พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ตั้งจิต, nongnooo </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ดีจ้าลุง
     
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่า....วันนี้วีซ่าไม่ผ่านครับเลยต้องแห้วอยู่บ้านครับ แหะๆ กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลยครับ หุ หุ
     
  3. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    **--*

    ....โมทนาสาธุ..ครับ....
     
  4. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    ...อ่า...สัปดาห์หน้า(15-19 ธ.ค.51) ผมจะต้องไปอบรมครับ (สงอะสัยนิสัยไม่ดีครับ จึงต้องไปอบรม) ไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าเว็ปหรือเปล่า ถ้ามีการร่วมทำบุญ ผมก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านล่วงหน้านะครับ....(มีด้วยเหรอ โมทนาบุญล่วงหน้า..อิ๊อิ๊ๆๆ)
     
  5. สำรวจโลก

    สำรวจโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +579
    ควรมีความซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา มีความจริงใจทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ไม่หน้าไหว้หลังหลอก ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือ มีสัจจะ

    สัจจะ ๖ ประการ
    ต่อไปนี้เป็นบางส่วนจาก ปัญญาสาร ฉบับที่ ๖
    เรื่อง สัจจะ ๖ ประการ
    โดย อาจารย์ แนบ มหานีรานนท์
    จาก มูลนิธิ แนบ มหานีรานนท์
    ***************************************
    (ตัดตอนจากหน้า ๕-๒๔)

    "ในวันนี้ ดิฉันได้ตั้งหัวข้อว่า จะพูดเรื่องสัจจะ ๖ ประการ
    คือในพระพุทธศาสนานี้น่ะ ตามที่กล่าวไว้ว่าของจริงมี ๖ ประการนะคะ
    เป็นการกล่าวตามเรื่องราวของพระสูตร ท่านที่เป็นนักอภิธรรมนี่น่ะ
    ไม่ใช่ว่าจะทราบแต่เรื่องอภิธรรมอย่างเดียว ก็ควรจะทราบเรื่องพระสูตรด้วย
    เพราะว่าพระสูตรก็ดี พระอภิธรรมก็ดี พระวินัยก็ดี แต่ละปิฎกๆนั้นน่ะ
    มีเนื้อความถึงกันอยู่ทั้ง ๓ ปิฎก พระสูตรก็มี ๓ พระวินัยก็มี ๓
    พระอภิธรรมก็มี ๓ มีเนื้อความถึงกันทั้ง ๓ ปิฎก ฉะนั้น
    ถ้าหากว่า ไม่เข้าใจเนื้อความนั้น จึงทำให้ปิฎกทั้ง ๓ นี้
    แตกแยกกันออกไป เช่นอย่างว่า ผู้ที่ไม่เข้าใจหรือว่าเรียนไม่เข้าใจ
    ก็นำมาปรับปรุงกันไม่ได้ เมื่ออ่านพระสูตร ก็บอกว่า
    พระอภิธรรมนี้ไม่ใช่พระสูตร ที่ศึกษาพระอภิธรรมก็บอกว่า
    พระสูตรนั้นไม่ใช่พระอภิธรรม สู้พระอภิธรรมไม่ได้
    พวกพระสูตรก็ว่า พระอภิธรรมสู้พระสูตรไม่ได้ แต่ละอย่างนี้
    เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในบรรดาผู้ศึกษาพระศาสนาด้วยกัน
    เพราะเหตุว่าพระสูตร พระอภิธรรม พระวินัยในปิฎกทั้ง ๓ นี้
    ก็เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน
     
