พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    55555รุ้ได้ไงเนี่ยครับ วันก่อนพาไปกินฮาเก้นดาส ไอติม 2ลูกมีทรอปี้ง2อย่าง ราคา 250บาท หุ หุ...ซึมครับ....
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    HA HA HA HA HA HA HA HA รสนิยมเดียวกัน ชอบไอติมเหมือนท่านโด แต่ไอติมยิ่งแพง เนื้อไอติมยิ่งอร่อย ว่าแต่ว่า ฮาเก้นดาสเป็นร้านไหน อยู่ที่ไหน ผมไม่รู้ บอกด้วยสิครับเผื่อจะไปกินมั่ง

    ท่านโดเป็นขวัญใจ ไม่เชื่อผมทดลองได้ ลองพาไปบ้านปู่ดูสิครับ ต้องทดลองและทดสอบนะครับ 55555

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีคำถามอีกแล้ว ผมขอปิดรับคำตอบ วันพรุ่งนี้ (27 สค.2551) เวลา 19.00 น.

    [​IMG]

    1.พระสมเด็จองค์นี้
    ก.แท้
    ข.ไม่แท้

    2.พระสมเด็จองค์นี้เนื้ออะไร
    ก.เนื้อปูนเพชร
    ข.เนื้อปูนสอ
    ค.เนื้อปูนเปลือกหอย
    ง.เนื้อปูนขาว
    จ.เนื้อปูนซีเมนต์
    ฉ.เนื้อปูนพลาสเตอร์
    ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว

    3.องค์ผู้อธิษฐานจิตคือองค์ไหน
    ก.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 3 พระองค์
    ข.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 2 พระองค์
    ค.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์
    ง.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 3 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    จ.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 2 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ฉ.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ช.สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ซ.หลวงปู่แสง และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ฎ.หลวงปู่พระอภิญญาใหญ่
    ฏ.ไม่มีใครอธิษฐานจิต

    ครั้งนี้ขอไม่มีคะแนนนะครับ ผมขี้เกียจมานั่งนับคะแนน เดี๋ยวคิดคะแนนนผิดอีกครับ

    ลับสมองกันนะครับ แต่หากมีผู้ตอบไม่ถึง 5 ท่าน ผมจะpmคำตอบให้ผู้ที่ตอบเท่านั้นครับ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับองค์ที่แล้วที่ถาม นำมาทบทวนกันครับ

    มีคำถามมาถามแต่เช้า ผมขอปิดรับคำตอบ วันนี้ (18 สค.581) เวลา 19.00 น.

    [​IMG]

    1.พระสมเด็จองค์นี้
    ก.แท้
    ข.ไม่แท้

    2.พระสมเด็จองค์นี้เนื้ออะไร
    ก.เนื้อปูนเพชร
    ข.เนื้อปูนสอ
    ค.เนื้อปูนเปลือกหอย
    ง.เนื้อปูนขาว
    จ.เนื้อปูนซีเมนต์
    ฉ.เนื้อปูนพลาสเตอร์
    ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว

    3.องค์ผู้อธิษฐานจิตคือองค์ไหน
    ก.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 3 พระองค์
    ข.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 2 พระองค์
    ค.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์
    ง.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 3 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    จ.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 2 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ฉ.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ช.สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ซ.หลวงปู่แสง และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ฎ.หลวงปู่พระอภิญญาใหญ่
    ฏ.ไม่มีใครอธิษฐานจิต

    ครั้งนี้ขอไม่มีคะแนนนะครับ ผมขี้เกียจมานั่งนับคะแนน เดี๋ยวคิดคะแนนนผิดอีกครับ

    ลับสมองกันนะครับ แต่หากมีผู้ตอบไม่ถึง 5 ท่าน ผมจะpmคำตอบให้ผู้ที่ตอบเท่านั้นครับ

    --------------------------------------------

    เฉลยครับ

    [​IMG]

    1.พระสมเด็จองค์นี้
    ข.ไม่แท้

    2.พระสมเด็จองค์นี้เนื้ออะไร

    ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว

    3.องค์ผู้อธิษฐานจิตคือองค์ไหน

    ฏ.ไม่มีใครอธิษฐานจิต

    -----------------------------------------

    เพิ่มเติมเล็กน้อย สำหรับองค์นี้หากนำไปตรวจสอบด้าน "นาม" (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต) ก็จะพบ แต่พบได้น้อยมาก เนื่องจากผู้ทำ ได้ผสมผงที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมานิดหน่อยครับ
     
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ง่ำๆเพิ่มความคึกคักบ้างครับ มาแล้วครับ หนึ่งในชุดพระปิดตาพันล้านวังหน้าครับ ตาลุงแกฝากมาโชว์เท่านั้นครับ ห้ามนิมนต์ ครับ หุ หุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมว่าดูแปลกๆนะครับ
    . ต้องให้ผมเก็บไว้ศึกษา ถึงจะดีครับ นิมนต์ครับ
     
  8. ทองอ้วน

    ทองอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +135
    ผมขอตอบตาม นี้ครับ
    1.ก.แท้
    2.ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว
    3.ขอเดา ซ.หลวงปู่แสง และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
     
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ตอบครับ หุ หุ
    1.พระสมเด็จองค์นี้
    ข.ไม่แท้


    2.พระสมเด็จองค์นี้เนื้ออะไร

    ช.เนื้อปูนเปลือกหอยผสมปูนขาว

    3.องค์ผู้อธิษฐานจิตคือองค์ไหน

    ฏ.ไม่มีใครอธิษฐานจิต
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำสาระในชีวิต เพื่อสุขภาพมาฝากกันครับ

    -------------------------------------------------------

    กินผักและผลไม้ถูกวิธี

    http://hilight.kapook.com/view/28107

    [​IMG]


    ใครที่ชอบกินผักและผลไม้ ถ้าหากกินไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้ได้รับประโยชน์หรือสารอาหารต่าง ๆ น้อยกว่าที่ควร วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเรื่องนี้มาบอก...

