พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อยากให้น้องหมอ พิมพ์ลงหรือcopy ลงดีกว่า จะได้อ่านกัน

    เลือกมาเพียง 1 โครงการ ซึ่งเว็บหลายๆแห่งก็ลงไว้เหมือนกัน ลองอีกครั้งนะครับ

    .
     
  2. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    เดิมทีอยากจะโพส ว่าใกล้จะถึงวันสำคัญของปวงชนชาวไทยแล้ว รู้สึกไม่สบายใจหากประเทศยังเป็นอย่างปัจจุบัน
    แต่ระหว่างที่คิด ได้ฟังว่าการชุมนุนจะยกเลิกชั่วคราวแล้ว อย่างน้อยก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเนื่องในโอกาสที่จะถึงวันสำคัญ

    ผมเองเวลามองรูปพระองค์ท่านแล้วเมื่อนึกถึงประเทศในปัจจุบันมักจะน้ำตาซึม รู้สึกอยากจะร้องไห้
    เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรเพื่อพระองค์ได้เพียงพออย่างที่ใจต้องการ

    อยากให้คนไทยนอกจากรักในหลวงแล้ว หันมาศึกษาพระบรมราโชวาท พระราชดำริ เพื่อจะได้สนองเบื้องยุคลบาท ให้ถูกทางจริงๆกันสักที
    ไม่ใช่อ้างว่าทำเพื่อพระองค์ท่านแต่ทำอะไรตามใจตัวเอง คิดเองอย่างทุกวันนี้ครับ

    ปล. หากราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง ต้องขออภัยด้วยครับ ผมไม่ค่อยได้ใช้ครับ
     
  3. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ขอโทษทีครับ ติดนิสัยตัวเอง อยากให้อ่านกันมากๆ จึงนำทั้งเวปมาลงให้ เพราะอยากให้ได้อ่านทั้งหมดจริงๆ

    เอาใหม่นะครับ

    เศรษฐกิจพอเพียงครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2008
  4. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ไหนๆก็นำมาโพสแล้ว เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของท่านปาทานที่อยากให้คนได้อ่านกัน (เผื่อบางคนไม่อยากไปดูเอง)
    ก็จะขอนำมาให้อีกประเด็นหนึ่งครับ จริงๆอย่างที่บอกว่าเวปที่ผมลงให้นั้นตัวผมได้อ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์มากครับ
    จึงอยากให้ได้อ่านกันเต็มๆจึงนำเวปมาลงไว้ แต่เผื่อใครไม่มีเวลา ผมอยากให้ได้อ่านส่วนนี้ด้วยครับ
    เป็นอีกส่วนที่ผมชอบมากครับ

    http://www.rdpb.go.th/rdpb/TH/BRANDSITE/theproject_s05.aspx
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีเพื่อนๆฝากมาครับ
    ช่วยกันด้วยนะครับ เอ่อ ผมไม่ถนัดซะด้วย
    ที่ห้องรับแขกของผม http://palungjit.org/member.php?u=16245&tab=visitor_messaging

    <INPUT class=inlinemod_checkbox id=vmessagelist_255304 title="Select this item for inline moderation" type=checkbox value=0 name=vmessagelist[255304] inlineModID="inlineMod_comment"> วันนี้ 07:55 PM
    อั้งไล้ฮวกไช้ฮวกหก

    พระอภิธรรมปิฎก เล่ม ๑ ธรรมสังคณีปกรณ์ มาติกา ติกมาติกา ๒๒ ติกะ*****
    (ช่วยเม้น ภาษาบาลีให้ด้วยค่ะ^^)
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 25 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, ake7440+, autojet, เชน, ตั้มศรีวิชัย </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับน้องake7440 และทุกๆท่าน
    อ่านอย่างมีความสุขครับ
     
  8. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ช่วงนี้ผมอาจะมาร่วมได้ไม่บ่อยนะครับช่วงนี้การบ้านเยอะเลยไม่มีเวลาร่วมกิจกรรม
    ใก้ลจะวันพ่อและปีใหม่ขอให้พี่ๆมีความสุขนะครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด
    ปัจจุบันนี้ การทำงานต้องเรียนปริญญาโท เป็นขั้นต่ำ เกรดต้องดีด้วยนะครับ

    ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้นครับ สู้ สู้ และสู้ครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    หุหุ งานนี้ไม่น่าพลาดครับ หากเวรไม่ยุ่งจนเกินไป เพราะว่าอยู่เวรมาราธอนอีกแล้วครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=162384

    พระอภิธรรมปิฎก เล่ม ๑ ธรรมสังคณีปกรณ์ มาติกา ติกมาติกา ๒๒ ติกะ(ช่วยเม้น ภาษาบาลีให้ด้วยค่ะ^^)

    พระอภิธรรมปิฎก
    เล่ม ๑

    ธรรมสังคณีปกรณ์
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
    มาติกา
    ติกมาติกา ๒๒ ติกะ
    [๑] ๑. กุสลติกะ
    กุสลา ธมฺมา ธรรมเป็นกุศล
    อกุสลา ธมฺมา ธรรมเป็นอกุศล
    อพฺยากตา ธมฺมา ธรรมเป็นอัพยากฤต
    ๒. เวทนาติกะ
    สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา ธรรมสัมปยุตด้วยสุขเวทนา
    ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา ธรรมสัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
    อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา ธรรมสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
    ๓. วิปากติกะ
    วิปากา ธมฺมา ธรรมเป็นวิบาก
    วิปากธมฺมธมฺมา ธรรมเป็นเหตุแห่งวิบาก
    เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา ธรรมไม่เป็นวิบาก และไม่เป็นเหตุแห่งวิบาก
    ๔. อุปาทินนุปาทานิยติกะ
    อุปาทินฺนุปาทานิยา ธมฺมา ธรรมอันเจตนากรรมที่สัมปยุตด้วย ตัณหาทิฏฐิ เข้ายึดครองและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
    อนุปาทินฺนุปาทานิยา ธมฺมา ธรรมอันเจตนากรรมที่สัมปยุตด้วย ตัณหาทิฏฐิ ไม่เข้ายึดครองแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
    อนุปาทินฺนานุปาทานิยา ธมฺมา ธรรมอันเจตนากรรมที่สัมปยุตด้วย ตัณหาทิฏฐิ ไม่เข้ายึดครองและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
    ๕. สังกิลิฏฐสังกิเลสิกติกะ
    สงฺกิลิฏฺ
     
  13. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียนท่านผู้อ่านทุกท่าน

    กระทู้พระวังหน้าฯ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ผมแจ้งไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้จากกระทู้นี้ ก็คือ ธรรมะ

    อยากให้ได้เรียนรู้ธรรมะ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ถูกต้อง เป็นธรรมะจากพระไตรปิฎก

    ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่ผมเองก็เรียนรู้อยู่ ก็คือวิธีการสร้างความคิด สร้างให้รู้จักการวิเคราะห์ และสามารถนำไปปฎิบัติกับชีวิตประจำวันได้ เรียนรู้ไปพร้อมๆกันนะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เคล็ดลับการทำงาน อย่างชาวจีนที่คุณเลียนแบบได้

    http://women.kapook.com/work00082/

    [​IMG]

    คนจีนมีชื่อเสียงในเรื่องการค้าขายและทำธุรกิจ และเคล็ดวิธีรวมทั้งความคิดในการทำงานบางอย่างของคนจีน ก็เป็นสิ่งที่คุณสามารถนำเอามาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความสำเร็จให้ตัวเองได้ เช่นกัน
    แต่ละชนชาติมักมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง แต่หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ก็อาจมีประโยชน์ต่อคนเชื้อชาติอื่นได้เช่นกัน อย่างเช่นวิธีคิดและการทำงานของคนจีน ซึ่งมีชื่อเสียงมาช้านานในเรื่องการทำธุรกิจและการค้า และไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจของตัวเอง หรือเป็นหนักงานในบริษัท เคล็ดวิธีอย่างชาวจีนหลายอย่างก็สามารถนำมาใช้ เพื่อสร้างความสำเร็จให้ตัวเองได้

