พลังจิต ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ทำเหล็กให้อ่อนเป็นขี้ผึ้ง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 11 ตุลาคม 2008.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
    ได้เล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับพลังจิตของหลวงพ่อปานว่าเหล็กเส้นขนาด
    ๘ หุน ท่านทำให้อ่อนได้ ของอ่อนทำให้แข็งได้ ท่านเคยทำให้ดูบ่อยๆ

    มีวันหนึ่งเป็นวันสำคัญมาก ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่โตมาก วันนั้นใช้เหล็ก ๘ หุน
    จะทำเสาของโบสถ์ และจะทำคานของโบสถ์ สองอย่างทั้งเสาทั้งคาน
    หลวงพ่อปานท่านไม่ยอมให้ใช้เหล็ก ๖ หุน ๗ หุนอะไร ใช้เหล็ก ๘ หุน
    เอาขนาดหนัก ทำอะไรแล้วก็กลัวพัง

    กุญแจสำหรับดัดเหล็ก ก็ปรากฏว่าทางวัดสุธาโภชน์ เขาขอยืมไปดัดเหล็ก
    ๘ หุน พวกเราก็วุ่นวายกันสิ ตอนเช้าก็คุยกันว่าเราจะดัดเหล็ก ๘ หุน แล้ว
    กุญแจดัดเหล็กมันไม่มีจะว่ายังไงกัน ถ้าจะเดินไปวัดสุธาโภชน์มันก็ไกล
    ทั้งไปทั้งกลับต้องใช้เวลา ๒ ชั่วโมงพอดี ก็เอะอะโวยวายกันอยู่

    หลวงพ่อปานก็เดินลงมา ความจริงตอนเช้าท่านไม่เคยเดินลงมา ท่านจำวัด
    แต่วันนั้นคงรู้ว่าพวกเรายุ่งกันเข้าแล้ว เพราะไม่มีกุญแจดัดเหล็ก ท่านก็ถาม
    ว่าเรื่องอะไรกันล่ะ ก็กราบเรียนท่านว่ากุญแจดัดเหล็กไม่มีขอรับ กุญแจสำหรับ
    ดัดเหล็ก ๘ หุนนี่น่ะ ไปทำโบสถ์ที่วัดสุโภชน์ ยังไม่ได้เอากลับมา วันนี้เราจะ
    ดัดเหล็กเสาโบสถ์กัน หาไม่ได้ เห็นจะต้องใช้พระไปเอากุญแจที่โน่น

    ท่านก็เลยบอกว่าไม่ต้องหรอกคุณ ไม่ต้องหรอก ใช้มือก็ได้ มันไม่จำเป็นอะไร
    หรอก ถ้าไอ้กุญแจมันไม่มีเสียจริงๆ นี่น่ะ แล้วเราจะใช้อะไรกัน เมื่อมันไม่มี
    จริงๆ ถ้าไม่มีใครเขาขายล่ะ เราก็ทำกันไม่ได้สิ เราทำได้ใช้มือดัดเอา
    อาตมาเลยกราบเรียนท่านว่า หลวงพ่อขอรับ ผมใช้ฆ้อนยังไม่ไหวเลย
    ไอ้เหล็ก ๘ หุนนี่มันใหญ่ ท่านบอกช่างมันเถอะ มันใหญ่มันเล็กไม่สำคัญ
    เราดัดมันได้ก็แล้วกัน

    ท่านก็บอกว่า ไป ไปเอาเหล็กมา ก็เอาเหล็กมาขึ้นที่ไว้สำหรับดัด ท่านก็บอกว่า
    เอามือง้างเข้า ที่ไหนได้ วันนั้นเหล็กมันอ่อนจริงๆ ง้างแบบสบายๆ ตอนดึงให้
    เหล็กตรง มันก็ตรง จะให้คดให้งอไปตรงไหนมันก็ตามใจทุกอย่าง คล้าย ๆ กับ
    เราดัดเทียนอ่อนๆ

    ท่านก็เลยบอกว่า นี่ เห็นไหมล่ะ มันไม่ยากหรอกคุณเอ้ย ไอ้ของแข็งเราก็ทำ
    ให้มันอ่อนได้ อ่อนเราก็ทำให้มันแข็งได้ นี่มันไม่ยาก ก็เลยกราบท่านลงไปที่เท้า
    พระประมาณ ๓๐ - ๔๐ กราบกันหมดทุกองค์ กราบลงไปกับพื้นนั่งพนมมือแต้

    ก็กราบเรียนถามท่านว่า ทำอย่างไร ท่านก็บอกว่า พลังอะไรมันจะสูงไปกว่า
    " พลังจิต" น่ะไม่มี "พลังจิต" นี่มันเป็นพลังใหญ่มากเหนือพลังใดๆ ทั้งหมด
    ฉะนั้น ถ้าหากว่าเรามีพลังจิต ฝึกฝนพลังจิตไว้ดีแล้ว เราจะทำอะไรก็ได้
    ก็เลยกราบเรียนท่านว่า นี่เป็นอำนาจอภิญญาใช่ไหม ท่านบอกไม่ใช่เรื่องที่
    ฉันจะตอบ เธอรู้กันเอาเองก้แล้วกัน.