    [​IMG]แก้วมังกร : ผลไม้ชนิดนี้กินได้เพลินๆ แต่ถ้ากลืนโดยไม่ได้เคี้ยวเมล็ดเล็กๆ สีดำให้แตกซะก่อน อาจพลาดสิ่งดีๆ ไป เพราะในเมล็ดของแก้วมังกรมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ รวมทั้งวิตามินอี การเคี้ยวให้แตกจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ได้​

    [​IMG]ส้ม : ส้มเป็นผลไม้ที่มีไบโอฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยจะมีมากในเยื่อบุผิวและเนื้อเยื่อส่วนใน ดังนั้น เวลากินส้มจึงไม่ควรลอกเยื่อบุผิวขาวๆ ออก และควรกินเนื้อส้มเข้าไปด้วย ช่วยเพิ่มกาก ใย อาหารอีกต่างหาก​

    [​IMG]ฝรั่ง : เวลากินฝรั่งหลายคนจะทิ้งเมล็ดแล้วกินแต่เนื้อเพราะมีความเชื่อว่าการกินเมล็ดฝรั่งจะทำให้เป็นโรคไส้ติ่ง ทั้งๆ ที่เมล็ดฝรั่งมีความหวานหอมและเป็นกากใยอาหารที่ดีเยี่ยม จริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นเมล็ดอะไรหรืออาหารอะไร หากสามารถเข้าไปในไส้ติ่งได้ก็ทำให้เป็นโรคไส้ติ่งอักเสบได้ทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้อง เป็น เมล็ดฝรั่งอย่างเดียว ​

    [​IMG]แครอท : ผักสีส้มที่กินแล้วผิวสวยเพราะได้ชื่อว่ามีสารเบต้าแคโรทีนสูง แต่จะได้ประโยชน์มากขึ้นหากปรุงด้วยความร้อนก่อนนำมากิน ความร้อนจะช่วยทำให้ผนังเซลล์ของแครอทอ่อนตัวลงร่างกายสามารถย่อยได้ง่ายและดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ดีขึ้น​

    รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากมีสุขภาพที่ดี ก็อย่าลืมหันมากินผักและผลไม้กันเยอะๆ



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ​
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีเพื่อนๆ มาเยี่ยมที่ห้องรับแขกของผม นำมาฝากผม
    ผมเลยนำมาฝากต่อกับทุกๆท่านครับ

    -----------------------------------------------------

    <INPUT class=inlinemod_checkbox id=vmessagelist_80440 title="" type=checkbox value=0 name=vmessagelist[80440] inlineModID="inlineMod_comment"> วันนี้ 08:42 PM
    pucca2101

    หวัดดีค่ะ

    ความงดงามของดอกไม้ไม่เพียงแต่สัมผัสได้..ด้วยสายตา
    กลิ่นหอมของดอกไม้ไม่เพียงแต่สัมผัสได้..ด้วยลมหายใจ
    แต่ความงดงามของดอกไม้..ยังสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกของหัวใจ
    ดอกไม้ที่งดงามในหัวใจ ดอกนั้นก็คือ..ดอกไม้แห่งมิตรภาพ
    ซึ่งเติบโตด้วยความรัก ดูแลด้วยความห่วงหาอาทร ...

    ถนนทอดยาวที่เรากำลังเดินก้าวผ่าน หากเรามุ่งเพียงแค่มองออกไป...
    หวังให้ถึงแต่จุดหมายปลายทาง นั่นอาจทำให้เราพลอยหลงลืม
    ความงดงามของดอกไม้.. ที่ผลิบานอยู่ในหัวใจ
    ดอกไม้แห่งมิตรภาพ.. ที่ฝังรากลึกและผลิดอกงอกงามในหัวใจ..

    เปรียบดั่งสายใยแห่งมิตรภาพที่เชื่อมโยงจากใจถึงใจตลอดมา..
    ..ดอกไม้แห่งมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นภายในใจ
    มิตรภาพจากหัวใจเล็กๆแต่สามารถก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ตามมาได้
    ขอความสุขและดอกไม้แห่งมิตรภาพจงเบ่งบานอยู่เคียงคู่หัวใจตลอดไปนะคะ



    [​IMG]


    <INPUT class=inlinemod_checkbox id=vmessagelist_80176 title="" type=checkbox value=0 name=vmessagelist[80176] inlineModID="inlineMod_comment"> วันนี้ 02:25 PM
    บุษบากาญจ์

    สวัสดีค่ะ เอาอาหารใจมาฝาก

    [​IMG]

    <INPUT class=inlinemod_checkbox id=vmessagelist_78418 title="" type=checkbox value=0 name=vmessagelist[78418] inlineModID="inlineMod_comment"> 24-08-2008 01:46 PM
    บุษบากาญจ์

    สวัสดีวันพระเอาธรรมะมาฝากค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผู้นำเช่นไร... ได้ใจลูกน้อง

    http://hilight.kapook.com/view/28125

    [​IMG]

    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ​


    ไม่เพียงแต่ลูกน้องเท่านั้นที่จะต้องเข้าให้ถึงจิตใจของผู้บังคับบัญชา แต่ผู้นำหรือผู้บริหาร หากสามารถเปิดประตูเข้าไปในความรู้สึกนึกคิดของผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ย่อมส่งผลดีต่อการทำงานขององค์กรนั้นเป็นแน่

    "สุจินต์ จันทร์นวล" เจ้าของผลงานพ็อกเกตบุ๊กคุณภาพหลายสิบเล่ม อาทิ เขาว่าผมเป็นมืออาชีพ เขาว่าผมใช้เลขาฯ เปลือง ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทหลายแห่ง มีประสบการณ์ในการบริหารทั้งงานบุคคลและธุรกิจมาอย่างโชกโชน ได้แนะนำเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะจูนความคิดของ เจ้านาย ลูกน้อง ให้ตรงกัน​