    [​IMG]</PRE>ผูกมิตรก่อน ทำธุรกิจทีหลัง คนจีนชอบการพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ และสร้างความคุ้นเคยก่อนที่จะตั้งต้นทำธุรกิจการค้ากับใคร พวกเขาอาจใช้เวลานานในการสังเกตคนอื่นก่อนที่จะทำธุรกิจใหญ่ด้วย แต่การกระทำเช่นนี้ก็สร้างสัมพันธภาพที่ดี และมักจะยืนนานกว่าการตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจอย่างเดียว ในสไตล์ตะวันตก ฉะนั้น พยายามให้คนอื่นรู้สึกถึงความเป็นมิตรของคุณ และความสัมพันธ์ทางธุรกิจของคุณจะราบรื่นขึ้น

    [​IMG]</PRE>ยิ้ม รอยยิ้มเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงความเป็นมิตรท่ามกลางคน แปลกหน้า การทำหน้าตาจริงจังหรือขมวดมุ่น จะทำให้สัมพันธภาพของคุณเดินไปในทางที่ผิดพลาด คนจีนใช้รอยยิ้มเพื่อเป็นกลไกการป้องกันตัว พวกเขายิ้มเวลาที่รู้สึกอึดอัดหรือตื่นกลัว ในขณะที่ชาวตะวันตกบางแห่ง อาจมองการหัวเราะคิกคักเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ในเมืองจีนมันเป็นเครื่องมือในการออกสังคมของคนทุกระดับชั้น แต่คุณจะดูเป็นมิตรมากกว่า และมีอิทธิพลในทางที่ดีต่อผู้คนมากกว่า ด้วยรอยยิ้มของคุณ ฉะนั้น อย่าลืมรอยยิ้มของคุณเสียล่ะ

    [​IMG]</PRE>พูดช้าๆ คนอเมริกันชอบพูดเร็วๆ ผลก็คือพวกเขาทำให้คนฟังเบื่อ มันไม่สำคัญหรอกว่าไอเดียของคุณจะวิเศษเพียงใด ถ้าคุณไม่สื่อสารออกมาในแบบที่คนอื่นจะเข้าใจได้ คนจีนมักเห็นเป็นเรื่องไม่สุภาพที่จะขอให้คนอื่นพูดซ้ำ ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจคุณ พวกเขาก็จะนั่งเฉยๆ และดูเหมือนเข้าใจ และปล่อยให้ความคิดของคุณผ่านเลยไป การพูดช้าๆ และชัดเจนจึงจำเป็นในกรณีที่คุณต้องการสื่อสารความคิดของคุณ และให้แน่ใจว่าคนอื่นฟังมันอย่างเข้าใจ

    [​IMG]</PRE>อย่าเป็นกันเองเกินไป ในประเทศตะวันตกมักจะเน้นที่ความเท่าเทียมกัน แต่คนจีนจะเน้นหลักอาวุโสเป็นหลัก นี่เป็นการให้เกียรติคนอื่น และสร้างความรู้สึกในแง่ดี ที่จะทำให้สัมพันธะภาพทางธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

    [​IMG]</PRE>สินน้ำใจหรือของขวัญ คนจีนนิยมการการมอบของขวัญในโอกาสต่างๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้รับรู้สึกยินดีแล้ว ยังสร้างความน่าเชื่อถือความรักนับถือแก่ผู้ให้อีกด้วย ซึ่งเมื่อการยอมรับเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ย่อมจะหาการสนับสนันจากผู้อื่นได้ไม่ยาก จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะประสบความสำเร็จ ฉะนั้น อย่าลืมการให้ของขวัญเพียงเล็กน้อยแก่ทุกคนรอบตัว ไม่ว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่าหรือสูงกว่าก็ตาม

    [​IMG]</PRE>ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่มั่งมีเงินทอง ที่ย่อมอยากทำตัวให้สุขสบายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินดีๆ หรือการซื้อของหรูหราราคาแพงมาใช้ แต่สำหรับคนจีนแล้ว การทำตัวหรูหราฟุ่มเฟือยเป็นความทุกข์มากกว่าความสุข เพราะต้องคอยระวังไม่ให้ข้าวของเหล่านั้นถูกขโมย หรืออาจมีคนไม่ชอบในความอวดโอ้ของตนก็เป็นได้ ทางที่ดีจึงควรทำตัวให้ต่ำกว่าฐานะของตนเอง หรือใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แค่อยู่ให้สบายกายสบายใจ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ของแพง แต่เก็บออมเอาไว้เพื่อประโยชน์ในอนาคตจะดีกว่า ที่สำคัญก็คือ การวางตัวเช่นนี้ จะทำให้เป็นที่รักและไม่สร้างความบาดหมางต่อคนรอบข้างอีกด้วย
    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Lisa


