พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. kwok

    kwok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +4,239
    ประเดิมก่อน ร่วมทำบุญมหากฐิน 5000 บาทครับ
    โมทนาบุญกับทุกท่านครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับคุณkwok ที่ร่วมทำบุญเป็นท่านแรก ผมมอบพิเศษให้อีก แต่ยังไม่บอกว่ามีอะไรบ้าง ไว้รอชมตอนที่รับพระแล้วนะครับ

    รบกวนส่ง ที่อยู่ให้ผมใหม่อีกครั้งนะครับ ตอนย้ายบ้าน ไม่รู้ใส่กล่องไหนมา ยังไม่ได้รื้อกล่องเลยครับ ขอบคุณครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยังมีพระกรุวังหน้าอยุธยา พิมพ์ซุ้มไทรย้อยอีกองค์ที่ผมต้องส่งให้ด้วยครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมต้องเก็บไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเห็น ว่าสิ่งที่บรรพบุรุธได้สร้างไว้ มีคุณค่ามากอย่างไร

    .
     
  5. kwok

    kwok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +4,239
    ไม่ต้องส่ง ผมไปรับที่ทำงานคุณครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำมาฝากกันช่วงกลางวันครับ

    อาลัวสูตรโบราณ สานตำนานหนึ่งเดียวเมืองเพชร
    http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9510000110258
    [​IMG]โดย ผู้จัดการออนไลน์21 ตุลาคม 2551 09:37 น.[​IMG][​IMG] [​IMG] ขนมอาลัวแม้ต้นกำเนิดแท้จริง จะมาจากประเทศโปรตุเกส แต่เนื่องจากชาวไทยคุ้นเคยกับขนมชนิดนี้มายาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยา ทุกวันนี้ อาลัวจึงกลายเป็นขนมสัญชาติไทยอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว

    สำหรับวิธีการทำขนมอาลัวนั้น ในปัจจุบันทั่วไปหลังกวนส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ขั้นตอนการทำเป็นเม็ดจะใช้ที่แต่งหน้าเค้กบีบแล้วหยอด แต่สำหรับผู้ประกอบการรายหนึ่งใน จ.เพชรบุรี กลับเลือกคงวิธีปั้นด้วยมือ ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมแบบโบราณ แม้จะเสียเวลามาก แต่ก็ช่วยให้ได้ขนมอาลัวที่มีคุณสมบัติเด่น แถมยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เสริมให้กิจการประสบความสำเร็จอย่างสูง

    [​IMG] ลาวัลย์ สังข์นิมิต เจ้าของธุรกิจ “อลัวชาววัง คุณแหม่ม”[​IMG] ลาวัลย์ สังข์นิมิต เจ้าของธุรกิจ ในชื่อเครื่องหมายการค้า “อลัวชาววัง คุณแหม่ม” เล่าว่า สูตรและวิธีทำอาลัวเป็นของคุณยาย ที่ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ โดยทำขายในละแวกบ้านมายาวนาน ซึ่งตัวเธอคุ้นเคย และซึมซับวิธีทำตั้งแต่จำความได้

    [​IMG] [​IMG] สำหรับเคล็ดลับความอร่อยของอาลัวโบราณ มาจากส่วนผสมใช้วัตถุดิบเกรดเอ ไม่ว่าจะเป็นแป้งสาลี น้ำตาล และกะทิ ไม่ใส่สารกันบูดหรือกันเสียใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนขั้นตอนเคี่ยววัตถุดิบให้เข้ากันจะใช้เตาถ่าน ช่วยให้มีกลิ่นหอมมากกว่าเคี่ยวด้วยเตาแก๊ส และที่สำคัญปั้นเป็นเม็ดด้วยมือ ซึ่งจะทำให้เนื้อขนมมีเปลือกบางกรอบ เมื่อใส่เข้าปากแล้วแทบจะสลายไปในทันที ส่วนเนื้อในนุ่มหนึบ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวจะหาไม่ได้หากทำโดยใช้ที่บีบเค้ก เพราะจะทำให้เปลือกนอกแข็งและหนา

    “วิธีปั้นด้วยมือทั้งยาก และเสียเวลามาก เทียบกับใช้ที่บีบเค้ก หากปั้นด้วยมือ ครึ่งชั่วโมงจะทำได้แค่ 1 ถาด หรือประมาณ 480 เม็ด ขณะที่ใช้ที่บีบเค้กเวลาเท่ากัน จะทำได้กว่า10 ถาด นอกจากนั้น การปั้นด้วยมือ ยังมีต้นทุนด้านแรงงานสูงมาก” ลาวัลย์ อธิบาย

