พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    [​IMG]

    [​IMG]

    "บุญเราไม่เคยสร้าง...ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า"..!

    "ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด
    เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเองคือบารมีของตนลงทุนไปก่อน
    เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่ว ย
    มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สิน ในบุญบารมี
    ที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว... เมื่อทำบุญทำกุศลได้
    บารมี ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว..
    แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้..แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง"...!

    "จงจำไว้นะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่ วยเจ้าไม่ได้....
    ครั้นถึงเวลา...ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่..
    จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า..."

    นี่คือคำเทศนา ของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรมรังษี ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ในนิมิตหลังจากที่ท่านล่วงลับไป แล้วเมื่อ 100 กว่าปี อันเป็นปฐมเหตุที่ต้องสร้างความดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    ---------------------------------------------

    เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
    เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน

    เจ้ามามือเปล่า เจ้าจะ เอาอะไร
    เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา
    ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่
    มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล
    ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน
    แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ


    ขอขอบพระคุณท่านผู้แต่งครับ (ผมจำไม่ได้ว่า ท่านใดเป็นผู้แต่ง)
     
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หุ..หุ...หุ เหมือนปลาเค็มที่ความเค็มเข้าไปในเนื้อในยังไงยังงั้น..
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอา"คำสอนปู่โต"ไปก่อน"พระสมเด็จปู่โต" ทำตามคำสอนท่าน พระสมเด็จของท่าน ก็จะมายังผู้ทำดีเอง...
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมตอบให้แล้วนะครับ
    แต่ไม่ต้องกังวลครับ ผมมีมอบให้แน่ ทั้ง 3 รางวัล
    ใครกินใครอิ่ม ใครไม่กินก็หิวเอง

    ใครจะทานลาวา ก็ทานไป
    ใครจะทานน้ำร้อน ก็ทานไป
    ใครจะทานน้ำอุ่น ก็ทานไป
    ใครจะทานน้ำเย็น ก็ทานไป
    เลือกทานกันเองครับ
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ถ...ถ..ถู่กต้องแล้วครับ...
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คู่มือทำความดี
    http://www.dhammajak.net/book/tamdee/page01.php

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>หน้า 1</TD><TD>
    น. พึ่งพระธรรม​


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 width="94%" align=center bgColor=#f7f7f7 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    คนดี เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของสังคม ดังนั้นทุกคนจึงอยากจะเป็นคนดี มีเยาวชนของชาติเป็นจำนวนมากอยากจะทำความดี แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำความดีอย่างไร จะรอให้คนทำของตกแล้วเก็บไปคืนเจ้าของรึก็นานๆ จะมีสักรายหนึ่ง
    ใครๆ ก็อยากจะเป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้นเพราะเมื่อเป็นคนดีแล้ว ก็จะได้ผลตอบแทน เช่น
    1. อยากจะอยู่ที่ไหน ก็อยู่ได้สบาย เพราะมีคนอยากให้อยู่
    2. อยากจะไปไหน ก็ไปได้สะดวก เพราะมีคนอยากให้ไป
    3. อยากจะทำอะไร ก็ทำสำเร็จ เพราะมีคนอยากช่วยเหลือ
    แต่ก็มีเพียงบางคนเท่านั้นที่เป็นคนดีได้ เยาวชนส่วนใหญ่ถึงแม้อยากจะเป็นคนดี สักเท่าใดก็เป็นไปได้ เพราะเหตุว่า มีการเริ่มต้นที่ไม่ถูกและไม่ทราบว่าจุดเริ่มต้นของการเป็นคนดีควรเริ่มต้นที่ตรงไหน
    การจะเป็นคนดีได้สำเร็จ จะต้องเริ่มต้นที่การเป็น "ลูกดี" ถ้าเป็นลูกที่ดีได้ก็เป็นคนดีสำเร็จ ถ้าเป็นลูกดีไม่ได้ ก็เป็นคนดีไม่สำเร็จ
    ฉะนั้น คนจะดีจึงต้องเริ่มต้นที่การเป็นคนดี คุณสมบัติของลูกดี มี 2 ประการ คือ
    1. เห็นคุณค่าและความสำเร็จของพ่อแม่
