ทำไมเราต้องบูชาชูชกหรือสัตว์อื่นๆด้วยครับ

คือ ผมไม่เข้าใจเลยอ่ะครับ ว่าทำไม สมัยนี้ถึงนิยมบูชา
ชูชกบ้าง เดรัจฉานบ้าง คือ เอามาเป็นสรณมาเป็นที่พึ่ง
ชูชกตอนนี้อยู่ในอเวจี เดรัจฉานเป็นภูมิที่ต่ำกว่าเรา แต่เราเอามาบูชากันมันถูกต้องแล้วหรอครับ สมัยก่อนที่ครูอาจารย์สร้าง วัตถุมงคลต่างๆไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง ตะกรุด เครื่องรางชนิดๆต่าง ก็เพื่อให้พุทธบริษัททั้งหลายยึดถือเอามาเป้นที่พึ่งทางใจ เอามาเป็นสรณในการดำเนินชีวิต ในการปฏิบัติ แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมเราต้องมาบูชา สิ่งที่อยู่ใน นรก จริงอยู่ว่าชูชก คืออดีตชาติของพระเทวทัต และพระเทวทัต ก็เป็นปัจเจกพุทธภูมิ ในอนาคตภายหน้าท่านจะมาเป้นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง แต่ตอนนี้ ท่านเป็นอะไร ท่านอยู่ที่ไหน ตอนเป็นชูชกก็เลวแสนเลว เรามาบูชา คนเลวคนเจ้าเล่ห์กันหรอครับ
เอาของแบบนี้มายึดเป็นสรณเป็นที่พึ่งมันจะดีหรอ บางท่านบูชา สัตว์เดรัจฉาน หมูบ้าง กระต่ายมั่ง หนูมั่งไม่เข้าใจครับเราจะบูชาสิ่งที่อยู่ในภพภูมิที่ต่ำกว่าไปทำไม เอามาเป็นที่พึ่งได้หรอครับ เอาสิ่งพวกนี้มาเป็นที่พึ่ง คูณจะได้อะไร ได้อนุสติขอไหน ไว้เป็นหลักในการปฏิบัติ ในการดำเนินชีวิตกันครับ

ที่ผมออกมาพูดคราวนี้เป็นทนไม่ไหวแล้วจริงๆครับ เห้นคนพุทธมางมงายนับถือสิ่งแบบนี้แล้ว สลดใจ ครับ

 

ศรัทธาและปัญญาต้องควบคู่กันไป ..

ศรัทธาอย่างเดี๋ยวแต่ขาดปัญญาก็คืองมงาย ...

อนุโมทนา ..

 

ขอยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่ง ดีที่สุด
ขออนุโมทนาด้วยนะคะ

 

นี่แหละเขาเรียกว่าพุทธพาณิชย์ คนสร้างพยายามสร้างความแตกต่าง และตามมาด้วยสรรพคุณยอดเยี่ยมสุดบรรยาย แค่นี้คนเช่าก็หลงแล้ว

 

เห็นด้วยครับ

 

ครับ

เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้มากๆครับ ผมเองพยายามที่จะเข้าไปขัดผลประโยชน์ต่างๆของพวกที่เอาของแปลกประหลาดมาขายเสมอ เช่นบางคนเอาใส้เดือนมาขายเป็นงูหลามปากเป็ด เอาประการังย้อมสีมาขาย เอาลูกแก้วที่มีขายตามท้องถนนมาบอกว่าเป็นของในถ้ำ พวกนี้ไม่น่าที่จะขายอยุ่ได้ในเวปนี้เลยนะครับ พวกรกแมวรกอะไร ผมว่าจะดีไปกว่าพระนั้นเป็นไปไม่ได้

 

