พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ขอบคุณสำหรับคำสอนพี่หนุ่มครับ ผมเองอาจจะพูดไม่ค่อยเก่งนัก ที่ผมหมายถึงก็คือ
    ผมรู้สึกว่า อาจารย์ท่านคงต้องมีบุญบารมีมาก จึงได้พระเครื่องมากมายมาเก็บไว้
    แต่เดิมผมเคยรู้สึกแต่ว่าผมมาเรียนดูพระ ก็เพราะอยากมีจะไปหาพระมาเก็บไว้มากๆเหมือนท่าน
    แต่วันนี้ความรู้สึกนั้นกลับกลายเป็นว่าผมรู้สึกว่าท่านมีพระมาก เพราะท่านมีบุญมาก แต่ผมไม่ได้อยากมีพระมากเหมือนท่านอีกแล้ว แต่ผมอยากมีบุญมากเหมือนท่าน
    จึงเกิดความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติครับ
    ทั้งนี้ก็ต้องขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านในกระทู้นี้ ที่ได้มอบแต่สิ่งดีงามทางความคิด
    ได้สอนอะไรหลายๆอย่างให้กับผมจริงๆครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2008
  2. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE class=tborder id=post1427808 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 10:09 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#20001 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ake7440<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1427808", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 10:09 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2008
    ข้อความ: 49
    ได้ให้อนุโมทนา: 83
    ได้รับอนุโมทนา 325 ครั้ง ใน 48 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1427808 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เมื่อกี้ผมได้ไปบ้านอาจารย์ที่สอนผมดูพระมา น่าแปลกครับ ทุกครั้งที่ผมไปจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับพระเครื่องมากมายที่มีให้ดู
    ยิ่งดูก็ยิ่งอยากได้ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากจะศึกษาต่อมากขึ้นเรื่อยๆ แต่วันนี้ผมกลับดูแล้วเกิดความรู้สึกว่า
    มากมายขนาดนี้จะเอาไปทำอะไร เราจะอยากได้ไปทำไม ดูแล้วก็เกิดความรู้สึกว่าท่านอาจารย์ท่านมีบุญบารมีมาก
    กลับไม่ได้อยากได้พระมากมายอย่างท่าน แต่อยากจะกลับไปนั่งสมาธิ สวดมนต์ เพื่อจะได้สร้างบุญบารมีให้ได้อย่างท่าน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    --------------------------------------------------

    ขอแสดงความยินดีครับ ผมจะจัดส่งพระพิมพ์ไปให้นะครับ


    ขอแสดงความยินดีด้วยครับบบบบบบ ... ดีใจด้วยครับ จากใจจริง
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมสงสารคนที่ไม่ได้อ่านเมื่อสัก4ชั่วโมงที่ผ่านมา ต้องตามอ่านประมาณ 5 หน้า ตั้งแต่หน้า 997 จนหน้า 1002

    .-----------------------------

    10 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังจากทั่วโลก

    -http://hilight.kapook.com/view/72163-

    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    นักวิทยาศาสตร์ในโลกนี้มีมากมาย แต่มีไม่กี่คนนักหรอกที่ประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และสร้างความเปลี่ยนแปลงจนคนรุ่นหลังต้องขอบคุณสิ่งประดิษฐ์ที่พวกเขาคิดค้น ขึ้น ซึ่งกว่าที่พวกเขาจะมีชื่อเสียงเป็นที่นับถือจากผลงาน หลาย ๆ คนก็อาจต้องเสียสละหรือผ่านความยากลำบากมาก่อนโดยที่เราไม่คาดคิด ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้รวบรวมเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความ สำเร็จ 10 คนมาฝากกัน ...ตามมาอ่านเรื่องราวของพวกเขากันเลย

    [​IMG]

    1. เซอร์ไอแซก นิวตัน (Sir Isaac Newton)

    แน่นอนว่าในบรรดานักวิทยาศาสตร์เก่ง ๆ จะขาดนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษอย่าง เซอร์ไอแซก นิวตัน ไม่ได้เด็ดขาด โดย เซอร์ไอแซก นิวตัน เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี 1642 และเสียชีวิตลงขณะอายุ 46 ปี ในวันที่ 20 มีนาคม ปี 1727 (ตามปฏิทินจูเลี่ยนของ จูเลียส ซีซาร์) ซึ่งเขาเป็นอัจฉริยะที่เก่งรอบด้านทั้งในฐานะนักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักปรัชญา นักเล่นแร่แปรธาตุ และนักเทววิทยา โดยผลงานเด่นที่สุดของเขาที่คนรู้จักกันดีที่สุดก็คือ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันและกฎแรงโน้มถ่วงสากล ที่เขาคิดขึ้นมาได้จากการสังเกตผลแอปเปิ้ลที่ตกจากต้นนั่นเอง