    จากหนังสือ ธรรมปฏิบัติของวัดท่าซุง เล่มที่ ๑๘
    พิมพ์เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๑


    ขอเชิญทุกท่านได้โมทนาบุญผ้าป่า ๓ กองบุญร่วมกันครับ
    http://palungjit.org/showthrea...=158315&page=3

    ศูนย์พุทธศรัทธา
    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เพียงท่านแวะชมและโมทนาท่านก็จะได้บุญได้กุศลตามกำลังใจของแต่ละท่าน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2008
  2. Veerasak_Chai

    Veerasak_Chai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +186
    อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง หมายถึงปัญญาความรู้ที่สูงเหนือกว่าปกติ เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นจากการอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญกรรมฐาน

    อภิญญาในคำวัดหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่าง คือ

    1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
    2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
    3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
    4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
    5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
    6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป
    อภิญญา 5 ข้อแรกเป็นของสาธารณะ (โลกียญาณ) ข้อ 6 มีเฉพาะในพระอรหัต
     
  3. ดับกิเลสทั้ง5

    ดับกิเลสทั้ง5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +238
    มนุษย์มันก็อย่างนี้ ปรุงแต่งได้สารพัดเรื่อง จนเลอะเทอะ พากันหลงไปหมดแล้ว คนมีฤทธิ์เขาไม่แสดงกันหรอก มีแต่พวกกิเลสตัณหาหลอกลวงพากันงมงาย ได้ยินได้อ่านอะไรมาก็เอามาเผยแพร่ทั้งที่ก็ยังไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่า ที่เขาแสดงหลอกพวกคุณก็เพื่อหวังสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั่นคือกิเลสตัณหา ธรรมะที่แท้จริงเขาให้กันฟรีๆ สอนให้ตัดกิเลส ไม่ได้สอนให้เพิ่มกิเลส คืออยากมีฤทธิ์ ฤทธิ์ทั้งหลายจะไม่ปรากฎแก่ผู้ยังมีกิเลสตัณหา ไม่รู้จริงแล้วเอามาเผยแพร่พากันงมงาย อย่างนี้เป็นกรรมหนัก ไม่พ้นนรกจัตุรบายเบื้องหน้า
     
  4. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
  5. เชลโล่

    เชลโล่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +7
    [​IMG]
    หลวงพ่อปาน

    (พระครูวิหารกิจจานุการ)

    วัดบางนมโค



    สาธุ..ขอกราบนมัสการหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง ขอบุญบารมีของท่านจงส่งผลให้ได้พบแต่สิ่งดีๆ และเจริญรุ่งเรือง ทุกท่าน ทุกคนด้วยเทอญ

    ขอกราบอนุโมทนาด้วยครับ สาธุ....​

     
  6. จรัล

    จรัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    หลวงพ่อปานท่านเป็นพระทรงอภิญญาครับ และผู้ที่ทรงอภิญญาท่านจะไม่บอกใคร และท่านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปบอกใครด้วย ใครที่อยากจะรู้ไม่ต้องไปถามท่าน เพราะท่านจะไม่ตอบและจะไม่อวดด้วย ให้ดูเอาเองจากการกระทำคำพูดของท่าน ก็เพียงพอที่ปัญญาอย่างเราๆจะรู้กันได้ นั่นแหละคือคำตอบ
     
  7. Veerasak_Chai

    Veerasak_Chai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +186
    ถูกต้องครับ

    คน ไม่ใช่มนุษย์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสัตว์ประเสริฐก็เป็นผู้ที่มีกิเลสหนาปัญญาเบา ปรุงแต่งจิตได้ทุกระยะลมหายใจเป็นเรื่องปรกติ ธรรมดาอยู่ครับ คนคงไม่แสดงฤทธิ์ได้หลอกครับ เพราะคนทั่วไปที่ยังมิได้องค์ฌาณ 4 จึงไม่สามารถแสดงอิทธิวิธีใดๆได้ ถึงแม้บางท่านบางรูป สามารถได้ระดับองค์สมาธิถึงองค์ฌาณ 4 ได้ ก็ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะสามารถทำฤทธิ์ให้ปรากฎได้เช่นกันครับ

    เป็นเรื่องปรกติของคนปุถุชนทั่วไปที่ยังไม่สามารถตัดกิเลส ตัฌหา อุปาทาน ได้ เพราะกษัตริย์อวิิชชายังครองอยู่ จึงมีความงมงาย ความไม่รู้วนเวียนอยู่ในจิตเป็นเรื่องปรกติครับ ทุกลมหายใจของเราๆคุณๆก็เหมือนกัน หลอกลวงตนเองอยู่ทุกลมเข้า ทุกลมออก เมื่อใดที่ก้าวล่วงสู่มรรค จิตเกี่ยวกระแสพระอริยะได้เมื่อใด เมื่อนั้น มหาเมตตาก็บังเกิดขึ้นในจิตเป็นแน่แท้

