พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระแม่ธรณี

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    พระแม่ธรณี หรือ แม่พระธรณี หรือ พระศรีวสุนธรา เป็นเทพีแห่งพื้นแผ่นดิน ปรากฏในตำนานทั้งศาสนาพราหมณ์ ฮินดู และพุทธศาสนา
    ในคติของศาสนาฮินดูให้ความเคารพนับถือว่าแผ่นดินเป็นสิ่งค้ำจุนสรรพสิ่งทั้งปวงในโลกเปรียบเสมือนมารดาผู้ให้กำเนิดหล่อเลี้ยงโลกและแผ่นดิน จึงได้รับยกย่องว่าเป็นเทพจากธรรมชาติองค์หนึ่งเป็นเพศหญิง เรียกนามว่า "ธรณิธริตริ" แปลว่า "ผู้ค้ำจุนพระธรณี" แม้จะมิค่อยมีรูปเคารพอย่างแพร่หลายเช่นเทพองค์อื่นแต่ก็มีผู้ให้ความเคารพนับถือเป็นจำนวนมิใช่น้อย เพราะถือกันว่าพระธรณีสถิตย์อยู่ตามที่ต่าง ๆ ทุกหนทุกแห่ง จะทำการบูชาด้วย ข้าว ผลไม้ และนมด้วยการวางไว้บนก้อนหิน หรือประพรมลงบนพื้นดิน บางแห่งใช้เหล้าเป็นการสังเวยก็มี นอกจากนี้ชาวฮินดูยังมีการขอขมาลาโทษเมื่อจะวางเท้าลงบนพื้นดินก่อนจะลุกขึ้นในตอนเช้า วัวหรือควายที่มีลูกก่อนที่จะให้ลูกกินนมครั้งแรก เจ้าของจะปล่อยน้ำนมของแม่วัวลงบนพื้นดินเสียก่อนทุกครั้งไป ถ้าเป็นพวกชาวนาก็จะขอให้พระธรณีช่วยคุ้มครองผืนนาและวัวควาย แม้ในพระเวทก็มีการขอร้องต่อพระธรณ๊ให้ช่วยพิทักษ์คุ้มครองวิญญาณของคนตาย และต่อมาได้นับถือว่าเป็นเทพแห่งไร่นาด้วย ในแคว้นปัญจาบเชื่อกันว่าพระธรณีจะนอนหลับเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ของทุก ๆ เดือนชาวไร่ชาวนาจะหยุดไม่ทำงานในระยะนี้
    เทพแห่งแผ่นดินหรือพระธรณี ไม่ค่อยมีเรื่องราวประวัติความเป็นมาปรากฏมากมายดังเช่นเทพองค์อื่น หรือมีก็สับสน เช่น บางแห่งว่าพระธรณีมีโอรสกับพระนารายณ์องค์หนึ่งคือพระอังคาร บางแห่งว่าพระอังคารเป็นโอรสของพระศิวะกับพระธรณี หรือในคติพราหมณ์พบเพียงว่าเป็นชายาของพระธุรวะหรือดาวเหนือ
    ในพุทธศาสนา พระแม่ธรณีปรากฏกายเพื่อบีบน้ำจากมวยผมให้ท่วมพญามารที่รังควาญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนวันตรัสรู้ ดั่งรายละเอียดตามพระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสว่า
