขาชื่อหมู เข้าทำงานที่บ.อิสลามแห่งหนึ่ง วันแรกที่แนะนำตัว เขาบอกว่าว่าชื่อพี่หมู พนักงานในนั้นเขาเกลียดเลยนะครับ ถือว่าบาปมาก ขนาดชื่อนะครับ ยังไม่ได้นำ หรือกินขาหมูเข้าไปเลยนะ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา Fwd mail ครับ



    ทันเล่ห์แก๊งก๊อบปี้บัตร "ดึงออกจากตู้เอทีเอ็มช้าๆ"

    [​IMG]


    การจับ กุมแก๊งปลอมและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมรายใหญ่ครั้งล่าสุดของกรมสอบสวนคดี พิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ผู้ต้องหาประกอบด้วย ด.ต. ปราโมทย์ เปียทอง อายุ 41 ปี ผบ.หมู่งาน 4 กก.2 ส.1, โยนัท บูลลาเกอร์ อายุ 28 ปี โรเบิร์ต โรต้ารู อายุ 29 ปี สัญชาติโรมาเนีย จิรายศ ศิริบวรเกียรติ อายุ 43 ปี และ พนธกร ดีประเสริฐ อายุ 31 ปี ทำให้รู้เล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพเพิ่มขึ้น


    ตลอด ระยะเวลานานกว่า 6 เดือนที่ดีเอสไอเฝ้าติดตามและหาหลักฐานจับกุมขบวนการนี้ กระทั่งมีหลักฐานยืนยันได้ว่า ด.ต.ปราโมทย์ ซึ่งคลุกคลีอยู่กับงานสืบสวนปราบปรามคดีปลอมบัตรเครดิต รู้จักขบวนการปลอมบัตรเครดิต กลับใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางที่ผิดคบคิดกับแก๊งเหล่านี้ทำผิดเสียเอง โดยให้โยนัทและโรเบิร์ตนำเข้าอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต แม้ชุดหนึ่งจะมีมูลค่าสูงเกือบล้านบาทก็คุ้มค่ากับการลงทุน

    มิจฉาชีพ แก๊งนี้จะใช้กล่องบันทึกภาพขนาดเล็ก ใช้ถ่านขนาดเล็กที่ไม่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปเป็นตัวจ่ายไฟ ใส่ไว้ในจุดที่ใช้ใส่กล้องวิดีโอบริเวณมุมซ้าย-ขวาบนตู้เอทีเอ็ม หรือจุดที่มีแผ่นพลาสติกใสสีดำยาวประมาณ 2-3 นิ้วติดอยู่ โดยกล่องบันทึกภาพจะทำหน้าที่บันทึกรหัสบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตของผู้ ใช้บริการ ส่วนเครื่องดูดข้อมูลบัตรเครดิต ซึ่งเป็นแผ่นบางๆ จะติดไว้บริเวณช่องเสียบบัตร ทำหน้าที่ดูดข้อมูลจากแถบแม่เหล็กของบัตรเก็บไว้

    "เพียงแค่นี้แก๊ง มิจฉาชีพก็จะได้ทั้งข้อมูลบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตพร้อมรหัส จากนั้นก็นำข้อมูลบัตรไปทำบัตรเอทีเอ็มปลอม-บัตรเครดิตปลอม แล้วนำไปกดเงินสดหรือซื้อสินค้า" พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุ


    จากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า แก๊งของ ด.ต.ปราโมทย์ ยังมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มของ ธิบดี ธีรอุดมกุล พร้อมพวกรวม 6 คน แก๊งปลอมแปลงบัตรเครดิตรายใหญ่ที่ถูกตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จับกุมไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 ซึ่งครั้งนั้นสามารถยึดของกลางได้หลายรายการ ได้แก่ บัตรเครดิตปลอม 25 ใบ ข้อมูลบัตรเครดิตที่ขโมยมา 102 ข้อมูล คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง และอุปกรณ์การคัดลอกที่ใช้ในการกระทำผิดอีกจำนวนมาก

    พฤติกรรมของคน ร้ายแก๊งนี้ จะนำอุปกรณ์ในการโจรกรรมข้อมูลบัตรไปติดตั้งยังตู้เอทีเอ็มตามแหล่งท่อง เที่ยวสำคัญๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด เช่น ทองหล่อ รัชดา สุขุมวิท ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย เชียงใหม่ เป็นต้น


    "เมื่อขโมยดูด ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายได้แล้วก็จะนำไปใช้ทำบัตร เครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มปลอม ก่อนจะนำไปกดเงินสดใช้ซื้อสินค้า สร้างความเสียหาย 100-200 ล้านบาท" พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ ผอ.สำนักกิจการต่างประเทศ ส่วน 2 กล่าว

    การสืบสวนติดตามแก๊งนี้มา นานกว่า 6 เดือนสิ้นสุดลงเมื่อแนวทางการสืบสวนยืนยันชัดเจนว่า มิจฉาชีพแก๊งนี้จะติดตั้งเครื่องคัดลอกข้อมูลบัตรที่ห้างสรรพสินค้าหรูใจ กลางกรุงตอนกลางดึกวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจึงวางกำลังดักซุ่มกระทั่งพบ ด.ต.ปราโมทย์ โยนัท และโรเบิร์ต กำลังนั่งปรึกษาหารือเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องคัดลอกข้อมูลจึงแสดงตัวเข้า ตรวจค้น

    จากการตรวจค้นพบของกลางจำนวนมาก ได้แก่ เครื่องคัดลอกข้อมูล กล่องบันทึกภาพสีดำขนาดเล็กไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ อุปกรณ์สำหรับคัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวไปขยายผลตรวจค้นที่พักของกลุ่มผู้ต้องหาในกรุงเทพฯ อีก 5 จุด ก่อนจะจับกุมจิรายศและพนธกร เพื่อนร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมอีก 2 คน

    สำหรับ การป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งเหล่านี้นั้น พ.ต.อ.อัครพล แนะนำเช่นนี้ว่า นอกจากจะใช้มือปิดบังรหัสบัตรแล้ว พยายามเลือกตู้เอทีเอ็มและสังเกตรอบข้างตู้เอทีเอ็มว่ามีความผิดปกติ หรือมีคนที่น่าสงสัยอยู่ใกล้ๆ หรือไม่ และเทคนิคพิเศษที่เพิ่งค้นพบคือ ให้ค่อยๆ ดึงบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตออกมาช้าๆ

    "เจ้าของบัตรบาง คนเวลาทำธุรกรรมทางการเงินเสร็จแล้วจะรีบดึงบัตรออกอย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้ให้เปลี่ยนเสียใหม่ เพราะการทำอย่างนั้นจะช่วยให้เครื่องคัดลอกข้อมูลทำงานได้มีประสิทธิภาพมาก ดังนั้นต่อไปควรจะค่อยๆ ดึงบัตรออกมาช้าๆ เพราะจะทำให้เครื่องคัดลอกข้อมูลทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรือบางครั้งอาจจะไม่สามารถดูดข้อมูลบัตรได้เลย" พ.ต.อ.อัครพล แนะนำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • attach1.jpg
      attach1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.1 KB
      เปิดดู:
      146
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    update กันหน่อยครับ
    สร้างฐานรองรับพระสีวลีสูง ๙ เมตร "วัดทุ่งกุลาเฉลิมราษฎร์" จ.ร้อยเอ็ด
    (องค์พระสร้างเสร็จแล้ว แต่ยังขาดเจ้าภาพสร้างฐานพระประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาท)ปิดรับการโอนเงินเพื่อโอนเงินต่อไปยังพี่สุพิตราภายในวันศุกร์ที่ ๓๐ มกราคมนี้ ปัจจัยร่วมสร้างได้ยอดเท่าไหร่ก็เท่านั้น ให้บุคคลอื่นได้ร่วมบุญสร้างฐานพระสีวลีตามกำลังศรัทธานี้ตามวาระกันบ้าง..

