พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    แบ่งอารายครับ ขนมเหรอครับ หม้อแกงเพชรบุรีอาหร่อยนาคร๊าบ หุ หุ
     
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    กินต้มแซ่บปลากระพงครับ สั่งว่าไม่เอาเผ็ดมากครับ หุ หุ
     
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt2>[​IMG]
    อ่าตาลุงได้มาในวันเกิดปีนี้ครับ เคยลงให้ชมแล้ว วันนี้ก่อนนอนลงให้ชมอีกรอบครับ คุณแม่ของพี่ที่นับถือได้รับมาจากวัดครับเมื่อสร้างถนนถวาย พี่เค้าเลยนำไปเลี่ยมทองและมอบให้ครับ

    </TD><TD class=alt1>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2008
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1529175#post1529175

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE class=tborder id=post1482419 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">8-9-2551, 12:16 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#20966 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1482419", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 08:33 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 25,573
    Groans: 108
    Groaned at 103 Times in 55 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 14,227
    ได้รับอนุโมทนา 161,917 ครั้ง ใน 21,695 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 14146 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]








    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1482419 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->กระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ หน้า 73 โพส 1442 และ กระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... หน้า 1049 โพส 20966

    ผมขอมอบพระพิมพ์ จำนวน 5 ชุด ให้กับท่านที่ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิโดยมีรายละเอียดดังนี้

    ชุดที่ 1 ร่วมทำบุญ 22,222 บาท มีจำนวน 1 ชุด หมดแล้วครับ
    คุณพรสว่าง_2008<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1483597", true); </SCRIPT> จองแล้ว
    1.พระอุปคุต (ลอยองค์ เนื้อหินสี) จำนวน 1 องค์<O:p</O:p
    2.พระสมเด็จ (พิเศษ-อธิษฐานจิตในฤกษ์พิเศษ ) จำนวน 1 องค์<O:p</O:p
    3.พระสมเด็จ จำนวน 2 องค์<O:p</O:p
    4.พระสมเด็จ อรหัง(วังหน้า 2 ,วัดระฆัง1) จำนวน 3 องค์<O:p</O:p
    5.สมเด็จวังหน้า จำนวน 3 องค์<O:p</O:p
    6.พระสมเด็จ เนื้อผงยาวาสนา จำนวน 8 องค์<O:p</O:p
    7.พระปิดตาวังหน้าสองหน้า จำนวน 3 องค์ <O:p</O:p
    สำหรับพระสมเด็จ(พิเศษ-อธิษฐานจิตในฤกษ์พิเศษ) ผมไม่ขอแจ้งรายละเอียด แต่จะแจ้งสำหรับท่านที่ร่วมทำบุญในชุดนี้เท่านั้นครับ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ชุดที่ 2 ร่วมทำบุญ 20,000 บาท มีจำนวน 1 ชุด หมดแล้วครับ
    คุณ เทพารักษ์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1482481", true); </SCRIPT> จองแล้ว<O:p</O:p
    1.พระพิมพ์หลวงปู่บุทองคำ(ผมเลือกพิมพ์ให้) จำนวน 1 องค์<O:p</O:p
    2.พระสมเด็จ จำนวน 3 องค์<O:p</O:p
    3.พระสมเด็จ อรหัง(วังหน้า 2 ,วัดระฆัง1) จำนวน 3 องค์<O:p</O:p
    4.สมเด็จวังหน้า จำนวน 3 องค์<O:p</O:p
    5.พระสมเด็จ เนื้อผงยาวาสนา จำนวน 8 องค์<O:p</O:p
    6.พระปิดตาวังหน้าสองหน้า จำนวน 3 องค์ <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดที่ 3 ร่วมทำบุญ 10,000 บาท มีจำนวน 3 ชุด หมดแล้วครับ
    คุณksriuta<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1483351", true); </SCRIPT> จอง 1 ชุด
    คุณjirautes<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1484976", true); </SCRIPT> จอง 1 ชุด
    คุณtrayong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1485633", true); </SCRIPT> จอง 1 ชุด
    คุณทองอ้วนจอง 1 ชุด
    <O:p</O:p
    1.พระสมเด็จ จำนวน 3 องค์<O:p</O:p
    2.พระสมเด็จ อรหัง(วังหน้า 2) จำนวน 2 องค์<O:p</O:p
    3.พระสมเด็จวังหน้า จำนวน 3 องค์<O:p</O:p
    4.สมเด็จเนื้อผงยาวาสนา จำนวน 8 องค์<O:p</O:p
    5.พระปิดตาวังหน้าสองหน้า จำนวน 2 องค์
    <O:p</O:p


    หากท่านใดร่วมทำบุญโดยโอนเงินเข้าบัญชีบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ แล้ว รบกวนส่ง ชื่อ - นามสกุล และที่อยู่มาให้ผมด้วย ผมจะได้ดำเนินการส่งพระพิมพ์ให้ครับ

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ


    หมายเหตุ2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    หมายเหตุ 3 พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    ทั้ง 3 ชุด ผมก็ได้มอบให้กับท่านที่มีจิตศรัทธาในบุญกุศลทั้ง 6 ท่านเรียบร้อยแล้ว หมดแล้วสำหรับในวาระนี้

    ส่วนวาระที่ผมจะมอบต่อไป ผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมขอส่งพระพิมพ์ให้ในสับดาห์หน้านะครับ

    โมทนาสาธุครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยินดีด้วยครับ

    เยี่ยมมากจริงๆ วันหลังคุณnongnooo พาผมไปรู้จักตาลุงมั่งดิ

    แต่พี่ตาลุง สงสัย อายุต้องมากกว่าตาลุงเยอะแน่เลย

    .
     
