พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เวลาเดิน เค้าจะเดินกันช้ามากๆ กว่าจะยก จะย่าง จะเหยียบ ส่วนเราแสนจะกระโดกกระเดก ไม่เหมือนใครเลย วันแรก 3ทุ่มรีบนอน เพราะเบื่อ วันที่2 ตี4ก็เคาะระฆัง ง่วงแต่ไม่กล้านอนต่อ ลุกมาเดิน พอตอนนั่งเอาหมอนมากอด หลับๆตื่นๆไปตลอด อาหารเช้าและกลางวันที่สำนักจัดใส่ปิ่นโตมาให้หน้าห้อง คือไม่ต้องพบปะใครเลย เริ่มมีอาการน้ำลายเป็นพิษ อยากคุยอ่ะ

ตอนบ่ายมีฟังธรรม 1ชม. ดีใจที่สุดได้ออกจากกุฏิไปพบผู้คน มองคนอื่นเค้าเดินก้มหน้ากัน ไม่มีใครสบตาเราซักคน พี่ที่ไปด้วยก็ยังกับไม่รู้จักกัน ชักหงุดหงิดแล้วนะ คุณแม่ถามสภาวะ เราก็ถามคุณแม่ว่าท้องมันไม่เห็นค่อยพองเลย พยายามอัดลมเต็มที่ก็ไม่พอง คุณแม่หัวเราะบอกทำแบบนั้นก็เหนื่อยแย่ซีลูก ให้กำหนดเอา เราก็งง กำหนดยังไงล่ะ ก็ถามคุณแม่ว่า นึกเอาใช่ไหมคะ คุณแม่ก็บอกว่ายังงั้นแหละ

พอกลับห้อง หงุดหงิดอีกแล้ว ตื่นตี4 ให้นอน5ทุ่ม ที่เหลือทั้งวันให้เดินสลับนั่งไปเรื่อยๆ อยากกลับบ้านแล้ว ตั๋วรถก็อยู่กับพี่เค้า ทำไงดี ก็ได้แต่ทำไปแบบเรื่อยเปื่อย เวลานั่งก็แสนจะเมื่อย แอบลืมตาดูนาฬิกาเมื่อไหร่จะหมดเวลาซะที

เป็นแบบนี้มาได้ 3 วัน พอคืนวันที่4 ปวดหัวเพราะเราหงุดหงิดไงคะ พอ3ทุ่มก็นอนดีกว่า ล้มตัวนอนพลิกไปพลิกมาอยู่ 15 นาที ก็เหมือนในหัวพูดว่า"ใครง่วง" เอาละซีคะ กระโดดลุกขึ้นมาตาสว่างทันที ก็เลยเริ่มเดินแบบตั้งใจเป็นครั้งแรก เดินจบก็ลงนั่ง ครั้งนี้แหละค่ะก็ปรากฏแจ้งในใจเลยว่าที่เคยสงสัยนั้นจริงแท้แน่แล้ว พอดีนาฬิกาปลุกดัง(เป็นครั้งแรกนั่งจนครบเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเองค่ะ) ออกจากสมาธิก็หันหน้าไปทางที่มีโบสถ์อยู่ก้มลงกราบสวดสวากขาโตแล้วร้องไห้เลยค่ะ คืนนั้นนั่งๆเดินๆจนเที่ยงคืนจึงเข้านอน

วันต่อๆมาก็ไม่มีวันใดได้สมาธิแบบนั้นอีกเลย แต่ต้นกล้าศรัทธาได้ปลูกไว้แล้วในใจอย่างเต็มที่ กลับมาเราก็พบว่าตัวเองค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อย มุมมองต่างๆก็เปลี่ยนไป แต่ความสงสัยก็ยังมีมาก แล้วก็นึกได้ว่า คราวหน้าได้เจอพระอาจารย์ลองถามดูดีกว่า (พระอาจารย์จบวิศวะ จุฬา ปกติจะมาเยี่ยมพี่น้องที่กรุงเทพปีละ 2-3ครั้งค่ะ)

 

พอคุณหนุ่มพูดถึงโฆษณาเลย นึกได้ถึงโฆษณาตัวใหม่ของบริษัทประกันที่ออกมาที่ไรโดนทุ้กทีเลย...ใครยังไม่ดูลองดูกันนะคะโดนใจมากเลย
http://www.kosanathai.com/tvcupdated/view_tvc.asp?GID=1&TVCID=29284&ad=Thailife Insurance