    [​IMG]

    2. หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)

    หลุยส์ ปาสเตอร์ เป็นนักเคมีและนักจุลชีววิทยาชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปี 1822 และเสียชีวิตลงในวัย 72 ปี เมื่อวันที่ 28 กันยายน ปี 1895 ซึ่งเขาคนนี้ถือว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ช่วยชีวิตผู้คนมากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเป็นผู้คิดค้นวิธีรักษาโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคพิษสุนัขบ้าและโรคแอนแทร็คซ์ ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น จากการคิดค้นวิธีพาสเจอร์ไรซ์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคและถนอมอาหารให้เก็บได้นานขึ้นอีกด้วย


    [​IMG]

    3. กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei)

    นักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของฉายา "บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ยุคใหม่" คนนี้ เกิดที่ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปี 1564 และมีชีวิตอยู่จนอายุ 77 ปี จนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 8 มกราคม ปี 1642 โดยเขาเป็นผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับแนวคิดของวิทยาศาสตร์ยุคก่อน อย่างสิ้นเชิง ด้วยการยึดมั่นในทฤษฎีของตัวเองว่าดาวเคราะห์เป็นฝ่ายหมุนรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งขัดกับความเชื่อของชาวคริสต์ในสมัยก่อนที่สนับสนุนทฤษฎีของอริสโตเติล ที่เชื่อว่าพระอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นฝ่ายหมุนรอบโลก จนทำให้เขาถูกห้ามไม่ให้สอนนักเรียนของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีนี้อีก มิฉะนั้นจะถูกจับเผาทั้งเป็น เขาจึงได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้นมาด้วยตัวเองเพื่อศึกษาเพิ่มเติมและ พิสูจน์ว่าทฤษฎีของเขาเป็นความจริงในที่สุด

    [​IMG]

    4. มารี กูรี (Marie Curie)

    มารี กูรี เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวโปแลนด์ เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 2410 และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 2477 ในวัย 66 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงเก่งแห่งยุคคนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะในขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในยุคสมัยของเธอไม่ได้รับการศึกษาหรือโอกาส เท่าเทียมกับผู้ชายนัก เธอกลับมุ่งมั่นศึกษาค้นคว้าจนกระทั่งค้นพบรังสีเรเดียมที่สามารถยับยั้งการ ขยายตัวของโรคมะเร็งได้ในที่สุด จนเป็นผลให้เธอได้รับรางวัลโนเบล ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากความเฉลียวฉลาดของเธอแล้ว การอุทิศตัวให้สังคมของเธอก็ยังทำให้หลาย ๆ คนประทับใจอีกด้วย เพราะเธอเลือกที่จะไม่จดสิทธิบัตรสิ่งที่เธอค้นพบซึ่งจะทำให้เธอกลายเป็น เศรษฐีได้สบาย ๆ แต่กลับเลือกอุทิศตัวเพื่อส่วนรวมและค้นคว้าต่อไปจนกระทั่งเสียชีวิตจากการ ใกล้ชิดรังสีเรเดียมมากเกินไปในที่สุด

    [​IMG]

    5. อัลเบิร์ต ไอสไตน์ (Albert Einstein)

    คงไม่มีใครไม่รู้จักนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวซึ่งเกิดเมื่อวัน ที่ 14 มีนาคม ปี 1879 และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 เมษายน ปี 1955 ในขณะที่มีอายุ 77 ปี คนนี้ ซึ่งถึงแม้เขาจะเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่คนทั่วโลกรู้จักกันอย่างแพร่ หลายในปัจจุบัน แต่ที่จริงแล้วเขาเคยเป็นเด็กที่มีปัญหาเรื่องการเรียนรู้มาก่อน โดยเขาไม่สามารถพูดได้จนกระทั่งอายุ 3 ขวบ และอ่านหนังสือออกเมื่อ 8 ขวบ จนไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จได้มาก ขนาดที่คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ รวมถึงสร้างทฤษฎีใหม่ ๆ มากมาย โดยเฉพาะผลงานเด่นเช่นทฤษฎีทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษที่อธิบายว่าเราทุกคนจะมอง เห็นอัตราความเร็วแสงได้ในระยะเท่ากัน และทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปซึ่งเป็นทฤษฎีที่อธิบายกฎแรงโน้มถ่วงในเชิง เรขาคณิต ซึ่งทำให้นักวิชาการหลายคนจับตามองจนได้รับรางวัลโนเบลในที่สุด

