พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    <TABLE class=tborder id=post1456785 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ตั้งจิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1456785", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 09:43 AM
    วันที่สมัคร: Sep 2005
    ข้อความ: 1,451
    ได้ให้อนุโมทนา: 10,276
    ได้รับอนุโมทนา 11,390 ครั้ง ใน 1,465 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 729 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1456785 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ตอบครับ หุ หุ
    1.พระสมเด็จองค์นี้
    ข.ไม่แท้

    2.พระสมเด็จองค์นี้เนื้ออะไร

    ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว

    3.องค์ผู้อธิษฐานจิตคือองค์ไหน

    ฏ.ไม่มีใครอธิษฐานจิต
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เหมือนกัน 555 มีไรมั้ยลุง:z3



    สงสัยเที่ยวนี้คุณตั้งจิต ..... น่าจะผิดครับ
    ตามสายตาที่ผมมองนะครับ .... แหะๆๆๆ


    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เดี๋ยวเย็นนี้รู้ว่า ลอกคุณตั้งจิต ถูกหรือเปล่า อีกแป๊บนึงครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เตือน! สตอร์ม เซิร์จ คลื่นพายุหมุน แรงเท่านาร์กีส

    http://hilight.kapook.com/view/27729

    [​IMG]
    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต


    หลังจากที่ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมากล่าวเตือน แนวชายฝั่งอ่าวไทย 3 จังหวัด คือ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมถึงบริเวณชายฝั่งทะเลในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ระวังวิบัติภัยจากสตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวถือเป็นช่วงอันตรายอย่างยิ่ง จากความเร็วของแรงลมที่ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะส่งผลให้คลื่นสูงเฉลี่ย 2.2-4.5 เมตร ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงๆ ความรุนแรงอาจเท่าพายุนาร์กีสเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวได้สร้างความแตกตื่นกันไม่น้อย กับปรากฎการณ์ สตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge) หรือ พายุหมุน หรือ คลื่นซัดเข้าชายฝั่ง

    เชื่อหรือไม่ว่า ปรากฎการณ์ Storm Surge เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้ว! และเคยเกิดบ่อยครั้งด้วย ซึ่งแต่ละครั้งก็นำมาซึ่งความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง....

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2532 เกิดพายุไต้ฝุ่น เกย์ (คุ้นๆ ใช่ไหมล่ะ) พัดถล่ม จังหวัดชุมพร มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ต่อมาปี 2540 พายุลินดา ก็พัดซ้ำรอยเดิม ใน จังหวัดชุมพร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่า ทว่าก็สร้างความเสียหายมากครั้งหนึ่งเช่นกัน และครั้งสำคัญในปี 2505 พายุที่แหลมตะลุมพุก อันเกิดจากพายุโซนร้อนแฮเรียต ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์อันน่าโศกเศร้า ยังมาซึ่งความเสียหายต่อชีวิต และภูมิประเทศ โดยในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่าพันคน!!!

    หันมาดูในฝั่งกรุงเทพฯ กันบ้าง เมื่อปี 2504 Storm Surge ก็เคยมีปรากฏการณ์เกิดพายุใหญ่ซัดเข้ามาในอ่าวไทย จนเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ เช่นกัน และในปี 2526 ก็เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าฝนพันปี มีน้ำท่วมและขังในพื้นที่นาน ที่สำคัญ การเกิดขึ้นของพายุได้สร้างความเสียหายต่อการกัดเซาะชายฝั่งของกรุงเทพฯ จนเป็นพื้นที่ที่เรียกว่าทะเลตรม และไม่สามารถป้องกันน้ำทะเลได้ในหลายจุด

    อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มรู้สึกว่า Storm Surge เป็นเรื่องใกล้ตัวกันบ้างแล้วใช่ไหมหล่ะคะ . . . แล้ว Storm Surge เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน???
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ข้อเท็จจริงของการเกิด สตอร์ม เซิร์จ ในอ่าวไทยตอนบน

    http://hilight.kapook.com/view/27859


    [​IMG]

    นักวิชาการเตือนชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์ เสี่ยงพายุหมุน ตั้งแต่ อ.บางสะพาน ไปจนถึงเมืองสุราษฎร์ธานี ช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม พร้อมกับรับประกันกรุงเทพมหานคร - เมืองปากน้ำ สมุทรปราการ มีโอกาสเกิดน้อยมาก ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาก็ออกประกาศฉบับพิเศษ เรื่อง ข้อเท็จจริงของการเกิดสตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge) ในอ่าวไทยตอนบน

    ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัย และฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลก แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( START) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับการเกิดคลื่นพายุหมุน หรือ สตอร์ม เซิร์จ ( Storm Surge) ขึ้นฝั่งที่ จ.สมุทรปราการ จนอาจเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ว่า มีความเป็นไปได้น้อยมาก โดยการออกมาเตือนให้เฝ้าระวังปรากฏการณ์ เป็นการคาดการณ์ตามช่วงเวลาที่มักเกิดพายุ ประกอบกับเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงพัดผ่าน และมีฝนตกมากจึงทำให้มีการพูดถึงมากในสังคม



    [​IMG]


    ทั้งนี้หากดูจากสถิติพายุหมุนที่ขึ้นฝั่งไทยและมาเลเซีย ของกรมอุตุนิยมวิทยาตั้งแต่ ปี 2494 - 2550 พบว่าในรอบ 60 ปี มีพายุหมุนที่ขึ้นฝั่งรวม 69 ลูก แบ่งเป็นเกิดพายุที่มีความเร็วลมในระดับพายุโซนร้อน ระดับความเร็ว 60-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวม 12 ครั้ง และเกิดขึ้นหลังช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป และส่วนใหญ่มาจากทางทะเลจีนใต้ จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดพายุพัดแล้วเลี้ยวเข้าทางจังหวัดริมฝั่งอ่าวไทย เช่น จ.สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ส่วนอีก 44 ลูก เป็นดีเปรสชั่นความเร็วลม 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง

    "ที่ผ่านมาการเกิดคลื่นพายุหมุนในประเทศไทย ทั้งพายุแฮร์เลียส ที่แหลมตะลุมพุก ปี 2505 พายุเกย์ปี 2536 และล่าสุด คือ พายุลินดา เมื่อปี 2540 มีจุดบ่งชี้ตรงกันว่าไม่ได้เกิดขึ้นโดยฉับพลันเหมือนกรณีสึนามิ แต่จะมีการสะสมระดับน้ำทะเลหนุนหลายวัน ซึ่งเชื่อว่าด้วยวิทยาการของกรมอุตุนิยมวิทยา และกรมอุทกศาสตร์เองก็สามารถคาดการณ์ว่า พายุจะพัดขึ้นฝั่งบริเวณใดได้อย่างแม่นยำล่วงหน้า 48 ชั่วโมง ดังนั้นประชาชนจึงไม่ควรตื่นตระหนกเกินเหตุ " ดร.อานนท์ กล่าว ​

    นอกจากนี้ ดร.อานนท์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทยพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงที่มีโอกาสเกิดคลื่นพายุหมุนได้ จากลักษณะกายภาพที่เป็นอ่าวปิดน้ำลึกเข้ามาในแผ่นดินระยะทางยาว โดยเฉพาะที่ อ. บางสะพาน และลักษณะที่ราบชายฝั่งที่แบนราบ ซึ่งเสี่ยงน้ำท่วม ประกอบกับน้ำจืดที่หนุนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดในรอบปีช่วงดือนธันวาคม ประมาณ 1 เมตร ซึ่งควรมีการเตรียมรับมือทั้งการอพยพซึ่งเป็นแผนระยะสั้น และการวิเคราะห์ความเสี่ยงและความเปราะบางด้านเศรษฐกิจ เพื่อรับมือในระยะยาว ​



    [​IMG]


    ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยาก็ออกประกาศฉบับพิเศษ

    เรื่อง ข้อเท็จจริงของการเกิดสตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge) ในอ่าวไทยตอนบน

    ตามที่ได้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเกิด "สตอร์ม เซิร์จ" (Storm Surge) โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลรอบอ่าวไทย โดยความรุนแรงเท่ากับพายุไซโคลนนาร์กีส ก่อให้เกิดความแตกตื่นของประชาชนโดยทั่วไปนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

    1. จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติในรอบ 57 ปี ที่ผ่านมา พบว่ามีพายุเคลื่อนตัวเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน แต่ความแรงลมของพายุมักน้อยกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ​

    2. การเคลื่อนตัวของพายุในอ่าวเบงกอล ที่เข้าประเทศพม่า เกิดจากลมที่มีความชื้นมาก ทําให้พายุมีกําลังแรงขึ้นก่อนขึ้นฝั่ง แต่พายุที่เคลื่อนตัวเข้าอ่าวไทย เกิดจากลมที่มีความชื้นน้อย ซึ่งจะทําให้พายุอ่อนกําลังลง และมีแรงลมน้อยกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ​

    3. สตอร์ม เซิร์จ ที่เป็นอันตราย ส่วนมากเกิดจากพายุที่มีแรงลมมากกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ​

    4. ลักษณะภูมิประเทศของพม่าเป็นแบบเปิดรับลมแรงจากพายุพัดเข้าฝั่ง ส่วนอ่าวไทยตอนบนเป็นแบบแคบและปิด รวมทั้งลมแรงที่พัดเข้าหาพายุ เป็นลมที่พัดออกจากฝั่ง มิได้พัดเข้าบริเวณก้นอ่าวไทย ​

    5. พื้นที่ชายฝั่งทะเลรอบอ่าวไทยตอนบนเคยเกิด สตอร์ม เซิร์จ เมื่อครั้งพายุไต้ฝุ่นเกย์ ที่ขึ้นฝั่งจังหวัดชุมพร ในปี 2532 และพายุไต้ฝุ่นลินดา ที่ขึ้นฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2540 แต่ไม่รุนแรง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยายืนยันว่า ถ้าจะมีพายุเคลื่อนตัวเข้ามาอีก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรงมาก จะใกล้เคียงกับที่เคยเกิดจากอิทธิพลของพายุเกย์และพายุลินดา ​

    6. จากการติดตามการก่อตัวของพายุ กรมอุตุนิยมวิทยา ยังไม่พบปัจจัยในการก่อตัวของพายุที่จะเคลื่อนตัวเข้าอ่าวไทยในระยะนี้ หากพบการก่อตัวของพายุและมีแนวโน้มว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยา สามารถแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมป้องกันได้ไม่น้อยกว่า 5 วัน ​


    จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ​


    ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ​




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก คมชัดลึก
    [​IMG]
    ภาพประกอบจาก Kapook.com
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พายุหมุนเขตร้อน กับวิธีการป้องกันตัว

    http://hilight.kapook.com/view/23948





    [​IMG]

    เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม ​

    ช่วงนี้หลายคนคงรู้สึกว่าได้ยินคำว่า "พายุ" อยู่บ่อยๆ ทั้งจากโทรทัศน์, วิทยุ หรือหนังสือพิมพ์ แถมประจวบกับที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศพม่าโดน "นาร์กีส" หรือ "พายุไซโคลน" ถล่มซะจนสร้างความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ จนทำให้หลายๆ คนอยากรู้จักกับพายุมากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้รู้จักและหาป้องกันตัวเองได้ ดังนั้น เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับพายุให้มากขึ้น โดยเฉพาะ "พายุหมุนเขตร้อน" ที่มักเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยหรือเพื่อนบ้านรอบๆ ​


    พายุคืออะไร.. ?