 

ดูแล้วนึกถึงโครงการธนาคารความดีเลยค่ะ

 

ผมชอบดูโฆษณาบางโฆษณาครับ บางครั้งคลายเครียดได้เหมือนกัน บางครั้งได้แง่คิด

ขอบคุณนะครับที่หาลิงค์มาให้ชมกัน

ทั้งติดเน็ต ติดเด็ก แล้วก็ ติดเหล็กครับ

 

ช่วงนี้ upload รูปช้ามาก นานกว่าปกติที่แป๊บเดียวเสร็จ เวลานี้ ครึ่งชม.ยังไม่เสร็จ...

 

แหมรู้ไปหมดเลยนะครับ ก็กำลังติดตามการถ่ยทอดสดผ่านบูมเบอร์ก ก็เป็นอันแน่นอน ครับ เจ้าของสโลแกน change now แห่งแดโมแครตก็ได้รับการชนะเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อย ตามแบบที่มันควรจะเป็น และผมขอทำนานล่วงหน้าไว้ก่อน 4ปีว่า น่าจะได้เป็นสมัยเดียวแค่ 4ปีครับ และคราวนี้แดโมแครตก็ชนะขาดทั้งสภา บน และล่าง ซึ่งโดยปกติผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีมักจะมีสภาล่างเป็นพรรคตรงข้ามกับตนเพื่อคานอำนาจ แต่คราวนี้แดโมแครตเหมาหมดครับ หุ หุ

 

อ้าว...ถ้าวันนี้ผมซื้อก็เป็นแมงเม่า ตัวหนึ่งซิครับ ทำไงดีล่ะ หุ หุ

 

วันก่อนได้อ่านข้อเขียน ของหนูดี วานิสา เรษ จากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ก็ได้ไอเดียนะครับ เค้าบอกว่าทุกคนก็อยากโชคดีด้วยกันทั้งนั้น แต่ความโชคดีต้องมีส่วนประกอบหลายอย่างเช่น การคิดดี มองโลกในแง่ดี ออกจากความทุกข์ให้เร็วที่สุด และที่สำคัญ คือกัลยาณมิตรครับ ก็สั้นได้ไอเดียนะครับ บทความนี้ยังไม่จบถ้าไม่ลืมอาทิตย์หน้าผมจะมาเล่าให้ฟังต่อครับ หุ หุ

 

พอดีหนูดีพูดช้าไป2551ปีค่ะ

การสนทนากับพระอานนท์เรื่องกัลยาณมิตร​

มหาราชะ! ครั้งหนึ่ง อาตมาภาพพักอยู่ที่นิคมแห่งพวกศากยะชื่อว่านครกะ ในแคว้นสักกะ. มหาราชะ! ครั้งนั้นแล ภิกษุอานนท์เข้าไปหาอาตมาภาพถึงที่อยู่ อภิวาทแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควร. มหาราชะ! ภิกษุอานนท์ได้กล่าวคำนี้กะอาตมาภาพว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! ความมีมิตรดี ความมีสหายดี ความมี เพื่อนผู้แวดล้อมดี นี้เป็นกึ่งหนึ่งของพรหมจรรย์ พระเจ้าข้า!" ดังนี้.

มหาราชะ! เมื่อภิกษุอานนท์ได้กล่าวอย่างนี้แล้ว อาตมาภาพได้กล่าวกะเธออย่างนี้ว่า "อานนท์ ! เธออย่ากล่าวอย่างนั้นเลย. อานนท์! ข้อนี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งหมดทั้งสิ้นทีเดียว คือความมี มิตรดี ความมีสหายดี ความมีเพื่อนผู้แวดล้อมดี. อานนท์! พรหมจรรย์ทั้งสิ้นนั้น เป็นสิ่งที่ภิกษุผู้มีมิตรดี พึงหวังได้.เมื่อเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนผู้แวดล้อมดี เธอนั้นจักทำอริยมรรคมีองค์แปดให้เจริญได้ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคมีองค์แปดได้. ดังนี้.

กัลยาณมิตรคือทั้งหมดของพรหมจรรย์เลยค่ะ

 

หึ..หึ...นู๋ดีเธอศึกษาธรรมะ แล้วเอามาทำหนังสือ แต่ไม่ยักบอกว่าที่มา เนื้อหาในหนังสือที่ขายน่ะ เขามีในพระไตรปิฎก ..

