"งานศพ"...จะแต่งขาวหรือใส่ดำดี

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 13 พฤศจิกายน 2008.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>

    พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งกำหนดจัดงาน ๖ วัน ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ โดยมีงานพระราชพิธี ๖ พิธี คือ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ จัดงานพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ การเชิญพระโกศออกพระเมรุมาศ วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ การถวายพระเพลิงพระศพ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ การเก็บพระอัฐิ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ การพระราชกุศลพระอัฐิ และวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ การบรรจุพระราชสรีรางคาร

    เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยก่อนหน้านี้ที่ประชุม ครม.มีมติที่จะให้คณะรัฐมนตรีไว้ทุกข์แด่สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมกหลวง เป็นเวลา ๑๐๐ วัน ส่วนข้าราชการให้ไว้ทุกข์เป็นเวลา ๑๕ วัน และยังมีมติให้หน่วยงานราชการทั้งหมดเลื่อนหรือยกเลิกการจัดงานมหรสพหรืองานรื่นเริงต่างๆ ออกไปก่อน รวมทั้งในช่วงเวลา ๑๐๐ วัน หากไม่มีความจำเป็นใด ก็ไม่ควรให้มีการจัดงานมหรสพหรืองานรื่นเริงใดๆด้วย สำหรับประชาชนนั้น รัฐบาลก็ขอเชิญชวนให้ร่วมกันแสดงความอาลัยด้วยการใส่ชุดดำ พร้อมๆกับข้าราชการด้วย นอกจากนี้แล้วในช่วงพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพยังขอความร่วมมือแสดงความอาลัยด้วยการใส่ชุดดำอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม การใส่ชุดดำเพื่อแสดงความอาลัยต่อผู้ตายนั้น มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจคือ ในบันทึกของ หมอเอนเยนเบิร์ต แคมป์เฟอร์ ชาวตะวันตกชาติเยอรมัน มีอาชีพเป็นหมอประจำคณะทูตวิลันดา (เนเธอแลนด์) เดินทางจากปัตตาเวียในเกาะชวาไปญี่ปุ่นได้แวะเมืองไทยเพื่อถวายราชสาส์นด้วย ซึ่งตรงกับรัชกาลพระเพทราชา หรือพระนามเต็มว่า พระบาทสมเด็จพระมหาบุรุษวิสุทธิเดชอุดม ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ ๒๘ หมอแคมป์เฟอร์ได้เขียนไว้ในจดหมายเหตุของเขาว่า "การนุ่งขาวห่มขาว สีขาวนั้นเป็นสีสุภาพของชนชาวสยาม ใช้ในโอกาสไว้ทุกข์เเละคราวมีพิธีงานสำคัญ"


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    สำหรับการแต่งตัวเพื่อไปงานศพในสมัยรัตนโกสินทร์นั้น อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมไทย และผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้าและเครื่องแต่งกายไทย บอกว่า ในอดีตนั้นผู้ไปงานศพทั่วๆ ไป

    รวมทั้งการพระศพกษัตริย์และพระบรมศานุวงศ์ในราชวงศ์จักรีนั้น ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจักรีบรมนาถฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ถึงพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาวทั้งหมด การแต่งดำเริ่มมีปรากฏในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ ๘ พระองค์เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ ในวันที่ ๒๘-๒๙ มีนาคม ๒๔๙๓ ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง ผู้ไปร่วมงานการพระศพมีทั้งขาวและดำปนกัน

    อย่างไรก็ตามการแต่งชุดดำเพื่อไปร่วมงานศพนั้น ที่แต่งดำกันทั้งท้องสนามหลวง เกิดจากสมัยของ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "จอมพล ป." อดีตนายกรัฐมนตรีรัฐบาลจอมพล ป. ได้เปลี่ยนแปลงประเพณีและวัฒนธรรมหลายอย่าง เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และให้เกิดความทันสมัย เช่น ประกาศให้ข้าราชการเลิกนุ่งผ้าม่วง เลิกสวมเสื้อราชปะแตน และให้นุ่งกางเกงขายาวแทน ในช่วงนี้เองก็มีการเปลี่ยนแปลงจากการใส่ชุดขาวเพื่อไปงานศพก็เปลี่ยนเป็นชุดสีดำ ด้วยเหตุนี้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจากที่เคยเห็นชุดขาวเต็มท้องสนามหลวง ก็กลายเป็นชุดดำเต็มท้องสนามหลวงแทน

    โดยมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่สำคัญๆ คือ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (ย่าในหลวง) เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๔๙๘ ถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๔๙๙ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๒๗ ถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๒๘ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (แม่ในหลวง) สวรรคตวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๓๘ ถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๓๙

    "ใครไม่มีดำหรือไม่มีขาว หากประสงค์จะไปร่วมงานใส่สีอะไรก็ได้ ไปเพื่อแสดงความจงรักภักดี ไปเพื่อเป็นกำลังใจให้ในหลวง พร้อมที่จะร่าวมทุกข์ สุขกับพระเจ้าอยู่หัว เวลาในหลวงมีความทุกข์เราก็พร้อมที่จะทุกข์กับในหลวง งานพระพี่นางฯ เป็นครั้งเดียวที่เราจะได้แสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง จึงอยากให้ชาวไทยไปร่วมงานดังกล่าวเพื่อแสดงให้ในหลวงเห็นว่าเราก็ทุกข์ไม่น้อยไปกว่าท่าน ในหลวงทุกข์เพราะเสียพระพี่นางฯ ส่วนเราทุกข์เพราะเราได้เห็นในหลวงที่เสียพี่สาว" อาจารย์เผ่าทองกล่าวทิ้งท้าย



    http://www.komchadluek.net/2008/11/1...news_id=230580



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    อานิสงส์การเผาศพ

    พระพุทธพจน์ที่ตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ใดเผาสรีรร่างกายของคนอนาถาที่มีแต่ร่างกระดูก ผู้นั้นจะบริบูรณ์ไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ศฤงคาร บริวารมากถึง ๙ พัน ถ้าซากศพนั้นยังมีเลือดเนื้ออยู่ จะอำนวยผลให้เป็นผู้มียศศักดิ์บริวารหนึ่งหมื่นถ้าเผาสรีรร่างกายของคนแก่เฒ่าชรา จะนำมาซึ่งธนสารยศศักดิ์บริวารแวดล้อม ถึง ๔ หมื่น ถ้าเผาซากศพญาติมิตรสหาย บุตรและทารก จะอำนวยผลให้ผู้นั้นสมบูรณ์ด้วยยศศักดิ์ สมบัติบริวารประมาณ ๘ หมื่น (๘๐,๐๐๐)
    ถ้าบุคคลผู้ใดมีใจศรัทธามาทำฌาปนกิจเผาศพ บิดามารดา จะได้เสวยผลานิสงส์ อันเป็นทิพย์ยศศักดิ์สมบัติบริวารประมาณแสนหนึ่ง (๑๐๐,๐๐๐) ถ้าผู้ใดได้เผาสรีรร่างกายของภิกษุสงฆ์ จะได้รับผลานิสงส์ยศศักดิ์สมบัติบริวารประมาณ ๒ แสน ถ้าเผาซากศพนกที่ตกอยู่ในปฐพี ด้วยใจยินดีเลื่อมใสศรัทธา ครั้นมาทำลายเบญจขันธ์ลงตรงไปเกิดบนสวรรค์มีวิมานเป็นที่อยู่ การทำฌาปนกิจในสรีรสัตว์เดียรัจฉาน ยังได้เสวยทิพยสมบิตบนวิมานถึงเพียงนี่ แล

    คนโบราณเขาบอกว่ามีอานิสงส์ ๔ ประการ คือ

    ๑.ได้บำเพ็ญญาติธรรมหรือมิตรธรรม คือแสดงน้ำใจของญาติของมิตรต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หรือต่อบุตรภรรยาสามีของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

    ๒.ได้เจริญสังเวคธรรม คือธรรมที่ให้เกิดความสลดสังเวชว่า แม้เราเองก็ต้องเป็นอย่างนี้ คือต้องตายเป็นธรรมดาอย่างนี้ ไม่มีใครหลีกหนีความตายไปได้พ้น