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    แน่นอนครับเป็นภรรยาของประธานแบงค์หนึ่งครับ...
    ส่วนตาลุงแกเก็บตัวไม่ขอพบใคร เพราะไม่มีภาพให้สร้างครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แบงค์หนึ่ง นี่ เป็นธนาคารชื่อหนึ่ง หรือ เป็นธนบัตรหนึ่งบาทครับ
    แต่ผมว่า น่าจะเป็นธนาคารชื่อหนึ่ง แน่เลย ผมจะได้ไปกู้เงินมั่ง

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=661 border=0><TBODY><TR><TD class=textHeadBlue>สธ.เตือนปชช.เลี่ยงของทอดเทศกาลกินเจ</TD></TR><TR><TD height=25>http://www.innnews.co.th/social.php?nid=134699</TD></TR><TR><TD><B><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=664 border=0><TBODY><TR><TD width=1></TD><TD vAlign=top width=660>
    <!-- [​IMG] -->
    </B>
    <!-- Show Detail -->
    อธิบดีกรมอนามัย เตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการรับประทานของผัด และทอด ในเทศกาลกินเจ หวั่นเป็นโรคอ้วน และความดัน


    น.พ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 7 ตุลาคม นี้กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ให้ประชาชนชาวไทย ที่เข้าร่วมในเทศกาลกินอาหารเจ ให้เน้นการปรุงด้วยวิธีการต้ม นึ่ง ย่าง อบ และยำ โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารเจที่ปรุงด้วยการผัดหรือทอด เพราะใช้น้ำมันมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายสะสมไขมัน และมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเจที่มีรถเค็มจัด เพราะจะนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูงได้ อย่างไรก็ตาม ควรเน้นทานอาหารประเภทผัก และผลไม้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งยังช่วยในการขับถ่ายสะดวกอีกด้วย นอกจากนี้ การปรุงอาหารเจที่มีผักเป็นวัตถุดิบหลัก ก่อนปรุงควรล้างผักด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง หรือแช่ในน้ำปูนใส นาน 10 นาที เพื่อล้างสารพิษที่ตกค้าง เชื้อโรค และสารเคมีให้หมดไปด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>-----------------------------------------

    กินเจแบบไม่อ้วน
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lif10260951&sectionid=0132&day=2008-09-26
    คอลัมน์ ส่องโรค ไขสุขภาพ



    รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ หัวหน้าฝ่ายพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ฝ่ายพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารเจที่ทำจากโปรตีนถั่วเหลือง หรือ กลูเตนจากแป้งสาลี ซึ่งผลิตเป็นอาหารประเภท ไส้อั่ว ไส้กรอก ปลาเค็ม และลูกชิ้น พบว่า ผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว ไม่มีฤทธิ์ก่อการกลายพันธุ์จนเกิดมะเร็งได้ แต่ในทางตรงกันข้ามสามารถช่วยยับยั้งหรือลดความเสี่ยงในการก่อกลายพันธุ์ได้ โดยช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเอ็นไซม์ที่ทำลายสารพิษ

    นอกจากนี้ อาหารเจมีผักและผลไม้เป็นส่วนประกอบหลัก คนที่รับประทานอาหารเจจึงได้รับกากใยจากผักและผลไม้ในปริมาณที่มากพอ ซึ่งจะช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยดักสารพิษในร่างกาย ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่

    แต่สิ่งที่ต้องควรระวังคือ อาหารเจมักมีไขมันสูง สังเกตได้จากอาหารเจจะมีความมันวาว และอาหารเจหลายชนิดเป็นอาหารทอด ดังนั้น จึงไม่ควรรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันมากเกินไป

    อาหารประเภททอดควรใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันปาล์มเพราะมีจุดเดือดสูง อาหารจะกรอบทน และไม่เหม็นหืนง่าย ส่วนอาหารประเภทผัดหรืออาหารที่ไม่ใช้ความร้อนสูง ควรใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน ไขมันชนิดนี้ร่างกายสามารถย่อยได้ง่าย ร่างกายนำไปใช้สร้างเซลล์ต่างๆ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้

    แต่ข้อเสียของน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว คือ เมื่อมีการใช้ซ้ำ หรือได้รับความร้อนสูงเป็นเวลานานจะมีกลุ่มสารโพลาร์เกิดขึ้น อาจทำให้เกิดโรคหัวใจจากเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้ ทางที่ดีที่สุดไม่ควรใช้น้ำมันซ้ำในการประกอบอาหาร เพราะน้ำมันที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลมักจะมีสารโพลาร์อยู่มาก อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย (กรอบบ่าย)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    4 ขั้นตอนง่ายๆ "อัดภาพดิจิตอล" ให้ถูกใจ
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01epe01260951&sectionid=0147&day=2008-09-26


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้หญิงหลายๆ คนมักจะมีปัญหากับการอัดภาพดิจิตอลได้ไม่ถูกใจ บ้างก็อัดมาใหญ่เกินไป เล็กเกินไป หรือบางทีทางร้านก็อัดภาพมาให้ผิดไปจากที่ต้องการเพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง โกดักมีทิปส์ง่ายๆ เลือกอัดภาพให้ถูกใจได้ใน 4 ขั้นตอน ให้สนุกกับการอัดภาพได้เพิ่มขึ้น เริ่มจาก

    1.ต้องการขนาดเล็กแบบพกพา หรือใหญ่เท่าวอลเปเปอร์ก็ทำได้

    ร้านอัดรูปยุคดิจิตอลนี้ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไม่จำกัด ฉะนั้น จะต้องทำความเข้าใจในวิธีการเรียกขนาดของรูป โดยแบ่งตามขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ได้ ดังนี้

    - 4P คือ กระดาษ 4"X6" แบ่งเป็น 4 รูป

    - 2P คือ กระดาษ 4"X6" แบ่งเป็น 2 รูป

    - 3R คือ กระดาษขนาด 3?" X 5"

    - 4R คือ กระดาษขนาด 4"X6" หรือเรียกว่าขนาดจัมโบ้ (JUMBO) <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    - 5R คือ กระดาษขนาด 5"X7"

    นอกนั้นมักจะเป็นขนาดพิเศษขึ้นอยู่กับการบริการของแต่ละร้านซึ่งเราสามารถที่จะขอทางร้านดูเป็นตัวอย่างได้ก่อนตัดสินใจ

    2.หมดปัญหาภาพแตก ไม่ชัด ภาพเป็นจุดๆ และเบลอแบบไม่ตั้งใจ

    หลังจากรู้ความต้องการแล้วว่าอยากได้รูปภาพขนาดไหน สิ่งสำคัญต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษก็คือ ไฟล์ภาพมีความละเอียดพอที่จะขยายได้ใหญ่ที่สุดแค่ไหน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาภาพไม่ชัด และหมดสนุกกับการชื่นชมภาพใบเก่ง มีสูตรง่ายๆ ในการคำนวณภาพกับความละเอียดของไฟล์มาให้ ดังนี้

    "ภาพขนาด 3R, 2P หรือ 4P ควรมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 4 แสนพิกเซล

    "ภาพขนาด 4R, 5R หรือ 6R ควรมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 7 แสนพิกเซล

    "ภาพขนาดพิเศษ 8"x10" หรือ 12"x15" ควรมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 2.2 ล้านพิกเซล <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    3.ภาพหาย ล้นขอบ ขอบหนา ขอบบางหรือไร้ขอบ แบบไหนดี?

