พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาบอกหน้าบอร์ด เป็นวิทยาทานครับ

    การขอขมา
    ข้าพเจ้า ชื่อ............. และ ....(บุคคลในครอบครัว).... ขอขมา....(องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และ/หรือ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และ/หรือ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และ/หรือ พระมหาโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และ/หรือ พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และ/หรือ องค์อภิญญาใหญ่ทุกๆพระองค์ และ/หรือ เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกๆพระองค์ และ/หรือช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าและวังหลวงทุกๆพระองค์ ).... หากข้าพเจ้า และ ....(บุคคลในครอบครัว).... ทำผิดพลาดพลั้งไปด้วยกาย วาจา ใจ ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี รู้เท่าถึงการณ์ก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอได้โปรดให้อภัยและอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้า และ ....(บุคคลในครอบครัว).... ด้วย

    ส่วนการขอพร ก็แล้วแต่ แต่ละท่านนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไหว้ 5 ครั้ง
    ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ญาณวรเถระ )
    วัดเทพศิรินทราวาส

    [​IMG]


    คัดลอกจาก http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html

    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาไร ตามแต่เหมาะต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวนั้น ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ


    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประณมมือว่า

    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ 3 หน

    แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ
    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ ฯ

    หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตามของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ


    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ

    สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโน สนฺทิฆฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติ ฯ

    หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ


    ครั้งที่ 3 ว่าพระสังฆคุณ คือ
    สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโยทกฺขิเนยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติฯ

    หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    นั่งพับเพียบประณมมือตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ
    พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้ว กราบลงหน 1 ฯ

    ข้า ฯ ขอ กราบไหว้คุณท่านบิดาและมารดา
    เลี้ยงลูกเฝ้ารักษา แต่คลอดมาจึงเป็นคน
    แสนยากลำบากกายไป่คิดยากลำบากตน
    ในใจให้กังวลอยู่ด้วยลูกทุกเวลา
    ยามกินพอลูกร้องก็ต้องวางวิ่งมาหา
    ยามนอนห่อนเต็มตาพอลูกร้องก็ต้องดู
    กลัวเรือดยุงไรมดจะกวนกัดรีบอุ้มชู
    อดกินอดนอนสู้ ทนลำบากหนักไม่เบา
    คุณพ่อแม่มากนักเปรียบน้ำหนักยิ่งภูเขา
    แผ่นดินทั้งหมดเอามาเปรียบคุณไม่เท่าทัน
    เหลือที่ จะแทนคุณ ของท่านนั้น ใหญ่อนันต์
    เว้นไว้ แต่เรียนธรรม์ เอามาสอนพอผ่อนคุณ
    สอนธรรมที่จริงให้ รู้ไม่เที่ยงไว้เป็นทุน
    แล้วจึงแสดงคุณ ให้เห็นจริงตามธรรมดา
    นั่นแหละจึงนับได้ ว่าสนองซึ่งคุณา
    ใช้ค่าข้าวป้อนมาและน้ำนมที่กลืนกิน ฯ

    ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผุ้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์และครูบาอาจารย์ เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ข้า ฯ ขอนอบน้อมคุณแด่ท่านครู ผู้อารี
    กรุณาและปรานีอุตส่าห์สอนทุก ๆ วัน
    ยังไม่รู้ ก็ได้รู้ ส่วนของครูสอนทั้งนั้น
    เนื้อความทุกสิ่งสรรพ์ดีชั่วชี้ ให้ชัดเจน
    จิตมากด้วยเอ็นดูอยากให้รู้เหมือนแกล้งเกณฑ์
    รักไม่ลำเอียงเอนหวังให้แหลมฉลาดคม
    เดิมมืดไม่รู้แน่เหมือนเข้าถ้ำเที่ยวคลำงม
    สงสัยและเซอะซมกลับสว่างแลเห็นจริง
    คุณส่วนนี้ควรไหว้ ยกขึ้นไว้ ในที่ยิ่ง
    เพราะเราพึ่งท่านจริงจึงได้รู้ วิชาชาญ ฯ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    (บทประพันธ์สรรเสริญคุณมารดาบิดา และ ครูบาอาจารย์ของ ท่านอาจารย์ จางวางอยู่ เหล่าวัตร วัดเทพศิรินทราวาส ลิขสิทธิ์เป็นของ ท่านเจ้าคุณพระโศภนศีลคุณ (หลวงปู่หลุย พาหิยาเถร) วัดเทพศิรินทราวาส)

    ต่อไปนี้ไม่ต้องประณมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่อง และร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้งพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณมีมารดาบิดา เป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือพระมหากษัตริย์ ทั้งเทพยดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ

    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยกมือไม่ขึ้น ก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้เป็นเครื่องพยุงตนให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดี ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และ ตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มขั้นของตน ๆ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญญาณวรเถระ )

    http://72.14.235.104/search?q=cache:...h&ct=clnk&cd=7

    [​IMG]

    สมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ นามเดิม เจริญ สุขบท เกิดในรัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2415 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรนาย ทองสุก และนางย่าง

    เมื่ออายุ 8 ปี ได้เป็นศิษย์ของท่านเจ้าคุณชลโธปมคุณมุณี (พุฒ ปุณณกเร) ปฐมวัยอาวาสวัดเขาบางทราย เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาที่วัดเขาบางทราย

    และเข้าศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดราชบพิธอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2435 ที่วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2439 ได้ศึกษาพระวินัยปิฎกในสำนัก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่วัดเทพศิรินทราวาส

    "ตาบุญ (พระยาธรรมปรีชา) ผู้เป็นอาจารย์สอนบาลีของ
    เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มอบช้างเผือกส่งเข้ามาให้ "

    สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยา วชิรญาณวโรรส ออกพระโอษฐ์รับสั่งเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร) สอบไล่ภาษาบาลี ในมหามงกุฎราชวิทยาลัยได้ที่ 1ทุกชั้นเป็นลำดับมา

    พ.ศ.2441 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระราชาคณะที่พระอัมราภิลักขิต เป็นผู้อำนวยการศึกษามณฑลปราจีนบุรี ต่อมาได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสได้เลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา พ.ศ.2471 โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

    พ.ศ.2476กรรมการเถรสมาคมมีมติให้ท่าน เป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระสังฆราชเจ้าซึ่งสิ้นพระชนม์ ประมวลเกียรติคุณพิเศษสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร)เป็นพระเถระบริหารงานพระศาสนาถึง 5 แผ่นดิน คือแต่รัชกาลที่ 5-9 เป็นพระราชาคณะแต่อายุ 28 ปี เป็นสมเด็จพระราชาคณะแต่อายุ 57 ปี นับเป็นพระเถระที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พรรษาน้อยกว่า พระเถระหลายรูปเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่อายุ 28 ปี ถึง 80 ปีรวม 53 ปี นับว่ายาวนานที่สุดไม่มีใครเทียบได้
    เมื่อสอบนักธรรม หรือบาลีจะสอบได้ที่ 1 ทุกชั้นทุกประโยคเป็นรูปเดียวในสังฆมณฑล ดำรงตำแหน่งแม่กองธรรมสนามหลวง แม่กองบาลีสนามหลวง องค์เดียวกัน

    ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2494เวลา 10.30 น. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเระ)มรณภาพด้วยโรคเนื้องอกที่ตับรวมอายุได้ 80 ปี พรรษาที่ 59

    ความคิดเห็นส่วนตัวผม
    ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถระ) ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) ท่านบอกกับผู้ที่ไปกราบท่านว่า ขอให้ทุกๆวันได้ไหว้ 5 ครั้ง จะได้เป็นศิริมงคลกับตนเอง จะเหมือนกับชื่อของท่าน (เจริญ) ครับ ท่านเจ้าคุณนรเอง ก็มีความเคารพในท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)มาก โดยท่านเจ้าคุณนรเอง เวลาเดินผ่านกุฎิของท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ)ทุกครั้ง ท่านเจ้าคุณนร ก็จะก้มลงกราบที่กุฎิอยู่ทุกครั้งครับ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันที่ 14 สิงหาคม 2550
    ขอเพิ่มเติมเรื่องราว ไหว้ 5 ครั้ง
    http://www.saktalingchan.com/index.p...icle&Id=262016

    [​IMG]


    เจ้าพระคุณสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร​

    เจ้าพระคุณสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร
    วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร