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
     
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=10 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=header>กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ให้อะไรกับคุณบ้าง</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD align=justify>รูปแบบหลักของกองทุนคงหนีไม่พ้นประโยชน์ทางภาษีที่คุณจะได้รับ มากน้อยก็อยู่ที่ฐานภาษีของคุณว่าอยู่ในอัตราใด แต่เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ทางภาษีที่รัฐบาลได้มอบให้แก่คุณแล้วนั้น จะต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่คุณได้นั้นย่อมมีกฎเกณฑ์ข้อบังคับให้คุณปฏิบัติเช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณยอมรับ และสามารถปฏิบัติตามได้ ประโยชน์ที่คุณได้รับจากรัฐบาลก็คงจะให้ผลตอบแทนแก่คุณอย่างคุ้มค่าเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงกับการลงทุนในกองทุนได้ในระดับไหนนั้นเป็นสิ่งที่คุณคงต้องตัดสินใจเอง
    ลองมาดูกันคร่าวๆ สมมติ คุณลงทุนที่ 50,000 บาทต่อปี แล้วคุณสามารถจ่ายภาษีน้อยลงกว่าเดิม 10,000 บาท เสมือนว่าคุณได้รับผลตอบแทนมาแล้วทันที 20% ดังนั้น ความเสี่ยงที่ทำให้คุณลงทุนแล้วต้นทุนของคุณสามารถหายไปได้ถึง 20% โดยเสมือนว่าคุณไม่ได้ขาดทุนเลย นี่คงเป็นข้อหนึ่งที่คุณคงตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าคุณจะลงทุนกับกองทุนประเภทใดโดยมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเพื่อผลตอบแทนที่มีโอกาสสูงขึ้นด้วย
    มาดูอีกประเด็นหนึ่งถ้าคุณคิดว่าประโยชน์ทางภาษีที่คุณได้รับนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องการ โดยคุณไม่สนใจผลตอบแทนในการลงทุนที่ได้รับเลยเพียงแต่ขอให้ความเสี่ยงในเงินต้นน้อยที่สุดคุณก็สามารถเลือกลงทุนใน กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นก็ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=10 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=10 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=header>จุดประสงค์หลักที่มองข้าม</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD align=justify>เรื่องภาษีเป็นเรื่องใกล้ตัวของคุณที่มองเห็นได้ง่ายที่สุด แต่คุณจะต้องไม่ลืมประเด็นสำคัญที่สุดในชีวิตที่เหลืออยู่หลังจากที่คุณไม่มีรายได้แล้วเหลือเพียงแต่รายจ่ายที่ต้องเกิดขึ้นกับตัวคุณเองนั้นคือยามเกษียณนั้นเอง ถ้าคุณไม่เริ่มเก็บออมตั้งแต่วันนี้คุณจะนำเงินที่ไหนมาใช้จ่ายเมื่อถึงเวลานั้น ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องเริ่มออมตั้งแต่วันนี้เพื่อมีเวลาเก็บออมที่มากขึ้นนั้นเอง รัฐบาลเพียงนำประโยชน์ทางภาษีมาจูงใจในการเก็บออมของคุณให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายและเร็วขึ้นนั้นเอง
    คราวนี้มาเรื่องใกล้ตัวอีกครั้ง แต่เรื่องนี้น้อยคนนักที่จะสนใจทั้งที่มันเกิดขึ้นทุกวันจนคุณไม่สนใจนั้นคือ อัตราเงินเฟ้อ หรือพูดง่ายๆ ของแพงขึ้นทุกวันนั้นเอง คุณคงไม่ปฏิเสธว่าทุกวันนี้เงินเท่ากันในอดีต ปัจจุบันคุณซื้อของชิ้นเดียวกันคุณกลับซื้อของได้น้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก ถ้าคุณยังคิดว่าการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงเลย เช่น เงินฝากธนาคารเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว นั้นคุณน่าจะลองกลับมาคิดใหม่ว่า คุณพร้อมหรือยังที่จะสู้กับอัตราเงินเฟ้อด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วย การลงทุนกับกองทุนรวม เพื่อการเลี้ยงชีพ คงเป็นทางเลือกใหม่ที่คุณจะสู้ในครั้งนี้
    </TD></TR><TR><TD width=550 height=10> </TD></TR><TR><TD class=header>คุณต้องลงทุนอย่างไรกับกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD align=justify>ถ้าคุณคิดจะลงทุนเพื่อหวังเพียงผลตอบแทนเพียงอย่างเดียวโดยคุณไม่สนใจกฎระเบียบที่กำหนดขึ้น คงแนะนำได้เพียงว่ากองทุนนี้ไม่น่าลงทุน เพราะอย่างน้อยๆ ผลกำไรที่คุณได้รับจากการขายคืนคุณก็ได้รับไม่เต็มที่ คุณต้องนำไปรวมคำนวณรายได้เพื่อเสียภาษีอีกด้วย สู้คุณไปลงทุนในกองทุนที่ไม่ได้อยู่ในระบบเพื่อการเลี้ยงชีพดีกว่า ซึ่งส่วนกำไรคุณสามารถได้รับอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมีส่วนของภาษีมาเกียวข้องด้วยเลย
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=10 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=header align=middle>คราวนี้มาดูข้อบังคับกันบ้างว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากตัวคุณเองเลย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=10 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD align=justify>
    1. รายได้ทั้งปีคุณมีเท่าไร ? ไม่น้อยกว่า 3% ของรายได้ หรือไม่น้อยกว่า 5,000 บาท นั้นเป็นข้อกำหนดแรกในการลงทุนของคุณ ต่อปีที่คุณต้องพึงปฏิบัติ