ครูบาอาจารย์ในอดีตท่านสร้างชูชกเพื่อเอาเป็นเคล็ดครับ ท่านถือเคล็ดชูชกขอได้ทุกอย่าง ส่วนสัตว์ต่างๆเช่นเต่า ไก่ นกยูง ท่านสร้างจากพระชาติในอดีตของพระพุทธเจ้าของเรา หลวงปู่ปานยังสร้างพระขี่ไก่ ขี่เม่น ขี่หนุมาน ส่วนเรื่องที่บอกเป็นการบูชาพระเทวทัตนั้นผมว่าทุกคนที่แขวนพระเครื่องไม่มีใครบูชาท่านหรอกครับ ที่เค้าพกพาเพราะถือเคล็ดแบบครูบาอาจารย์ท่านว่าไว้ คงไม่มีใครคิดเอาเป็นที่พึ่งครับ จริงๆเรื่องวัตถุมงคลกับธรรมะนี่คนละเรื่องนะครับ ต้องแยกออกจากกัน

 

ครับ

อันนี้ก็เห็นด้วยครับ และถือว่าเป็นของดีที่เราแขวนได้ และรลึกถึงคุณพระได้ครับ แตกต่างกับอย่างอื่นซึ่งไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเอามาแขวน เช่นปะการังแดง หรือแม้แต่ จิ้งจกสองหางสามหาง

 

กระผมเห็นด้วยกับท่านเจ้ของกระทู้ และออกจะสงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่าทำไมถึงบูชากันนัก

อย่างชูชก นี่ก็อดีตพระเทวทัต และกระทำกับพระเวสสันดร ขนาดนั้น กระทำกับพระกัญหา พระชาลี ซึ่งเป็นอดีตชาติของพระพุทธเจ้า พระราหุล พระนางอุบลวรรณาเถรี พรากลูกพรากพ่อ ไอ้เรื่องว่า มีโชคลาภ กระผมว่า มาจากกรรมเก่า และการกระทำของแต่ละบุคคลมากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการบูชาชูชกหรอก ถ้าบูชาชูชกและทำให้ ไม่อดไม่อยาก ละก็ ก็ให้คนเป็นผู้นำรัฐบาล บูชาไว้สิครับ ประเทศชาติ จะได้ไม่อดไม่อยาก อีกอย่าง ถ้าผู้นำประเทศบูชาแล้ว หากเกิดปัญหาอย่างปัจจุบัน ชูชก ก็ชูชกเถิด ท้องแตกตายแบบในชาดกแล้ว

และการบูชา สัตว์อื่นอีก ... ที่ว่า หลวงพ่อปาน ขี่เม่น ขี่ไก่ ก็คงไม่ค่อยจะเป็นเท่าไหร่นัก เพราะมีพระสงฆ์ อยู่ในองค์บูชานั้นด้วย หลวงพ่อบางองค์ขี่ จักรยานออกเหรียญ ก็ยังมี สูบบุหรี่ ออกเหรียญก็ยังมี กระผม ก็ไม่สงสัยอะไรนัก ... แต่การบูชา จิ้งจก 2 หาง บูชา นกคุ้ม บูชาปลาไหลเผือก ฯลฯ ที่ไม่มีพระสงฆ์เข้าไปเกี่ยวข้อง กระผม ก็ยังสงสัยว่า บูชาไปเพื่ออะไร

กระผมว่านะ หากต้องการรวย ก็ขยันทำงาน

ต้องการมีเสน่ห์ ก็หมั่นทำความสะอาดร่างกายไม่ให้สกปรก พูดจา ด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยท่วงท่าที่ไม่น่าเกียจ หรือเป็นที่รังเกียจ ของสังคม หรือพูดจา หรือกระทำอะไร อย่างไปขวางหูขวางตาผู้ใหญ่ ทำงานให้เป็นที่รัก ที่ชื่นชม ของผู้อื่น แค่นี้ ก็มีเสน่ห์ในตัวแล้วครับ

ดียิ่งกว่า การบูชา สิ่งที่เจ้าของกระทู้กล่าวมาอีก

แต่ถ้าหากว่า เราก็ทำแล้ว ยังไม่ได้ผลที่ต้องการ ต้องถือคติ 2 อย่างนะครับ

1. ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ ทำ ความดี แม้คนอื่นไม่เห็นแต่ตัวเองก็เห็นได้เอง

และ 2. อกุศลกรรมเก่า มาดลบันดาล ให้สิ่งที่เราต้องการยังไม่สมปรารถนา แต่ทำต่อไปเถิดครับ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ดีกว่า บูชารูปสัตว์เดรัจฉาน
ครับ สาธุ กับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

 

รู้มั้ยครับ ว่าตั้งกระทู้ขึ้นมาด้วยโทสะ....
ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ แต่อย่าให้ความคิดเห็นมันออกมาพร้อมกับโทสะครับ...