    ขนาดของไฟล์ภาพดิจิตอลปัจจุบันมักจะถูกจัดเก็บไว้ไม่ตรงกับกระดาษอัดภาพ ฉะนั้น หากไม่ต้องการให้ภาพที่ถ่ายไว้หลุดเฟรม ต้องบอกกับทางร้านว่า อัดเต็มรูป ขอบขาว หรือหากว่าไม่ชอบที่จะให้รูปมีขอบสีขาวให้รำคาญใจ บอกทางร้านไว้ว่า อัดเต็มกระดาษไม่เอาขอบขาว แต่รูปอาจจะหายไปบางส่วน อันนี้ก็ต้องทำใจ...แต่ว่าการอัดแบบมีขอบหรือไม่มีขอบก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ให้ระบุกับทางร้านอัดรูปไว้ด้วยทุกครั้งดีกว่า

    4.เลือกเนื้อกระดาษให้เหมาะสม

    หากเป็นคนที่ต้องการภาพที่มีสีสันสดใส และดูมันวาว ต้องบอกกับทางร้านอัดรูปว่าขอเป็น กระดาษมัน เพราะเนื้อกระดาษจะละเอียดกว่า แต่ข้อจำกัดของกระดาษชนิดนี้ คือ จะมีการสะทือนของแสงทำให้ดูรูปลำบากในบางมุม และเวลาหยิบจับจะต้องจับที่ขอบกระดาษเท่านั้น ไม่เช่นนั้นรูปใบงามจะเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย

    ถ้าเป็นคนไม่ค่อยพิถีพิถันในการรักษารูปมากนัก แนะนำว่าควรอัดภาพด้วยกระดาษด้าน ที่มีเนื้อกระดาษที่หยาบกว่า เมื่อทำการอัดภาพสีสันจะดูอ่อนกว่าเล็กน้อย แต่จะไม่เกิดการสะท้อนแสงรบกวนสายตาไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ตาม และสะดวกต่อการหยิบจับและอีกทั้งยังง่ายต่อการเก็บรักษาอีกด้วย

    สำหรับการอัดภาพขนาดใหญ่ และการอัดภาพเพื่อใส่กรอบ แนะนำให้เลือกใช้กระดาษกึ่งมันกึ่งด้าน เนื้อกระดาษเป็นลักษณะเนื้อทราย ข้อดีคือให้สีสันสดใสคล้ายกระดาษมัน แต่เวลาใส่กรอบกระจก รูปจะไม่ติดกับกระจก และไม่ติดรอยนิ้วมือ เมื่อหยิบจับอีกด้วย
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ก.ล.ต.จับบริษัทหลอกซื้อขายน้ำมัน ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า
    http://www.matichon.co.th/prachachat/news_title.php?id=5829


    เมื่อวันที่ 25 กันยายน สำนักงานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการ ปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) เข้าตรวจค้นสถานประกอบการ ของบริษัท กลอรี่ บูลเลี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 889 อาคารไทย ซี ซี ทาวเวอร์ ชั้นที่ 12 ห้องเลขที่ 124 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พบเอกสาร และหลักฐานที่เชื่อได้ว่า บริษัทได้ชักชวนให้บุคคลทั่วไป เข้ามาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

    ซึ่งอ้างอิงกับน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยอ้างว่าเป็นสาขา ของโบรกเกอร์ในฮ่องกง และบริษัทได้รับผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย ของลูกค้า

    การกระทำข้างต้น เข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นทางค้าปกติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และเป็นผลให้มีผู้ที่หลงเชื่อได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทจำนวนหนึ่ง จนได้รับความ เสียหายในเวลาต่อมา

    สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัทกลอรี่ บูลเลี่ยนฯ รวมทั้งผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องต่อ ปศท. รวมทั้งขอให้ ปศท. พิจารณาว่า การประกอบธุรกิจของบริษัท มีลักษณะ เป็นการฉ้อโกงประชาชนด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ หากผู้ใดได้รับความเสียหายจากการเข้าลงทุนกับ บริษัทนี้ สามารถแจ้งข้อมูลความเสียหายให้แก่ ปศท. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

    ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับ ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถ ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. www.sec.or.th </SPAN>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แห่ซื้อขายใบจองเก็งกำไรทอง พาณิชย์เตือนเสี่ยงสูงเล็งหาช่องล้อมคอก
    http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02p0101250951&day=2008-09-25&sectionid=0201


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปรากฏการณ์ "ใบจองทองคำ" ระบาดหนัก หลังราคาผันผวนหนักปรับขึ้นลงบาทละ 1,000 บาทในเวลา 10 วัน เผยร้านค้าทองแถบเยาวราชขายใบจอง 2 สัปดาห์มีเงินหมุนเฉียด 1,000 ล้านบาท หลังนักลงทุนเก็งกำไรผ่านใบจองทองกันสะพัด ได้ใจทองคำช่วงขาขึ้น ซื้อวันนี้อีก 2-3 วันกำไรทันตาเห็น ด้านกรมการค้าภายในเตือนซื้อขายใบจองมีความเสี่ยง อาศัยแค่ความน่าเชื่อถือเป็น "เครดิต" เตรียมนำทองเข้าเป็นสินค้าควบคุมหลังผู้บริโภคร้องเรียน หวั่นร้านทองปฏิเสธรับซื้อคืน-ไม่ส่งมอบทองให้ตามสัญญา



    วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดในสหรัฐได้ส่งผลให้นักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนในทองคำมากขึ้น จนกระทั่งทำให้เกิดภาวะราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบมาถึงราคาซื้อ-ขายทองคำแท่งในประเทศในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏมีความผันผวนมาก เคยลงไปถึงระดับต่ำสุดที่ราคารับซื้อบาทละ 12,550 บาท ราคาขายบาทละ 12,650 บาท ในวันที่ 11-12 กันยายน และปรับขึ้นในระดับสูงสุดในวันที่ 23 กันยายน รับซื้อบาทละ 13,800-14,000 บาท ขายบาทละ 13,900-14,100 บาท