    1. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงนี้ เมื่อพระคุณท่านมีอายุเพียง 27 ปี มีพรรษา 7 ยั่งยืนตลอดมาเป็นเวลาช้านานถึง 53 ปีฯ

    2. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ นั้นมีอายุเพียง 56 ปี เท่านั้น ฯ

    3. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งธรรมเนียมการเทศนาธรรมในวันอาทิตย์ขึ้นเป็นแห่งแรก เริ่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2471 ติดต่อกันมาถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลา 45 ปี ล่วงแล้ว ฯ

    4. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ แลบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรงสืบต่อมาเป็นเวลา 5 ปี ( ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 ถึง พ.ศ. 2481 ) ฯ

    5. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้ถวายพระธรรมเทศนามงคลวิเสสกถาติดต่อกันถึง 4 รัชกาล คือตั้งแต่รัชกาลที่ 6-7-8-9 เป็นเวลาถึง 25 ปี ฯ

    6. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ มีสัทธิวิหาริก-อันเตวาสิก มากที่สุดถึง 6,666 องค์ ฯ

    7. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นต้นกำเนิดตำราไหว้ 5 ครั้งให้ศิษยานุศิษย์ปฏิบัติตาม หากผู้ใดไหว้ครบ 1 ปี เป็นกำหนด ผู้นั้นจักได้รับรูปที่ระลึกจากองค์ท่านด้านหน้าเป็นรูปองค์ท่าน ด้านหลังเป็นรูปยันต์ภควัม จากกรึกนามองค์ท่านเป็นอักษรย่อ โดยลำดับแห่งราชทินนามนั้น ๆ กระทั่งครั้งสุดท้ายได้จารึก 3 อักษรว่า พ.ฆ.อ. ซึ่งย่อจากราชทินนามว่า พุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระราชาคณะ ฯ

    8. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่มีอายุยืนยาวที่สุด คือ ท่านเจ้าคุณพระโศภณศีลคุณ ( หลวงปู่หลุย พาหิยเถร ) ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 23 ปัจจุบันอายุ 92 ปี พรรษา 67 ( เกิด 9 สิงหาคม 2426 ) ยังเดินลงโบสถ์ลงสวดมนต์ทำวัตรได้เป็นประจำทุก ๆ วัน เป็นพระเถราจารย์องค์สำคัญ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือยิ่งของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ

    9. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่ประพฤติปฏิบัติยอดเยี่ยม และเป็นพระเถระองค์สำคัญที่มีเกียรติคุณโด่งดังในปัจจุบัน คือ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ ธมมฺวิตกฺโก ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 1740 ฯ

    ไหว้ 5 ครั้ง ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดเทพศิรินทราวาส

    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาใด ตามแต่เหมาะ ต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวกัน ถ้ามีดอกไม้ ธูปเทียน ก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ

    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประนมมือว่า นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสฺมพุทฺธสฺส ฯ 3 หน แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ อิติปิ โส ภควา อรหสมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสาน° พุทฺโธ ภควาติ ฯ หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตาม ของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ สฺวากฺขาโต ภควตา ธฺมโม สนฺทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺ จตฺต เวทิตพฺโพ วิญฺญหีติ ฯ หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ครั้งที่ 3ว่าสังฆคุณ คือ สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ ยทิทฺ จฺตตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสฺงโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนฺยโย ทกฺขิเณยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรฺ ปุญฺญกฺเขตตฺ โลกสฺสาติ ฯ หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    นั่งพับเพียบประนมมือ ตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ

    พุทฺธสรณคจฺฉามิ
    ธมฺมสรณคจฺฉามิ
    สงฺฆสรณคจฺฉามิ ฯ
    ทุติยมฺปิ พุทฺธสรณคจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ ธมฺมสรณคจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ สงฺฆสรณคจฺฉามิ ฯ
    ตติยมฺปิ พุทฺธสรณคจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ ธมฺมสรณคจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ สงฺฆสรณคจฺฉามิ ฯ

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผู้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์ และครูบาอาจารย์เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ต่อนี้ไปไม่ต้องประนมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่องและร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพราก จากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้นพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณ มีบิดามารดาเป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือ พระมหากษัตริย์ ทั้งเทพดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ

    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้หนี้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยอมือไม่ขึ้นก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้ เป็นเครื่องหยุดตนให้เป็นคนดีไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดีไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอจนตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่งๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มชั้นของตน ฯ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปัจฉิมโอวาท
    ของ
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรมหาเถระ
    วัดเทพศิรินทราวาส

    ไม่ตายควาวนี้ ก็ตายคราวหน้า อย่างเศร้าโศก เสียทีที่ศึกษาปฏิบัติมา ร้องให้เศร้าโศก ก็ร้องไห้เสร้าโศกสังขารที่
    เกิดแก่เจ็บตายนั้นเอง ที่ไม่ร้องไห้เศร้าโศกนั้นมิใช่จะเป็นคนใจไม้ใส้ระกำอะไร

    ธรรมของพระก็คือ
    สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา
    ย่นลงก็ สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา แล้วปรินิพพาน
    ไม่ต้องเกิดมาแก่ มาเจ็บ มาตายอีก

    (มีบัญชาให้บันทึกไว้เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๙๔)
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีการไหว้ ๕ ครั้ง ( มนต์พิธี )


    คนเราทุกคน ในวันหนึ่งๆ จะต้องไหว้ให้ได้ ๕ ครั้ง เป็นอย่างน้อยคือ ในเวลาค่ำใกล้จะนอน ตั้งใจระลึกถึงพระรัตนตรัยอันเป็นสรณะอันสูงสุดและท่านผู้มีพระคุณแก่ตน คือ มารดาบิดา และครูอาจารย์ โดยประนมมือ


    ๑. นมัสการพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า
    อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
    กราบลงหนหนึ่ง

    ๒. ไหว้พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่า
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ
    กราบลงหนหนึ่ง

    ๓. ไหว้พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ว่า
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ
    กราบลงหนหนึ่ง

    ๔. ไหว้คุณมารดาบิดา ว่า
    มัยหัง มาตาปิตูนังวะปาเท วันทามิ สาทะรัง
    กราบลงหนหนึ่ง

    ๕. ไหว้ครูอาจารย์ ว่า
    ปัญญาวุฑฒิกะเร เต เต ทินโน วาเท นะมามิหัง
    กราบลงหนหนึ่ง

    ต่อจากนั้น พึงตั้งใจแผ่เมตตาจิตไปในเพื่อนมนุษย์ และสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ว่า ขอท่านทั้งหลายอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยด้วยกันหมดทั้งสิ้น เทอญ.
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แบงก์ปลอม พันธุ์ใหม่เหมือนทุกจุด ยกเว้นเลข 1,000

    http://hilight.kapook.com/view/32361

    [​IMG]

    "แบงก์ปลอม" พันธุ์ใหม่เหมือนทุกจุด ยกเว้นเลข 1,000 ตร.ขยายผลทลายแก๊งค์ใหญ่ กลางกรุง

    พบ "แบงก์ปลอม" พันธุ์ใหม่เหมือนทุกจุด ยกเว้นเลข 1,000 ตรงมุมขวาบน ตำรวจภูธรภาค 3 ขยายผลทลายแก๊งค์ปลอมแปลงใหญ่กลางกรุง เผยทำตามใบสั่งลูกค้า 1 พันบาทปลอมละ 200 บาท รู้ตัวเบื้องหลังหมดแล้ว ธ.กรุงไทยระบุเดือนเดียวเจอกว่า 100 ใบ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรภาค 3 ขยายผลทลายแหล่งผลิตธนบัตรปลอมรายใหญ่สำเร็จ โดยเมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 26 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผบก.ภ.จว. ร่วมกันแถลงการจับกุม นายวิทยา บัวรอด อายุ 28 ปี ชาว อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี นายสนอง เงินจันทร์ อายุ 54 ปี ชาวอ.เมือง จ.พิษณุโลก และนายดำรงชัย มะยมหิน อายุ 35 ปี ชาวอ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ขณะกำลังผลิตธนบัตรปลอมที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก เลขที่ 4032/2 ถนนจตุรทิศ เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท 46 ฉบับ กระดาษใช้ผลิตธนบัตร 800 แผ่น แถบสะท้อนแสง 1 แผ่น แท่นพิมพ์ 2 แท่น แผ่นเพลท 2 ม้วน เพลทตัวอย่างที่จัดทำเรียบร้อย 20 แผ่น แผ่นเพลทรูปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ใช้สำหรับปลอมธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท 1 แผ่น เครื่องอัดเพลท 1 เครื่อง เครื่องประมวลผลจอคอมพิวเตอร์ 2 ชุด ปริ๊นเตอร์สี 2 เครื่อง และสีใช้พิมพ์ธนบัตร 5 กระป๋อง

    สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมแหล่งผลิตธรบัตรปลอมครั้งนี้ เป็นการสอบสวนขยายผลมา จากการจับกุมนายธงชัย ประเสริฐ พร้อมของกลางธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท 46 ใบ ที่สามแยกตลาดแค ต.ตลาดแค อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา และนายสัญชิต เทศนา ที่ห้องพักแฟลตดินแดง กรุงเทพมหานคร โดยนายสัญชิตซัดทอดว่า รับธนบัตรปลอมมาจากโรงพิมพ์เอ็มบางกอก

    นายดำรงชัย ให้การรับสารภาพว่า เคยประกอบอาชีพเป็นช่างแยกสีที่โรงพิมพ์แห่งหนึ่ง ก่อนจะร่วมกับพวกที่ถูกจับ รับจ้างนายทุนจากกทม. ปลอมแปลงธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท มานานกว่า 4 เดือน โดยอาศัยโรงพิมพ์เอ็มบางกอก ซึ่งมีนายนายสนองเป็นเจ้าของ โดยจะผลิตตามใบสั่งลูกค้า จำหน่ายฉบับ 1,000 บาท ในราคา 200 บาท ที่ผ่านมาผลิตส่งให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 10,000 ฉบับ ซึ่งจุดที่ไม่สามารถปลอมได้เหมือน 100% คือ กระดาษที่ใช้จะมันและขาวกว่าของจริง เมื่อจับด้วยมือเปล่าจะรู้ทันที นอกจากนี้แถบ 2 สีบนตัวเลข 1000 ลายนูนบนธนบัตร รวมทั้งลายน้ำไม่สามารถปลอมได้เหมือนจริง เพราะทำยากพอสมควร

    พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายใหญ่ กำชับให้ตำรวจในสังกัดเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ส่วนเครือข่ายที่จับกุมได้ครั้งนี้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายผลจับกุมนายทุนที่บงการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งทราบตัวหมดแล้ว ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วที่สุด

    ด้านนายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.เน้นการสืบค้น ตรวจจับและปราบปรามขยายผลไปให้ถึงต้นตอ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้น และไม่มีนโยบายยกเลิกธนบัตรที่มีหรือหมวดที่มีการระบุว่า มีการปลอมแปลงมาก เพราะการผลิตธนบัตรไทยเป็นมาตรการสากล สู้กับต่างประเทศได้ และกระดาษที่นำเข้ามาจากต่างประเทศก็จะมีสัญญาจำหน่ายให้กับโรงพิมพ์ธนบัตรเท่านั้น

    "การจะยกเลิกต้องใช้เวลานาน เพราะมีธนบัตรในระบบมหาศาล จะเกิดความวุ่นวายพอควร แต่ธปท.ขอบอกว่า ธนบัตรเรามั่นคง น่าเชื่อถือ ใช้มาตรฐานชั้นนำของโลกที่สามารถดูออกได้ด้วยตาเปล่า โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ซึ่งยังไม่เคยเห็นในส่วนที่บอกว่าเหมือนธนบัตรจริงมาก จึงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่เท่าที่เคยเห็นฉบับปลอมก็ยังสามารถแยกออกได้ด้วยตาเปล่า ไม่ได้ใช้กระดาษพิเศษอะไร และมีปริมาณไม่มากนัก ขณะนี้ประชาชนเริ่มเข้าใจมากขึ้น เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววัน และประชาชนอย่างตื่นตระหนกมาก" นายนพพรกล่าว

    ขณะที่นายพงศธร สิริโยธิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานปฏิบัติการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอมในขณะนี้ ทางธนาคารสามารถตรวจพบได้ในเดือนธันวาคมมากกว่า 100 ฉบับ ซึ่งเป็นการตรวจพบเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ จำนวนธนบัตรปลอมดังกล่าวหากเทียบกับจำนวนธนบัตรที่ใช้ในระบบประมาณ 100 ล้านฉบับต่อเดือนถือว่ามีจำนวนน้อยมาก พื้นที่ที่มีการพบธนบัตรปลอมมากที่สุดเป็นบริเวณตะเข็บชายแดนไทย นับว่าช่วงนี้ธนบัตรปลอมมีการออกมาจำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนยังมีความวิตกอยู่มาก เพราะยังไม่มีความชำนาญพอที่จะตรวจสอบธนบัตรได้ว่าจริงหรือปลอม

    นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ ตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สถาบันการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมศุลกากร สมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย ว่า ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม กรมการค้าภายในและค้าภายในจังหวัด จะร่วมมือกับหน่วยงานของสถาบันการเงินและทางตำรวจ ประชาสัมพันธ์และตรวจสอบกรณีธนบัตรปลอมระบาด จนอาจกระทบต่อความมั่นใจต่อการใช้ธนบัตรของผู้บริโภคและผู้ค้า โดยจะเปิดจุดให้คำแนะนำและตรวจสอบธนบัตรตามแหล่งชุมชนและตลาดทั่วไปทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

    "ทั้งนี้ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ จะเดินทางไปตรวจสอบราคาสินค้าและภาวะการค้าขายพร้อมผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงรับร้องเรียนถึงปัญหาธนบัตรปลอม ที่บริเวณสวนจตุจักร" นางพรทิวา กล่าว

    นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้า ส่ง-ค้าปลีกไทย กล่าวว่า พันธบัตรปลอมอาจกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับกระทบต่อการค้าการใช้จ่ายอย่างไรก็ยังต้องมีอยู่ สมาคมฯ ก็จะเตือนให้สมาชิกและร้านค้าทั่วไปได้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น โดยจะนำโปรเตอร์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดทำในการสังเกตธนบัตรไปแจกจ่าย

    วันเดียวกัน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวถึงกล่าวถึงธนบัตรปลอมที่กำลังระบาดว่า ด้านการข่าวทราบว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการลักลอบผลิต แต่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีจริงหรือไม่ และอยู่ในพื้นที่ใด เบื้องต้นทราบเพียงว่าอยู่ในพื้นที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) หรือบก.น.2 เท่านั้น และหากประชาชนทราบหรือรู้เบาะแสแหล่งผลิตธนบัตรปลอม สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน 191

    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ตำรวจ สน.โคกคราม จับกุมนายเทอดศักดิ์ พร้อมธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท 11ใบ ได้ในซอยมัยลาภ ถ.รามอินทรา เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยทำการล่อซื้อ จากนั้นส่งให้ กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจ ตรวจสอบพบว่า ธนบัตรปลอมดังกล่าวปลอมได้เหมือนของจริงมาก ทุกจุดที่มีตำหนิ คือ

    จุดที่ 1.ลายน้ำ ธนบัตรจริงจะมีลายน้ำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ใสชัดเจน แต่ธนบัตรปลอมจะเป็นเงาดำ

    จุดที่ 2 .แถบสีโลหะสีเงินในเนื้อกระดาษธนบัตรจริง จะระบุมูลค่าธนบัตรไว้เป็นตัวเลข 1,000 บาท ชัดเจนเมื่อส่องกับแสงสว่าง

    จุดที่ 3.การพิมพ์ ธนบัตรจริงจะพิมพ์เส้นนูนบนเนื้อกระดาษบริเวณคำว่ารัฐบาลไทย และตัวหนังสือคำว่าหนึ่งพันบาท ถ้าเป็นธนบัตรปลอมเป็นการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ตัวหนังสือจะเรียบไม่มีรอยนูน

    จุดที่ 4.ภาพทับซ้อน ลายดอกบัวเมื่อส่องด้วยแสงสว่างจะเห็นชัดเจน แต่ธนบัตรปลอมจะไม่มีลายดอกบัว

    จุดที่ 5.ตัวเลขแฝง และแถบฟอยด์สีบอร์นธนบัตรจริงจะเห็นชัดเจน ธนบัตรปลอมจะไม่ชัดเจน

