พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไม่เป็นไรครับ อายุของคน เพียงแค่ไม่กี่ปีเอง ไม่เกิน 80 ปีก็เรียบร้อย

    กรรมไม่ต้องไปตามใช้ชาติหน้า ชาตินี้แหละครับ

    พักหลังๆ ทั้งเฝือทั้งแถอยู่บ่อยๆ แถมพาคนไปนรกอีก

    เมื่อก่อนผมเองเคยเตรียมพระวังหน้าไว้ จะนัดพบพร้อมกับคุณยายผีป่า ผมเตรียมไปให้หักพระวังหน้า แต่ก็พลาดโอกาสอันดีไป

    ส่วนเรื่องที่จะบอกว่า การหักพระพิมพ์ เป็นการปรามาสพระพุทธเจ้านั้น ก็เช่นกัน หากมีรูปพระพุทธรูปหรือรูปพระอริยะสงฆ์อยู่ในหนังสือพิมพ์ หากมีการฉีกทิ้งหรือการทิ้งหนังสือพิมพ์หรือการเดินข้ามรูปพระพุทธรูปในหนังสือพิมพ์ หรือไปเดินข้ามรูปพระพุทธรูปหรือพระพิมพ์ หรือการดูปรามาสดูถูกดูหมิ่นพระพิมพ์ที่เป็นพระพุทธรูป หรือเหตุอื่นๆอีกมากมาย เป็นการปรามาสหรือไม่ ลองคิดดูกันเองครับ

    แต่ก็แปลก ผมนำพระวังหน้า ไปถวายครูบาอาจารย์ พระภิกษุสงฆ์ และท่านแม่ชี กลับปรากฎว่า ทั้งครูบาอาจารย์ พระภิกษุสงฆ์ และท่านแม่ชี กลับบอกว่า ดีมาก ลองคิดดูกันเองอีกครั้ง

    ทั้งสองเรื่อง คืออะไร ????????? ลองคิดดูอีกครั้งล่ะกันครับ
     
  2. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    หากจะมีใจที่เป็นธรรม ก็ต้องรู้จักธรรม มีธรรมก่อน ถึงจะมีใจเป็นธรรมได้
    เคยเจอคำสอนของพระท่านหนึ่ง (ไม่แน่ใจจริงๆว่าของท่านใด)....มีท่อนหนึ่งกล่าวทำนองว่า การที่เขาคิดดีหรือทำดีไม่ได้ เป็นเพราะว่าอกุศลกรรมทำให้เป็นไป เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย.........สาธุ
     
  3. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    เรียน ท่านเพชร
    ใครใครเขา ก็อยาก ให้เราดี
    แต่ถ้าเด่น ขึ้นทุกที เขาหมั่นไส้
    จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย
    ไม่มีใคร อยากเห็น เราเด่นเกิน
    ขอยกบทกลอนนี้ของหลวงวิจิตร (ถ้าจำไม่ผิด) ไว้ปลอบใจ ครับ
     
  4. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทางคู่ขนาน และ ทางด่วน

    ไปพระนิพพาน ไปพรหม ไปเทวดา ไปมนุษย์ ไปคน ไปสัตว์เดรัชฉาน ไปโอปาติกะ ไปสัตว์นรก

    เลือกใช้กันเองนะครับ
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    "เสี้ยน" กี่คนจะสวดมนต์ไหว้พระ จะนั่งกรรมฐาน คงได้แต่เกิดศรัทธาจริตต่อพระอริยสงฆ์รูปนั้นๆเท่านั้น เพียง"รู้"ว่าพระรูปนั้นรูปนี้เก่ง แต่ไม่เคยเรียนรู้วัตรปฏิบัติของพระรูปนั้นว่าท่านทำอย่างไร ปฏิบัติอย่างไร และทุกครั้งที่เจาะลึกไปในปฏิปทา ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่พระอริยสงฆ์รูปใดๆล้วนต้องเดินตามรอยพระพุทธเจ้า "เสี้ยน"กลับไม่รู้เรื่อง คุยแต่เนื้อหาทรงพิมพ์ตำหนิ ราวกับว่า"รูปแบบ"สำคัญกว่า"เนื้อหา" เช่นจะไปพัทยา แต่กลับให้ความสำคัญกับพาหนะที่จะไป เหล่านี้ท่านก็ลองพิจารณาเอา
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    6113. แรงสาบาน (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6113

    โพสโดย Nirvana ๛ - ตอบเมื่อ: 02 ก.ค.2006, 10:22 pm

    แรงสาบาน
    โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
    (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
    [​IMG]

    ๒๓ เม.ย. ๓๕

    ในปัจจุบันแม้โลกจะมีความเจริญทางเทคโนโลยีสูงมาก มนุษย์สามารถสร้างดาวเทียม สร้างจรวดไปโลกพระจันทร์ได้ แต่มนุษย์ก็ยังตอบปัญหาที่ถามกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ได้ คือ ปัญหาว่ามนุษย์ตายแล้วเกิดหรือไม่ คือ ปัญหาว่ามนุษย์ตายแล้วเกิดหรือไม่ จิตหลังอาสัญกาลเป็นอย่างไร บางคนเชื่อว่า ชีวิตเมื่อตายแล้วขาดสูญเป็นพวกอุจเฉททิฐิ ส่วนอีกพวกหนึ่งเชื่อว่า ชีวิตเป็นสิ่งเที่ยง จัดเข้าพวกสัสเสตทิฐิ ซึ่งทั้งสองพวกนี้ พระพุทธศาสนาจัดเป็นความเห็นผิด หรือมิจฉาทิฐิ เพราะพระพุทธศาสนาเชื่อว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับกรรม คือการกระทำของแต่ละคน