    [​IMG]

    6. ชาลส์ ดาร์วิน (Charles Robert Darwin)

    ชาลส์ ดาร์วิน เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ปี 1809 และเสียชีวิตลงในวัย 73 ปี ในวันที่ 19 เมษายน ปี 1882 ซึ่งจนกระทั่งยุคปัจจุบัน ทฤษฎีที่นักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติคนนี้คิดค้นขึ้นก็งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะมีทั้งคนที่ยอมรับและโต้แย้งในเวลาเดียวกัน โดยดาร์วินได้เขียนนังสือเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสัตว์ต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งอ้างว่าสัตว์ทั้งหลายจะปรับสภาพร่างกายเพื่อให้เข้ากับการใช้ชีวิตและ สภาพแวดล้อมทำให้มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นวิวัฒนาการ ซึ่งแม้ในปัจจุบันเขาจะได้รับยกย่องเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยังมีผู้ที่ปฏิเสธแนวคิดของเขาเช่นกัน

    [​IMG]

    7. โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison)

    เชื่อเถอะว่าในบ้านของเราต้องมีสิ่งประดิษฐ์ของ โทมัส อัลวา เอดิสัน กันทุกคนแน่นอน เพราะนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 1847 และเสียชีวิตในวัย 84 ปี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ปี 1931 คนนี้ เป็นเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์มากมายที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันกว่า 1,000 ชิ้น โดยเฉพาะการคิดค้นหลอดไฟที่เป็นผลงานชิ้นเอก แม้ว่าเขาจะ มีปัญหาเรื่องการเรียนรู้ทำให้อ่านหนังสือไม่ออกจนกระทั่งอายุ 12 ปี และบกพร่องเรื่องการฟังหลังประสบอุบัติเหตุบนรถไฟก็ตาม

    [​IMG]

    8. นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla)

    นิโค ลา เทสลา เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวโครเอเชียสัญชาติอเมริกัน ที่เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ปี 1856 และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 ในขณะที่มีอายุ 86 ปี โดยมีฉายาว่า "นักประดิษฐ์ที่โลกลืม" เพราะเป็นนักประดิษฐ์คนสำคัญแต่กลับมีน้อยคนที่รู้จัก หรือถูกรู้จักในฐานะนักวิทยาศาสตร์เพี้ยนจากการที่เขามีปัญหาในการเข้าสังคม มากกว่าจะสนใจผลงานของเขาที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้คนอื่น ๆ ซึ่งเขาเป็นผู้ประดิษฐ์ขดลวดเทสลา หรือ Tesla coil ซึ่งเป็นหม้อแปลงที่สามารถแรงดันไฟฟ้าสูง แถมยังเป็นผู้ค้นพบวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า จึงเป็นที่มาของหน่วยวัดสนามแม่เหล็กเทสลา อีกทั้งยังเป็นผู้ค้นพบวิธีการสื่อสารแบบไร้สายอีกด้วย

    [​IMG]

    9. กูกลิเอลโม มาร์โคนี (Guglielmo Marconi)

    นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน ปี 1874 และเสียชีวิตลงในขณะอายุ 63 ปี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ปี 1937 คนนี้ คือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตวิทยุคนแรกของโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่ง กูกลิเอลโม มาร์โคนี ก็ได้ฉายแววความฉลาดมาตั้งแต่เด็กจากการสนใจเรื่องไฟฟ้าอยู่เสมอ จนพ่อของเขาสนับสนุนด้วยการจ้างครูพิเศษมาสอนเรื่องไฟฟ้าให้กับเขาโดยเฉพาะ และจากความสำเร็จของผลงานชิ้นสำคัญนี้ก็ได้เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นเศรษฐีจากการเปิดบริษัทวิทยุโทรเลขมาร์โคนีในที่สุด