    [​IMG] ใจเขาใจเรา อกเขาอกเรา

    ผู้นำหรือผู้บริหารที่จะอยู่ในหัวใจของลูกน้องได้ ควรยึดมั่นในหลัก "ใจเขาใจเรา ...อกเขาอกเรา" ใช้ใจอย่างเดียวนำทาง แค่นี้ก็สามารถที่จะทำให้ลูกน้องรักและศรัทธาในตัวผู้นำได้อย่างน่าทึ่งตรึงใจ ​

    สุจินต์ ย้ำว่า การบริหารที่จะให้ได้ใจลูกน้องเต็มกระบุง ไม่จำเป็นต้องพึ่งหลักการบริหารหรือทฤษฎีใดๆ หรือตำราวิชาการทั้งหลายทิ้งไปได้เลย ใช้ "ใจ" และ "ความรู้สึก" ก็เป็นอันสำเร็จแล้ว ​

    "สมมติถ้าเราเป็นลูกน้องคนอื่นหากจะทำงานให้เขาแบบถวายชีวิต อย่างแรกเขาต้องทำให้เรายอมรับได้ก่อน หรือสร้างความรู้สึกที่ดีๆ ให้เราเป็นกันเอง ช่วยเหลือเรา เช่น ทางบ้านครอบครัวเป็นยังไงบ้าง พอมีปัญหาก็เข้ามาช่วยเหลือ อย่างนี้เป็นใครก็ทำงานถวายชีวิตให้ เช่นเดียวกัน ถ้าเราไปเป็นนายคนอื่น หากจะให้ลูกน้องศรัทธาในตัวเรา ทำงานให้เราแบบถวายชีวิตบ้าง เราก็ต้องทำให้ลูกน้องซาบซึ้งในตัวเราให้ได้ก่อน นี่คือ อกเขาอกเรา ใจเขาใจเรา ไม่ต้องใช้หลักบริหารหรือทฤษฎีใดๆ อยู่ที่ใจทั้งนั้น ถ้าทำให้เขายอมรับในตัวเราได้ก็สำเร็จ" สุจินต์ อธิบายหนักแน่น

    [​IMG] อ่านใจลูกน้องให้ออก

    ผู้นำที่ดีต้องมองให้ออกว่า ลูกน้องเป็นคนยังไง ทั้งตัวตน นิสัยใจคอ รวมทั้งศักยภาพของเขาให้ได้มากที่สุด และวิธีที่จะเรียนรู้ลูกน้องนั้น สามารถทำได้ทั้งการพุดคุย การเฝ้าสังเกตพฤติกรรม การแสดงออกต่างๆ รวมทั้งหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขา เพื่อประเมินนิสัย ความคิด ทัศนคติ และอื่นๆ ของเขา​

    "ผมจะคลุกอยู่กับลูกน้องทุกคนเพื่ออ่านใจและเรียนรู้นิสัยของเขา ยิ่งรู้ว่าเขามาจากครอบครัวเช่นไร เรียนจบอะไร เริ่มต้นทำงานที่ไหน เป็นคนทำอะไรได้ดีที่สุด ก็ยิ่งดีมากๆ ซึ่งการรู้อย่างเดียวไม่พอผมต้องเทสต์ด้วย และเมื่อนั้นก็สามารถที่จะใช้เขาทำงาน ซึ่งเขาก็จะทำได้ดี ผมเองก็ได้งานด้วย แต่ถ้าไม่ใกล้ชิดไม่มีทางรู้ ผมจึงต้องเรียนรู้ลูกน้องให้ได้ คนไหนที่ไม่ได้เรื่อง ผมก็รู้ว่าเขาไม่ได้เรื่องเพราะอะไร จากนั้นก็เอาสิ่งที่ผมเรียนรู้นี้ไปแก้ไขให้เขา ไม่เพียงเท่านั้น เวลาที่ผมทำงานยังต้องนั่งอ่านใจนายด้วย ว่านายเป็นคนยังไง ชอบลูกน้องแบบไหน ชอบลูกน้องขี้ประจบหรือชอบทำงาน" สุจินต์ กล่าว ​

    [​IMG] นายที่ลูกน้องต้องการ

    คนที่เป็นนาย ก็ต้องการลูกน้องดี มีความสามารถ ฉลาด ซื่อสัตย์ ไม่ทุจริตคดโกง มีสัมมาคารวะ คนที่เป็นลูกน้องก็เช่นเดียวกัน ย่อมต้องการนายที่ดี ไม่เห็นแก่ประโยชน์ตนจนลืมลูกน้อง มีความรัก ความเมตตา ยุติธรรม พูดจาดี ไม่ชอบดูหมิ่นดูแคลน และมีน้ำใจต่อลูกน้อง ​

    สุจินต์ เล่าว่า การที่จะเป็นผู้นำที่ดีและเป็นผู้นำในฝันของใครนั้น ง่ายนิดเดียว เพียงคิดและมองในมุมกลับและทำให้ได้ คือถ้าเรามีนายหรืออยู่ในสถานะเป็นลูกน้องเขา ถามว่าเราอยากได้นายแบบไหน นายในฝันของเราเป็นอย่างนี้ๆ แล้วเขียนลงในกระดาษ เช่น ต้องเป็นผู้ที่ทำให้เรายอมรับได้ มีเมตตา ยุติธรรม มีบุคลิกเป็นผู้นำ รับฟังลูกน้อง สนับสนุน เป็นต้น ​

    เวลาที่ลูกน้องทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา หัวหน้าต้องไม่ด่วนสรุปตัดสินว่าเขาผิดหรือกล่าวโทษ หรือด่าว่าโดยทันที แต่ต้องมาพิจารณาหาสาเหตุว่าที่ผิดพลาดนั้นเพราะอะไร ผิดพลาดตรงไหน และหาวิธีแก้ไข เพราะลูกน้องเมื่อรู้ว่าตนทำงานผิดพลาด ใจก็หวาดหวั่นครั่นคร้ามว่านายจะเล่นงานอยู่แล้ว