      ขยายความ คุณต้องคิดก่อนว่า 3% ของรายได้คุณคือเท่าไร ถ้ามากกว่า 5,000 บาท ขั้นต่ำในการลงทุนของคุณ คือ 5,000 บาท แต่ถ้าน้อยกว่า 5,000 บาท 3% ของรายได้คือขั้นต่ำของคุณในการลงทุน โดยคุณศึกษาเพิ่มเติมได้จาก คู่มือภาษี เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
    2. คุณลงทุนได้มากแค่ไหน ? ไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปี และ เมื่อรวม กับเงินสบทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ในส่วนของลูกจ้าง หรือ กบข. (ถ้ามี) ต้องไม่เกิน 300,000 บาท
      ขยายความ คุณต้องคิดก่อนว่าคุณมีช่วงว่างจาก เงินสบทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ในส่วนของลูกจ้าง หรือ กบข. ที่ยังไม่ถึง 300,000 อยู่อีกเท่าใด แล้วจึงมาดูว่า 15% ของรายได้ทั้งปีของคุณเกินหรือไม่ ถ้าเกินคุณลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อประโยชน์ทางภาษีได้แค่ส่วนที่ยังไม่ถึง 300,000 เท่านั้น แต่ถ้าไม่เกินคุณสามารถใช้ประโยชน์ได้เติมที่ถึง 15%
    3. ลงทุนอย่างไร ? 1 ปีภาษี เป็นของคุณ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม วันไหนก็ได้แล้วแต่คุณ จะ ลงต้นปีเพื่อการลงทุนที่ยาวกว่า ทยอยลงตลอดปีเพื่อลดความเสี่ยงในความผันผวนของราคา หรือคุณจะลงปลายปีเพื่อสิทธิทางภาษีเพียงอย่างเดียว คุณก็ได้รับประโยชน์ทางภาษีเท่าเทียมกันหมด
    4. ทำอย่างไรให้คงสภาพการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ? ง่ายที่สุดที่คุณคิดออกคือ ลงทุนทุกปีอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี และ ไม่ไถ่ถอนคืนก่อนอายุ 55 เพียงแค่นี้ก็ลงทุนอย่างถูกต้องแล้ว แต่ถ้ายากไปทางรัฐบาลก็ยังยืดหยุ่นให้คุณอีกนิด คือคุณสามารถ ไม่ลงทุน หรือลงทุนน้อยกว่าขั้นต่ำได้บางปีซึ่งทั้ง 2 กรณีถือว่าเป็นการระงับการส่ง เพียงแต่ว่าคุณห้ามระงับการส่ง 2 ปีติดต่อกันเท่านั้นเอง อีกข้อหนึ่งที่คุณต้องพึงเว้นเด็ดขาดคือการไถ่ถอนคืนนั้นเอง ถ้าคุณลงทุนยังไม่ถึง 5 ปีอย่างถูกต้องและอายุไม่ถึง 55 ปีถือว่าผิดทันทีเช่นกัน
    5. ต้องทำอย่างไรเมื่อทำผิด ? ทั้ง 2 กรณีคือ ระงับการส่ง 2 ปีติดกัน หรือไถ่ถอนคืนก่อนกำหนดนั้นคือคุณทำผิดวัตถุประสงค์แล้ว สิ่งที่คุณต้องชดเชยคือ คุณต้องนำสิ่งที่คุณได้ประโยชน์มาจากภาษีที่เสียน้อยลงคืนแก่รัฐไปซึ่งก็เป็นธรรมแล้วซึ่งเขาคงช่วยคุณได้มากที่สุดคือคุณคืนไปแค่ 5 ปีปฏิทิน หมายความว่าใน 5 ปีที่แล้วมา คุณเสียภาษีน้อยลงเท่าไรคุณก็คืนเขาไปแค่นั้น แต่มีเพิ่มเติมนิดหน่อยคือในกรณีที่คุณไถ่ถอนผิดเงื่อนไข คุณต้องนำกำไรส่วนเกินทุนไปคำนวณเป็นรายได้ในปีที่ไถ่ถอนเพื่อรวมคำนวณภาษีด้วย
    6. ไม่มีรายได้ในปีนั้นทำอย่างไร ? ไม่ต้องตกใจ อย่าลืมว่าขั้นต่ำในการลงทุนคือ 3% ของรายได้ทั้งปี หรือไม่น้อยกว่า 5,000 บาทอันไหนน้อยกว่าถือว่าเป็นขั้นต่ำ ในกรณีนี้ขั้นต่ำของคุณเป็น 3% ของรายได้ทั้งปี ซึ่งรายได้ทั้งปีของคุณคือ 0 บาท 3% ก็คือ 0 บาทนั้นเอง แต่อย่าลืมยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของคุณ (ภงด.90 หรือ ภงด 91) นะครับเพื่อเป็นหลักฐานของคุณเอง
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=10 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=header style="COLOR: #000066">พร้อมหรือยังที่จะลงทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD align=justify>
    • คุณต้องเสียภาษีทุกปีในอัตราที่น่าเสียดาย ใช่ หรือ ไม่ ?
    • หลังจากไม่มีรายได้แล้ว คุณยังมีค่าใช้จ่ายอยู่ ใช่ หรือ ไม่ ?
    • ของแพงขึ้นทุกวันจนไม่อยากจะซื้อ ใช่ หรือ ไม่ ?
    • อยากลงทุนสักอย่างจะเลือกลงทุนอะไรดี ?
    </TD></TR><TR><TD class=header align=left>ลองตอบคำถามเหล่านี้คุณจะเห็นอะไรในตัวคุณมากขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=50 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD height=50> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=772 border=0><TBODY><TR><TD class=header align=middle>คำเตือน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=772 border=0><TBODY><TR><TD class=small align=middle>การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษา หนังสือชี้ชวน และ คู่มือภาษี เกี่ยวกับการลงทุน
    ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพให้เข้าใจ ก่อนตัดสินใจลงทุน
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=772 border=0><TBODY><TR><TD class=header align=middle>แนะนำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=772 border=0><TBODY><TR><TD class=small align=middle>ดูประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจาก กรมสรรพากรที่ เรื่องน่ารู้ ต่างหน่วยงาน และ
    ถาม ตอบ : กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จาก http://www.scbam.com/inc/Highlight/rmfword.asp
    นำมาให้พิจารณากันครับ
     