การตลาดก็คือการตลาดวันยังค่ำ จะให้คนมาอ่านพระไตรปิฎก ส่วนมากเบินหน้าหนี ต้องใช้วิธีหยิบเอาบางประเด็น มาทำเป็นบทหลักในหนังสือ แล้วพิมพ์ขายแพงๆส่วนมากราคาเกิน ๑๐๐ ในช่วง ๑๖๐-๑๙๐ บาท + หน้าปกเร้าใจ + รูปเล่มดูสวย และที่สำคัญ กว่าจะได้เนื้อหาพระไตรปิฎกนี่ต้องซื้อมารวมกันไม่ต่ำกว่า ๑๐ เล่มถึงจะได้เนื้อหาของพระไตรปิฎกจริงๆ เขาก็คงคิดว่า "ย่อย"มาให้เราอ่านเข้าใจแล้วนะ ที่ราคาแพงคือ เขาอุตส่าห์"ย่อย"ให้เรา"กลืน" เอ้ย..! "อ่าน"ได้...

 

เรียน ท่านเพชร
ที่เคยบอกว่าจะร่วมสนับสนุนโครงการ ทีแรกว่าจะร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์
ครับ เพราะ เห็นตัวเต็งอยู่หลายคน (ทั้งคุณหมอ คุณkaticat) ตามวาระ ครับ
เมื่อเช้ายังคิดว่าจะร่วมมอบของรางวัลอะไรดี? เพราะ รางวัลที่ท่านตั้งไว้
ก็ประเมินค่ามิได้ อยู่แล้ว ครับ
แต่พอเห็นรูปของรางวัลแล้วอยากเปลี่ยนใจ แต่พอมาคิดอีกที ขอให้
เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า คือตามแต่วาสนา ครับ

ขอโมทนาบุญ ครับ

 

ลูกสะกดวังหน้า นวโลหะ(หรือเนื้อตะกั่ว?) ลงรักปิดทอง

บรรจุหัวใจพระคาถา รูปพระพิฆเณศปิดตา และงาไขว้ น่าจะมีอิทธิคุณครอบคลุมรอบด้าน พระพิฆเณศเป็นเทพปัดอุปสรรค ขณะเดียวกันก็เป็นเทพแห่งความสำเร็จ(หากสวดพระคาถาบูชาพระพิฆเณศ ควรต้องสวดบทปัดอุปสรรคก่อน จึงสวดบทประทานความสำเร็จ) พิมพ์ปิดตา มากด้วยเมตตา งาไขว้ด้านหน้าอันนี้ผิดธรรมชาติ น่าจะสื่อถึงเขี้ยวงาศาสตรวุธไม่อาจกล้ำกราย เหนือองค์พระพิฆเณศปิดตานี้ มีหัวใจพระคาถาบรรจุอยู่ ๒ คำ..

 

ความรู้สึกแรกของผมบอกว่า เป็นเนื้อตะกั่ว ก็ไม่ทราบว่าถูกหรือผิด ต้องรบกวนคุณหนุ่มแล้ว..

 

ผมอยากจะบอกว่าอย่ามีข้อจำกัดใดๆเลยครับ ผมว่าทุกท่านก็มีสิทธิในการทำความดี หรือสร้างเสริมความดีพอๆกันครับ สบายๆครับ อย่ามองว่าใครเป็นตัวเต็ง ผมเชื่อว่าทุกท่านเต็งพอๆกันครับ หุ หุ

 