    2. ปฏิบัติตอบต่อพ่อแม่ด้วยความกตัญญูกกเวที
    ลูกทุกคนโปรดทราบเถิดว่า ไม่มีใครในโลกนี้ จะมีคุณค่าต่อเราเท่าพ่อและแม่ เพราะท่านให้สิ่งที่คนทั้งหลายให้แก่เราไม่ได้ คือ
    1. ให้ความมีชีวิตแก่เรา
    2. ให้ความเมตตากรุณาอย่างสุดซึ้ง ไม่มีวันสิ้นสุด ในยามที่เราผิดหวังหรือมีทุกข์
    3. ให้ความยินดีจากใจจริง เมื่อคราวที่เราได้ดีมีสุข
    4. ให้ความรักจริง จริงใจแก่ลูก ๆ ทุกคน
    จริงอยู่คนรักเรามีมากมาย แต่ความรักของคนทั้งหลายเหล่านั้น รักเพราะเขาต้องการสิ่งตอบแทนจากเรา ถ้าเขาต้องการจากเรามาก เขาก็รักเรามาก ถ้าเขาต้องการจากเราน้อย ก็รักเราน้อย ถ้าเขาหมดความต้องการ เขาก็หมดรักเรา ความรักจากคนอื่นจึงมีได้หมดได้มากหรือน้อยตามกำลังแห่งความต้องการของเขา
    แต่ความรักของพ่อแม่เป็นรักแท้ ไม่ได้รักเพราะต้องการสิ่งใดจากเรา ท่านรักเราเพื่อความสำเร็จของเรา อันเป็นความปรารถนาสูงสุดของท่าน
    ในเวลาที่เราตกระกำลำบาก อาจจะมีหลายคนมาแสดงความเสียใจกับเราหรือมาปลอบเรา บางคนก็ทำโดยมารยาท หรือธรรมเนียมประเพณีเท่านั้น ใจของเขาอาจจะสมน้ำหน้าเราก็ได้
    แต่คนที่จริงใจ ไม่ทอดทิ้ง ติดตามเราไปได้ทุกแห่งหน จะลำบากยากแค้นประการใด ก็ทนได้ จะหมดเปลืองเท่าใดก็ยอมได้ มีเฉพาะพ่อกับแม่ของเราเท่านั้นที่ไม่มีวันทอดทิ้งเรา
    ในเวลาที่เราได้ดี ประสบความสำเร็จมีความสุขความเจริญ อาจมีคนมากมายมาดีใจกับเรา
    บางคนก็ดีใจเพราะคิดว่า เขาอาจจะได้ส่วนแบ่งจากความสำเร็จของเราบ้าง หรือบางคนมาแสดงความยินดี แต่อาจจะมีความริษยาปนอยู่บ้างก็ได้
    แต่คนที่ดีใจจริง ๆ ดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไดก็คือ พ่อกับแม่ของเรานั่นเอง
    พ่อกับแม่ดีใจ เพราะความมุ่งหมายของท่านต้องการเห็นเราเป็นเช่นนี้มานานแล้ว
    นี่คือข้อเท็จจริงที่ลูกทุกคนได้รับจากพ่อแม่ เพราะฉะนั้น พ่อแม่จึงเป็นคนประเสริฐของลูกทั้งหลาย
    การคิดถึงคุณค่าและความสำคัญของ พ่อแม่ดังกล่าวมานี้ ย่อมเป็น "เชื้อแห่งความดี" ของชีวิต และเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็น "คนดี"
    ดังนั้น สิ่งที่ลูกดี ควรประพฤติปฏิบัติตอบแทนคุณของท่านก็คือ
    1. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
    ให้ความสุขกายสบายใจแก่ท่าน แม้เป็นลุกยังเล็กอยู่ในวัยเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่ก็สามารถเลี้ยงดูน้ำใจของท่านได้ อย่าให้ท่านทุกข์ใจ เสียใจ กลุ้มใจ เพราะการกระทำของเรา
    2. ช่วยเหลือในกิจการงานของท่าน
    โดยการปฏิบัติการทำงานตามที่ท่านใช้ให้ทำ การแบ่งเบาภารกิจของท่าน ด้วยการรับงานซึ่งเป็นภาระอันหนักของท่านไปทำ เป็นต้น
    3. ดำรงวงศ์สกุล
    สกุลนั้นมีบุคคลเกี่ยวข้องอยู่เป็นอันมาก บุตรธิดาแห่งสกุลใด เมื่อเกิดมาร่วมวงศ์สกุลกับบุคคลอื่นจะต้องมีความสำนึกรับผิดชอบต่อสกุลวงศ์ แม้ตระกูลจะเสื่อมทรามตกต่ำลงไป ก็ต้องไม่ใช่เกิดจากการกระทำของตน ฉะนั้น บุตรธิดาที่พึงปรารถนาก็คือ บุตรธิดาที่ดำรงวงศ์สกุล กับบุตรธิดาที่เชิดชูวงศ์สกุลทำสกุลให้สูงขึ้น ดำรงวงศ์สกุลก็คือ การรักษาสิ่งที่ดีงามต่าง ๆ ของสกุลเอาไว้ไม่ให้เสื่อมในยุคในสมัยของตน
    4. ประพฤติตนให้เป็นคนเหมาะควรแก่การไว้เนื้อเชื่อใจของพ่อแม่ ที่จะรับทรัพย์มรดกสืบต่อวงศ์สกุลไปได้
    ให้พ่อแม่มีความมั่งใจว่า แม้ท่านจะตายไปแล้ว ฐานะของสกุลก็คงไม่ตกต่ำ ลูกสามารถรักษาไว้ได้
    5. เมื่อบิดามารดาตายจากไป ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้
    เป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อท่านผู้เป็นบิดามารดา ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเป็นการบูชาต่อความดีของมารดาบิดา เป็นการสะสมบุญให้เพิ่มพูนขึ้นมาอีกเป็นอันมาก ฉะนั้นหน้าที่เหล่านี้จึงเป็นหน้าที่โดยกำเนิดของทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้ ถ้าละเลยหรือไม่ประพฤติปฏิบัติก็ได้ชื่อว่าเป็นคนอกตัญญูต่อหน้าที่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า
    คนดีทำความดีได้ง่าย แต่ทำความชั่วได้ยาก
    คนชั่วทำความชั่วได้ง่าย แต่กลับทำความดีได้ยาก
    คน กับ มนุษย์ นั้นต่างกัน
    มนุษย์ คือ สัตว์โลกที่มีจิตใจสูง มีเหตุผล มีศีลธรรม
    ส่วนคน คือ สัตว์โลกที่มีจิตใจต่ำ ไม่มีศีลธรรม ไม่มีเหตุผล
    คำว่า มนุษยธรรม จึงแปลว่า ธรรมะที่ทำคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เมื่อพัฒนาจิตใจจากคนขึ้นมาเป็นมนุษย์ได้ก็คือการเป็นคนดีนั่นเอง