  8. ancient bead

    ancient bead สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    ถึง พี่ ไฟดูด เอาไว้ดูเล่นๆ ๑๑.

    เก่า มีคนบอกว่าเป็นของหลวงพ่อเงิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02705.JPG
      DSC02705.JPG
      ขนาดไฟล์:
      306.5 KB
      เปิดดู:
      50
    • DSC02706.JPG
      DSC02706.JPG
      ขนาดไฟล์:
      266.8 KB
      เปิดดู:
      48
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    วันเหงาๆแต่วันนี้ท่านโดฝากมาโชว์แล้วถามด้วยว่าสวยอ่ะปล่าวครับ หุ หุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ได้พวกแล้ว พวกนิสัยไม่ดี ต้องไปอบรม หุหุหุ

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณ คุณnongnooo ครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วัดพระศรีสรรเพชญ์

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- start content -->
    [​IMG]


    วัดพระศรีสรรเพชญ์

    [​IMG]
    พระเจดีย์ใหญ่ 3 องค์ ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์
    ที่อยู่

    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: auto; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-SIZE: 100%; BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; TEXT-ALIGN: left" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=246><TBODY><TR><TD align=middle colSpan=2>ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร</TD></TR></TBODY></TABLE>​


    ข้อมูลทั่วไป[ซ่อน]

    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: auto; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-SIZE: 100%; BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; TEXT-ALIGN: left" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=246><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 5px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top noWrap width=93 bgColor=#f3f3f4>ชื่อสามัญ</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 3px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top bgColor=#f9f9f9>วัดพระศรีสรรเพชญ์</TD></TR></TBODY></TABLE>​

    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: auto; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-SIZE: 100%; BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; TEXT-ALIGN: left" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=246><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 5px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top noWrap width=93 bgColor=#f3f3f4>ความพิเศษ</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 3px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top bgColor=#f9f9f9>โบราณสถาน</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 5px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top noWrap width=93 bgColor=#f3f3f4>เวลาทำการ</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 3px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top bgColor=#f9f9f9>เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 5px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top noWrap width=93 bgColor=#f3f3f4>จุดที่น่าสนใจ</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 3px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left" vAlign=top bgColor=#f9f9f9>พระเจดีย์ใหญ่ 3 องค์</TD></TR></TBODY></TABLE>




    [​IMG] [​IMG]
    ภาพมุมกว้าง วัดพระศรีสรรเพชญ์


    วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือ วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นวัดในพระราชวังโบราณ อยุธยา ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ซึ่งเป็นต้นแบบของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร

    [แก้] ประวัติ

    วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือ แล้วจึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดมหาธาตุสุโขทัย ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทั้งวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ "สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง"
    ต่อมาในปี พ.ศ. 2035 รัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออก เพื่อบรรจุพระอัฐิของพระราชบิดา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และพระสถูปเจดีย์องค์กลางเพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ผู้เป็นพระเชษฐา
    หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2042 พระองค์โปรดให้สร้างพระวิหารหลวงขึ้น
    ในปีต่อมา พ.ศ. 2043 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระวิหาร ทรงหล่อพระพุทธรูป ยืนสูง 8 วา (ประมาณ 16 เมตร)หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร ถวายพระนามว่า พระศรีสรรเพชญดาญาณ ซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระพังยับเยิน รัชกาลที่ 1 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายมาประดิษฐานวัดพระเชตุพน และ บรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า เจดีย์สรรเพชญดาญาณ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วิหารทิศ
    เจดีย์องค์ที่ 3 ถัดมาจากด้านทิศตะวันตกเป็น เจดีย์บรรจุพระอัฐิ ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4(พระหน่อพุทธางกูร) พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น เจดีย์ทั้งสามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา
    ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมพระองค์โปรดเกล้าฯให้สร้าง พระที่นั่งจอมทอง ตั้งอยู่ใกล้ๆ กำแพงทางด้านติดกับ วิหารพระมงคลบพิตร เพื่อให้เป็นสถานที่ให้พระสงฆ์บอกเล่าหนังสือพระสงฆ์
    ราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหลวงแห่งนี้เป็นครั้งแรก ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่าได้ดำเนิน การขุดสมบัติจากกรุภายในเจดีย์ พบพระพุทธรูป เครื่องทองคำมากมาย และในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้มีการบูรณะวัดนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