    ๓.เป็นการเจริญอนิจจสัญญา คือเห็นความจริงของสังขารรูปนาม อันประกอบไปด้วยกายและใจนี้ว่าไม่เที่ยง เกิดแล้วก็ต้องดับ และ

    ๔.สำหรับในสถานที่ที่เผาศพกันกลางแจ้ง ก็อาจเจริญอสุภสัญญา คือความเห็นว่าร่างกายนี้ไม่งามได้ด้วย อย่างในประเทศอินเดียเขาเผาศพกันกลางแจ้ง ริมฝั่งแม่น้ำที่เขาเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ มีแม่น้ำคงคาและยมุนา เป็นต้น

    เรื่อง "ไตรเทพ ไกรงู"

    http://www.komchadluek.net/2008/11/13/x_phra_j001_230580.php?news_id=230580
     
  3. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    แต่งดำครับ
     
  4. khunsittiporn

    khunsittiporn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +1
    แต่งดำเหมือนกันครับ
     
  5. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    แต่งดำค่ะ เพราะอย่างที่บอก อยากแสดงให้พระองค์ท่านเห็นว่าเราก็ทุกข์ไปไม่น้อยกว่าพระองค์ท่าน

    ส่วนเหตุผลอีกอย่าง เนื่องจากปัจจุบันนี้เสื้อผ้าดำหาซื้อได้ง่าย และโดยพฤติกรรมส่วนตัวของตัวเองในการไปงาน ถ้าเป็นงานศพจะแต่งดำำ ไปปฎิบัติธรรมจะแต่งขาว ไปงานบุญก็จะแต่งด้วยเสื้อผ้าีที่สุภาพและสีไม่ฉูดฉาด ก็ไม่ทราบว่าจะถือว่าเข้ายุคสมัยนิยมในปัจจุบันหรือเปล่า แต่ก็ปฎิบัติเช่นนี้มาตลอด พูดง่ายๆ ว่าดูตามงาน ตามความเหมาะสม และให้เกียรติสถานที่ในแต่ละที่ๆ จะไปร่วมงานด้วยค่ะ โดยเฉพาะงานพระราชพิธีฯ ที่จะถึงนี่ในความคิดเห็นส่วนตัวแต่งดำถือว่าเหมาะสม สุภาพ ถูกกาละเทศะและถูกกาลสมัยที่สุดค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  6. kacher

    kacher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +235
    ถ้าอายุน้อยกว่าผู้ตายต้องแต่งชุดขาวใช่มั่ยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  7. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932

    แล้วตอนนี้ บี๋ไม่ใช่หญิงหรือคะ คริ คริ คริ
     
  8. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    1. ถ้าผู้ตาย มีอาวุโสมากกว่าเรา ทั้งในด้านฐานานุศักดิ์ และคุณวุฒิ จะต้องนุ่งขาว ห่มขาว ไปงานศพ เช่น การพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ เจ้านาย และประชาชนทั้งหมด ต้องนุ่งขาว เสื้อขาว ผ้าทรงสะพักสีขาว ทั้งสิ้น
    2. ถ้าผู้ตาย อ่อนอาวุโสกว่าเราทั้งในด้านฐานานุศักดิ์ และคุณวุฒิ จะต้องนุ่งดำ ห่มดำ ไปงานศพ
    3. ถ้าเราไม่สนิท กับผู้ตาย ก็จะใส่สีน้ำเงินแก่ หรือสีม่วง เพื่อไปงานศพครับ

    ประเพณีเช่นนี้ เจ้านายที่พระยศต่ำกว่า และประชาชน ก็ใส่สีขาวเป็นการไว้ทุกข์ถวาย ซึ่งยกเว้น เฉพาะกษัตริย์เท่านั้น เพราะถือว่า เป็นพระประมุขสูงสุด <!--MsgFile=2-->