    ก่อให้เกิดการ "เก็งกำไร" ซื้อ-ขายทองคำแท่งในระยะสั้น ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นตามย่านร้านค้าทองสำคัญอย่างเยาวราชจึงเกิดปรากฏการณ์ "ต่อคิว" เพื่อซื้อทองคำใน วันที่ราคาทองลดลงต่ำกว่า 13,000 บาท ซึ่งในช่วงนั้นร้านค้าทองส่วนใหญ่ไม่มีทองคำแท่งเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคจนต้องใช้วิธีขาย "ใบจองทองคำ" โดยให้ลูกค้าจ่ายเงินสดก่อนและมารับทองทีหลัง แทนการจ่ายเงินแล้วได้รับสินค้าทันที ซึ่งในช่วงต่อมาเมื่อราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคหลายรายต่างก็ นำใบจองทองขายกลับคืนไปให้กับร้านค้าทอง

    ที่ผ่านมาคนไทยคุ้นเคยกับ "ใบรับฝากทองคำ" หรือ "ตั๋วทองคำ" มากกว่า "ใบจองทองคำ" โดยร้านค้าทองคำรายใหญ่จะให้บริการซื้อขายตั๋วทองคำกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนซื้อขายทองคำและฝากทองคำไว้กับร้าน โดยความน่าเชื่อถือของตั๋วทองคำนั้นขึ้นอยู่กับร้านที่ออกตั๋วทองคำ แต่กรณีใบจองทองคำคล้ายกับใบรับฝากทองคำ ซึ่งอาศัยความน่าเชื่อถือของร้านทองเช่นกัน

    ร้านทองใหญ่รับออกใบจองเกินร้อยล้าน

    แหล่งข่าวจากวงการทองคำ ให้ข้อมูลกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กรณีการออกใบจองทองคำนั้น ไม่ใช่ภาวะปกติของการซื้อขายทองคำ ต้องยอมรับว่าในช่วงนี้มีความต้องการทองคำสูง แต่ร้านค้าทองไม่มีทองคำเพียงพอ ดังนั้นจึงมีการออก "ใบจองทองคำ" ให้กับผู้บริโภค โดยผู้บริโภคเองก็ยอมรับที่จะนำเงินไปซื้อใบจองทองคำเพื่อเป็นหลักประกันว่าจะได้ซื้อทองคำในราคา ณ วันนั้น

    ยกตัวอย่าง ในระหว่างวันที่ 10-17 กันยายนที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลงเหลือบาทละ 12,550-12,850 บาท ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อทองคำแท่งเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนทองคำแท่งขาดตลาด ร้านค้าทองรายใหญ่ในย่านเยาวราช เช่น ห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง, ห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง, แม่ทองสุกโกลด์สมิท, ห้างขายทองทองใบเยาวราช, ห้างขายทองจินฮั้วเฮง ต้องออกใบจองทอง โดยสัญญาให้ลูกค้ามารับสินค้าภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าแทน

    ร้านค้าทองคำส่วนใหญ่ต่างอ้างว่าทองขาดสต๊อก ไม่มีทองส่งมอบ ณ เวลานั้น แต่ลูกค้าเชื่อถือคุณภาพของร้านทองและเรียกร้องให้ออกใบจองสินค้าแทน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ต้องการเสียโอกาสที่จะ"ช้อนซื้อ" ทองคำแท่งราคาถูกในช่วงเวลา ดังกล่าว จึงยอมเสี่ยงให้ทางร้านออกใบจองตามความต้องการซื้อของลูกค้า โดยเอกสารใบจองดังกล่าวจะระบุวันที่ซื้อและวันที่ส่งมอบสินค้า โดยระหว่างการรอรับสินค้า ลูกค้าสามารถ "ขายใบจอง" ได้ตลอดเวลา โดยร้านค้าทองจะรับซื้อสินค้าคืนด้วยการอ้างอิงราคาของสมาคมค้าทองเป็นหลัก

    ความจริงเมื่อร้านทองรายใหญ่ยืนยันว่าสินค้าขาดสต๊อก ไม่มีสินค้าส่งมอบ ณ เวลานั้น ผู้บริโภคก็มีทางเลือกในการซื้อทองร้านอื่นที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในย่านเยาวราช แต่เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อมั่นคุณภาพสินค้าทองคำแท่งของร้านนั้นๆ เพราะซื้อขายกันมานาน "ทำให้เราไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของลูกค้าได้"

    นอกจากนี้ลูกค้าบางรายที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าทองคำแท่งที่หน้าร้านได้ ก็ยังเชื่อถือไว้วางใจที่จะสั่งซื้อทางโทรศัพท์ โดยโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทๆ ก็ออกใบจองให้ด้วยเช่นกัน

    อย่างไรก็ตามจากการประเมินเบื้องต้นในช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ร้านทองรายใหญ่รายหนึ่งในเยาวราช เพียงรายเดียว สามารถจำหน่ายทองคำแท่งโดยออกใบจองไปเป็นจำนวนมากกว่าการซื้อขายในช่วงปกติถึง 10 เท่าตัว คิดเป็นมูลค่ายอดขายสูงกว่า 100 ล้านบาท เมื่อรวมร้านทองทั้งเยาวราชใน 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะมีเงินสะพัดผ่านใบจองทองคำเฉียด 1,000 ล้านบาท ราคาทองคำเริ่มปรับตัวสูงขึ้นทำให้ลูกค้าแห่นำใบจองมาขายคืนร้านทองเกือบทั้งหมดแล้ว การตัดสินใจลงทุนและขายทองในช่วงที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรในการลงทุนได้เป็นกอบเป็นกำ เช่น ลงทุนซื้อทองคำ 1 บาท โดยถือใบจองเพียง 1 สัปดาห์ เมื่อนำมาขายจะมีผลกำไรไม่ต่ำกว่าบาทละ 1,000 บาททีเดียว

    แต่นั้นเป็นการมองสถานการณ์กรณีทองปรับราคาขึ้น ซึ่งในทางกลับกันหากทองปรับราคาลง ผู้ซื้อใบจองในราคาสูงก็จะขาดทุนได้ หากไม่ได้นำใบจองทองไปขายต่อเสียก่อน