    พายุ คือ สภาพบรรยากาศที่ถูกรบกวนแบบใดๆ ก็ตาม โดยเฉพาะที่มีผลกระทบต่อพื้นผิวโลก และบ่งบอกถึงสภาพอากาศที่รุนแรง เวลากล่าวถึงความรุนแรงของพายุ จะมีเนื้อหาสำคัญอยู่บางประการคือ ความเร็วที่ศูนย์กลาง ซึ่งอาจสูงถึง 400 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความเร็วของการเคลื่อนตัว ทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุ และขนาดความกว้างหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวพายุ ซึ่งบอกถึงอาณาบริเวณที่จะได้รับความเสียหายว่าครอบคลุมเท่าใด ความรุนแรงของพายุจะมีหน่วยวัดความรุนแรงคล้ายหน่วยริกเตอร์ของการวัดความรุนแรงแผ่นดินไหว มักจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ​

    พายุแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 3 ประเภท คือ ​

    พายุฝนฟ้าคะนอง มีลักษณะเป็นลมพัดย้อนไปมา หรือพัดเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกัน อาจเกิดจากพายุที่อ่อนตัวและลดความรุนแรงของลมลง หรือเกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำ ร่องความกดอากาศต่ำ อาจไม่มีทิศทางที่แน่นอน หากสภาพการณ์แวดล้อมต่างๆ ของการเกิดฝนเหมาะสม ก็จะเกิดฝนตก มีลมพัด ​

    พายุหมุนเขตร้อน (Tropical cyclone) ต่างๆ เช่น เฮอร์ริเคน ไต้ฝุ่น และไซโคลน ซึ่งล้วนเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน และจะเกิดขึ้นหรือเริ่มต้นก่อตัวในทะเล หากเกิดเหนือเส้นศูนย์สูตร จะมีทิศทางการหมุนทวนเข็มนาฬิกา และหากเกิดใต้เส้นศูนย์สูตรจะหมุนตามเข็มนาฬิกา โดยมีชื่อต่างกันตามสถานที่เกิด กล่าวคือ ​

    1. พายุเฮอร์ริเคน (hurricane) เป็นชื่อเรียกพายุหมุนที่เกิดบริเวณทิศตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก เช่น บริเวณฟลอริดา สหรัฐอเมริกา อ่าวเม็กซิโก ทะเลแคริบเบียน เป็นต้น รวมทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณชายฝั่งประเทศเม็กซิโก ​

    2. พายุไต้ฝุ่น (typhoon) เป็นชื่อพายุหมุนที่เกิดทางทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ เช่น บริเวณทะเลจีนใต้ อ่าวไทย อ่าวตังเกี๋ย ประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าเกิดในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เรียกว่า บาเกียว (Baguio) ​

    3. พายุไซโคลน (cyclone) เป็นชื่อพายุหมุนที่เกิดในมหาสมุทรอินเดีย เหนือ เช่น บริเวณอ่าวเบงกอล ทะเลอาหรับ เป็นต้น แต่ถ้าพายุนี้เกิดบริเวณทะเลติมอร์และทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย จะเรียกว่า พายุวิลลี-วิลลี (willy-willy) ​

    4. พายุโซนร้อน (tropical storm) เกิดขึ้นเมื่อพายุเขตร้อนขนาดใหญ่อ่อนกำลังลง ขณะเคลื่อนตัวในทะเล และความเร็วที่จุดศูนย์กลางลดลงเมื่อเคลื่อนเข้าหาฝั่ง ​

    5. พายุดีเปรสชัน (depression) เกิดขึ้นเมื่อความเร็วลดลงจากพายุโซนร้อน ซึ่งก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองธรรมดาหรือฝนตกหนัก ​

    6. พายุทอร์นาโด (tornado) เป็นชื่อเรียกพายุหมุนที่เกิดในทวีปอเมริกา มีขนาดเนื้อที่เล็กหรือเส้นผ่าศูนย์กลางน้อย แต่หมุนด้วยความเร็วสูง หรือความเร็วที่จุดศูนย์กลางสูงมากกว่าพายุหมุนอื่น ๆ ก่อความเสียหายได้รุนแรงในบริเวณที่พัดผ่าน เกิดได้ทั้งบนบก และในทะเล หากเกิดในทะเล จะเรียกว่า นาคเล่นน้ำ (water spout) บางครั้งอาจเกิดจากกลุ่มเมฆบนท้องฟ้า แต่หมุนตัวยื่นลงมาจากท้องฟ้าไม่ถึงพื้นดิน มีรูปร่างเหมือนงวงช้าง จึงเรียกกันว่า ลมงวง


    [​IMG]

    ถิ่นกำเนิดหรือบริเวณที่เกิดพายุหมุนเขตร้อน

    พายุหมุนเขตร้อนเป็นคำทั่วๆ ไปที่ใช้สำหรับเรียกพายุหมุนหรือพายุไซโคลน (Cyclone) ที่มีถิ่นกำเนิดเหนือมหาสมุทรในเขตร้อนแถบละติจูดต่ำ แต่อยู่นอกเขตบริเวณเส้นศูนย์สูตร เพราะยังไม่เคยปรากฏว่ามีพายุหมุนเขตร้อนเกิดที่เส้นศูนย์สูตร พายุนี้เกิดขึ้นในมหาสมุทรหรือทะเลที่มีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 26 องศาเซลเซียส หรือ 27 องศาเซลเซียส ขึ้นไป และมีปริมาณไอน้ำสูง เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักเคลื่อนตัวตามกระแสลมส่วนใหญ่จากทิศตะวันออกมาทางทิศตะวันตก และค่อยโค้งขึ้นไปทางละติจูดสูง แล้วเวียนโค้งกลับไปทางทิศตะวันออกอีก พายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นได้หลายแห่งในโลก และมีชื่อเรียกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิด ​