    ต่อคำถามที่ว่า มนุษย์ตายแล้วเกิดอีกหรือไม่ และจิตหลังอาสัญกาลเป็นอย่างไร ลองพิจารณาคำตอบจากเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้


    แรงสาบาน

    เป็นเรื่องเกิดขึ้นที่หน้าวัด มีต้นมะขามใหญ่แต่ตายไปแล้ว อยู่ตรงปากตรอก เมื่อก่อนเป็นทางควาย ตอนนั้นอาตมายังไม่ได้บวช ลุงคำ เล่าตั้งแต่อาตมายังเป็นเด็ก มาที่แถวนี้

    มีคนสองคน คนหนึ่งอยู่บ้านใกล้วัดอัมพวัน อีกคนหนึ่งอยู่บ้านเหนือขึ้นไป เขาติดต่อชอบพอกัน อย่าไปออกชื่อเลย เขาตายไปตั้ง ๖๐ ปีแล้ว เขาก็รักใคร่กันดี

    เขาได้สัญญาสาบานต่อกันว่า จะรักเดียวใจเดียว จะไม่รักคนอื่นต่อไป พูดถึงตอนนี้ขอฝากโยมไว้ ไปรักใครอย่าไปสาบานนะ สบถก็ไม่ได้

    ผู้หญิงก็สาบานให้กับผู้ชาย ผู้ชายก็สาบานให้กับผู้หญิง ว่าจะแต่งงานกัน

    ต่อมาผู้หญิงเกิดมาเป็นไข้ทับระดูตาย ตายแล้วยังห่วง ด้วยอำนาจรัก ยังห่วงผู้ชายคนนี้ตลอด พยายามจะเอาเป็นสามีให้ได้ ถึงตายไปแล้วก็ปรารถนาเหมือนเดิม เพราะสาบานกันไว้

    ผู้ชายคนนี้เกิดนอกใจ เพราะแฟนเก่าตายไปแล้ว จะไปแต่งได้อย่างไร ได้เกิดชอบพอกับลูกสาวคนข้างวัดอัมพวัน ได้ไปสู่ขอ พ่อแม่ฝ่ายหญิงเขาไม่ยกให้ เพราะผู้ชายจน

    แต่เขารักกันแล้ว เมื่อขอไม่ให้ก็ต้องตามกันไป หน้านั้นเป็นหน้าเกี่ยวข้าว เขาไปเกี่ยวข้าวที่บางชันด้วยกัน ก็นัดกันว่า ๒ ทุ่มให้มาคอยที่ต้นมะขามหน้าวัด ผู้ชายจะมารับ ฝ่ายหญิงก็ตกลง

    เกี่ยวข้าวกลับมา ผู้หญิงแต่งตัวมาคอยก่อนสองทุ่ม เมื่อถึงเวลาสองทุ่ม ผู้ชายก็มา ปรากฏว่าแฟนเก่ามาคอยบอกว่า พี่ทำไมมาช้าจัง ผู้ชายก็บอกว่ามาตามเวลาสองทุ่ม แล้วก็รีบไป

    นี่แฟนเก่าปลอมเป็นผู้หญิงที่จะต้องพากันไป เขาอาฆาตจะต้องมาเอาผู้ชายคนนี้ไปเป็นสามีให้ได้

    ผลสุดท้าย ผู้ชายก็บอกว่า น้องออกหน้าไป ผู้หญิงก็บอกว่า ออกไม่ได้ ให้น้องอยู่ข้างหลังเถอะ เพราะว่าถ้าพี่ออกหน้าไป หากเขาตามมายิง ฉันอยู่ข้างหลังจะได้ตายก่อน

    ผู้ชายเสียรู้ผีก็ออกหน้าไป สมัยนั้นสองข้างทางก็เป็นป่าดงพงไพร ก็พากันวิ่งไป วิ่งไปถึงป่าทึบที่วัดพระแก้ว มีพระประธานอยู่ในวิหาร อยู่เหนือวัดอัมพวัน

    วิ่งๆ ไปผู้ชายก็ได้ยินเสียง หนุมๆ นิ่มๆ ก็บอกว่า
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กรรมเพราะ "สาบาน"
    http://www.pramool.com:443/webboard/view.php3?katoo=C30950

    โพสโดย 0. <A href="http://www.pramool.com:443/webboard/list.php3?disp=Kerisawa">Kerisawa <! 125.24.23.6x>(0)
    Note : เนื้อหาในกระทู้นี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยค่ะ


    กรรมเพราะ "สาบาน"

    พระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาสอนให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ดี "กรรม" คนเราเกิดมาก็เพื่อรับกรรม แต่จะเป็น กรรมดี หรือ กรรมชั่ว นั้นขึ้นอยู่กับผลของการกระทำ และ "กรรม" นั้นจะต้องย้อนมาสู่ผู้กระทำเสมอ อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น ผู้เขียนก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ไม่เคยเชื่อเรื่องกรรมมาก่อน แต่ว่าจะเชื่อก็เกือบจะสายถึงเวลาจะผ่านล่วงเลยมา ๑๐ กว่าปีแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์นี้ยังฝังแน่นในความทรงจำของผู้เขียนตลอดมา คล้ายกับว่าเหตุการณ์นั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง และขอฝากเรื่องราวทั้งหมดนี้ไว้ในนิตยสารโลกทิพยืเพื่อเป็นวิทยาทาน และอุทาหรณ์แก่ผู้อ่าน

    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้เขียนเอง บ้านของผู้เขียนมีสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด ๙ คน ครอบครัวมีอาชีพค้าขายของชำ และมีรถบรรทุก ๑๐ ล้อ อีก ๕ คัน แม่ดูแลทางด้านค้าขาย ส่วนพ่อนั้นดูแลทางด้านรถบรรทุกและลูกๆก็เรียนหนังสือ ขณะนั้นผู้เขียนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ครอบครัวถือว่ามีฐานะดีกว่าครอบครัวอื่นๆ พ่อเองก็ให้ความเอื้อเฟื้อกับทุกคนเป็นอย่างดี นอกจากนี้พ่อยังบำเพ็ญประโยชน์อีกหลายอย่าง ภายในครอบครัวทุกคนอยู่กันอย่างมีความสุขพร้อมหน้าพร้อมตา เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ตลอดมา

    จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๑๖ วันหนึ่งพ่อก็พูดขึ้นว่า อายุมากแล้วหูตาไม่ค่อยดี อยากจะเลิกอาชีพขับรถ และจะหันมายึดอาชีพทำไร่ ทุกคนในบ้านก็ไม่มีใครขัด ต่อมาไม่นานพ่อก็ขายรถจนหมด และรวบรวมเงินได้จำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นป่าใหญ่ไว้ ๑ แปลง จำนวนประมาณ ๕๐๐ ไร่ ที่ดินแปลงนี้ได้มาโดยการติดต่อและแนะนำของ นายวิลาส ซึ่งเป็นเพื่อนกับพ่อผู้เขียน เมื่อก่อนนายวิลาสมีอาชีพทำไร่ ฐานะยากจน มีที่ดินเป็นของตัวเอง ๑๐ กว่าไร่ มีรายได้ก็ไม่ค่อยจะพอใช้พอจ่าย ขัดสนอยู่ตลอดมา ยามใดลูกหรือเมียเจ็บป่วยนายวิลาสก็ไปผม้ยืมเงินเขาเพื่อนำมารักษา ดังนั้นรายได้จากการทำไร่ในแต่ละปีจึงไม่มีเหลือ แถมยังจะต้องเป็นหนี้เขาต่อไปอีก เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดมา

    จนกระทั่งได้พบกับพ่อของผุ้เขียนด้วยความอดทนและขยันหมั่นเพียรของนายวิลาส พ่อก็ตอบแทนเขาด้วยเงินค่าแรงอย่างงาม ตั้งแต่นั้นมาครอบครัวของนายวิลาสก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพ่อก็ได้ให้นายวิลาสทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคนงาน ตลอดจนทำหน้าที่ทุกอย่างแทนพ่อ นายวิลาสเป็นผู้ติดต่อหาคนงานมาทำงาน คนงานจำนวน ๕๐ คนนี้ส่วนมากจะเป็นญาติพี่น้องของนายวิลาสและตกลงกันแบบอยู่ประจำมีที่พัก อาหาร และอุปกรณ์ทำไร่ต่างๆให้พร้อม และทุกคนจะต้องรับผิดชอบเครื่องมือแต่ละชิ้นที่ตนเองใช้อยู่ ถ้ามีการสูญหายก็จะหักเงินค่าแรงตามราคาเครื่องมือ การจ่ายเงินค่าแรงก็จะจ่ายทุกๆสิ้นเดือน เมื่อทุกอย่างพร้อมทุกคนก็จะเริ่มทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ตั้งแต่พื้นที่เป็นป่าเริ่มเตียนโล่ง และเริ่มปลูกมันสำปะหลังได้ การดำเนินงานทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ::


    จนกระทั่งถึงต้นปีพ.ศ. ๒๕๑๘ นายวิลาสเริ่มมีความเป็นอยู่ดีกว่าคนงานทั้งหมด อาจจะเป็นด้วยเหตุทั้งหมดนี้ก็ได้ที่ทำให้นายวิลาสลืมตัว ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง และแม้กระทั่งลืมความลำบากแต่หนหลังที่ผ่านมา นายวิลาสเริ่มไม่สนใจงาน กินแต่เหล้าทุกวัน เมาเช้าเมาเย็น บางวันก็ไม่มาทำงาน ปีนี้ฤดูเก็บเกี่ยวก็มาถึงอีก พอดีตรงกับช่วงโรงเรียนของผู้เขียนปิดเทอมจึงลงมาอยู่ที่ไร่กับพ่อ เมื่อได้เวลาเก็บเกี่ยวพ่อเดินทางไปตลาดแต่เช้า เพื่อติดต่อค้าขายผลผลิตกับเจ้าของโรงงานมันเส้น และรู้ข่าวมาว่านายวิลาสได้ลักลอบขนมันสำปะหลังในไร่ไปขายให้กับเถ้าแก่รับซื้อมันเช่นกัน พ่อเสียใจมากกับข่าวนี้ ไม่เคยนึกเลยว่าคนที่เคยไว้ใจและเคยช่วยเหลือมาตลอดจะคิดไม่ซื่อกับตัวเอง แต่ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เพียงแต่เก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว และคอยจับตาดูอยู่เงียบๆ