555555 คุณ newcomer อย่าได้ลังเลเลยครับ หากจะร่วมมอบด้วยก็ได้เลยครับ ยินดีมากเลยครับ อีกอย่าง ผมกำลังคิดว่าในส่วนของเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุอรหันต์นี้ หากจะมอบให้ผู้ได้รับการคัดเลือก ๓ ท่าน ก็กำลังคิดว่าจะบรรจุใส่ผอบเจดีย์ให้เลย เพื่อไม่ต้องลำบากไปหาซื้อ อีกทั้งต้องมารับด้วยตนเองพร้อมพวงมาลัยมะลิสด ดังนั้นก็อยากให้เพื่อนๆที่สนใจร่วมสนับสนุนอาจจะร่วมด้วยช่วยกันในส่วนของผอบคนละเล็กละน้อย อย่างน้อยผู้ที่ได้รับมอบรางวัลทั้ง ๓ ชิ้นนี้ เขาจะระลึกได้ว่า ผอบเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุก็ดี ผอบบรรจุพระธาตุอรหันต์ก็ดี มีเพื่อนๆชาววังหน้าร่วมใจกันมอบให้ ก็จะเกิดคุณค่าทางจิตใจ หากจะไปซื้อหาเองก็คงจะทำได้ไม่ยาก เพราะราคาไม่ได้สูงจนกระทั่งจะหาซื้อเองไม่ได้ อาจจะร่วมบริจาคกันคนละบาท ๒ บาท เพื่อให้หลายๆท่านมีโอกาสได้ร่วมกันครบถ้วน ซึ่งประมาณว่าไม่น่าจะเกิน ๒,๐๐๐ บาท

แต่หากร่วมส่งเรื่องราวความดีเข้าร่วมในโครงการ และจะร่วมด้วยในส่วนนี้ก็ได้ครับ สบายๆ..

 

ดัชนีไหลรูดแล้ว บวกน้อยกว่าเช้านี้ สงสัยทำกำไรกันก่อน ผมเหลือบดูเพื่อนบ้านเราก็ยังแจ๋วอยู่นะ เป็นผมเป็นdaytrade ผมจะซื้อช่วงนี้ แล้วพอคนแห่กันมา ผมขายอ่ะ..คุณน้องนู๋ว่ายังไง

Americas
<LI class=on>Asia/PacificEurope
Africa/Middle East

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><THEAD><TR><TH class=first>Symbol</TH><TH class=second>Name</TH><TH>Last Trade</TH><TH>Change</TH><TH class=last>Related Info</TH></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=first>^AORD</TD><TD class="second name">All Ordinaries</TD><TD>4,287.30 <NOBR>12:11AM ET</NOBR></TD><TD> 117.50 (2.82%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^SSEC</TD><TD class="second name">Shanghai Composite</TD><TD>1,760.61 <NOBR>9:22PM ET</NOBR></TD><TD> 53.91 (3.16%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^HSI</TD><TD class="second name">Hang Seng</TD><TD>14,822.32 <NOBR>2:07AM ET</NOBR></TD><TD> 437.98 (3.04%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^BSESN</TD><TD class="second name">BSE 30</TD><TD>10,368.01 <NOBR>2:07AM ET</NOBR></TD><TD> 263.11 (2.47%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^JKSE</TD><TD class="second name">Jakarta Composite</TD><TD>1,395.05 <NOBR>2:22AM ET</NOBR></TD><TD> 25.26 (1.84%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^KLSE</TD><TD class="second name">KLSE Composite</TD><TD>899.35 <NOBR>Nov 3</NOBR></TD><TD> 35.74 (4.14%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^N225</TD><TD class="second name">Nikkei 225</TD><TD>9,521.24 <NOBR>2:00AM ET</NOBR></TD><TD> 406.64 (4.46%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^NZ50</TD><TD class="second name">NZSE 50</TD><TD>2,886.11 <NOBR>11:31PM ET</NOBR></TD><TD> 41.80 (1.47%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^STI</TD><TD class="second name">Straits Times</TD><TD>1,892.64 <NOBR>2:16AM ET</NOBR></TD><TD> 62.95 (3.44%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^KS11</TD><TD class="second name">Seoul Composite</TD><TD>1,181.50 <NOBR>12:22AM ET</NOBR></TD><TD> 28.15 (2.44%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^TWII</TD><TD class="second name">Taiwan Weighted</TD><TD>4,978.26 <NOBR>12:22AM ET</NOBR></TD><TD> 14.37 (0.29%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 33 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 25 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, jirautes, katicat+, newcomer, nongnooo+, ชวภณ ศ.+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

ช่วงนี้ รู้สึกว่า มีบุคคลทั่วไป เข้ามาอ่านเป็นจำนวนมาก หากเข้าร่วมโครงการธนาคารความดีได้ ยินดีนะครับ ถึงแม้จะไม่ได้รางวัล แต่สิ่งที่สำคัญ ได้ความดีในจิตใจของตนเองครับ ความสุขใจเนื่องด้วยการทำดี และทำบุญ ดีที่สุดครับ

อยากรวยให้ทำทาน อยากไปนิพพานให้ภาวนา

โมทนาสาธุครับ

 

ผมยังไม่ได้ล้างดูเลยครับ ขอล้างดูก่อน แต่น่าจะเป็นเนื้อนวะ(ในความเห็นผม)มากกว่าครับ

.