    ๑) คุณ:::เพชร::: 500 บาท(โอนแล้ว)
    ๒) คุณdragonlord 1,000 บาท(โอนแล้ว)
    ๓) คุณhongsanart 760 บาท(โอนแล้ว)
    ๔) คุณaries2947 200 บาท(โอนแล้ว)
    ๕) คุณnongnooo 360 บาท(โอนแล้ว)
    ๖) คุณnewcomer 300.72 บาท(โอนแล้ว)
    ๗) คุณkwok 260 บาท(รอแจ้งโอน)
    ๘) คุณตั้งจิต 200 บาท(รอแจ้งโอน)
    ๙) คุณsira 271 บาท(โอนแล้ว)
    ๑๐)คุณlittlelucky 106 บาท(โอนแล้ว)
    ๑๑)คุณteerachaik 500 บาท(รอแจ้งโอน)
    ๑๒)คุณkaticat 500 บาท(รอแจ้งโอน)

    ๑๓)คุณคีตา 500 บาท(โอนแล้ว)
    ๑๔)คุณพรสว่าง_2008 100 บาท(โอนแล้ว)

    ยอดเงินสร้างฐานรองรับพระสีวลีสูง ๙ เมตร ทั้งหมด ณ วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๒


    5,857.72 บาท

    จะสรุปยอดทั้งหมด และโอนเงินไปยังบัญชีคุณสุพิตราในวันที่ 30 มกราคม ช่วงบ่าย 2 โมงครับ


    สามารถโอนเงินได้ที่
    บัญชีคุณอภิวัฒน์ ชัฎอนันต์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซอยไชยยศ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 040-2-25999-6
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    น้องshinray แจ้งที่อยู่ที่ PM เลยครับ พี่จะจัดส่งไปให้
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137

    ok พี่ตัดจากส่วนของพี่ katicat ไปให้น้อง shinray ก่อนตามความประสงค์ของพี่ katicat นะครับ ยังมีของพี่ aries2947 และของพี่ newcomer อีกที่เต็มใจร่วมธรรมทานกันแบบสุดๆ ก็ขอโมทนาด้วยครับ..
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แจ้งปิด ถ.เยาวราช 26-27 ม.ค. รับเทศกาลตรุษจีน

    http://hilight.kapook.com/view/32894

    [​IMG]

    พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการปิดถนนเยาวราชในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนว่า จะมีการปิดถนนเยาวราช ตั้งแต่ 06.00 น. วันที่ 26 มกราคม ถึงเวลา 24.00 น. วันที่ 27 มกราคม โดยจะปิดถนนเยาวราชจากวงเวียนโอเดียนถึงแยกเฉลิมบุรี ทำให้แม้จะเป็นวันหยุดของชาวจีนย่านนี้

    แต่การเดินทางของประชาชนจาก ถนนพระราม 4 ที่จะไปข้ามสะพานพุทธฯ และสะพานสมเด็จพระปกเกล้า ซึ่งปกติถ้ามาผ่านหัวลำโพงแล้วจะมาทางถนนลำพูนไชย เข้าเยาวราช แต่เส้นทางนี้จะถูกปิดไป จำเป็นต้องใช้ถนนเส้นอื่นแทนเยาวราช คือ ถนนทรงวาด ทางบช.น. จำเป็นต้องกลับทิศทางเดินรถของถนนทรงวาด ซึ่งเดิมทีถนนทรงวาดจะวิ่งรถทางเดียวไปทางท่าน้ำมหาสวัสดิ์ วันนั้นจะต้องกลับกัน วิ่งจากท่าน้ำมหาสวัสดิ์มาทางแยกราชวงศ์​

    "ประชาชนที่มาจากถนนพระราม 4 เมื่อเลยหัวลำโพงไปแล้วให้เลี้ยวเข้าถนนมิตรภาพไทยจีน อ้อมเข้าหลังวงเวียนโอเดียน เพื่อเข้าสู่ถนนทรงวาด วิ่งมาถึงแยกราชวงศ์ แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าถนนเยาวราชเพื่อข้ามสะพานสมเด็จพระปกเกล้าตามปกติ ง่ายๆ คือ ถนนทรงวาดใช้แทนเยาวถนนราช ในการนี้จะระดมกำลังตำรวจจราจร สน.พลับพลาไชย 1สน.ปทุมวัน สน.บางรัก สน.จักรวรรดิ์ และ บก.จร. มาช่วยในการระบายรถ และจัดการจราจรในถนนเจริญกรุงและถนนเยาวราช เนื่องจากวันตรุษจีนในย่านเยาวราช ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมมาไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส) ซึ่งในทุกปีที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะพี่น้องชาวจีนจะหยุดกิจการเกือบหมด ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่วัดหัวลำโพง หรือรถโดยสารสาธารณะจะสะดวกกว่า" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว​

    รองผบช.น. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด วันที่ 26 มกราคม เวลา 16.00 น. และเหมือนเช่นทุกปีที่พระองค์จะเสด็จฯ บริเวณใกล้เคียงด้วย จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ พล.ต.ต.ภาณุกล่าว ​



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด
    [​IMG]
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ee43.com โดยคุณ kookchai
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    15 วัน แห่งการฉลองตรุษจีน

    http://hilight.kapook.com/view/19796

    [​IMG]

    [​IMG] วันแรกของปีใหม่ของชาวจีนหรือวันตรุษจีน เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุ และนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน ​

    [​IMG] วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าว อาบน้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่าวันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด ​

    [​IMG] วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขย ที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน ​

    [​IMG] วันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย ​

    [​IMG] วันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข ​

    [​IMG] วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิดของมนุษย์ ในวันนี้อาหารจะเป็นหมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ ​

    [​IMG] วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครองอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์ ​

    [​IMG] วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้ ​

    [​IMG] วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน ​

    [​IMG] วันที่สิบสาม ถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย ​

    [​IMG] วันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้นในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน ​



    ข่าวที่เกี่ยวข้อง






















    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
    [​IMG]
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตรุษจีนในภาษาจีน

    http://hilight.kapook.com/view/19790

    [​IMG]

    ตรุษจีน หรือ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (ตัวเต็ม: 春節, ตัวย่อ: 春节, พินอิน: Chūnj&iacute;e ชุนจีเหย๋) หรือ ขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ (ตัวเต็ม: 農曆新年, ตัวย่อ: 农历新年, พินอิน: N&oacute;ngl&igrave; Xīnni&aacute;n หนงลี่ ซินเหนียน) และยังรู้จักกันในนาม วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของชาวจีนในจีนแผ่นดินใหญ่ และชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ของปีตามจันทรคติ (正月 พินอิน: zh&egrave;ng yu&egrave; เจิ้งยวี่เย่) และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งจะเป็นเทศกาลประดับโคมไฟ (ตัวเต็ม: 元宵節, ตัวย่อ: 元宵节, พินอิน: yu&aacute;n xiāo ji&eacute; หยวนเซียวจีเหย๋)

    คืนก่อนวันตรุษจีน ตามภาษาจีนกลางเรียกว่า 除夕 (พินอิน: Ch&uacute;x&igrave; ฉูซี่) หมายถึงการผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน และคืนนี้จะเป็นวันสุดท้ายของปีนั่นเอง ซึ่งเป็นคืนที่ครึกครื้นที่สุด ใครที่ไปทำงานห่างจากบ้านเกิด ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลองวันปีใหม่ที่บ้าน ตอนกินอาหารมื้อค่ำ คืนก่อนขึ้นปีใหม่จีน ทุกคนในครอบครัวต่างนั่งกันพร้อมหน้าล้อมโต๊ะอาหาร ต่างชนแก้วอวยพรปีใหม่กัน ทานมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว บางคนก็ดูทีวี บางคนก็ฟังเพลง บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็เล่นหยอกล้อกับเด็กๆ บ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ​

    พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะเริ่มทำเกี๊ยว (เจี้ยวจึ) คนจีนทางใต้ ก็จะปั้นลูกอี๋ทำน้ำเชื่อม ทำไป ชิมไปทานไป ครึกครื้นอย่างยิ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นแต่เช้า ทุกคนจะตื่นแต่เช้า เยี่ยมเพื่อนบ้าน เพื่อนฝูงอวยพรปีใหม่

    ข่าวที่เกี่ยวข้อง



















    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตำนานวันตรุษจีน

    http://hilight.kapook.com/view/19791


    [​IMG]

    ตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า "กว้อชุนเจี๋ย" หรือ "กว้อเหนียน" เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า "เหนียน" มันออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน

    ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก เหนียน ทำร้าย
    ต่อมาพบว่า เหนียน มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกัน เมื่อ เหนียน ได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็เลยตกใจเผ่นหนีไป เมื่อ เหนียน ไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น ทำให้ เหนียน ตกใจและเผ่นหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน ต้องเผ่นหนีไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัด เหนียน ได้โดยไม่ยากนัก
    เมื่อวันส่งท้ายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เหนียน มาถึงในตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน ​

    ต่อมา วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็นวันเฉลิมฉลองที่มีแต่ความสุขที่เรียกกันว่า "ตรุษจีน"

    ประวัติวันตรุษจีน

    http://hilight.kapook.com/view/19792


    [​IMG]

    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เพราะชาวจีนถือว่าวันตรุษจีนคือวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองแตกต่างกันไป

    สำหรับที่มาของวันตรุษจีนนั้น เชื่อกันว่าประเพณีนี้มีมานานกว่าสี่พันปีแล้ว จัดขึ้นเพื่อฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เดิมที่ไม่ได้เรียกว่าเทศกาลตรุษจีน แต่มีชื่อเรียกต่างกันตามยุคสมัย นั่นคือเมื่อ 2100 ปีก่อนคริสตศักราชจะเรียกว่า "ซุ่ย" ซึ่งมีความหมายถึงการโคจรครบหนึ่งรอบของดาวจูปิเตอร์ จนกระทั่งต่อมาในยุค 1000 กว่าปีก่อนคริสตศักราช เทศกาลตรุษจีนจะถูกเรียกว่าว่า "เหนียน" หมายถึงการเก็บเกี่ยวได้ผลอุดมสมบูรณ์นั่นเอง

    นอกจากนี้วันตรุษจีนยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันชุงเจ๋" ซึ่งหมายถึงเทศกาลดูใบไม้ผลิ หรือขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ เพราะช่วงก่อนตรุษจีนนั้นตรงกับฤดูหนาว ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศเหมาะสมแก่การเพาะปลูก ชาวจีนจึงสามารถทำนา ทำสวน ได้อีกครั้งหลังจากผ่านพ้นฤดูหนาวมานั่นเอง

    ส่วนการกำหนดวันตรุษจีนนั้น ตามประเพณีเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีน และถือว่าคืนวันที่ 30 เดือน 12 เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 เดือน 1 คือวันชิวอิก หมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ

    การเตรียมงานเพื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนนั้น จะเริ่มขึ้นตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) โดยผู้คนจะเริ่มซื้อข้าวของต่างๆ เพื่อประดับตกแต่งบ้านเรือน และเตรียมทำความสะอาดครั้งใหญ่ ตั้งแต่ชั้นบนลงชั้นล่าง เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะเป็นการปัดกวาดสิ่งที่ไม่ดีออกไป ภายในบ้านทั้งประตู หน้าต่าง จะประดับประดาไปด้วยสีแดง และกระดาษสีแดงที่มีคำอวยพรให้อายุยืน ร่ำรวย อยู่ดีมีสุข ฯลฯ

    จากนั้นครอบครัวจะร่วมรับประทานอาหารที่ล้วนแต่มีความหมายมงคลทั้งสิ้น เช่น กุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรืองและความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งความโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาหร่าย จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร หลังจากทานอาหารค่ำแล้ว ทุกคนในครอบครัวจะนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง

    นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของวันตรุษจีนคือ "อั่งเปา" ซึ่งมีความหมายว่า "กระเป๋าแดง" หรือจะใช้คำว่า "แต๊ะเอีย" ซึ่งมีความหมายว่า "ผูกเอว" จากที่คนสมัยก่อนชอบร้อยเงินเป็นพวงผูกไว้ที่เอว โดยการให้อั่งเปานี้ คู่แต่งงานจะให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว จะออกมาจากบ้านเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ในหมู่ญาติ และด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า "Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป)

    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
    [​IMG]

    - thai.cri.cn
    - abhidhamonline.org
    - thaigoogleearth.com


    การไหว้เจ้าที่ในวันตรุษจีน

    [​IMG]

    การไหว้เจ้าเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ลูกหลานจีนปฏิบัติสืบทอดกันมา ตามความเชื่อที่จะต้องไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษ เพื่อให้เป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุข ความเจริญแก่ครอบครัว

    ในปีหนึ่งมีการไหว้เจ้า 8 ครั้ง เรียกว่า โป๊ยโจ่ย แปลว่า 8 เทศกาล ดังนี้

    [​IMG] ไหว้เดือน 1 วันที่ 1 (เป็นการกำหนดวันทางจันทรคติของจีน) คือ ตรุษจีน เรียกว่า ง่วงตั้งโจ่ย

    [​IMG] ไหว้เดือน 1 วันที่ 15 เรียกว่า ง่วงเซียวโจ่ย

    [​IMG] ไหว้เดือน 3 วันที่ 4 เรียกว่า ไหว้เช็งเม้ง เป็นประเพณีที่ลูกหลานไปไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้ย

    [​IMG] ไหว้เดือน 5 วันที่ 5 เรียกว่า โหงวเหว่ยโจ่ย เป็นเทศกาลไหว้ขนมจ้าง

    [​IMG] ไหว้เดือน 7 วันที่ 15 คือ ไหว้สารทจีน เรียกว่า ตงง้วงโจ่ย

    [​IMG] ไหว้เดือน 8 วันที่ 15 เรียกว่า ตงชิวโจ่ย ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีว่า ไหว้พระจันทร์

    [​IMG] ไหว้เดือน 11 ไม่กำหนดวันแน่นอน เรียกว่า ไหว้ตังโจ่ย

    [​IMG] ไหว้เดือน 12 วันสิ้นปี เรียกว่า ไหว้สิ้นปี หรือ ก๊วยนี้โจ่ย

    นอกจากนี้บางบ้านยังมีการไหว้พิเศษ คือ การไหว้เทพยดาที่ตนเองเคารพนับถือ เช่น

    [​IMG] ไหว้เทพยดาฟ้าดิน เช่น การไหว้วันเกิดเทพยดา ฟ้าดิน เรียกว่า ทีกงแซ หรือ ทีตี่แซ ตรงกับวันที่ 9 เดือน 1 ของจีน

    [​IMG] ไหว้อาเนี๊ยแซ คือ ไหว้วันเกิดเจ้าแม่กวนอิม ปีหนึ่งมี 3 ครั้ง คือวันที่ 19 เดือน 2 วันที่ 19 เดือน 6 และวันที่ 19 เดือน 9

    [​IMG] ไหว้แป๊ะกงแซ ตรงกับวันที่ 14 เดือน 3

    [​IMG] ไหว้เทพยดาผืนดิน คือ ไหว้โท้วตี่ซิ้ง ตรงกับวันที่ 29 เดือน 3

    [​IMG] ไหว้อาพั๊ว คือ การไหว้วันเกิดอาพั๊ว หรืออาพั๊วแซ ซึ่งอาพั๊ว หมายถึง พ่อซื้อแม่ซื้อผู้คุ้มครองเด็ก ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี

    [​IMG] ไหว้เจ้าเตา คือ ไหว้วันที่ 24 เดือน 12 เรียกว่า ไหว้เจ๊าซิ้ง



    ข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]

     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตรุษจีนในประเทศไทย

    http://hilight.kapook.com/view/19795


    [​IMG]


    ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันปีใหม่

    [​IMG] วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก

    คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้ายหยุดพักผ่อนยาว ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ หรือ ตี่จู๋เอี๊ย ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้ว ​

    [​IMG] วันไหว้ คือ วันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง คือ

    ตอนเช้ามืด จะไหว้ ไป๊เล่าเอี๊ย เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ ได้แก่ หมูสามชั้นต้ม ไก่ เป็ด ปรับเปลี่ยนเป็นชนิดอื่นได้ หรือมากกว่านั้นได้จนเป็นเนื้อสัตว์ห้าชนิด) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ​

    ตอนสายจะไหว้ไป๊เป้บ๊อ คือการไหว้บรรพบุรุษ พอ่แม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว

    ตอนบ่ายจะไหว้ ไป๊ฮ้อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทับเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเป็นสิริมงคล ​



    [​IMG]
    [​IMG] วันขึ้นปีใหม่ หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ

    คือวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี (ชิวอิก) วันนี้ ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน คือ ไป๊เจีย คือ การไปไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กา" ซึ่งไปพ้องกับคำว่าทอง เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำโชคดีไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ

    เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น

    ข้อมูลและภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
    [​IMG]
    ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน

    http://hilight.kapook.com/view/19794


    [​IMG]
    [​IMG]ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่

    ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่
    [​IMG] ไม่ร้องไห้

    หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
    [​IMG] แต่งกายสะอาด แต่ไม่ควรสระผม
    การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี
    [​IMG] ปรึกษาชินแสเกี่ยวกับการเดินออกจากบ้าน

    ตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆ สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมาก ๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อเป็นความเป็นสิริมงคล
    [​IMG] บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก

    ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี
    [​IMG] ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น

    การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก
    [​IMG] ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษ

    เพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็ยังคงยึดถือ และปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น ครอบครัวและเอกลักษณ์ของตน

    ข้อมูลและภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
    [​IMG]
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อาหารไหว้เจ้าที่และบรรพบุรุษ

    http://hilight.kapook.com/view/19797


    [​IMG]

    ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆ ที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆ มีความหมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน

    [​IMG] เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย ​

    [​IMG] เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน ​

    [​IMG] สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย ​

    [​IMG] เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข ​

    [​IMG] หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข ​

    [​IMG]

    เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์ ​

    อาหารอื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดมสมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว

    [​IMG]

    ทางตอนใต้ของจีนจานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ

    ทางเหนือ หมั่นโถและติ่มซำเป็นอาหารที่นิยม ​

    อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน

    ของไหว้เจ้าที่ ประกอบด้วย
    [​IMG] ของคาว หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา แล้วแต่ว่าจะไหว้มากหรือน้อย
    - ไหว้ 3 อย่าง เรียกว่า ชุดซาแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่
    - ไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า ชุดโหงวแซ ประกอบด้วยหมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา
    [​IMG] ข้าว ข้าวสวยใส่ชาม พร้อมตะเกียบ จำนวนชุดตามจำนวนบรรพบุรุษ นิยมนับถึงแค่รุ่นปู่ย่า
    [​IMG] ขนมไหว้ ฮวกก้วยหรือขนมถ้วยฟู คักท้อก้วยหรือขนมกุยช่าย(เป็นไส้ชนิดใดก็ได้)
    [​IMG] ขนมจันอับ ซาลาเปา ขนมไหว้นี้ต้องมีสีชมพู หรือมีแต้มจุดแดง
    [​IMG] ขนมไหว้พิเศษ ขนมเข่ง ขนมเทียน ต้องยืนเป็นหลัก
    [​IMG] ผลไม้ ส้ม กล้วยทั้งหวีเลือกเขียวๆ องุ่น แอปเปิล ชมพู่ ลูกพลับ
    [​IMG] เครื่องดื่ม น้ำชา 5 ที่หากมีไหว้ของคาวจะไหว้เหล้าด้วยก็ได้ก็จัด 5 ที่เช่นกัน
    [​IMG] กระดาษเงิน กระดาษทอง ชุดไหว้เจ้าที่ ธุปไหว้ คนละ 5 ดอก
    [​IMG] ทองแท่งสำเร็จรูป แบงก์กงเต็ก ค้อซี ฯลฯจะมากหรือน้อยแล้วแต่เรา
    กระถางรูป โดยเอาข้าวสารใส่ในแก้วไว้สำหรับปักรูป หลังจากที่เสร็จพิธีก็นำเข้าไปผสมกับถังข้าวสารในบ้านไว้สำหรับหุงทนเพื่อให้เฮง ๆ
    จำนวนชนิดของขนมไหว้ นิยมให้สอดคล้องกับของคาว เช่น ไหว้ ของคาว 3 อย่าง ขนม 3 อย่าง ผลไม้ 3 อย่าง
    ของไหว้บรรพบุรุษ ประกอบด้วย
    [​IMG] หมู มีความหมายถึงความมั่งคั่ง ด้วยความอ้วนของตัวหมู สะท้อนถึงความกินดีอยู่ดี
    [​IMG] ไก่ มีมงคล 2 อย่างคือ ​

    - หงอนไก่สื่อถึงหมวกขุนนาง ความหมายมงคลจึงเป็นความก้าวหน้าในงาน ​

    - ไก่ขันตรงเวลาทุกเช้า สะท้อนถึงการรู้งาน ​

    [​IMG] ตับ คำจีนเรียกว่า กัว พ้องเสียงกับคำว่า กัว ที่แปลว่าขุนนาง
    [​IMG]ปลา คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ฮื้อ โดยมีวลีมงคล อู่-ฮื้อ-อู่-ชื้ง แปลว่า ให้เหลือกินเหลือใช้ ไหว้ปลาเพื่อให้มีเงินเหลือกินเหลือใช้มาก ๆ
    [​IMG] กุ้งมังกร ไหว้ด้วยรูปลักษณ์ของกุ้งที่หัวใหญ่ มีก้ามให้ความรู้สึกถึงอำนาจวาสนา ต่อมากุ้งมังกรหายาก จึงเปลี่ยนเป็นเป็ดสำหรับคนจีนแต้จิ๋ว และเปลี่ยนเป็นปลาหมึกแห้ง สำหรับคนจีนแคะ)
    ชุดกับข้าว ซึ่งทำไหว้ผีบรรพบุรุษและไว้รับประทาน
    [​IMG] ลูกชิ้นปลา จีนแต่จิ๋วออกเสียงว่า ฮื้อ-อี๊ แปลว่า ลูกปลากลมๆ ​

    - ฮื้อ หรือปลา คือให้เหลือกินเหลือใช้
    - อี๊ แปลว่า กลม ๆ หมายถึงความราบรื่น ​

    [​IMG] ผัดต้นกระเทียม เพราะคนจีนแต้จิ๋ว เรียกกระเทียมว่า สึ่ง พ้องเสียงกับสึ่งที่แปลว่านับ ไหว้ต้นกระเทียม เพื่อให้มีเงินมีทองให้ได้นับอยู่เสมอ ​