    มีอยู่คืนหนึ่ง ซึ่งเป็นคืนเดือนหงาย พ่อคิดเรื่องนี้จนนอนไม่หลับก็เลยตัดสินใจเดินออกจากที่พักพร้อมด้วยปืนพกติดตัวไปซุ่มดูอยู่แถบบริเวณท้ายไร่ สักพักใหญ่ๆก็ได้ยินเสียงรถบรรทุกวิ่งเข้ามาในไร่แล้วดับไฟหน้าพร้อมกับคนกลุ่มหนึ่งประมาณ ๒๐ คน โดยเห็นจากแสงเดือนที่ส่องสว่างอยู่เต็มดวง พวกเขาช่วยกันขนมันขึ้นรถ และมีเสียงชายคนหนึ่งคอยสั่งการ เสียงนี้พ่อจำได้แม่นยำ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนายวิลาส พ่อเลยตัดสินใจชักปืนยิงขึ้นฟ้า ๓-๔ นัด กลุ่มคนพวกนั้นก็พากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทางด้วยความตกใจ เมื่อกลุ่มคนพวกนี้หนีไปจนหมดแล้ว พ่อก็กลับมาที่พัก เช้าของวันรุ่งขึ้นพ่อตัดสินใจแล้วว่าจะไล่นายวิลาสออก แต่ก็ไม่เห็นเขามาทำงาน ส่วนคนงานนั้นยังอยู่ครบ และงานก็ดำเนินต่อไป นับตั้งแต่วันนั้นมาพ่อก็ยังไม่เห็นหน้านายวิลาสอีกเลย

    เวลาฝ่านมาประมาณหนึ่งเดือน ในตอนเช้าของวันหนึ่งคนงานหยุดงานกันหมด ไม่ยอมทำงานเหมือนเช่นเคย พ่อเข้าไปสอบถามดู พวกคนงานเหล่านี้หาว่าพ่อจะไม่ยอมจ่ายค่าแรงให้แก่ตน เพียงแค่นี้พ่อก็เข้าใจจนหมดแล้วว่า เรื่องนี้มาจากใคร นายวิลาสใช้เล่ห์เหลี่ยมปลุกปั่นคนงานอย่างแน่นอน ทั้งๆที่พ่อก็ไม่เคยคิดที่จะคดโกงค่าแรงคนงานเลยแม้แต่น้อย

    ขณะนั้นพ่อก็พยายามอธิบายเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนให้คนงานฟัง แต่การเจรจาก็ไร้ความหมาย คนงานทั้งหมดยังยืนกรานที่จะไม่ทำงาน และขอรับเงินค่าแรงที่เหลือ พ่อก็ตกลง และนัดให้ทุกคนไปพบกันที่โรงพักในเช้าวันรุ่งขึ้น

    เรื่องที่เกิดขึ้นนี้พ่อท้อใจและเสียใจมากที่ทุกอย่างต้องหยุดกลางคัน ทั้งๆที่พืชไร่ก็ขนออกไปขายยังไม่หมด และในวันนั้นเองคนงานทุกคนก็ไปรวมกันที่บ้านของนายวิลาส เมื่อถึงรุ่งเช้าพ่อและตัวผู้เขียนเองก็เดินทางไปที่สถานีตำรวจ พอมาถึงก็เห็นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีนายวิลาสเป็นหัวหน้าและเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องราวทั้งหมด เริ่มตั้งแต่บัญชีค่าแรงคนงาน วันนั้นผู้เขียนเป็นผู้อ่านบัญชีและจ่ายเงินตามบัญชีให้ทุกคนเรียบร้อย พ่อบอกกับตำรวจว่าคนงานทั้งหมดนี้ตอนออกมาจากที่พักนั้น ออกมาโดยไม่ได้บอกกล่าว และยังไม่ได้เอาเครื่องมือมาคืนเลยสักคนเดียว จำเป็นจะต้องให้คนงานทั้งหมดจ่ายค่าเครื่องมีอที่แต่ละคนรับผิดชอบไป แต่ความเป็นจริงแล้วคนงานนำมาคือเกือบหมดจะมีบ้างที่ยังไม่ได้เอามาคืนก็เป็นส่วนน้อย ผลสุดท้ายทางด้านคนงานก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ คือทุกคนต้องจ่ายค่าเครื่องมือ ซึ่งในขณะนั้นผู้เขียนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพ่อทำเช่นนั้นเพื่ออะไร แต่ในใจของผู้เขียนเองแล้วคิดว่า พ่อทำลงไปเพราะควาโกรธ ความเจ็บใจ และความแค้นใจมากกว่า ในการตัดสินของตำรวจพ่อเป็นผู้ถูกต้องทางกฎหมาย แต่ทางด้านศีลธรรมแล้วพ่อของผู้เขียนเป็นผู้ผิด การกระทำลักษณะนี้ก็เท่ากับเป็นการสร้างอกุศลกรรม นี่แหละคือ ทาสของความโกรธ สามารถทำให้คนทำอะไรได้ทุกอย่างโดยขาดสติยั้งคิด และปราศจากเหตุผล