    จุดที่ 6 เนื้อกระดาษธนบัตร จริงจะใสสะอาดกว่าธนบัตรปลอมที่ค่อนข้างจะมืดทึบกว่ามาก

    แต่ธนบัตรปลอมที่จับได้ในท้องที่สน.โคกคราม สามารถทำได้เหมือนทั้ง 6 จุด จะต่างตรงเลข 1000 ตรงมุมบนขวาของแบงก์ ซึ่งมี 2 สี หากส่องดูจะสีจะเลื่อนมาเหลื่อมกัน แต่ธนบัตรปลอมสี 2 สีจะไม่เลื่อนมาเหลื่อมกัน




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชน ออนไลน์
    [​IMG]
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เลือกของขวัญอะไรดีวันปีใหม่
    http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9510000152037
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 ธันวาคม 2551 13:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เดาว่าตอนนี้หลายๆคนคงกำลังหาซื้อของขวัญแทนใจสำหรับช่วงผ่อนคลายอย่าง เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอยู่ ขณะเดียวกันหลายที่ก็กำลังเตรียมตัวจัดการเลี้ยงฉลองปี 52 ที่จะมาถึงล่ะไม่ว่าท่ามกลางยุคฝืด ปลายปีนี้ การเลี้ยงฉลองจะเป็นปาร์ตี้เล็กๆหรือปาร์ตี้ใหญ่ๆก็ตาม แต่กิจกรรมสุดฮิตที่มีทุกปีก็หนีไม่พ้นในเรื่องของ การจับฉลากแลกของขวัญ

    เอาล่ะที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับไอเดียของแต่ละคนกันแล้วว่าจะเลือกหาซื้ออะไรเก๋ๆแบบราคาประหยัดให้แก่กัน

    “ เบียร์- ทิติยา เถาธรรมพิทักษ์”
    นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมรภ.สวนสุนันทาเบียร์บอกว่าให้ของขวัญกันทุกปีส่วนปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีการเลือกของก็จะดูที่ความคุ้มค่าและเหมาะสมกับราคา

    “ ก็ดูที่ประโยชน์ก่อนเป็นใช้ได้ค่ะ เอาที่มันเหมาะสมกับราคาในตัวสิ่งของ โอเคเราอาจจะเอาความน่ารัก ตามความชอบเรานิดนึงแต่ว่าก็ให้มันมีประโยชน์ในการใช้สอยในตัวด้วย ไม่เน้นว่าเป็นของที่ระลึกยุคนี้ควรให้สิ่งที่มีประโยชน์ใช้สอยพ่วงเข้าไปจะดูดีเหมาะสมเข้ากับความเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ”

    ด้าน “นก-กนกวรรย วิลัยมาตย์” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ส่วนตัวของนกบอกว่าเขาเอางบประมาณเป็นที่ตั้งในการเลือกหาซื้อของขวัญแล้วดูความเหมาะสม เพราะจะช่วยให้เซฟค่าใช้จ่ายตามกำหนดได้

    “ ก็เศรษฐกิจมันไม่ดีอยู่ และเราก็ยังไม่มีรายได้ด้วย ทำให้ใช้จ่ายเงินก็จะต้องมีงบประมาณและก็มีการวางแผนให้เป็นไปอย่างพอดี เงินของผู้ปกครองที่ให้เรามาจะได้ไม่ต้องขอเพิ่มเอางบเป็นที่ตั้งเลย ดูที่ราคาก่อน แล้วดูความเหมาะสม เป็นของกระจุกกระจิกเล็กน้อยก็ได้ที่ให้กันไม่ต้องแพงมาก เอาแบบว่าคาดว่าคนรับน่าจะได้ใช้ประโยชน์ไปด้วยก็ดี เหมือนเป็นน้ำใจที่ให้แก่กันมากกว่าให้ผู้รับยังนึกถึงเราและก็มีการแลกของกันให้ต่างคนมีแสดงความรู้สึกดีๆต่อกันแค่นี้ก็พอ”

    ดูเหมือนแต่ละคนก็จะมีวิธีแนวทางประหยัดโดยควบคุมค่าใช้จ่ายและคำนึกถึงราคา ในขณะเดียวกันบางคนก็เลือกหยิบเอาไอเดียและความคิดสร้างสรรค์มาต้อนรับวิกฤติเศรษฐกิจในเทศกาลปีใหม่อย่าง “นินิว-ปิยะนันท์ ขุนทอง”นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จาก มรภ.สวนสุนันทา นินิวเลือกให้การ์ดส่งความสุขให้แก่กัน เขาบอกว่าทั้งประหยัดและน่าประทับใจ

    “ที่ตั้งใจจะทำก็จะทำเป็นโปสการด์อวยพรปีใหม่ให้แก่กัน ตกแต่งเองด้วยดอกไม้แห้งทำนองนี้เขียนข้อความให้กันแบบเป็นการอวยพรดูแล้วมันเหมาะสมกับเทศกาลและก็ใช้เงินไม่มากหรืออาจจะไม่ใช้เลย ก็เลือกให้กันเฉพาะคนสนิทก็จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วย”

    ทั้งนี้ “นินิว” ยังเสริมอีกว่าถ้าหากใครไม่อยากทำแค่การ์ดหรืออยากจะแสดงฝีมือทำอย่างอื่นก็ให้ลองหาสิ่งรอบตัวมาประยุกต์ให้แก่กันดู

    “ ก็ลองมองหาว่าเราสามารถจะหยิบเล็กผสมน้อย หรือนำสิ่งใกล้ตัวมาประยุกต์ได้ไหม เพราะอย่างน้อยคือ หนึ่งเราได้ความประหยัด สองคือก็ได้ทั้งคุณค่าทางจิตใจด้วย”

    เอาล่ะใครคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไร หรือประดิษฐ์อะไร เราเลยเก็บตกภาพเทศกาลของขวัญ Fm One Gift Fair # 3มาให้ชมเพื่อจะเป็นไอเดีย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปีใหม่-การอวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมไทย-ให้ของขวัญ
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHhNaTB5T0E9PQ==

    คอลัมน์ รายงานพิเศษ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตามจารีตประเพณีแต่ดั้งเดิมของไทยถือเอาวันแรม 1 ค่ำเดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ เป็นการสอดคล้องกับคติแห่งพุทธศาสนาซึ่งถือเอาฤดูหนาวเป็นการเริ่มต้นปี

    ต่อมา ได้ถือว่าวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนห้าเป็นวันขึ้นปีใหม่ (ตรุษไทย) ซึ่งถือตามปฏิทินทางจันทรคติและยึดถือมา

    จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าไทยได้ติดต่อกับประเทศต่างๆ มากขึ้น การใช้ปฏิทินทางจันทรคติไม่เหมาะสม และไม่สะดวกเพราะไม่ลงรอยกับปฏิทินสากล จึงประกาศให้ใช้วันทางสุริยคติตามแบบสากลแทน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2432 เป็นต้นมา และถือเอาวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ด้วย

    เมื่อถึงสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เห็นว่าไม่เหมาะสมเพราะประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ต่างก็ถือเอาวันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ เมื่อไทยยอมรับปฏิทินสุริยคติตามแบบสากลแล้วก็ควรจะใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเริ่มต้นปี เพื่อความสะดวกในการติดต่อกับประเทศต่างๆ

    จึงกำหนดให้ถือเอาวันที่ 1 มกราคม ของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็นต้นมา เป็นผลให้ปี พ.ศ.2483 ขาดไป 3 เดือน และให้ถือเป็นจารีตประเพณีของชาติ ให้ทางราชการ บริษัท ห้างร้านทั่วไป หยุดงานที่เคยทำประจำ 2 วัน คือ วันที่ 31 ธันวาคม วันสิ้นปีเก่า และ วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่

    ธรรมเนียมไทยแต่เดิมมา ก่อนวันขึ้นปีใหม่ ชาวบ้านจะปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาดทั่วบริเวณ และตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงามตามกำลังความสามารถ ในวันขึ้นปีใหม่ นอกจากทำบุญตักบาตรหรือทำกุศลอื่นๆ ตามอัธยาศัยแล้ว ผู้น้อยนิยมไปรดน้ำผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ เพื่อขอศีลขอพรท่านให้เกิดความเป็นสวัสดิมงคลแก่ตนเองสืบไป
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ประเพณีใหม่ที่เข้ามาสู่คนไทยในโอกาสนี้คือ การส่งบัตรอวยพรระหว่างเพื่อนฝูง ญาติมิตรที่สนิทสนมกัน เป็นการแสดงออกแห่งไมตรีจิตระหว่างกัน นับเป็นการประยุกต์นำวัฒนธรรมอื่นที่เหมาะสมมาใช้ในสังคมไทย ถือเป็นความเจริญทางวัฒนธรรมได้ประการหนึ่ง

    การอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ นิยมปฏิบัติกันแพร่หลาย ด้วยการใช้บัตรอวยพร หรือ นิยมใช้สิ่งของ นำไปมอบให้ผู้ที่เคารพนับถือ ตลอดจนญาติสนิทมิตรสหายรวมทั้งผู้บังคับบัญชาในที่ทำงานเป็นเครื่องแสดงถึงการระลึกถึงคุณความดีและไมตรีจิตมิตรภาพ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

    การอวยพรผู้ใหญ่ เรานิยมอวยพรกันในวันที่ 1 มกราคม ถ้าเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักมาก เช่น บิดา มารดา ญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่รวมทั้งผู้บังคับบัญชาระดับสูง นิยมไปอวยพรในตอนเช้า

    การมอบของขวัญแบบไทยซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะส่งเสริม คือ

    1.กระเช้าดอกไม้หรือแจกันดอกไม้สดที่สามารถปลูกได้ในเมืองไทยหรืออาจเป็นดอกไม้ประดิษฐ์จากกลุ่มแม่บ้านต่างๆ

    2.กระเช้าเครื่องกระป๋องซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการในพระราชดำริ หรือผลิตภัณฑ์ในโครงการหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล

    3.กระเช้าหรือถาดหรือตะกร้าผลไม้สดซึ่งเป็นผลไม้ไทย

    4.กล่องหรือภาชนะหรือตะกร้าจักสานบรรจุผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้หรือขนมแห้ง ผลไม้กวนหรือขนมหวานแบบไทย
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    5.ประเภทเครื่องแต่งกาย อาจเป็นผ้าชิ้น โดยเฉพาะผ้าทอมือกำลังเป็นที่นิยม หรือเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ตัดเย็บจากผ้าทอมือของไทยแล้วแต่กรณี

    ของขวัญต่างๆ ควรจัดให้สวยงาม ด้วยการผูกโบว์สีสวยงามให้น่าดู ถ้าเป็นสิ่งของที่ต้องใส่กล่องควรหากระดาษห่อที่มีลวดลายสุภาพไม่ฉูดฉาดบาดตา และห่อด้วยความประณีต ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์หัตถกรรมประเภทกระดาษสา กระดาษจากใยต้นกล้วย และกล่องที่ทำจากกระดาษดังกล่าวแล้วของไทยได้รับการพัฒนาคุณภาพและความสวยงามประกอบกับราคาไม่แพง จึงน่าจะสนับสนุนนำมาใช้ในวาระปีใหม่

    สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องแสดงถึงรสนิยมของผู้ให้ รวมทั้งแสดงถึงการคารวะที่ผู้ให้มีต่อผู้รับและยังจะสร้างความประทับใจในการมีส่วนร่วมกันสนับสนุนสินค้าไทย

    การเลือกของขวัญ และบัตรอวยพร หรือบัตรส่งความสุข ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับผู้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ใหญ่ที่มีอาวุโส ควรเลือกด้วยความพิถีพิถัน บัตรอวยพรหรือบัตรส่งความสุขควรเลือกที่เป็นภาพสวยงามแบบเรียบสีสุภาพ และเพื่อร่วมสนับสนุนกองทุนศิลปินแห่งชาติ ประชาชนสามารถซื้อบัตรอวยพร และผลิตภัณฑ์สินค้าที่ระลึกผลงานศิลปินแห่งชาติในรูปแบบต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยความสวยงามและคุณค่าของความเป็นไทย เพื่อใช้เป็นของขวัญอวยพรวันปีใหม่แบบต่างๆ ณ ที่ทำการสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ในวันและเวลาราชการ



    สำหรับการเลือกคำอวยพร ก็ควรใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม เช่น

    เนื่องในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย

    และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก

    จงบันดาลให้ท่านและครอบครัว (หรือตำแหน่ง)

    ประสบด้วยจตุรพิธพรชัยตลอดไปŽ

    กราบอวยพรด้วยความเคารพ (อย่างสูง)

    ลงชื่อ....................



    การมอบของขวัญควรทำด้วยความเคารพนอบน้อมพร้อมทั้งกล่าวอวยพรดังข้อความข้างต้น ตามธรรมดาญาติผู้ใหญ่เป็นผู้ให้พรแก่ลูกหลานหรือผู้อาวุโสน้อยกว่า เมื่อลูกหลานจะอวยพรญาติผู้ใหญ่ที่เคารพจำเป็นต้องขออนุญาตคุณพระศรีรัตนตรัยดังกล่าวข้างต้นมาอวยพรแทน

    ซึ่งเป็นประเพณีของคนไทยมาแต่โบราณ เมื่อลูกหลาน หรือผู้อ่อนอาวุโสกล่าวคำอวยพรและมอบของขวัญแล้ว ผู้ใหญ่จะให้พรตอบ และมอบของขวัญที่เตรียมไว้เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาเหล่านั้นได้สละเวลามีค่ามาอวยพร เมื่อการอวยพรดำเนินไปเรียบร้อยแล้ว อาจใช้เวลาสำหรับพูดคุยกันตามความสนิทสนมคุ้นเคย

    ในกรณีที่มีผู้ไปอวยพรกันอย่างคับคั่ง ผู้ไปร่วมอวยพรมิควรใช้เวลาพูดคุยนานเกินไป ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าของบ้าน หรือผู้อวยพรต่อไปใช้เวลาตามสมควร

    นอกจากการมอบของขวัญแล้ว ในวันขึ้นปีใหม่ เราสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ อาทิ ทำบุญตักบาตร ทำความสะอาดอาคารสถานที่ โรงเรียน วัด สถานที่ทำงาน เครื่องนุ่งห่ม เพื่อต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ ทำบุญทำทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา เป็นต้น

    เพื่อเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตะลึง"นกเอี้ยง" ชอบอาบน้ำแร่
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeE13PT0=&day=TWpBd09DMHhNaTB5T0E9PQ==


    คอลัมน์ เป็นไปได้




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คำว่า "นกเอี้ยงมาเลี้ยงควายเฒ่า" อาจล้าสมัย เมื่อมาพบกับนกเอี้ยงตัวหนึ่งที่มีพฤติกรรมแปลก ไม่เหมือนนกเอี้ยงทั่วไป

    นายอินถา บัญญาวงศ์ นายก อบต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย พาเข้าเยี่ยมชมน้ำพุร้อนบ้านผาเสริฐ ม.6 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และรักษาสุขภาพ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก

    บริเวณนั้นมีห้องอาบน้ำแร่ ทั้งแบบห้องส่วนตัว และแบบสระรวม

    จึงพบกับนกเอี้ยงตัวหนึ่ง ที่มีนิสัยประหลาด ไม่กลัวคน และชอบมาขออาหารจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวน้ำพุร้อน

    และที่สำคัญ ในช่วงเช้าของทุกวันนกเอี้ยงตัวนี้จะลงอาบน้ำแร่ บางครั้งก็อาบน้ำแร่ร่วมกับนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน และขึ้นมาทำความสะอาดขนที่ริมสระอย่างสบายอารมณ์ สร้างความสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก

    แม่ค้าอาหารใกล้กับน้ำพุร้อนเล่าว่า นกเอี้ยงตัวดังกล่าวเติบโตที่นี่ เห็นตั้งแต่ยังเป็นนกตัวเล็กๆ มีแม่ค้าเก็บเอามาเลี้ยง เนื่องจากหล่นลงมาจากต้นไม้

    จากนั้นก็เลยสนิทคุ้นเคยกับคนเป็นอย่างดี เพราะได้อาหารจากคนที่มาเที่ยว จนชอบทำตามคนเวลานั่งทานข้าวก็จะมาขอเศษอาหาร บางครั้งก็จะได้เงินจากนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเลือกคาบเฉพาะธนบัตรใบละ 20 บาทเท่านั้น

    ทุกๆ เช้าช่วงเวลาประมาณ 9-10 นาฬิกา นกเอี้ยงตัวนี้จะชอบลงไปเล่นน้ำแร่ในสระรวม ถึงแม้บางครั้งจะมีนักท่องเที่ยวลงสระหลายคนนกเอี้ยงตัวนี้ก็ไม่กลัวคนทำร้ายเลยแม้แต่น้อย ลงเล่นน้ำแร่อย่างสบายใจ