    พายุหมุนเขตร้อนเมื่ออยู่ในสภาวะที่เจริญเติบโตเต็มที่ จะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดชนิดหนึ่งในบรรดาพายุที่เกิดขึ้นในโลก มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณตั้งแต่ 100 กิโลเมตรขึ้นไป และเกิดขึ้นพร้อมกับลมที่พัดแรงมาก ระบบการหมุนเวียนของลมเป็นไป โดยพัดเวียนในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเข้าสู่ศูนย์กลางของพายุในซีกโลกเหนือ ส่วนในซีกโลกใต้พัดเวียนตามเข็มนาฬิกา ยิ่งใกล้ศูนย์กลางลมจะหมุนเกือบเป็นวงกลมและมีความเร็วสูงที่สุด ​

    ความเร็วลมสูงสุดที่บริเวณใกล้ศูนย์กลางนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความรุนแรงของพายุ ซึ่งในย่านมหาสมุทรแปซิ-ฟิกเหนือด้านตะวันตก และทะเลจีนใต้มีการแบ่งตามข้อตกลงระหว่างประเทศดังนี้ ​

    - พายุดีเปรสชันเขตร้อน (tropical depression) ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางไม่ถึง 34 นอต (63 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ​

    - พายุโซนร้อน (tropical storm) ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 34 นอต (63 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ขึ้นไป แต่ไม่ถึง 64 นอต (118 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ​

    - ไต้ฝุ่น (typhoon) ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 64 นอต (118 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ขึ้นไป ​

    สำหรับประเทศไทยได้รับผลกระทบจาก "พายุหมุนเขตร้อน" ที่ก่อตัวในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก และพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเราเรียกว่า "ไซโคลน" แม้พายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวในบริเวณมหาสมุทรอินเดียจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ก็สามารถก่อความเสียหายต่อประเทศไทยได้เช่นกัน เมื่อทิศการเคลื่อนที่เข้าสู่บริเวณใกล้ประเทศไทยทางด้านตะวันตก ในกรณีของพายุหมุนเขตร้อนซึ่งก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้นั้น จะเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทยในบริเวณต่างๆ ของประเทศแตกต่างกันตามฤดูกาล ​

    พายุหมุนเขตร้อน หรือ พายุไซโคลน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่สามารถทำความเสียหายได้รุนแรง จะต้องมีความเร็วลมมากกว่า 64 นอต (30 เมตร/วินาที, 74 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 118 กิโลเมตร/ ชั่วโมง) ขึ้นไป และมักจะมี "ตาพายุ" ศูนย์กลางหรือที่เรียกว่า "ตา" เป็นบริเวณที่มีลมสงบ อากาศโปร่งใส โดยอาจมีเมฆและฝนบ้างเล็กน้อย ล้อมรอบด้วยพื้นที่บริเวณกว้างรัศมีหลายร้อยกิโลเมตร ตาพายุนี้จะเห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายดาวเทียมเป็นวงกลมเล็กที่ไม่มีเมฆ รอบตาจะมีกำแพงล้อมที่มีขนาดกว้างประมาณ 16-80 กิโลเมตร เป็นบริเวณที่มีพายุฝนและลมหมุนที่รุนแรงมากหมุนวนรอบๆ ตา ​

    ดังนั้น ในบริเวณที่พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนที่ผ่าน ครั้งแรกจะปรากฏลักษณะอากาศโปร่งใส เมื่อด้านหน้าของพายุหมุนเขตร้อนมาถึงจะปรากฏลมแรง ฝนตกหนัก และมีพายุฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจปรากฏพายุทอร์นาโด ในขณะตาพายุมาถึง อากาศจะโปร่งใสอีกครั้ง และเมื่อด้านหลังของพายุหมุนมาถึงอากาศจะเลวร้ายลงอีกครั้งและรุนแรงกว่าครั้งแรก ซึ่งการเคลื่อนตัวของเมฆรอบศูนย์กลางพายุก่อตัวเป็นรูปขดวงก้นหอยที่เด่นชัด แถบหรือวงแขที่อาจยื่นโค้งเป็นระยะที่ยาวออกไปได้มากในขณะที่เมฆถูกดึงเข้าสู่วงหมุน ทิศทางวงหมุนของพายุขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดว่าอยู่ ณ ส่วนใดของซีกโลกดังกล่าวแล้ว ​

    หากอยู่ซีกโลกเหนือพายุจะหมุนทวนเข็มนาฬิกา ด้านซีกโลกใต้จะหมุนตามเข็มนาฬิกา ความเร็วสูงสุดของพายุหมุนเขตร้อนที่เคยวัดได้มีความเร็วมากกว่า 85 เมตร/วินาที (165 นอต, 190 ไมล์/ชั่วโมง, 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง) พายุที่รุนแรงมากและอยู่ในระยะก่อตัวช่วงสูงสุดบางครั้งอาจมีรูปร่างของโค้งด้านในแลดูเหมือนอัฒจรรย์สนามแข่งขันฟุตปอลได้ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบางครั้งในลักษณะเช่นนี้เรียกว่า "ปรากฏการณ์อัฒจรรย์" (stadium effect) ​