    [​IMG] ใช้เทคนิคโบราณ ปั้นด้วยมือ[​IMG] อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีข้อด้อยต่างๆ ทว่า ด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นผู้ผลิตรายเดียวใน จ.เพชรบุรีที่อนุรักษ์วิธีโบราณเช่นนี้ ช่วยให้สินค้าได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้า ยอดขายเฉลี่ยประมาณ 10,000 กล่องต่อเดือน แถมยังได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอปเด่นประจำจังหวัด

    ทั้งนี้ “อลัวชาววัง คุณแหม่ม” มีทั้งหมด 5 สี ประกอบด้วยสีขาวต้นตำรับ สีเขียวจากผสมใบเตย สีน้ำตาลจากผสมโกโก้ สีชมพูจากสีผสมอาหาร และสีน้ำเงินจากผสมอัญชัน สามารถเก็บไว้กินได้นาน 2 สัปดาห์ ราคาขายขนาด 250 กรัม จำนวน 88 เม็ด ขายส่งที่ 35 บาท ส่วนขายปลีก 40-45 บาท (แล้วแต่ตัวแทนจำหน่าย) โดยเฉลี่ยเหลือกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 7 บาทต่อกล่อง ด้านช่องทางจำหน่ายผ่านร้านขายสินค้าที่ระลึกใน จ.เพชรบุรี และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึง มีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ เป็นต้น

    [​IMG] นำไปตากแดด[​IMG] ณ ปัจจุบัน ผู้ประกอบการขนมไทยรายนี้ นับว่าประสบความสำเร็จระดับน่าชื่นใจ ทว่า ก่อนจะมีวันนี้ ลาวัลย์เล่าให้ฟังว่า ระยะแรกที่มารับช่วงจากคุณยาย เมื่อปี 2539 ค่อนข้างลำบากมาก เพราะขายแค่ในตลาดสดเมืองเพชรบุรี ยอดขายไม่สูงนัก แค่หลักร้อยบาทต่อวัน

    กระทั่ง เมื่อเวลาผ่านไป เริ่มเกิดกระแสบอกปากต่อปากช่วยให้ยอดขายดีขึ้นโดยลำดับ และเมื่อได้รับคัดเลือกเป็นโอทอปประจำจังหวัด มีโอกาสออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ช่วยเปิดตลาดสู่วงกว้าง ยอดขายจึงดีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

    [​IMG] การตากแดด ช่วยให้อาลัวสีเงาวาว[​IMG] ลาวัลย์ เผยว่า ขณะนี้พยายามให้ความสำคัญกับการสร้างมาตรฐานสินค้า เช่น จดเครื่องหมายการค้าเรียบร้อยแล้ว รวมถึง ขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างอาคารผลิตสินค้า จนผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างขอเครื่องหมายองค์การอาหารและยา (อย.) ต่อไป

    [​IMG] ขั้นตอนส่วนใหญ่ยังทำโดยแรงงานคน[​IMG] ด้านปัญหาธุรกิจนั้น เธอชี้ไปที่กำลังการผลิต ขณะนี้มีพนักงาน 12 คน ยังไม่ทันต่อความต้องการของตลาดที่สูงเกินจะรองรับได้ 2-3 เท่าตัว นอกจากนั้น จากผลกระทบจากราคาวัตถุดิบหลักปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล และแป้ง ทำให้จำเป็นต้องปรับราคาขายขึ้น จากเดิมส่ง กล่องละ 25 บาทเป็น 35 บาทในปัจจุบัน

    [​IMG] นำเข้าตู้อบ[​IMG] ลาวัลย์ ทิ้งท้ายว่า อนาคตอาจจำเป็นต้องนำเครื่องจักรมาใช้บ้าง เพื่อแบ่งเบาภาระการผลิต เช่น ขั้นตอนการกวนส่วนผสม เป็นต้น อย่างไรเสีย จะไม่ยอมทิ้งจุดเด่นการอนุรักษ์สูตรและวิธีทำขนมอาลัวโบราณไป เพราะถือเป็นจุดขายที่ลูกค้าชื่นชอบ และจดจำได้อย่างดี