 

ตอนพบพระอาจารย์(ต่อ)

พอโผล่หน้าเข้าไป พระอาจารย์ก็ยิ้ม(คงรู้แล้วหล่ะ) เราก็ถามว่าเราจะรู้ได้ยังไงที่กำหนดว่าถูกหรือผิด ท่านก็บอกว่า รอวันนี้มานานแล้ว ที่ทำอยู่น่ะถูกแล้ว เราก็งงยังไม่ทันเล่าเลยว่ากำหนดอะไร ตอบก่อนถามแฮะ

วันนั้นจากวันพบปะสังสรรค์ธรรมดา ก็มีการนั่งสมาธิกันตอนบ่าย แล้วให้พระอาจารย์ดูจิตให้แต่ละคน แบบนี้ดีมากเลยเพราะเวลาสอบอารมณ์ เราไม่ต้องเล่า พระอาจารย์บอกเองเลยว่าคนนี้ทำแบบนี้ คนนี้แบบนั้น ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ทุกครั้งวันนัดพบก็จะจัดนั่งวิปัสสนากันค่ะ

พระอาจารย์ชอบทำทาน จะคอยบอกบุญพวกเราอยู่เรื่อยๆ ช่วงแรกจะเป็นซื้อที่ถวายวัดและสร้างพระประธานแจกวัดยากจน เราก็มีที่นัดพบที่โรงหล่อพระอีกที่นึง พระอาจารย์ได้เขียนหนังสือไว้3-4เล่ม ตอนแรกส่งมาเราไม่เคยอ่านกันเลย แต่ร่วมพิมพ์กันทุกครั้ง ยอดพิมพ์แต่ละปีก็มากขึ้นเรื่อยๆ เราเอาไว้แจกอย่างเดียว ปีที่แล้วช่วยกันพิมพ์ 5หมื่นเล่ม ตอนแจกบางคนก็บ่นว่าหนังสือเล่มหนามากหลายร้อยหน้าอ่านไม่ไหว พระอาจารย์ก็จะบอกว่าใครเค้าให้อ่านล่ะ เค้าให้ไปหนุนหัว วันที่ 5 ธันวาเราจะกันหนังสือไว้แจกพระภิกษุที่มณฑลพิธี 5พันเล่ม แจกหมดในพริบตาเลยค่ะ

และปีที่แล้วนี่เอง เริ่มมีสมาชิกใหม่มาร่วมมากขึ้น บางทีก็โทรมาแนะนำตัวว่าได้อ่านหนังสือพระอาจารย์อยากจะขอมานั่งวิปัสสนาด้วยบ้าง จนปัจจุบันนี้มีเพื่อนๆกัลยาณมิตรมาร่วมกันบางครั้งวันละ50คนแล้วค่ะ บ้านแทบจะระเบิด แต่ก็สนุกดีนะคะ พระอาจารย์จะสอนธรรมะแบบเปรียบเทียบเข้าใจง่ายเหมาะกับพวกกระโหลกหนาแบบพวกเรา แถมไม่ต้องสำรวมเรียบร้อย เพราะท่านจะบอกว่าดูการงานทางจิต แต่พวกเธออย่าไปทำแบบนี้กับที่อื่นเด็ดขาด

หนังสือเล่มใหม่ปีนี้(ที่จริงไม่ใหม่เคยพิมพ์ครั้งแรกหลายปีแล้ว) พวกเราช่วยกันรวบรวมยอดพิมพ์ได้7หมื่นเล่ม เล่มนี้อ่านง่าย แจกไปเกือบหมดแล้ว ส่วนตัววางไว้ที่ทำงานเวลาลูกค้ามาก็หยิบได้เลย บางคนเอาไปอ่านกลับมาขอไปแจกตามที่ต่างๆ ให้วัดบ้าง แจกงานกฐินบ้าง บางคนก็มาขอร่วมบุญเพิ่มเติมด้วย เป็นที่น่ายินดีจริงๆค่ะ (เล่มนี้คือที่ส่งให้คุณเพชรกับน้องหมอค่ะ)

 