    ตั้งโต๊ะกังเมินขายใบจองยันมีทองแท่งพอ

    นายไชยกิจ ตันติกาญจน์ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้งโต๊ะกัง กล่าวว่า ในช่วงที่ราคาทองคำลดต่ำลงนั้น ทางร้านไม่ได้ออกใบจองให้แก่ลูกค้าที่มาซื้อ เนื่องจากร้านมี สต๊อกทองคำแท่งเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตามกระแสความต้องซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไรในช่วงดังกล่าวมีเป็นจำนวนมาก จนทองคำแท่งขาดตลาด ทำให้ร้านทองรายใหญ่หลายแห่งในย่านเยาวราชจำเป็นต้องออกใบจองสินค้า ก่อนส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าภายใน 10-14 วัน

    ในกรณีที่ร้านทองออกใบจองสินค้าให้แก่ลูกค้านั้น ส่วนใหญ่จะมีการส่งมอบสินค้าจริง เพราะคนไทยนิยมซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ด้วยตัวเองมากกว่าฝากสินค้าให้ร้านทองดูแล สำหรับร้านค้าทองในต่างจังหวัดส่วนใหญ่นิยมขายทองรูปพรรณเป็นหลัก ไม่นิยมขายทองคำแท่ง เพราะมองว่าเป็นธุรกิจการค้าที่เก็งกำไร จึงไม่ค่อยเจอร้านค้าทองในต่างจังหวัดออกใบจองทองคำแท่ง

    ทั้งนี้มีข้อน่าสังเกตว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว มีการนำเข้าทองคำแท่งผ่านด่านศุลกากรเป็นจำนวนสูงถึง 36 ตัน (เฉลี่ยเดือนก่อนหน้านั้นประมาณ 20 ตัน) ยังไม่นับการค้าทองคำเถื่อนที่ไม่มีใครรู้ตัวเลขที่แน่ชัด ดังนั้น ทองคำแท่งภายในประเทศไม่น่าจะขาดแคลน แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจึงเป็นการเก็งกำไรผ่านการซื้อขายใบจองทองคำทำกำไรกันมโหฬาร

    พาณิชย์เตรียมออกมาตรฐานใบจอง

    ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมเตรียมพิจารณาให้สินค้าทองคำอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุมเพื่อใช้มาตรการกฎหมายเข้ามาดูแลการซื้อขายทองคำ หากพบว่ามีการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมหรือมีร้านค้าเอาเปรียบผู้บริโภค เนื่องจากขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ซื้อทองคำผ่านสายด่วน 1569 ว่า ร้านทองคิดค่ากำเหน็จสูงเกินจริง และมีการออกใบจองทองคำให้กับลูกค้า ซึ่งผู้บริโภคและนักลงทุนรายย่อยเกรงว่าอาจถูกเอาเปรียบด้วยการปฏิเสธการซื้อใบจองคืนหากราคาเพิ่ม หรือไม่ส่งมอบทองคำจริงตามเวลาที่กำหนดถ้าราคาผันผวน

    ขณะนี้มีเงินหมุนเวียนซื้อทองด้วยวิธีออกใบจองสูงหลายร้อยล้านบาท หากเกิดการเบี้ยว ปิดร้านหนีจะกระทบคนจำนวนมาก เพราะร้านค้าหรือห้างหุ้นส่วนโดยมากจะจดทะเบียนเพียง 5-10 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการออกด้วยเครดิตร้านค้าและยังไม่มีหน่วยงานคุ้มครองชัดเจน กรมจึงเตรียม หาแนวทางเพิ่มความน่าเชื่อถือในการซื้อด้วยใบจองให้มากขึ้น

    สำหรับแนวทางในการทำให้ใบจองน่าเชื่อถือนั้น จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในการออกใบจองที่ชัดเจน โดยเริ่มจากร้านค้าทองต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำตามที่กำหนดจึงจะสามารถออกใบจองได้ เงื่อนไขในการทำสัญญาระหว่างร้านค้ากับผู้ซื้อที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกร้านค้า วิธีการ ชำระเงิน ระยะเวลาการส่งมอบสินค้า ซึ่งหากไม่ส่งมอบตามที่กำหนด ร้านค้าจะต้องมีการชดใช้ให้กับผู้ซื้อ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว กรมจะต้องหารือกับสมาคมผู้ค้าทองคำเพื่อนำมาบังคับใช้ต่อไป

    นอกจากนี้ กรมสามารถใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ นำทองคำเข้าเป็นสินค้าควบคุมได้ทันที หลังจากนั้นร้านค้าทองจะต้องแจ้งปริมาณมูลค่าซื้อขายในแต่ละวันให้กรมรับทราบ เพิ่มเติมจากเดิมที่แจ้งเฉพาะการเปลี่ยนแปลงราคา สำหรับการหารือเบื้องต้นกับสมาคมผู้ค้าทองคำต่างเห็นด้วยในหลักการ ส่วนเรื่องการคุมค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆ นี้ โดยอาจให้คิดค่ากำเหน็จตามสัดส่วนราคาทอง เช่น 5% หรือ 10%

    เฮดจ์ฟันด์ปรับเป้าเพิ่มลงทุนทองคำ

    ราคาทองในตลาดต่างประเทศผันผวนรุนแรง โดยนับจากราคาทองที่ตลาดล่วงหน้าสหรัฐพุ่งทะยานทะลุระดับ 900 เหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. เพิ่มขึ้น 38.50 เหรียญสหรัฐ ไปปิดที่ 903.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ความผันผวนดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการปรับแผนการลงทุนของกลุ่มกองทุนต่างๆ โดยเฉพาะกองทุนบริหารความเสี่ยง (hedge fund) ซึ่งถอนการลงทุนออกจากตลาดหุ้น อันเนื่องมาจากการประกาศมาตรการห้ามซื้อขายหุ้นในลักษณะของการทำชอร์ตเซล (การขายหุ้นโดยไม่มีใบหุ้นในมือพอ และซื้อกลับมาคืนในภายหลัง) ทำให้การเก็งกำไรจากภาวะปั่นป่วนของตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบวิกฤตการเงินในสหรัฐ

    รายงานข่าวระบุว่า ดีลเลอร์ค้าทองคำแท่งในสหรัฐ และอังกฤษ ต้องรับมือกับความต้องการลงทุนในทองคำ จากลูกค้าธนาคารที่ตื่นตระหนก และไม่วางใจสถาบันการเงิน โดยได้โยกเงินฝากของพวกเขามาลงทุนในสินทรัพย์ที่จับต้องได้ โดยเฉพาะทองคำ ซึ่งมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวน ยิ่งกว่านั้น การล่มสลายของเลห์แมน บราเธอร์ส เป็นปัจจัยกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดเงิน ไฟแนนเชียล ไทม์ส ของอังกฤษ ระบุว่า มีการโยกเม็ดเงินออกจากกองทุนตลาดเงินมากถึง 1.97 แสนล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
     
  12. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <!-- / next / previous links -->
    <!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 21 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 16 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nongnooo, aries2947+, เทพารักษ์, nong_enter, พิมพาภรณ์ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หวัดดีทุกท่านครับ หุ หุ
     
  13. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    สวัสดีครับพี่น้องหนูครับ
    น้องเอ
     
  14. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
  15. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    เรื่องทองคำแท่ง ...... ผมยอมรับจริงๆว่าช่วงนี้ฮ็อตมากจริงๆครับ.....
    ขนาดภรรยาที่บ้านผมว่า... ไม่ค่อยกล้าเสี่ยงยังเอากับเค้าด้วย...........
    นี่ก็ได้ใบจองมาหลายสิบแล้ว ......
     
