พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ขอสัมภาษณ์หน่อย สงสัยจะมาพบกับสายอภิญญา วิชชา ๓ แล้ว....

-ในก๊วนนี้มีกี่ท่าน...
-สงสัยสถานที่นัดรวมพลกันคือที่วัดพลับ...
-ส่วนใหญ่ทำงานประจำ หรือวัยรุ่นนักเรียน...
-นัดกันเดือนละครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้ง หรือแล้วแต่สัญญา....
-กองทุน"สายธารธรรม"ในการสร้างกุศลประเภทต่างๆมาจากไหน...
-ปฏิบัติกรรมฐานในสายไหน(หมายถึงหลวงปู่องค์ไหน ห้ามตอบพระพุทธเจ้า)....
-ส่วนใหญ่ที่มี trip เดินทางนี่ มักจะเป็นสถานที่เกี่ยววัด และวังเป็นแน่แท้ และน่าจะมีผู้จดบันทึกการเดินทาง...

 

อ่านเจออันนี้แล้วคิดถึงน้อง shinray เลยค่ะ

9 วิธี ทำดี ได้บุญโดยไม่ต้องใช้เงิน​

คนไทยเรานั้น ได้ชื่อว่าเป็นพวกที่ชอบทำบุญสุนทานอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความเชื่อที่ว่า 'ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว' ซึ่งแม้ปัจจุบัน หลายคนจะรู้สึกกังขาว่า ทำไม คนที่เรารู้สึกว่าชั่ว ยังคงได้ดิบได้ดี เช่น ยังมีเงินทองและใช้ชีวิตที่สุขสบายกว่าเรา แต่นั่นก็ยังอธิบายได้ว่า เขาทำกรรมเก่าดี หรือยังกินบุญเก่าอยู่ ซึ่งที่เราเห็นด้วยตาว่าเขาสุขสบายก็อาจไม่จริง บางทีเขาอาจกำลังทุกข์ใจ เพราะต้องคอยระแวง ปกปิดความผิดของตน กลัวคนไปล่วงรู้อยู่ก็ได้ อย่างไรก็ดี โดยพื้นฐานแล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักจะชอบทำบุญ เพราะเชื่อว่าเป็นการทำความดี และเป็นการสะสมผลบุญ ที่จะสนองให้เราได้รับสิ่งที่ดีในอนาคต หรือในชาติหน้า ซึ่งโดยแท้จริงการทำบุญนั้น ทันทีที่ทำก็เป็นความสุขแล้ว

เพราะ บุญ คือ
การทำความดีด้วยวิธีการต่างๆ ที่ทำให้อิ่มเอิบเบิกบานใจ
โดยทั่วไป คนมักทำบุญกุศลด้วยการบริจาคทรัพย์ สิ่งของ หรือให้ทานเป็นโอกาสๆ เช่นบริจาคช่วยผู้ประสบภัยธรรมชาติ ร่วมสร้างศาสนสถาน ทอดกฐินผ้าป่า ช่วยเด็กกำพร้า หรือช่วยซื้อโลงศพ เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เชื่อไหมว่า ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น เรามีโอกาสทำความดี หรือทำบุญได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้เงินทองหรือสิ่งของถึงแม้เราจะไม่ได้มีอาชีพเป็นแพทย์ พยาบาลที่ต้องช่วยเหลือคนเป็นประจำอยู่แล้วก็ตาม จะทำได้อย่างไรนั้น กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวง

​

วัฒนธรรม ขอเสนอแนะ 9 วิธีทำดี ได้บุญ


แบบไม่ต้องใช้เงิน เพื่อเป็นแนวทางให้ท่านได้

​

​

สะสมกุศลให้เพิ่มพูนขึ้น ดังต่อไปนี้​

<TABLE style="WIDTH: 437.4pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" class=EC_MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=583><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>1.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>ตื่นเช้าขึ้นมาก็คิดแต่สิ่งดีๆทันทีที่ตื่นนอน หากเราคิดถึงแต่สิ่งที่ดีที่งาม ก็จะทำให้จิตใจเราสดชื่น กระตือรือร้น พร้อมที่จะรับมือ กับชีวิตประจำวันด้วยความรื่นเริง ไม่หงุดหงิด โมโห แค่นี้ นอกจากเราจะมีความสุขแล้ว คนรอบข้างเราก็มีความสุขไปด้วย ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง
</TD></TR><TR style="HEIGHT: 129.95pt" height=173><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; HEIGHT: 129.95pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" height=173 vAlign=top width=31>2.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; HEIGHT: 129.95pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" height=173 vAlign=top width=552>ยิ้มแย้มแจ่มใส ในแต่ละวัน หากเราจะรู้จักยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ว่าจะยิ้มกับคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม หน้าตาของเราก็จะดูเป็นมิตร ทำให้คนอยากเข้าใกล้ ถ้าเราเป็นพ่อแม่ ยิ้มกับลูกก่อนไปทำงาน ลูกก็ดีใจ ลูกยิ้มกับพ่อแม่ๆ ก็สบายใจว่าต่างคนต่างไม่มีเรื่องเดือนร้อนใจแน่ หรือหากมีก็กล้าจะมาปรึกษาหารือ หรือหากเป็นเจ้านาย ยิ้มกับลูกน้องๆก็รู้ว่าวันนี้นายอารมณ์ดี ทำให้ทำงานด้วยความมั่นใจ ไม่ต้องระแวงว่าจะถูกเรียกไปต่อว่าและถ้าเรียกก็ดูน่าจะมีเมตตา กว่าเวลาที่นายทำหน้ายักษ์
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>3.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>ทักทาย โอปราศรัย คนบางคน นอกจากจะไม่ยิ้มกับใครแล้ว ยังชอบทำหน้าบึ้งตึง ไม่คิดจะพูดจาทักทายใครด้วย ซึ่งถ้าเกิดทำงานด้านบริการ คนมาติดต่อคงรู้สึกเกร็ง และกังวลตลอดว่าจะถูกเอ็ดตะโรเมื่อไรก็ไม่รู้ ดังนั้น นอกจากยิ้มแย้มแจ่มใสแล้ว เราก็ควรจะเอื้อนเอ่ยวาจาทักทายผู้มารับบริการก่อน การทักทายปราศรัยกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นผู้มาขอรับบริการเพื่อนฝูงคนรู้จัก ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา หรือแม้แต่คนที่มาทำงานให้เรา เช่น แม่บ้าน ยามฯลฯ จะทำให้เขารู้สึกเป็นมิตร และอบอุ่นใจ ทำให้บรรยากาศในที่นั้นๆ ดีขึ้น
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>4.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>แบ่งปันน้ำใจไมตรี สามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา เช่น ช่วยพ่อแม่จัดโต๊ะอาหาร ล้างถ้วยชาม ลุกให้เด็ก ผู้หญิงท้อง หรือคนแก่นั่ง ช่วยถือของหนักให้คนในรถเมล์ หยุดรถให้คนข้ามถนน หรือรถอื่นไปก่อน ช่วยแบ่งเบาภาระงาน ให้เพื่อนในที่ทำงาน เป็นต้น การให้ความช่วยเหลือเช่นนี้ เป็นการทำบุญด้วยการลดความเห็นแก่ตัวของเราลงและทำให้เราได้รับมิตรไมตรีสนองตอบกลับมาด้วย
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>5.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>ปลุกปลอบให้กำลังใจช่วยแก้ไขปัญหา หลายๆครั้งที่เพื่อนฝูงญาติมิตรอาจประสบปัญหาชีวิต และเกิดความทุกข์ใจแสนสาหัส สิ่งที่ดีที่สุดคือ ความเป็นมิตรและถ้อยคำที่ปลุกปลอบให้กำลังใจ คำพูดดีๆ ที่มาจากใจ จะทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ รู้สึกดีขึ้นและมีพลังที่ต่อสู้ชีวิตต่อไปได้
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>6.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>ให้คำชมด้วยความนิยมยินดีการกล่าวคำชื่นชมต่อผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ย่อมจะทำให้ผู้รับคำชมรู้สึกปลาบปลื้มยินดี และมีความสุขได้ โดยเฉพาะในเรื่องที่เขาทำสำเร็จ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และจริงใจด้วย ดูอย่างตัวเราเองแค่วันไหน แต่งตัวสวย แล้วมีคนชม เราก็หน้าบานไปทั้งวันแล้ว เช่นเดียวกันคนทุกคนล้วนอยากได้การยอมรับและคำชมทั้งนั้น เพราะคำชมจะเป็นการเสริมเพิ่มกำลังใจให้อยากทำดียิ่งๆ ขึ้นไป