    [​IMG] [​IMG] เปิดครัววิธีทำอาลัวโบราณนำส่วนผสมระหว่างแป้งสาลี และน้ำตาลมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่น้ำกะทิลงไป เคี่ยวส่วนผสมบนเตาถ่านร้อนจัดประมาณ 1 ชั่วโมง จนส่วนผสมต่างๆ เข้ากันเป็นเนื้อเดียว พักไว้สักครู่ นำมาปั้นและหยอดด้วยมือ จากนั้นนำไปตากแดด ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ขนมเกิดสีเงาวาวสวยงามน่ากิน ขั้นตอนต่อไปนำไปเข้าเตาอบ 4-6 ชั่วโมง และสุดท้าย บรรจุกล่องพร้อมจำหน่าย

    ***********

    โทร.032-401-878 , 081-757-4311
     
  8. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    เดือนนี้เงินหมด แต่เป็นหน้าใหม่อยากร่วมขบวนบุญด้วยคน ขอร่วมด้วย 1000 บาท พรุ่งนี้โอนแล้วจะบอกนะคะ มีบุญมาให้ช่วยอนุโมทนาด้วยค่ะ พอดีไปตระเวนอิสานมาเมื่อ 17-19 ที่ผ่านมา

    1.วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี ท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก
    ร่วมทำบุญกฐินและถวายวัด 3000 บาท
    [​IMG]
    2.วัดป่าภูก้อน อุดรธานี ร่วมสร้างวิหารที่ประดิษฐานพระหินอ่อน 2000 บาท
    [​IMG]

    3.วัดอรัญบรรพต หนองคาย ร่วมทำบุญสร้างเมรุพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ 1500 บาท

    4.วัดหินหมากเป้ง หนองคาย ร่วมทำบุญ 200 บาท

    5.วัดนิโรธราราม หนองคาย ร่วมบุญ 1000 บาท

    6.วัดพระธาตุบังพวน หนองคาย ร่วมบุญ 200 บาท
    [​IMG]

    7.วัดป่าสีห์พนม สกลนคร หลวงปู่บุญมา คัมภีร์ธัมโม ร่วมทำบุญกฐินและถวายวัด 2000 บาท

    8.วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร ร่วมบุญมูลนิธิหลวงปู่มั่น 600 บาท

    9.วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร ร่วมบุญกฐินและถวายวัด 2000 บาท

    10.วัดป่าวิเวกวัฒนาราม มุกดาหาร ร่วมบุญหลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดนี้มีพระธาตุเยอะมากๆเป็นอ่างเลยค่ะ และมีลูกแก้วพญานาคสัณฐานดอกบัวใหญ่มาก

    11.สำนักชีบ้านห้วยทราย มุกดาหาร ร่วมบุญคุณย่าแม่ขีแก้ว อรหันตสีวิกาองค์แรกของกรุงรัตนโกสินทร์ 500 บาท
    [​IMG]

    12.วัดภูก้อจ้อหรือบรรพตคีรี มุกดาหาร ร่วมบุญหลวงปู่หล้า เขมปัตโต

    13.พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดพระเจดีย์ชัยมงคล ต. ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เจดีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กว้างและยาว ๑๐๑ เมตร
    [​IMG]

    ใหญ่โตอลังการมากๆ
    [​IMG]

    14.วัดถ้ำผาบิ้ง วังสะพุง เลย ร่วมบุญกฐิน 5000 บาท
    [​IMG]

    [​IMG]
    "วัดถ้ำผาบิ้ง" หรือสำนักสงฆ์ผาบิ้งแห่งนี้ ถ้าจะนับอายุแล้ว มีอายุยาวนานมากกว่าร้อยปี ในอดีตเป็นสถานที่พระเกจิอาจารย์ในภาคอีสานที่โด่งดัง อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และอีกมากมาย ที่พากันเดินธุดงควัตรผ่านจังหวัดเลย ขึ้นไปทางภาคเหนือ จะพักปฏิบัติธรรมที่วัดถ้ำผาบิ้งแทบทั้งสิ้น

    15.วัดป่าสัมมานุสรณ์ วังสะพุง เลย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    [​IMG]

    16.วัดถ้ำกลองเพล หนองบัวลำภู หลวงปู่ขาว อนาสโย


    [​IMG]

    17.วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี ร่วมบุญสงเคราะห์โลก 1000 บาท

    18.วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ร่วมบุญ1000 บาท


    [​IMG]

     
  9. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ชุดนี้ใครพลาดจะต้องเสียใจครับ หุหุ สุดๆจริงๆ
     