    จากนั้นก็จะบินมาทำความสะอาดขนที่ริมสระ และบินไปหาอาหารกินย่านร้านค้า เป็นประจำทุกวัน จนพ่อค้าแม่ค้าชินตามานาน แต่เป็นสิ่งแปลกสำหรับนักท่องเที่ยวที่พบเห็น

    เป็น "เจ้าเอี้ยง" อาบน้ำแร่ที่น่าสนใจจริงๆ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กระเช้าของขวัญ มอบความสุขรับปีใหม่
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=186383&NewsType=1&Template=1

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะก้าวขึ้นสู่ศักราชใหม่ซึ่งในช่วงเทศกาลแห่งความสุขเวลานี้ นอกจากสีสันแห่งความสุขที่ส่งผ่านถ้อยคำอวยพรในการ์ด ส.ค.ส. แล้ว “กระเช้าของขวัญ” หลากหลายรูปแบบยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ใช้แทนใจสื่อความหมาย ความปรารถนาดี มิตรไมตรีมอบให้แก่กันและกันต่อเนื่องมา

    แต่เดิมการเปลี่ยนปีพุทธศักราชเริ่มขึ้นในวันแรกของเดือนเมษายนจากนั้นเปลี่ยนมาใช้ตามแบบสากลคือวันแรกของเดือนมกราคมและ จากความหลากหลายของรูปแบบการอวยพรส่งมอบความสุขในส่วนของ กระเช้าของขวัญ ที่ผ่านมามี ความเคลื่อนไหวหลากหลายให้ติดตามทั้ง การรณรงค์ของขวัญปลอดภัยกระเช้าปีใหม่ปลอดเหล้า การตรวจกระเช้าของขวัญผลิตภัณฑ์อาหารที่ใส่ในกระเช้าเพิ่มความปลอดภัยด้านอาหาร การติดป้ายแสดงราคาสินค้า ฯลฯ

    อีกทั้งยังมีแนวคิดมอบของขวัญส่งความสุขด้วย กระเช้าผลิตภัณฑ์สินค้าไทย อย่าง กระเช้าดอกไม้ที่ปลูกได้ในประเทศ ดอกไม้ประดิษฐ์ งานหัตถกรรม ผัก ผลไม้ไทย ฯลฯ อีกทางเลือกให้กับผู้ที่กำลังมองหาของขวัญและอย่างที่กล่าวมาการมอบของขวัญส่งความสุขให้แก่กันมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับความเหมาะสมพึงพอใจ

    แต่หากกำลังเลือกหาของขวัญใส่กระเช้าไม่ว่าจะเป็นขนม ผัก ผลไม้ อาหารสดหรือเครื่องดื่มบรรจุกระป๋อง ขวด ฯลฯ การรู้หลักในการเลือก รวมทั้งการจัดเก็บอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ รศ.ดร.วิสิฐ จะวะสิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้ ว่า ในการส่งความระลึกนึกถึง กันในวันปีใหม่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดต่างมีคุณค่าความหมาย ส่วนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในกระเช้า ถ้าเป็นอาหารแปรรูปทั้งหลาย อาหารกระป๋อง ก็ต้องดูสภาพ กระป๋อง ไม่บุบ ไม่มีรอยถลอก ส่วนพวกที่เป็น ขวดแก้ว ควรพิจารณาสีว่ามีการเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ ดูความสมบูรณ์ของฝาปิดสนิท ฯลฯ พิจารณาสิ่งเหล่า นี้เป็นส่วนประกอบ

    นอกจากนี้ควรพิจารณาวันหมดอายุ อย่างสิ่งที่จะจัดใส่กระเช้าคงต้องให้เวลากับผู้รับในการบริโภคอย่างน้อยอีก 3-6 เดือน ส่วนอาหารที่มีน้ำตาลสูง เกลือสูงควรเลือกพิจารณาเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกมอบสิ่งใดควรเลือกให้เหมาะสมกับผู้รับ ไม่ จำเป็นต้องเป็นสิ่งของราคาสูง อย่าง กระเช้าผักผลไม้ไทย ของพื้นเมืองผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น งานหัตถกรรม ฯลฯ จัดใส่กระเช้ามอบให้ด้วยความตั้งใจผู้รับก็มีความสุขภูมิใจ

    ขณะที่การเลือกซื้อพิจารณาถึงวันหมดอายุ สิ่งของบางอย่างที่มีระยะเวลาในการบริโภค อาหารบางชนิด ที่บรรจุในขวดแก้วก็ควรจัดเก็บอยู่ในตู้ที่ไม่โดนแสง หากโดนแสง สีจะเปลี่ยน อีกทั้งขวดพลาสติกบางชนิดอาจดูดกลิ่นจากข้างนอกเข้ามา ฯลฯ ขนมอบ อาหารบางอย่าง ต้องใส่ตู้เย็นหากทานไม่หมด อย่าง ขนมคุกกี้อาจเก็บไว้ได้นาน แต่การเก็บควรเก็บในภาชนะที่แห้งไม่ให้โดนอากาศโดนแสงและถ้าปิดฝาไม่สนิทก็อาจจะ นิ่มได้

    นอกจากนี้ต้องดูอายุการเก็บเป็นหลัก สิ่งไหนที่หมดอายุก่อนก็ควรนำมาใช้ก่อน อะไรที่จะใช้ก็ควรเก็บให้ถูกต้อง อีกทั้งการแบ่งปันยังเป็นการส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาล

    นอกจากมุมมองการเลือกที่กล่าวมา ผศ.ดร.สม เกียรติ โกศัลวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายเคมีทางอาหาร แนะนำอีกว่า ทุกสิ่งที่นำมามอบให้แก่กันไม่ว่าจะเป็นกระเช้าของขวัญหรือการ์ดล้วนเป็นสิ่งที่แทนความระลึก ถึงการส่งความปรารถนาที่ดีให้แก่กัน นอกจากกระเช้าที่มีวางขายสำเร็จรูป การเลือกซื้อสิ่งต่าง ๆ เองก็เป็นอีกสิ่งที่ตรงกับความต้องการ อาจารย์ท่านเดิมให้ความรู้บอกเล่าว่า ในสินค้า ที่เราเลือกต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกันอย่างถ้าเป็นของที่เป็นแพ็กเป็นกล่องก็ต้องดูวันที่ผลิต วันหมดอายุ ถ้าผลิตมาแล้วและเหลือเวลาอีกไม่นานจะหมดอายุก็คงต้องพิจารณา อีกทั้งต้องนึกต่อไปอีกว่าถ้าผู้ที่ได้รับยังไม่ใช้ก็ต้องนึกถึงการดูแลรักษาสิ่งนั้นร่วมด้วย อย่างถ้าเป็นของสดเนื้อสัตว์ต้องไม่เกิน 3-4 วัน ถ้าเก็บไว้ในช่องเย็นธรรมดาก็จะเก็บไว้ได้ประมาณ 3 วัน แต่ถ้าอยู่ในช่องแช่แข็งจะยาวนานกว่าประมาณ 1 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องไม่มองข้ามดูวันผลิต วันหมดอายุต้องพิจารณาถึงการใช้งานที่พอดีร่วมด้วย

    ส่วนของบริโภคที่ใช้ได้ยาวนานบรรจุในหีบห่อต่าง ๆ ต้องดูวันหมดอายุหรือวันที่ผลิตซึ่งส่วนใหญ่จะมีวันหมดอายุนานหลายเดือนตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี ขณะที่ ผัก ผลไม้ ของที่อยู่ในสภาพสด ถ้าเป็นพวกที่มีก้านก็ควรเลือก ที่มีก้านเขียว ไม่เหี่ยวมองดูสี สันสดใส ฯลฯ เหล่านี้อาจเป็นเรื่องทั่วไปที่ทราบกันแต่อาจมองข้ามกันไป แต่ไม่ว่าจะเลือกซื้ออะไรก็แล้วแต่ความตั้งใจ เป็นสิ่งสำคัญ