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่าเรื่องธรรมดาครับ มันเป็นเรื่องของ herd of sentiment ครับ ทุกยุคทุกสมัย คนเปลี่ยนแปลงไปแต่พฤติกรรมของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนครับ greed and fear (กล้าและปอดแหก) ต่อให้ถึงวันสี้นโลกพฤติกรรมนี้ของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนครับ ผมเจอมามากแล้วครับ ถ้าแนะนำแล้วเขาทำเงินได้เขาจะบอกว่านี่สิเค้าตัดสินใจเอง แต่ถ้าแนะนำไปแล้วผิดทางก็จะบอกว่า ไอ้น้องนี่นะซี้ซัวแนะนำอย่างนี้ไม่ได้เรื่องเห็นมั้ยครับ เรื่องของเงินทองมันไม่เข้าใครออกใครหรอกครับ ผมถึงหลีกเลี่ยงการแนะนำแบบฟันธงเพราะต่อให้ถูกเค้าได้เงินผมเชื่อว่าเค้าไม่มาขอบคุณเราหรอกครับ ด้วยความรักต่อเพื่อนๆชาววังหน้าผมจึงนำแค่ความเห็นของผมมาบอกส่วนการตัดสินใจนั้นเป็นของท่านแต่เพียงผู้เดียวครับ ผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่นเพราะผมพบแล้วว่าเวลาต้องขึ้นชก ต้องมีโอกาสชนะมากกว่าร้อยละ90เท่านั้นครับผมจึงทำ จริงๆด้วยความเคารพครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เยี่ยมครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    11 วิธีทำงาน อย่างมีความสุข

    http://hilight.kapook.com/view/29270

    [​IMG]



    [​IMG] เริ่มงานอย่างสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ปลอดโปร่ง

    ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ปลอดโปร่ง จะช่วยให้สมองโล่ง ตื่นตัวที่จะคิดและทำงานทั้งง่ายและยากได้อย่างสดใส ไม่กลัว และมีมุมมองต่องานและปัญหาได้อย่างแหลมคมเสมอ ​

    [​IMG] ปรับปรุงบุคลิกภาพ ให้เหมาะกับตำแหน่งและลักษณะงาน

    ผู้ที่มีบุคลิกภาพดีจะเหมือนมีมนต์สะกดคนอื่นให้เชื่อมั่น เชื่อถือ เคารพ และชื่นชม นั่นย่อมช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกมาก ​

    [​IMG]สนทนาแลกเปลี่ยนกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานอยู่เสมอ

    อย่าฉายเดี่ยว งานที่ต้องทำเป็นหมู่คณะก็ต้องไปกันเป็นหมู่คณะ หากหมู่คณะสามารถประสานพลังกันได้ งานก็ง่าย ผลลัพธ์ก็ดี และการอยู่ร่วมกันก็มีความสุข การพูดคุยกันเสมอ คือการละลายกำแพงน้ำแข็งที่อาจก่อตัวขึ้นขวางกั้นความสัมพันธ์ที่ควรจะดีต่อกันได้ตลอดเวลา ​

    [​IMG]ศึกษาวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม

    งานคือความท้าทายที่ไม่หยุดนิ่ง มันจะมีตัวแปรหรือปัญหาทั้งเก่าและใหม่ให้เราต้องคอยแก้อยู่เสมอ อย่าใช้แค่ความเคยชินทำงาน แต่ต้องตื่นตัวที่จะเรียนรู้กลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อนำไปใช้พิชิตปัญหา งานจะสำเร็จได้ดั่งใจเสมอ และตัวคุณเองก็จะพัฒนาก้าวหน้าได้มากตามไปด้วย ​

    [​IMG]ใส่ความกระตือรือร้นและพลังวังชาลงไปในงาน

    งานคือการสะสาง คือการลงมือ คือการแก้ไข ทั้งสามประการนี้ล้วนต้องการพลังกายพลังใจที่จะพิชิต ความกระตือรือร้นนั้นเหมือนน้ำมันเครื่อง ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานดี มีกำลังมาก และเป็นไปอย่างราบรื่น ฉะนั้น กระตือรือร้นให้มาก และมีกำลังวังชาเข้าไว้ ​

    [​IMG]หมั่นบันทึกคำเตือนเพื่อกันลืม สำหรับตนเอง

    ความจำของคนมีขีดจำกัด มันสามารถหลงลืมเรื่องหลายเรื่องได้ การบันทึกไว้ไม่เพียงช่วยกันลืม แต่จะกลายเป็นหลักฐานยืนยันที่มีน้ำหนักได้ในภายภาคหน้า ​

    [​IMG]หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา

    อย่าหยุดเรียนรู้ คนที่หยุดเรียนรู้คือคนที่ตายแล้ว เพราะโลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน ความรู้ยังมีอีกสารพัดสารพันซึ่งเรายังเข้าไม่ถึง นั่นคือขุมทรัพย์ที่ควรจะค้นให้พบ ​

    [​IMG]หากต้องการคลายเครียด ลองหาหนังสือธรรมะมาอ่าน

    หนังสือธรรมะดีๆ ช่วยปัดฝุ่นใจ ช่วยให้ใจเบา ขจัดความหมองเศร้า และเติมความสงบ ซึ่งเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ให้เราทุกคนได้ ​

    [​IMG]อย่าจริงจังกับงานและชีวิตจนเคร่งเครียด

    ชีวิตกับงานมีไว้เพื่อให้เราจัดการให้มันลงตัว ไม่ได้มีไว้ให้แบก ทำให้ดีที่สุดเท่าที่คุณทำได้ ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านั้น เพราะคุณใส่ใจที่จะทำมันอย่าง "ดีที่สุด" แล้ว จึงไม่เหลืออะไรให้ต้องโกรธหรือโทษตัวเองอีก ​