    โดยส่วนตัวจะทำตามธรรมเนียมโบราณครับ เพราะคิดว่า เป็นสิ่งดีที่น่าจะอนุรักษ์ไว้ ดีกว่าไปเห่อตามฝรั่ง คิดว่าคงไม่ไปงาน เพราะถ้าใส่ขาวเดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่ให้เกียรติ และ ไม่สุภาพครับ
    อยู่บ้านดีกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  9. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเทอญ
    เพราะทุกข์ที่ได้เห็นในหลวง ที่ทรงเป็นที่รักของพวกเรา
    ทรงเสียพระทัยที่สูญเสียพี่สาวที่ประเสริฐเช่นนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  10. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    เท่าที่ทราบมามีธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่เดิมว่า

    หากผู้ที่ถึงแก่กรรมเป็นผู้ที่มีอาวุโสมากกว่า

    ผู้ไปร่วมงานศพควรแต่งกายด้วยชุดขาว

    หากผู้ที่ถึงแก่กรรมเป็นผู้ที่มีอาวุโสน้อยกว่า

    ผู้ไปร่วมงานศพควรแต่งกายด้วยชุดดำ

    แต่ปัจจุบันกาลสมัยเปลี่ยนไปธรรมเนียมปฏิบัติก็เปลี่ยนไป

    ดังเช่นที่อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ได้เล่าความเป็นมาของการแต่งกายไว้ทุกข์เอาไว้ข้างต้น

    ในสมัยปัจจุบันการไปร่วมงานศพจึงนิยมแต่งกายด้วยชุดดำกันเป็นส่วนมาก

    ดังนั้น ใครจะแต่งกายไว้ทุกข์ด้วยชุดขาว เสื้อขาวกางเกงดำ หรือชุดดำ

    ก็เลือกเอาตามอัธยาศัยและความสะดวก ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

    ความสำคัญคือ เราต้องการแต่งกายไว้ทุกข์ให้แก่ผู้ถึงแก่กรรม

    และเพื่อเป็นการระลึกนึกถึงผู้ถึงแก่กรรมและไว้อาลัยแด่ท่านผู้จากไป



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  11. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222

    พระเมรุมาศ แปลว่า เมรุสีทอง ซึ่งจะใช้กับ ระดับพระมหากษัตริย์เท่านั้นนะครับ หรือ พระบรมวงศ์ที่ทรงศักดิ์ชั้นสูง อย่าง สมเด็จพระชนก(บิดาพระเจ้าแผ่นดิน) และ สมเด็จพระชนนี(มารดาพระเจ้าแผ่นดิน)

    หรือ พระบรมวงศ์ระดับ สมเด็จเจ้าฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2 พระองค์คือ องค์รัชทายาททั้งสองพระองค์นั่นเอง


    ถ้าดูตามคำศัพท์ที่ใช้ งานนี้ เขาจะเรียกว่า ออกพระเมรุ เฉย ๆ เท่านั้น ไม่มี มาศ ต่อท้ายครับ


    ควรจะต้องใช้ศัพท์ให้ถูกต้องด้วยครับ ถ้าคิดจะทำตามอย่างโบราณราชประเพณีนะครับ
     
  12. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222

    ผมเข้าใจดีครับ แต่ถึงเวลาจริง ๆ คนอื่น ๆ มักไม่เข้าใจตามเราสิครับ
    เดี๋ยวเขาจะหาว่า เราไม่ให้เกียรติ และ ไม่สุภาพ อย่างที่บอกไปครับ

    อีกอย่าง ผมมีอคติ ส่วนตัว กับ จอมพล ป. ครับ รู้สึกว่าสิ่งที่ นายคนนี้ทำไว้ มันทำให้ประเพณีดี ๆ ของไทยแต่ก่อนสูญหายไปเยอะ ครับ
    เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่สนับสนุนอะไรทุกอย่าง ที่นายคนนี้ริเริ่มไว้ครับ

    โดยส่วนตัวถือว่า ธรรมเนียมไหนดี ก็รักษาไว้ อะไรไม่ดี ก็ไม่ทำครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  13. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,752
    ค่าพลัง:
    +2,808
    ส่งนางฟ้า แต่ง ขาวดีกว่าครับ
     
  14. Padmapani_AM

    Padmapani_AM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +158
    ผมจะอธิฐานจิตครับ
     