    เมื่อคนงานทั้งหมดยอมจ่ายค่าเครื่องมือเรียบร้อยแล้ว แต่ทุกคนก็ยังสงสัยและแคลงใจเรื่องเครื่องมืออยู่ ก็เลยขอสาบานกับพ่อต่อหน้าพระประธานในโบสถ์ โดยมีนายตำรวจเป็นพยาน และนำสาบาน เมื่อจุดธูปจุดเทียนเสร็จ ผู้นำสาบานเริ่มต้นกล่าวว่า ถ้าข้าพเจ้าพูดความจริงก็ขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัวจงมีความสุข ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป แต่ถ้าหากว่าพูดเท็จก็ขอให้ครอบครัวจงมีอันเป็นไป

    หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน งานเก็บเกี่ยวก็ได้ดำเนินงานต่อไป โดยพ่อจ้างคนงานบริเวณใกล้เคียงเท่าที่พอจะหาได้ และส่งมันสำปะหลังขายให้กับโรงงานมันเส้นจนหมดในต้นปีพ.ศ. ๒๕๑๘ นั่นเอง


    อีกไม่กี่เดือนในปีเดียวกันนี้ก็มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกับน้องคนสุดท้องของผู้เขียน ซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียงแค่ ๑ ขวบ เกิดเจ็บป่วยขึ้น แม่ก็ได้นำไปรักษาที่โรงพยาบาลนานหลายเดือน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ในที่สุดน้องก็เสียชีวิต ทำให้ทุกคนในบ้านเสียใจมาก

    ปีพ.ศ. ๒๕๑๙ ก็มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นอีก ในปันั้นฝนตกชุกมาก ตกทั้งวันทั้งคืน ๓-๔ วัน ติดต่อกันทำให้เกิดน้ำป่าท่วมตลาด และในบริเวณตลาด แห่งนี้บ้านที่เสียหายมากที่สุดคือบ้านของผู้เขียน น้ำป่าได้พัดพาสิ่งของมีค่าไปจนหมดไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ตลอดจนสิ่งของมีค่าที่แม่ได้สะสมไว้ตั้งแต่เดิมก็สูญหายไปกับน้ำหมด ทุกคนในบ้านได้รับบาดเจ็บจากประตูบ้านที่ถูกน้ำพังและเศษแก้วเศษกระเบื้อง พวกน้องๆต้องขึ้นไปอยู่ยบนหลังคาบ้าน ส่วนแม่นั้นถ้าหากว่าช่วยพาออกมาจากบ้านไม่ทันก็คงถูกน้ำป่าพัดพาไปด้วย หลังจากน้ำลดลงทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรหลงเหลืออีกนอกจากสภาพบ้านที่หักพัง ส่วนทรัพย์สินสิ่งของอย่างอื่นนั้นน้ำป่าก็พัดพาเอาไปจนสิ้น สิ่งสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ก็คือชีวิตและความทรงจำ

    การสูญเสียครั้งนี้ทำให้แม่คิดมากและล้มป่วยอย่างหนัก ถึงแม้ว่าจะพาไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่แม่ก็ไม่มีอาการดีขึ้น คงจะเป็นเพระแม่เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้หมดกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป อาการป่วยของแม่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แต่กลับทรุดหนักมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ในที่สุดแม่ก็เสียชีวิตไป บรรบากาศในบ้านวันนั้นมีแต่ความเศร้าหมอง สลดหดหู่ ทุกคนร้องไห้จนหน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด ตั้งแต่นั้นมาครอบครัวของผู้เขียนก็อยู่ในสภาพที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด พ่อทำไร่ขาดทุนเรื่อยมา บางครั้งก็ถูกเขาโกง และบางวันก็เอาแต่กินเหล้าไม่สนใจงานเหมือนแต่ก่อน ผู้เขียนก็ต้องออกจากโรงเรียนมาทำงานเพื่อให้น้องๆได้เรียน เพระรายได้น้อยกว่ารายจ่าย ส่วนพี่ของผู้เขียนนั้นก็ขายของอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม แต่ขายพอมีกินไปวันๆเท่านั้น ทุกคนในบ้านได้พบกับความลำบากอย่างแสนสาหัส

    ปีพ.ศ. ๒๕๒๘ พ่อของผู้เขียนป่วยหนักและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในตับ ลูกๆทุกคนช่วยกันจัดงานศพให้พ่อตามอัตภาพ และในปัจจุบันผู้เขียนต้องคดีฆ่าคนตายถูกศาลพิพากษาประหารชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างอุทธรณ์ พิจารณาระยะเวลาที่ผ่านมากรรมได้ติดตามกระหน่ำซ้ำเติมผู้เขียนและครอบครัวตลอดมาเป็นระยะเหมือนเงาตามตัว

