พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของการสมัคร Premium member ก็ยังไม่ทราบว่า ต้องสมัครทุกๆคนที่ตั้งกระทู้(ทั้งการซื้อ-ขาย ,การทำบุญฯลฯ) หมวดพระเครื่อง ซึ่งอยู่ด้านหน้าของหมวดพระเครื่องหรือไม่ และจะทราบได้อย่างไรว่า ไม่มีการเลือกปฎิบัติ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ksriuta [​IMG]
    ผมเห็นว่ากระทู้นี้ไม่ได้เป็นพุทธพาณิชย์ ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นสมาชิก premium แต่อย่างใดครับผม น่าจะย้ายไปห้องประชาสัมพันธ์ครับ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีกระทู้อื่นตามไปด้วยเยอะนะครับ
    แต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะย้ายให้ทั้งกระทู้หรือต้องไปตั้งกระทู้ใหม่นะครับ



    ขอบคุณทุกๆความเห็น (ทั้งที่ผมอ้างอิงมาและไม่ได้อ้างอิงมา)

    ผมเองคงจะนำเรื่องนี้ ไปคุยกับพี่ใหญ่อีกครั้ง แต่ผมเองเดาใจพี่ใหญ่ว่า น่าจะให้ย้ายห้องครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพระพิมพ์ที่มอบเพิ่มให้ จะเขียนว่า ต. หรือ อ. และมีเลข 7

    ต. คือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    อ. คือหลวงปู่อิเกสาโร

    7 คือ ผมขอพระเมตตาหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่ทวด อธิษฐานจิตเพิ่ม เป็นการชาร์ทพลังอิทธิคุณให้เพิ่มมากขึ้นครับ

    ดูมากๆ ระวังนะครับ ระวังตาอักเสบครับ


     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระพิมพ์หรือวัตถุมงคลในยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 99 สร้างออกมาจากโรงงานทั้งนั้น ยากที่จะสร้างขึ้นมาเอง แต่การสร้างที่โรงงาน การควบคุมให้สร้างตามปริมาณที่กำหนด เป็นไปได้ยาก

    เมื่อสร้างออกมาจากโรงงาน จะไปที่วัด หรือข้างถนน หรือยักยอกไว้กับคณะกรรมการผู้สร้าง หรือผู้ที่ติดต่อ นั้นเป็นอีกประเด็น

    การนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ก็เป็นอีกประเด็นเช่นกัน อาจจะนำของเสริมเข้าพิธีก็เป็นไปได้ แต่หากพระผู้เสก มรณภาพ ก็อาจจะมีลูกศิษย์หรือคณะกรรมการวัด นำพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลใส่ไว้ในโลง ซึ่งหลังจากนั้นก็นำออกมาให้เช่าเพื่อทำบุญหรือขาย ผลประโยชน์ก็แบ่งกันระหว่างผู้ขายกับทางวัด ก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน

    หรือของเสริมอาจจะไม่ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษก แต่เมื่อพระที่นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเรียบร้อยแล้ว ทางกลุ่มบุคคลก็อาจจะเก็บไว้ และนำของเสริมที่ไม่ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษก นำออกมาให้เช่าเพื่อทำบุญ หรือขาย ก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน

    ทั้งหลายทั้งปวงนั้น การกระทำในทุกๆอย่าง ย่อมหนีกรรมไปไม่พ้น วันนี้ยังมีความสุขดี เนื่องจากผลกรรมดีในอดีตและปัจจุบันส่งผลให้ แต่หากวันนึงที่ผลกรรมชั่วในอดีตและปัจจุบันส่งผลให้ ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมไป ดังเช่นตัวอย่างที่ผมเห็นในปัจจุบัน ซึ่งพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ หลายๆท่านได้รับทราบจากผมครับ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ศูนย์ ประชาสัมพันธ์