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คู่มือทำความดี
    http://www.dhammajak.net/book/tamdee/page01.php

    http://www.dhammajak.net/book/tamdee/page02.php

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>หน้า 2</TD><TD>
    น. พึ่งพระธรรม​


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 width="94%" align=center bgColor=#f7f7f7 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    ที่นี้ ทำอย่างไรจึงจะเป็นคนดีได้ตลอดไป
    ประการแรกก็คือ ต้องฝึกตนเองให้เป็นคนมีเมตตา ไม่ข่มเหงรังแกสัตว์ ไม่ทรมานสัตว์ ไม่กักขังหน่วงเหนี่ยวให้หมดอิสรภาพ ไม่ยกย่องสรรเสริญคนที่ประทุษร้ายสัตว์ เมื่อจิตเราพัฒนาขึ้นจนเกิดเมตตาในสรรพสัตว์หวังความสุขความเจริญแก่คนและสัตว์ทั้งหลาย จนเคยชินเป็นปกตินิสัยแล้ว จะทำให้เรามีจิตใจสูงขึ้น จนไม่คิดอยากจะข่มเหงรังแกเพื่อนหรือผู้ที่อ่อนแอกว่าเรา
    ประการที่ 2 คือ เว้นจากการลักขโมยทรัพย์ สิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ไม่ว่าทรัพย์นั้นจะอยู่ในที่ใดก็ตาม คิดเตือนใจเตือนตนไว้เสมอว่า เราหวงแหนในทรัพย์สิ่งของ ๆ เราอย่างไร คนอื่นเขาก็หวงแหนในทรัพย์สิ่งของ ๆ เขาเหมือนเราเช่นกัน ตั้งใจไว้ให้มั่นคงตลอดไปว่า เราจะไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้ และจะไม่ใช้ให้ผู้อื่นทำแทนเราด้วย และจะไม่ยกย่องสรรเสริญคนที่ทำเช่นนั้นด้วย
    3. มีความซื่อสัตย์จริงใจ โอบอ้อมอารี ต่อเพื่อนร่วมชั้น ร่วมโรงเรียน หรือเพื่อนนักเรียน นักศึกษาต่างโรงเรียน ต่างสถาบันทุกคน และไม่ยกย่องสนับสนุนผู้ที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ผู้ที่คิดทรยศหักหลังเพื่อนฝูง
    ถ้าหากได้ฝึกตนให้มีปกตินิสัยได้ดังกล่าวมานี้แล้ว เมื่อผ่านวัยเด็กจบการศึกษาเล่าเรียนเจริญเติบโตจนถึงวัยมีเหย้าเรือน ก็จะเป็นคนดีมีนิสัยที่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครองของตน วิถีชีวิตก็จะพบแต่ความสันติสุขตลอดไป
    4. งดเว้นจากการพูดเท็จ คำไม่จริงโกหก หลอกลวง พูดเฉพาะคำสัตย์คำจริง พูดไปตามที่ได้เห็น ได้ยิน ได้ทราบ ได้รู้มาอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น หากไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้ทราบ ไม่รู้ ก็ปฏิเสธไป โดยไม่พูดขยายเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก นอกจากจะไม่พูดปดด้วยตนเองแล้ว จะต้องไม่สนับสนุนหรือยกย่องสรรเสริญให้คนอื่นพูดปดด้วย ฝึกฝนให้มีปกตินิสัยติดตัวก็จะสามารถดำรงตนอยู่ในสัจจะวาจาอย่างมั่นคง
    5. งดเว้นจากการพูดส่อเสียด คำส่อเสียด คือการนำความข้างนี้ไปบอกข้างโน้นนำความข้างโน้มมาบอกข้างนี้ เพื่อต้องการให้คนสองฝ่ายแตกแยกกัน ทะเลาะกัน การมีเจตนาเช่นนี้ อาจจะเกิดจากความโลภในผลประโยชน์ที่ตนจะได้จากคนทั้งสองฝ่าย หรือความโกรธต้องการทำลายคนทั้งสองฝ่าย หรือมีความต้องการให้สะใจ ต้องการดูคนแตกแยกกัน มีลักษณะเป็นสัญชาตญาณดิบในใจของสัตว์โลก คือชอบดูความเดือดร้อนของคนอื่น สัตว์อื่น ในทางปฏิบัตินอกจากจะงดเว้นไม่พูดลักษณะนั้นแล้ว จะต้องไม่ส่งเสริมให้คนอื่นพูด และไม่ยกย่องคนที่พูดเช่นนั้นด้วย จะพูดเฉพาะในทางที่ส่งเสริมความสามัคคี ด้วยความรักความเมตตา หวังดีต่อคนอื่นเป็นสำคัญ
    6. งดเว้นจากการพูดคำหยาบ คำหยาบ คือคำพูดที่พูดด้วยความโกรธ ความริษยา ความเบียดเบียน มุ่งให้เกิดความวิบัติเสื่อมเสียไม่สบายกายใจแก่คนที่ตนพูดด้วย เช่น คำด่าในลักษณะต่าง ๆ แต่ในเรื่องคำหยาบนั้นบางกรณีถ้อยคำอาจจะหยาบ แต่เจตนาแล้วมุ่งในธรรม มุ่งสั่งสอน เพื่อกระตุ้นเตือนให้คนอื่นที่ตนพูดด้วยเป็นคนดี เช่น มารดา บิดา ครู อาจารย์ กัลยาณมิตร ตำหนิด่าว่าคนอันเป็นที่รักของตน เมื่อคนเหล่านั้นทำสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร ท่านไม่จัดเป็นคำหยาบ เพราะเป็นคำพูดที่เกิดจากความเมตตา ความหวังดี การงดเว้นวาจาหยาบนั้น นอกจากไม่พูดด้วยตนเองแล้ว ต้องไม่แนะนำให้คนอื่นพูด ไม่ยกย่องชมเชยคนที่พูดคำหยาบด้วย และฝึกฝนตนเองให้เป็นคนพูดวาจาที่ไพเราะอ่อนหวานเป็นปกตินิสัย
    7. งดเว้นการพูดเพ้อเจ้อ เหลวไหลไร้สาระ คำเพ้อเจ้อนั้น คือคำพูดที่ไม่มีเหตุผลไม่เป็นอรรถเป็นธรรม ทั้งคนพูดคนฟังเสียเวลาไปโดยไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่คนทั่วไปจะนิยมคำพูดในลักษณะนี้มาก คนดีนั้นนอกจากจะไม่พูดเพ้อเจ้อด้วยตนเอง ยังไม่สนับสนุนคนอื่นให้พูดเพ้อเจ้อด้วย ทั้งไม่ยกย่องชมเชยให้ความสำคัญแก่คนที่พูดในลักษณะนี้ด้วย เมื่อถึงคราวที่ตนจะพูดก็พูดเฉพาะเรื่องที่มีประโยชน์แก่ผู้ฟัง ที่ท่านเรียกว่า มีวาจาเป็นสุภาษิต
    8. ไม่เพ่งเล็งโลภอยากได้ของเขาในทางทุจริต ต้องฝึกฝนอบรมปรับสภาพจิตของเราให้สามารถควบคุมความโลภไว้ได้ อย่าให้ถึงกับโลภอยากได้ของ ๆ คนอื่นในทางที่ไม่ชอบไม่ควร มีคนเป็นส่วนมากที่เข้าใจผิดในคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนไม่ให้โลภ เมื่อไม่โลภแล้วจะรวยได้อย่างไร จริงอยู่พระพุทธองค์ทองสอนให้ละความโลภ ความโกรธ ความหลง แต่ถ้าผู้ใดยังละไม่ได้ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของบุคคลผู้นั้นเอง มิใช่เป็นเรื่องเสียหาย ถ้าหากว่าผู้นั้นรู้จักควบคุมความโลภของตนให้อยู่ในขอบเขตที่ชอบที่ควร ไม่ถึงกับโลภอยากได้ของ ๆ คนอื่นในทางที่ผิด หรือโลภมากเกินขอบเขต คิดรวยทางลัดถึงกับค้าขายของเถื่อน ของเสพติดที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น ก็ต้องเดือดร้อนแน่นอน
    อย่าลืมว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนให้คนทั้งหลายหมั่นขยันในการประกอบอาชีพในทางสุจริต ทรงชี้ให้เห็นโทษของความเกียจคร้านทำการงาน หากต้องการจะได้ทรัพย์สิน เงินทอง ลาภ ยศ ก็ใช้ความพยายามแสวงหาเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาในทางสุจริตชอบด้วยกฎหมาย จะได้ว่ากี่ร้อยล้าน กี่พ้นล้าน ก็ไม่เสียหายไม่ผิดศีลผิดธรรมแต่ประการใด เพราะได้มาในทางสุจริต ทรงสอนให้พัฒนาจิตของตนให้อยู่ในศีลในธรรม มีความพร้อมที่จะเสียสละ บริจาค สงเคราะห์คนทั้งหลายด้วยความเมตตากรุณา มีอัธยาศัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โอบอ้อมอารีต่อคนทั้งหลาย ที่เรียกว่าเป็นคนมีน้ำใจงามนั่นเอง
    9. ไม่คิดพยาบาทปองร้ายใคร แน่นอนในขั้นมิได้หมายความว่าสามารถละความโกรธได้เด็ดขาด แต่ว่าแม้จะโกรธ ไม่พอใจ ไม่ยินดี หรือหงุดหงิดไปบ้าง ก็ไม่ถึงกับเก็บเรื่องเหล่านั้นมาเป็นเรื่องที่ต้องอาฆาต พยาบาท คิดจองล้างจองผลาญ ทำลายล้างกัน สามารถควบคุมอารมณ์ข่มใจได้ มีความพร้อมที่จะอดทนให้อภัย รอคอย และพิจารณาเห็นความจริงตามกฎของกรรม จนถึงสามารถมองเห็นความจริงว่า เวรย่อมไม่สงบระงับไปเพราะการจองเวร แต่จะสามารถสงบไปได้เพราะการไม่จองเวร แม้คนอื่น จะจองเวรกับเรา ก็ไม่สนใจที่จะจองเวรตอบ จนสามารถพัฒนาจิตใจให้เปี่ยมด้วยเมตตาในคนในสัตว์ทั้งหลายเป็นปกตินิสัย