    [​IMG] ผัดตับกับกุยช่าย ตับคือ การเรียกว่า กัว พ้องเสียงกับกัวที่แปลว่า ขุนนาง กุยช่ายเป็นการพ้องเสียงของคำว่ากุ่ย แปลว่า แพง รวย
    [​IMG] แกงจืด คนจีนเรียกว่า เช็ง-ทึง เช็ง แปลว่า ใส หวาน ซดคล่องคอ การไหว้น้ำแกงก็เพื่อให้ชีวิตลูกหลานหวานราบรื่น
    [​IMG]เป๊าฮื้อ เป๊า หรือ เปา แปลว่า ห่อ ส่วน ฮื้อ คือเหลือกินเหลือใช้ ไหว้เป๊าฮื้อ เพื่อห่อความมั่งคั่เหลือกินเหลือใช้มาให้ลูกหลาน
    [​IMG] ผัดถั่วงอก คนจีนแต้จิ๋วเรียกถั่วงอกว่า เต๋าแหง๊ แต่ภาษาวิชาการเรียกว่า เต้าเหมี่ยว เหมี่ยว แปลว่า งอกงาม ไหว้ถั่วงอกเพื่อให้งอกงามรุ่งเรือง
    [​IMG]เต้าหู้ เป็นคำเรียกแบบชาวบ้านที่อาจเรียกเป็นเต้าฮกก็ได้ ฮก คำนี้เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว จีนกลางออกเสียงเต้าหู้ว่า โตฟู ฟู แปลว่า บุญ ความสุข
    [​IMG] สาหร่ายทะเล เรียกว่า ฮวกฉ่าย ถ้าออกเสียงเป็นฮวดไช้ ก็แปลว่า โชคดี ร่ำรวย
    ชุดของหวาน
    [​IMG] ซาลาเปา เล่นเฉพาะคำว่า เปา แปลว่า ห่อ ไหว้ซาลาเปาเพื่อให้เปาไช้ แปลว่า ห่อโชค ห่อเงินห่อทองมาให้ลูกหลาน
    [​IMG] ขนมถ้วยฟู คือไหว้เพื่อให้เฟื่องฟู คนจีนแต้จิ๋วเรียกขนมถ้วยฟูว่า ฮวกก้วย ก้วย แปลว่า ขนม ฮวก แปลว่างอกงาม
    [​IMG] ขนมคัดท้อก้วย คือขนมไส้ต่าง ๆ เช่น ไส้ผักกะหล่ำ มันแกว ไส้กุยช่าย ทำเป็นรูปลูกท้อสีชมพู ลูกท้อ เป็นผลไม้มงคลมีนัยอวยพรให้อายุยืนยาว ​

    [​IMG] ขนมไข่ คนจีนเรียกว่า หนึงก้วย ไข่คือบ่อเกิดแห่งการได้เกิดและเติบโต ไหว้ขนมไข่เพื่อให้ได้มีการเกิดและการเจริญเติบโต ​

    [​IMG] ขนมจับกิ้ม หรือ แต้เหลียง ก็เรียกคือ ขนมแห้ง 5 อย่าง จะเรียกว่า โหงวเส็กทึ้ง หรือ ขนม 5 สี ก็ได้ ประกอบด้วย ถั่วตัด งาตัด ถั่วเคลือบ ฟักเชื่อม และข้าวพอง
    - ฟักเพื่อฟักเงินฟักทอง ฟักเชื่อม คือการฟักความหวานของชีวิต ​

    - ข้าว ถั่ว งา คือ ธัญพืช ธัญญะ แหลว่า งอกงาม ไหว้เพื่อให้งอกงามและชีวิตหวานอย่างขนม
    [​IMG] ขนมอี๊ อี๊ หรือ อี๋ แปลว่ากลม ๆ ขนมอี๊ทำจากแป้งข้าวเหนียว นวดจนได้ที่เจือสีชมพู ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ต้มกับน้ตาล เพื่อให้ชีวิตเคี้ยวง่ายราบรื่น เหมือนขนมอี๊ที่เคี้ยวง่ายและหวานใส ซึ่งขนมอี๊นี้อาจใช้เป็นสาคูหรือลูกเดือยก็ได้ คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่าอี๊เหมือนกัน
    ชุดผลไม้
    [​IMG] ส้ม คนจีนแต้จิ๋วเรียกแบบชาวบ้านว่า กา แต่ส้มมีอีกคำเรียกว่า ไต้กิก ​

    - ไต้ แปลว่า ใหญ่ กิก แปลว่า มงคล ​

    - ไต้กิก จึงแปลว่า มหาสิริมงคล แต่ถ้าแปลง่าย ๆ แบบชาวบ้านก็คือ โชคดี
    [​IMG]กล้วย จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า เก็ง-เจีย จะเล่นเสียงว่า เก็ง-เจีย-เก็ง-ไล้ แปลว่า ถึงโชคเข้ามา กับอีกความหมายว่า กล้วย มีผลมากมายแถมเป็นเครือ จึงมีมงคลให้ลูกหลานมาก ๆ มีวงศ์วานว่านเครือสืบสกุล
    [​IMG]องุ่น จีนแต้จิ๋วเรียกว่า พู่-ท้อ ​

    - พู่ ก็คือ งอก หรืองอกงาม ​

    - ท้อ ก็คือ พ้องเสียงกับลูกท้อ ที่เป็นผลไม้มงคล อายุยืน
    [​IMG] สับปะรด คนจีนแต้จิ๋วเรียก อั้งไล้ แปลว่า เรียกสีแดงมา สีแดงเป็นสีของโชค ก็ประมาณว่าเรียกโชคเข้ามา คนจีนทางใต้นิยมไหว้สับปะรดมาก​

    ข้อมูลและภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
    [​IMG]


     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สิ่งที่ไม่ควรทำวันตรุษจีน

    http://hilight.kapook.com/view/19798


    [​IMG]

    [​IMG] ห้ามทำความสะอาด เนื่องจากการทำงานบ้าน เช่น การซักล้าง หรือ การกวาดบ้านปัดฝุ่น จะเป็นการขับไล่ความโชคดีออกไป ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านจึงควรเริ่มทำตั้งแต่ก่อนที่วันขึ้นปีใหม่จะมาถึง
    [​IMG] ห้ามสระผม ไม่ควรสระผมในวันเริ่มต้นและวันสุดท้ายของวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากการสระผมถือเป็นการชะล้างความโชคดีที่มาถึงในวันขึ้นปีใหม่
    [​IMG] ห้ามใช้ของมีคม ไม่ควรใช้ของมีคมในวันขึ้นปีใหม่ ของมีคมต่างๆ เช่น มีด, กรรไกร, ที่ตัดเล็บ เนื่องจากถือว่าการกระทำของของมีคมนี้ จะเป็นการตัดสิ่งหรืออนาคตที่ดี ที่จะนำมาในวันขึ้นปีใหม่
    [​IMG] ห้ามโต้เถียง ควรระมัดระวังในการใช้คำพูดที่มีความหมายไปในทางลบ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการโต้เถียงกัน คำที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยหรือความตาย เป็นคำที่เราควรหลีกเลี่ยงในวันขึ้นปีใหม่
    [​IMG] เลี่ยงเรื่องเกี่ยวกับความตาย หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานศพ และการฆ่าสัตว์ปีก
    [​IMG] ห้ามซุ่มซ่าม ควรระมัดระวังในการทำสิ่งใดๆ ไม่ควรที่จะให้เกิดการสะดุด หรือ ทำสิ่งของตกแตก ซึ่งนั่นจะหมายถึงการนำความโชคไม่ดีเข้ามาในอนาคต ​

    ข้อมูลและภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
    [​IMG]


    เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับวันตรุษจีน

    http://hilight.kapook.com/view/19799


    [​IMG]

    สัญลักษณ์อีกอย่างของเทศกาลตรุษจีน คือ อั่งเปา (ซองแดง) คือ ซองแดงใส่เงินที่ผู้ใหญ่แล้วจะมอบให้ผู้น้อย และมีการแลกเปลี่ยนกันเอง หรือจะใช้คำว่า แต๊ะเอีย (ผูกเอว) ที่มา คือ ในสมัยก่อนเหรียญจะมีรูตรงกลาง ผู้ใหญ่จะร้อยด้วยเชือกสีแดงเป็นพวงๆ และนำมามอบให้เด็กๆ เด็กๆ ก็จะนำมาผูกเก็บไว้ที่เอว

    ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะกล่าวคำ ห่ออ่วย หรือคำอวยพรภาษาจีนให้กัน หรือมีการติดห่ออ่วยไว้ตามสถานที่ต่างๆ คำที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ​

    - แต้จิ๋ว : ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ จีนกลาง: ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย แปลว่า ขอให้ประสบโชคดี ขอให้มั่งมีปีใหม่ ​

    - จีนกลาง: กงฉี่ฟาฉาย​

    - เกียฮ่อซินนี้ ซินนี้ตั้วถั่น แปลว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้ร่ำรวยๆ ​

