พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ม่ายช่าย dejavu ครับเป็นแนวที่ให้ขบคิดตลอดว่าใคร อะไร ใช่ตัวเอกรึเปล่า หรือ หลอกให้งง เพียงแต่ตอนจบนี่ แย่ไปหน่อยครับ ไคลแมกซ์ของเรื่องน่าจะเป็นว่าทำไมต้อง 88 นาทีครับ...
     
  2. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    หุ หุ ๆๆๆ
     
  3. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    โลเลียขอเลานาอยู่ คุณคูใจดีทุคน เดะๆก็ไม่ซุซน....
    [​IMG]
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา Fwd mail ครับ

    FW: Recession is coming... Reminder to all my friends

    Recession is coming .... make your own judgment, don't panic !! Do what is wise.
    ความถดถอยทางเศรษฐกิจกำลังเริ่มต้น...กรุณาตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง แต่อย่าตระหนกตกใจ!! พยายามดำเนินชีวิตไปตามปกติเท่าที่จะทำได้

    The recession looks very eminent. It is really time to take pro active steps to avoid a painful time in the next two years which is how long the recession is expected to last.
    ความถดถอยครั้งนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างสำคัญ ดังนั้นเราจึงควรเริ่มต้นรับมือเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเวลาแห่งความเจ็บปวดที่คาดว่าจะเป็นเวลาถึง 2 ปีในครั้งนี้

    Suggestions:
    ข้อแนะนำ
    1. Don't take any loans; buy homes, properties with loans, or even cash. Keep as much cash as possible.
    อย่าดำเนินการใดเกี่ยวข้องกับการกู้ยืม เช่น การซื้อบ้าน ทรัพย์สิน หรือการหมุนเงินสด พยายามถือเงินสดไว้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

    2. Pay off as much of personal loans, private loans, as debt collection will be hastened.
    จ่ายคืนเงินกู้ส่วนบุคคล หรือเงินกู้เอกเทศต่างๆ ให้มากที่สุด เพราะการตามเก็บหนี้ครั้งนี้จะโดนเร่งรัดอย่างมาก

    3. Sell any stocks you can even at lower prices.
    ขายหุ้นใดที่ถืออยู่ออกไป แม้ว่าจะได้ราคาที่ต่ำกว่าราคาทุน

    4. Take money off from Trust Funds.
    ถอนเงินสดออกมาจากกองทุนเงินฝากต่างๆ

    5. Don't believe in huge sales forecast from customers, be extremely prudent, lowest inventories, reduce liabilities.
    อย่าเชื่อถือในคำทำนายเกี่ยวกับยอดขายจำนวนมโหฬารจากลูกค้า แต่ต้องสุขุมรอบคอบ พยายามลดสินค้าคงคลังให้ต่ำที่สุด และลดหนี้สินลง

    6. Don't invest in new capital.
    อย่าลงทุนในทรัพย์สินใหม่ๆ

    7. If you are selling homes / properties / cars, do it now, when you can get good prices, they are going to fall.
    ถ้าคุณกำลังขายบ้าน / ทรัพย์สิน / รถยนต์ ให้รีบดำเนินการทันทีขณะที่ยังได้ราคาดี ไม่เช่นนั้นราคาจะตกต่ำลงไปกว่านี้อีก

    8. Don't invest in new business proposals.
    อย่าลงทุนในข้อเสนอทางธุรกิจใหม่ๆ

    9. Cancel holiday plans using credit cards.
    ยกเลิกแผนวันหยุดที่จะใช้จ่ายโดยบัตรเครดิต

    10. Don't change jobs, as companies will retrench based on 'last in first out'.
    อย่าเปลี่ยนงานช่วงนี้ เพราะบริษัทต่างๆจะทำการตัดรายจ่ายโดยเอาคนที่มาทีหลังออกก่อน