    ถ้าลูกน้องผิดพลาดในเรื่องมหันต์ ก็ต้องพิจารณาหาสาเหตุว่าผิดเรื่องเดิมหรือเปล่า หรือผิดเพราะหลงผิด หรือผิดเพราะทำผิดจริงๆ หรือผิดเพราะไม่รู้ถึงได้ทำผิด แต่ถ้าผิดในเรื่องทุจริตหรือคดโกงบริษัท ลูกค้า อันนั้นก็ต้องมีมาตรการลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ยอมไม่ได้ ​

    สุจินต์ กล่าวว่า การที่ลูกน้องทำงานผิดพลาดขึ้นมา ผู้นำจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ จะโทษก็ต้องโทษผู้นำหรือผู้บริหารที่ไม่ได้ทำการฝึกสอนเขาให้ดี การที่จะทำให้ลูกน้องเกิดความประทับใจ ผู้เป็นนายสามารถทำได้ในสถานการณ์ที่เห็นว่าเหมาะสม และควรฉวยโอกาสทำทันทีไม่รอช้า เพราะถ้าช้าไปก็อาจไม่มีโอกาสดีๆ เช่นนั้นอีก ​

    เพียงแค่ใช้ "ใจ" มองอีกฝ่ายแค่นี้ "ผู้นำ" ก็ได้ใจลูกน้องไปเต็มๆ




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก โพสต์ ทูเดย์
    [​IMG]
    โดย : วรธาร ทัดแก้ว​

    ------------------------------------------​

    26 - 28 ส.ค. น้ำไม่ไหลหลายที่

    http://hilight.kapook.com/view/28122

    [​IMG]

    [​IMG]วันที่ 26 ส.ค. เวลา 22.00-03.00 น. ถนนสุขสวัสดิ์ 45-โรงเรียนศิริวิทย์ ​


    [​IMG]เวลา 22.00-04.00 น. ถนนพหลโยธิน ซอยพหลโยธิน 50 ทั้งซอย แยกซอยโชคดี 1 ซอยโรงหนังกรุงสยาม ห้างบิ๊กซีสะพานใหม่ โรงพยาบาลเซ็นทรัลฯ หมู่บ้านสินทรัพย์นคร ซอยร่วมใจอุทิศ ซอยสินสุข ​


    [​IMG]เวลา 10.00-16.00 น. ถนนสรงประภา ตั้งแต่หมู่บ้านดอนเมืองวิลล่า ถึงซอยปั้นสนิท ถนนรัชดาภิเษก ซอยรัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่อุทิศ) ถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 18 ถนนเลียบคลองสับสาม ในซอยวัดแสนเกษม ​


    [​IMG]เวลา 10.00-15.00 น. ถนนทางรถไฟสายเก่า บริษัทสยามฟูดส์ ถึงคลองสำโรง ​


    [​IMG]เวลา 09.00-17.00 น. ถนนบางยอน 3 บริเวณถนนบางบอน 3 และบริเวณใกล้เคียง ​


    [​IMG]เวลา 10.00-15.30 น. ถนนจรัญสนิทวงศ์ 15 บริเวณริมคลองบางกอกใหญ่ และบริเวณใกล้เคียง ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 13 บริเวณริมคลองบางกอกใหญ่ ถนนเพชรเกษม 81 ซอยมาเจริญ 3 แยก 8 ​


    [​IMG]เวลา 10.30-16.00 น. ถนนประชาร่วมใจ ซอยประชาร่วมใจ 41 ​


    [​IMG]เวลา 21.00-02.00 น. ถนนบางตำหรุ-กิ่งแก้ว ในถนนบางตำหรุ-กิ่งแก้ว และบริเวณใกล้เคียง ​


    [​IMG]เวลา 21.00-05.00 น. ถนนเทพารักษ์ ถนนเทพารักษ์ ตั้งแต่โรงสูบบางพลี ถึง อ.บางบ่อ ทั้งสองฝั่ง ถนนเมืองใหม่บางพลี ตั้งแต่ถนนเทพารักษ์ ถึงถนนสุขุมวิทสายเก่า ถนนบางบ่อ-คลองด่าน ถนนบางนา-ตราด ตั้งแต่คลองจระเข้ใหญ่ กม.23 ถึงคลองบางพลีน้อย กม. 35 ทั้งสองฝั่ง ​

    [​IMG]วันที่ 27 ส.ค. เวลา 21.00-23.00 น. ถนนสุขสวัสดิ์ สามแยกพระประแดง-ซอยสุขสวัสดิ์ 45 ​


    [​IMG]เวลา 23.00-02.00 น. ถนนสุขสวัสดิ์ น้ำไม่ไหล ซอยวัดใหญ่ ​


    [​IMG]วันที่ 28 ส.ค. เวลา 10.00-16.00 น. ถนนไมตรี ซอยไมตรี 24 ถนนสังฆสันติสุข หมู่บ้านบุราพันธ์ ​


    [​IMG]เวลา 23.00-05.00 น. ถนนราษฎร์บูรณะ ถนนพระราม 2 ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนราษฎร์บูรณะ ถนนประชาอุทิศ ถนนพุทธบูชา ถนนนครเขื่อนขันธ์ ถนนเลียบคลองสรรพสามิต ถนนวัดยายร่ม ถนนวงแหวนตะวันตกตั้งแต่แยกพระราม 2 ถึงถนนสุขสวัสดิ์ ​




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ​
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ค่าของคน

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=500 align=center bgColor=#dddddd border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=70 bgColor=#cccccc>โดย</TD><TD vAlign=top bgColor=#ffffff>: พระอาจารย์ ไพเราะ ฐิตสีโล</TD></TR><TR><TD width=70 bgColor=#cccccc>วันที่ online</TD><TD bgColor=#ffffff>: 26 ตุลาคม 2547</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellPadding=10 width=500 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>[​IMG]

    มีคำพูดว่า
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>...เกิดเป็นมนุษย์นี้ยาก...
    http://www.dhammathai.org/store/talk/view.php?No=431

    <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1>
    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    รูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
    ประดิษฐาน ณ ตึกอริยาคาร วัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี


    การเกิดเป็นมนุษย์นี้ ท่านว่ายากเย็นเหลือเกิน เหมือนกับ เต่าตนุตาบอดซึ่งจมอยู่ในท้องมหาสมุทร กว่าจะโผล่ขึ้นมาจากท้องมหาสมุทรนั้นมันแสนยากทั้งตาบอดเสียด้วย ไม่ทราบว่ากิ่งไม้หรือต้นขอนต่างๆ มันอยู่ที่ไหน เมื่อโผล่ขึ้นมาได้ ทั้งได้เกาะได้อาศัยไม้นับเป็นโชคลาภ

    การเกิดเป็นมนุษย์นี้ยากแสนยากลำบากเหลือเกิน
    เพราะกว่าจะเกิดได้ ภพชาติอื่นๆ มันมีมาก สัตว์น้ำก็นับอย่างไม่ได้ สัตว์ก็นับอย่างไม่ได้และเกิดง่ายสะดวกสบาย ไม่เหมือนมนุษย์เรา

    มนุษย์จึงเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ
    ไม่ใช่สัตว์ธรรมดา เหตุใดจึงว่าประเสริฐ
    พระพุทธเจ้าหรือเหล่าพระอรหันต์
    ปัจเจกพุทธเจ้าก็เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งนั้น
    ไม่ใช่เกิดเป็นอันอื่น

    ฉะนั้นจึงเรียกว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ควรชำระจิตใจของตัวให้ประเสริฐ ตามเยี่ยงอย่างที่พระพุทธเจ้าของเราเคยกระทำบำเพ็ญมา
    ไม่อย่างนั้นการเกิดของเราก็จะเป็นหมัน เป็นโมฆะ หาสาระอะไรไม่ได้

    สัตว์เขาเกิดเขาตายเหมือนกับเรา
    แต่เขาไม่ประเสริฐก็เพราะเขาไม่ได้คิดในทางดีของเขา
    ตื่นมาก็หากิน อิ่มแล้วก็หลับนอน นี่เรื่องของสัตว์
    ไม่ว่าสัตว์บ้านสัตว์ป่าเป็นอย่างนั้น จะจำศีลอย่างไร
    จะภาวนาอย่างไร จิตใจของสัตว์ไม่เคยนึกคิดเรื่องเหล่านี้

    แต่มนุษย์เราคนที่ประมาทเมินเฉย
    ก็ทำนองเดียวกับสัตว์ เพียงแต่กินแต่อยู่เท่านั้น
    ไม่ได้คิดกำจัดกิเลสตัณหา มานะ ทิฐิละชั่ว บำเพ็ญดี
    มีแต่แสวงหามาใส่ปากใส่ท้องของตัว แล้วก็หลับนอน
    ก็เพลิดเพลินกันไปตามเรื่องของกิเลสตัณหา

    ไม่ได้คิดว่าการเกิดของตัวมันยากมันลำบาก
    กว่าจะได้เกิดแต่ละครั้งแต่ละหน เมื่อไม่คิดอย่างนี้ การสะสมคุณงามความดีอะไรมันก็ไม่อยากกระทำบำเพ็ญ เพราะเห็นว่าการเกิดไม่ยุ่งยากลำบากอะไร
    เพราะไม่ได้คิดถึงเหตุผลต้นปลายอะไร
    เพียงเกิดได้ก็ว่าตัวเกิด ตัวดีเท่านั้น ผลที่สุดตายไป

    เมื่อไม่ได้ทำบุญสุนทาน เมื่อไม่ได้สร้างคุณงามความดีอะไรไว้ จิตใจเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา เต็มไปด้วยมานะทิฐิต่างๆ ไม่มีบุญกุศลส่วนใดที่จะสนับสนุนให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทพบุตร เทพธิดาหรืออินทร์พรหมได้

    มันก็ไปสู่อบาย คือทางชั่วทางเสีย
    อบายนั้นพวกเราท่านก็ได้ยินแต่ในตำรับตำราว่า มันทุกข์ มันยาก
    มันลำบาก มันรำคาญขนาดไหน
    อบายนั้นไม่ได้หมายถึงนรกถ่ายเดียว
    เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานก็หมายถึงอบายด้วย


    : เกิดเป็นมนุษย์นี้ยาก
    : ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา : คุณ I am...http://www.dhammajak.net <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right>ลูกโป่ง [DT0329] [ วันเสาร์ ที่ 3 พฤษภาคม 2551 เวลา 14:13 น. ]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>...การดำเนินชีวิตเป็น...
    http://www.dhammathai.org/store/talk/view.php?No=441

    <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1>
    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>คนเราที่จะเป็นอยู่อย่างดีนี้ จะต้องดำเนินชีวิตเป็น
    คือ รู้จักดำเนินชีวิตนั่นเอง
    ถ้าใครรู้จักดำเนินชีวิต ชีวิตนั่นก็เป็นชีวิตที่ดีงาม
    เป็นชีวิตที่พัฒนาเจริญก้าวหน้าประสบประโยชน์สุข
    แต่ถ้าดำเนินชีวิตไม่เป็น ก็มีแต่ขาดทุนและประสพแต่ความทุกข์
    และความเสื่อม
    ฉะนั้นจะต้องรู้จักดำเนินชีวิตหรือ ดำเนินชีวิตเป็น...