    [​IMG]

    10. อริสโตเติล (Aristotle)

    สุดท้ายนี้คือคนที่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกในยุคสมัยเริ่มแรกของ วิทยาศาสตร์อย่างนักวิทยาศาตร์ชาวกรีกซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วง 384 - 322 ปีก่อนคริสตศักราชอย่าง อริสโตเติล นั่นเอง ซึ่งเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้านในหลายสาขา เช่น ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ วรรณกรรม และชีววิทยา โดยไหวพริบของอริสโตเติลนั้นทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกของอัจฉริยะ อย่างเพลโต ตั้งแต่อยู่ในวัย 18 ปี โดยผล งานที่เด่นที่สุดของเขาเห็นจะเป็นด้านชีววิทยา ซึ่งเขาเป็นผู้จำแนกประเภทของสัตว์ตามลักษณะออกเป็น 2 ประเภท คือ พวกที่มีกระดูกสันหลังและพวกที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ทำให้ผู้คนนับถือความสามารถจนได้เป็นพระอาจารย์และพระสหายสนิทของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช

    หลัง จากได้ทราบเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลกทั้ง 10 คนนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า ความพยายามและความขยันนั้นสำคัญกว่าโอกาสที่ได้รับจริง ๆ เพราะแม้ว่านักวิทยาศาสตร์หลายคนจะมีความบกพร่องทางร่างกายหรือถูกกีดกัน ด้านความคิด แต่ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองจนเป็นที่ยอมรับได้

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • allstar.jpg
      allstar.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      34
    • issac.jpg
      issac.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.6 KB
      เปิดดู:
      32
    • luis-paster.jpg
      luis-paster.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.3 KB
      เปิดดู:
      50
    • gali.jpg
      gali.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.5 KB
      เปิดดู:
      37
    • mari.jpg
      mari.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.8 KB
      เปิดดู:
      40
    • albert.jpg
      albert.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.9 KB
      เปิดดู:
      32
    • charles.jpg
      charles.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.2 KB
      เปิดดู:
      39
    • edison.jpg
      edison.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.8 KB
      เปิดดู:
      39
    • tellas.jpg2.jpg
      tellas.jpg2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.6 KB
      เปิดดู:
      37
    • marconi.jpg
      marconi.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      37
    • toto.jpg
      toto.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.3 KB
      เปิดดู:
      37
    • allstar.jpg
      allstar.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      90
    • issac.jpg
      issac.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.6 KB
      เปิดดู:
      124
    • luis-paster.jpg
      luis-paster.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.3 KB
      เปิดดู:
      75
    • gali.jpg
      gali.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.5 KB
      เปิดดู:
      82
    • mari.jpg
      mari.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.8 KB
      เปิดดู:
      69
    • albert.jpg
      albert.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.9 KB
      เปิดดู:
      65
    • charles.jpg
      charles.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.2 KB
      เปิดดู:
      92
    • edison.jpg
      edison.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.8 KB
      เปิดดู:
      111
    • tellas.jpg2.jpg
      tellas.jpg2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.6 KB
      เปิดดู:
      92
    • marconi.jpg
      marconi.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      49
    • toto.jpg
      toto.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.3 KB
      เปิดดู:
      62
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2012
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    55555น่าจะเป็นอย่างที่4ครับ ดุ ท่านโดให้นอนครับ 555555
     
  5. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ขอบพระคุณครับ สำหรับการชำระหนี้สงฆ์นั้น ไม่ทราบว่าการทำบุญทั่วไปถือเป็นการชำระหนี้สงฆ์ได้หรือไม่ครับ อันนี้ผมคิดเอาเองน่ะครับ เลยอยากรบกวนพี่ๆชี้แนะด้วยครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเป็นห่วงท่านโดมากเหมือนกัน ผมหวังไว้นะครับ
    .