ริมถนนนักลงทุน
<!--lead-->

๐ ริมถนนนักลงทุน "สเปเชียล" ฉบับรวม "วาทะเด็ด..เซียนหุ้น" ฉบับที่ 186 ประจำวันที่ 4- 10 มกราคม 2551 ๐ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ดลบันดาลให้ผู้อ่านกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ทุกท่าน และครอบครัว ประสบความสุขความเจริญ ด้วยจตุรพิธพรชัยตลอดไป
<!--lead-->

๐ "...คนดีทำให้คนอื่นดีได้ หมายความว่าคนดีทำให้เกิดความดีในสังคม คนอื่นก็ดีไปด้วย ความเลวนั้นจะทำให้คนดีเป็นคนเลวก็ยาก แต่เป็นไปได้ ถ้าคนดีเข้มแข็งในความดี จะทำให้คนเลวมาทำให้คนดีเป็นคนเลวยาก สำคัญอยู่ที่ความเข้มแข็งของคนดี..." ๐ ตอนหนึ่งใน "พระราชดำรัส" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทีมงาน "ถนนนักลงทุน" (ทุกคน) ขอยืนหยัดจะทำคุณความดี แม้เราจะเป็นแค่เทียนเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งในสังคม
๐ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล (เสี่ยปู่) : "ยุทธวิธีในการเล่นหุ้นของผม จะลงทุนโดยเน้นคุณค่าของหุ้น โดยเราให้ความสำคัญกับ "ตัวหุ้น" เป็นอันดับแรก เลือกการลงทุนเป็นรายบริษัท ลงทุนในธุรกิจชั้นเยี่ยมที่บริหารโดยผู้บริหารที่มีความซื่อสัตย์ และมีความสามารถ และควรดูประวัติการทำกำไรเฉลี่ยย้อนหลัง 5-7 ปีขึ้นไป..บริษัทที่จ่ายเงินปันผลมากขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า บริษัทนั้นมีความแข็งแกร่ง และมีความเสี่ยงต่ำ"
๐ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล (เสี่ยปู่) : "จังหวะเข้า-ออก ผมจะคิดสวนกับตลาดโดยทั่วไป เราจะต้องมีหุ้นอยู่ในใจหลายๆ ตัว (ทำการบ้านล่วงหน้า) เมื่อมีข่าวร้ายอะไรมากระทบกับตลาด แล้วดัชนี SET ลงแรงๆ ผมจะเข้าไปซื้อเก็บ แต่เราต้องดูว่าหุ้นตัวนั้นต้องลงต่ำกว่าพื้นฐานมากๆ ยิ่งลงเรายิ่งทยอยซื้อ ถ้าลงฟลอร์ ผมก็จะซื้อเยอะ ถ้าเป็นไปได้จะซื้อเต็มพอร์ต"
๐ น.พ.บุญ วนาสิน : "เคล็ดลับในการซื้อหุ้นข้อหนึ่งของผม จะเข้าไปซื้อในวันที่ดัชนี SET ปรับตัวลงมาหนักๆ 4-5% (ตื่นตระหนก) เราจึงค่อยเข้าไปช้อน (ซื้อ) และเมื่อใดที่ดัชนี หรือราคาหุ้น ปรับตัวขึ้นไป 8-12% ก็จะขายออกมาทันที โดยไม่รอช้า แนวทางการลงทุนในลักษณะนี้ กำไรงามยิ่งกว่าดอกเบี้ยเสียอีก ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลดีมาโดยตลอด..การลงทุนด้วยวิธีนี้ สร้างผลกำไรเฉลี่ยให้ผมถึง 11% ของมูลค่าการลงทุนต่อปี และหากราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่า 3% ก็จะรีบ Cut Loss ทิ้งทันที นี่คือหลักการ"