  10. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ขอบพระคุณพี่หนุ่มที่ช่วยนำมาชวนพี่น้องให้ได้ร่วมบุญกันครับ ขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่งครับ
    เฮ้อ...ใจบุญอย่างนี้ล่ะครับ ท่านถึงได้มอบหน้าที่สำคัญมาให้ นับถือๆ;aa19
     
  11. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
     
  12. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    เรียน ท่านเพชร
    ขอร่วมบุญซื้อผ้า "ไฉไบ๊" เพิ่มเติมอีก จำนวน 300 บาท ครับ
    โอนผ่าน ATM วันที่ 21/10/2551 เวลา 12:58 น. acc:0402259996 ครับ
    โมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ
     
  13. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    แต่ก่อนผมไม่เคยพิมพ์คำว่า หุหุ เลยนะครับ สงสัยผมจะติดคุณ nongnooo สะแล้วนิครับนี่
     
  14. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    โธ่! น้องเท่ห์ดีครับ ผมก็ติดมาจากท่านปาทานครับ หุ หุ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ระวัง ใช้โทรศัพท์มือถือผื่นอาจขึ้นหน้า!!


    [​IMG]
    แพทย์ผู้ชำนาญโรคผิวหนังเมืองผู้ดีอังกฤษประกาศเตือน การใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไปอาจจะเป็นต้นตอของผื่นคันที่เกิดขึ้นบนหูหรือแก้มที่ไม่ทราบสาเหตุ ตั้งชื่อเล่นให้โรคนี้แล้วว่า "mobile phone dermatitis" หรือโรคผิวหนังอักเสบโทรศัพท์เคลื่อนที่

    สมาคมแพทย์ผิวหนังอังกฤษหรีอ British Association of Dermatologists
    เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าโรคผิวหนังอักเสบโทรศัพท์เคลื่อนที่นี้จะมีลักษณะเป็นผื่นแดงและมีอาการคัน อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่แพ้สารนิกเกิลหรือโลหะทองแดงซึ่งเคลือบไว้ที่ผิวหน้ากากโทรศัพท์มือถือ เมื่อผู้ที่แพ้สารเหล่านี้ใช้โทรศัพท์มือถือแนบกับใบหูและแก้มเป็นเวลานาน ก็จะมีโอกาสสูงที่จะเกิดผื่นคันขึ้นบริเวณจุดสัมผัส


    "
    งานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อแพทย์ผิวหนัง เพราะสามารถนำไปตั้งเป็นข้อสันนิษฐานได้หากพบคนไข้ที่มีผื่นคันบริเวณใบหูและแก้มโดยไม่ทราบสาเหตุ" สมาคมแพทย์อังกฤษกล่าว โดยบอกว่าแพทย์จำนวนมากยังไม่ทราบว่าโทรศัพท์มือถืออาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้

    [​IMG]
    เช่นเดียวกัน ผู้บริโภคก็สามารถสังเกตตัวเองเพื่อรักษาความปลอดภัย ในยุคสมัยที่ผู้คนต้องใช้โทรศัพท์มือถือในการสื่อสารทุกวันเช่นนี้ โดยผดผื่นคันคือการเตือนภัยรูปแบบใหม่รองจากโรคมะเร็งในสมอง ที่ยังเป็นเรื่องถกเถียงกันในหมู่นักวิจัยว่ามีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจริงหรือไม่


    ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ต้องระวัง เพราะนิ้วเองก็ต้องระวังด้วย

    "
    ในโรคผิวหนังอักเสบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผื่นคันจะเกิดบนใบหูหรือแก้มที่สัมผัสกับโลหะบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโดยทางทฤษฎีแล้ว ผื่นคันก็มีโอกาสเกิดขึ้นบนนิ้วของคนที่พิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์มือถือผ่านปุ่มโลหะเป็นเวลานานๆด้วย" งานวิจัยระบุ

    นอกจากโทรศัพท์มือถือ นิกเกิลเป็นโลหะที่ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ประเภทจิวเวอรีเครื่องประดับเพชรพลอยและหัวเข็มขัด ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยมีอาการแพ้จากสินค้าเหล่านี้ และอาการแพ้ก็มีลักษณะเป็นผดผื่นแดงบริเวณจุดสัมผัสเช่นเดียวกัน


    [​IMG]
    ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอังกฤษได้ทดสอบโทรศัพท์มือถือยอดนิยมราว 22 รุ่นในท้องตลาดจาก 8 ผู้ผลิตทั่วโลก พบว่ามีสารนิกเกิลในโทรศัพท์มือถือมากกว่า 10 รุ่น ถือเป็นสัดส่วนที่ทำให้ควรมีการให้ความรู้กับผู้บริโภคอย่างทั่วถึง