 

ความเห็นเหมือนเจ้าของกระทู้ครับ

 

เจ้าของกระทู้ถามได้ดีมากเลยครับ กล้าดี

ผมเองก็ไม่เห็นด้วยเลย ไปบูชา ตาชูชกนั่น!

เขาเป็นมารที่มาคอยผจญ ขัดขวาง พระพุทธองค์ ต่างๆนานา

มาหลายชาติแล้ว เหมือนปีศาจทดสอบพวกวีรบุรุษ

มารไม่มี บารมี ไม่เกิด คนจะเป็น ถึง พระพุทธเจ้าได้

ต้องได้รับการทดสอบ อย่าง สมน้ำสมเนื้อหน่อย

เหมือนชีวิตเรายังมีอุปสรรคเลย คนมีความสามารถ

เอาชนะอุปสรรคต่างๆ ก็ประสบความสำเร็จในชีวิต



ยุคนี้คนขาดที่พึ่ง ตาชูชก เขาสร้างมาเพื่อเป็นเคล็ดเรื่องการขอ

หาเงิน เข้า วัด หรือ เข้ากระเป๋าใคร อันนั้นไม่ขอยุ่ง

แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยหรอกที่เราจะบูชา ตาเฒ่าตะกล่ะนั่น

แต่ข้อเสียแกก็มีข้อดีนะ ดีนะที่แกเป็นคนไปขอกัณหา ชาลี

เจ้าชายเลยได้ ทำทานบารมีขั้นสูงไง

ส่วนที่บูชาสัตว์ต่างๆ ผมมีทั้งเห็นด้วย

และไม่เห็นด้วยนะ

เดี๋ยวนี้มีทั้งจริง ทั้งปลอม

วิชาอาถรรพ์เร้นลับเขาสืบทอดกันมานาน

เอาเคล็ดอีกเช่นกัน ตามลักษณะเด่นของสัตว์นั้นๆ

วิชาเหล่านี้มีจริง แต่ที่ขลังจริงมีน้อย

แล้วแต่ใครจะเชื่อชนิดใหน เชื่อแบบไม่มีเหตุผล

ฟังตามกันมา ผมขอเรียกว่างมงาย

แต่ถ้าเชื่อแบบมีเหตุผล ข้อเท็จจริง มีที่มา

ผมขอเรียกว่า "ความเชื่อ ความศรัทธา"


แต่ที่เขานับถือสัตว์ อีกอย่างก็มีที่มา ที่เป็นเบื้องสูงนะ

เช่น ครุฑ อันนี้คิดเอง

เต่า คือเต่าเรือน พระโพธิสัตว์ที่เคยเสวยชาติเป็นเต่า
นกยูง ท่านก็เคยเป็น

 

ความเชื่อมาแต่โบราณกาลครับ

เมื่อวานได้ดูบางอ้อ เรื่องคนทรงศาลเจ้าเตี่ยกวนอู

ก็ได้แต่อืมนะ

 

ก็นานาจิตตังว่ากันไป ส่วนใหญ่ก็เกิดจากความอยากหรือกิเลสแหละครับที่ว่าบูชาชูชกนี่เป็นมหาเสน่่ห์จะมีเงินมีทอง อะไรก็ว่ากันไป แล้วคนที่นิยมบูชาส่วนใหญ่ก็คิดอย่างนั้นจริงๆ ผมจึงเชื่อว่ามันจึงมีเรื่องพุทธพาณิชย์มาเกี่ยวข้องครับที่จะนำความเชื่อเหล่านี้ จุดอ่อนหล่านี้ มาเป็นเครื่องมือในการจัดสร้างหารายได้ นี่คือเรื่องจริงนะผมว่าของดีจริงไม่ต้องโฆษณาหรอกครับ ความคิดของผมนี้ไม่ได้ตั้งใจจะปรามาสอาจารย์ผู้สร้างท่านใดนะครับ

 