    นอกจากการบริโภคการเก็บการถนอมอาหาร อาหารบางอย่างหลังจากเปิดมารับประทานแล้วไม่หมดมีคำแนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็นก็ควรปฏิบัติเช่นนั้น อาหารบางอย่างที่มีส่วนประกอบของน้ำมันเมื่อถูกอากาศอาจมีลักษณะหืน อย่างพวกขนมปัง ขนมอบกรอบควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทก็จะไม่ทำให้อาหารเหล่านั้นมีกลิ่น ในกลุ่มขนมหวานซึ่งมีความสามารถในการเสียง่าย ควรเก็บไว้ในที่เย็นแต่ก็เก็บไว้ได้ไม่นานไม่กี่วัน ในกลุ่มอาหารกระป๋องประมาณครึ่งปีขึ้นไป แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องดูฉลากเป็นหลักว่าจะหมดอายุเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับสภาพการเก็บและแม้จะมีการกล่าวถึงโภชนาการช่วงเทศกาล แต่ปัญหาโภชนาการไม่ใช่แค่การเลือกซื้อ แต่อยู่ที่พฤติกรรมการ บริโภค

    “หลักของโภชนาการไม่ว่าจะรับประทานสิ่งใดควรมีความหลากหลายไม่ซ้ำจำเจ อีกทั้งบริโภค ในปริมาณที่ไม่มากเกินพอดี ต้องบริโภคอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะสม ซึ่งการบริโภคสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซ้ำ ๆ ทุกวันอาจทำให้ขาด สารอาหารบางอย่างได้ อาหาร อย่างเดียวที่บริโภคจึงไม่ได้หมายความว่ามีสารอาหารครบถ้วน ต้องได้จากอาหารหลากหลาย ผสมรวมกันจนเราไม่ขาดสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ”

    การส่งความระลึกถึง กันในวันปีใหม่ไม่ว่าจะเป็นสิ่ง ใด นอกเหนือจากการเลือกสิ่ง ที่เหมาะสมขณะเดียวกันคงต้องดูความสามารถในการจ่ายไม่กระทบกับสภาพเศรษฐกิจของตนเองและจากความตั้งใจเลือกสรรค์สิ่งดี ๆ ใส่กระเช้าของขวัญส่งความสุขสิ่งเหล่านี้ล้วนสื่อความหมายแทนความรู้สึก ดี ๆ ในวันปีใหม่มอบให้ผู้รับได้อิ่มเอมใจ.
    ทีมวาไรตี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    'ผมหงอก' ก่อนวัย ทำไงดี?
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=67755&NewsType=2&Template=1

    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า “อาชีพถอนหงอก” ที่หลายคนคาดไม่ถึง จะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จนมีบางคนเปิดกิจการรับถอนหงอก คิดชั่วโมงละ 80 บาทเลยทีเดียว ผลปรากฏว่า ลูกค้าไปใช้บริการเพียบ ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานอายุประมาณ 30 ต้น ๆ

    ทั้ง ๆ ที่ยังไม่แก่เลย แต่ทำไมผมหงอกก่อนวัย ? เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง อธิบายว่า สาเหตุของผมหงอก เกิดจาก เม็ดสีเมลานิน ที่ทำให้เส้นผมมีสี จะลดลงเมื่อสูงวัยขึ้น ทำให้ผมเป็นสีขาว หยาบ แลดูไม่เป็นประกาย ดังนั้นผมหงอกที่พบในผู้สูงอายุเมื่อเกิดแล้วจะอยู่ถาวร

    กรณีผมหงอกที่กลับดำได้นั้น เป็นผมหงอกที่เกิดจากโรคภายในร่างกาย ถ้ารักษาโรคหายผมจึงกลับดำได้ โรคที่ทำให้เกิดผมหงอกได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง โรคต่อมไทรอยด์ การบาดเจ็บและโรคของระบบประสาท โรคด่างขาว โรคผมร่วงเป็นหย่อม การล้มป่วยบางอย่าง เช่น มาลาเรีย และเป็นไข้หวัดใหญ่

    ที่สงสัยกันว่า ทำไมปัจจุบันคนอายุน้อย ๆ ผมหงอกกันเยอะ ขออธิบายว่า อายุที่เริ่มผมหงอกนั้น จะขึ้นกับกรรมพันธุ์ โดยพบว่า ในฝรั่งผิวขาว ผมจะเริ่มหงอกครั้งแรกตั้งแต่อายุ 24-44 ปี ในคนผิวดำเริ่มหงอกเมื่ออายุ 34-54 ปี ส่วนชาวเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จะเริ่มหงอกตั้งแต่อายุ 30-40 ปี ผมที่เริ่มหงอกตามวัยนี้ไม่สามารถกลับมาดำได้อีกเลย

    คำว่า “ผมหงอกก่อนวัย” ในฝรั่งผิวขาว คือ ผมหงอกก่อนอายุ 20 ปี ส่วนในคนผิวดำ และคนไทย คือ ผมหงอกก่อนอายุ 30 ปี จัดว่าเป็น “ผมหงอกก่อนวัย” ซึ่งเป็นเรื่องตามธรรมชาติ และเป็นกรรมพันธุ์เสียส่วนใหญ่ แต่บางคนอาจมาจากโรคทางร่างกายได้ ซึ่งอาจต้องการการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

    การขาดสารอาหารบางตัว เช่น วิตามิน บี 12 อาจทำให้มีผมหงอกได้ หรือในบางกรณีความเครียดอาจทำให้ผมหงอกได้เช่นกัน คนที่อายุยังน้อยแต่มีผมหงอก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากมีภาวะความเครียดสูง บางคนเชื่อว่า ความเครียดทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี ถ้ากินวิตามินบีขนาดสูงอาจทำให้ผมหงอกกลับดำได้ ทั้งนี้พบว่าการดื่มแอลกอฮอล์ก็ทำให้ขาดวิตามินบีได้เช่นกัน หรือการกินยาบางตัว อาจทำให้คนที่มีผมสีอ่อนหรือผมน้ำตาลแดงกลายเป็นสีขาวได้ มีการทดลองในหนูพบว่า ถ้าขาดสาร กรดแพนโททีนิก หรือวิตามินบี 5 ทำให้ขนกลายเป็นสีขาวได้ และพบว่าในวัวและสัตว์หลายชนิดที่ขาดทองแดงขนจะเปลี่ยนเป็นสีขาวได้

    วิธีแก้ปัญหาผมหงอกมีหลายวิธีด้วยกัน อย่างแรก คือ ไม่ต้องทำอะไรกับมันเลย ปล่อยให้มันหงอกขาวอยู่นั่นแหละ หรือถ้าผมหงอกเฉพาะส่วนปลายผม คือ หงอกปลายผมไม่เกิน 1 ใน 10 ก็อาจใช้การตัดซอยเอาเฉพาะส่วนปลายที่หงอกทิ้งไป วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ผมเริ่มหงอกในช่วง 1-2 ปีแรก เพราะผมจะเริ่มหงอกเฉพาะส่วนปลายเท่านั้น

    อีกวิธีหนึ่งก็คือย้อมผมเฉพาะบางจุดเท่านั้น ตามธรรมชาติของคนเรานั้น เส้นผมไม่ได้มีสีสม่ำเสมอสีเดียวกันทุกเส้นหรอกครับ แต่จะมีเฉดสีแตกต่างกันได้ถึง 11 สี ดังนั้นการย้อมสีเส้นผมเฉพาะบางจุดหรือบางส่วน อาจทำให้สีทรงผมแลดูเป็นธรรมชาติกว่า

    ส่วนการถอนผมหงอกนั้น เมื่อถอน ออกไปแล้วก็อาจจะทำให้เกิดความพึงพอใจ มีผลในแง่จิตวิทยา เพราะผมหงอกถูกถอนออกไปหมด แต่สุดท้ายผมก็งอกขึ้นมาใหม่ หงอกเหมือนเดิม ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนว่าจะใช้วิธีนี้หรือไม่ แต่ที่หลายคนไม่กล้าถอน โดยมีความเชื่อว่าถอนผมหงอกเส้นเดียวจะมีผมหงอกขึ้นมาแทนที่หลายเส้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ถอนเส้นเดียวก็ขึ้นมาเพียงเส้นเดียว ไม่ได้หงอกเพิ่ม

    อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผมหงอกเกิดจากการขาดสารอาหารนั้น การได้รับวิตามินเสริมอาจแก้ปัญหาได้ แต่โดยทั่วไปถือว่าการรับประทานอาหารให้ครบหมู่มีประโยชน์โดยรวมมากกว่าการรับประทานวิตามินเสริม สำหรับอาหารที่มีทองแดงมาก ได้แก่ หอยนางรม อาหารทะเล และเมล็ดทานตะวัน อาหารที่มีกรดแพนโทเทนิก หรือวิตามินบี 5 พบมากใน ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด แอปเปิล และเมล็ดงา