    Lost in love สูญเสีย


    -http://learningsong.blogspot.com/2009/07/lost-in-love.html-

    I realize the best part of love

    Is the thinnest slice
    And it don't count for much
    But I'm not letting go
    I believe this too much to believe in

    So lift your eyes if you feet yuo can
    Reach for a star
    And I'll show you a plan
    I've fingured it out
    What I needed was someone to show me

    You know you can't fool me
    I've been loving you too long
    It started so easy
    You'll want to carry on (carry on)
    Lost in love and I don't know much
    'Cause I'm thinking it out
    We fell out of touch
    But I'm back on my feet
    I'm eager to be what you wanted

    ฉันรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดของความรัก
    มันเป็นส่วนหนึ่งที่บอบบาง
    และไม่ค่อยมีค่าสักเท่าไร
    แต่ฉันก็ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไป
    ฉันศรัทธาในสิ่งนี้มาก


    ลืมตาสิถ้าเธอทำได้
    แล้วไปให้ถึงดวงดาว
    และฉันจะแสดงให้เธอเห็น
    ถึงแผนที่ที่ฉันวาดไว้
    สิ่งที่ฉันต้องการคือ
    ให้ใครสักคนมองเห็นฉัน


    เธอรู้ไหม...เธอหลอกฉันไม่ได้
    ฉันรักเธอมานาน
    มันเริ่มต้นอย่างง่ายดาย
    เธอเองก็ต้องการ
    ความรักที่สูญเสียไปโดยที่ฉันไม่รู้
    เพราะฉันกำลังคิดมันอยู่
    เราเคยแยกจากกัน
    แต่ฉันก็สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง
    ฉันยังอยากเป็นสิ่งที่เธอต้องการ



    .
    -http://www.educatepark.com/english-songs/alloutoflove.php?id=356-

    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2012
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  8. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ขออภัยพี่หนุ่มอย่างสูงครับ ที่พิมพ์ผิดจากหนุ่ม เป็น หนึ่งครับ ดูถ้าจะต้องไปสำรวมให้สติอยู่กับตัวมากกว่านี้เสียแล้วครับ
     
  9. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ขอบพระคุณยิ่งสำหรับคำแนะนำครับ thx1
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><!-- img src="http://webboard.tourthai.com/Themes/scribbles11/images/post/lamp.gif" alt="" border="0" / --></TD><TD vAlign=center>การชำระหนี้สงฆ์, ใครว่าไม่สำคัญ
    http://webboard.tourthai.com/index.php?topic=1455.0
    โดย ป้ารมิฯ
    « เมื่อ: 11 สิงหาคม 2005, 09:47:13 AM »
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>การชำระหนี้สงฆ์

    ........... พวกเราบางคนเคยหยิบฉวยสิ่งของที่เป็นสมบัติของวัด หรือของสงฆ์ เช่น ก้อนหิน ก้อนดิน ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ หรือบางทีทรายติดรองเท้าเรากลับออกมาจากวัด ฯลฯ แล้วเราเองก็ไม่ได้ทำบุญ

    .......... บางทีเหตุการณ์เช่นนี้ อาจจะเกิดขึ้นกับเรา ตอนเราเป็นเด็ก ๆ ชอบซุกซนบ้างเป็นต้น เงินที่ได้มา ทางวัดและพระสงฆ์นั้น ก็คือเงินที่ทางพุทธศาสนิกชน และญาติโยมต่าง ๆ ไปร่วมทำบุญทั้งสิ้น

    .......... ฉะนั้น ในบางครั้งเราเข้าวัด และบางทีไปใช้ธูปเทียนวัดบ้าง เพื่อจุดธูปไหว้พระ อาจจะดื่มน้ำมนต์ และอาศัยไฟฟ้าของทางวัด เช่นพัดลม เป็นต้น แล้วลืมทำบุญ จะทำให้เราเป็นหนี้สงฆ์ทันทีโดยไม่รู้ตัว

    .......... ดังนั้น เพื่อไม่ให้ต้องติดหนี้สงฆ์ ไปถึงภพหน้าชาติหน้า ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่า เราจะไปเกิดที่ใดภพใด และจะได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนาหรือไม่

    .......... ฉะนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาท จึงควรถือโอกาส ชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่วันนี้ที่มีโอกาสไปวัด เมื่อได้ไปทำบุญที่วัดใดคอยสังเกตตู้ที่ทางวัดเขาตั้งใจให้เราใส่เงินทำบุญ

    ......... เพื่อชำระหนี้สงฆ์ จะได้ไม่ติดค้างไปภพหน้าต่อไป
     
  11. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    หลับไปแล้วครับ วันก่อนเค้าถามว่าถ้าห้อยอกครุฑ กันทั้งบ้าน แล้วใครจะฟังใครครับ.....55555ผมก็บอกว่าง่ายมากเรก็ต้องฟังพ่อแม่สิ เค้าก็แย้งว่าทำไมล่ะ ผมบอกเพราะผมและแม่เค้าห้อย รุ่น1 ส่วนเราห้อยรุ่น2 ต้องฟังรุ่น 1ชัวร์ครับ 55555
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น่าฉงฉานท่านโดจัง
     