    ทราบอย่างนี้แล้วเพื่อน ๆ ที่นี่ก็ควรใช้มือถือแต่พอดี ๆ ใช้เท่าที่จำเป็นนะคะ เพราะนอกจากจะเปลืองค่าโทรศัพท์แล้ว ยังอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังอักเสบโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยค่ะ


    ที่มา : Bangkokhealth

     
  17. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ~~~โรคเลือดจางธาลัสซีเมียคืออะไร~~~

    โรคเลือดจางธาลัสซีเมียเป็นโรคหนึ่งที่เกิดจากการที่ร่างกายมีหน่วย พันธุกรรมหรือยีนผิดปกติ

    สำหรับการสร้างส่วนของเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย โรคนี้เป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พ่อ และแม่จะเป็นผู้ถ่ายทอดยีนผิดปกตินี้ไปยังลูกพบผู้ป่วยเป็นโรคนี้ ได้ทั่วโลก ในประเทศไทย มีผู้ป่วยโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ประมาณร้อยละ 1 ของประชากรและพบผู้ที่ยีนแฝง(พาหะ) ประมาณร้อยละ 40 ของประชากร

    [​IMG] ผู้ที่เป็นพาหะหรือมียีนแฝงธาลัสซีเมียเป็นอย่างไร

    ผู้ที่เป็นพาหะหรือผู้ที่มียีนแฝงของธาลัสซีเมียอยู่ในตัว จะเป็นบุคคล
    ที่มีสุขภาพดีเหมือนคนทั่วไป แต่สามารถถ่ายทอดยีนผิดปกติไปยัง
    ลูกได้ ตามแบบแผนการถ่ายทอดของยีน

    [​IMG] ทำอย่างไรเมื่อพบว่าคุณเป็นพาหะของโรค

    เมื่อคุณตรวจเลือดพบว่ามียีนแฝงธาลัสซีเมีย ก็ไม่ได้หมายความว่า
    คุณจะแต่งงานไม่ได้ ก่อนจะแต่งงานชวนคู่ของคุณไปตรวจเลือด
    หายีนธาลัสซีเมีย ปรึกษาและรับคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อหลีก
    เลี่ยงโอกาสเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

    แต่ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์และตรวจเลือดพบว่ามียีนธาลัสซีเมีย ควร
    รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อแพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยทารกในครรภ์
    ก่อนคลอด เพื่อหลีกเลี่ยงการมีลูกเป็นเลือดจางธาลัสซีเมีย และ
    วางแผนในการมีลูกคนต่อไป

    [​IMG] เด็กที่เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย จะมีอาการอย่างไร

    เด็กที่เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย จะมีอาการ ซีด ตาเหลือง
    ตัวเหลือง ตับโต ม้ามโต แคระแกรน หน้าตาอาจเปลี่ยนแปลง
    จมูกแบน ฟันบนยื่นและท้องป่อง ร่างกายเติบโตช้ากว่าปกติ
    กระดูกเปราะหักง่าย จะเจ็บป่วยบ่อยๆ ทำให้ขาดเรียนเป็นประจำ
    ทั้งยังเป็นภาระของครอบครัว เพราะจะต้องเสียเงินค่าดูแลรักษา
    พยาบาลไปอีกนาน เพราะโรคนี้รักษายาก

    [​IMG] โรคเลือดจางธาลัสซีเมียแบ่งได้เป็นหลายชนิด

    ชนิดรุนแรงมาก ทำให้ทารกตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์

    ชนิดที่ทำให้ผู้ป่วยซีดมากต้องได้รับเลือดประจำ

    บางชนิดแทบไม่มีอาการผิดปกติ เพียงซีดเล็กน้อย

    [​IMG] ลูกของคุณมีโอกาสเสี่ยงแค่ไหนต่อการเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

    กรณีที่ 1

    กรณีที่ 1 ถ้าคุณและคู่ของคุณเป็นพาหะหรือมียีนแฝงทั้ง 2 คนในการ
    ตั้งครรภ์แต่ละครั้ง ลูกของคุณมีโอกาส

    เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ร้อยละ 25

    มียีนแฝงร้อยละ 50

    ปกติ ร้อยละ 25

    กรณีที่ 2

    ถ้าคุณและคู่ของคุณมียีนแฝงคนใดคนหนึ่ง ในการตั้งครรภ์แต่
    ละครั้ง ลูกของคุณมีโอกาส