    เปิดอ่าน: 5,635 [​IMG] ประกาศ: กรุณาอ่าน ก่อนตั้งกระทู้ประกาศ และ ก่อนทำบุญ ศูนย์ประชาสัมพันธ์
    18-07-2006 WebSnow (เว็บมาสเตอร์ (วีระชัย))


    http://palungjit.org/announcement.php?f=7&a=29

    18-07-2006 until 18-08-2009 [​IMG] WebSnow
    เว็บมาสเตอร์ (วีระชัย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2003
    สถานที่: London, England
    อายุ: 33
    ข้อความ: 6,456
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,603
    ได้รับอนุโมทนา 47,616 ครั้ง ใน 4,300 โพส
    พลังการให้คะแนน: 50000 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    กรุณาอ่าน ก่อนตั้งกระทู้ประกาศ และ ก่อนทำบุญ ศูนย์ประชาสัมพันธ์
    ศูนย์ประชาสัมพันธ์ เป็นที่สาธารณะสำหรับ ให้สมาชิกทั่วไป ลงประกาศต่างๆเพื่อให้สาธารณะได้ทราบ และแบ่งตามเป็นหมวดหมู่ที่จัดไว้
    จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้ช่วยเหลือสังคม บุญใดที่ท่านทำเราขออนุโมทนา

    ถ้าบางกระทู้ประกาศ ประเภทมีการหลอกลวง ทางเว็ปพลังจิตจะไม่รับผิดชอบ
    เนื่องจากว่า ข้อความประกาศต่างๆเขียนขึ้นโดยสมาชิกทั่วไปในสาธารณะ
    การที่จะทำบุญอะไรต่างๆ ขอให้ท่านพิจารณาและตรวจสอบด้วยตัวท่านเอง
    หลายๆงานบุญที่ผ่านมาได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
    จากอดีตที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน ยังไม่มีกระทู้ประเภทหลอกลวงเกิดขึ้น
    ถ้าใครพบเบาะแสว่ากระทู้ไหนหลอกลวงกรุณาแจ้ง ผู้ดูแล เพื่อทำการลบและแบน user nameและจะดำเนินตามกฏหมายบ้านเมือง
    ข้อแนะนำในการตั้งกระทู้ประกาศ
    1. ควรเลือกหมวดให้ ตรงกับกระทู้ที่จะประกาศ ถ้าไม่มีหมวดไหนตรง ก็ให้ประกาศที่หน้าแรก
    ทั้งนี้ เพื่อความเป็นระเบียบและตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น คนต้องการทำบุญสร้างพระ เขาก็ตรงไปอ่านที่
    พระพุทธรูป - วัด โบสถ์ วิหาร

    2. ชื่อของกระทู้ ควรอธิบายย่อๆ เพื่อให้คนอ่านเกิดความเข้าใจได้รวดเร็ว ก่อนที่จะกดเข้าไปอ่านในกระทู้
    ควรหลีกเลี่ยง การตั้งชื่อกระทู้ที่อธิบายความหมายไม่ชัดเจน เช่น ตั้งชื่อกระทู้ว่า "ประกาศทำบุญ" หรือ "ต้องการความช่วยเหลือ" แต่ไม่ได้เขียนบอกว่า ทำบุญอะไร หรือ ต้องการให้ช่วยอะไร ทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจ จะรู้ได้ต้องคลิ๊กเข้าไปดู
    หรือ อาจจะคิดอีกแง่นึงคือ หลอกให้คนคลิ๊กเข้าไปดู เมื่อมีเจตนาหลอก คนก็ไม่อยากทำบุญหรือให้ความช่วยเหลือในกระทู้ของท่าน
    ถ้าเกิดบ่อยๆแบบนี้หลายกระทู้ ชื่อจะซ้ำๆกันทำให้แยกไม่ออก ทั้งหมวดก็ดูจะขาดคุณภาพ ผู้ดูแลอาจจะลบกระทู้ประเภทนี้ออก