    <TABLE style="BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; POSITION: relative; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-TOP: 10px" vAlign=top width=20></TD><TD style="PADDING-TOP: 10px">แต่ในชาติอาตมะเป็นพระยาเวสสันดรชาติเดียวนั้น ก็ได้บำเพ็ญทานบารมีถึงบริจาคนางมัทรีเป็นอวสาน พื้นพสุธาก็กัมปนาการถึง 7 ครั้ง แลกาลบัดนี้ อาตมะนั่งเหนืออปราชิตบัลลังก์อาสน์ หมู่มารอริราชมาแวดล้อมยุทธการเป็นไฉนแผ่นพสุธาธารจึงดุษณีภาพอยู่ฉะนี้ แลพระยามารอ้างบริษัทแห่งตนให้เป็นกฏสักขีขานคำมุสา แลพื้นปฐพีอันปราศจากเจตนาได้สดับคำอาตมะในครั้งนี้จงรับเป็นสักขีพยานแห่งข้า แล้วเหยียดพระหัตถ์เบื้องขวาอันประดับด้วยจักรลักษณะอันงามดุจงวงไอยรารุ่งเรืองด้วยพระนขามีพรรณอันแดงดุจแก้วประพาฬออกจากห้องแห่งจีวร ครุวนาดุจวิชุลดาในอัมพรอันออกจากระหว่างห้องแห่งรัตวลาหก ยกพระดัชนีชี้เฉพาะพื้นมหินทรา จึงออกพระวาจาประกาศแก่นางพระธรณีว่า ดูก่อนวนิดาดลนารี ตั้งแต่อาตมะบำเพ็ญพระสมภารบารมีมาตราบเท่าถึงอัตภาพเป็นพระเวสสันดรราช ได้เสียสละบุตรทานบริจาคแลสัตตสดกมหาทานสมณะพราหมณาจารย์ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งจะกระทำเป็นสักขีพยานในที่นี้ก็มิได้ มีแต่พสุนธารนารีนี้แลรู้เห็นเป็นพยานอันใหญ่ยิ่ง เป็นไฉนท่านจึงนิ่งมิได้เป็นพยานอาตมาในกาลบัดนี้ ในขณะนั้น นางพสุนธรีวนิดาก็มิอาจดำรงกายาอยู่ได้ ด้วยโพธิสมภารานุภาพยิ่งใหญ่แห่งพระมหาสัตว์ ก็อุบัติบันดาลเป็นรูปนารี ผุดขึ้นจากพื้นปฐพียืนประดิษฐานเฉพาะพระพุทธังกุรราช เหมือนดุจร้องประกาศกราบทูลพระกรุณาว่าข้าแต่พระมหาบุรุษราช ข้าพระบาททราบซึ่งสมภารบารมีที่พระองค์สั่งสมอบรมบำเพ็ญมา
    แต่น้ำทักษิโณทกตกลงชุ่มอยู่ในเกศาข้าพระพุทธเจ้านี้ ก็มากกว่ามากประมาณมิได้ ข้าพระองค์จะบิดกระแสใสสินโธทกให้ตกไหลหลั่งลง จงเห็นประจักษ์แก่นัยนาในครานี้ แลนางพระธรณีก็บิดน้ำในโมลีแห่งตน อันว่ากระแสชลก็หลั่งไหลออกจากเกศโมลีแห่งนางพสุนธรีเป็นท่อธารมหามหรรณพ นองท่วมไปในประเทศที่ทั้งปวงประดุจห้องมหาสาครสมุทร พระผู้เป็นเจ้ารักขิตาจารย์จึงกล่าวสารพระคาถาอรรถาธิบายความก็เหมือนนัยกล่าวแล้วแต่หลัง
    ครั้งนั้น หมู่มารเสนาทั้งหลายมิอาจดำรงกายอยู่ได้ ก็ลอยไปตามกระแสน้ำปลาตนาการไปสิ้น ส่วนคิรีเมขลคชินทรที่นั่งทรงองค์พระยาวัสวดีก็มีบาทาอันพลาดมิอาจตั้งกายตรงอยู่ได้ ก็ลอยตามชลธารไปตราบเท่าถึงมหาสาคร อันว่าระเบียบแห่งฉัตรธวัชจามรทั้งหลาย ก็ทักทบท่าวทำลายล้มลงเกลื่อนกลาดและพระยามาราธิราชได้ทัศนาการเห็นมหัศจรรย์ ดังนั้น ก็บันดาลจิตพิศวงครั่นคร้ามขามพระเดชพระคุณเป็นอันมาก พระคันถรจนาจารย์จึงกล่าวพระคาถาสรรเสริญคุณานุภาพโพธิสัตว์อรรถาธิบายความก็ซ้ำหนหลัง