    [​IMG]</PRE>
     
  16. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ake7440 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นานๆจะเห็นกระทู้นี้ว่างสักครั้ง หุหุ เข้ามาเดินเล่นคนเดียวกลางดึก (เปลี่ยวมาก)
    <!-- currently active users -->
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ระวังโดนฉุดไปนะครับ หุหุหุ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "ในหลวง" พระราชทานโอวาทย้ำทหารต้องทำให้ปชช.ศรัทธา

    [​IMG]



    เวลา 17.25 น.วันที่ 2 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินยังลานพระราชวังดุสิต เพื่อทรงตรวจพลสวนสนาม ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2550



    จากนั้น เมื่อเวลา 17.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาท ความว่า ได้ฟังคำปฏิญาณที่ทุกคนกล่าวอย่างหนักแน่น ขอขอบใจในไมตรีจิตของทุกคน และขอสนองพรและไมตรีนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน คำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้แก่ข้าพเจ้านั้นเป็นสัจวาจาที่มีค่าควรรักษาไว้โดยเคร่งครัด เพราะเป็นสิ่งที่จะคุ้มครองตัวท่าน ให้มีความเจริญสวัสดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อที่จะรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศเกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์ แท้จริงแล้วการรักษาเกียรติยศ เกียรติศักดิ์เหล่านี้มิได้หมายถึงการทำตัวให้เรียบร้อยเป็นสง่า สมกับชั้นยศและหน้าที่ตอนนั้น แต่ย่อมหมายถึงการปฏิบัตหน้าที่ของทหารให้ถูกต้องสมบูรณ์ รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติตนดี ให้เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของประชาชนด้วย ดังนั้น ทหารรักษาพระองค์ทุกคนไม่ว่าจะประพฤติปฏิบัติการใด จะต้องระมัดระวังกายใจให้มั่นคง เที่ยงตรง ให้มีความสัตย์สุจริต และความสมัครสมานสามัคคีมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอดทน

    ถ้าทุกคนมุ่งใจปฏิบัติดังนี้ ความมี ความเจริญ ที่จะบังเกิดขึ้น ทั้งแก่ตัวท่าน แก่หมู่คณะ ตลอดจนชาติบ้านเมือง เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีของทหารรักษาพระองค์อย่างแท้จริงและยั่งยืน



    ขออาณุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิท ธิ์กับทั้งอำนาจแห่งความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจต่อชาติบ้านเมือง จงดลบังดาลให้ทหารทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ และความสวัสดีมีชัยทุกเมื่อไป

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1228215495&grpid=03&catid=42

    ---------------------------------------------------------------

    ทหารรักษาพระองค์ร่วมถวายสัตย์ฯ

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHhNaTB3TXc9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนาม ของทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ลานพระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่พระลานพระราชวังดุสิต(พระบรมรูปทรงม้า) กองทัพไทยจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2551 โดยมี พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.รัชกฤต กาญ จนวัฒน์ เสนาธิการทหาร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.ร.อ.รพล คำคล้าย เสธ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.อ.อ.มานิต สพันธุพงษ์ เสธ.ทอ. ตามเสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจพลสวนสนาม

    ทั้งนี้ พล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์(ผบ.พล.1 รอ.)ในฐานะผู้บังคับกองผสมนำทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์จำนวน 13 กองพันร่วมพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน

    ต่อมาเวลา 17.23 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งมายังบริเวณต้นขบวนแถวทหาร จากนั้นพล.ต.ไพบูลย์ ได้กราบบังคมทูลรายงาน ขอพระราชทานกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนิน ทรงตรวจพลสวนสนามด้วยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยนายทหารพิเศษประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์ 8 นายตามเสด็จ

    จากนั้นเวลา 17.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรวจพลสวนสนามแล้ว ได้เสด็จขึ้นสู่พลับพลาที่ประทับ ผู้บังคับกองพันและหมู่เชิญธงชัยเฉลิมพลเข้าประจำที่หน้าพลับพลา ต่อมาพล.อ.ทรงกิตติ ทูลเกล้าฯถวายพานดอกไม้ ธูปเทียนแพ จากนั้นนำทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณ และแถวทหารถวายคำปฏิญาณโดยกล่าวตามผู้บัญชาการทหารสูงสุดโดยพร้อมเพรียงกันว่า ข้าพระเจ้าจะยอมตายเพื่อรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า และจะจงรักภักดี และจะถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ และจะเชิดชูรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการ

    ภายหลังเมื่อถวายคำสัตย์ปฏิญาณเสร็จ ผู้บังคับกองผสมสั่งถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมปล่อยลูกโป่ง และแพรถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" ปืนใหญ่ยิงสลุตถวาย 21 นัด และปล่อยลูกโป่ง 8,100 ลูกภายในสนามเสือป่า

    จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เข้าเฝ้าฯ และทหารรักษาพระองค์ความว่า ข้าพเจ้าและพระราชินี มีความปลื้มปีติยิ่งนักที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางเหล่าทหารรักษาพระองค์ และได้ฟังคำปฏิญาณที่ทุกคนกล่าวอย่างหนักแน่น ขอขอบใจในไมตรีจิตของทุกคน ขอสนองพรและไมตรีนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน

    คำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้แก่ข้าพเจ้านั้น เป็นสัจวาจา ที่มีค่าควรรักษาไว้โดยเคร่งครัด เพราะเป็นสิ่งที่จะคุ้มครองตัวท่านให้มีความเจริญสวัสดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อที่จะรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์ แท้จริงแล้วการรักษาเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ เหล่านี้มิได้หมายถึง การทำตัวให้เรียบร้อยเป็นสง่า สมกับชั้นยศและตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น แต่ย่อมหมายถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทหารให้ถูกต้องสมบูรณ์

    รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของประชาชนด้วย ดังนั้นทหารรักษาพระองค์ทุกคนไม่ว่าจะประพฤติหรือปฏิบัติการใด จะต้องระมัดระวังกาย ใจให้มั่นคง เที่ยงตรงให้มีความสัตย์สุจริต และความสมัครสมานสามัคคี มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอดทน อดกลั้น ถ้าทุกคนมุ่งใจปฏิบัติย่อมมีความเจริญที่จะเกิดขึ้น ทั้งแก่ตัวท่านและหมู่คณะตลอดจนชาติบ้านเมือง เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีของทหารรักษาพระองค์อย่างแท้จริงและยั่งยืน

    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับทั้งอำนาจแห่งความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจ ต่อชาติบ้านเมืองจงดลบันดาลให้ทหารทุกคนประสบแต่ความสุขความเจริญ และความสวัสดีมีชัยทุกเมื่อไป

    จากนั้นเวลา 17.40 น.ผู้บังคับกองผสมได้สั่งกองผสมสวนสนามผ่านหน้าพลับพลาที่ประทับจำนวน 12 กองพันและกองพันทหารม้ารักษาพระองค์จำนวน 1 กองพัน ตามลำดับหน่วย จนกระทั่งเสร็จสิ้นการสวนสนาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯกลับด้วยรถยนต์พระที่นั่ง ผู้บังคับกองผสมพร้อมทหารนำถวายพระพรเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ"พร้อมกัน 3 ครั้งเป็นอันเสร็จพิธี

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ จะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคมของทุกปี เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กองบัญชาการกองทัพไทย มอบให้กองทัพบกเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการสวนสนาม โดยมีทหารรักษาพระองค์จาก 3 เหล่าทัพ จัดกำลังพลเข้าร่วมสวนสนามจำนวนทั้งสิ้น 2,815 นาย ประกอบด้วย นายทหารสัญญาบัตร นายทหารประทวน พลทหาร และนักเรียนนายร้อยจาก 3 เหล่าทัพ ซึ่งการจัดกำลังสวนสนามปีนี้มีพล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นผู้บังคับกองผสม นำกำลังทหารรักษาพระองค์ จำนวน 4 กรม รวมทั้งสิ้น 13 กองพัน เข้าสวนสนาม โดยปีนี้ได้ปรับปรุงแบบการเดินสวนสนาม และกระชับเวลาให้สั้นขึ้น เพื่อลดพระราชภาระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2008
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลงทุนตราสารหนี้ผสมหุ้น รับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอย
    http://www.manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9510000142113
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 ธันวาคม 2551 10:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เป็นที่ทราบกันในขณะนี้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีและไม่เอื้ออำนวยต่อในเรื่องของการลงทุนมากนัก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต่างประเทศทั่วโลกได้รับเหมือนๆกัน แม้ว่าหลายประเทศจะออกมาตรการทางเศรษฐกิจต่างๆนานา เพื่อเป็นการพยุงเศรษฐกิจของประเทศตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าผลกระทบจากปัญหา กำลังโผล่ให้เห็นเพิ่มขึ้นพร้อมๆกับวิธีการต่างๆในการเข้าไปแก้ปัญหา