๐ ทวีฉัตร จุฬางกูร : "ในส่วนของพอร์ตหุ้นพื้นฐาน (ลงทุนระยะยาว) ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง จะทำการบ้านอย่างหนัก โดยขอเข้าพบผู้บริหารบริษัทที่สนใจเข้าลงทุน (Company Visit) แต่การพบผู้บริหารของบริษัทอย่างเดียวไม่เพียงพอ จะติดต่อขอพบกับผู้ส่งวัตถุดิบ (ซัพพลายเออร์) ให้กับบริษัทนั้น รวมไปถึงบริษัทคู่แข่งขันด้วย โดยต้องดูให้แน่ชัดว่าธุรกิจที่จะเอาเงินไปลงทุนระยะยาวด้วยนั้น เป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ไม่ใช่อยู่ในช่วงขาลง"
๐ สีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา (มาม่าบลู) : "เราต้องรู้ว่าหุ้นตัวใด ใคร (รายใหญ่คนไหน) เล่นอยู่บ้าง แล้วเราก็เล่นตามเขาไป เรื่องนี้พี่ถนัด ซึ่งหุ้นทุกตัวมีเจ้ามือหมด ไม่เว้นแม้แต่หุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่ แต่ถ้าไม่มี..พี่ก็ไม่เข้า เพราะโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นมันยาก ทำให้เกิด Opportunity Cost (ต้นทุนค่าเสียโอกาส) สู้เอาเงินไปลงทุนในตัวที่ดูแล้วน่าจะขึ้นดีกว่า"
๐ สีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา (มาม่าบลู) : "หุ้น (ไอพีโอ) ตัวที่เพิ่งเข้ามาเทรดใหม่ๆ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า Bid (ช่องเสนอซื้อ) กับ Offer (ช่องเสนอขาย) มันวนๆ กันอยู่ บ่งบอกได้ว่า จำนวนหุ้นอยู่กับเจ้ามือเยอะมาก แบบนี้ถือว่าอันตรายไม่น่าเข้า แต่ถ้าจะเข้าไปเล่นเก็งกำไรเล็กๆ น้อยๆ ก็พอได้"
๐ ชาญ บูลกุล (มาชานลี) : "ถ้าคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ ควรยึดเคล็ดลับง่ายๆ 3 ประการ คือ 1.ต้องยอมเสียเวลาศึกษาข้อมูล (อย่างละเอียด) ก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าทำตัวเป็น "ปลิง" เพื่อนไปไหน "ข้าไปด้วย" 2.ต้องดูแลหุ้นด้วยตัวเอง ไม่ใช่ทิ้งๆ ขว้างๆ หรือ "เชื่อใจ" คนอื่นมากเกินไป เพราะคนเล่นหุ้นแบบนี้ไม่มีทางรวย และ 3.ต้องเกาะติดสถานการณ์รอบด้านอย่างใกล้ชิด เช่น หากรู้ว่าจะมีเลือกตั้งตอนสิ้นปี ก็ควรเข้าไปเก็บหุ้นพื้นฐานดีไว้ล่วงหน้า 3-6 เดือน ถ้ามาซื้อตอนใกล้วันเลือกตั้ง ก็คือวันที่คนอื่นขาย เป็นต้น"
๐ ชาญ บูลกุล (มาชานลี) : "นักลงทุนไทยต้องเปลี่ยนพฤติกรรมจาก "ซื้อแพง ขายแพงกว่า" มาเป็น "ซื้อถูก ขายแพง" เพราะการซื้อแพงสุดท้ายก็ต้องหั่นขายแบบขาดทุนสุดๆ ขณะเดียวกันต้องเปลี่ยนจาก "เล่นสั้น" มาเป็น "ถือยาว" จากประสบการณ์ ไม่มีนักลงทุนรายใดรวยจากการซื้อขายหุ้นเพียงวันเดียวหรอก"
๐ ฉาย บุนนาค : "ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน ดังนั้น..เราต้องสามารถเป็นได้ทุกอย่าง ทั้งนักเก็งกำไร นักลงทุนระยะยาว เพื่อจัดและไดเวอร์วิฟายด์พอร์ต ให้สอดคล้องตามสภาวะตลาด เปรียบเหมือนถ้าเป็นสัตว์ก็ต้องเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ถ้าเป็นปลาก็ต้องเป็นทั้งปลาน้ำจืดน้ำเค็ม"