    ครั้งนั้นมหาปฐพีก็ป่วนปั่นปานประหนึ่งว่าจักรแห่งนายช่างหม้อบันลือศัพท์นฤนาทหวาดไหวสะเทือนสะท้าน เบื้องบนอากาศก็นฤโฆษนาการ เสียงมหาเมฆครืนครั่นปิ่มปานจะทำลายภูผาทั้งหลาย มีสัตตภัณฑ์บรรพต เป็นต้น ก็วิจลจลาการขานทรัพย์สำเนียงกึกก้องทั่วทั้งท้องจักรวาล ก็บันดาลโกลาหลทั่วสกลดังสะท้าน ปานดุจเสียงป่าไผ่อันไหม้ด้วยเปลวอัคคี ทั้งเทวทุนทุภีกลองสวรรค์ก็บันลือลั่นไปเอง เสียงครืนเครงดุจวีหิลาชอันสาดทิ้ง ถูกกระเบื้องอันเรืองโรจน์ร้อนในกองอัคนี การอัสนีบาตก็ประหารลงเปรี้ยง ๆ เพียงพื้นแผ่นปฐพีจะพังภาคดังห่าฝน ถ่านเพลิงตกต้องพสุธาดลดำเกิงแสงสว่างหมู่มารทั้งหลายต่าง ๆ ตระหนกตกประหม่า กลัวพระเดชานุภาพแพ้พ่าย แตกขจัดขจายหนีไปในทิศานุทิศทั้งปวงมิได้เศษ แลพระยามาราธิราชก็กลัวพระเดชบารมี ปราศจากที่พึ่งที่พำนักซ่อนเร้นให้พ้นภัยหฤทัย ท้อระทดสลดสังเวชจึงออกพระโอษฐ์สรรเสริญพระเดชพระคุณพระมหาบุรุษราชว่า ดังอาตมาจินตนาการอันว่าผลทานศีลสรรพบารมีแห่งพระสิทธัตถกุมารนี้ ปรากฏอาจให้บังเกิดมหิทธฤทธิ์สำเร็จกิจมโนรถปรารถนาทุกประการ มีพระกมลเบิกบานแผ่ไปด้วยประสาทโสมนัส จึงทิ้งเสียซึ่งสรรพาวุธประนมหัตถ์ทั้ง 2,000 อัญชลีกรนมัสการ ก็กล่าวสารพระคาถาว่า นโม เต ปุริสาชญญ เป็นอาทิ อรรถาธิบายความว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ปุริสาชาไนยชาติเป็นอุดมบุรุษราชในโลกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายวันทนาการชุลีพร้อมด้วยทวารทั้ง 3 คือกายวจีมโนประณามประณตในบทบงกชยุคลบาท บุคคลผู้ใดในมนุษย์โลกธาตุกับทั้งเทวโลก ที่จะปูนเปรียบประเสริฐเสมอพระองค์คงเทียมเทียบนั้นมิได้มี พระองค์ได้ตรัสเป็นพระศรีสรรเพชญ์เสร็จแจ้งจตุราริยสัจจ์ศาสดาจารย์มีพระเดชครอบงำชำนะหมู่มาร เป็นปิ่นปราชญ์ฉลาดในอนุสัยแห่งสรรพสัตวโลกจะข้ามขนนิกรเวไนย์ให้พ้นจตุรโอฆกันดารบรรลุฝั่งฟากอมฤตมหานฤพานอันเกษมสุขปราศจากสังสารทุกข์ในครั้งนี้ แลพระยาวัสวดีมารโถมนาการพระคุณพระมหาบุรุษราชด้วยจิตประสาทเลื่อมใส ผลกุศลนั้นจะตกแต่งให้ได้ตรัสแก่พระปัจเจกโพธิญาณในอนาคตกาลภายหน้า เมื่อพระยามารกล่าวสัมภาวนากถาสรรเสริญคุณพระโพธิสัตว์ แล้วก็นิวัตตนาการสู่สกลฐานเทวพิภพ