    3. ถ้าอยากให้กระทู้ของท่านอยู่อันดับบนๆ ท่านควร จะมา update รายงานความคืบหน้า ของโครงการบ่อยๆ กระทู้จะวิ่งขึ้นมาเอง


    สิ่งที่ควรละเว้น
    - ไม่ควรลงประกาศเดียวกันซ้ำกันหลายๆกระทู้
    ( ถ้าต้องการให้กระทู้ขึ้นอยู่บนสุด ทำได้โดยเขียน ข้อความลงไปกระทู้นั้น กระทู้จะขึ้นมาอยู่บนสุดเอง )
    - ไม่ควรลงประกาศหลอกลวงในแบบต่างๆ ท่านจะถูกดำเนินตามกฏหมายบ้านเมืองและตกนรก

    ----------------------------------------------------------------
    ทางเว็ปจะเลือกกระทู้ ของท่าน ไป update หน้าแรกของหน้านี้
    หรือหน้าแรกของ webboard
    ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทีมงาน
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พี่ท่านนึงที่เมตตาผม ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุพระอรหันต์ 30 พระองค์ ให้กับผม วันนี้เป็นวันเกิดของพี่ท่านนี้ ขอพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามสมณโคดม ,องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ,มเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกๆพระองค์ ,หลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ทุกๆพระองค์ และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ โปรดพระเมตตาให้พรกับพี่ท่านนี้ ให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีโรคภัยเบียดเบียนครับ

    สุขสันต์วันเกิดครับพี่
    sithiphong

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำมาให้ชมกันอีกครั้ง

    สำหรับ ผู้ที่กดอนุโมทนา ในหน้าที่ 1099 (โพสที่ #21961 ถึงโพสที่ #21980 ) สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

    • ake7440 กดอนุโมทนา 20 ครั้ง
    • ชวภณ ศ. กดอนุโมทนา 20 ครั้ง
    • kwokกดอนุโมทนา 19 ครั้ง
    สำหรับผู้ที่กดอนุโมทนาสูงสุดในสามอันดับแรก ผมมอบพระซุ้มไทรย้อย คนละ 1 องค์ครับ



    [​IMG]

    รูปครับ
    และรูปสงวนลิขสิทธิ์ หากท่านใดจะนำรูปไปใช้ ต้องขออนุญาตผมก่อนทุกครั้งครับ

    พระพิมพ์ซุ้มไทรย้อย กรุวังหน้าอยุธยาครับ

    [​IMG]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ------------------------------------------------
    [​IMG]
    337.3 KB, ดาวน์โหลด 25 ครั้ง
    ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    เมื่อวานนี้ 08:34 PM


    ------------------------------------------------

    มีการโหลดไป 25 ครั้งแล้ว หลังจากที่ผมลงเมื่อวานนี้ตอน 2 ทุ่มครึ่งครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นอีก ก็คือ ผมเองจะกำหนดระยะเวลา แต่ผมยังไม่บอกว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงเมื่อไหร่ สำหรับท่านที่โพสสูงสุด 2 อันดับแรก (ยกเว้นผม) การโพสเป็นการโพสคุยกัน หรือนำสาระดีๆ มาฝากกันก็ได้

    ผมจะมอบพระพิมพ์(ผมจะกำหนดให้อีกครั้ง) กับท่านที่โพสสูงสุด 2 อันดับแรก เมื่อครบกำหนดแล้ว ผมจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า ท่านใดเป็นผู้โชคดีรับพระพิมพ์ จากการโพสสูงสุดใน 2 อันดับแรกครับ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยกเว้น กลุ่มพวกมาป่วนนะครับ
     
  11. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    มาอีกแล้วครับ กิจกรรมดีๆสำหรับชาววังหน้า จากท่านปาทานของพวกเรา
    ช่วงนี้ท่านปาทานแจกแหลกจริงๆครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นอีก ก็คือ ผมเองจะกำหนดระยะเวลา แต่ผมยังไม่บอกว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงเมื่อไหร่ สำหรับท่านที่โพสสูงสุด 2 อันดับแรก (ยกเว้นผม) การโพสเป็นการโพสคุยกัน หรือนำสาระดีๆ มาฝากกันก็ได้