คุณต้องแยกไสยศาตร์และพุทธให้ออกครับแต่ของสองสิ่งดำเนินควบคู่กันมานานแล้วเลือกนับถือและเลือกปฏิบัติ อย่างผมๆก็นับถือครับชูชกผมถือเป็นเคล็ดไม่เสียหายอะไร แต่ผมดูเจตนาในการสร้างของวัดเป็นหลัก

 

คนมากมายมีทุกข์เยอะมีกรรมเยอะ
แหวกว่ายในทะเลกรรมจะจมน้ำตาย
มือ(จิต)คว้าอะไรได้ก็เอาหมด
อย่าว่าแต่ชูชกหรือเดียรฉานเลยครับ
ตำราแปลกๆพิธีกรรมแปลกๆวัตถุแปลกๆก็เอาหมด

 

*** จริงๆๆแล้ว รูปสัญลักษณ์ต่างๆ ถือเป็นเคล็ดของพระคุณาจารย์โบราณมานานแล้วครับ เช่น ชูชก ถือคติว่าขออะไรก็ได้ พระเกจิคณาจารย์ต่างๆเลยนำมาจัดสร้างเป็นผ้ายันต์หรือรูปแกะสลักต่างๆจะดีด้านมหานิยม ค้าขาย หลวงพ่อวัดหน้าต่างนอกสร้างพญาราชสีห์ก็เป็นรูปนามสมมุติ ดีด้านมหาอำนาจ แม้้แต่หลวงพ่อเดิม ก็สร้างราชสีเหมือนกัน หลวงพ่ออี้สร้างปลัดขิก เป็นอุบายธรรม หมายถึง ตัดแล้วซึ่งกิเลสและความอยากทั้งปวง ทุกอย่างเป็นกุศโลบายธรรมทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพุทธศาสและไสยศาสตร์เป็นสิ่งที่คู่กันมานานและต้องแบ่งแยกให้ออก ดังเช่นพุทธและพราหมณ์และอยู่ที่เจตนาและคนที่นับถือและปฏิบัติด้วยครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่มีของดีติดตัวและไม่รักษาศีล และประพฤติดี อย่างไรคุณพระก็จะไม่คุ้มครองอยู่ดีครับ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ อย่าไปซีเรียสครับ /// thaiput007@hotmail.com

 

ถ้าจะบูชาชูชก ผมจะบูชาพระสีวลีมากกว่า เรื่องชูชกผมไม่ค่อยนิยมอยู่แล้ว

แต่พวกเครื่องรางที่เป็นสัตว์ก็จะดูเป็นกรณีไป

พวกสัตว์ในหิมพานต์ ในตำนาน ในความเชื่อ เช่น ครุฑ คชสีห์ พญานาค

ผมจะนิยมมากกว่าพวกสัตว์ในความจริง

 

ส่วนใหญ่ที่เขาดักจะเปรียบเทียบกับความสามารถของสัตว์เช่นงูนอนกินอะไรงี้แมงมุมก็อยู่ดีๆก็มีของมาให้กินประมาณว่าใยดักทัรพย์อะไรอย่างนี้ครับครับเขาว่าเป็นเคล็ดผมว่าก็ใส่เท่ไปอีกแบบนะครับดีกว่าไปใส่ตุกตาหมีฮิปฮอปอะไรไร้สาระอย่างนี้

 

ทำกันเป็นเคล็ดสุดแต่ความเชื่อครับ เวลาท่านสร้างท่านก็อัดคาถาให้ตรงตามวัตถุรูปนามตามที่ท่านสร้างขึ้น เสือ-สิง-ลิง-เต่า ท่านก็เอาเฉพาะส่วนดีส่วนเด่นของสัตว์เหล่านี้ซึ่งมีอยู่ในรูปคาถาร่ายใส่เข้าไปในวัตถุเพื่อให้เกิดพลังพลานุภาพแฝงเล้นในวัตถุนั้น ไม่ถึงขั้นห้อยเสือแล้วต้องเบียดเบียนชีวิตคนอื่นเพื่อความอยู่รอดของตนเอง หรือเป็นคนไร้ระเบียบวินัยอย่างลิง เชื่องช้าไม่ทันกินแบบเต่า หรือลามกจ้องสืบพันธุ์ล่ำไปอย่างปลัดขิกครับ