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คู่มือทำความดี
    http://www.dhammajak.net/book/tamdee/page01.php

    http://www.dhammajak.net/book/tamdee/page02.php

    http://www.dhammajak.net/book/tamdee/page03.php

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>หน้า 3</TD><TD>
    น. พึ่งพระธรรม​




    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 width="94%" align=center bgColor=#f7f7f7 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    10. มีความเห็นชอบตามทำนองคลองธรรม ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะความเห็นชอบประเภทที่เรียกว่า กัมมัสสกตาสัมมาทิฏฐิ คือ ปัญญาอันเห็นชอบในกฎแห่งกรรมเท่านั้น
    คำว่า กรรม เป็นคำกลาง ๆ แปลว่า การกระทำ ทำดีก็เรียกว่า กรรมดี หรือ กุศลกรรม ทำชั่วก็เรียกว่า กรรมชั่ว หรือ อกุศลกรรม ทั้งกรรมดีกรรมชั่วนี้ ทำได้ 3 ทาง คือ ทางกาย ทางวาจา และทางใจ (คิด)
    คำว่า วิบาก หรือ ผลของกรรม ก็คือ ผลที่เกิดจากการกระทำทั้ง 3 ทาง ดังกล่าวนั่นเอง
    ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เรารับประทานอาหารเป็นกรรม ความอิ่มเป็นผลของกรรม (คือ วิบากของการรับประทาน) แล้วความอิ่มก็เป็นของเรา คนอื่นจะอิ่มแทนเราไม่ได้ จึงเป็นกฎตายตัวเลยว่า ใครก็ตามที่ทำกรรมแล้วจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมเสมอ พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ และให้คิดอยู่เสมอว่า
    "เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ใครทำกรรมอันใดไว้ จะดีหรือชั่วก็ตาม จะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น"
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นี้เป็นกฎความจริงธรรมดาที่จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เราปลูกต้นมะม่วงก็จะออกผลมาเป็นมะม่วง จะเป็นผลมะพร้าวไปไม่ได้
    มีผู้คิดอย่างคนพาลว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป นั้นไม่จริงหรอก คนที่พูดอย่างนี้ เพราะเขาทำความดีไม่เป็น ไม่เข้าใจว่าการทำความดีนั้นจะต้องทำให้ ถูกดี ถึงดี และ พอดี
    ถูกดี ก็คือ ทำดีให้ถูกกาละเทศะให้ถูกจังหวะ และพอเหมาะพอสม
    ถึงดี ก็คือ ทำดียังไม่ทันถึงดี ก็เบื่อหน่ายเกียจคร้านเลิกทำดีเสียแล้ว
    พอดี ก็คือ บางคนทำดีเกินพอดี ล้ำหน้าเพื่อนฝูงเอาเด่นเอาดังเพียงคนเดียว อย่างนี้จะดีได้อย่างไร
    การทำความดีนั้น นอกจากจะต้องรู้กาละเทศะ และโอกาสที่เหมาะสมแล้ว ยังจะต้องดูความเกี่ยวข้องกับบุคคลกับกลุ่มคนกับสังคมด้วย การวางตัวดีตามความเหมาะสมอย่างตอนนี้ต้องให้ของ ตอนนี้ต้องพูดจากัน ตอนนี้ต้องช่วยเหลือในกิจการงาน เป็นต้น และต้องไม่มีลักษณะอันใดส่อให้เห็นว่า ออกจะประเจิดประเจ้อมากไป เสนอหน้ามากไปหน่อย สรุปว่าเรื่องของการทำความดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถ้าอะไรมันเกิน ๆ เลย ๆ ไปก็ไม่ดี เพราะในสังคมคนธรรมดา มีคนบางพวกพร้อมที่จะทำลาย พร้อมที่จะคอยจับผิดอยู่ อย่างที่หลวงวิจิตรวาทการท่านว่า