    ผมจะมอบพระพิมพ์(ผมจะกำหนดให้อีกครั้ง) กับท่านที่โพสสูงสุด 2 อันดับแรก เมื่อครบกำหนดแล้ว ผมจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า ท่านใดเป็นผู้โชคดีรับพระพิมพ์ จากการโพสสูงสุดใน 2 อันดับแรกครับ

    .


    อย่างไรก็ตาม เมื่อโพสธรรมะลงกระทู้ ก็ต้องนำธรรมะที่ตนเองโพส ไปปฎิบัติด้วย จึงดีครับ

    ผมเองก็พยายามปฎิบัติอยู่ โดยบททดสอบอยู่โดยตลอด ตัดได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ยังไม่ผ่านซ๊ากกะที ต้องพยายามให้มากกว่านี้

    โมทนาสาธุครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ระยะเวลาที่ผมกำหนด เดี๋ยวจะหาว่า ผมตั้งขึ้นปัจจุบันทันด่วน แต่ผมจะตั้งขึ้นแล้วทำเป็นรูปไว้ ผมจะนำไปซ่อนไว้ในกระทู้นี้ แต่จะหน้าไหนนั้น บอกไม่ได้

    เมื่อการประกาศผลให้ทราบ ผมจะนำรูปนั้นออกมาให้ได้ทราบทั่วกัน

    ถ้าใครจะเริ่มต้นก่อน ก็ไม่เป็นไร แต่ผมขอไปคิดเรื่องระยะเวลาหน่อยครับ
     
  14. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    จริงๆแล้วจะตั้งขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนก็คงไม่มีใครว่าหรอกครับท่านปาทาน เพราะมันเป็นสิทธิของผู้ตั้งกติกาอยู่แล้ว
    แล้วอีกอย่างพี่ไม่จำเป็นต้องเอาพระมาให้บูชากันสักนิดเดียวจริงไหมครับ นี่ที่ทำก็ด้วยเมตตาล้วนๆ เพื่อให้ชาววังหน้าได้มีกิจกรรมร่วมสนุกกันเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันด้วย
    มีแต่เรื่องดีๆครับ
     
  15. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง พอจะเปิดเน็ท ก็โดนหลานจองเล่นเกมส์ซะแล้ว เข้ามาทีไร เหรอหราตกใจ ตามหากระทู้ไม่เจอทุกที เฮ้อ

    สำหรับผม เห็นว่าน่าจะข้อ 2 นะครับ เย่
     
  16. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
  17. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ผมประเดิมเลยละกันนะครับกับคติธรมดีๆๆ

    ธรรมเทศนา : บารมีบำเพ็ญหนัก-เบาต่างกัน...ระยะเวลาไม่เท่ากัน...เมื่อบารมีแก่กล้าถึงที่สุดแล้ว...แม้แต่ญาณทิพย์...อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ก็ยังไม่เหมือนกัน...ไม่เท่ากัน...รู้มากรู้น้อยไม่เท่ากัน...แต่การตัดกิเลสให้จิตบริสุทธิ์จากโลภ โกรธ หลง นั้นเหมือนกันทุกประการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2008
  18. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    แล้วก็ถ้อยคำสนทนาธรรมของหลวงปู่ขาวพุทธรักขิโตเป็นครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือมากอีกองค์ อีกทั้งยังเป็นศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดร

    ถ้อยคำที่หลวงปู่ได้สนทนาธรรมกับศิษย์
    หลวงปู่ขาว : พระพุทธศาสนานี้ถ้าเรียนถึงทำได้ แล้วลึกซึ้งที่สุด ดีเลิศไม่มีอะไรเทียบได้แม้แต่สิ่งเดียว
    ลูกศิษย์ : ฤทธิ์ การแสดงฤทธิ์ อิทธิปฏิหารย์ นี้ทำยากไหม ดูคนทั่วไปจะชอบกันนัก
    หลวงปู่ : มันเป็นของเล่นเท่านั้น พระที่ท่านทำถึงแล้วง่ายมาก แต่ที่สุดก็เบื่อหน่ายที่จะแสดงที่จะทำ และไร้สาระที่สุด ไม่เหมือนคนทั่วไปที่เป็นบ้าตื่นอยากรู้ อยากเห็น เหมือนเด็กๆ พระที่ท่านแสดงได้บางองค์ ท่านเลือกที่จะไปอยู่ป่า ตายในป่า อยู่เงียบๆของท่าน บางทีก็แกล้งบ้า ทำตัวไม่น่านับถือ จนบางครั้งคนที่อยู่ใกล้ชิดไม่รู้ว่าท่านเป็นอะไร ภูมิจิตระดับใด แม้ท่านจะสะอาดบริสุทธิ์ขนาดไหน ก็ไม่มีบุคคลใดรู้ ตายก็ตายอย่างพระหลวงตาท้ายวัดองค์หนึ่งตายเท่านั้น
    ท่านกล่าวต่อไปว่า ....
    ก็อย่างว่านี้แหละ พวกตาบอด พวกใกล้เกลือกินด่าง เสียดายแทนว่ะ พวกนี้เจอไม้งามเมื่อขวานบิ่น พวกเสียชาติเกิด ไม่รู้ของดี ของเน่า ช่างหัวมัน
    ลูกศิษย์ : แล้วจะทำอย่างไรหลวงปู่
    หลวงปู่ : ไม่ต้องทำอะไร ถือว่าวาสนามีแค่นั้น เพื่อนของเราองค์หนึ่งนั่งอาบน้ำกลางแม่น้ำ โยมอุปัฏฐากทำอาหารถวายท่าน ไม่มีมะนาว ท่านเดินเข้าข้างในกุฏิ ครู่เดียว หิ้วมะนาวออกมาเต้มถัง ถามว่า เอามาจากไหน กูไปเอามาจากตลาดกรุงเทพฯ โยมเขาก็หัวเราะ คิดว่าท่านพูดล้อเล่น สุดท้ายท่านก็ตายอย่างพระธรรมดาองค์หนึ่งเท่านั้น ท่านมีโยมอุปัฏฐากสองสามคนเท่านั้น ไม่เห็นท่านสนใจจะให้ใครนับถือหรือต้องการมีชื่อเสียงสาระอะไร มันเป็นของเน่าธรรมดาสำหรับท่าน แต่คนธรรมดามันบ้า
    ศิษย์ : แล้วหลวงปู้ทำได้ไหมนี่
    หลวงปู่ : ไม่รู้มีตาก็ดูเอา มีนักปฏิบัติธรรมบอกว่า นั่งสมาธิเห็นนางฟ้า พระอินทร์ พระพรหม กูนั่งแทบตายไม่เห็นบ้าอะไรเลย ไอ้พวกประมาท พวกนี้ไม่นานก็เป็นบ้า เป็นโรคประสาทกันหมด พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนเรื่องนี้ ท่านสอนให้ดูใจตัวเอง ให้ปฏิบัติศิล ปฏิบัติจิตภาวนา ให้จิตสงบ แล้วก็พิจรณาทุกข์ ธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตนต่างหาก เพื่อละ เพื่อถอนกิเลส โลภ โกรธ หลง ที่อยู่ในจิตใจตนเอง เรื่องฤทธิ์ ญาณรู้ จะมีหรือไม่มี ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร ท้ายสุดพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ทรงยกย่องให้ความสำคัญเกินสติปัญญาเลย คนที่จะมาสนทนาธรรมะกับพระ บางคนก็ปฏิบัติแบบผิดๆ บางคนก็หลงยึดบางอย่างจนยากจะแก้ไข บางครั้งดูไปก็น่าสงสาร เขาไม่รู้หลัก เขาไม่มีครูบาฯที่รู้จริงๆ และเป็นที่พึ่งได้ ไอ้เราก็รู้พองูๆปลาๆ