    - อีกฝ่ายก็จะกล่าวตอบว่า ตั่งตังยู่อี่ แปลว่า ขอให้สุขสมหวังเช่นกัน ​

    อื้ คำนี้ แปลว่ากลมๆ ขนมอี๊กลมๆ แป้งนิ่มๆ เคี้ยวง่าย กลืนง่าย ให้ความหมายมงคลอวยพรให้ชีวิตราบรื่นง่ายดายเหมือนขนมอี๊ที่ไหว้และรับประทาน​

    โหงวเส็กที้ง แปลว่า ขนม 5 สี อันได้แก่ ถั่วตัด งาตัด ข้างพอง ถั่วเคลือบ น้ำตาล และฟักเชื่อม บางทีก็เรียกว่า "ขนมจันอับ"​

    ส้ม คนจีนเรียกว่า กา แต่ก็มีอีกคำหนึ่งเรียกว่า "ไต้กิก" แปลว่าดี (ส่วนมากนิยมไหว้ 4 ผล เพราะเลขสี่พ้องเสียงคำ "สี่" ที่แปลว่าดี)​

    โชคดี (ส่วนมากนิยมไหว้ 4 ผล เพราะเลขสี่พ้องเสียงคำ "สี่" ที่แปลว่าดี) ​

    ข้อมูลและภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
    [​IMG]
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รวมคำอวยพรวันตรุษจีน พร้อมคำแปล

    http://hilight.kapook.com/view/19800


    [​IMG]

    ข้อมูลจาก Forward Mail
    ภาพประกอบจาก glitter.kapook.com

    คำอวยพร : ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวกใช้
    คำแปล : ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย

    คำอวยพร : ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ
    คำแปล : ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย ​

    คำอวยพร : เจาไฉจิ้นเป้า
    คำแปล : เงินทองไหลมาเทมา ทรัพย์สมบัติเข้าบ้าน

    คำอวยพร : ฟู๋ลู่ซวงฉวน
    คำแปล : ศิริมงคลเงินทองอำนาจวาสนา ​

    คำอวยพร : จู้หนี่เจี้ยนคัง
    คำแปล : ขอให้คุณสุขภาพแข็งแรง

    คำอวยพร : จู้หนี่ฉางโส่ว
    คำแปล : ขอให้คุณอายุยืนยาว ​

    คำอวยพร : จู้หนี่ซุ่นลี่
    คำแปล : ขอให้คุณประสบความสำเร็จ ​

    คำอวยพร : จู้เห้อซินเหนียน
    คำแปล : การอวยพรปีใหม่


    การจุดประทัด และเชิดสิงโตในวันตรุษจีน



    [​IMG]

    "การจุดประทัด" เกิดจากในอดีตมีคนหัวใสนำดินระเบิด ไปบรรจุในบ้องไม้ไผ่เล็กๆ แล้วจุด เสียงไม้ไผ่ระเบิดก็ดังสนั่นหู เด็กเล็กได้ยินก็ร้องจ้า บรรดาสุนัขและสัตว์เลี้ยงทั้งหลายต่างพากันกลัวเสียงประทัดวิ่งหนีกันได้ ทำให้มีคนคิดว่าเสียงดังโป้งป้างของประทัด น่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนได้ ซึ่งเหนียนคำนี้เป็นเสียงจีนกลาง จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า นี้ แปลว่า ปี คนจีนโบราณเชื่อว่าช่วงสิ้นปีที่อากาศหนาวเย็นจัดคนไม่สบายกันมาก เพราะเจ้าตัวเหนียนออกมาอาละวาด การจุดประทัดเสียงดังน่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนและโรคภัยไข้เจ็บให้ตกใจกลัวหนีไปได้


    แล้วต่อมาธรรมเนียมนี้ก็ปรับไปว่า จุดประทัดให้เสียงดังๆ นี้จะเรียกโชคดีให้มาหา บ้างก็ว่าเพื่อให้สะดุดหูเทพเจ้า ท่านจะได้มาช่วยคุ้มครอง

    ส่วนการเชิดสิงโตวันตรุษจีน ที่บางท้องที่จัดเป็นพิธีแห่มังกรใหญ่โต โดยคนจีนเรียกการแสดงเชิดสิงโตว่า ไซ่จื้อบู่ แปลง่ายๆ ว่า ระบุลูกสิงโต จัดอยู่ในหมวดการแสดงสวมหน้ากากสัตว์ ​

    จากบันทึกของราชวงศ์เหนือ...ใต้ (พ.ศ.850
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำมาฝากพ่อท่านโด
    ท่านโด ไม่รู้จักแน่ๆเลย
    พ่อท่านโด เพื่อนพ่อท่านโด รู้จักดี หุหุหุ

    ---------------------------------------------------------

    'ของเล่น' แทนความทรงจำ ความสุข...เหนือกาลเวลา
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=187259&NewsType=1&Template=1

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผ่านวันปีใหม่ส่งความสุขกันไปไม่นาน ก็จะถึงวันเด็กกันอีกแล้ว วันที่มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็ก...พูดถึงเด็กสิ่งที่เป็น ของคู่กายทำให้เจ้าตัวน้อยยิ้มได้คง เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ของเล่น” เพราะเด็กกับของเล่นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาทุกยุคทุกสมัย จะแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับว่าสมัยนั้นจะผลิตอะไรออกมาสร้างความเพลิดเพลินให้กับเด็ก ๆ

    ในบ้านเราของเล่นแบบไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่คุณย่า คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ม้าก้านกล้วยและปืนกล้วย” ของเล่นที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติและสามารถ ทำได้เอง ถ้าเป็นของเล่นจำพวกโลหะเริ่มมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นประเทศจีน และเป็นที่รู้จักมาก ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เริ่มมี ห้างสรรพสินค้าของชาวต่างชาติมาเปิดให้บริการในเมืองไทย ของเล่นต่าง ๆ จึงถูกนำเข้ามาด้วย

    ด้านยุโรป ประเทศที่ เป็นผู้บุกเบิกของเล่นต้องยกให้ประเทศเยอรมนี สมัยปลายยุคกลางทางตอนใต้ที่เมืองนูเรมเบิร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมผลิตของเล่น โดยของเล่นชื่อดังของที่นี่ คือ หัวจักรรถไฟจำลองที่สามารถทำงานได้จริงมีโบกี้ พ่วงท้ายครบชุด ผลิตโดยบริษัท Markin and Bing ปัจจุบันนี้กลายเป็นของสะสมมากกว่าที่จะนำมาเล่นไปเสียแล้ว

    เมื่อหยิบหรือแม้แต่ปรายตามองของเล่นชิ้นใดชิ้นหนึ่ง ในเวลาที่เปลี่ยนไปก็จะทำให้หวนระลึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในช่วงนั้นเป็นความทรงจำที่ดีที่ไม่เคยถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา

    ของเล่นยังเป็นตัวแทน ของความสนุกในอดีตที่หลงเหลือมาถึงยุคปัจจุบันผ่านนักสะสม อย่าง กฤษฎา บุญศรี หรือ โต้ง ผู้ที่หลงใหลของเล่นประเภทสังกะสีเป็นชีวิตจิตใจ เล่าถึงของเล่นในประเทศไทยให้ฟังว่า แรกเริ่มจะเป็นของเล่นจำพวกสังกะสี ที่ทำเลียนแบบของจริง อย่าง รถไฟ รถดับเพลิง รถเมล์ เครื่องบินและสัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งกีฬา เช่น ปิงปอง คนเลื่อยไม้ เพราะสมัยก่อนยังไม่มีการ์ตูน จึงนำสิ่งที่เห็นในชีวิตประจำวันจากสภาวะแวดล้อมมาประดิษฐ์ขึ้นเป็นของเล่น จะมีทั้งแบบเข็น และแบบไขลาน รวมทั้งใส่ถ่าน ต่อมาในยุคที่สหรัฐอเมริกาและรัสเซียนำจรวดขึ้นไปสำรวจอวกาศ จึงเริ่มมีรูปแบบของยานอวกาศ นักบินอวกาศ เพิ่มเข้ามา