    "อันที่จริงคนเขาอยากให้เราดี
    แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้
    จงทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย
    ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน"
    จงพิจารณาให้เห็นความจริง เรื่องกฎของกรรมตามที่กล่าวมาแล้วว่า "ใครทำกรรมอันใดไว้ จะดีหรือชั่วก็ตาม จะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น" เพราะอะไร ก็เพราะว่าทำความดีมันจะดูดดีเข้ามา ทำความชั่วมันก็จะดูดชั่วเข้ามาเช่นกัน เรียกว่า ดีดูดดี ชั่วดูดชั่ว ตามกฎของแรงดึงดูดในทางวิทยาศาสตร์นั่นเอง เช่น แม่เหล็กมันก็จะดูดได้แต่เหล็ก จะไม่ดูดไม้หรือวัตถุอื่น ๆ ซึ่งมีอญูต่างกัน เราทำแต่ความดีมีความซื่อสัตย์สุจริตขยันขันแข็งในการทำงาน ไปทำงานที่ไหน บริษัทห้างร้านไหนก็ยินดีรับเข้าทำงานทั้งนั้น นี่คือ ดีดูดดี ดูดทั้งงาน ดูดทั้งเงิน ดูดเจ้านายผู้บังคับบัญชาให้มารักใคร่เอ็นดู อันเป็นผลของการทำความดีนั่นเอง
    ในทางตรงกันข้าม คนที่สร้างความชั่วไว้มาก ๆ ก็เป็นแรงดึงดูดเหมือนกัน แต่มันดูดเอาสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาให้มาทำลายตน เช่น ดูดเอาความเกลียดชัง ดูดเอาโทษทัณฑ์ ดูดเอาโซ่ตรวน คุกตะราง ดูดลูกปืน ลูกระเบิด เป็นต้น บางคนที่ร้ายมาก ๆ สามารถดูดเอาตำรวจทั้งโรงพักให้วิ่งตามไปจับ ไปทำลาย ก็มี นี่คือ ชั่วดูดชั่ว ซึ่งเป็นผลของการทำความชั่ว
    ดังนั้น เราทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด ก็ตาม จะเชื่อเถิดว่า ถ้าได้กระทำความชั่วแล้วจะไม่ได้รับผลชั่วที่เป็นบาปเป็นทุกข์นั้นเป็นไปไม่ได้ จะต้องได้รับแน่ ๆ เร็วหรือช้าเท่านั้น ถึงแม้ชาตินี้ผลกรรมชั่วยังไม่ให้ผลก็จะต้องได้รับในชาติต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน
    เพราะฉะนั้น ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มทำความดี ถ้าได้ประพฤติปฏิบัติโดยสม่ำเสมอจนเป็นปกตินิสัยแล้ว นั่นก็คือเราได้พัฒนาจิตของเราให้สูงขึ้น เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ และจะเป็นคนดีได้ตลอดไปด้วย
    การกระทำใด ๆ ที่เป็นความชั่ว การกระทำอย่างไรที่เป็นความดี ทางใดให้ผลเป็นความสุข และความทุกข์ พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้แล้วโดยวิธีการต่าง ๆ ขอเพียงแต่เราทั้งหลายพยายามเป็นผู้รู้ด้วยปัญญาอันชอบ เว้นการทำความชั่วทั้ง 10 ประการ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น จนสามารถปลุกตนให้ตื่น เกลียดกลัวอำนาจของความชั่ว ดำรงชีวิตอยู่ในโลกร่วมกับคนอื่นด้วยการทำแต่ความดี ทั้งทางกาย ทางวาจาและใจ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา มีความเมตตากรุณา ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน ไม่อาฆาตพยาบาทจองเวรกัน ละการใช้อารมณ์และใช้เหตุผลตัดสินปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ ก็จะทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข สมความปรารถนาด้วยกันทุกคน และอย่างลืมว่า ......
    ความดีไม่มีขาย
    อยากได้ต้องทำเอง

    ...........................................................
    คัดลอกจากหนังสือ "คู่มือทำความดี"
    น. พึ่งพระธรรม เรียบเรียง
    สมาชิกชมรมผู้สูงอายุ รพ.ตากสิน
    พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อีก ๒ เดือนก็ใกล้จะสิ้นปี และขึ้นปีใหม่แล้ว ท่ามกลางความขัดแย้งของคนในชาติ และพิษเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามแผ่ขยายความเสียหายไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ ผมอยากนำ โครงการ"ธนาคารความดี" มาบันทึกเอาไว้ในกระทู้พระวังหน้า.. เพื่อเพื่อนๆที่มีความตั้งใจที่จะกระทำความดีส่งท้ายปีเก่าในช่วง ๒ เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๕๑ นี้ อย่างน้อยก็ยังมีความดีเกิดขึ้นในสังคมเล็กๆแห่งนี้ ห้องนี้ เพียงหวังว่าด้วยอานุภาพแห่งความดีที่ปรากฎนี้จะช่วยลดทอนบาป หรือเคราะห์กรรมของประเทศไทยได้บ้าง โดยมีเงื่อนไขว่า...

    ขอให้ผู้สนใจ และผู้ที่มีความตั้งใจที่จะร่วมในโครงการ"ธนาคารความดี"ได้บันทึกความดีที่ท่านได้กระทำในแต่ละวัน วันละกี่เรื่องก็ได้ ไม่ว่าจะช่วยจูงผู้สูงอายุข้ามถนน บริจาคโลหิตให้แก่สภากาชาดไทย หรือโรงพยาบาลใด อ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง หรือได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และสัตว์ใดๆได้พ้นจากทุกข์ภัย ไปร่วมในงานบุญใดๆก็ตาม หรือจะปฏิบัติสมาธิ แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ อะไรก็ได้ที่รวมเรียกว่า"ความดี" ขอให้บันทึกสะสมวันต่อวันโดยลำดับวัน และกิจกรรมความดีนั้น หากสรุปได้เรียบร้อยง่ายต่อการพิจารณาก็จะเป็นผลดีต่อตัวท่านเอง..

    คุณหนุ่ม และคุณน้องนู๋เป็นกรรมการร่วมด้วยกันกับผมพิจารณามอบรางวัลให้ผู้ที่กระทำความดีได้อย่างน่าประทับใจ ๓ รางวัลด้วยกัน คุณหนุ่ม และคุณน้องนู๋จะร่วมมอบรางวัลเพิ่มเติมจากที่ผมนำมามอบให้เพื่อนๆที่เข้าร่วมโครงการนี้นะครับ รางวัลที่ผมจะมอบให้มีดังนี้...

    โครงการ"ธนาคารความดี"
    รางวัลที่ ๑
    -พระบรมสารีริกธาตุสัณฐานที่พระพุทธกัสสปพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ ของภัทรกัปป์นี้อธิษฐานจิตไว้ จำนวน ๓๐ องค์ ๓๐ เฉดสี

    -พระวังหน้ามากกว่า ๔ องค์ ประกอบไปด้วย
    ๑)พระพิมพ์ฝีพระหัตถ์พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว บรรจุน้ำประสาน และลูกปัดทราวดี ปีพ.ศ. ๒๔๐๘ มอบให้ ๑ ใน ๘ พิมพ์พิเศษจำนวน ๑ องค์

    ๒)พระสมเด็จปัญจสิริ พิมพ์เก๋งจีนไตรโลกอุดร ๑ องค์(ต้องแจ้งวันเดือนปีเกิดเพื่อเฉดสีที่เหมาะกับผู้ที่ได้รับพระพิมพ์นี้)

    ๓)พระปิดตา ๒ หน้า เนื้อสีขาว ผสมเครื่องหอมในราชสำนัก ๑ องค์(ยังไม่เคยมอบให้ผู้ใดมาก่อน)

    ๔)พระสมเด็จเนื้อปูนสอแบบพิเศษ ๑ องค์ที่คุณnongnooo จะมอบให้
    ๕)รายการที่ ๕ นี้ คุณหนุ่ม sithiphong ยังไม่เปิดเผย แต่ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้เพื่อนๆมาก่อนแน่นอน รอเจ้าตัวมาแจ้งเพิ่มเติมจะดีกว่า