    [แก้] อ้างอิง

    • วิไลรัตน์. 2546. กรุงศรีอยุธยา. อมรินทร์พริ้นติ้ง
    [แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

    [​IMG]

    คอมมอนส์ มีภาพและสื่ออื่นๆ เกี่ยวกับ:
    วัดพระศรีสรรเพชญ์

    <TABLE class=navbox cellSpacing=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 2px; PADDING-LEFT: 2px; PADDING-BOTTOM: 2px; PADDING-TOP: 2px"><TABLE class="nowraplinks collapsible autocollapse" id=collapsibleTable0 style="BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; WIDTH: 100%" cellSpacing=0><TBODY><TR><TH class=navbox-title style="BACKGROUND: #817565; COLOR: #fefefe" colSpan=2>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม

    http://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- start content -->
    [​IMG]


    พระบาทสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงธรรม (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๑๕๔- ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๑๗๑) เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๒๑ แห่งกรุงศรีอยุธยา และ เป็นพระองค์ที่ ๕ แห่งราชวงศ์สุโขทัย



    <TABLE class=toc id=toc summary=เนื้อหา><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

    [ซ่อน]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[ if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดง"; var tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle(); } //]]></SCRIPT>
    [แก้] พระราชประวัติ

    สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมมีพระนามเรียกในพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขาว่า สมเด็จพระบรมราชาที่ ๑ เดิมเป็นพระภิกษุเรียกในพระราชพงศาวดาร ว่า พระศรีสิน ผนวชอยู่ที่วัดระฆัง ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระพิมลธรรมอนันตปรีชา นักประวัติศาสตร์บางท่านเชื่อว่า พระองค์เป็นพระโอรสของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ประสูติแต่พระสนม
    ต่อมา จมื่นเสาวลักษณ์ หรือ จหมื่นศรีสรรักษ์ (พระเจ้าปราสาททอง) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องได้สมคบกันสำเร็จโทษสมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ แล้วอัญเชิญพระพิมลฯให้ลาสิกขาบท ขึ้นเสวยราชสมบัติ เมื่อปีขาล จุลศักราช ๙๖๔ (พ.ศ. ๒๑๕๕) บางเเห่งระบุว่า จุลศักราช ๙๘๒ (พ.ศ. ๒๑๖๓) แต่หลักฐานของคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ระบุว่า พ.ศ. ๒๑๕๓ เป็นที่ถูกต้อง
    พระพิมลฯได้ปราบดาภิเษกขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามว่า พระเจ้าทรงธรรม หรือ พระบาทสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงธรรม และ ทรงแต่งตั้งจหมื่นศรีสรรักษ์ เป็นมหาอุปราช สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมมีพระราชโอรส ๓ พระองค์ ได้แก่ พระเชษฐากุมาร พระพันปีศรีศิลป์ และ พระอาทิตยวงศ์ ส่วนจดหมายเหตุวันวลิต วิลันดาระบุว่า พระองค์ มีพระราชโอรส ๙ พระองค์ พระราชธิดา ๘ พระองค์