    ผู้เขียนไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า กรรมนั้นมีจริง โชคดีที่ผู้เขียนมีพี่และน้องๆที่ไม่เห็นตัว ทุกคนรักและปรองดองกันดี และพร้อมที่จะเผชิญกับชะตากรรมทุกอย่างไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นกรารสูญสิ้นหรือความสำเร็จของชีวิต และไม่คิดย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ โดยหวังว่าจะสร้างแต่กรรมดี ละเว้นจากการกระทำกรรมชั่วและขอวิงวอนท่านผู้อ่านโปรดสะสมแต่กรรมดี หมั่นสร้างแต่กุศลกรรม เพื่อจะได้เป็นการเสริมสร้างบารมีของตนเอง และครอบครัวให้ได้พบกับความสุขความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

    ขอบคุณที่มาค่ะ :
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=554007#post554007


     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    คุณหนุ่มตกรายชื่อคุณnewcomer ไปครับ เพราะเคยสอบถามถึงการบอกบุญเพื่อนๆใน office มาก่อนว่าใช้ได้หรือไม่?..

    ผมคิดว่า คงมีเพื่อนๆอีกมากที่ปรารถนาจะสนับสนุนโครงการธนาคารคนดี แต่ยังไม่ทราบว่าจะ post ข้อความแบบไหน ซึ่งการเปิดกว้างในรูปแบบนี้ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ปรารถนาให้ง่ายกลับยาก เพราะมีพื้นที่ให้เล่น ให้จินตนาการไม่ขอบเขต การกำหนดขอบเขตให้กลับง่ายกว่า เพราะไม่ต้องคิดนอกกรอบ ก็นำหลักการเรื่อง"เนื้อหา"สำคัญกว่า"รูปแบบ"มาใช้ดีกว่าครับ..คุณหนุ่ม คุณน้องนู๋ เพื่อนๆเห็นยังไง ก็ติกันได้ครับ ...
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รับทราบครับ ไม่มีปัญหา
    มีปัญหาอยู่อย่างเดียว ทำไงให้มีจำนวนท่านที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 20 ท่านดี ยังคิดไม่ออกครับ

    .
     
  11. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    เรียน ท่านเพชร, ท่านsithiphong
    ใครชอบ ใครชม ช่างเถิด
    ใครเชิด ใครชัง ช่างเขา
    ใครว่า ใครบ่น ทนเอา
    ใจเรา "ร่มเย็น" เป็นพอ

    ขอยกบทกลอนอีกบท (ไม่ทราบผู้แต่ง) ไว้ปลอบใจ อีกรอบ ครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเพิ่มอีกสักเคสนะครับ เพื่อเตือนผู้ที่ไม่รู้ ให้ระมัดระวัง กาย วาจา ใจ ของตนเอง

    ตายเพราะคำสาบาน
    http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=68&post_id=18839

    เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของชายหญิงคู่หนึ่ง ฝ่ายชายเป็นนายทหาร เป็นคนเรียบง่าย ร่าเริง มองโลกในแง่ดี มีเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เข้าได้กับคนทุกระดับ จึงเป็นที่รักของทุกคน ซึ่งเรียกเขาว่า
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มอบให้น้ำลายไหลขนาดนี้แล้ว ก็เป็นไปตามวาสนาครับ..
     
  14. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    โมทนาบุญค่ะ เป็นความคิดที่ดีมาก ขอนำไปใช้บ้างค่ะ เคยไปเดินหาของขวัญวันเกิด แล้วกลับบ้านโดยไม่ได้อะไรเลย เดินทั่วทั้งห้างแต่หาของขวัญไม่ได้ แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน หลายปีมานี้ ตั้งแต่เริ่มเรียนรู้เรื่องการปฏิบัติธรรม มีความรู้สึกว่า ซื้อของที่ไม่จำเป็นน้อยลง ของที่ชอบ เห็นแล้วกลับไม่อยากซื้อ มีความรู้สึกเฉยๆ ตอนนี้ไปห้างก็จะเข้าไปซื้อหนังสือที่เกี่ยวกับธรรมะ อ่านแล้วก็จะนำไปถวายท่านอาจารย์แม่ชีที่เกาะยอ ซึ่งมีโครงการที่จะทำห้องสมุดให้ญาติโยมได้อ่านกัน

    กระทู้นี้มาแรงจริงๆ สมาชิกใหม่ก็ไฟแรง ทั้งคุณหมอ คุณ katicat และท่านอื่นๆที่ช่วยกันเข้ามาให้ความรู้

    โมทนาสาธุกับทุกๆท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2008
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เช้านี้บรรยากาศการลงทุนสดใสครับ เหลือบตาดูรอบบ้านเรา ก็ล้วนเขียวกันถ้วนหน้า ต่างจากเมื่อวันจันทร์ที่แล้วที่ตลาดนำ circrit cut เข้ามา ติดลบ ๑๐ % ไปในวันจันทร์ที่แล้ว ยังจำกันได้หรือเปล่า นี่แหละครับ ที่หลังวิกฤตทุกรอบ มักจะเกิดเศรษฐีใหม่ขึ้น...