    [​IMG]แบ่งงานออกเป็นส่วนๆ แล้วลำดับความสำคัญของงาน

    เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับงานที่ไม่สำคัญ และเหลือเวลาเพียงน้อยนิดให้งานที่สำคัญมาก แยกมันออกจากกันซะ แล้วเลือกจัดการตามลำดับความสำคัญของมัน ​

    [​IMG]กำหนดเวลาพักผ่อน เวลาทำงาน และเวลานั่งสมาธิให้สมดุล ชัดเจน

    ทั้งหมดจะช่วยสร้างพลังให้แก่คุณ เพื่อออกไปรบรากับภารกิจมากมายที่คอยท่าอยู่ในวันรุ่งขึ้น ทำทุกอย่างนี้ให้ดีที่สุด คุณจะพบว่าคุณมีพลัง มีไฟ และมีความสุขใจอย่างมหาศาล จะไม่กลัวการงานแม้หนักแสนหนัก เพราะคุณทั้งพักและผ่อนตัวเองได้ด้วยสามวิธีนี้ ​
    [B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]
    [/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า

    http://hilight.kapook.com/view/29278


    [​IMG]

    อาจอง พยากรณ์หิมะตกไทยต้นมกราคมปีหน้า เตือนกาญจน์ระวังเขื่อนแตก

    เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา และผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาวะโลกร้อนเปิดเผยถึงความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศของประเทศ ที่ส่งสัญญาณมาทางพายุหมุนทอร์นาโดขนาดเล็ก ณ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ และพัทยา ว่า ปกติแล้วพายุทอร์นาโดมีให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาในต่างประเทศ แต่ประเทศไทยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสาเหตุมาจากอุณหภูมิสูงขึ้น และขณะนี้ทั่วโลกอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบ 1 องศาแล้ว แม้ภาพรวมจะไม่เห็นชัดเจนนัก แต่ที่ผ่านมาก็ส่งผลให้ประชากรในยุโรปเสียชีวิตแล้ว 20,000 คน จากความร้อนที่สูงขึ้นมีผลกระทบโดยตรง ประเทศที่อยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเยอะ ที่ผ่านมามีหิมะตกครั้งแรกในเวียดนาม เคนยา และมีความเป็นไปได้ที่ในเดือนมกราคม 2552 นี้จะมีหิมะตกในภาคเหนือของประเทศไทย

    ดร.อาจอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนยังส่งผลให้ภาวะน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ละลายเร็วกว่าที่คิด ขณะนี้มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่ากับเมืองนิวยอร์กไหลสู่ทะเล หมายความว่าน้ำในทะเลจะค่อยๆ กินชายฝั่งทะเลบ้านเราไปเรื่อย ตอนนี้เราสูญเสียแผ่นดิน 1 กิโลเมตร ที่ชายทะเลบางขุนเทียน และทั่วโลกเจอปัญหาเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาออกมาพูดแล้วว่าต่อไปเมืองไมอามี่ ซึ่งเป็นเมืองติดทะเลจะไม่เหลือ
    ทั้งนี้กรุงเทพฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร เมื่อระดับน้ำทะเลขึ้นมาเกินกว่า 1 เมตร กรุงเทพฯ พร้อมกับจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และลพบุรี ครึ่งจังหวัดจะจมอยู่ใต้น้ำ และนั่นหมายความว่าพื้นที่ผลิตข้าวในภาคกลางจะหมด ราคาข้าวในตลาดโลกจะสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะแหล่งปลูกข้าวในภาคกลางเลี้ยงคนเกือบทั้งโลก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของแผนที่นาซาว่า ภายใน 30 ปี น้ำทะเลจะสูงขึ้น 6 เมตร ​

    ดร.อาจอง กล่าวอีกว่า เพื่อรับมือกับปัญหานี้จำเป็นต้องย้ายเมืองหลวงตั้งแต่เดี๋ยวนี้เพราะต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี ในการย้ายเมือง และภายใน 6 ปีจะเริ่มเห็นระดับน้ำทะเลสูงขึ้นในระดับท่วมขังแล้ว จะสูบออกได้ยาก นอกจากสร้างเขื่อนกั้นน้ำเหมือนกับประเทศเนเธอร์แลนด์ จะป้องกันได้ แต่ล่าสุดตนไปประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อเดือนที่แล้ว เขาบอกว่าจะรับไม่ไหวแล้วเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การสูบน้ำออกจากเขื่อนทำได้ลำบาก สถาปนิกของประเทศเริ่มออกแบบบ้านอยู่บนแพกันแล้ว อย่างไรก็ตาม การย้ายเมืองใหม่อันดับแรกต้องย้ายรัฐสภาไปก่อน เพราะเป็นศูนย์กลางของเมืองใหม่ เมื่อย้ายไปหน่วยราชการต่าง ๆ จะตามไป จุดเหมาะสมที่จะย้ายเมืองหลวงคือ อีสานตอนใต้ ขณะที่ภาคใต้จะเจอพายุรุนแรงมากขึ้น จะเกิดสตอม เซอจมาถึงกรุงเทพฯ อย่างที่ ดร.สมิทธ บอกไว้ ส่วนภาคตะวันตกจะมีพายุไซโคลนเข้ามา โชคดีที่ผ่านมาพายุนาร์กีสเข้าไปที่พม่ายังมาไม่ถึง ประเทศไทย

    อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนแล้วว่าเขื่อนใหญ่ 2 เขื่อน ในจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ใต้รอยร้าวของเปลือกโลก แต่วิศวกรแย้งว่าได้ออกแบบการก่อสร้างเขื่อนให้ทนต่อแผ่นดินไหวได้ 8 ริคเตอร์ แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง อย่างไรก็ตาม ถ้าเอาเขื่อนมาเขย่าในความแรง 8 ริคเตอร์ เขื่อนก็สามารถทนได้ แต่ถ้ารอยร้าวเคลื่อนที่สลับกันจะทำให้เขื่อนแตก และน้ำจะไหลลงมาท่วมจังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ใต้เขื่อน และจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รัฐบาลต้องให้นักธรณีวิทยาไปศึกษาดู เบื้องต้นต้องรีบปล่อยน้ำออกจากเขื่อนให้เหลือน้อยลง แม้ว่าเขื่อนแห่งนี้จะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญของพื้นที่ภาคกลางก็ตามที จำเป็นต้องเสียสละไฟฟ้าเพื่อช่วยชีวิตมนุษย์ และต่อไปการสร้างบ้าน สร้างอาคารในแนวที่มีรอยร้าวแผ่นดินไหวไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ กรุงเทพฯ อีสานตอนเหนือ ต้องออกฎหมายรับรอง การทนทานต่อแผ่นดินไหวอย่างน้อย 6 ริคเตอร์ ​