  13. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    เห็นข้อความเหล่านี้แล้วนึกถึงข้อความในหนังสือที่ผมได้รับแจกเป็นธรรมทาน ทำให้คิดขึ้นได้ว่าผมเองเพิ่งเกริ่นกับเจ้าหน้าที่พยาบาลเมื่อสัปดาห์ก่อน
    ว่าอยากจะพิมพ์หนังสือแจกเป็นธรรมทานเช่นกัน เพราะอยากให้มีผู้ได้อ่าน อ่านแล้วได้คิด จะมากน้อยก็ยังดีครับ
    เลยอยากจะรบกวนถามพี่ๆดังต่อไปนี้ครับ

    1. เรื่องหนังสือที่ผมจะพิมพ์แจก พี่ๆมีประสบการณ์อย่างไรแนะนำบ้างไหมครับ

    2. เรื่องผ้าป่า ที่ผมเคยเรียนถามพี่ๆน่ะครับ ว่าผมกำลังจะเป็นตัวหลักในการจัดกองผ้าป่า แต่ว่าไม่เคยมีประสบการณ์
    จึงอยากจะเรียนขอคำแนะนำครับ

    3. ถ้าหากผมจะเปิดบัญชี แล้วเข้ามาบอกบุญในเวปนี้แบบที่เห็นท่านอื่นๆทำกัน ผมแค่ไปเรียนหลวงพ่อ แล้วทำได้เลยไหมครับ หรือว่าต้องทำอย่างไรอีก
    อันนี้ผมก็ไม่มีประสบการณ์เช่นกัน จึงอยากได้คำแนะนำครับ เพราะผมอยากจะทำบุญจริงๆครับ ช่วงนี้ผมจัดการกับธุระส่วนตัวไปได้มากแล้ว เหลือแต่ภาระงานประจำ ก็ทำให้มีเวลาทำบุญ ปฏิบัติธรรมมากขึ้นแล้วครับ

    อยากจะทำช่วงนี้ให้มากเข้าไว้ เพราะหากต้องกลับไปเรียนต่อที่ศิริราช ก็คงจะยุ่งมากอีกตามเคยครับ
     
  14. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405

    เอากันอย่างนี้เลยเหรอครับเนี่ย น่ารักจริงๆครับคำสอนนี้ ;aa34
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเพิ่มนิดนึง
    เรื่องการอุทิศบุญ นอกจากองค์ผู้สร้าง ,องค์ผู้อธิฐานจิตแล้ว ยังมีเจ้าของเดิม(อาจจะเป็นช่างสิบหมู่ หรือเจ้านายที่ให้สร้างขึ้น ซึ่งยังคงหวงพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลของเขาอยู่) และเทวดาประจำองค์พระพิมพ์

    เรื่องของคำพูดอีกเช่นกัน เช่น การอุทิศบุญให้หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หรือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เราไม่ควรใช้คำว่า อุทิศบุญ แต่ควรใช้คำว่า น้อมถวายกุศล จะดีกว่าครับ
     
  16. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    คุยกับพี่หนุ่มนี่ได้แต่ประโยชน์ ทุกเรื่องจริงๆเลยนะครับ ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำดีๆอีกแล้วครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><!-- img src="http://webboard.tourthai.com/Themes/scribbles11/images/post/lamp.gif" alt="" border="0" / --></TD><TD vAlign=center>การชำระหนี้สงฆ์, ใครว่าไม่สำคัญ
    http://webboard.tourthai.com/index.php?topic=1455.0
    โดย ป้ารมิฯ
    &laquo; เมื่อ: 11 สิงหาคม 2005, 09:47:13 AM &raquo;

    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>การชำระหนี้สงฆ์

    ........... พวกเราบางคนเคยหยิบฉวยสิ่งของที่เป็นสมบัติของวัด หรือของสงฆ์ เช่น ก้อนหิน ก้อนดิน ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ หรือบางทีทรายติดรองเท้าเรากลับออกมาจากวัด ฯลฯ แล้วเราเองก็ไม่ได้ทำบุญ