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>7.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>แนะนำให้คำสอนที่ดี มีคุณค่าไม่ว่าจะเราจะอยู่ในสถานภาพใด เช่น เป็นลูก เป็นพ่อแม่ลูกน้อง เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมอาชีพ ฯลฯ หากเราจะมีเมตตา แนะนำในสิ่งที่ดี มีประโยชน์และคุณค่าต่อผู้อื่น หรือสอนในสิ่งที่เราชำนาญให้แก่ผู้อื่น ก็จะเป็นการช่วยเกื้อกูลสังคมให้ดียิ่งขึ้น และผลก็จะย้อนมาสู่ตัวเราผู้ทำด้วย เช่น สอนงานให้ลูกน้องต่อไป เมื่อเขาทำงานเป็น เราก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก และเขาก็จะรู้สึกขอบคุณเรา แนะวิธีออกกำลังกายให้พ่อแม่ ท่านก็แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย เราก็สบายใจ หรือแม้แต่การแนะนำให้ความรู้ที่เรามี หรือทราบมาแก่คนไม่รู้จัก อย่างแนะนำหมอ ยาดีๆ หรือธรรมะที่ดีแก่คนอื่น ทำให้เขาหายป่วยหรือรู้สึกดีขึ้น เขาก็จะอธิษฐานหรือให้พรเราทำให้เราพบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>8.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>การให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น โดยทั่วไปคนเรามักจะให้อภัยตัวเองง่าย และมีข้อแก้ตัวให้ตนต่างๆ นานา แต่ถ้าผู้อื่นผิดพลาดแล้ว เรามักเห็นเป็นเรื่องใหญ่ และตำหนิติเตียนไม่รู้จักแล้วจบ ดังนั้น เราจะต้องหัดมีเมตตา รู้จักให้อภัยต่อผู้อื่นให้ง่าย เหมือนให้อภัยแก่ตัวเราเอง เพราะการให้อภัย จะทำให้เราไม่ผูกใจเจ็บ ไม่อาฆาตมาดร้ายไม่ก่อศัตรู แต่ทำให้จิตใจเราสงบเย็น เป็นฝึกจิตพื้นฐานอย่างหนึ่ง ที่จะนำไปสู่กุศลขั้นสูงอื่นๆ ต่อไป

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 23.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=31>9.

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 414pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=552>ฝึกจิตให้สงบและสบาย ด้วยการทำสมาธิหรือสวดมนต์ การทำสมาธิ ฟังดูเหมือนยาก แต่จริงๆ เราทำได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือทำอะไรอยู่ เช่น กินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน ทำงานบ้าน อ่านหนังสือ อยู่ที่ทำงาน หัวใจหลักคือให้เอาใจไปจดจ่อ ในสิ่งที่ทำเพียงอย่างเดียว จะทำให้เราทำทุกอย่างได้ดีขึ้น เพราะไม่พะวักพะวนคิดหรือทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันอันทำให้ขาดสติ </TD></TR></TBODY></TABLE>
และทุกๆ คืนก่อนนอน ก็ควรสวดมนต์ไหว้พระที่เรานับถือ โดยอาจเลือกบทสวดสั้นๆ ที่เราชอบ เสร็จแล้วก็อย่าลืมแผ่เมตตาให้กับตัวเราเอง และผู้อื่นตามสมควร