  15. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เอาระยะเวลาอันสั้นเท่านี้เราเข้าใจคงเป็นพอขอรับ
    ผมเองก็เชิญชวนมาแต่งชุดขาวแต่....เมื่อพร้อมกันจงรักภัคดีกระผมว่าสีคือรูปที่เขาสมมุติขึ้นเท่านั้น......ใจสำคัญกว่าขอรับ

    หากเรามีจิตที่บริสุทธิ์แล้วสีตามกาลและการณ์ดีไหมขอรับเพราะจะแตกต่างทางความคิด.....แต่ก็เป็นการดีเลยขอรับที่เราเข้าใจประเพณีโบราณที่สืบทอดกันมาแม้จำนวนคนไม่มากเท่าปัจจุบันก็ตาม

    สรุปไม่แบ่งนะขอรับเอาจิตใจเราขาวสะอาดเป็นพอนะขอรับทุกท่านคงแสดงความจงรักภัคดีเป็นล้นพ้น

    กราบขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้และบรรดาเหล่ามิตรรักสหายธรรมทุกท่านที่มีความรู้ดีๆมาเสวนากัน........กราบขอบพระคุณยิ่งๆแล้วขอรับ......กระผมก็ขอแสดงความคิดเห็นด้วยขอรับอาจจะถูกหรือผิดก็ต้องพิจารณาด้วยความไม่ประมาทเพราะกระผมเองก็เป็นห่วงว่าจะกระทบทั้งสองด้านขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008
  16. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ในข้อความแรกของคุณเด็กเมื่อวานซืนถูกครับครับ เกี่ยวกับการแต่งชุด โดยเริ่มนับจากฐานะมาก่อนคือบรรดาศักดิ์ และตามมาด้วยอาวุโส
    ดังนั้นตามลำดับขั้น ผู้ที่จะมีสิทธ์ในการแต่งดำได้ตามราชประเพณี คือ
    พระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท แค่นั้นกระมังครับ
    นอกนั้นควรแต่งชุดขาว
    ถูกหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจครับ
    เพราะเรื่องนี้พระอาจารย์เล็ก ก็เคยติงมาครับ ว่าปัจจุบันคนไม่ค่อยรู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีสักเท่าไหร่ครับ
     
  17. อิติปิโส_ภควา

    อิติปิโส_ภควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +242
    อนุโมทนาค่ะ ยอมรับตามตรง ไม่ค่อยเข้าใจโบราณราชประเพณีมากนักค่ะ

    จะแต่งขาวหรือแต่งดำ ก็ขอให้ไปเคารพศพด้วยความตั้งใจจริง เป็นครั้งสุดท้าย..

    คิดว่าแต่งขาวหรือแต่งดำ ก็เป็นแค่สิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาเองค่ะ

    ทุกอย่างล้วนลวงตา.. ใช้วิจารณญาณเอานะคะ
     
  18. ซึมดีจัง

    ซึมดีจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +67
    ใส่เสื้อขาว กางเกงดำครับ
     
  19. sunan

    sunan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +35
    ความสำคัญคือ เราต้องการแต่งกายไว้ทุกข์ให้แก่ผู้ถึงแก่กรรม จะดำหรือขาวไม่สำคัญที่สำคัญก็คืออยู่ที่ใจ ความตั้งใจและจิตใจนั้นเอง เพราะคนเรามีทั้งคนรวยและคนจนส่วนมากแล้วเราจะเห็นมีหนี้สินกันทั้งนั้น(ไม่มีเงินซื้อ)เสื้อผ้าเก่าๆก็ใส่มาได้นะครับ
     
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,951
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ถ้าผู้ตาย อายุ ยศ ศักดิ์ ด้อยกว่าเรา ก็แต่งดำ
    ถ้าผูตาย อายุ ยศ ศักดิ์ เหนือกว่าเรา ก็แต่งขาว

    ซึ่งเป็นธรรมเนียมแต่โบราณมา...
    ขณะนี้ผู้คนลืมเลือน ถือเอาแต่ตามสะดวก ก็ไม่เป็นไร

    ขออย่าให้ลืม มรณานุสติ .... อย่าประมาทในตัวตน เรา เขา ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...