    หลวงปู่ขาว :กล่าวต่อไปว่า ....กรรมฐานปัจจุบันไม่เหมือนเก่า ทำง่ายแต่ช้านาน ไม่เหมือนกรรมฐานเก่าๆดั้งเดิม ครูบาฯรุ่นใหญ่ที่ท่านล่วงไปแล้วนั้น สิ่งแรกท่านเอาฐานก่อน คือฐานต้องมั่นคงจริงๆ (สมาธิ ) เน้นหนักองค์กรรมฐาน ปฏิบัติยาก ทำยาก แต่เมื่อทำได้แล้ว ง่าย ก้าวหน้าเร็ว กรรมฐานปัจจุบันชอบอะไรเร็วๆไวๆ ขึ้นต้นไม้ไม่ยอมขึ้นแต่โคนต้น ชอบอุตริกระโดขึ้นยอดไม้เลย สุดท้ายก็เสียเวลา บางทีก็เป็นบ้า เป็นโรคประมาทฆ่าตัวตาย ก็มีมิจฉาทิฏฐิ ปฏิบัติไม่ตรง สุ่มๆเดาๆ อาจารย์พระกรรมฐานที่สอนไม่ได้รู้อะไรจริง เรียนหนังสือตำรา พอท่องๆได้ก็ตั้งตัวเป็นอาจารย์แล้ว นั่งสมาธิ จิตรวมเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แล้วนับประสาอะไร ญาณพิเศษรู้อะไรต่างๆ ยิ่งห่างไกลยังกะฟ้ากับดิน และที่ได้อภิญญา สมาบัติ โถ .... พระระดับนี้ ปัจจุบันจะมีกี่องค์ หาแทบไม่เจอ ยิ่งพระอริยะ พระอรหันต์ ท่านที่เป็นจริงๆ ท่านไม่ให้ใครรู้หรอก ไม่พูด ไม่ชอบแสดงตัว มันก็มีแต่ประเภทที่ไม่รู้ทั้งนั้น ชอบแสดง ชอบอวด รู้จริงมันอวดกันได้ที่ไหน มันเป็นกรรม ถ้าไม่ถึงวาระ ไม่ถึงกรรมต้องทำแล้ว แสดงออกมาไม่ได้เลย แต่ก็เอาเถอะ กรรมใคร กรรมมัน
    ลูกศิษย์ : แล้วกรรมฐานรุ่นเก่าทำอย่างไร
    หลวงปู่ : กรรมฐานรุ่นเก่านั้น ต้องทำจิตให้เป็นหนึ่งให้ได้ทุกอริยาบถก่อน จากนั้นจึงเข้ากราบครุบาฯ ขอคำแนะนำอุบายวิธีปฏิบัติต่อไป ถ้าทำพื้นฐานไม่ได้แล้ว ท่านไม่สอนอะไรต่อเลย และห้ามถามเรื่องภาวนาอีก คือ ถ้าทำไม่ได้อย่าพูด อย่าถามและโกหกการภาวนากับครูบาฯไม่ได้ด้วย คือท่านรู้จริงๆ เพราะท่านดูจิตของลูกศิษย์ออกหมดว่า ปฏิบัติก้าวหน้าหรือเท่าเดิม ทำได้น้อยหรือมากนี่คือครูบาฯรุ่นเก่าที่ท่านเป็นพระปฏิบัติแท้ๆ เป็นครูจริงๆ รู้จริงและพิสูจน์ได้เสมอหากลูกศิษย์สงสัยในคุณธรรมของอาจารย์ มันจึงเป็นกรรมฐานแท้ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2008