    [แก้] พระราชกรณียกิจ

    สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงเป็นนักปราชญ์ รอบรู้ในวิชาการหลายด้าน มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทรงประพฤติราชธรรมอย่างมั่นคง เป็นที่รักใคร่นับถือของบรรดาราษฎรและชาวต่างชาติ พระองค์ไม่นิยมการศึกสงคราม ทรงเจริญรอยตามสมเด็จพระเอกาทศรถ ในด้านการปกครองบ้านเมือง ทรงมีพระราชโอรสที่ประสูติแต่พระมเหสี คือ พระเชษฐาธิราช กับพระอาทิตยวงศ์
    พระกรณียกิจส่วนใหญ่ของพระองค์ มุ่งส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในด้านต่าง ๆ เช่น โปรดเกล้า ฯ ให้คัดลอกพระไตรปิฎกฉบับสมบูรณ์เป็นจำนวนมาก ทรงให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตแต่งมหาชาติคำหลวงถวาย นับเป็นวรรณคดีชิ้นสำคัญของสมัยอยุธยา ได้มีผู้พบรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาสุวรรณบรรพต แขวงเมืองสระบุรี พระองค์ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างมณฑปครอบรอบพระพุทธบาท พร้อมทั้งสร้างพระอุโบสถ พระวิหารการเปรียญ กับกุฏิสงฆ์ ถวายให้เป็นสมบัติในพระพุทธศาสนา พระพุทธบาทสระบุรี จึงมีความสำคัญ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของพุทธศาสนิกชนตั้งแต่นั้นมาตราบถึงปัจจุบัน
    พระองค์ทรงมีสัมพันธไมตรีกับบรรดาต่างประเทศที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับไทย ทำให้กรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองท่าที่สำคัญในภูมิภาคแถบนี้ของโลก ชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะฮอลันดา อังกฤษและญี่ปุ่น ที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับไทยตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวร ฯ และสมเด็จพระเอกาทศรถ พระองค์ก็ได้โปรดเกล้า ฯ พระราชทานที่ดินบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ริมคลองปลากด เหนือเมืองสมุทรปราการ ให้ชาวฮอลันดาตั้งคลังสินค้า และในปี พ.ศ. ๒๑๑๕ พระเจ้าเจมส์ที่ ๑ แห่งอังกฤษ ได้มีพระราชสาส์นทูลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้พ่อค้าชาวอังกฤษเข้ามาค้าขายที่กรุงศรีอยุธยาได้สะดวก ส่วนชาวญี่ปุ่น ปรากฏว่ามีชาวญี่ปุ่นสมัครเข้ารับราชการที่กรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก จนได้มีการจัดตั้งกรมอาสาญี่ปุ่น ขึ้นมาช่วยราชการกรุงศรีอยุธยา ชาวญี่ปุ่นที่มีบทบาทสำคัญในวงการเมืองในรัชสมัยของพระองค์ คือ ยามาดะ นางามาซะ ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นออกญาเสนาภิมุข
    นื่องจากพระองค์ไม่นิยมการทำสงคราม ด้วยเหตุนี้กรุงศรีอยุธยาจึงต้องเสียเมืองทวาย อันเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางตะวันตก ในทะเลอันดามัน พม่ายกกำลังมาตีเมืองทวายได้เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๖๕ ต่อมากัมพูชา และเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเคยเป็นประเทศราช ของไทยมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวร ฯ ต่างก็พากันแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา
    ตอนปลายรัชสมัยของพระองค์ ขณะที่พระองค์ทรงประชวรหนัก มีพระราชประสงค์จะมอบราชสมบัติให้พระราชโอรสองค์ใหญ่ คือ พระเชษฐาธิราชกุมาร และทรงแต่งตั้งให้เป็นพระมหาอุปราช โดยทรงมอบให้ออกญาศรีวรวงศ์ จางวางมหาดเล็ก ซึ่งเป็นพระญาติที่ไว้วางพระทัย เป็นผู้ดูแลพระเชษฐาธิราช จนกว่าจะได้ครองราชย์

    <HR>
    สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ครองราย์ได้ ๑๗ ปี จึงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๑๗๑ ซึ่งเป็นวันที่ชาวฮอลันดาได้บันทึกไว้

    [แก้] อ้างอิง

     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ได้ไปพบพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ บางท่านก็ไม่ได้พบหลายเดือนแล้ว มีความสุขครับ ได้ไปทานข้าวกันข้างนอก เปลี่ยนบรรยากาศ ไปทานตะเพียนไร้ก้าง ทานต้มยำไก่บ้าน และอีกหลายๆอย่าง น้องหมอก็ไม่ธรรมดาครับ 3 จานพูนๆ ผบทบ.น้องหมอก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เกือบ 3 จาน คุณชวภณก็ 2 จานกว่าๆ ส่วนท่านอื่นๆก็ไม่ธรรมดาครับ

    วันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่ไม่เสียชื่อsithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1731608", true); </SCRIPT> แห่งคณะพระวังหน้า แจกอีกแล้วครับ วันนี้แจกซุ้มไข่ปลา (วังหน้าอยุธยา) (ซึ่งเดิมอยู่ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระเจ้าทรงธรรมให้สร้างขึ้น) ,พิมพ์สมเด็จ พิมพ์เล็กและจิตรดา พิมพ์เล็ก เนื้อปัญจสิริ และยังมีพิมพ์อื่นๆอีก(เช่นพระสมเด็จ ที่กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ให้สร้างขึ้น(ที่วังของท่าน) เชิญสมเด็จพระวันรัต(ทับ) วัดโสมนัส อธิษฐานจิต)

    คุณแด๋น ได้มอบเงินให้ผม เพื่อไปหาพระวังหน้า มาแจกอีก โมทนาด้วยนะครับ ส่วนวันนี้ ชาวคณะพระวังหน้า ได้ร่วมกันทำบุญซื้อใบมีดโกน ถวายเป็นอัฐบริขารถวายพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และคุณแด๋นจะมาบอกบุญอีกครั้งนะครับ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ผมนำพระพุทธรูป 3 สมัย 9 นิ้ว (เชียงแสน ,สุโขทัย,อู่ทอง) และองค์ไหนสร้างในสมัยนั้น และพระบูชา(สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) 9 นิ้ว ซึ่งสร้างในปี พ.ศ.2398 จำนวน 4 องค์ นำไปให้ชมกันด้วย

    [​IMG]

    ส่วนพระพิมพ์ ผมได้นำไปให้ชมกันหลายๆพิมพ์ซึ่งมีทั้งหน้าเดียวและสองหน้า เช่น พิมพ์ พ.ศ.2408 ครบ 44 พิมพ์ ,พิมพ์ พ.ศ.2411 เกือบครบ 44 พิมพ์ และพิมพ์ 2411(สร้างในปี พ.ศ.2451) ครบ 44 พิมพ์ครับ