    “ของเล่นสังกะสีที่ฮิตสุด คือ เด็กขี่ 3 ล้อขายไอศกรีมเป็นแบบไขลาน ต่อมาเมื่อมีการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาฉายในโทรทัศน์ ก็จะเปลี่ยนหัวนำตัวการ์ตูนจากญี่ปุ่นมาใส่แทน เมื่อมีของเล่นสังกะสีออกมาเป็นของเล่นได้ไม่นาน พลาสติกที่ทำเป็นบล็อกขึ้นรูปต่าง ๆ มีรูปร่างคล้ายกันกับแบบสังกะสีเพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นพลาสติกจึงออกตามมา”

    อาทิตย์ เตชะศิริวรรณ หรือ ป้อม นักสะสม ก็อดซิลล่า เล่าต่อว่า เมื่อหนังการ์ตูนจากต่างชาติเข้ามาฉายในเมืองไทย ของเล่นก็ตามมาเป็นเงา แต่ช่วงนั้นของเล่นจากต่างประเทศยังไม่เป็นที่นิยมเพราะมีราคาสูง จึงมีเฉพาะที่คนไทยทำขึ้นเองจะเป็นตุ๊กตายางที่นิยมนำมาเล่นทอยเส้น ที่รู้จักกันในหมู่เด็ก ๆ ในนามของ ตุ๊กตุ่น ที่ทำโดยฉีดพลาสติกแบบตันเข้าไปในบล็อกเหล็ก ต่อมา เด็ก ๆ นิยมเล่นกันมาก ขึ้นเพื่อลดต้นทุนผู้ผลิตจึงมีการ คว้านบล็อกเหล็กให้บางลง ตุ๊กตุ่นในยุคถัดมาจึงมีลักษณะตัวแบน ลงกว่าเดิม ซึ่งเป็นที่ถูกใจเด็ก ๆ มาก เพราะตุ๊กตุ่นรูปแบบเก่าทอยแล้วจะกระโดดไม่อยู่ในตำแหน่ง ที่ต้องการ แต่พอตัวแบนลงจะได้ระดับที่ต้องการมากกว่า เวลาโยนตกพื้นจะนิ่งกว่าแบบเก่า

    หลังจากตุ๊กตุ่นแบบยาง ก็เปลี่ยนมาเป็นพลาสติกแข็ง เพราะต้นทุน พลาสติกแข็งจะถูกกว่ายาง โดยในช่วงนี้ ตุ๊กตาที่ทำออกมาจะเป็นตัวการ์ตูนของญี่ปุ่นเสียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ หุ่นยนต์ ตัวฮีโร่ในเรื่องต่าง ๆ เช่น ไอ้มดแดง

    ณัฐพิสิษฐ์ มรรคธรรมกุล หรือ หมี นักสะสม โดราเอมอนและไอ้มดแดง กล่าวเสริมว่า เมื่อมีห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่นมาเปิดในประเทศไทยจะมีของเล่นนำเข้าประเภทหุ่นเหล็กเข้ามาด้วย ใช้วัสดุเป็นโลหะผสมดีบุก เมื่อก่อน มีรถเหล็กเล่นอยู่แล้ว แต่นำเหล็กมาเปลี่ยนรูปแบบการ ผลิตเป็นตัวหุ่นยนต์ วิธีการเล่นจะสามารถยิงกระสุนได้ แปลงร่างจากหุ่นยนต์เป็นรถยนต์ได้ คือ ในหนังการ์ตูนหุ่นยนต์ตัวนั้นทำอะไรได้ ของเล่นที่ออกมาก็จะทำได้ด้วยเช่นกัน หุ่นยนต์ที่ ฮิตในสมัยนั้น คือ หุ่นแซด (z) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่ผลิตขึ้น

    “การสร้างหนังการ์ตูนในประเทศญี่ปุ่นจะทำเป็นระบบ คือ เมื่อมีหนังการ์ตูน ออกฉายทางโทรทัศน์ไม่นานก็ จะมีสินค้าตัวการ์ตูนนั้นออกมาจำหน่าย และมีการคิดค้นพัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลา อย่างไอ้มดแดงจากเมื่อก่อนมีตัวเดียวคือ V1 แต่ปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นจนถึง V10 โดยตัวสุดท้ายยังแปลงร่างกลับเป็นตัวแรกได้อีก หรือ การใช้การ์ตูนเป็นสื่อ อย่าง การ์ตูนเรื่องสิงห์สาวนักสืบ ที่ทำให้ลูกข่างเป็นที่ฮือฮามากในช่วงหนึ่งของบ้านเรา”

    อาทิตย์ อธิบายพัฒนาการของเล่นให้ฟังว่า ของเล่นไม่ว่าจะในยุคสมัยใดล้วนมีคุณค่าทั้งนั้น ของเล่นสมัยก่อนจะเหมาะกับเด็กสมัยนั้น ของเล่นสมัยนี้ก็เหมาะกับเด็กในยุคนี้ เรียกว่ายุคใครยุคมัน โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลง มีการพัฒนารูปแบบไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย จะเห็นได้จากสมัยก่อนของเล่นมีเพียงแบบเข็น ไขลาน ใส่ถ่าน แต่ในปัจจุบันมีการใช้รีโมตในการบังคับการเคลื่อนไหว หรือ จากที่ใส่ถ่านไม่มีเสียงก็พัฒนาเปลี่ยนมาเป็นมีเสียงพูด เสียงเพลง หรือของเล่นบางอย่างไม่ต้องใส่ถ่านก็ขยับได้ โดยใช้แสงอาทิตย์โซลาร์เซลล์เป็นแผงไฟเก็บพลัง อย่างตุ๊กตาโนโฮฮอน (Nohohon) ตุ๊กตาหัวกลมอม ยิ้มที่โคลงหัวไปมา รวมทั้งมีการพัฒนาจากของชิ้นใหญ่มาเป็น ของชิ้นเล็ก จากรถบังคับคันละเป็นหมื่น มาเหลือเพียงคันละเป็น พัน เป็นร้อย เพื่อให้เข้าถึงเด็ก ในทุกระดับ

    “ของเล่นนอกจากจะทำให้เพลิดเพลินยังให้ความสุข ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เสริมทักษะให้กับเด็ก ๆ ในส่วนต่าง ๆ เริ่มจากให้เด็กรู้จักการอดออมเพื่อให้ได้ของเล่นชิ้นที่ชอบมาครอบครอง เมื่อได้มาแล้วรู้จักเก็บรักษาของหากเก็บรักษาไว้อย่างดีเมื่อเวลาผ่านไปจะกลายเป็นของเก่าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและเป็นความทรงจำที่ดี รวมทั้งทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้นได้ อย่างหนังสือจอมซนผจญภัยและกบินร์แมน ฮีโร่พันธุ์จ๋อ ซึ่งเป็นการคิดค้น คาแรกเตอร์การ์ตูนไทยขึ้นมาซึ่งต่อไปในอนาคตอาจมีการผลิตเป็นของเล่นออกมาก็เป็นได้ ตรงนี้เป็นการต่อยอดความคิดจากการเล่นของเล่นนั่นเอง” กฤษฎา พูดถึงคุณค่าจากของเล่นให้ฟัง

    การได้ของเล่นมาสักชิ้นหนึ่ง ทั้งเด็กและผู้ปกครองต้องรู้จักประมาณตนว่า ควรจะซื้อของเล่นในลักษณะใด ถ้าราคาแพงเกินไปและไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและครอบครัว รวมทั้งควรซื้อให้ถูกช่วงอายุของเด็ก เพราะบางครั้งซื้อของเล่นสะสมหรือของเล่นที่ไม่เหมาะกับวัยมาให้เด็กเล็กเล่น เด็กได้มาก็ไม่รู้ค่าและไม่ตรงกับความต้องการของเด็ก และเมื่อมีโอกาสได้ครอบครองแล้วจะต้องเล่นให้เป็นเวลา รู้จักเล่น อย่าเล่นผิดวิธี ของเล่นมีให้เล่นอย่างไรก็เล่นอย่างนั้น รวมทั้งเก็บรักษาอย่างถูกวิธีของเล่นจะได้ไม่พังอยู่กับเราไปนาน ๆ