  19. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ส่วนเรื่องญาณรู้พิเศษต่างๆเหล่านั้น หลวงปู่ขาว ท่านมักจะพูดว่า มันเป็นเรื่องที่เหนือคำพูด การประมาณ การคาดเดาที่คนทั่วไปชอบทำกันจนเป็นนิสัยสำหรับวิทยาศาสตร์ วัตถุ วิวัฒนาการต่างๆของมนุษย์ จนเจริญก้าวหน้าอีกกี่พันกี่หมื่นปีก็ยังตามหลังพุทธศาสนาอยู่ดี วิทยาศาสตร์ชอบเอาเครื่องมือทดลอง พิสูจน์ตามทฤษฎีที่ตั้งขึ้นคือ เอานอกดูนอก เช่นใช้กล้องส่องดูเชื้อโรค แต่ทางพุทธศาสนานั้น เอาในดูนอกคือ ใช้สิ่งที่ไม่มีตัวตน ( จิต ) ดูสิ่งภายนอก มันจึงรู้ได้เกินรู้ได้มากอย่างไม่มีขีดจำกัด แต่วิทยาศาสตร์รู้มีขีดจำกัด ทฤษฎีต่างๆทั่วโลกและในอนาคตอีกไม่มีประมาณจะมากแค่ไหนก็ถูกทฤษฎีของพระพุทธเจ้าครอบคลุมไว้หมด
    ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ ( ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ) คือเมื่อมีขึ้นแล้วก็เสื่อมได้ สลายไปไม่มีตัวตนในที่สุด ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้าได้หรอก สิ่งต่างๆมีอายุการใช้งานเหมือนกับอายุของสัตวืนี่แหละ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือค้างโลก สร้างอีกก็เสื่อมสลายอีก จะว่าอะไรแม้แต่ผู้ประดิษฐ์คิดค้นเอง สุดท้าย
    มันก็ต้องตายเป็นเถ้าเหมือนกัน ส่วนแนวปฏิบัติกรรมฐานนั้น หลวงปู่ขาว จะชอบพูดว่า พุทโธตัวเดียวอย่างเดียว อย่าทิ้งองค์กรรมฐาน เพราจิตจะจกลงสู่ภวังค์ ( อารมณ์ต่างๆ ) เมื่อเราบริกรรมพุทโธจะเปรียบเหมือนกับเราทำให้อารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นช้าลงหรือห่างออกจากเดิม ที่เกิดขึ้นเร็วจนบางครั้งตามแทบไม่ทัน ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำจิตให้อยู่ในอารมณ์เดียวได้ ( เป็นหนึ่งอยู่คำบริกรรม ) และแม้ผู้นั้นจะเรียนรู้ธรรมะจากรู้อุบายภาวนามาก ศึกษาจากครูบาฯมามาก แต่ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหาอุบายวิธีที่จะทำให้จิตของตนเองสงบจากอารมณ์ต่างๆได้แล้ว ธรรมะที่รู้มาก็ไม่มีประโยชน์ ปัญญาที่แท้จริงไม่มีวันรู้ได้ เพราะอารมณ์ต่างๆมันจะปรุงแต่งให้จิตฟุ้งซ่าน เลื่อนลอย ไม่มีวันหยุดสงบลงได้ เรียกว่า สติยังปัญญายังอ่อน อันมีสาเหตุเนื่องมาจาก๑. วาสนา บารมี กระทำบำเพ็ญในอดีตยังน้อย ( พละหรืออินทรีย์ ๕ ยังอ่อน )
    ๒.ความเพียรพยายามในปัจจุบันไม่มีกำลัง คือไม่ค่อยทำหรือทำไม่ต่อเนื่อง
    ๓.ลังเลสงสัยในองค์กรรมฐาน ( คำภาวนา ) ที่ตนเองใช้
    ๔.ไม่เชื่อมั่นศรัทธา ไม่มมั่นคงในตัวครูบาฯที่ตนเองศึกษาอยู่
    ๕.ปฏิบัติผิดทางหรือปฏิบัติอยู่กับอาจารย์กรรมฐานที่ไม่รู้จริง ( ไม่มีภูมิรู้ )
    ๖.รู้เกินครูบาฯอันเนื่องจากเรียนมามาก ศึกษาหลายอาจารย์จนสับสนแนวปฏิบัติและชอบอวดรู้ มีทิฐิมานะ การถือตนสูงไม่ยอมรับคำสอนของผู้อื่น
     