    กรรม คืออะไร คือการทำ พูด คิด
    ไม่คิดก็พูด ไม่พูดก็ทำทางกาย
    ถ้าไม่ทำออกมาทางกาย ก็พูดทางวาจา หรือไม่ก็คิดอยู่ในใจ

    วันเวลาของเราทั้งหมดนี้แต่ละวัน
    เป็นเรื่องของการทำ พูด คิด หรือ คิด พูด และทำ ใช่หรือเปล่า

    เป็นอันว่า การดำเนินชีวิตของเรานี้
    ในความหมาย อย่างหนึ่งก็คือ การทำกรรม ได้แก่ การทำ พูด คิด

    ทีนี้คนเราที่จะดำเนินชีวิตได้ดี
    อย่างที่เรียกว่าดำเนินชีวิตเป็น ประสบความสำเร็จก้าวหน้านั้น
    ลักษณะหนึ่งก็คือ การต้องทำกรรม ๓ อย่างนี้ให้เป็น
    ทำให้ดีทำให้ถูกต้อง แล้วจึงจะเป็นชีวิตที่ดี

    เพราะฉะนั้น การดำเนินชีวิตเป็น จึงหมายถึงการรู้จักทำ รู้จักพูด รู้จักคิด
    หรือ ทำเป็น พูดเป็น คิดเป็น สามอย่างนี้แหละ
    ถ้าใครทำได้ ชีวิตจะเจริญงอกงาม
    เมื่อคิดเป็น พูดเป็น ทำเป็นแล้ว ก็มีชีวิตที่ดีงามสุขสบาย

    สมัยปัจจุบันนี้ วงการการศึกษาเน้นกันมากเรื่องการคิดเป็น
    ทำเป็น แก้ปัญหาเป็นใช่ไหม
    เมื่อเทียบกับที่พูดมาแล้วข้างต้น
    ทั้ง ๒ ด้าน ก็เกือบจะตรงกันทีเดียว
    แต่ยังไม่ครบถ้วน คือ ขาดพูดเป็น


    การศึกษาที่บอกว่า คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น
    ไม่พอเพราะอะไร ยุคข่าวสารข้อมูล พูดเป็นสำคัญมาก
    พูดเป็นถ้าใช้ภาษาวิชาการก็คือ สื่อสารเป็นในยุคข่าวสารข้อมล
    ถ้าสื่อสารไม่เป็นก็ลำบาก
    ฉะนั้นการศึกษาที่ดี จะเพิ่มพูดเป็นหรือสื่อสารเป็นเข้าไปด้วย

    ตั้งแต่โบราณ ไทยเราให้ความสำคัญ แก่การพูดเป็นมานานแล้ว
    ปากเป็นเอกเลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี
    ท่านเน้นความสำคัญของการพูดเป็น ว่าปากเป็นเอกเลยนะ

    การศึกษาปัจจุบันบอกว่า คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น
    เดี๋ยวนี้เขาเอากันแค่นี้เท่านั้น
    ลืมอย่างหนึ่งไปไม่ครบกรรม ๓ คือขาดพูดเป็น หรือสื่อสารเป็น

    พูดเป็นนี้สำคัญมาก แม้มีความรู้ แต่ถ้าถ่ายทอดไม่ได้
    หรือมีความต้องการอะไร แต่พูดให้เขาเข้าใจไม่ได้
    ก็เรียกว่า สื่อสารไม่เป็น จะดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมให้ดีได้ยาก

    ยิ่งในยุคปัจจุบันนี้ การสื่อสารก้าวหน้าไปมาก
    เช่น มีการโฆษณา และชักจูงคนอื่น
    ทำให้มวลชนเห็นคล้อย ไปตามต่อผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง
    การพูดเป็น รวมทั้งการรู้เท่าทัน
    และรู้จักการเลือกสรรข่าวสารข้อมูล จึงเป็นเรื่องสำคัญเหลือเกิน

    เป็นอันว่า การดำเนินชีวิตเป็นในแง่ที่ ๒
    ก็คือ การสามารถ คิดเป็น พูดเป็น ทำเป็น

    คัดลอกจาก...
    http://jarun.org
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right>
    ลูกโป่ง [DT0329]
    [ วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม 2551 เวลา 19:22 น. ]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    แวะมาราตรีสวัสดิ์ สงสัยจะหลับกันหมดแล้ว ผมอยู่เคลียร์งานนิดหน่อยพรุ่งนี้จะมีพิจารณาเลื่อนขั้นกัน ทำงานกับคนหมู่มาก ปัญหาก็มากตามไปด้วย...
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=1033

    อย่าลืมมาตอบกันครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>‘มูร์ร่าห์ฟาร์ม’ นมควายจากเต้า ปลุกกระแสสุขภาพลบภาพโง่!
    http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9510000093692
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 สิงหาคม 2551 09:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>“ควายนมพันธุ์มูร์ร่าห์” มีแหล่งกำเนิดจากประเทศอินเดีย ลักษณะทั่วไป ตัวใหญ่ ผิวสีดำ หน้าผากนูน เขาสั้นม้วนงอ เต้านมใหญ่ ให้น้ำนมเฉลี่ย 20 กิโลกรัม (กก.)/ตัว/วัน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รัญจวน เฮงตระกูล (ซ้าย) และชาริณี ชัยยศลาภ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>มูร์ร่าห์ฟาร์มที่ ต.หนองไม้แก่น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ชาริณี ชัยยศลาภ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นมควายสด บรรจุขวด ขนาด 200 ซีซี ราคา 20 บาท </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>มาสซาเรลลาชีส ราคาขายสูงถึง 1,000 บาทต่อ กก. </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ร้าน “มูร์ร่าห์คาเฟ่แอนบิสโทร” ในหมู่บ้านสัมมากร ถ.รามคำแหง 112 </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>บรรยากาศภายในร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เนยกระเทียม อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แปรรูป</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เมนู คาปรีเซ่สลัด จานละ 85 บ.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>กีห์ ขายราคา 260 บ./ กก.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สำหรับชาวต่างชาติแล้ว “นมควาย” ได้รับความนิยมมานาน เหนือกว่านมวัว หรือนมแพะเสียอีก เนื่องจากมีสารอาหารสูง และเข้มข้นยิ่งกว่า แต่สำหรับคนไทยแล้วน้อยรายจะรู้ข้อมูลดังกล่าว เมื่อบวกกับทัศนคติมักเปรียบเทียบควายกับ “ความโง่” ด้วยแล้ว การบริโภคนมควายกับคนไทยจึงเป็นเรื่องไกลตัวอย่างยิ่ง