๐ ฉาย บุนนาค : "สูตรการลงทุนผมจะซื้อหุ้นตามจังหวะฟันด์โฟลว์ (เล่นตามน้ำ) และเป็นหุ้นที่ต้องมี “สตอรี่” (เรื่องราว) ซัพพอร์ตดีๆ..หุ้นต่อให้ดีแค่ไหน แต่ถ้า "ฟันด์" ยังไม่ "โฟลว์" เข้ามา ก็เหมือนกับของมันดีแต่คนยังไม่สนใจ หุ้นก็ยังขึ้นไม่ได้ หรือถ้าเปรียบหุ้นเหมือนผู้หญิง..ถึงสวย แต่ไม่รู้จักโปรโมทตัวเอง ก็ไม่มีประโยชน์ บางคนไม่สวย แต่ป๊อปปูล่าร์มาก มีแต่คนรู้จัก ก็ไปได้ไกล"
๐ สมเกียรติ วงศ์คุณทรัพย์ (เสี่ยแตงโม) : "ยุทธวิธีในการซื้อหุ้น ผมจะใช้สูตร 5-3-2 ผมจะซื้อ 3 ครั้ง ซื้อครั้งแรกคือ 50% ถ้ามันขึ้นซื้ออีก 30% ถ้ามันขึ้นอีกก็ซื้ออีก 20% แต่ถ้าเกิดผมซื้อไปแล้วถ้ามันลง ผมจะหยุดซื้อทันที แล้วจะรอดู ถ้าซื้อไปแล้วมันไม่ขึ้นต่อ คือ ซื้อแล้วมีคนขายแล้วออเดอร์ผมไม่สามารถทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปได้ แสดงว่าเราเจอผู้ที่อยากขายใหญ่กว่า ผมจะถอย แต่ถ้าซื้อแล้วขึ้นก็ลงทุนต่อ (Let the Profit Run) ถ้าซื้อแล้วลง..ผมเลิกทันที"
๐ สมเกียรติ วงศ์คุณทรัพย์ (เสี่ยแตงโม) : "โดยปกติถ้าขาดทุน 5% ผมจะ Cut Loss ทันที ถ้าขาขึ้นไม่มีลิมิต เพราะเราไม่สามารถรู้ว่าหุ้นจะขึ้นไปได้เท่าไร ช่วงที่ขาย คือ ช่วงที่หุ้นปรับตัว หรือเริ่มอ่อนตัว ถ้าเห็นสัญญาณว่าราคาเริ่มอ่อนตัว ผมจะ Take Profit ทันที คือ ขายเกลี้ยงพอร์ต เหมือนกันถ้าเวลาหุ้นตกผมจะไม่ซื้อ จะรอให้หุ้นลงจนนอนก้น แล้วเริ่มหักหัวขึ้นเมื่อไรแล้วค่อยซื้อ ผมถือคติว่า..น้ำกำลังเชี่ยว อย่าเอาเรือไปขวาง"
๐ จเรรัฐ ปิงคลาศัย : "กฎง่ายๆ 5 ข้อ โปรดจำไว้ให้ขึ้นใจ...1.เราต้องดูว่าหุ้นตัวนั้นจ่ายเงินปันผล "ทุกปี" และมีอัตรา "สูงกว่า" ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 2.เราต้องดูว่าหุ้นตัวนั้น "ซื้อง่ายขายคล่อง" ถ้าหุ้นไม่มีสภาพคล่อง คุณอาจติด “ยอดดอย” ได้ง่ายๆ 3.เราต้องไม่ดูอนาคต (อย่าเชื่ออนาคต ให้เชื่อแต่ปัจจุบัน) เพราะหากมีสถานการณ์อะไรเข้ามากระทบ ก็จะทำให้ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปได้ทันที 4.อย่าเข้าไปเล่นหุ้น "ไอพีโอ" เนื่องจากหุ้นประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมี "เจ้าภาพ" ถ้าหาก “ขาใหญ่” พร้อมใจกัน "ออกของ" เราในฐานะรายย่อย จะตกเป็น "เหยื่อ" ได้ง่ายๆ และกฎข้อสุดท้าย คุณต้อง "หูไวตาไว” พูดง่ายๆ ต้องมีเครือข่ายอยู่ในแวดวงเดียวกัน เพราะเขาย่อมรู้ข้อมูลดีกว่าเรา" ๐ จเรรัฐ ปิงคลาศัย : "การเล่นหุ้น "เก็งกำไร" ให้ได้กำไร เราควรถือคติว่า “โลภแต่พองาม” (อย่าโลภมาก) สำหรับตัวผมเอง จะใช้เทคนิเคิลในการเทรดหุ้น เมื่อราคาหุ้นขึ้น-ลง 10% ก็ขายแล้ว สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ระยะฝึกฝนให้เทรดหุ้น "บลูชิพ" ไปก่อน เมื่อเก่งแล้วค่อยขยับไปเล่นหุ้นที่มี "เจ้าภาพ" ดูแล"

จากbangkokbizweek