ที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าเป็นการทำความดีที่ไม่ต้องใช้เงินเลย แต่สามารถปฏิบัติใน
ชีวิตประจำวันของเราได้ โดยไม่ยากเย็นเข็ญใจจนเกินไป

อีกทั้งปฏิบัติแล้วก็เป็นบุญกุศลที่จะเกื้อหนุนให้เรา และคนรอบตัวมีความสุข เพราะ'บุญ' ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เครื่องชำระกาย ใจให้บริสุทธิ์ เป็นการทำประโยชน์ให้แก่ตัวเราเอง และผู้อื่นและยังช่วยลดกิเลส ความเศร้าหมองต่างๆ ได้

เริ่มทำแต่วันนี้เลยนะคะ


เพราะมีคนบอกว่า


'ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง'​

 

ขอPM นะคะ

 

เป็นโพสสั้นๆที่สรุปความรู้ที่ผมศึกษาจากที่อื่นๆมาหลายวัน เหลือแค่โพสเดียวเอง เยี่ยมจริงๆ

 

เดี๋ยวผมโทรไปคุยด้วยนะครับ เรื่องยาผมถนัด แหะๆ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 20 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 12 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, ake7440+, chantasakuldecha, kwok+, poh, pranurat, พรสว่าง_2008+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดีตอนบ่ายทุกๆท่านครับ

 

เมื่อสักครู่ได้รับ PM มาถามว่าได้รับพัสดุหรือยัง พอเข้าไปที่ชื่อพี่ katicat เห็นคุณโพสไว้ว่าสงสัยบางอย่างเป็นพระธาตุ ผมก็ตกใจ รีบไปเช็คว่าพัสดุมาหรือยังเพราะกลัวเดี๋ยวมีคนไม่รู้แล้วจะพลาด
ปรากฏว่า ผบทบ.ผมรับให้แทนแล้วครับ พอดีเธอเข้าประชุมเลยวางอยู่ในห้องประชุมครับ ขอบพระคุณพี่ katicat มากครับ เปิดดูแล้ว ประทับใจมากครับ หนังสือทำได้ดีมากจนไม่คิดว่าพิมพ์แจกกันเองเป็นธรรมทานครับ ไว้พิมพ์ครั้งหน้า เปิดโอกาสให้คนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผมได้ร่วมทำบุญด้วยนะครับ สำหรับหนังสือเดี๋ยวผมจะทยอยอ่านจนจบครับ หนามากทีเดียวครับ

 