    รางวัลที่ ๒
    -พระธาตุพระอนุรุทธะพระอรหันต์สาวกที่เลิศทางด้านตาทิพย์ จำนวน ๑๐ องค์

    -พระวังหน้าวังหลวงมากกว่า ๕ รายการ ประกอบไปด้วย
    ๑)พระรูปเหมือนหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเดินจงกรมของวังหน้าพิมพ์ใหญ่ ๒ องค์(ลงรักแดง และปิดทอง ๑ องค์ และสีน้ำตาล ๑ องค์) พิมพ์เล็ก ๕ องค์ ๕ สี(น้ำตาลแดง-ฟ้า-เขียว-ดำ-ขาวนวล) รวม ๗ องค์(พระชุดนี้ได้อาราธนาพระบารมีองค์พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทธะเถระเจ้า พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง ๕ พระองค์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๐)

    ๒)พระสมเด็จวังหน้า พิมพ์หลังประทุนตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว

    ๓)พระปิดตา ๒ หน้าเนื้อผงใบลานของวังหน้า ๑ องค์

    ๔)พระปิดตาวังหน้าเนื้อหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์บรรจุกริ่ง ๑ องค์

    ๕)พระเบญจภาคี เนื้อปัญจสิริ สร้างปีพ.ศ. ๒๔๕๑ จำนวน ๑ ชุดมี ๕ องค์ และพระลีลาปัญจสิริอีก ๑ องค์

    ๖)พระสมเด็จเนื้อปูนสอ ๑ องค์ที่คุณnongnooo จะมอบให้

    ๗)รายการที่ ๗ นี้ ยังไม่ทราบว่าคุณหนุ่ม sithiphong จะมอบให้เพิ่มเติมหรือไม่ เพราะไม่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ หรือจะมอบให้เพิ่มเติมเฉพาะผู้ได้รางวัลที่ ๑ เท่านั้น แต่หากมอบเพิ่มเติมจากนี้ ก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้เพื่อนๆมาก่อนแน่นอน รอเจ้าตัวมาแจ้งเพิ่มเติมจะดีกว่า

    รางวัลที่ ๓
    -พระธาตุพระสีวลีพระอรหันต์สาวกที่เลิศทางด้านลาภ จำนวน ๕ องค์ สัณฐานประกายเพชรจากถ้ำแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี

    -เทียนสะเดาะเคราะห์-สืบชาตา—บูชาโชค จากพระธาตุดอยตุงจำนวน ๑ เล่มแบบ three in one พิเศษสุดคือจะจารชื่อนามสกุล และวันเดือนปีเกิด เวลาเกิดของผู้ครอบครองด้วยเหล็กจารที่พระอภิญญาใหญ่หลายๆองค์เคยใช้มาก่อน โดยได้ขออนุญาต ขอขมา และขอพระเมตตาจากทุกๆพระองค์แล้วในกิจที่เป็นกุศลแล้ว

    -เทียนพระมหาสีวลี"เศรษฐีทั้ง ๕" มหาชัยมงคล วัดโขงขาว ซึ่งจัดสร้างตามกรรมวิธีของล้านนา ๑ ชุด(๓ เล่ม) พิเศษสุดคือจะจารชื่อนามสกุล และวันเดือนปีเกิด เวลาเกิดของผู้ครอบครองด้วยเหล็กจารที่พระอภิญญาใหญ่หลายๆองค์เคยใช้มาก่อน โดยได้ขออนุญาต ขอขมา และขอพระเมตตาจากทุกๆพระองค์แล้วในกิจที่เป็นกุศลแล้ว

    -พระเบญจภาคี สร้างปีพ.ศ. ๒๔๕๑ จำนวน ๑ ชุดมี ๕ องค์ และพระลีลาอีก ๑ องค์


    -พระสมเด็จเนื้อปูนสอ ๑ องค์ที่คุณnongnooo จะมอบให้

    -รายการนี้ ยังไม่ทราบว่าคุณหนุ่ม sithiphong จะมอบให้เพิ่มเติมหรือไม่ เพราะไม่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ หรือจะมอบให้เพิ่มเติมเฉพาะผู้ได้รางวัลที่ ๑ เท่านั้น แต่หากมอบเพิ่มเติมจากนี้ ก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้เพื่อนๆมาก่อนแน่นอน รอเจ้าตัวมาแจ้งเพิ่มเติมจะดีกว่า

    ***อายุโครงการที่ได้รับรางวัล จะเริ่มกิจกรรมกระทำความดีตั้งแต่เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ ๑ พ.ย. ๒๕๕๑(ตั้งแต่ ๖ โมงเช้าของวันที่ ๑ พ.ย. ๒๕๕๑) จนถึงวันพุธที่ ๓๑ ธ.ค. ๒๕๕๑ (ก่อน ๖ โมงเช้าของวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒)สุดท้าย จำนวน ๖๑ วัน หากล่วงเลยกำหนดเวลานี้ไป ทุกท่านก็ยังคงสามารถจะกระทำความดีกันได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่มีรางวัลมอบให้แล้วก็ตามนะครับ ***

    ผู้ที่ได้รับรางวัลข้างต้นนี้ทั้งหมดจะต้องนัดวันเวลามารับเองโดยตรงแม้ว่าท่านจะอยู่นอกเขตกรุงเทพและปริมณฑลก็ตาม ผมจะไม่จัดส่งทางไปรษณีย์ให้ครับ เนื่องจากมีพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุอรหันต์อยู่ด้วย เริ่มต้นด้วยความดี แต่จบท้ายโครงการด้วยการปรามาสแบบนี้ไม่ดีแน่ครับ...

    คณะกรรมการจะใช้เวลาประมาณ ๑๔ วันในการสรุปความประทับใจ จึงจะประกาศผลผู้ได้รับรางวัลข้างต้นนี้ในวันเด็กแห่งชาติ(วันเสาร์ที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๒) เพื่อให้เป็นอนุสติว่า หากเราท่านมีเวลาตั้งต้นทำความดีตั้งแต่เยาว์วัย ก็จะสามารถเป็นกำลังของประเทศชาติเราได้ เริ่มจากความดีเล็กๆ ไปจนถึงคุณความดีที่เราท่านประมาณค่าไม่ได้...

    ผู้ที่เข้ามาชมภายหลังจากวันที่ ๑ พ.ย. ๒๕๕๑ ไปแล้ว คือระหว่างอายุโครงการ ท่านก็สามารถจะร่วมกระทำความดีได้ แม้..วันสุดท้ายของการปิดโครงการจะเป็นวันที่ท่านเริ่มต้นสะสมความดีไว้ใน"ธนาคารความดี"แล้วก็ตามที เพียง ๑ ความดีที่สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการ ท่านก็มีโอกาสได้รับรางวัลแล้วครับ..