    มียีนแฝง ร้อยละ 50

    ปกติ ร้อยละ 50

    กรณีที่ 3

    ถ้าคุณหรือคู่ของคุณ เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมียคนใดคนหนึ่ง อีก
    คนปกติ ในการตั้งครรภ์ทุกครั้ง ลูกของคุณทุกคนจะมียีนแฝง หรือ
    เท่ากับ ร้อยละ 100

    กรณีที่ 4

    ถ้าคุณหรือคู่ของคุณเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย คนใดคนหนึ่งและ
    อีกคนมียีนแฝง ในการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง ลูกคุณมีโอกาส

    เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ร้อยละ 50

    มียีนแฝงร้อยละ 50

    [​IMG] จะทราบอย่างไรว่า คนที่เราแต่งงานด้วยมียีนแฝงหรือไม่

    ผู้ที่มียีนแฝงของโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย จะมีร่างกายแข็งแรงและ
    มีสุขภาพดี เหมือนบุคคลทั่วไป ซึ่งมองภายนอก คุณจะไม่รู้เลยว่า
    บุคคลนั้นมียีนแฝงหรือไม่

    คุณอาจสืบประวัติครอบครัวดูว่ามีใครบ้างที่ที่เป็นโรคนี้ ถ้าพบว่า มี
    ลูกคนใดคนหนึ่งเป็นโรคนี้ นั่นแสดงว่า พ่อ-แม่จะต้องมียีนแฝงทั้ง
    2 คน ถ้าคนที่คุณจะแต่งงานด้วยเป็นลูกของครอบครัวนี้ คนรัก
    ของคุณ อาจมียีนแฝงได้

    ดังนั้นมีทางเดียวที่คุณจะรู้ได้ คือ ชวนคู่รักของคุณไปตรวจเลือด
    เสียค่าตรวจเพียงเล็กน้อย ถ้าผลเลือดที่ตรวจ พบว่า คู่รักของคุณ
    มียีนแฝงคุณยังมีทางเลือกที่จะ ไม่ให้ลูก เป็นโรคเลือดจาง ธาลัส
    ซีเมียได้ (อย่าลืมตรวจเลือดตัวเองด้วย)

    [​IMG] ผู้มียีนแฝงจะแต่งงาน มีลูกได้หรือไม่

    แม้จะพบว่า คุณเป็นพาหะ ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะแต่งงาน
    ไม่ได้ ก่อนวันแต่งงาน ชวนคู่ของคุณ ไปตรวจเลือดหายีนธาลัส
    ซีเมีย ปรึกษาและรับคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาส
    ที่จะมีลูก เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

    เพราะผู้ที่มียีนแฝง สามารถถ่ายทอดโรคนี้ไปสู่ลูกได้ ดังนั้นคุณและ
    คู่ของคุณ จึงควรวางแผน ก่อนมีลูก แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าควร
    มีลูกได้หรือไม่

    [​IMG] เมื่อเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร

    แม้ว่าโรคนี้ยังรักษาให้หายขาดได้ยาก ผู้ที่เป็นโรคนี้ ไม่ควรตื่น
    ตกใจ เพราะบางรายอาจมีอาการ ไม่รุนแรง การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
    จะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้ตามปกติ ดังนั้นจึงควรปฏิบัติดังนี้

    - รับประทานผักสด ไข่ นม หรือ นมถั่วเหลืองมากๆ

    - ดื่มน้ำชาหลังอาหาร เพื่อลดการดูดซึมธาตุเหล็ก

    - ควรตรวจฟัน ทุก 6 เดือน เนื่องจากฟันผุง่าย

    - หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก หรือ การเล่น รุนแรง

    - งดดื่มสุรา หรือ ของมึนเมา

    - ถ้ามีอาการปวดท้องที่บริเวณชายโครงขวาอย่างรุนแรง มีไข้
    และตาขาวมีสีเหลืองมากขึ้น ควรไปพบแพทย์

    - ผู้ป่วยโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ห้าม! กินยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก

    [​IMG] ผู้ที่เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมียมีโอกาสหายหรือไม่

    ผู้ป่วยโรคนี้ที่ยังอายุน้อยและไม่มีโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง ตับม้าม
    ไม่โตมาก ถ้ามีพี่หรือน้อง ที่มีเม็ดเลือดขาวที่เข้ากันได้ ก็อาจจะ
    พิจารณาการปลูกถ่ายไขกระดูกทำให้หายจากโรคนี้ได้
     
  18. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ~~~ไส้ติ่งของเรามีหน้าที่อะไร?~~~~

    ไส้ติ่งของเรามีหน้าที่อะไร?