    ท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับท่านที่ผมหงอกก่อนวัย ว่าจะเลือกใช้วิธีใดกำจัดผมหงอก ถ้าจะให้เข้ากับยุควิกฤติเศรษฐกิจ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ถ้ายังห่วงเรื่องความสวยความหล่อ จะไปย้อม ตัด หรือถอน ก็ตามแต่สะดวก.
    นวพรรษ บัญชาญ : สัมภาษณ์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>บัตรอวยพรภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ใน"สมเด็จพระเทพฯ"
    http://www.komchadluek.net/2008/12/28/x_lady_i001_328996.php?news_id=328996


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ผ่านไปแถวถนนอังรีดูนังต์เห็นอาคารที่กำลังก่อสร้างใหม่ไหมคะ อาคารนั้นชื่อว่า อาคารมหาจักรีสิรินธร 90 ปี ผ่านไป อาคารมหาจักรีสิรินธร แห่งนี้จะทดแทนอาคารเดิม

    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";google_ad_slot = "8122705396";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
    เพื่อรองรับปัจจุบันและอนาคตของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับพระราชทานชื่ออาคารจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และทรงรับเป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิมหาจักรีสิรินธรเพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหารายได้สมทบทุนเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในอาคารมหาจักรีสิรินธร และในฐานะประธานคณะกรรมการ
    ได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณติดตาม ตรวจสอบ พระราชทานพระราชดำริอันเป็นประโยชน์ตลอดการก่อสร้างอาคารตั้งแต่เริ่มแรก และเสด็จฯ ทรงตรวจสอบความคืบหน้าของอาคารมหาจักรีสิรินธรเหมือนเช่นทุกครั้ง และทรงฉายภาพตึกต่างๆ ในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    พบกับภาพเบื้องหลังที่แสดงให้เห็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวจุฬาฯไปถึงพระปรีชาสามารถด้านการฉายภาพของพระองค์ท่าน ซึ่งถ้าได้เพ่งพิศภาพฝีพระหัตถ์แล้ว รู้สึกถึง วิญญาณอาคารเก่าในอาคารใหม่ ที่เราจะร่วมใจร่วมสร้างอย่างปีติพร้อมบัตรอวยพรอเนกประสงค์ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และคำอวยพรลายพระหัตถ์ (instant) ที่ใช้ได้ตลอดปีทุกโอกาส เช่น สุขสันต์วันเกิด ขอแสดงความยินดี ขอขอบคุณ ฯลฯ 1 ชุดมี 8 แผ่น ราคา 200 บาท มีจำหน่ายที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ทุกสาขา โทร.0-2255-4433 รายได้สมทบทุนมูลนิธิมหาจักรีสิรินธร เพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    <TABLE align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><IFRAME name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=undefined&dt=1230424873218&format=undefinedxundefined&output=html&correlator=1230424873218&eid=6083027&ea=0&frm=1&ga_vid=227661275.1228318893&ga_sid=1230421695&ga_hid=772808702&ga_fc=true&flash=9.0.28.0&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_his=3&u_java=true&dtd=47" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. gnip

    gnip สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +14
    เรียน ท่านปาทาน

    ได้รับพระพิมพ์ทั้ง 2 องค์เรียบร้อยแล้ว สวยงามทั้ง 2 องค์เลยค่ะ
    โดยเฉพาะองค์บุเงิน...สวยเฉียบมากค่ะ
    ตื่นเต้นมากเลยตอนแกะห่อ และได้กลิ่นหอมด้วยค่ะ ตอนแกะออกมา
    สงสัยในเรื่องการบุมาตั้งนานเพิ่งกระจ่างเมื่อได้สัมผัสเอง ทั้งในเรื่องของการบุในส่วนที่เป็นองค์จีวร และที่ต้องทึ่งเลยคือส่วนที่เป็นพระพักตร์ของพระพิมพ์
    สุดยอดเลยค่ะ งานฝีมือของช่างหลวง

    ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะที่มีส่วนในการร่วมกิจกรรมนี้

    เมื่อวานได้นำพระพิมพ์นำมากำสวดมนต์และนั่งสมาธิ รู้สึกว่าจิตสงบเร็วและ...
    แต่แรงหรือไม่นั้น...หุหุหุ

     
  17. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    50 สถานที่ปฏิบัติกรรมฐาน (ยอดนิยม)

    ๑. วัดธรรมมงคล

    ๑๓๒ ถ.สุขุมวิท ซอย ๑๐๑ ตรอกปุณณวิถี ๒๐
    แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ๑๐๒๖๐
    โทร. ๐๒-๓๑๑-๑๓๘๗, ๐๒-๓๓๒-๔๑๔๕, ๐๒-๗๔๑-๗๘๒๒
    วิปัสสนาจารย์ พระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
    แนวการปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    สถานที่ปฏิบัติมีหลายแห่ง คือ ๑. ศาลาปฏิบัติธรรม เป็นห้องมุ้งลวด
    ๒. ถ้ำวิปัสสนา (จำลอง) ๓. ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ มี ๘๐ ห้องพัก
    ทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศ ๔. ห้องสำหรับทำสมาธิ
    ๕. สถานปฏิบัติธรรม จ.เชียงราย ๖. สำนักสงฆ์น้ำตกแม่กลาง

    ๒. วัดอัมพวัน

    ๕๓ หมู่ที่ ๔ ถ.เอเชีย กม. ๑๓๐ บ้านอัมพวัน
    ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ๑๖๑๖๐
    โทร. (๐๓๖) ๕๙๙-๓๘๑, (๐๓๖) ๕๙๙-๑๗๕
    วิปัสสนาจารย์ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
    แนวการปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ บริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”

    ๓. ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย

    ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
    ๕๘/๘ ถ.เพชรเกษม ๕๔ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐
    โทร. ๐๒-๔๑๓-๑๗๐๖, ๐๒-๘๐๕-๐๗๙๐-๔
    วิปัสสนาจารย์ คุณแม่สิริ กรินชัย
    แนวการปฏิบัติ แนวสติปัฏฐาน ๔ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง
    ตามแนวพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
    สถานที่เป็นตึกทันใหม่ทันสมัยหลายหลัง โดยทั่วไปการอบรมใช้เวลา ๘ วัน ๗ คืน

    ๔. สวนโมกขพลาราม

    ๖๘ หมู่ ๑ ต.เลเม็ด อ ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ๘๔๑๑๐
    โทร. (๐๗๗) ๔๓๑-๕๙๖-๗, (๐๗๗) ๔๓๑-๖๖๑-๒
    วิปัสสนาจารย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ
    แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา

    ๕. วัดป่าสุนันทวนาราม

    ๑๑๐ หมู่ที่ ๘ บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ๗๑๑๕๐
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา
    เปิดอบรม “อานาปานสติภาวนา” แก่ผู้สนใจ ครั้งละ ๙ วัน
    เปิดรับครั้งละ ๑๐๐-๑๕๐ คน เป็นการปฏิบัติที่เคร่งครัด กินอาหารวันละ ๑ มื้อ
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิมายา โคตมี คุณดารณี บุญช่วย
    โทร. ๐๒-๓๒๑-๖๓๒๐, ๐๒-๖๗๖-๓๔๕๓, ๐๒-๖๗๖-๔๓๒๓

    ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=9&t=18712
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
  19. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เมื่อครู่ว่าจะไปนั่งทานกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์แต่จิตใจยังนึกถึง พระทราวดีอายุ 1300กว่าปีที่เมื่อ2สัปดาห์ก่อน ไปพบและนิมนต์ไม่สำเร็จซ้ำยังโดนแม่ค้าไล่หลังมาอีกว่าต่างกันแค่...ทำไมไม่ให้ ก็เลยกลับบ้านพร้อมการติดอยู่ในใจเล็กน้อย วันนี้ก็เลยไปที่เดิมอีกครั้งท่านยังอยู่รอผมนิมนต์ก็เลยถือเป็นวาระไม่ต่อรองล่ะนิมนต์ท่านกลับบ้านแทนครับ (ส่วนต่างนี่น้อยกว่าราคาเฟบเป้ อีกครับ) หุ หุ
     
  20. สำรวจโลก

    สำรวจโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +579
    โมทนาสาธุครับ...
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...