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.1 KB
      เปิดดู:
      2,262
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แหม เกือบลืม จะบอกว่า วันนี้ได้ไปศึกษากันในบางเรื่อง จะมาบอกว่า ยังทำได้ไม่เนียนพอ ยังไม่ผ่านตาผม พัฒนาหน่อยน๊ะ หุหุหุ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ของฝากในยามค่ำคืน ไปหาทานกันเองนะครับ

    จากร้านก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า" แต่ชื่อร้านจริงๆ ชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟครับ


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงต้มยำ(บน)เกี้ยมอี๋ต้มยำเย็นตาโฟ(ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เซี่ยงไฮ้ไข่มุกหมูแดงต้มยำน้ำข้น</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=blue22blod vAlign=top>สมุนไพรพิชิตหน้าหนาว
    http://variety.mcot.net/inside.php?docid=2819

    </TD></TR><TR><TD class=default12 vAlign=top>
    [​IMG]


    เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ต้องดูแลสุขภาพด้วยหลักง่ายๆ ของการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปคือ ต้องดูแลร่างกายให้ ได้รับความอบอุ่น เริ่มกันตั้งแต่การรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม การทำความสะอาดร่างกาย ตลอดจนการดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วย ซึ่งมีคำแนะนำดีๆ มาฝาก
    + ฤดูหนาวรับประทานอะไรดี
    สำหรับการรับประทานอาหารในช่วงฤดูหนาว สาวๆ อย่างเราควรเลือกรับประทานอาหารที่ร้อนและปรุงเสร็จใหม่ๆ ควรมีรสเปรี้ยวอมขมเล็กน้อย และรสเผ็ด เช่น แกงส้มดอกแค แกงขี้เหล็ก แกงป่า สะเดาน้ำปลาหวาน และน้ำพริก เพราะธรรมชาติจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ผักพื้นบ้านและพืชสมุนไพรในฤดูต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน ในฤดูหนาว มักจะมีสมุนไพรพื้นบ้าน เช่น สะเดา ซึ่งมีรสขม เมื่อกินแล้วจะช่วยแก้ไข้ ทำให้เจริญอาหาร ขี้เหล็กมีสรรพคุณช่วยระบาย ดอกแคแก้ไข้หัวลม ซึ่งสาว WP ควรเลือกรับประทานผักพื้นบ้านที่มีอยู่ตามฤดูกาล ส่วนการเลือกเครื่องดื่มในช่วงหน้าหนาวนี้ ควรจะเป็นเครื่องดื่มร้อนๆ เช่น น้ำขิง ชาสมุนไพร เพื่อช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการไอ แก้หวัด ซึ่งป้องกันการเป็นหวัดในช่วงนี้ได้อีกทางหนึ่งด้วย

    + หน้าหนาวควรดูแลร่างกายอย่างไร
    ด้วยอากาศที่หนาวเย็น เราควรอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นและเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่หนา แต่บางครั้งการอาบน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้งง่ายกว่าอาบน้ำเย็น เพราะน้ำมันที่ผิวหนังจะถูกชะล้างออกไป รวมทั้งความชื้นของอากาศที่ลดลง ก็จะเพิ่มให้ผิวแห้งแตกและคันได้ง่าย ดังนั้น สาวๆ ควรจะดูแลร่างกายในช่วงหน้าหนาวนี้เป็นพิเศษ โดยสามารถนำเอาสมุนไพรพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้ดูแลผิวพรรณ อย่าง น้ำมันงา ขมิ้นชัน ผิวมะนาว และผิวมะกรูด

    + สมุนไพรดูแลผิวพรรณ
    - น้ำมันงา นำงาดิบประมาณ 1 ถ้วย โขลกให้ละเอียด บีบเอาน้ำมันจากงาเก็บไว้ในขวด ทาผิวตอนเช้าและก่อนนอน น้ำมันงาจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการแห้งแตกและคัน
    - ขมิ้นชัน มีสรรพคุณช่วยลดอาการคันและช่วยลดอาการผดผื่นตามผิวหนัง เพียงนำขมิ้นชันสดมาล้างให้สะอาด โขลกให้ละเอียด บีบน้ำที่ได้นำมาทาผิว หลังอาบน้ำเช้า-เย็น แต่อาจจะมีสีของขมิ้นติดตามเสื้อผ้าที่สวมใส่
    - ผิวมะกรูด น้ำมันที่ผิวของมะนาวและมะกรูด จะช่วยเคลือบผิว ให้ชุ่มชื้น ลดอาการคัน ลดการอักเสบ โดยนำมะนาวที่ใช้แล้ว ส่วนบริเวณผิวด้านนอกของมะนาว มาทาผิวบริเวณที่แห้งคัน เช้า-เย็น ก็จะช่วยลดอาการคันได้