    ทว่า ปัจจุบัน นมควายมีทิศทางจะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการเลี้ยงควายนมในรูปแบบฟาร์มเต็มรูปแบบขึ้นแล้ว เป็นแห่งแรกในเมืองไทย บนพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กว่า 400 ไร่ ที่ ต.หนองไม้แก่น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้การบุกเบิกของ “รัญจวน เฮงตระกูล” ในชื่อ มูร์ร่าห์ฟาร์ม”(Murrah Farm) ยิ่งเมื่อ “ชาริณี ชัยยศลาภ” บุตรสาวเข้าช่วยกิจการ ได้ยกระดับด้านการตลาด ทั้งสร้างแบรนด์ และแปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด


    กำเนิดฟาร์มควายนมแห่งแรกในไทย

    ชาริณี ชัยยศลาภ ผู้จัดการบริษัท มูร์ร่าห์ แดรี่ จำกัด เล่าให้ฟังว่า พื้นฐานครอบครัวทำธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องหนัง โดยมีการเลี้ยงควายพื้นบ้านของไทย ที่เรียกกันทั่วไปว่า “ควายปลัก” ควบคู่ไปด้วย เพื่อนำหนังมาใช้เป็นวัตถุดิบ

    กระทั่ง ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์มณีวรรณ กมลพัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านควาย จากคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับ “ควายนมพันธุ์มูร์ร่าห์” ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากประเทศอินเดีย มีคุณสมบัติให้น้ำนมเฉลี่ย 20 กิโลกรัม (กก.)/ตัว/วัน ระยะเวลาให้นม 9 - 10 เดือน ซึ่งผู้บริโภคในต่างประเทศ นิยมดื่มนมควายสูงกว่านมวัวเสียอีก ตลาดโลกจึงมีความต้องการมหาศาล ทำให้สนใจทำฟาร์มควายนมทันที จากนั้นจึงศึกษาดูงานการทำฟาร์มควายนมในต่างประเทศกว่า 2 ปี ทั้งที่อิตาลี จีน บราซิล อินเดีย และบัลแกเรีย แล้วเริ่มลงมือทำในเมืองไทยเมื่อปี 2546

    เผยคุณประโยชน์นมควายสุดยอด

    จุดเด่นของน้ำนมควายมูร์ร่าห์นั้น ชาริณี เผยว่า มีสารอาหารสูงกว่านมวัว ทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ รวมถึง มีสีขาวเนียนชวนดื่ม ทั้งยังไม่มีกลิ่นคาว ดื่มง่ายกว่านมแพะ และ Butter Fat ในนมควายก็มากเป็นสองเท่าของนมวัว ในขณะที่ค่าคลอเลสเตอรอลต่ำกว่า นอกจากนั้น ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Natural Antioxidant) เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสในน้ำนมวัว

    ชาริณีให้ข้อมูลด้วยว่า ถ้าวัดกันเฉพาะเรื่องสารอาหารแล้ว ควายปลักพื้นเมืองของไทยมีคุณสมบัติเหนือกว่าพันธุ์มูร์ร่าห์ด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากควายปลักให้น้ำนมได้เพียงวันละ 1 กก./ตัวเท่านั้น จึงไม่เหมาะจะเลี้ยงหวังน้ำนม ส่วนการเลี้ยงควายทั้งสองชนิดไม่แตกต่างกัน แม้ควายมูร์ร่าห์จะเป็นสายพันธุ์ต่างชาติ แต่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในเมืองไทยได้ดี

    ต่อยอดแปรรูปนมควายครบวงจร

    จากเป้าหมายหลักต้องการต่อยอดธุรกิจให้ครบวงจรจากฟาร์มเลี้ยงสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ดังนั้น ก่อนที่ชาริณีจะเข้ามาช่วยธุรกิจในฐานะผู้บริหารเต็มตัวเมื่อปี 2547 ได้ไปศึกษาการจัดระบบฟาร์มที่ประเทศออสเตรเลีย รวมถึง เรียนรู้การแปรรูปนมควายที่ประเทศอิตาลีด้วย

    “ธุรกิจฟาร์มนมในเมืองไทย จะมีช่องว่าง กำไรส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกษตรกรหรือผู้เลี้ยง แต่กลับตกไปอยู่ในมือของพ่อค้าคนกลางแทน ดังนั้น เราจึงอยากทำให้ฟาร์มมีลักษณะครบวงจร ตั้งแต่เพาะพันธุ์ เลี้ยงจนถึงแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และจำหน่ายด้วยตัวเอง โดยมีผลิตภัณฑ์นำร่อง ได้แก่ นมควายพร้อมดื่ม โยเกิร์ตนมควาย เนยอินเดีย หรือ กีห์ (Ghee) และมอสซาเรลลาชีส” ทายาทธุรกิจ กล่าว

    โจทย์ยากที่สุดในการทำตลาดระยะแรกคือ แนะนำให้ผู้บริโภครู้ถึงคุณสมบัติของนมควาย เพื่อลบทัศนคติที่ว่าดื่มนมควายอาจทำให้โง่ เป็นที่มาของการลงทุนกว่าล้านบาทเปิดร้าน “มูร์ร่าห์คาเฟ่แอนบิสโทร” ในหมู่บ้านสัมมากร ถ.รามคำแหง 112 เมื่อเดือนธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา

    “จุดประสงค์หลักของร้าน ต้องการทดสอบตลาดของผลิตภัณฑ์นมควายแปรรูป และสร้างแบรนด์ให้ลูกค้ารู้จัก พร้อมกับลบภาพว่า ควายโง่ เพราะลูกค้าแทบทุกคนจะมาพร้อมกับคำถามว่า กินนมควายแล้วจะโง่ไหม? ซึ่งมันเป็นโอกาสของเรา ที่จะได้บอกข้อมูลความจริง ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการยืนยัน ช่วยให้ลูกค้ารู้จักนมควายอย่างถูกต้อง และยังไปบอกต่อด้วย” ชาริณี เผย