    Stay cool, wait, and if you took all of the above actions and more, you probably will be better off then many. This is not a rumor.
    ใจเย็นๆ ให้รอคอยอย่างสงบ ถ้าสามารถดำเนินการตามที่กล่าวมาแล้ว คุณจะเป็นผู้ที่โชคดีกว่าอีกหลายๆคน นี่ไม่ใช่ข่าวลือ
    Bear Stearns is the first of many banking and financial institutions that will start falling in the not too future. If Bear Stearns can fall, so can JP Morgan, Citibank, HSBC, and the whole world. US economy falls, the rest will crumble.
    ธนาคารแบร์สเติร์นส์กำลังเป็นหนึ่งในหลายๆธนาคารและสถาบันการเงินที่กำลังจะล้มในอีกไม่นาน ถ้าธนาคารนี้ล้มได้ สถาบันอื่น เช่น เจ พี มอร์แกน , ซิตี้แบ๊งค์ , ฮ่องกงแบ๊งค์และเซี่ยงไฮ้ และที่เหลือทั้งโลกก็อาจล้มตามได้เช่นกัน ถ้าเศรษฐกิจอเมริกาล้ม ที่อื่นก็ย่อมป่นปี้ตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    India and all those self economies will be the most protected, but not gullible.
    อินเดียและประเทศที่มีภาวะเศรษฐกิจภายในที่ดีและครบวงจรจะได้รับผลกระทบน้อย แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด
    Europe may be a little stronger, but not China , another giant! lace Malaysia will see significant impact.
    ยุโรปอาจจะดูแกร่งกว่าที่อื่นเล็กน้อย แต่ไม่เหมือนจีนซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขณะที่มาเลเซียจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
    A friendly reminder form a friend!!!
    นี่เป็นคำเตือนด้วยความหวังดีจากเพื่อน
     
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    โอ้ท่านปาทานแปลภาษาอังกฤษได้งามมากครับ ไว้ผมจะฝากหนังสือให้ช่วยแปลสัก 10-20เล่มนะครับ หุ หุ
     
  6. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    ขอบพระคุณมากค่ะ ฝากกราบพี่ใหญ่ด้วยนะคะ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เหอๆๆ แค่หน้าเดียวสงสัยเป็นเดือนแน่
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 107 ครั้ง

    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 100 ครั้ง

    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 101 ครั้ง

    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 100 ครั้ง

    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 100 ครั้ง
     
  9. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    **.**

    ...ตรงใจผมเลยครับ (ไม่ได้ COPy น่ะ) ขอตอบแบบนี้เลยครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2008
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    **-**

    "การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง"

    ในหลวงให้ข้อคิด(ธรรมมะ) ในแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง นั่นก็คือทางสายกลาง
    - พอประมาณ
    - มีเหตุผล
    - มีภูมิคุ้มกัน
    ....มากยิ่งกว่าการให้ทั้งปวง....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2008
  12. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    **-**

    อุ๊...ทำไมรูปไม่โชว์ อ่ะครับ...
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "อเมริกัน"หันกลับไปสู่ความ"โบราณ" ใช้"เงินสด"แทนบัตรคุมงบฯใช้จ่ายสู้วิกฤต
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01ecb03011251&sectionid=0141&day=2008-12-01


    ในฐานะประเทศซึ่งมีความก้าวหน้าทางการเงิน เป็นเจ้าไอเดียใหม่ๆ ในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ทำให้คนอเมริกันไม่นิยมใช้เงินสดในการชำระค่าสินค้าและบริการ อีกทั้งไม่นิยมพกเงินสดติดตัวมาก วิธีการใช้จ่ายที่นิยมกันก็คือใช้เช็คหรือไม่ก็บัตรเครดิต

    แต่หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงในรอบเกือบ 80 ปี ซึ่งสาเหตุสำคัญก็คือมาจากการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์และการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย โดยนิยมนำเงินในอนาคตมาใช้จ่ายมาก ทำให้คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยเปลี่ยน "พฤติกรรมการใช้จ่าย" ในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยหันไปใช้วิธี "โบราณ" ในการชำระค่าสินค้า นั่นก็คือชำระด้วยเงินสดหรือไม่ก็บัตรเงินสด (เดบิต) แทน