    ผลกระทบประการหนึ่งที่เห็นได้เห็นกันแล้วคือ ภาคการส่งออก ที่เป็นผลทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ เริ่มมีการลดกำลังการผลิตลง รวมถึงการปรับลดพนักงานภายในบริษัทลง เช่น บริษัทรถยนต์ทั่วโลก อาทิ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ หรือ จีเอ็ม ที่กำลังจะมีการยกเลิกผลิตรถยี่ห้อ แซทเทิร์น ซาบ ปอนเทียค และ ฮัมเมอร์ ขณะที่ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ โค ของสหรัฐฯ ทำการปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ในยุโรปลงประมาณ 10% ในปีหน้า ส่วน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ ญี่ปุ่น กำลังจะมีการปรับลดพนักงานลง 1,100 ตำแหน่ง และเลิกจ้างพนักงานประเภทชั่วคราวลง 1 ใน 3

    ปัญหาดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาจากปัญหาอื่นในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ในส่วนของประเทศไทยในช่วงที่เกิดวิกฤตนั้นประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในส่วนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ผลกระทบที่จะตามมาในทางอ้อมนั้นก็ไม่เบาเท่าไรนัก เพราะอย่างที่ทราบกัน เศรษฐกิจหลักของไทยคือเรื่องของการส่งออก ซึ่งเมื่อประเทศผู้ค้าหลักไม่มีเงินที่จะซื้อสินค้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้น และภาคการลงทุนล่ะ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีการลงทุนที่เหมาะสมในยามนี้คือการลงทุนในแหล่งไหน

    วันนี้ มีมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจจากผู้บริหารกองทุนรวมมาให้ให้ฟังกัน ชูเกียรติ ธิติหิรัญเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด บอกว่า เศรษฐกิจและการลงทุนในขณะนี้ไม่ดีนัก อย่างที่ทราบกันและมองกันว่าในปีข้างหน้าที่จะถึงนี้ เศรษฐกิจน่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ระดับตํ่ากว่า 3 % แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจัยหลักที่น่าจะมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ คือ บทบาทของภาครัฐบาลควรที่จะข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้น กล่าวคือ การใช้จ่ายของภาครัฐที่จะต้องเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุนภายในประเทศ หรือการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่น่าจะส่งผลให้ จีดีพี ของประเทศในปีหน้าอยู่ในระดับที่มากกว่า 3% หรืออาจไม่เพิ่มขึ้นมากแต่น่าจะทำให้เศรษฐกิจไม่แย่ลงไปกว่านี้

    ขณะเดียวกัน ยังต้องดูที่นโยบายของทางภาครัฐด้วยว่าจะเป็นอย่างไร นโยบายทางเศรษฐกิจที่ออกมาจะโดนใจนักลงทุนของไทยและต่างประเทศมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้ จีดีพี ของประเทศไม่น่าจะลดลงไปอยู่ในระดับติดลบ เพราะส่วนหนึ่งธนาคารกลางของประเทศต่างๆได้มีการพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการลดดอกเบี้ยลง รวมถึงการอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ถือเป็นการพยายามทำให้เศรษฐกิจของตนเองไม่ยํ่าแย่ลงไปมากว่านี้ ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยเช่นกันในแง่ของผลกระทบที่จะตามมา แต่เรื่องการลดดอกเบี้ยนั้นจะทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวลงมา ขณะเดียวกันหนี้สินของภาคสถาบันการเงินในต่างประเทศนั้นก็ได้มีการปรับลดหนี้สินลงทำให้การปล่อยกู้ทำได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่ภาคสถาบันการเงินจะต้องทำ แต่เมื่อมีการปล่อยกู้ได้ยากมากขึ้นแล้วทำให้กิดผลกระทบต่อการลงทุนมีที่ลดน้อยลง ดังนั้นแล้วภาครัฐควรที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงการสร้างความั่นใจในการลงทุนด้วย ซึ่งก็เป็นลักษณะเดียวกับประเทศไทยเช่นเดียวกัน