    ท่านจะไปกระทำความดีที่ไหนของโลกก็ได้ทั้งนั้นครับ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นที่ประเทศไทยเท่านั้น และจะกระทำความดีในรูปแบบซ้ำๆกันในแต่ละวันก็ไม่ว่าอีกเช่นกัน...


    ขยายความเรื่องของการกระทำความดีในโครงการ"ธนาคารความดี"

    กระทู้นี้ผมอยากให้พี่ๆน้องๆเพื่อนๆได้มีโอกาสพิจารณากันนะครับว่า


    การกระทำ+ความดี


    นั้นคืออะไร ?


    สิ่งที่กระทำอยู่ที่วี่ทุกวันเป็นนิจสินเราสงสัยหรือไม่ว่า เรากำลังทำอะไร เรากำลังทำความดีอยู่หรือเปล่า หรือไม่แน่ใจ หรือไม่กล้าตอบ หรือทำไปวันๆ ทำเป็นอาชีพ เพื่อแลกกับเงิน ด้วยความที่เราไม่ได้ไปพิจารณาว่า สิ่งที่เรากระทำนั้นเพียงแลกกับปัจจัยที่โลกมนุษย์กำหนดเป็นตัวเงินเท่านั้น แล้วภาระนี้เมื่อไหร่จะจบลง หรือจะหมดลงไปกับเวลาที่เราเหลืออยู่ในโลกมนุษย์นี้เท่านั้น โดยที่เราเองก็ยังไม่แน่ใจว่า เราได้มีโอกาสทำความดีบ้างแล้วหรือยัง และหากเกิดใหม่เราก็ยังจะกระทำแบบเดิมๆ ตามสัญญาเดิมๆ กระทู้นี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการทำงานแลกกับเงินเลย ซึ่งบางเหตุการณ์ บางอาชีพ อาจจะหาประโยชน์ได้ทั้งความดี และได้ทั้งเงินไปพร้อมๆกัน ขึ้นอยู่กับ"วิธีคิด"ของเราเองว่า ปรัชญาการดำเนินชีวิตของเราเองคืออะไร การเขียนหนังสือเล่มหนึ่งของนโปเลียน ฮิวส์ ชื่อ"หลักปรัชญาชีวิตสู่ความสำเร็จ"ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าหากมีโอกาสได้อ่านกัน จะรู้สึกว่าความสำเร็จในชีวิตกับการกระทำความดีนั้นมีอยู่จริงๆ

    การใช้ความรู้สึก กับ การใช้ความคิด ผมคิดว่าต่างกันครับ หากเราใช้ความรู้สึกเป็นเรื่องของอารมณ์ ซึ่งเราจะมีความสุขในทุกการกระทำ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าการกระทำนั้น ดี หรือไม่ดี แต่การใช้ความคิด เป็นเรื่องของเหตุผล แต่อาจจะไม่มีความสุขในการกระทำก็ได้ กระทู้นี้ผมเปิดกว้างไว้มากเพื่อให้เกิดความเรียบง่าย กลับกลายเป็นเรื่องยากไป ต้องขออภัยจริงๆครับ

    ปรับการกระทำความดีให้รู้สึกว่าเหมาะกับอาชีพของเรา ให้รู้สึกว่าง่ายๆ ใครๆก็กระทำได้ และมีความสุขที่ได้กระทำ อยู่ที่ว่าจะกระทำกันหรือเปล่า และกรรมการทั้ง ๓ ท่านก็คงจะหนักใจไปด้วยระหว่างการใช้ความรู้สึก และการใช้เหตุผล คง balance กันยากมากครับ...
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    คืนพรุ่งนี้จะ post ภาพ รางวัลทั้งหมด
     
  12. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ถายถูกในใจไม่ถึง5ข้อเลยครับดีนะที่ไม่ได้ตอบไปอิอิแต่ยังไงว่างๆๆก็จะเข้าไปอ่านหน้าเก่าๆๆนะครับ
    ลืมๆไปเมื่อวานบันทึกความดีผม
    รักษาศีล 5 ได้
    สวดมนต์ไห้วพระ
    ช่วยงานพ่อแม่ขายของ
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หากพิมพ์คำว่า บุญโดยเสด็จพระราชกุศล จะพบกระทู้นี้ก่อนกระทู้อื่นๆ...

    <TABLE id=sft style="CLEAR: both" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="PADDING-RIGHT: 8px">Google[​IMG]

    <TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 7px; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 1px"><TABLE style="MARGIN-TOP: 25px" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD noWrap><INPUT type=hidden value=th name=hl><INPUT title=ค้นหา maxLength=2048 size=68 value=บุญโดยเสด็จพระราชกุศล name=q> <INPUT type=submit value=ค้นหา name=btnG></TD><TD class="nobr xsm" style="PADDING-RIGHT: 6px; PADDING-LEFT: 6px; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px">การค้นหาขั้นสูง
    การตั้งค่า</TD></TR></TBODY></TABLE>ค้นหา: <INPUT id=all type=radio CHECKED value="" name=meta><LABEL for=all> เว็บ </LABEL><INPUT id=lgr type=radio value=lr=lang_th name=meta><LABEL for=lgr> หน้าที่เป็นภาษาไทย </LABEL><INPUT id=cty type=radio value=cr=countryTH name=meta><LABEL for=cty> หน้าของ ประเทศไทย </LABEL></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เว็บ
    ผลการค้นหา 1 - 10 รายการจากประมาณ 7,290 สำหรับคำว่า บุญโดยเสด็จพระราชกุศล (0.26 วินาที)

    <SCRIPT>(function(){var a=document.styleSheets[0],b=a.rules,c=document.getElementById("mbEnd"),d,e=0;a.addRule(".s","width:auto");d=b[b.length-1].style;function f(){d.width=document.body.clientWidth-(c?c.offsetWidth:0)<=588?"auto":"544px"}window.attachEvent("onresize",function(){var g=new Date;if(g-e>100){f();e=g}});f();})()</SCRIPT>ผลการค้นหา

    1. <LI class=g>ร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศลผ่านมูลนิธิพระดาบส - หน้า 14 - PaLungJit.com

      12โพสต์ - 5 ผู้เขียน - โพสต์ครั้งล่าสุด: 17 ก.ย.
      ร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศลผ่านมูลนิธิพระดาบส พระเครื่อง - วัตถุมงคล.
      <CITE>palungjit.org/showthread.php?p=1506072 - 157k - </CITE>หน้าที่ถูกเก็บไว้ - หน้าที่คล้ายกัน
    2. ร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศลผ่านมูลนิธิพระดาบส - หน้า 13 - palungjit.org