    + การดูแลสุขภาพด้วยการอาบสมุนไพร
    การอาบน้ำอุ่นในฤดูหนาวจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เพราะในฤดูหนาว คนส่วนใหญ่มักจะเป็นหวัด คัดจมูก และคันตามผิวหนัง ซึ่งหากนำสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการคัน มาต้มอาบแทนน้ำเปล่า ก็จะช่วยบรรเทาอาการคันได้ดี สมุนไพร ที่หาได้ง่าย ที่ควรนำมาต้มมีดังนี้
    • ยอดผักบุ้ง จำนวน 5 ยอด ใช้รักษาอาการคัน
    • ใบมะกรูด จำนวน 3-5 ใบ แก้วิงเวียน ช่วยให้หายใจสบาย
    • ใบมะขาม/ใบส้มป่อย 1 กำมือ แก้อาการคันตามร่างกาย ช่วยให้ผิวหนังสะอาด
    • ต้นตะไคร้ จำนวน 3 ต้น บำรุงธาตุไฟ
    • หัวไพล จำนวน 2-3 หัว ลดอาการอักเสบ ปวด บวม
    • ใบหนาด จำนวน 3-5 ใบ ช่วยบำรุง แก้โรคผิวหนัง น้ำเหลือง
    • หัวขมิ้นชัน จำนวน 2-3 หัว ช่วยสมานแผล แก้คันตามผิวหนัง
    • การบูร จำนวน 15 กรัม ช่วยบำรุงหัวใจ
    • หัวหอมแดง จำนวน 3-5 หัว แก้หวัดคัดจมูก
    เพียงนำสมุนไพรทั้งหมดมาต้มรวมกัน ผสมน้ำเย็นให้พออุ่น แล้วนำมาอาบ สรรพคุณของสมุนไพรก็จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการคันตามผิวหนัง ช่วยให้หายใจโล่ง แค่นี้สาวๆ ก็จะรู้สึกสบายตัว ไม่ต้องกังวลกับฤดูหนาวแล้ว

    ขอขอบคุณ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์
    </TD></TR><TR><TD class=default11 vAlign=top align=right>09:49:14 2008-12-12</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ช็อค! เด็ก 13 ปวดท้องครูส่งโรงหมอ พบท้องใกล้คลอด

    http://hilight.kapook.com/view/31928


    [​IMG]

    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต​

    เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่อาจารย์หญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อำเภอเมืองกระบี่ เห็น ด.ญ.นก (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ขณะนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลปรากฏว่าแพทย์ตรวจอาการจึงพบว่า ด.ญ.นก ตั้งครรภ์ใกล้คลอด จึงรีบนำเข้าห้องคลอด ไม่ถึงชั่วโมงก็คลอดบุตรออกมาปลอดภัยทั้งแม่และลูก จากนั้นจึงติดต่อผู้ปกครองมาโรงพยาบาล

    ต่อมานายทอง (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี บิดาของ ด.ญ.นก ได้สอบถามลูกสาวจนทราบรายละเอียด แล้วเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายนคร อินบุตร อายุ 43 ปี เพื่อนบ้าน โดยกล่าวหาว่า นายนครหลอกให้ ด.ญ.นก ดื่มน้ำส้มที่ใส่ยานอนหลับ แล้วนำตัวไปข่มขืนกระทำชำเราในโรงเรียนร้างใกล้บ้าน เมื่อสำเร็จความใคร่แล้วได้ข่มขู่ไม่ให้บอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าทิ้งยกครัว​

    นายทอง กล่าวด้วยว่า อยากให้ทางภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะหลังจากแพทย์ให้ลูกสาวออกจากโรงพยาบาล ก็ไม่กล้าที่จะนำลูกสาวและหลานกลับไปอยู่ที่บ้าน เนื่องจากบ้านตนและผู้กระทำผิดอยู่ใกล้กัน ตอนนี้ต่างก็เป็นศัตรูกันหมด ไม่สามารถรับกับสังคมตรงนั้นได้ ยอมรับว่าสภาพจิตใจของลูกสาวนั้นต้องการจิตแพทย์ในการฟื้นฟูเป็นอย่างมาก​

    ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน (ขอสงวนนาม) กล่าวว่า ได้เรียกอาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าประชุมด่วน เพราะแปลกใจทำไมพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมทั้งอาจารย์ไม่ได้สังเกต และไม่รู้เรื่องนี้เลย และได้ดูผลการเรียนของเด็กหญิงคนนี้ ปรากฏว่าเป็นเด็กที่เรียนดี เรียบร้อย ไม่เกเร และยังเป็นนักกีฬาเปตองของโรงเรียนไปแข่งขันที่ต่างๆ สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมากมาย เมื่อเกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้น ทางโรงเรียนก็หาทางแก้ปัญหา ช่วยเหลือทั้งด้านการเรียน และค่าใช้จ่ายในขณะที่พักอยู่ในโรงพยาบาล และจะหาทางช่วยเหลือให้เด็กได้เรียนจบมัธยมปลายจากที่นี้ เพราะฐานะครอบครัวทางบ้านยากจน​

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้นำตัวมาสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาก็ได้รับสารภาพหมด ขณะนี้ได้ขออำนาจศาลฝากขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดกระบี่​


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
     
  20. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    5555 ขอขำสักนิดนะครับพี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...