    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px" vAlign=bottom width=20></TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 20px; FONT-SIZE: 90%; PADDING-BOTTOM: 10px; TEXT-ALIGN: right" colSpan=3></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [แก้] ลักษณะของพระแม่ธรณี

    [​IMG]
    รูปวาดในจินตนาการ ในคืนวันตรัสรู้ พระแม่ธรณีบีบน้ำมวยผมท่วมหมู่มาร


    ตามที่ปรากฏ โดยมากมักจะเป็นรูปเทวดาผู้หญิง มีรูปร่างอวบใหญ่ ล่ำสันอย่างได้สัดส่วน หรือในบางแห่งจะมีรูปร่างอ้อนแอ้น มีความงามประดุจเทพธิดา นั่งในท่าคุกเข่า แต่ยกเข่าขวาขึ้นสูงกว่าเข่าซ้าย บางแห่งสร้างให้อยู่ในท่ายืน แต่ที่เหมือนกันก็คือมวยผมปล่อยยาว มือขวายกข้ามศีรษะไปจับไว้ที่โคนมวยผม ส่วนมือซ้ายจับมวยผมแสดงท่ากำลังบิดให้สายน้ำไหลออกมาจากมวยผมนั้น ส่วนเครื่องทรงไม่มีแบบแผนที่แน่นอนตายตัว ตามแต่จินตนาการของผู้สร้าง บางแห่งสวมพัตราภรณ์เฉพาะช่วงล่าง แต่บางแห่งทั้งนุ่งผ้าจีบและห่มสไบอย่างสวยงาม ประดับเครื่องถนิมพิมพาภรณ์มีกรอบหน้าและจอนหู เป็นต้น
    พระแม่ธรณีเป็นเทวดาอีกองค์หนึ่งที่ได้รับความนิยมบูชาของคนไทย มักเป็นสัญลักษณ์แห่งแผ่นดิน ดั่งปรากฏในวรรณคดีไทย เช่น โคลงของศรีปราชญ์ก่อนถูกประหารที่กล่าวว่า
    <TABLE style="BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; POSITION: relative; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-TOP: 10px" vAlign=top width=20></TD><TD style="PADDING-TOP: 10px">ธรณีนี่นี้เป็นพยาน...</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px" vAlign=bottom width=20></TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 20px; FONT-SIZE: 90%; PADDING-BOTTOM: 10px; TEXT-ALIGN: right" colSpan=3></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ เช่น การประปา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น

    [แก้] ดูเพิ่ม

    [แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

    <TABLE class="navbox collapsible autocollapse nowraplinks" id=collapsibleTable0 style="BACKGROUND: white; MARGIN: 0px"><TBODY><TR><TH style="BACKGROUND: goldenrod; WIDTH: 100%; COLOR: #fefefe; TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นางกวัก

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- start content -->



    นางกวัก คือรูปปั้นที่ไว้กราบไว้บูชาเพื่อให้การค้าเจริญ มักวางไว้หน้าร้าน เพื่อเรียกลูกค้า
    [​IMG]
    นางกวักที่ชะอำ