      20โพสต์ - 2 ผู้เขียน - โพสต์ครั้งล่าสุด: 26 ส.ค.
      หวังใจว่า หากถึงคราวคับขันในชีวิต ให้ได้เห็นพระฤาษีองค์นี้ก็จะระลึกถึงบุญ โดยเสด็จพระราชกุศลมูลนิธิพระดาบสของพระองค์ท่านทั้ง ๒ พระองค์ ...
      <CITE>palungjit.org/showthread.php?p=1452073 - 247k - </CITE>หน้าที่ถูกเก็บไว้ - หน้าที่คล้ายกัน
      ผลการค้นหาเพิ่มเติมจาก palungjit.org »


    อานิสงค์ของบุญนี้เป็นการเร่งบารมีของตนเองราวติดจรวดเลยทีเดียว ประเภทกำลังบารมีไม่ถึง ทำยาก และได้ผลช้า ควรสร้างบุญโดยเสด็จพระราชกุศลมากที่สุดก่อนบุญประเภทอื่นให้มีเชื้อของกำลังบุญก่อน...
     
  14. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    วันนี้ข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ถวายเงินร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเป็นเงิน 500 บาท ขอให้ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ขอให้มาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ ถวายเงินร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเป็นเงิน 500 บาท ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,ตัวข้าพเจ้าและทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน, ท่านผู้เสกทุกท่าน เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ หากยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าด้วยเทอญ
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บางข้อผมก็ยังทำไม่ได้เลย ต้องพยายามปรับปรุงตัวใหม่

    .
     
  16. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    วันนี้ข้าพเจ้า,ภรรยา ครอบครัว และเจ้าหน้าที่รพ.พัฒนานิคม ได้ถวายเงิน 1,500 บาท เพื่อร่วมในกฐินสามัคคี ณ วัดมะขามโพลง ขอให้ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ขอให้มาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา ครอบครัว และเจ้าหน้าที่รพ.พัฒนานิคม ได้ ได้ถวายเงิน 1,500 บาท เพื่อร่วมในกฐินสามัคคี ณ วัดมะขามโพลง ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,ตัวข้าพเจ้าและทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน, ท่านผู้เสกทุกท่าน เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ หากยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าด้วยเทอญ
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
     
  17. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    วันนี้ internet ที่รพ.ล่มทั้งวัน เพิ่งจะเข้ามาได้นี่เองครับ โชคดีที่กระทู้วิ่งไม่มาก ไม่งั้นตามอ่านตาลายหน้ามืด
    เดี๋ยวเย็นนี้จะพา แม่ยายไปรับประทานอาหาร ให้ท่านได้พักผ่อนหย่อนใจเสียหน่อยครับ ช่วงนี้ดูท่านเพลียๆ จะได้พักบ้าง
    คืนนี้ก็เลยจะไม่ได้เข้ามากระทู้นะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาแอบอ่านตามครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2008
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่ะราวัลของท่านเพชรยังไม่จูงใจพออีกเหรอครับ ชักน่าคิดนะครับ หุ หุหรือว่า ผมต้องไปขอลุงข้างบ้านอารายที่พิเศษของพิเศษมาจูงใจอ่ะปล่าวครับ....งานนี้ต้องไปหลอกตาลุงข้างบ้านก่อนครับ (รางวัลที่ 1ผมกำลังคิดถึง นางพญานครไทยพิมพ์กลาง เนื้อเขียว 2หน้ามีอยู่องค์เดียวอายุ แค่ 700กว่าปีของรักของหวง ครับ) ขอเจรจาและดูผู้ที่ตอบก่อนครับ หุ หุ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย่าลืมรวบรวมไว้ด้วยนะครับ ในช่วงสุดท้าย จะได้นำมาลงอีกครั้งนะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  20. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ความดีที่ทำประจำทุกๆวันของผมเอง ก็คงมีแค่

    1. สวดมนต์ทุกวัน ส่วนใหญ่ก็สวด บูชาพระรัตนตรัย ขอขมาพระรัตนตรัย ไตรสรณคมน์ อิติปิโส พาหุง มหากา แผ่ส่วนกุศล ชินบัญชร โสฬสมงคล คาถาหลวงปู่ทวด มงกุฏพระเจ้า แล้วจบด้วยแผ่เมตตา แต่หากวันใดมีเวลาก็จะสวดยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฏก ร่วมด้วยครับ

    2. นั่งสมาธิทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง วันไหนไม่ติดอยู่เวร ก็นั่งจริงๆจังได้สัก 1 ชั่วโมง โดยประมาณ แต่ถ้าติดอยู่เวร ก็จะนั่งเท่าที่ทำได้ แต่ปกติ กิจกรรมใดก็ตาม หากผมระลึกได้ ก็จะตามดูลมหายใจควบคู่ไปด้วย อย่างตอนเวลาอ่านหรือโพสกระทู้นี้ก็เช่นกันครับ

    3. เจริญพรหมวิหาร 4 ขณะตรวจคนไข้ทุกวัน อันนี้ดีมาก ผมแนะนำให้ทุกๆท่านนำไปใช้กับการงานของตน เดิมทีที่ผมสนใจอยากปฏิบัติใหม่ๆ ผมรู้สึกว่าอาชีพผมคงบุญน้อย จึงไม่ค่อยมีเวลาให้ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ พอว่างก็ง่วงเสียแล้ว แต่เมื่อผมศึกษาเพิ่มขึ้น ทำให้ผมได้ทราบว่าในวิกฤติ(ที่ผมคิดเอง) นั้นซ่อนโอกาสอยู่ นั่นก็คือการเจริญพรหมวิหาร 4 นั่นเองครับ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆอาชีพสามารถนำไปใช้ได้ครับ

    4. ตามอ่านกระทู้นี้ และร่วมอนุโมทนาไปกับ ความเมตตา เจตนา และจิตอันเป็นกุศลของทุกๆท่าน ซึ่งนอกจากได้ความรู้แล้ว การได้อนุโมทนาด้วยความรู้สึกจริงๆแล้ว(ไม่ใช่เพียงแต่การกดปุ่ม) สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับคือ ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นผู้มอบด้วยตนเอง แต่เมื่อผมใช้จิตร่วม เห็นดีเห็นชอบไปด้วยหลายๆครับเข้า จิตผมเองกลับบรรเทาความยึดติด และหวงแหนลง ซึ่งถึงแม้ผมคงลดได้ไม่เท่าผู้ที่มอบด้วยตนเอง แต่ผมว่างานนี้ผมกำไรครับ เพราะผมรู้สึกด้วยตนเองแล้วจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...