    เป็นเวลาหลายปีที่เชื่อกันว่าไส้ติ่งนั้นมีหน้าที่ในทางสรีรศาสตร์น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเราพบว่าไส้ติ่งทำหน้าที่สำคัญในฟีตัส และผู้ใหญ่ที่อายุน้อย เซลล์คัดหลั่ง (endocrine cell) ที่อยู่ในไส้ติ่งของฟีตัสจะปรากฏขึ้นเมื่อฟีตัสมีอายุประมาณ 11 เดือน เซลล์ในไส้ติ่งของฟีตัสเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่า มีการผลิตสารเอมีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต (biogenic amines) มากมาย และฮอร์โมนพวกเพปไทด์ (peptide hormones) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยในควบคุมกระบวนการทางชีวภาพต่างๆ (homeostasis) และยังมีหลักฐานเล็กน้อยที่แสดงถึงบทบาทอื่นๆ ของไส้ติ่งในการวิจัยสัตว์ เนื่องจากเราจะไม่พบไส้ติ่งในสัตว์เลี้ยง

    [​IMG]
    ในผู้ใหญ่ ปัจจุบันเชื่อว่าไส้ติ่งเกี่ยวข้องกับหน้าที่ทางภูมิคุ้มกัน

    เนื้อเยื่อน้ำเหลือง (lymphoid tissue) เริ่มมีการสะสมในไส้ติ่งในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากเกิด โดยจะมีปริมาณมากที่สุดระหว่างอายุประมาณ 20-30 ปี หลังจากนั้นก็ลดลงอย่างรวดเร็วจนหายไปหลังจากอายุเกิน 60 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการเติบโต ไส้ติ่งมีหน้าที่เป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับน้ำเหลือง ซึ่งช่วยให้ B lymphocyte พัฒนาได้เต็มที่ (B lymphocyte เป็นเม็ดเลือดขาวประเภทหนึ่ง) และช่วยในการผลิตแอนติบอดีประเภท immunoglobulin A (IgA)อีกด้วย นักวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าไส้ติ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตโมเลกุลที่ช่วยกำกับการเคลื่อนที่ของ lymphoidcyte ในหลายๆ ที่ของร่างกาย

    [​IMG]ภาพตัดขวางของไส้ติ่ง
    ในเรื่องนี้ หน้าที่ของไส้ติ่งจะช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวพบกับสารแปลกปลอม (antigen) ที่อยู่ตามในทางเดินอาหาร

    ดังนั้น เป็นไปได้ว่าไส้ติ่งจะช่วยระงับผลของแอนติบอดีในการทำลายสารแปลกปลอมเหล่านั้น แต่จะสร้างภูมิคุ้มกัน (local immunity)ขึ้นมาแทน โครงสร้างขนาดเล็กที่มีลักษณะคล้ายไส้ติ่งที่เรียกว่า Peyer's patches ในพื้นที่ส่วนอื่นของทางเดินอาหารจะดึงแอนติเจนกลับจากลำไส้ในปริมาณหนึ่งและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของแอนติเจนเหล่านั้น ระบบภูมิคุ้มกันแบบนี้มีบทบาทสำคัญทางด้านการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในทางสรีรศาสตร์และในการควบคุมสิ่งแปลกปลอมเช่น อาหาร ยา จุลินทรีย์ และไวรัส (ถ้าปล่อยให้แอนติบอดีทำลายสิ่งแปลกปลอม สิ่งที่เรากินเข้าไปจะถูกทำลายทั้งหมด) ความเชื่อมโยงระหว่างปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันนี้กับโรคสำไส้อักเสบ (inflammatory bowel diseases) เช่นเดียวกับปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันที่ทำลายตัวเองยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา

    ในอดีต ไส้ติ่งมักจะได้รับการผ่าออกและทิ้งไปเสมอ

    เพื่อป้องกันความเป็นไปได้ใน การเกิดโรคไส้ติ่งอักเสบ (appendicitis) แต่ในปัจจุบัน ไส้ติ่งจะถูกเก็บไว้ใช้ในกรณีมีการผ่าตัดตกแต่งเมื่อกระเพาะปัสสาวะถูกผ่าออก ในการผ่าตัดดังกล่าว ส่วนของลำไส้จะใช้ทำเป็นกระเพาะปัสสาวะและไส้ติ่งจะนำมาทำกล้ามเนื้อหูรูด (sphincter muscle) ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถกลั้นน้ำปัสสาวะได้ นอกจากนั้น ไส้ติ่งยังนิยมใช้แทนท่อปัสสาวะชั่วคราวอีกด้วย ซึ่งจะปล่อยน้ำปัสสาวะไหลจากตับไปยังกระเพาะปัสสาวะอีกด้วย จะเห็นได้ว่า ไส้ติ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในเทคการผ่าตัดตกแต่งหลายๆ แบบ และจะไม่ถูกตัดทิ้งจนกว่าจะเกิดอาการอักเสบ
     
  19. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ~~~อาหารอะไร ทำให้ปวดหัว ~~~
    [​IMG]
    อาการ ปวดหัวของบางคนจะกำเริบทันทีถ้าทานอาหารที่มีสารไทรามีน (Tyramines) และ นิไทรต์ (Nitrite) เข้าไป

    เพราะร่างกายของคนๆ นั้นมีความไวต่อสาร 2 ตัวนี้ พอได้รับปุ๊บก็จะทำให้ระบบประสาทและหลอดเลือดหดตัวทันที อาหารที่มีสาร 2 ชนิดนี้อยู่มากก็คือ

    1. ช็อกโกแลต โดยเฉพาะคนที่เป็นไมเกรน ทานเมื่อไรเป็นได้เรื่องทุกที ยกเว้นช็อกโกแลตขาวซึ่งมีนมเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่า

    2. กุนเชียงและเนื้อแดดเดียว เพราะสีแดงของอาหาร 2 ชนิดนี้ มาจากการเติมดินประสิวลงไป โดยไม่รู้ว่าดินประสิวนี่ละมีสาร Nitrite ระดับตัวแม่เลย

    3. ลูกชิ้นเด้ง ไม่ ใช่ทุกร้าน แต่ก็เป็นส่วนใหญ่ที่คนทำลูกชิ้นจะใส่สารบอแร็กซ์ลงไปด้วยเพื่อช่วยให้ลูก ชิ้นเด้งดึ๋งได้ดีขึ้น ทั้งๆ ที่บอแร็กซ์เป็นสารก่อมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขก็เตือนอยู่โครมๆ ว่าไม่ให้ใส่

    4. สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ผลการวิจัยว่าคนที่เป็นไมเกรนจะปวดหัวเมื่อกินสารชนิดนี้

    5. ไวน์แดง ในไวน์ก็มีไทรามีน กับนิไทรต์ ไม่น้อยนหน้าใครเหมือนกัน ฉะนั้นไม่ดื่มได้ล่ะดี

    นอกจากนี้สำหรับคนที่ปวดหัวเพราะไมเกรน ยังต้องเลี่ยงอาหารต่อไปนี้ด้วย

    - ช็อกโกแลต เนย ถั่ว เนยถั่ว ฮอทดอก
    - เนื้อย่าง เนื้อที่ใส่เครื่องเทศมากๆ อาหารมันๆ ซีอิ๊ว ผงชูรส เนื้อวัว
    - น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
    - ส้ม กล้วย ลูกพรุน สับปะรด
    - ยาแก้โรคความดัน ยารักษากระเพาะ Cimetidine ยาคุมกำเนิด
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ข้อความนี้ผิดหลักการของพุทธพาณิชย์....

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ (ปกติต้องถ่ายให้เห็นจะๆ เพราะไม่เช่นนั้น ใครจะเชื่อถือ)


    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ (ปกติเขาต้องง้อกันมาก แบบพูดเอาใจจนเรียกว่าแทบจะอุ้มกันไปเลย แบบ hard sell ไม่ค่อยเห็นกัน)

    ----------------------------------------------

    หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้ (ปกติจะต้องดูตำหนิพิมพ์ทรงตามมาตรฐานพระเครื่องของแต่ละสำนัก และเน้นซื้อง่ายขายคล่อง ขายไม่ออกแบบนี้ ยังมาป่าวประกาศแบบนี้กันได้)

    หมายเหตุ 1 พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้ (ปกติจะต้องดูตำหนิพิมพ์ทรงตามมาตรฐานพระเครื่องของแต่ละสำนัก และเน้นซื้อง่ายขายคล่อง ขายไม่ออกแบบนี้ ยังมาป่าวประกาศแบบนี้กันได้)
     

แชร์หน้านี้

Loading...