    แม้ว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนอเมริกันหันมาใช้เงินสดจะเป็นเพราะปัญหาสภาพคล่องหรือสินเชื่อในสหรัฐตึงตัวหรือหายาก บริษัทผู้ออกบัตรเครดิตเข้มงวดกับผู้ถือบัตรมากขึ้นแล้ว สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคอเมริกันต้องการจำกัด, ควบคุม หรือสร้างวินัยตัวเองในการใช้จ่าย ไม่ให้ใช้จ่ายเกินงบประมาณหรือเกินรายได้ของตัวเอง

    พฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปเห็นได้ชัดตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ อาทิ เพนนี"ส บอกว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ที่ได้เห็นผู้บริโภคซื้อของด้วยเงินสด ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อ ค.ศ.1991 ในห้วงที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย เช่นเดียวกับวอล-มาร์ท ก็ระบุว่าได้เห็นคนอเมริกันมาซื้อของในช่วงหลังจากวันเงินเดือนออกเท่านั้น ต่างจากในอดีตที่คนสามารถซื้อสินค้าได้แม้ในช่วงก่อนวันเงินเดือนออกหลายวัน (โดยใช้เงินเชื่อหรือบัตรเครดิต)

    ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า อย่าว่าแม้แต่ของฟุ่มเฟือยเลย ที่ผู้บริโภคอเมริกันสามารถซื้อหาได้โดยไม่ต้องรอวันเงินเดือนออก แม้แต่สินค้าจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน พวกเขาก็ต้องรอให้เงินเดือนออกเสียก่อนจึงซื้อได้

    นักวิเคราะห์เชื่อว่าจากวิกฤตครั้งนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงนิสัยการใช้จ่ายของคนอเมริกันไปตลอดกาลก็ได้แม้ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในวันข้างหน้า แต่คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยอาจจะยังยืนหยัดวินัยที่เรียกว่า "จะซื้อต่อเมื่อมีเงินในมือหรือมีความสามารถในการจ่าย" แบบเดียวกับที่รุ่นพ่อ-แม่และปู่ย่าตายายทำมาในอดีตหลังจากช่วงมหาวิกฤตเศรษฐกิจ หรือ The Great Depression ในทศวรรษ 1930
     
  14. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ฮือฮาปรากฏการณ์หน้ายิ้มบนฟ้า
    http://www.matichon.co.th/khaosod/view_newsonline.php?newsid=TVRJeU9ERXpNRFkwTUE9PQ==

    เอิร์ธชายน์ ดาวศุกร์-พฤหัสเป็นตา พระจันทร์ยิ้ม



    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เกิดปรากฏการณ์เอิร์ธ ชายน์ (Earth shine) บนท้องฟ้าที่มองเห็นด้วยตาเปล่า เป็นดาวศุกร์อยู่เคียงกับดาวพฤหัสบดี มองใกล้กันเพียง 2 องศาในระยะบนท้องฟ้า และจะมีดวงจันทร์ขึ้น 3 ค่ำ อยู่ข้างล่างดาวทั้ง สองดวง ห่างดาว เพียง 2 องศา ในระยะท้องฟ้าเช่นกัน เมื่อมองขึ้นไปแล้ว ปรากฏการณ์นี้ มองภาพของดาวคู่และดวงจันทร์บนท้องฟ้า จะดูเหมือนหน้าคนกำลังยิ้ม

    [​IMG]

    [​IMG]

    นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ปราชญ์ชาวบ้านภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ กล่าวว่า เอิร์ธ ชายน์ คือปรากฏการณ์แสงอาทิตย์ส่องมากระทบยังโลก และสะท้อนกลับไปยังดวงจันทร์ จึงจะเห็นเป็นพระจันทร์เพียงครึ่งเสี้ยว ขณะที่ดาวพฤหัสบดี และดาวศุกร์ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่สว่างสุกใส นานๆ ครั้งที่ดาวทั้งสองจะมาอยู่ใกล้กัน บางมุมจะเห็นคล้ายกับใบหน้าคนที่กำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่บนท้องฟ้า ทำให้น่าติดตามชมเป็นอย่างยิ่ง สามารถถ่ายภาพได้ด้วยกล้องถ่ายภาพทุกชนิด และมองได้ด้วยตาเปล่า ตั้งแต่เวลา 17.40 น. ที่ดวงอาทิตย์เริ่มตกดินจนถึงเวลา 20.30 น.