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><THEAD><TR><TH class=first>Symbol</TH><TH class=second>Name</TH><TH>Last Trade</TH><TH>Change</TH><TH class=last>Related Info</TH></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=first>^AORD</TD><TD class="second name">All Ordinaries</TD><TD>4,249.90 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 80.10 (1.92%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^SSEC</TD><TD class="second name">Shanghai Composite</TD><TD>1,758.73 <NOBR>9:22PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 52.03 (3.05%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^HSI</TD><TD class="second name">Hang Seng</TD><TD>15,142.27 <NOBR>9:39PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 757.93 (5.27%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^BSESN</TD><TD class="second name">BSE 30</TD><TD>10,631.12 <NOBR>5:28AM ET</NOBR></TD><TD>0.00 (0.00%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^JKSE</TD><TD class="second name">Jakarta Composite</TD><TD>1,420.06 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 50.27 (3.67%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^KLSE</TD><TD class="second name">KLSE Composite</TD><TD>899.35 <NOBR>Nov 3</NOBR></TD><TD>[​IMG] 35.74 (4.14%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^N225</TD><TD class="second name">Nikkei 225</TD><TD>9,371.67 <NOBR>9:30PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 257.07 (2.82%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^NZ50</TD><TD class="second name">NZSE 50</TD><TD>2,888.20 <NOBR>9:28PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 43.89 (1.54%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^STI</TD><TD class="second name">Straits Times</TD><TD>1,926.66 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 96.97 (5.30%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^KS11</TD><TD class="second name">Seoul Composite</TD><TD>1,208.76 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 55.41 (4.80%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^TWII</TD><TD class="second name">Taiwan Weighted</TD><TD>5,068.92 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 76.29 (1.53%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ดูดัชนี ๒ ตัวนี้ดีๆ ชี้ทิศทางระหว่างชั่วโมง trade

    Hang Seng
    Nikkei 225

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><THEAD><TR><TH class=first>Symbol</TH><TH class=second>Name</TH><TH>Last Trade</TH><TH>Change</TH><TH class=last>Related Info</TH></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=first>^AORD</TD><TD class="second name">All Ordinaries</TD><TD>4,249.90 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 80.10 (1.92%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^SSEC</TD><TD class="second name">Shanghai Composite</TD><TD>1,758.73 <NOBR>9:22PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 52.03 (3.05%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^HSI</TD><TD class="second name">Hang Seng</TD><TD>15,142.27 <NOBR>9:39PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 757.93 (5.27%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^BSESN</TD><TD class="second name">BSE 30</TD><TD>10,631.12 <NOBR>5:28AM ET</NOBR></TD><TD>0.00 (0.00%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^JKSE</TD><TD class="second name">Jakarta Composite</TD><TD>1,420.06 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 50.27 (3.67%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^KLSE</TD><TD class="second name">KLSE Composite</TD><TD>899.35 <NOBR>Nov 3</NOBR></TD><TD>[​IMG] 35.74 (4.14%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^N225</TD><TD class="second name">Nikkei 225</TD><TD>9,371.67 <NOBR>9:30PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 257.07 (2.82%)</TD><TD class=last>Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^NZ50</TD><TD class="second name">NZSE 50</TD><TD>2,888.20 <NOBR>9:28PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 43.89 (1.54%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^STI</TD><TD class="second name">Straits Times</TD><TD>1,926.66 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 96.97 (5.30%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^KS11</TD><TD class="second name">Seoul Composite</TD><TD>1,208.76 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 55.41 (4.80%)</TD><TD class=last>Components, Chart, More</TD></TR><TR><TD class=first>^TWII</TD><TD class="second name">Taiwan Weighted</TD><TD>5,068.92 <NOBR>9:54PM ET</NOBR></TD><TD>[​IMG] 76.29 (1.53%)</TD><TD class=last>Chart, More

    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    รายย่อยในไทยกว่าจะมั่นใจ คงเข้าซื้อหนักวันนี้ ยังไงก็อย่า settle หลังศุกร์ที่ ๑๔ พ.ย.ละกัน หลังงานของพระพี่นางฯไม่มีใครคาดเดาทิศทางการเมืองได้...แต่ปลอดภัยไว้ก่อนครับ รอบนี้รอบสุดท้าย ก่อนครึ่งปีหลังซบเซา...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2008
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ ผมหาเจอแล้วว่า ท่านใดแต่ง


    <CENTER>.....เจียมเนื้อเจียมตัว.....