ส่วนเรื่องที่พี่ katicat ถามว่าหายไปไหน คือเมื่อวานนี้ผมจำศีลครับ แหะๆ ก็ว่าไปจริงๆแล้วก็คือเมื่อวานนี้ไม่ได้อยู่เวรครับ และพอดีตรงกับวันพระ
ผมกับแฟนก็เลยตั้งใจกันไว้อยู่แล้ว จึงได้นำ พระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามสมณโคดม สัณฐานส่วนพระเสโทธาตุ ไปถวายหลวงพ่อสวงน่ะครับ
ซึ่งท่านก็ตั้งใจจะนำไว้บรรจุส่วนวิหารที่ผมประกาศให้ร่วมบุญกันอยู่ด้วยครับ ผมเองได้มีโอกาสบูชาพระสารีริกธาตุ แต่เนื่องจากเห็นว่าปริมาณนั้นมากจนผมคิดว่าน่าที่จะอัญเชิญท่านให้อยู่ในที่เหมาะสม และ ให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสกราบไหว้สิ่งอันเป็นมงคลสูงสุดนี้กันอย่างทั่วถึงครับ
องค์แรกนั้น ผมบรรจุไว้ที่เศียรพระพุทธรูปยืน ที่หล่อขึ้นใหม่ ปัจจุบันมีคนส่งข่าวมาบอกว่าพระพุทธรูปได้หล่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสไปกราบเลยครับ
ส่วนองค์ที่ถวายหลวงพ่อเมื่อวานนี้ก็ตั้งใจจะสร้างวิหารเพื่อให้คนได้กราบสักการะบูชากันครับ
เมื่อวานนี้ หลังจากถวายพระบรมสารีริกธาตุเสร็จ เห็นว่าเป็นโอกาสอันดี ก็เลยตัดใจไม่เข้าเน็ต จะได้นั่งสมาธิสวดมนต์เต็มๆ ไม่มีอย่างอื่นรบกวนครับ พอเช้านี้มาตามอ่านกระทู้ปรากฏว่าเนื้อหาค่อนข้างหนัก มีรายละเอียดมาก ผมจึงอ่านช้า ประกอบกับคนไข้มาก
เพราะวันนี้เป็นคลีนิกเบาหวาน ก็เลยอ่านช้าไปกันใหญ่ กว่าจะได้โพส ก็ตอนนี้แหละครับ เพราะเพิ่งอ่านตามจนทัน

 

ของน้องหมอยังไม่ได้ส่งถุงปริศนาให้อ่ะค่ะ พอดีให้คุณเพขรเธอรับรองก่อน เดี๋ยวจะส่งไปให้พร้อมหนังสืออีกเล่ม advanceกว่าเล่มนี้ เวลาเราพิมพ์จะไม่เหมือนคนอื่นเพราะเราไม่เคยลงเลยนะคะว่าใครออกกี่บาท 1บาทหรือ1แสนบาทก็มีค่าเท่ากันอยู่ที่การตั้งจิต มีน้อยทำน้อยค่ะ

พระอาจารย์บอกว่าขบวนการแจกหนังสือธรรมะนี้ดีมากได้บุญทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มตรวจปรู๊ฟ โรงพิมพ์ คนขนส่ง ผู้ร่วมพิมพ์ ผู้อ่าน ผู้แจก ใครไม่พิมพ์ก็ไปช่วยแจก ได้อานิสงส์เหมือนกันค่ะ คนร่วม10บาทได้แจกจ่ายไปคราวนี้ 7หมื่นเล่มเลยค่ะ หนังสือ1เล่มเสมือนวิหารทาน1หลังนะคะ เพราะการที่เราแจกจ่ายธรรมทานสามารถเปลี่ยนใจคนให้เป็นคนดีได้ แค่มีคนดี1คนในทุกครอบครัวโดยเฉพาะถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัว คิดดูซีคะว่าสังคมจะเป็นสุขขนาดไหน
และที่สำคัญเมื่อเราให้ธรรมะเป็นทานจะทำให้"ปัญญา"ได้มาง่ายและเฉียบแหลมนะคะ ให้อะไรได้อย่างนั้นค่ะ

 