    [แก้] ประวัติ

    นางกวักชื่อจริงว่า สุภาวดี บิดาชื่อ สุจิตพราพหณ์ มารดาชื่อ สุมณฑา เกิดที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์ (อยู่ห่างไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี) มีครอบครัวประกอบอาชีพทำมาค้าขาย ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา 1 เล่ม นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วย เพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างการค้าขาย
    สุภาวดีได้มีโอกาสพบกับ "พระกัสสปเถระเจ้า" เป็นอริยสงฆ์แสดงธรรม หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว พระกัสสปเถระเจ้าได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ ประสิทธิ์ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว โดยได้ตั้งกุศลจิตประสาทพรเช่นนี้ทุกครั้งที่สุภาวดีมีโอกาสไปฟังจนจบอำลากลับ ต่อมา สุภาวดีได้เดินทางติดตามบิดาไปทำการค้า และมีโอกาสฟังธรรมพระอริยสงฆ์อีกท่านหนึ่ง นามว่า "พระสิวลีเถระเจ้า" สุภาวดีได้ฟังธรรมอย่างตั้งใจ สุภาวดีจึงมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆ เป็นอันมาก พระสิวลีเป็นผู้มีชีวิตอัศจรรย์กว่าพระสงฆ์อื่น คือ ท่านอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 7 ปี 7 เดือน จึงคลอดออกมา พร้อมด้วยวาสนา บารมี ที่ติดกับวิญญาณธาตุของท่าน ท่านจึงเป็นผู้มีลาภสักการบูชามาหาท่านตลอด เมื่อถึงคราวจำเป็นและต้องการ ทุกครั้งที่สุภาวดีได้ฟังธรรมและลากลับ พระสิวลีเถระเจ้าได้กำหนดกุศลจิต ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว เช่นเดียวกัน จิตของสุภาวดีจึงได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์ ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไรไม่เคยขาดทุน
    นางได้รับพรว่า "ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่างๆสมความปรารถนาเถิด"
    บิดารู้ว่าสุภาวดีคือผู้ที่เป็นสิริมงคลที่แท้จริง เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว ครอบครัวร่ำรวยขึ้นเป็นมหาเศรษฐีมีเงินทองและกองเกวียนสินค้ามากมาย เทียบได้กับธนัญชัยเศรษฐี บิดาของวิสาขาแห่งแคว้นโกศล บิดาของสุภาวดีได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธา เมื่อนางสิ้นชีวิตแล้ว ชาวบ้านจึงปั้นรูปแม่นางสุภาวดีไว้บูชา ขอให้การค้ารุ่งเรือง และความเชื่อดังกล่าวนี้ ก็แพร่หลายเข้ามายังสุวรรณภูมิ จากการเผยแพร่ของพราหมณ์ และยังคงเป็นความเชื่อที่สืบมาจนถึงทุกวันนี้

    [แก้] ดูเพิ่ม

    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 35/1000000Post-expand include size: 2051/2048000 bytesTemplate argument size: 557/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:129113-0!1!0!!th!2 and timestamp 20080813105536 -->ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/นางกวัก".
    หมวดหมู่: บทความที่รอการตรวจสอบรูปแบบ | ความเชื่อไทย
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย่าเลยครับ เดี๋ยวโดนข้อหาปั่นกระทู้แน่นอนครับ ไปเรื่อยๆ แล้วไปลุ้นเอาช่วงนั้นดีกว่าครับ

    .
     
  4. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    หุหุ ดูท่าผมจะพลาดแน่ครับกิจกรรมนี้ เพราะนานๆจะโผล่เข้ามาสักที มาแต่ละครั้งก็ต้องมาไล่อ่านกระทู้ย้อนหลังกันโดยตลอด ก็ถือโอกาสโมทนาพี่หนึ่งที่มีจิตเมตตาเลยละกันครับ

    สำหรับเรื่องวันนัด ผมต้องบอกว่าเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะหลังจากที่ทราบวันนัด ผมก็กลับมาดูและพบว่าตรงกับวันอยู่เวรของผมพอดี
    น่าเศร้าจริงๆครับ ไว้โอกาสหน้าอย่างไร ผมจะต้องหาโอกาสไปร่วมกลุ่มกับพี่ๆให้ได้ครับ ว่าแต่ว่าพี่ๆนัดรวมตัวกันไกลๆอย่างนี้ประจำหรือเปล่าครับ หรือว่าเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ
     
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    บ่เป็นหยังดอกครับ คราวนี้วีซ่าผมก็หมดอายุไปไม่ได้เหมือนกันครับ ต้องขอต่ออายุวีซ่าคราวหน้าครับ....
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 05:33 PM</TD></TR><TR title="โพส 1427061" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>sithiphong</TD><TD class=alt1>ขอแสดงความยินดีกับคุณเพชร ในวันครบรอบวันแต่งงาน ผมแสดงความยินดีย้อนหลังนะครับ ขอให้มีความสุขในชีวิตคู่มากๆ (ผมขอไม่แจ้งว่าวันที่เท่าไหร่นะครับ)