    </CENTER>
    เมื่อวานผมนั่งพิจารณาตนเองทั้งวัน
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางตัวเองในโลกไซเบอร์ ณ โอเคเนชั่นแห่งนี้
    พลันก็มีเสียงแว่วเตือนมาว่า
    .
    "การทำตัวให้พอเหมาะพอดี
    เป็นวิถีทางสร้างความสุขให้แก่ชีวิตที่ดีที่สุด
    ตรงกันข้าม การทำเกินพอดีหรือไม่ถึงดีนั้น
    เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองที่ง่ายที่สุดเช่นเดียวกัน"
    .
    .
    "ความพอดี" นั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัว
    เพราะ "ดี" ของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน เปรียบเทียบกันไม่ได้
    .
    .
    การทำความพอดีให้แก่ชีวิตนี้ ไม่ใช่งานที่ง่าย
    เพราะเป็นงานที่ต้องฝืนใจฝืนความรู้สึก
    ทุกคนตามปกติมีความทะเยอทะยาน อยากทัดเทียมผู้อื่นในทุกกรณี
    บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้
    ความพอดีจะช่วยเราได้มาก
    .
    .
    ผมเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในการทำงานทุกชนิดมาตั้งแต่เด็ก ๆ
    ทำสิ่งใดผมจะประสบความสำเร็จเสมอ ๆ
    สุดท้าย ผมจะเป็นขี้ปากชาวบ้าน และตกเป็นจำเลยสังคมบ่อย ๆ
    แต่ไม่โดนคำพิพากษา เพราะผมเอาตัวรอดมาด้วยปัญญาและความสัตย์จริง
    .
    ครูท่านหนึ่งบอกผมว่า
    .
    "ทุกคนอยากจะให้เราเด่นดี
    แต่เมื่อเด่นทุกทีเพื่อนหมั่นใส้
    ทำดีอย่าให้เด่นจะเป็นภัย
    ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน"
    .
    ครูท่านนั้นคือหลวงวิจิตรวาทการครับ
    .
    จากวันนี้และต่อแต่นี้ไป ผมจึงเจียมตัวเจียมใจตามคำครูครับ
    อยู่เจียม....เขียนเจียม.....อ่านเจียม.....เมนท์เจียม......
    ใส่ภาพเจียม.....ใส่หัวข้อเจียม....
    ให้เพื่อน ๆ เข้ามาอ่านเจียม.....ขึ้นหน้าหนึ่งเจียม........
    .
    ขอบคุณเสียงเตือนของครูครับ
    .
    กราบขอบพระคุณเสียงเตือนของท่านแป๊บซี่
    คำของครูหลวงวิจิตรวาทการที่ถูกต้องต้นฉบับดั้งเดิมคือ​
    .
    ใครใครเขาก็อยากให้เราดี

    แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้

    จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย

    ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน
    .
    ขอบพระคุณครับ


    โดย มะอึก
    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=193257
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2008
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ ผมเจอแล้ว คงต้องเก็บไว้เป็นไฟล์เวิร์ดด้วยครับ

    บทกลอนนี้ครับ ผู้แต่งคือ ชาญ สิโรรส รวมถึงสมาชิกท่านอื่นที่มาช่วยกันร่วมสร้างความถูกต้องครับ

    ใครลืม ลืมใคร ใจรู้
    ใครอยู่ ใครไป ใจเห็น
    ใครสุข ใครเศร้า เช้าเย็น
    ใจเป็น ที่แจ้ง แห่งเรา

    ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
    ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
    ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา
    ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

    โพสโดย scorpion
    http://www.100watts.com/smf/index.php?topic=3770.0
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอลงอีกรอบครับ เพื่อชาววังหน้าทุกๆท่าน รวมทั้งผมเองด้วย




    ใครใครเขา ก็อยาก ให้เราดี
    แต่ถ้าเด่น ขึ้นทุกที เขาหมั่นไส้
    จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย
    ไม่มีใคร อยากเห็น เราเด่นเกิน
    ครูหลวงวิจิตรวาทการ ผู้แต่ง<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ใครลืม ลืมใคร ใจรู้
    ใครอยู่ ใครไป ใจเห็น
    ใครสุข ใครเศร้า เช้าเย็น
    ใจเป็น ที่แจ้ง แห่งเรา


    ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
    ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
    ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา

    ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ
    คุณชาญ สิโรรส ผู้แต่ง<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2008
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 10 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, ake7440+, guawn+, katicat+, kwok+, newcomer, trayong, ชวภณ ศ.+, พี เสาวภา </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สงสัยคุณnongnooo กำลังตามเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอยู่แน่เลย มีอะไรดีๆ มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
     
  20. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    โลกธรรม 8 (worldly conditions)

    [​IMG]โลกธรรม คือ ธรรมดาของโลก, เรื่องของโลก, ธรรมที่ครอบงำโลก หรือธรรมที่มีประจำโลก หมายถึง ธรรมที่ครอบงำสัตว์โลกและสัตว์โลกต้องเป็นไปตามธรรมนี้ หรือทุกคนในโลกนี้ย่อมถูกโลกธรรมนี้กระทบทั้งนั้น ไม่มีใครพ้นไปได้เลย ยกเว้นพระอรหันต์ผู้อยู่เหนือโลกเท่านั้น โลกธรรมมี 8 ประการแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกฝ่ายที่น่าปรารถนาและพึงพอใจ (อิฏฐารมณ์) และฝ่ายที่ไม่น่าปรารถนาหรือไม่พึงพอใจ (อนิฏฐารมณ์) ดังตารางต่อไปนี้ [​IMG]
    เดี๋ยวนี้เวลาที่มีคนนินทา หรือด่าทอ จะคิดถึงบทสวดพาหุงท่อนนางจิญจายะทุกครั้งเลยค่ะ ขนาดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเลิศยังไม่พ้นจากการว่าร้ายเลยค่ะ

    พระอาจารย์สอนว่าในทุกเหตุการณ์ที่เจอให้ทำ 4 อย่าง
    1.ขอขมาเขา
    2.อโหสิให้เขา
    3.แผ่เมตตาให้เขา
    4.ขอโมทนาบุญของเขา
    ครบเครื่องเลยค่ะ ใจเราเบาสบาย ส่วนของเขาแล้วแต่วาสนาค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...