    โดยในปีหน้าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบเศรษฐกิจทุกอย่างจะชะชอตัวลง รวมถึงมีการปลดพนักงานด้วย แต่บางบริษัทที่ทำการส่งออกในภูมิภาคเอเชียสามารถที่จะประคองตัวเองไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ คือในส่วนของภาคการส่งออกของไทย ที่กำลังจะได้รับผลกระทบเพราะประเทศผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทยรายใหญ่อย่างสหรัฐฯและสภาพยุโรป ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้ต้องลดการนำเข้าลง ขณะนี้ บริษัทที่ทำการส่งออกของประเทศไทยกำลังได้รับผลกระทบเนื่องจากความต้องการสินค้าจากต่างประเทศลดน้อยลง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่จะต้องมาคิดกันว่าจะอย่างไรที่จะทำให้ จีดีพี ของประเทศไทยเป็นบวกเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นไม่มากก็ตาม

    ตราสารหนี้แหล่งลงทุนหลัก
    ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการลงทุนจะยังไม่มีความชัดเจนมากพอที่จะนำเงินเข้ามาลงทุนในขณะนี้ โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นที่ยังมีความเสี่ยงอยู่มากเหลือเกิน ผู้บริหาร บลจ. จึงได้กล่าวถึงเรื่องการลงทุนในแหล่งลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยและสามารถได้รับผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ นั่นคือการลงทุน ตราสารหนี้ โดย "ชูเกียรติ" บอกว่า หากนักลงทุนต้องการที่จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ในขณะนี้ ก็มีตราสารหนี้ที่น่าสนใจ คือ พันธบัตรของรัฐบาล และตราสารหนี้ของบริษัทเอกชน ซึ่งตราสารหนี้ของภาครัฐนั้นไม่มีปัจจัยในเรื่องของความเสี่ยงมากนัก มีเพียงแค่ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าน่าปรับลดลงอย่างแน่นอน เพราะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างต่อ แต่ในส่วนของตราสารหนี้ของภาคเอกชนนั้น ยังมีความน่าสนใจอยู่ แต่ตราสารหนี้ที่นักลงทุนจะเข้าไปลงทุนนั้น ควรเป็นตราสารหนี้ของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ มีผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ดี และมีอันดับเรทติ้งอยู่ที่ระดับตั้งแต่ A- ขึ้นไป

    ขณะเดียวกัน ยังแนะนำด้วยว่า ในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนนั้นควรมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ให้มากขึ้น ทั้งตราสารหนี้ของรัฐบาลและของบริษัทเอกชน โดยตราสารหนี้ที่ลงทุนนั้นควรเป็นตราสารหนี้ที่มีทั้ง ระยะยั้นและระยะยาวประมาณ 1-2 ปีผสมกันไป ส่วนการลงทุนในหุ้นนั้นควรมีสัดส่วนของการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 20 -30 % ก็พอแล้ว ทั้งนี้โดยส่วนตัวแล้วมองว่ารัฐบาลควรที่จะออกตราสารหนี้ของรัฐบาลให้มากขึ้นเพราะอัตราดอกเบี้ยได้ปรับตัวลดลง

    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ยังได้พูดถึงการลงทุนในต่างประเทศด้วยว่า ตลาดหุ้นของต่างประเทศในขณะนี้ยังคาดการณ์ทิศทางได้ยาก แต่หากต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศควรที่จะเข้าไปลงทุนในสัดส่วนที่ไม่มากนัก เพราะยังมีความเสี่ยงอยู่มาก และต้องให้เงินลงทุนส่วนใหญ่มาลงไว้ที่ตลาดหุ้นของภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก เพราะเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียในขณะนี้ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่ตลาดหุ้นของภูมิภาคในเอเชียนั้นได้แสดงผลของวิกฤตที่เกิดขึ้น นั้นคือ การที่นักลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรปพากันเทขายหุ้นทิ้งเพื่อดึงเงินลงทุนกลับไปที่ประเทศของตนเอง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียรวมทั้งประเทศไทยปรับตัวลดลงมาอย่างมาก