    รักเพื่อนเสมอครับ
    sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอบคุณครับ เช้าวันครบรอบปีที่ ๑๐ นี้ มีวาสนาได้รับ "หอยสังข์" ของวังหน้ามา ก็เลยนำเรื่องของหอยสังข์ในพิธีมงคลสมรสมาเล่าสู่กันฟัง..

    พิธีรดน้ำสังข์ และตำนานโบราณ .
    1. เครื่องประกอบพิธีหลั่งน้ำสังข์
    ชุดพิธีสงฆ์ จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์สำหรับประกอบพิธี มีชุดโต๊ะหมู่ พรมรองนั่ง กระโถน แก้วน้ำ ธูป ดอกไม้ พร้อมชุดอาหารเลี้ยงพระ 2 วง
    แป้งเจิม และด้ายสายสิญจน์

    ชุดหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ประกอบด้วย พวงมาลัยบ่าวสาว มงคลแฝด พานรดน้ำ (พานที่ใช้วางหอยสังข์) ชุดตั่ง หรือถ้านั่งพื้นสามารถ ใช้พรมรองนั่งได้ หมอนรองมือ พานพุ่มดอกไม้สำหรับรับน้ำสังข์ ของชำร่วย และดอกไม้ประดับ 2 ข้าง เพื่อภาพถ่ายที่สวยงาม อาจจะมีดอกไม้ประดับ ด้านข้างซ้ายและขวา</SPAN>​
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=774 border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    2. เคล็ดลางความเชื่อ
    ในเรื่องเกี่ยวกับพิธีรดน้ำสังข์นี้นะคะ ถือเคล็ดลางกันว่า หากเสร็จสิ้นแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งลุกขึ้นก่อน โบราณว่าผู้นั้นจะเป็นใหญ่ในครอบครัว ด้วยเหตุนี้ผู้ใหญ่มักจะบอกให้ทั้งสองฝ่ายช่วยกันประคับประคองกันลุกขึ้นแทนที่จะยุให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดลุกขึ้นก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อ
    3. ทำไมต้อง หอยสังข์
    สังข์ หรือหอยสังข์นั้น ประชาชนชาวไทย ต่างก็มีความนับถือกันว่า เป็นของที่เป็นอุดมมงคลอย่างสูงยิ่ง และในงานพิธี ีมงคลต่าง ๆ ซึ่งจัดขึ้นในบ้านเรือนของประชาชนชาวไทยเรา เช่น งานมงคลสมรส เป็นต้น เราก็มักจะได้พบหอยสังข์ ซึ่งใช้เป็นที่หลั่งน้ำแด่คู่บ่าวสาวเพื่อจะทำให้อยู่เย็นเป็นสุข หอยสังข์นั้นนอกจากจะใช้เป็นเครื่องหลั่งน้ำ เพื่อให้มีความสุขความเจริญแล้ว ยังใช้เป่าเพื่อให้ได้ยินเสียง ให้เกิดความเป็นสิริมงคลอีกด้วย บางตำนานและ บางความเชื่อก็ว่า ที่เรานำหอยสังข์มาใช้ใน พิธีรดน้ำสังข์ ก็เพราะว่า สังข์ คือหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 14 อย่าง อันเกิดจากการกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทวดาและอสูร จึงถือเป็นของสิริมงคลสำหรับคู่บ่าวสาว ส่วนประเพณีการใช้น้ำพระพุทธมนต์บรรจุในสังข์ ก็โดยเหตุที่คนไทยเป็นพุทธศาสนิกชน ดังนั้นน้ำที่เกิดจากการเจริญพระพุทธมนต์ จึงถือเป็น สิ่งมงคลยิ่ง จึงทำให้ในพิธีแต่งงานได้นำน้ำมาบรรจุในหอยสังข์ การรดน้ำสังข์จึงเสมือนเป็นการอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตคู่
    4. ตำนานสังข์
    สำหรับประวัติและความเป็นมาของ "หอยสังข์" ซึ่งนิยมกันว่าเป็นอุดมมงคลสูงจนทำให้ต้องนำมาใช้ในงานมงคลต่าง ๆ ก็มีที่มาจากเรื่องเล่าเป็นปรัมปราต่อกันมาว่า มียักษ์ตนหนึ่งชื่อว่า สังข์อสูร ยักษ์ตนนี้ได้มาพบพระพรหม ในขณะที่บรรทม(หลับ)อยู่ และมีพระเวทต่าง ๆไหลออกมาจากพระโอษฐ์ ก็ให้เกิดความอิจฉา จึงได้ขโมยเอาพระเวทต่าง ๆ นั้นไปเสียเพื่อที่ พวกพราหมณ์จะได้ไม่มีพระเวทเป็นเครื่องสวดอ้อนวอนพระพรหม และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ได้อีก แต่ในขณะเดียวกันนั้นพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นการกระทำของยักษ์สังข์อสูรนั้นทุกประการจึงติดตามไปเพื่อจะเอาพระเวท นั้นกลับคืนมา