ขออนุญาตกรวดน้ำครับ

ขออารธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทพ เทพยดา อาจารย์ทั้งหลายๆสืบๆกันมา โดยมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเป็นที่สุด
ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลจากการถวายพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามสมณโคดม สัณฐานส่วนพระเสโทธาตุ แด่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทพ เทพดา อาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมาโดยมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเป็นที่สุด พระยายมราช ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เทพเทวาทั่วสากลพิภพ ขอพระยายมราช และท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 จงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
ขออุทิศส่วนกุศลนี้แด่บูรพกษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา จวบจนถึงบูรพกษัตราธิราชในราชวงศ์จักรีอันมีสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกรัชกาลที่ 1 จนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกๆพระองค์ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนารทวังหน้าองค์ที่ 1 ในราชวงศ์จักรี จนถึงกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ วังหน้าองค์ที่ 5 ในราชวงศ์จักรี
ขออุทิศส่วนกุศลนี้แด่เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาพระวังหน้า พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ทุกๆองค์ ทุกๆพิมพ์ที่ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ครอบครอง พระอริยสงฆ์ที่ได้เสกพระพิมพ์ทุกๆองค์ เจ้าของสถานที่ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ววังหน้า และวัดพระแก้ววังหลวงที่ใช้เป็นสถานที่ในการปลุกเสกองค์พระ ช่างสิบหมู่ทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในการสร้างพระวังหน้า และสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า
ขออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินมาแต่ชาติก่อนก้ดี ชาตินี้ก็ดี จะด้วยเจตนาก็ดี หรือไม่เจตนาก็ดี ใช่ญาติ หรือไม่ใช่ญาติก็ดี ขอจงได้อโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน
ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า และคณะได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ หากยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าด้วยเทอญ

 

"ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า"

ประโยคนี้ ปัจจุบันมีผู้นำไปใช้ในการอธิษฐานมากพอสมควร รู้หรือไม่ว่า เกิดจากสาเหตุไหน เพราะอะไร

ใครตอบได้บ้างครับ

 

มีเล่ม advance ด้วยเหรอครับ ฟังแล้วตกใจ เลือดหนอนหนังสือมันเดือดครับ ขอบพระคุณล่วงหน้า แหะๆ แต่แค่ที่ได้มานี่ก็อ่านหน้ามืดแล้วครับ หนาจริงๆทั้ง 2 เล่มเลยครับ ขอบพระคุณจริงๆครับ

 

55555รถปอเต็กตี้งขนศพ ม่ายติดไฟแดงครับ หุ หุ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 26 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, ake7440+, nongnooo+, Shinray01, ชวภณ ศ.+, ตั้มศรีวิชัย </TD></TR></TBODY></TABLE>

ไม่มีใครยอมตอบเลยเหรอครับ

 

อืม...ถ้าเป็นรายเล็กแต่คิดเข้าออกแบบรายใหญ่ ก็น่าจะพอประทังชีวิตได้ ไม่โดนไฟเผารึเปล่านะนี่ เรียนรู้จากพี่ๆก่อนครับ ลงสนามจะได้ไม่เน่ามาก

 

วันที่ 4
1.สวดมนต์ไหว้พระ
2.ภาวนาทำสมาธิ
3.รักษาศีลสมาทานศีล
4.เสียสละที่นั่งให้สตรีแล้วคนชราเวลานั่งรถ
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น
7.นำสาระความรู้ต่างๆมาเผยแพร่เพื่อนๆพี่ๆ
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด
10.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
11.เพียรที่จะสร้างความดี
12.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น
13.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
14.ได้ร่วมบุญอธิษฐานของที่ตักบาตรกับแม่ตอนเช้า

ข้อที่ 9-13 คือตอนเด็กสมัยก่อนผมเคยด่าพ่อด่าแม่ตอนนั้นยังรู้เท่าไม่ถึงการณื
จนมาบัด ผมรู้สึกถึงบาปของตนไปโดยไม่รู้ตัวเลยไปขอขมาพ่อแม่คือข้อ10 พ่อแม่ผมได้ยกโทษให้ผม ส่วนข้อ 11.คือผมจะพยายามที่จะไม่กระทำบาปแบบนั้นอีก ผมจะรักาความดีที่ทำได้ทำไว้คือข้อ 12. ส่วนข้อที่ 11. คือผมจะหมั่นสร้างความดีอื่นๆๆให้ยิ่งขึ้นไปครับ