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เอกซเรย์ตัวเลขเศรษฐกิจ "เอเชีย" หลายสำนักฟันธงวิกฤตโลกทุบ "จีดีพี" หดตัวระนาว

    http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=2330&catid=2

    <TABLE id=table110 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2></TD><TR><TD width=608>ไอเอ็มเอฟ-บลูมเบิร์ก สำรวจจีดีพีเศรษฐกิจประเทศในเอเชียปีหน้าร่วงระนาว ระบุญี่ปุ่นอาการโคม่าสุดถึงขั้นติดลบ แถมทรุดยาว ส่วนปท.อื่นโตระดับ1-4% ขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่างจีนยังโตได้ที่ระดับ8.5% อินเดียโต6.3% ส่วนไทยยังโตได้4%

    มาตรวัดทางเศรษฐกิจหลายตัวส่งสัญญาณชัดเจนว่า การขยายตัวของเขตเศรษฐกิจในเอเชียเริ่มลดความร้อนแรงลงแล้ว เนื่องจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลให้ความต้องการบริโภคสินค้าลดลง รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดต่ำลง และการจำกัดการปล่อยสินเชื่อของแบงก์
    ล่าสุดมีวี่แววว่ายักษ์เอเชีย "ญี่ปุ่น" อาจจะต้องเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้นในปีหน้า และอาจลากยาวออกไปอีกหลังจากตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นลดลงอย่างฮวบฮาบในเดือนตุลาคม ขณะที่บรรดาผู้ผลิตออกมาส่งสัญญาณว่าตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มจะร่วงลงอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
    บลูมเบิร์กรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน โดยขยายตัวเพียง 1.1% ขณะที่บริษัทต่างๆ มีแผนจะลดการผลิตลงมากที่สุดในรอบ 35 ปี หลังจากปริมาณการส่งออกที่ลดลงเนื่องจากวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้น
    โดยบริษัทมีแผนจะลดการผลิตลงประมาณ 6.4% ในเดือนนี้ ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจภาพรวมด้านการผลิตมาตั้งแต่ปี 2516
    ส่วนภาคการส่งออกก็ลดลง 7.7% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการลดลงรวดเร็วที่สุดในรอบ 7 ปี ขณะที่การส่งออกไปยังภูมิภาค <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 align=right border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เอเชียซึ่งมีสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมดทั่วโลกก็ลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2545
    รอยเตอร์สอ้างความเห็นของ "โยชิคิโย ชิมามิเนะ" หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไดอิชิ ไลฟ์ รีเสิร์ช อินสติติวต์ ที่มองว่า ตัวเลขที่ออกมาเป็นการตอกย้ำว่าเงื่อนไขทางธุรกิจนั้นหนักหนาสาหัสมากขึ้น
    ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางญี่ปุ่นประเมินว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะโตเพียง 0.1% ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2552 และจะเพิ่มเป็น 0.6% ในปีถัดไป ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ประเมินว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะโตเพียง 0.1%
    สถานการณ์ของญี่ปุ่นสอดคล้องกับทิศทางของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพิ่งออกรายงานภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียซึ่งไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ลงเหลือ 6.0% ในปีนี้ จากเดือนตุลาคมที่ประเมินไว้ที่ 6.1% และหั่นจีดีพีในปี 2552 ลงเหลือ 4.9% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 5.6%
    โดยในส่วนของญี่ปุ่นไอเอ็มเอฟประเมินว่า ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 0.5% ส่วนปีหน้าจะอยู่ที่ -0.2%
    สำหรับ "จีน" ไอเอ็มเอฟประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะโต 9.7% ในปีนี้ และลดเหลือ 8.5% ในปีหน้า ขณะที่ธนาคารโลกเพิ่งออกรายงานประจำไตรมาสเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน โดยประเมินว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนจะโต 9.4% ลดลงจาก 11.9% ในปีก่อน ส่วนในปีหน้าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในระดับ 7.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ และลดลงจากการประเมินในครั้งก่อนที่อยู่ที่ 9.2%
    การปรับลดคาดการณ์อย่างฮวบฮาบเช่นนี้สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ย่ำแย่ลงอย่างมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ และภาคการส่งออกของจีน
    ไอเอ็มเอฟชี้ว่า เอเชียได้รับแรงสั่นสะเทือนจากวิกฤตเนื่องจากมีความสัมพันธ์ทางการค้าและการเงินใกล้ชิดกับภูมิภาคอื่นๆ ในโลก ดังนั้นความหวังที่ว่าเอเชียจะหนีพ้นจากวิกฤตจึงไม่อาจเป็นจริง
    ส่วน "อินเดีย" ก็กำลังเผชิญปัญหาหนักหนาไม่แพ้ไทย หลังจากกลุ่มก่อการร้ายก่อเหตุรุนแรงในเมืองมุมไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจของอินเดีย แต่กระนั้น "ปาลานิอัปปัน ชิดามบาราม" รัฐมนตรีคลังอินเดียไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ประเมินว่าเศรษฐกิจอินเดียในปีหน้าน่าจะอยู่ที่ 9% เทียบกับปีนี้ที่น่าจะโตราว 7% หลังเผชิญกับวิกฤตการเงินโลก
    ในส่วนของเศรษฐกิจไทย ซึ่งเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก คาดว่าจะชะลอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ทั้งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่ยกเลิกแผนท่องเที่ยวมาไทย จากผลของวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศ
    โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า การท่องเที่ยวมีสัดส่วนประมาณ 12% ของจีดีพี และสร้างงานให้กับคนไทยประมาณ 4 ล้านคน
    "เออเบน พาราคูลเลส" นักเศรษฐศาสตร์จากรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ในสิงคโปร์ คาดว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบรุนแรงพอสมควรจากเหตุการณ์ประท้วง อีกทั้งยังยากจะประเมินได้ว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายต่างๆ ได้ตามเป้าหมายหรือไม่ โดยเขาอาจปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของไทยในปีหน้าเหลือ 1.6% หากปัญหาการเมืองในประเทศยังยืดเยื้อ
    ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ว่า ไทยมีอัตราการเติบโตที่ระดับ 4.0% และคาดว่าตลอดทั้งปีจะขยายตัวประมาณ 4.5% จากเดิมที่ก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวประมาณ 5.2-5.7% ขณะที่ปีหน้าน่าจะโต 3-4%