    เมื่อยักษ์สังข์อสูรเห็น พระนารายณ์ติดตามตนมาในระยะกระชั้นชิด เช่นนั้นก็เห็นว่าเป็นการจวนตัวจึงได้กลืนพระเวททั้งหมดลงไปไว้ในท้องของตน แล้วกระโดดลงไปในน้ำมหาสมุทรดำน้ำหนีหายไป เมื่อพระนารายณ์เห็นดังนั้น จึงได้เนรมิตร่างของพระองค์ให้เป็นปลาใหญ่ เที่ยวค้นหาตัวยักษ์สังข์อสูรเพื่อจะจับตัวไว้ให้ได้ก่อนที่ยักษ์สังข์อสูรนั้นจะทำลายพระเวทให้หมดไปจากโลก ในที่สุดพระนารายณ์ก็จับตัวยักษ์สังข์อสูรเอาไว้ได้ แล้วจึงทวงถามเอาพระเวทคืน แต่ยักษ์สังข์อสูรนั้นไม่ได้มีการเจรจาโต้ตอบแต่ประการใด ได้แต่นิ่งเฉยอยู่เท่านั้น เมื่อพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าพิจารณาดูไป ก็ได้้ทราบว่ายักษ์สังข์อสูรได้กลืนเอาพระเวทเข้าไว้ในท้องของตน จึงได้เอาพระหัตถ์บีบที่ปากของยักษ์สังข์อสูร จนเนื้อที่ปากนั้นปริออกมาตามระหว่างนิ้วของพระองค์แต่เมื่อทรงเห็นว่ายักษ์สังข์อสูรนั้นยังไม่ยอมคืนพระเวทอีก จึงได้ทรงเอานิ้ว พระหัตถ์ล้วงเข้าไปในท้องของสังข์อสูรแล้วทรงค้นหาพระเวทซึ่งอยู่ในท้องของสังข์อสูร เมื่อทรงเอาพระเวทกลับคืนออกมาจากท้องของยักษ์สังข์อสูรได้จนหมดเรียบร้อยทุกพระคัมภีร์แล้ว พระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าจึงได้ทรงสาปยักษ์สังข์อสูรนั้นว่า ขอให้เจ้าจงมีสภาพ ร่างกายเป็นอย่างนี้ และจงอยู่แต่ในน้ำสืบไป อย่าได้ขึ้นมาบนบกอีกต่อไปเลย