    วงหมุนที่เกิดผนังตาพายุจะเกิดตามปกติเมื่อพายุมีความรุนแรงมาก เมื่อพายุแรงถึงขีดสุดก็มักจะเกิดการหดตัว ของรัศมีกำแพงตาพายุเล็กลงถึงประมาณ 8-24 กิโลเมตร (5-15 ไมล์) ซึ่งบางครั้งอาจไม่เกิด ถึงจุดนี้เมฆฝนอาจก่อตัวเป็นแถบอยู่ด้านนอกแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าวงในแย่งเอาความชื้นและแรงผลักดันหรือโมเมนตัมจากผนังตาพายุ ทำให้ความรุนแรงลดลงบ้าง (ความเร็วสูงสุดที่ผนังลดลงเล็กน้อยและความกดอากาศสูงขึ้น) ในที่สุดผนังตาพายุด้านนอกก็จะเข้ามาแทนผนังในจนหมด ทำให้พายุกลับมามีความเร็วเท่าเดิม ​

    แต่ในบางกรณีอาจกลับเร็วขึ้นได้ แม้พายุหมุนจะอ่อนตัวลงที่ปลายผนังตาที่ถูกแทนที่ แต่ที่จริงแล้วการเพิ่งผ่านปรากฏการณ์ลักษณะนี้ในรอบแรกและชะลอการเกิดในรอบต่อไป เป็นการเปิดโอกาสให้ความรุนแรงสะสมตัวเพิ่มขึ้นอีกได้ถ้ามีสภาวะที่เหมาะสม ซึ่งระดับความรุนแรงของพายุหมุนเขตร้อนที่มีความเร็วลมเกิน 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่ ​

    - ระดับที่ 1 มีความเร็วลม 119-153 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำลายล้างเล็กน้อย ไม่ส่งผลต่อสิ่งปลูกสร้าง มีน้ำท่วมขังตามชายฝั่ง ​

    - ระดับที่ 2 มีความเร็วลม 154-177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำลายล้างเล็กน้อย ทำให้หลังคา ประตู หน้าต่างบ้านเรือนเสียหายบ้าง ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ​

    - ระดับที่ 3 มีความเร็วลม 178-209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำลายล้างปานกลาง ทำลายโครงสร้างที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก น้ำท่วมขังถึงพื้นบ้านชั้นล่าง ​

    - ระดับที่ 4 มีความเร็วลม 210-249 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำลายล้างสูง หลังคาบ้านเรือนบ้านเรือนบางแห่งถูกทำลาย น้ำท่วมเข้ามาถึงพื้นบ้าน ​

    - ระดับที่ 5 มีความเร็วลมมากกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำลายล้างสูงมาก หลังคาบ้านเรือน ตึกและอาคารต่างๆ ถูกทำลาย พังทลาย น้ำท่วมขังปริมาณมาก ถึงขั้นทำลายทรัพย์สินในบ้าน อาจต้องประกาศอพยพประชาชน ​

    ขณะเดียวกันพายุหมุนเขตร้อนซึ่งก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก และมีความแรงของลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางพายุมากกว่า 33 นอต จะเริ่มมีการกำหนดชื่อเรียก โดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกได้จัดรายชื่อเพื่อเรียกพายุหมุนเขตร้อนซึ่งก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกไว้เป็นสากล เพื่อทุกประเทศในบริเวณนี้ใช้เพื่อเรียกพายุหมุนเขตร้อนซึ่งก่อตัวขึ้น โดยเรียงตามลำดับให้เหมือนกัน ​

    ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา ได้เกิดระบบการตั้งชื่อพายุเป็นภาษาพื้นเมืองของแต่ละประเทศสมาชิกในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนบนและแถบทะเลจีนใต้ 14 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไมโครนีเซีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และไทย โดยนำชื่อมาเรียงเป็น 5 สดมภ์ เริ่มจากกัมพูชาจนถึงเวียดนามในสดมภ์ที่ 1 เมื่อหมดแล้วให้เริ่มขึ้นสดมภ์ที่ 2 ถึง 5 แล้วจึงเวียนมาเริ่มที่สดมภ์ 1 อีกครั้ง จนกว่าจะมีการกำหนดชื่อพายุครั้งใหม่อีก ​

    อันตรายของพายุ

    1. ความรุนแรงและอันตรายอันเกิดจากพายุไต้ฝุ่น

    เมื่อพายุที่มีกำลังขนาดไต้ฝุ่น พัดผ่านที่ใดย่อมทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงทั่วไป เช่น บนบกต้นไม้จะล้ม ถอนราก ถอนโคน จะทำให้เกิดอันตรายจากต้นไม้ล้มทับบ้านเรือน บ้านเรือนพังทับผู้คนในบ้านและใกล้เคียงบาดเจ็บหรือตาย เรือกสวนไร่นาเสียหายหนักมาก เสาไฟฟ้าล้ม สายไฟฟ้าขาด ไฟฟ้าช็อต เกิดเพลิงไหม้และผู้คนอาจเสียชีวิตจากไฟฟ้าดูดได้ ผู้คนที่มีอาคารพักอาศัยอยู่ริมทะเลอาจถูกน้ำพัดพาลงทะเลจมน้ำตายได้ ดังเช่น ปรากฏการณ์ที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช ​

    ในทะเลลมแรงจัดมาก คลื่นใหญ่ เรือขนาดใหญ่ๆ ขนาดหมื่นตันอาจจะถูกพัดพาไปเกยฝั่งล่มจมได้ บรรดาเรือเล็กเป็นอันตรายล่มจมสิ้น ไม่สามารถจะต้านความรุนแรงของพายุได้ คลื่นใหญ่ซัดขึ้นริมฝั่งจนทำให้ระดับน้ำขึ้นสูงมากจนท่วมอาคารบ้านช่องริมทะเลได้ บรรดาโป๊ะจับปลาในทะเลถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิงโดยคลื่นและลม ​