    ใครที่ชื่นชอบหรือสนใจอยากรู้ว่าตอนนี้ของเล่นพัฒนาไปถึงไหนแล้ว พาเด็ก ๆ ไปทำความรู้จักกับของเล่นต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ ที่จับมือกับ ทอยส์ อาร์ อัส จัดงาน Toy World-โลกแห่งความสนุกต้อนรับวันเด็ก ระหว่างวันที่ 9-18 มกราคม 2552 บริเวณลานน้ำพุชั้น 1 โดยแบ่งเป็น 6 โซน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนานและเรียนรู้พัฒนาทักษะต่าง ๆ ผ่านการเล่นของเล่น อีกทั้งพบกับสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ของเล่นสะสมมากกว่า 6 คอลเลกชั่น ที่นำของเล่นสะสมมาจัดแสดงให้ชม รวมทั้งการแสดงสุดมันส์ของเหล่าขบวนการโบเคนเจอร์ และสัมผัสกับบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับของเล่นชั้นนำอย่างบาร์บี้ จะได้มีความรู้เกี่ยวกับของเล่นมากขึ้น

    ของเล่นเมื่อกาลเวลาผ่านไปยังมีคุณค่า...เป็นความทรงจำที่ดี อย่าลืมทำตนให้เป็นดังเช่นของเล่นที่อยู่ในมือคุณ !!
    จุฑานันทน์ บุญทราหาญ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    2 มกราคม 2552 06:38 PM
    #26354
    วันนี้( 2 มกราคม 2552) ผมมีงานบุญมาบอกกับชาววังหน้าทุกๆท่าน

    เนื่องในวันปีใหม่ของไทยเรา คือวันที่ 13 เมษายน 2552 ที่จะมาถึงนี้ ผมจะจัดงานสรงน้ำพระ บรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ ( องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขีที่1(สมเด็จองค์ปฐม) , องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกกุสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม โกนาคมนะ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม กัสสปะ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ) ,พระ อรหันต์ ไม่น้อยกว่า 30 พระองค์ (มีพระธาตุพระอรหันต์สมัยพุทธกาล ,หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า และพระธาตุหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด) ,พระบูชา (พระพุทธรูป ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี)

    การจัดงาน ผมจะแจ้งวันและเวลาอีกครั้ง(ผมจะแจ้งโดยตรงถึงพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านเอง) ในงานสรงน้ำครั้งนี้ ผมจะนิมนต์พระอาจารย์นิล และพระอาจารย์ผม มาฉันเพล เมื่อเสร็จสิ้นการถวายเพล และการสรงน้าแล้ว ผมจะมีการแจกพระสมเด็จให้กับทุกๆท่านที่มาร่วมงาน ผมจึงมาบอกบุญกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน

    การร่วมทำบุญมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    1.ร่วมทำบุญ 100 บาท พระสมเด็จจำนวน 1 ชุด(ขอไม่แจ้งจำนวนองค์) แต่รับพระสมเด็จ 1 องค์
    2.ส่วนที่เหลือผมจะแบ่งไปสำหรับการมอบพระสมเด็จให้กับท่านที่ไปร่วมงานสรงน้ำ
    3.ในส่วนที่แจกทุกๆท่านที่ไปร่วมงาน หากยังมีเหลือ ผมจะนำไปมอบให้กับพี่ใหญ่ เพื่อมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญกับทุนนิธิท่านอาจารย์ประถม อาจสาครครับ
    4.จะนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    5.จะนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผมจะดำเนินการสร้างขึ้น

    หากผมนำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่ทัน ผมจะขอนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผมจะดำเนินการสร้างขึ้นนะครับ

    แต่หากว่ามีท่านที่ร่วมทำบุญมากกว่าพระสมเด็จที่มี อยู่ ผมจะนำพระพิมพ์อื่นๆมาเพิ่มเติม ในส่วนนี้ผมจะนำไปบรรจุในพระเจดีย์เพียงอย่างเดียว จะไม่มีการนำมามอบให้นะครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2552
    สิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม 2552 เวลา 18.00 น.

    สำหรับท่านที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ ผมขอพิจารณาเป็นรายท่านนะครับ เนื่องจากการโอนเงินร่วมทำบุญ จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีผมเอง เมื่อผมตอบตกลงแล้ว ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้อีกครั้งครับ

    หมายเหตุ ท่านที่ร่วมทำบุญทุกๆท่าน เมื่อผมตอบตกลงแล้ว ให้แจ้ง ชื่อ - นามสกุล ของท่าน และบุคคลในครอบครัวของท่าน ที่ท่านประสงค์จะเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ให้ผมทราบด้วย ผมจะได้นำรายชื่อไปแจ้งในงานสรงน้ำ ,มอบให้กับพี่ใหญ่(ในกรณีที่มอบพระให้กับทางทุนนิธิ) ,ถวายพระอาจารย์นิล และพระอาจารย์ผมครับ
    หมายเหตุ 1 สำหรับพระพิมพ์ที่จะบรรจุในพระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผมจะสร้างขึ้น( รายละเอียด มีการเปลี่ยนแปลง โดยจะไม่บรรจุแล้ว) ขอเปลี่ยนแปลงเป็น แล้วแต่ผมจะพิจารณา ส่วนท่านใดที่แจ้งความประสงค์เข้ามาแล้ว ผมจะดำเนินการตามที่แจ้งความประสงค์เข้ามาครับ

    โมทนาสาธุครับ
    http://palungjit.org/showthrea...24#post1771424

    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1318

    รายนามท่านที่ร่วมบุญ
    1.คุณพุทธันดร ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    2.คุณชวภณ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    3.คุณพิมพาภรณ์ ร่วมทำบุญ 100 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    4.คุณtawatd ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    5.คุณnewcomer ร่วมทำบุญ 300.72 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    6.คุณnarin96 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    7.คุณเพชร ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    8.คุณkwok ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    9.คุณdrmetta ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
    10.คุณgnip ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    11.คุณพรสว่าง_2008 ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    12.คุณake7440 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    13.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 1,000.11 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    14.คุณnongnooo ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    15.คุณdragonlord ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    16.คุณaries2947 ร่วมทำบุญ 200 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    17.คุณ นายคัง ร่วมทำบุญ 200 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    18.คุณคีตา ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    19.คุณ นายสติ ร่วมทำบุญ 300 บาท (จะนำไปฝากที่พี่ใหญ่)
    20.คุณhongsanart ร่วมทำบุญ 500 บาท
    21.คุณตั้งจิต ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    22.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    23.คุณlittle lucky ร่วมทำบุญ 150 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    24.คุณteerachaik ร่วมทำบุญ ...... บาท

    รวมจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญกัน 13,450.83 บาท

    หากผมแจ้งผิดพลาด กรุณาช่วยเตือนด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไปรับหนังสือมาเรียบร้อยทั้ง 200 เล่มมาเรียบร้อยแล้วครับ ผมได้จัดการมอบให้น้อง marc น้องbest น้องpukky ทั้ง 3 ท่านมีจิตศรัทธาที่ได้สร้างพระแม่กวนอิม และพระคันธารราฏนาคปรกไว้ที่หนองคาย โดยนำส่วนของคุณ newcomer จำนวน 3 เล่มมอบให้น้องทั้ง 3 ท่านไปเมื่อครู่นี้ ดังนั้นจะมอบให้คุณ newcomer ในวันที่พบกัน 7 เล่มนะครับ ส่วนของคุณ katicat จะมอบให้น้องgnip น้องshinray น้องคีตา คนละ 1 เล่ม
     

แชร์หน้านี้

Loading...