    การที่ได้ยินได้อ่านอะไรมาก็เอามาเผยแพร่ทั้งที่ก็ยังไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่า นั้นก็เป็นไปเพื่อเพียงอนุศาสน์ เพื่อพึงระลึก เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เพื่อเป็นราวเกาะ เพราะบางจิตยังต้องพึงพิงราวเกาะ ก้าวข้ามขึ้น ยกระดับจิตให้สูงขึ้นในถ่ายกุศลกรรม และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ราวเกาะก็ไม่จำเป็นครับ

    จะเป็นกรรมหนักหรือกรรมเบา ไม่ได้อยู่ที่การจะนำมาเผยแพร่หรือไม่ สำคัญอยู่ที่ตัวเจตนาที่มีอยู่ในจิตคุณ ว่าเจตคติคุณหันทิศไปในทางใด เจตนาคุณอยู่ทางถ่ายไหน และที่สำคัญ ผู้อ่าน เมื่อได้อ่านแล้ว เจตคติอยู่บนฝั่งใด เจตนาแห่งจิตอยู่ถ่ายไหน

    ถ้าอยู่ถ่ายกุศลกรรม ก็เป็นกรรมดี
    ถ้าอยู่ถ่ายอกุศลกรรม ก็เป็นกรรมชั่ว

    และเมื่อจิตไม่อยู่ถ่ายกุศลกรรมหรืออกุศลกรรม เป็นกรรมบริสุทธิ์ บริบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา แห่งโลกุตระเมื่อใด ภพชาติก็ขาดลงทันทีครับ

    กัมมัส สะกา เรามีกรรมเป็นของของตน
    กัมมะ ทายาทา เราต้องรับผลของกรรม
    กัมมะ โยนี เรามีกรรมนำมาเกิด
    กัมมะ พันธู เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
    กัมมะ ปะฏิสะระณา เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
    ยัง กัมมัง กะริส สามิ เรากระทำกรรมอันใดไว้
    กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่ว (บุญหรือบาป)
    ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ เราจักต้องรับผลของกรรมนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2008
  8. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    แนะนำให้หาอรรถกถา มาอ่านดีกว่าคับ ความรู้ทางปริยัติจะได้เพิ่มขึ้น จะได้รู้ว่า หลักสูตรที่มีศึกษาในพระพุทธศาสนา มีอะไรบ้าง เขาสอนกันอย่างไร เพื่ออะไร
    แล้วค่อยมาตั้งหน้าตั้งตาโพส ก็ไม่เสียหายนิคับ ;aa22
     
  9. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ทั้งสองข้อความด้านบนเขียนโดยคุณดับกิเลสทั้งห้า

    ไม่ทราบว่าข้อเขียนด้านบน(ตัวอักษรสีแดง)เป็นการก้าวล่วงผู้อื่นหรือเปล่าครับ???
     
  10. Khundeaw

    Khundeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +706
    ไปไกลซะแล้ว......

    ดูจิตตน...สติมาปัญญาเกิด
     
  11. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ทำไมต้องว่ากันด้วย คุณชนะเขาก็แค่มาโพสให้รู้ ให้ดู ให้อ่าน ไม่ได้มาอ้างตนว่าเป็นคนมีฤทธิ์ มีเดช มีอภิญญา เสียหน่อย แล้วหลวงพ่อปาน ท่านก็ไม่ได้มาอวด ที่นำมาพูดถึงก็คือ ความเชื่อ ความศรัทธา ของลูกศิษย์ ลูกหาที่มีต่อท่าน จริงอยู่คนมีฤทธิ์เขาไม่แสดงออกกันหรอก แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้คนอื่นพูดถึงนี่นา ความศรัทธาเขาไม่ได้เรียกว่างงมงายหรอก ศรัทธาในบุคคลที่ควรบูชา หากศรัทธาในสิ่งที่ไม่ควรนั่นแหละถึงเรียกว่างมงายอย่างแท้จริง ก็ขอให้คุณตัดกิเลส ทั้งหลาย ทั้งมวล ให้สิ้นสมดังชื่อด้วยนะค่ะ
     
  12. kuro122

    kuro122 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +410
    อนุโมทนา กับเจ้าของกระทู้ ด้วยค่ะ

    เป็นกำลังใจให้ค่ะ นำสาระดี ๆ มาแบ่งปันกันอีกนะคะ :)
     
  13. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    คนบางคนเรียนเพื่อเอาความจริงไม่ได้้เอาอภิิญญา คนบางคนเรียนเพื่อเอาอภิญญาแต่ก็ไม่ได้อวดอ้าง จงอย่าตัดสินเอาเองว่าคนเหล่านั้นจะเรียนเพื่ออวดใครต่อใคร จงเข้าใจเสียใหม่ คุณเข้าใจคำว่ากิเลสตัณหาหรือไม่ จงปล่อยวางซะ ใครจะถูกผิดยังไงก็ช่าง เพราะการวิจารณ์คนอื่นมีผลให้ตกอบายภูมิได้เหมือนกัน เค้าจะผิดหรือถูก แต่การวิจารณ์คนอื่นถึงแม้เขาจะถูกหรือผิดก็ตามที นรกก็มาได้เหมือนกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...