    2. ความรุนแรงและอันตรายจากพายุโซนร้อน

    พายุโซนร้อนมีความรุนแรงน้อยกว่าพายุไต้ฝุ่น ฉะนั้น อันตรายอันจะเกิดจากการที่พายุนี้พัดมาปะทะลดลงในระดับรองลงมาจากพายุไต้ฝุ่น แต่ถึงกระนั้นก็ตามความรุนแรงที่จะทำให้ความเสียหายก็ยังมีมากเหมือนกัน ในทะเลลมจะแรงมากจนสามารถจะจมเรือขนาดใหญ่ๆ ได้ ต้นไม้ถอนรากถอนโคนดังพายุโซนร้อนที่ปะทะฝั่งแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช ​

    ถ้าการเตรียมการรับสถานการณ์ไม่เพียงพอ ไม่มีการประกาศโฆษณาให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงภัยอันตรายอย่างทั่วถึง ไม่มีวิธีการดำเนินการที่เข้มแข็งในการอพยพ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ในระหว่างเกิดพายุ การสูญเสียก็ย่อมมีการเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สมบัติของประชาชน ​

    3. ความรุนแรงและอันตรายจากพายุดีเปรสชั่น

    พายุดีเปรสชั่นเป็นพายุที่มีกำลังอ่อน ไม่มีอันตรายรุนแรงแต่ทำให้มีฝนตกปานกลางทั่วไป ตลอดทางที่พายุดีเปรสชั่นผ่านไป และมีฝนตกหนักเป็นแห่งๆ พร้อมด้วยลมกรรโชกแรงเป็นครั้งคราว ซึ่งบางคราวจะรุนแรงจนทำให้เกิดความเสียหายได้บ้าง ไม่ปลอดภัยเสียทีเดียว ในทะเลค่อนข้างแรงและคลื่นจัด บรรดาเรือประมงเล็กขนาดต่ำกว่า 50 ตัน ควรงดเว้นออกทะเลเพราะอาจจะล่มลงได้ ​

    และพายุดีเปรสชั่นนี้เมื่ออยู่ในทะเลได้รับไอน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา และไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมอาจจะทวีกำลังขึ้นได้โดยฉับพลัน ฉะนั้น เมื่อได้รับทราบข่าวว่ามีพายุดีเปรสชั่นขึ้นในทะเลก็อย่าได้ไว้วางใจว่าจะมีกำลังอ่อนเสมอไปอาจจะมีอันตรายได้เหมือนกัน สำหรับพายุพัดจัดจะลดน้อยลงเป็นลำดับ มีแต่ฝนตกทั่วไปเป็นระยะนานๆ และตกได้มากถึง 100 มิลลิเมตร ภายใน 12 ชั่วโมงซึ่งต่อไปก็จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลบ่าจากภูเขาและป่าใกล้เคียงลงมาท่วมบ้านเรือนได้ในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากภายุได้ผ่านไปแล้ว ​

    4. ความรุนแรงและอันตรายจากพายุฤดูร้อน

    พายุฤดูร้อนเป็นพายุที่เกิดขึ้นโดยเหตุและวิธีการต่างกับพายุดีเปรสชั่น และเกิดบนผืนแผ่นดินที่ร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนแต่เป็นพายุที่มีบริเวณย่อมๆ มีอาณาเขตเพียง 20-30 ตารางกิโลเมตร แต่อาจมีลมแรงมากถึง 47 น็อต หรือ 87 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีกำลังแรงที่จะทำให้เกิดความเสียหายได้มากเหมือนกันแต่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง อันตรายที่เกิดขึ้นคือ ต้นไม้หักล้มทับบ้านเรือนผู้คน บ้านเรือนที่ทนกำลังแรงลมไม่ไหวพังทะลายกระเบื้องหลังคาปลิวเป็นอันตรายต่อผู้คน ฝนตกหนักและอาจมีลูกเห็บตกได้ ในกรณีที่พายุมีกำลังแรงลูกเห็บอาจจะตกถูกผู้คนได้รับความบาดเจ็บและบ้านช่องเสียหายได้ ​

    การเตรียมการป้องกันอันตรายจากพายุ

    1. ติดตามสภาวะอากาศ ฟังคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาสม่ำเสมอ ​

    2. สอบถาม แจ้งสภาวะอากาศร้ายแก่กรมอุตุนิยมวิทยา ​

    3. ปลูกสร้าง ซ่อมแซม อาคารให้แข็งแรง เตรียมป้องกันภัยให้สัตว์เลี้ยงและพืชผลการเกษตร ​

    4. ฝึกซ้อมการป้องกันภัยพิบัติ เตรียมพร้อมรับมือ และวางแผนอพยพหากจำเป็น ​

    5. เตรียมเครื่องอุปโภค บริโภค ไฟฉาย แบตเตอรี่ วิทยุกระเป๋าหิ้วติดตามข่าวสาร ​

    6. เตรียมพร้อมอพยพเมื่อได้รับแจ้งให้อพยพ ​


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    - [URL="http://th.wikipedia.org/wiki/&agrave;&cedil;​
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ส.ค. - ต.ค. พายุใหญ่ถล่มไทย สมิทธ ฟันธงกรุงเทพฯ จมใต้บาดาล

    http://hilight.kapook.com/view/24829


    [​IMG]

    [​IMG]

    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

    การออกมาแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ในการเสวนาเรื่อง "แผนรับมือวิบัติภัยในมหานครกรุงเทพ" ซึ่งจัดโดยสถาบันพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร

    ทั้งนี้ ดร.สมิทธ กล่าวว่า จากการศึกษาและติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติมาโดยตลอด พบว่า ภัยพิบัติที่จะกระทบ กทม.และปริมณฑล มีอยู่ 2 ประเภท คือ ภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง ซึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อน โดยภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นภัยที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อมนุษย์จำนวนมาก ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 13 รอย และจากการศึกษาพบว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รอยเลื่อนทั้งหมดเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ซึ่งการเกิดรอยร้าวดังกล่าวทำให้อาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรงใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีโอกาสถล่มลงมาได้

    ขณะที่ในพื้นที่ กทม. อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อน 2 รอย คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก เชื่อว่าจะส่งผลให้เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตก และทำให้น้ำปริมาณกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลทะลักเข้าสู่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และ กทม.