    “มูร์ร่าห์คาเฟ่ฯ” จุดนัดคนรักนมควาย

    สำหรับเมนูในร้าน “มูร์ร่าห์คาเฟ่ฯ” ล้วนแต่มีส่วนประกอบการจากนมควาย เช่น นมควายสด 100% ปราศจากสารกันบูด และยาฆ่าแมลง มีบริการทั้งดื่มในร้าน แก้วละ 25 บาท หรือบรรจุขวด ขนาด 200 ซีซี ราคา 20 บาท กาแฟ ใส่นมควาย ราคาแก้วละ 25 บาท โยเกิร์ตนมควาย ถ้วยละ 25 บาท ฯลฯ

    นอกจากนั้น ยังมีอาหารสไตล์อิตาเลียน ที่มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมควายเป็นส่วนประกอบ เช่น คาปรีเซ่สลัด แฮมชีสบรูเซตต้า ข้าวผัดกีห์กับปลาเค็มหน้ากุ้ง พิซซ่ามาร์การิต้า ฯลฯ ผลตอบรับตั้งแต่เปิดร้านมา ดีขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมเป็นลูกค้าขาจรมาเพื่ออยากลองของแปลก กลายเป็นขาประจำ โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ร้านแน่นตลอดทั้งวัน ซึ่งจากผลตอบรับที่ดีดังกล่าว เตรียมเปิด “มูร์ร่าห์คาเฟ่ฯ” สาขา 2 ที่เมืองพัทยา ปลายปีนี้

    ไม่ใช่เฉพาะขายที่ร้านเท่านั้น ชาริณีได้พาผลิตภัณฑ์นมควายแปรรูปขยายตลาดไปวางจำหน่ายในวิลล่าซูเปอร์มาร์เกต ส่งเข้าร้านอาหารอิตาเลียน และโรงแรมชื่อดังต่างๆ โดยสินค้าขายดีอันดับหนึ่ง ได้แก่ มาสซาเรลลาชีส ซึ่งการผลิตต้องใช้น้ำนมดิบ จำนวน 100 กก.จะได้ชีสเพียง 20 กก. ราคาขายสูงถึง 1,000 บาทต่อ กก. ลูกค้าหลัก คือ ชาวต่างชาติ

    ส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าคนไทยมากที่สุด คือ นมควายสด ขายราคา 80 บาทต่อ กก. ซึ่งราคาดังกล่าวสูงกว่านมวัวถึง 4 เท่าตัว

    “การขายนมควายสด ถ้าหวังได้กำไรมูลค่าสูง ต้องทำในลักษณะตลาดแมส แต่ปัจจุบันศักยภาพของเรายังไม่พร้อม แม่ควายนมยังให้ปริมาณน้ำนมไม่มากพอ ดังนั้น ในส่วนนมควายสด เราจึงทำในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เน้นบริการลูกค้าในร้านเท่านั้น แต่สำหรับมอสซาเรลลาชีส ซึ่งเป็นชีสชนิดเดียวกับที่ใช้ในการทำพิซซ่า ชาวต่างชาติจะนิยมบริโภคชีสที่ทำจากนมควายมาก ดังนั้น โรงแรมที่มีลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติ และร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน จึงสั่งซื้อสินค้าจากเราจำนวนมาก” ชาริณี เผย

    เร่งขยายกิจการรับรองตลาดโต

    แม้ว่า ผลิตภัณฑ์แปรรูปนมควายจะขายได้ราคาสูง แต่ปัญหา ณ วันนี้ คือ มีวัตถุดิบน้ำนมไม่เพียงพอ เนื่องจากในฟาร์ม เลี้ยงควายมูร์ร่าห์ประมาณ 250 ตัว มีตัวที่พร้อมให้น้ำนมเพียง 70-80 ตัวเท่านั้น อีกทั้ง แต่ละตัวยังให้น้ำนมได้เพียง 5 กก.ต่อวันเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าควายมูร์ร่าห์ในต่างประเทศอยู่มาก โดยรวมจึงมีวัตถุดิบน้ำนมเฉลี่ยแค่วันละ 200 กก. ขณะที่ความต้องการจริงน่าจะสูงกว่านี้ 2-3 เท่าตัว

    เพื่อจะแก้ปมดังกล่าว ในส่วนของมูร์ร่าห์ฟาร์มเองจะพยายามพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้น้ำนมสูงขึ้น ขณะเดียวกัน พยายามจะสร้างฟาร์มเครือข่ายกับเกษตรกรในท้องถิ่น เพื่อเป็นแหล่งป้อนวัตถุดิบ โดยมูร์ร่าห์ฟาร์มจะสนับสนุนสายพันธุ์ ความรู้ในการผสมพันธุ์ และเลี้ยง รวมถึงหาตลาดให้

    ชาริณี กล่าวทิ้งท้ายว่า มั่นใจธุรกิจควายนมมูร์ร่าห์จะมีอนาคตสดใส เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย เหมาะกับเมืองไทย อีกทั้ง นมควายสามารถนำไปแปรรูปได้หลายหลาก และด้วยคุณสมบัติสารอาหารสูง จึงตอบสนองกระแสรักสุขภาพของคนทั่วโลกได้อย่างดี

    ********************

    ***คลิกเพื่อดูแผนที่ไป “มูร์ร่าห์ฟาร์ม” และ"มูร์ร่าห์คาเฟ่แอนบิสโทร” ***

    โทร.0-2373-2992 , 08-6777-4515

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผนที่ไป "มูร์ร่าห์ฟาร์ม" และ "มูร์ร่าห์คาเฟ่ฯ"
    http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9510000098042
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 สิงหาคม 2551 16:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> มูร์ร่าห์ฟาร์ม”(Murrah Farm) ตั้งอยู่ที่ 99/14 หมู่ 12 ต.หนองไม้แก่น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา โทร.081-838-2425

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "มูร์ร่าห์คาเฟ่แอนบิสโทร” ตั้งอยู่ที่ 36/4 หมู่บ้านสัมมากร ถ.รามคำแหง 112 กรุงเทพฯ 10240 โทร.086-777-4515 ,02-373-2992


    ***คลิกเพื่ออ่านเรื่อง ‘มูร์ร่าห์ฟาร์ม’ นมควายจากเต้า ปลุกกระแสสุขภาพลบภาพโง่!

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...