ผมมานึกได้ว่าคนที่ไม่รู้พ่อแม่ทำอะไรย่อมไม่เจริญสักอย่างตรงกันข้ามกับคนที่รูเคณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทำให้ยิ่งเจริญยิ่งขึ้น ผมเห็นธรรมข้อนี้เพราะว่าได้อ่านแล้วศึกษามาแล้วนึกได้ผมได้ทำบุญพระสงฆ์มามากมายทั้งใก้ลและไกลเหตุใดผมจึงไม่รู้จักทำบุญที่อยู่ใก้ลตัวทุกวันทำเมื่อไหร่ก็ได้ทำได้ตลอดเวลาเหตุใดผมไม่ทำดั้นด้นไปทำที่อื่นทั้งที่ก็มีพ่อแม่ตัวเองอยู่ทำบุญกับพ่อแม่อย่างตำสุกก็ดาวดึงก์เหตุใดทำไมผมทำบุญกับพระสงฆ์ได้ทำไมผมจึงจะทำบุญกับพ่อแม่ที่ตัวใก้ลตัวไปได้เมื่อผมนึกได้เกิดละอายใจในบาปต่างๆที่ผมทำกับพ่อและแม่ตอนเด็กผมจึงได้ไปขอขมาท่านแล้วจะพยายามไม่ทำอีกจะรักษาความดีของผมให้มากที่สุด ผมมานึกว่าทำไมบางคนออกจากบ้านไปทำบุญที่วัดทุกวันทำไมพ่อแม่อยู่บ้านก็ได้บุญเหมือนกันทำไมไม่ทำทำบุญกับพ่อแม่เปรียบได้กับการทำบุญกับพระอรหันต์อีกทั้ง
ท่านเป็นอรหันต์ ผมมานึกก็รู้เสียใจที่ตอนเด็กๆเคยด่าพ่อแม่ แต่มันย้อนกลับมาไม่ได้ได้แต่ที่จะละมันออก ทำบุญกับก็แม่ก็ได้บุญเหมือนกัน

 

นำมาฝากทุกๆท่านครับ

 

ผมได้นำคำสอนจากหนังสือเรียนพระพุทธมาใช้นี้ผมได้เกรด 4 วิชา พระพุทธวิชาด้วยตอนเทอมที่ 1 ชั่งเป็นอะไรที่ดีใจมากส่วนมากเนื้อส่วนใหญ่อาจจะเคยผ่านตาผมมาพอสมควรเพราะมีมาให้อ่านในเว็บนิดหน่อยๆๆสะสมกันมามากพอดีมาเจอในบทเรียนด้วยพอนั้นเสร็จผมเลย

 

"ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า"

ประโยคนี้ หรือข้อความในลักษณะนี้ เกิดจากเราชาววังหน้าครับ
เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ที่บ้านท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ได้มีพิธีอาราธนาพระบารมี พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทธเถระเจ้า และพระอุปคุตเถระเจ้า ซึ่งก่อนที่จะอาราธนาพระบารมีนั้น ผมและคณะได้ปรึกษากับท่านอาจารย์ประถม ท่านแนะนำว่า ควรเชิญพระอนุรุทธเถระเจ้า เนื่องจากพระองค์ท่านเป็นเอคทัตตะด้านตาทิพย์ และความไม่มี ไม่เกิดกับท่าน เราจะได้ขอบารมีพระองค์ท่านในเรื่องนี้ด้วย จึงเป็นเหตุให้การอธิษฐานของชาววังหน้า จึงได้ใช้ประโยคนี้หรือข้อความในลักษณะนี้ต่อมา

.

 

55555 คุณน้องนู๋ พูดไปแล้วขำๆนะครับ ผมกลับเปิดไฟเขียวโลด...55555 แปลกแต่จริง เมื่อวานบ่ายต่อเนื่องวันนี้เช้า เห็นเขาทุบเก็บของก็ขำๆ เห็นสัญญาณการเก็งกำไรของwarrant แล้วพรุ่งนี้น่าจะไปต่อ เป้าหมายน่าจะไปทดสอบ 500 จุดแบบที่คุณน้องนู๋ทำนายนะ แต่ว่ายังไงก็ไม่ควรถือจนเลยวันศุกร์หน้าครับ