    .......... บางทีเหตุการณ์เช่นนี้ อาจจะเกิดขึ้นกับเรา ตอนเราเป็นเด็ก ๆ ชอบซุกซนบ้างเป็นต้น เงินที่ได้มา ทางวัดและพระสงฆ์นั้น ก็คือเงินที่ทางพุทธศาสนิกชน และญาติโยมต่าง ๆ ไปร่วมทำบุญทั้งสิ้น

    .......... ฉะนั้น ในบางครั้งเราเข้าวัด และบางทีไปใช้ธูปเทียนวัดบ้าง เพื่อจุดธูปไหว้พระ อาจจะดื่มน้ำมนต์ และอาศัยไฟฟ้าของทางวัด เช่นพัดลม เป็นต้น แล้วลืมทำบุญ จะทำให้เราเป็นหนี้สงฆ์ทันทีโดยไม่รู้ตัว

    .......... ดังนั้น เพื่อไม่ให้ต้องติดหนี้สงฆ์ ไปถึงภพหน้าชาติหน้า ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่า เราจะไปเกิดที่ใดภพใด และจะได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนาหรือไม่

    .......... ฉะนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาท จึงควรถือโอกาส ชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่วันนี้ที่มีโอกาสไปวัด เมื่อได้ไปทำบุญที่วัดใดคอยสังเกตตู้ที่ทางวัดเขาตั้งใจให้เราใส่เงินทำบุญ

    ......... เพื่อชำระหนี้สงฆ์ จะได้ไม่ติดค้างไปภพหน้าต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอความเห็นท่านอื่นก่อนนะครับ

    วันนี้ต้องไปพักผ่อนแล้ว ไว้ผมมาคุยอีกครั้งนะครับ
    ราตรีสวัสดิ์ครับ

    .
     
  18. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ข้อความดั้งเดิม สิทธิพงษ์

    การชำระหนี้สงฆ์

    ........... พวกเราบางคนเคยหยิบฉวยสิ่งของที่เป็นสมบัติของวัด หรือของสงฆ์ เช่น ก้อนหิน ก้อนดิน ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ หรือบางทีทรายติดรองเท้าเรากลับออกมาจากวัด ฯลฯ แล้วเราเองก็ไม่ได้ทำบุญ

    .......... บางทีเหตุการณ์เช่นนี้ อาจจะเกิดขึ้นกับเรา ตอนเราเป็นเด็ก ๆ ชอบซุกซนบ้างเป็นต้น เงินที่ได้มา ทางวัดและพระสงฆ์นั้น ก็คือเงินที่ทางพุทธศาสนิกชน และญาติโยมต่าง ๆ ไปร่วมทำบุญทั้งสิ้น

    .......... ฉะนั้น ในบางครั้งเราเข้าวัด และบางทีไปใช้ธูปเทียนวัดบ้าง เพื่อจุดธูปไหว้พระ อาจจะดื่มน้ำมนต์ และอาศัยไฟฟ้าของทางวัด เช่นพัดลม เป็นต้น แล้วลืมทำบุญ จะทำให้เราเป็นหนี้สงฆ์ทันทีโดยไม่รู้ตัว

    .......... ดังนั้น เพื่อไม่ให้ต้องติดหนี้สงฆ์ ไปถึงภพหน้าชาติหน้า ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่า เราจะไปเกิดที่ใดภพใด และจะได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนาหรือไม่

    .......... ฉะนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาท จึงควรถือโอกาส ชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่วันนี้ที่มีโอกาสไปวัด เมื่อได้ไปทำบุญที่วัดใดคอยสังเกตตู้ที่ทางวัดเขาตั้งใจให้เราใส่เงินทำบุญ

    ......... เพื่อชำระหนี้สงฆ์ จะได้ไม่ติดค้างไปภพหน้าต่อไป

    คุณสิทธิพงษ์ ครับ แล้วพระที่ผมได้จากคุณครั้งก่อนผมต้องทำบุญในกรณีนี้ด้วยใช่มั้ยครับ ? thx1<!-- / message --><!-- sig -->
     
  19. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    คุณเพชร หายไปทานผักโขมอบชีสอยู่หรือเปล่าครับ ผมอยากจะบอกว่า รูปที่คุณเพชรโพสไว้ ทำให้ผมอยากทานชีสขึ้นมาตะหงิดๆ
    เลยลุกขึ้นไปอุ่นไส้กรอกชีสมาทานมั่งละครับ :)
     
  20. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ผมขอไปนอนก่อนนะครับเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...