    คงเป็นที่ชัดเจนแล้วในตอนนี้ว่า "ตราสารหนี้" เป็นแหล่งลงทุนหลักที่นักลงทุนสามารถที่จะหอบเงินเข้ามาลงทุนกันได้อย่างมีความมั่นใจมากว่าการลงทุนในหุ้น ที่แม้ว่าในตอนนี้น่าที่จะทยอยเข้าไปช้อนซื้อได้เรื่อยๆ แต่นักลงทุนก็ยังไม่มีความมั่นใจอยู่มากพอ คงเป็นข้อมูลในระดับหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่กำลังติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและต้องการคำแนะนำที่ดีประกอบการลงทุนในยามนี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>สอน "เด็ก" ให้รู้จักคุณธรรมเริ่มจากครอบครัว
    http://www.komchadluek.net/2008/12/03/x_soc_s001_234263.php?news_id=234263</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>

    เพราะเด็กเกิดมาพร้อมกับศักยภาพแห่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ต้องสังเกตและค้นให้พบว่าลูกน้อยมีความถนัดในด้านใดรวมทั้งส่งเสริมให้ถูกทาง
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";google_ad_slot = "8122705396";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>

    นิตยสาร Mother & Care จึงได้จัดกิจกรรม Mother & Care Festival 2008 ครั้งที่ 4 เสริมทักษะให้ลูกน้อยฉลาดรู้ ฉลาดเล่น ฉลาดเล่า บริเวณลานน้ำพุ ชั้น 1 ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์
    สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Mother & Care กล่าวว่าเด็กทุกคนเกิดมามีศักยภาพในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การเรียนรู้ และศักยภาพภายในที่ซ่อนอยู่ คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสังเกตได้ง่ายว่าลูกของคุณเก่งด้านใด และเมื่อรู้ว่าเก่งด้านใดแล้วก็ต้องส่งเสริมให้สุดทาง พ่อแม่จึงถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้เด็กฉายแววแห่งอัจฉริยะได้ ที่สำคัญต้องไม่ลืมสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมให้เด็กด้วย เพราะถ้าเก่งอย่างเดียวแล้วจ้องแต่จะเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นก็คงไม่มีประโยชน์
    ด้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาเป็นประธานในงาน กล่าวว่า หากพูดถึงการพัฒนาคนแล้วเรามักนึกถึงแต่การศึกษา นึกถึงโรงเรียน จนลืมนึกไปว่าการพัฒนาคนไม่ได้อยู่แต่แค่ในโรงเรียน แต่ควรเริ่มต้นจากภายในครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันที่มีอิทธิพลสำคัญที่สุดในการพัฒนาคน
    "ผมเชื่อว่าทุกคนมีความเก่ง ความดีอยู่ในตัวเองทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะค้นพบและนำออกมาใช้ได้แค่ไหน ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่ในทางที่สร้างสรรค์ ที่ถูกที่ควรด้วย เพราะคนฉลาดในบ้านเมืองเรานั้นมีเยอะ แต่มักถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เพราะฉะนั้นเรื่องของคุณธรรมจึงสำคัญมากในการส่งเสริมสังคมนอกเหนือไปจากการดูแลส่งเสริมลูกหลาน เพื่อให้เด็กที่เติบโตขึ้นมาไม่ใช่แค่เก่งแต่จะต้องเป็นคนดีด้วย"
    นอกจากนี้ อภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หน้าที่ของสถาบันครอบครัวที่สำคัญ คือ การปลูกฝังคุณธรรม ที่ควรเริ่มจากคนใกล้ตัว คนในครอบครัว เพราะพ่อแม่ ผู้ปกครองคือตัวอย่างสำคัญที่เด็กจะเรียนรู้ และยึดเอาเป็นแบบอย่าง "สังคมที่ดีงาม ร่มเย็น จะเกิดขึ้นได้เพราะคนมีคุณธรรม ซึ่งต้องเริ่มจากเด็กที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ขอฝากเรื่องนี้ไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง เพราะบุคคลเหล่านี้มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการวางรากฐานให้ลูกหลานของท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต" อภิสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย
    เรื่อง จารุพรรณ โชติพงศ์พุฒิ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...