  20. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    นี่คืออุปสรรคเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ หลวงปู่ขาว สอนเสมอ ท่านว่า คนที่ว่าตนเองรู้ ตนเองฉลาดแล้ว คนนั้นคือ คนโง่ที่สุด คนที่มีนิสัยถ่อมตน ไม่ถือตัว ไม่อวดความรู้ที่ตนเองมี คนนั้นคือ นักปราชญ์ผู้รู้จริง และผู้นั้นจะมีความรู้จากบุคคลต่างๆ สิ่งต่างๆอีกมาก การภาวนานั้นให้เอาปัจจุบัน พากเพียรเอาปัจจุบันเป็นหลัก อีกทั้งต้องเชื่อในกรรมว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่สำคัญต้องหาครูบาฯที่รู้จริงในแนวทางปฏิบัติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียด เป็นเรื่องภายใน และยิ่งปฏิบัติชั้นสูงขึ้นแล้ว ยิ่งต้องได้ครูบาฯที่รู้จริงอย่างถ่องแท้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ผิดและหลงยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึด ครุบาฯที่ท่านมีภูมิจจิตที่แท้นั้น ท่านจะผ่านการปฏิบัติอุบายต่างๆมามาก และรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรปล่อย สิ่งใดควรปฏิบัติและถูกไม่ถูก
    และพื้นฐานการปฏิบัตินั้นที่ขาดไม่ได้คือศิล ๕ ขั้นต่ำเป็นพื้นฐานของการปฏิบัติภาวนาที่สำคัญ และขาดไม่ได้ เมื่อมีโอกาสควรสร้างทาน สร้างบารมีอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้ติดเป็นนิสัย ผู้ที่ปฏิบัติเพื่อต้องการพ้นทุกข์จากวัฏสงสารนั้นกำลังหรือบารมี ทานบารมี ศิลบารมี เป็นต้น ถ้าปราศจากสิ่งเหล่านี้ ความก้าวหน้าหรือการยกระดับจิตขึ้นเหนือกิเลสต่างๆคือ โลภ โกรธ หลง นั้นยาก
    ปกติคนเราชอบหลงตัวเองว่า ตนเองดี ตนเองเด่นกว่าคนอื่นตลอดเวลา จนสุดท้ายก็ไม่สามารถแก้ไขทิฏฐิมานะได้ และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือสิ่งที่ผู้อื่นชี้แนะบอกกล่าวด้วยความหวังดี แม้ผู้นั้นจะเป้นอาวุโสกว่าตนเอง มีความรู้และมีประสบการณ์มากกว่าตนเองก็ตาม จะไม่ฟังและไม่ให้ความเคารพ จนสุดท้ายตนเองก็เดินทางเข้าสู่ความหายนะในที่สุด
    ดังนั้นการบำเพ็ญบารมีหนักเบาต่างกัน ระยะเวลาไม่เท่ากัน รู้มาก รู้น้อย ไม่เท่ากัน แม้ญาณทิพย์ ญาณในฤทธิ์ต่างๆก็ยังไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน รู้มาก รู้น้อย ไม่เท่ากัน แต่การตัดกิเลสให้จิตบริสุทธิจากความโลภ โกรธ หลง นั้นเป็นเหมือนกันทุกประการ

    ต้องขอโทษทีที่ใส่หลายสีนะครับจะได้ดูไม่น่าเบื่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...