    "กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนดินเลน เมื่อได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว ระยะสั่นสะเทือนจะขยายตัว 2-3 ริกเตอร์ ทำให้อาคารที่สูงไม่เกิน 6 ชั้น อาจแตกร้าวและพังทลายลงมา ส่วนอาคารสูงไม่น่าเป็นห่วง เพราะวิศวกรได้ออกแบบอาคารไว้รองรับอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการรับมือกับแผ่นดินไหว โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงอาจทำให้เกิดความเสียหายมาก" ดร.สมิทธกล่าว ​

    อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้นนั้น จากสถิติไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าพายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดียจะมีแรงลมสูงมากถึงขนาดเป็นไซโคลน แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้วคือพายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นฝั่งในลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า แรงลมสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงถึงระดับ 4

    "ผมขอทำนายว่าในเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมนี้ จะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทย ทางด้านอ่าวไทย ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี เข้ามา ซึ่งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์สตรอม เสิร์ช (Strom Search) หรือน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา และเข้าท่วมพื้นที่ กทม. โดยกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2 - 3 สัปดาห์ และหากท่วมเหนือคลองประปา จะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำในการอุปโภคบริโภค" ดร.สมิทธกล่าว ​


    ข้อมูลจาก คมชัดลึก
    [​IMG]
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ชมรมพระวังหน้า

    วันนี้ 11:28 AM
    channarong_wo

    มุกนี้รูทันท่านประธาน ไม่รอลุงจิตแล้ว ขอใช้ความสามารถส่วนตัวที่สูงล้ำ ขอตอบเลยละกัน
    องค์นี้เนื้อเดียวกันกับองค์ที่ลุงจิตทำแจ็คพ๊อตแตก แต่งานนี้ท่าทางท่านประธานจะเล่นไม่ซื่อ นำไปขอบารมีใหม่ใช่ไม๊ เสร็จผม
    1.ไม่แท้ ( ขอใหม่ต้องถือว่าไม่แท้นะ )
    2.เนื้อปูนสอ
    3.ข้อนี้ต้องเดาใจว่าท่านประธานขอใคร ขอทั้งที ท่าทางหวยต้องออก ง. Snake ชัวว์ป๊าด
     
  8. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    วันนี้ 11:28 AM
    channarong_wo

    มุกนี้รูทันท่านประธาน ไม่รอลุงจิตแล้ว ขอใช้ความสามารถส่วนตัวที่สูงล้ำ ขอตอบเลยละกัน
    องค์นี้เนื้อเดียวกันกับองค์ที่ลุงจิตทำแจ็คพ๊อตแตก แต่งานนี้ท่าทางท่านประธานจะเล่นไม่ซื่อ นำไปขอบารมีใหม่ใช่ไม๊ เสร็จผม
    1.ไม่แท้ ( ขอใหม่ต้องถือว่าไม่แท้นะ )
    2.เนื้อปูนสอ
    3.ข้อนี้ต้องเดาใจว่าท่านประธานขอใคร ขอทั้งที ท่าทางหวยต้องออก ง. Snake ชัวว์ป๊าด


    ผมว่าถ้าไม่แท้จะเป็นเนื้อปูนสอได้อย่างไร เชื่อผมเถอะงานนี้ผมถูกคนเดียว
    ลองดูคำตอบของผมๆอนุญาติให้ลอกได้ครับ ส่วนตุณตั้งจิต + คุณ nongnooo
    เกือบถูกครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พี่ใหญ่สอนมาว่า หมาข้างบ้านเห่า จะไปเห่าตอบหมาหรือเปล่า
    พี่ใหญ่สั่งมาว่า ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวอีก

    ผมขอสุดท้าย ขอเอาก้อนหินเขวี้ยงหัวหมาหน่อย แต่อย่าเลย อย่าไปสร้างกรรมอีกดีกว่า ผมชอบทำบุญ แต่ไม่ชอบทำบุญปนบาป

    แรกเริ่ม บอกว่า ทำบุญไม่ให้หวังที่จะได้พระพิมพ์(พระเครื่อง) ให้ทำบุญอย่างเดียว
    ต่อมา บอกว่า การที่ให้พระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป ให้ไปเป็นพุทธานุสติ
    ต่อมา นำพระพิมพ์(พระเครื่อง) ในที่ต่างๆ มาโชว์ว่า มีอะไรบ้าง
    ต่อมา มีการนำพระพิมพ์(พระเครื่อง) ไปสอน
    ต่อมา บอกว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง) ของตนเองดีที่สุด แรงที่สุด ดีและแรงกว่าของคนอื่น เพราะมีปาฎิหาริย์สามารถหยุดลมพายุฤดูร้อนลงได้ภายใน 2 - 3 นาที
    ต่อมา บอกว่า มีคนบางคน บางกลุ่มตั้งตัวเป็นอาจารย์ แถมนำพระมือผี ไปเสกใหม่
    ต่อมา บอกว่า หลงตาย หรือ ยังไม่ทันตายก็หลงซะแล้ว
    ต่อมา บอกว่า เอ้ย สอนว่า ความโกรธเป็นอย่างไร
    ต่อมา บอกว่า แช่งผู้อื่นด้วยความอาฆาต มีโทสะมาก ตายไปจะไปเกิดเป็นเชื้อโรค

