จะไปอินเดีย ควรฝึกอะไรไปปฎิบัติดีครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญูชนจอมปลอม, 8 ตุลาคม 2008.

  1. วิญญูชนจอมปลอม

    วิญญูชนจอมปลอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +1,124
    จะไปตามรอยพระพุทธเจ้า พ.ย. นี้

    ได้ไปนั่ง วิปัสสนากรรมฐาน สติปัฏฐาน 4 สายหลวงพ่อจรัล สาขาขอนแก่น

    อยู่ 7 วันครับ อยากไปแล้วให้ได้อะไรเยอะๆควรฝึกอะไรเพิ่มเติมครับ

    ขอบคุณมากๆครับ
     
  2. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,094
    ที่ประเทศอินเดีย มีสิ่งที่เราจะได้เห็นเหมือนในพุทธประวัติ เราจะจาริกไปตามรอย

    พระบาทของพระบรมศาสดา ได้รับรู้ถึงความยากลำบาก ทั้ง กายและใจ ในการ

    ประกาศพระศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เราจะรู้สึกลำบากเพียงแค่นิดเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับท่าน ที่อยู่ท่ามกลางชีวิต

    ที่มีความเห็นที่แตกต่าง ความคิด การกระทำ ธรรมชาติของความเป็นอยู่เราต้อง

    กลับมายอมรับตัวเอง ที่มีสิ่งปรุงแต่อะไรต่อมิอะไรมากมาย ลองดูครับ

    การไปอินเดีย อาจจะไม่ได้หมายถึงการไปเอาอะไร แต่เราจะไปละอะไรบางอย่างมากกว่า

    ความคิดของผมเอง จะเต็มไปด้วยจิตสำนึกของการเสียสละ ถึงจะน้อยนิด เมื่อเทียบกับ

    องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับสิ่งที่ท่านได้เผชิญ มาตลอดช่วงชีวิตของท่าน

    ในสุดท้าย ตัวข้าพเจ้ารักพระพุทธเจ้ามากมายนัก ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณจนน้ำตากลั้น

    เอาไว้ไม่ได้ และได้ตั้งมโนปณิธานที่จะมอบชีวิตนี้เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไปจนกว่า

    ชีวิตจะหาไม่ครับ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2008
  3. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ดูอารมณ์สังเวช ครับ ให้ดูว่า จิตเราเกิด สังเวทเจตสิก
    ยามที่เห็น สังเวชนียสถาน ที่จะสลับกับ สนุก และ สุขใจ และ สุขสงบ
    ซึ่งจะเกิดสลับไปมาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งอาการ จิตมีปิติ มีวิตก วิจาร
    ซึ่งจะเป็นเรื่องของ องค์สมาธิ ที่จะเกิดขึ้น หากตามดู ตามรู้อารมณ์
    ที่ผุด ผันแปร ไม่เที่ยง ไม่อาจคุม หรือ เลือกได้ว่า จะให้มีอารมณ์อย่าง
    ไรเวลากระทบปัจจัย(ผัสสะ) ให้ดูลงเป็นไตรลักษณ์(ทำวิปัสสนา)โดย
    ไม่จงใจช่วยตรึกเรื่องเห็นไตรลักษณ์ จะทำให้เวลาที่ไปปฏิบัติธรรม
    ในบท สติปัฏฐาน 4 จะมี ปฏิเวธ อันเก็บได้แต่ตอนดูสังเวชยีนยสถาน
    เอาไปเทียบกับปริยัติ ที่ผู้นำคณะจะสอนให้ดูภายหลัง

    คุณก็จะได้ทั้ง ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ อันเยี่ยมยอด ที่จะจดจำได้
    นาน ตรึงใจ ทำให้ไม่ลืมทางปฏิบัติได้โดยง่าย แม้ข้ามชาติข้ามภพ
    ไป หากไปเห็นสังเวชนียสถาน จะฟื้นการระลึกวิธีปฏิบัติได้โดยลำพัง
     
  5. เห็นเป็นจริง

    เห็นเป็นจริง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +23
    พุทธานุสติ ครับ
     
  6. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    ดูกรอานนท์ สังเวชนียสถาน ๔ แห่งเหล่านี้ เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง เป็นไฉน คือ
    ๑. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตประสูติในที่นี้ ฯ

    ๒. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ ฯ
    ๓. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตทรงยังอนุตตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ ฯ
    ๔. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ในที่นี้
    สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้แล เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ฯ
    ดูกรอานนท์ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จักมาด้วยความเชื่อว่า พระตถาคตประสูติในที่นี้ก็ดี พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ก็ดี พระตถาคตทรงยังอนุตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ก็ดี พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้ก็ดี ก็ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เที่ยวจาริกไปยังเจดีย์ มีจิตเลื่อมใสแล้ว จักทำกาละลง ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ฯ
    ที่มา มหาปรินิพพานสูตร

    โดยส่วนตัวแล้วเห้นด้วยกับคุณ"ดาราจักร"ว่าการไปอินเดียเป็นการไปละอะไรบางอย่าง ในทางโลกหลายๆคนมองว่าอินเดียสกปรก ไม่มีระเบียบ แต่เมื่อเรามองด้วยใจที่เป็นกลางจะพบว่าคนอินเดียใช้ชีวิตใกล้ชิดกับ"ธรรมชาติ"และน่ารักทีเดียว ที่จะเล่านี้เป็รประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ

    - ตามถนนหนทางทุกชีวิตมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะใช้รถราคาแพง วัว แพะ คน ต่างเดินกันอย่างเสรี one man one voice ของจริงค่ะ

    - รถทุกคันบีบแตรกันสนั่นหวั่นไหว ไม่มีใครโกรธกัน นอกจากเป็นการขอทางยังเป็นการทักทายกัน บางครั้งยังจอดรถกลางถนนคุยกันด้วย รถติดกันยาวเหยียด ไม่เห็นมีใครบ่น ลองคิดมุมกลับถ้เป็นเมืองไทยแล้วมีคนบีบแตรขอทาง ..........หุ หุ

    - การซื้อของ สามารถต่อรองได้นานเท่านาน เป็นชั่วโมง ไม่ซื้อไม่ว่า แถมบางทีร้านข้างๆเดินมาจูงมือบอกมีของเหมือนกัน ราคาถูกกว่า เจ้าของร้านไม่โกรธ

    - ห้องน้ำ กว้างใหญ่ที่สุดในโลก เพราะเป็นห้องน้ำธรรมชาติ จะเป็นทุ่งหญ้า ริมแม่น้ำ โดยไม่รังเกียจ ในทางธรรมะแล้วสิ่งปฏิกูลทั้งหลายเหล่านี้ก็อยู่ในตัวเราทั้งสิ้น เมื่อถ่ายพ้นตัวแล้วเรากลับรังเกียจว่าสกปรก แท้จริงกายเรานี้มีแต่ของเน่าบูดประกอบกันขึ้นมาทั้งสิ้น คุณจะซาบซึ้งสัจจธรรมนี้เมื่อล่องแม่น้ำคงคาค่ะ

    - ขยะ กองเท่าภูเขา แต่ไม่ส่งกลิ่นบูดเน่า เพราะเกือบทั้งประเทศ ทั้งฮินดูและอิสลามเป็นมังสวิรัตกินแป้ง และ ถั่ว

    - คนอินเดียของเถียงกันและเสียงจะดังมาก แต่รับรองไม่ว่าจะเถียงกัยขนาดไหนก็ไม่มีชกกัน และไม่โกรธกันด้วย เพราะเขาถือว่าเป็นการเอาชนะกันด้วยปัญญา

    ในทางโลกุตตระ สถานที่ที่เวลาไปสัมผัสแล้วยังเสมือนว่ายังมีกระแสของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือที่พุทธคยา และกุสินิรา

    ที่พุทธคยา กล่าวกันว่าจุดที่พระองค์ตรัสรู้ก็คือที่ประดิษฐานของพระพุทธเมตตาในปัจจุบันนั่นเอง บริเวณรอบสถูปถ้ามีโอกาสได้นั่งเจริญภาวนาจะสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง เป็นปัจจัตตังค่ะ สามารถอยู่ได้ทั้งคืน ประตูรั้วด้านนอกจะปิดเวลา 22.00 น. ห้ามเข้าออก มีคนไปปักกลดกันเยอะ และจะเปิดอีก เวลา 04.00 น.ค่ะ ถ้าโชคดีช่วงนี้มีพระจากธิเบตและภูฎานมาเริ่มเทศกาลสวดมนต์ เขาจะมากันเป็นหมื่นๆคนแต่งตัวแบบเดียวกัน ร้องเพลงสวดมนต์กันตลอดถ้าจำไม่ผิด 9 วัน 9 คืนไม่หยุดเลยค่ะพร้อมแจกทาน ทั้งอาหารและน้ำให้ทุกคนเลยค่ะ จะได้เห็นว่าศรัทธาของเขายิ่งใหญ่มากๆ

    ที่กุสินารา สถานที่เสด็จปรินิพพาน กล่าวกันว่าจุดที่ปรินิพพานจริงอยู่ด้านนอกติดกับเจดีย์ ตรงที่เป็นทางเดินแคบๆมีคล้ายๆบ่อติดกันอยู่ บริเวณนี้มีผู้แสวงบุญเคยอธิษฐานจิตขอและปรากฎพระบรมสารีริกธาตุมาแล้ว เมื่อไปถึงจะรู้สึกกระแสของความโศกเศร้า ถามพระอาจารย์ท่านบอกว่าเพราะนับตามเวลาของสวรรค์แล้ว สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปยังไม่ถึง 1 วันเลย แต่หากท่านที่สามารถสัมผัสกระแสจิตที่ละเอียดกว่านั้นจะสัมผัสได้ถึงกระแสแห่งความสุข ซึ่งเหล่าทวยเทพได้ทราบว่าพระองค์ท่านได้เสวยวิมุตติอันนิรันดร์แล้วนั่นเอง

    ก็แนะนำให้เตรียมจิตที่"ว่าง"พร้อมจะรับทุกสิ่งเท่านั้นค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะกราบพระองค์ดำด้วยนะคะ

    http://palungjit.org/showthread.php?t=151897
     

แชร์หน้านี้

Loading...