    ส่วน นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงกรณีที่มีผู้กล่าวว่าในช่วงเดือนมกราคม 2552 จะมีหิมะตกในประเทศไทย ว่า การที่จะมีหิมะตกหรือไม่ขึ้นอยู่กับมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่เข้าปกคลุมในประเทศไทยช่วงนั้นว่ามีความหนาวเย็นมากแค่ไหน โดยต้องดูเรื่องระดับความสูงของพื้นที่ในไทยด้วย ซึ่งโดยรวมคิดว่าน่าจะเกิดแม่คะนิ้งตามภูเขาและดอยในเชียงใหม่ และเชียงรายมากกว่า ไม่ใช่หิมะ

    ขณะที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รังสิต กล่าวว่า เรื่องที่จะเกิดหิมะตกในเมืองไทยถือเป็นเรื่องที่ไกลตัวและมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เนื่องจากลักษณะภูมิศาสตร์ของประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นและไม่ได้อยู่ติดกับประเทศจีนเหมือนพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนาม ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การเกิดหิมะตกอุณหภูมิต้องติดลบ แต่ลักษณะภูมิอากาศของไทยยังไม่ถึงขั้นติดลบ โอกาสที่จะเกิดหิมะตกจึงเป็นไปได้ยาก คงมีแต่โอกาสที่จะเกิดลูกเห็บตกและเกิดแม่คะนิ้งบน ดอยสูงมากกว่า

    "สำหรับในเรื่องอีก 30 ปี จะเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ เรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูง หากดูจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2538 ซึ่งหากมีปริมาณฝนตกหนักเหมือนปี 2538 ประกอบกับแผ่นดินที่ทรุดตัวลงทุกๆ ปี รวมกับน้ำเหนือที่ไหลลงมา และเกิดน้ำทะเลหนุนขึ้น หากปัจจัยต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ก็อาจจะใช้เวลาไม่ถึง 30 ปี โดยพื้นที่ที่จะเกิดน้ำท่วมก่อนคือจังหวัดสมุทรปราการ แต่การท่วมจะเป็นไปในลักษณะเหมือนน้ำขึ้น-น้ำลงตามระดับ จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาทางรับมือตั้งแต่ตอนนี้เพื่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายน้อยที่สุด" รศ.ดร.เสรี กล่าว ​



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
    [​IMG]
    ขอขอบคุณภาพประกอบจากมติชนออนไลน์
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นมถั่วเหลืองเต็มคุณค่าอาหาร

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdPUzB5Tmc9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>นมถั่วเหลือง เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ดื่มกันมานานเพราะเต็มไปด้วยคุณค่าโภชนาการทั้งให้โปรตีน แคลเซียม และหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง หลายๆ คน จึงเลือกที่จะดื่มนมถั่วเหลืองเป็นมื้อเช้าง่ายๆ กินกับปาท่องโก๋ หรือจะเลือกดื่มในยามว่างรองท้องไปพลางๆ ก็ได้ ที่สำคัญนมถั่วเหลืองยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ดื่มนมวัวไม่ได้อีกด้วย

    รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล ประจำสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า นมถั่วเหลืองเป็นเครื่องดื่มที่อุดมด้วยคุณค่าโภชนาการ นอกจากถั่วเหลืองเป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย คือ คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี บี1 บี2 บี6 บี12 ไนอาซิน ในเมล็ดถั่วเหลืองนั้นยังมีเลซิทิน ซึ่งเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ลดไขมันและลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นมถั่วเหลืองจึงเป็นเครื่องดื่มสำหรับทุกเพศทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน โดยดื่มเป็นอาหารเสริมวันละ 1-2 แก้ว เพราะสารอาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น เพราะสามารถป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ได้ เช่น ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในลำไส้ ริดสีดวง ลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ทั้งนี้ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมควบคู่กันไปด้วย เช่น ปลาทอดกรอบที่รับประทานได้ ทั้งกระดูก ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า ขึ้นฉ่าย กวางตุ้ง เป็นต้น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "อาหารที่มีการศึกษากันมากและพบว่ามีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของหญิงวัยทอง ก็คือ อาหารถั่วเหลือง เนื่องจากมีสารไอโซฟลาโวนหรือบางทีเรียกว่า เอสโตรเจนของพืช มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอส โตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนของเพศหญิง แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า ไอโซฟลาโวนเหล่านี้มีผลต่อการลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคกระดูกพรุน และลดอาการของหญิงวัยหมดประจำเดือน"

    นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชั้นนำ กล่าวว่า ด้วยกระแสรักสุขภาพ ในญี่ปุ่นนมถั่วเหลืองได้รับความนิยมอย่างมาก ถือเป็น "Meat of the Field" เพราะเป็นแหล่งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีไลฟ์สไตล์ค่อนข้างเร่งรีบ ผู้ผลิตได้คิดค้นและพัฒนาน้ำนมถั่วเหลืองบรรจุในกล่องยูเอชทีหลากหลายรูปแบบและหลายขนาด เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค

    "ด้วยความหลากหลายของรสชาติที่มีให้เลือก นมถั่วเหลืองจึงไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในคนทั่วไปที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป แต่ยังได้รับความนิยมจากหญิงตั้งครรภ์ คนวัยทำงาน และเด็กวัยรุ่น เพราะเป็นแหล่งโปรตีนที่ให้พลังงานกับร่างกายและไม่มีไขมัน โดยนมถั่วเหลืองได้กลายเป็นทางเลือกสำหรับคนที่แพ้ไข่ อาหารทะเล หรือนมวัว เพื่อให้ร่างกายได้คุณค่าโภชนาการครบถ้วน"

    -----------------------------------------------

    นำมาฝากท่านโดนะครับ
    ให้ท่านโดทานทุกวัน ดีมากๆ สุดยอด

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...