    ตกลงว่า ทำบุญแล้วรับพระ หรือ ไม่รับพระ อ๋อ เปลี่ยนใจต้องให้พระพิมพ์(พระเครื่อง) ดีกว่า เพราะว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ของตนเอง ดีที่สุด แรงที่สุด

    ตกลงว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง) ของตนเอง ดีที่สุด แรงที่สุด แล้วยังแนะนำผู้ที่ไปทำบุญ ให้ไปหาพระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่ตอนหลังกลับคำพูดว่า มีพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่สมเด็จโตเสก ดีๆอีกมาก ตาดีได้ ตาร้ายเสีย

    ตกลงว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง) ของผมที่ผมได้นำไปให้ท่านอาจารย์ประถม ตรวจสอบให้แล้วว่าใช่ นำมาให้คนทำบุญ แต่มีคนมาบอกว่า พระผมเป็นพระมือผี คนบอกนี่ต้องเก่งกว่าท่านอาจารย์ประถม

    ตกลงว่า คงต้องรู้ว่าผมมีโทสะมาก อาจไปเกิดเป็นเชื้อโรค


    สุดท้าย เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดี เป็นเรื่องของการทดสอบจิตของผมเอง ขอขอบคุณสำหรับบททดสอบครับ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อีกเรื่องที่จะบอก สำคัญมากๆก็คือ การที่เราศรัทธาที่จะทำบุญ ทำเถอะครับ เราทำบุญเอง เราก็ได้เอง ไม่มีใครได้กับเรา

    แต่การทำบุญควรทำหลายๆอย่าง เหมือนกับเราอยู่บ้าน เราอยู่บ้านก็ต้องกินข้าว และกับข้าว ต้องใช้น้ำไม่ว่าจะเป็นอุปโภคและบริโภค ต้องใช้ไฟ ต้องใช้พัดลมหรือแอร์ ต้องดูทีวีหรือวีดีโอ ต้องปลูกต้นไม้ เพื่อความสวยงาม

    การทำบุญก็มีหลายวิธี ทั้งเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา มีทั้งต้องเสียเงิน และไม่เสียเงิน

    ขอฝากไว้แค่นี้ครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอ...ปุ่มไม่เห็นด้วยไปไหนเหรอ จะกดซะหน่อย อย่าไปว่าเขาน่า....ใครกันหว่า ใจเย็นๆ เข้าพรรษาอยู่
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ส่งไปแล้วครับคุณหนุ่ม ...รวยๆๆ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุมใจได้ครับ ต้องมีบททดสอบจิตของเรา ว่า ที่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาสอนเรามา เราสามารถที่จะนำมาใช้ได้หรือเปล่า

    ถ้าไม่มีบททดสอบ เราก็จะไม่รู้ว่า เราทำได้หรือไม่ได้ ถ้าได้ ได้มากน้อยแค่ไหน ต้องปรับปรุงอย่างไรครับ

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาเฉลยแล้วครับ คิดว่าไม่มีใครตอบแล้ว


    [​IMG]

    1.พระสมเด็จองค์นี้
    ข.ไม่แท้


    2.พระสมเด็จองค์นี้เนื้ออะไร

    ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว

    3.องค์ผู้อธิษฐานจิตคือองค์ไหน

    ฏ.ไม่มีใครอธิษฐานจิต

    -----------------------------------------

    เพิ่มเติมเล็กน้อย สำหรับองค์นี้หากนำไปตรวจสอบด้าน "นาม" (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต) ก็จะพบ แต่พบได้น้อยมาก เนื่องจากผู้ทำ ได้ผสมผงที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมานิดหน่อยครับ


    สรุปก็คือ
    1.พระสมเด็จองค์นี้
    ข.ไม่แท้


    2.พระสมเด็จองค์นี้เนื้ออะไร

    ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว

    3.องค์ผู้อธิษฐานจิตคือองค์ไหน

    ฏ.ไม่มีใครอธิษฐานจิต

    -----------------------------------------

    เพิ่มเติมเล็กน้อย สำหรับองค์นี้หากนำไปตรวจสอบด้าน "นาม" (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต) ก็จะพบ แต่พบได้น้อยมาก เนื่องจากผู้ทำ ได้ผสมผงที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมานิดหน่อยครับ
    --------------------------
    สรุปก็คือ

    [​IMG] [​IMG]

    ทั้งสององค์เหมือนกัน
    แต่องค์ขวา ผมล้างมา
    องค์ซ้ายไม่ได้ล้างครับ


    ไว้ผมมาถามใหม่นะครับ
    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เป็งงั้ย ครับ เฮียมู คราวนี้ม่ายเชื่อผม เห็นปล่าวครับอย่างนี้เรียกว่าเต็มร้อยครับ หุ หุ
     
  19. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผมกดโมทนา เพราะผมเห็นว่าเป็นเรื่อง ขำๆครับ ก๊ากๆๆๆๆ พยายามมองในแง่ดีครับ หุ หุ
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ต่างมุมมองก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ไม่ใช่พันธมิตรกะรัฐบาลที่ดูเหมือนยากจะอยู่ร่วมกัน ฝ่ายพันธมิตรก็จะเอาให้ตายไปข้าง ฝ่ายรัฐบาลก็จะให้คนตาดำๆอย่างเราเลือกฟันธงจะเอาข้างไหนให้ได้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีข้างไหนทั้งนั้น ก็เลยเลือกยาก ก็จะให้เลือก จะเลือกอยู่ข้างในหลวง...
     

แชร์หน้านี้

Loading...