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    เพื่อนโทรมาบอกเหมือนกันค่ะ น่ารักจังเลยเหมือนคนยิ้มตาเป็นประกายเลย
     
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    กล้องผมถ่ายได้ตามนี้ครับ หุ หุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  19. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    ภาพชนะการประกวด ธ.กสิกรไทย เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว

    [​IMG]

    หนึ่งภาพ แทนคำ ล้านคำพูด
    หนึ่งใบ ยายพูด พร่ำบอกหลาน
    หนึ่งเรียน ให้รู้ จึงอยู่นาน
    หนึ่งคน ถึงกาล ย่อมโรยลา
    .... อัฐนี้ ยาย อด เจ้าจึงอิ่ม
    ยามนี้ เจ้าอิ่ม จงเร่งหา
    เรียนนี้ ให้รู้ รอบปัญญา
    แต่นี้ ภายหน้า เป็นคนดี....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2008
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำมาฝากจาก "ครัวแสวง บางขุนเทียน-ทะเล"ครับ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=391 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=391>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เมนูพิเศษ "วันพ่อ" ทอดมันกุ้ง/ปูทะเลผัดผงกระหรี่/ปลาเก๋าสามรส/ปูทะเลหล่น/กุ้งนางทอดเกลือ/ส้มตำปูดอง/ปลากะพงเผาเกลือ/ปูม้านึ่ง/ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ผมกลับบ้านแล้วครับ หิวครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...