    เมื่อชาวมนุษย์ทำงานมงคลใดๆ จึงค่อยมาจับเอาตัวเอ็งไปร่วมในงานพิธีมงคลนั้นด้วย เมื่อทรงสาปแล้วได้ทรงทิ้งร่างของยักษ์สังข์อสูร นั้นลงไปในมหาสมุทรทันที แล้วจึงได้เอา พระเวทนั้นมาส่งคืนให้แก่พระพรหมผู้เป็นเจ้าของเดิม เมื่อยักษ์สังข์อสูรนั้นอยู่ในน้ำมหาสมุทรเนิ่นนานเข้าจึงได้กลับกลายมาเป็นหอยสังข์ และมีสภาพเหมือนกับคำที่พระนารายณ์ได้สาปไว้ทุกประการ ตามบริเวณร่างกายของหอยสังข์นั้น ได้มีรอยนิ้วพระหัตถ์ของพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้ายังปรากฏอยู่ในขณะที่พระองค์ทรงบีบปากเพื่อค้นหาคัมภีร์พระเวทเมื่อครั้งแรก และที่ปากของหอยสังข์จึงเป็นรอยยาวออกมานั้น ก็เพราะพระนารายณ์ท่านลากคัมภีร์พระเวทต่าง ๆ ออกมาทางปากครั้น เมื่อถึงเวลาจะทำพิธีมงคลต่าง ๆ จึงจะนำหอยสังข์นั้นมาเข้าร่วมอยู่ในงานพิธีมงคล อย่างพิธีแต่งงานเพราะหอยสังข์เคยเป็นที่บรรจุพระเวทต่าง ๆ ไว้ในท้องของตนจนครบทุกประการนั่นเอง
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=774 border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ผมนำภาพถ่ายมาให้ชมเพียง ๒ ด้านคือด้านข้าง และด้านใน ภายนอก และภายในกดด้วยพระพิมพ์ซุ้มกอ และลงรัก และปิดทองทั้งหมด...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010060.JPG
      P1010060.JPG
      ขนาดไฟล์:
      286.8 KB
      เปิดดู:
      58
    • P1010061.JPG
      P1010061.JPG
      ขนาดไฟล์:
      308.3 KB
      เปิดดู:
      135
  7. แม้เราจะไม่พบกัน

    แม้เราจะไม่พบกัน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ขออนุโมทนา สาธุ ด้วย ผมคนหนึ่งและที่จะต้องติดตามแน่นอน...
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอมอบภาพนี้ให้คุณหมอเอกด้วยครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010060.JPG
      P1010060.JPG
      ขนาดไฟล์:
      286.8 KB
      เปิดดู:
      67
    • P1010061.JPG
      P1010061.JPG
      ขนาดไฟล์:
      308.3 KB
      เปิดดู:
      40
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE class=tborder id=post1427339 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 07:20 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#19947 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>แม้เราจะไม่พบกัน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1427339", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 07:20 PM
    วันที่สมัคร: Aug 2008
    ข้อความ: 2
    ได้ให้อนุโมทนา: 0
    Thanked 1 Time in 1 Post
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1427339 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG]
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมเองมีความตั้งใจที่จะเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับพระวังหน้าอยู่เช่นกัน แต่ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ อีกทั้งต้องรวบรวมพระพิมพ์ต่างๆ เท่าที่สามารถทำได้ เนื่องจากพระพิมพ์ของวังหน้าและวังหลวงมีเป็นจำนวนมาก มีมากมายหลายพิมพ์ เพียงแค่ชุด 2408 ก็มี 2 ชุดแล้ว มีทั้งชุดที่มี 44 พิมพ์ และ 8 พิมพ์ มีทั้งหน้าเดียวและสองหน้า แค่นี้ก็จำกันค่อนข้างยากแล้ว ยังมีพิมพ์อื่นๆอีกมาก และเนื้ออื่นๆอีกมากเช่นกัน

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขออนุโมทนา สาธุ ด้วย ผมคนหนึ่งและที่จะต้องติดตามแน่นอน...

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นำมาบอกล่วงหน้ากันก่อน..ในช่วงก่อนที่หนังสือจะเสร็จสมบูรณ์นั้น ท่านใดที่ไม่เคยเข้ามาพูดคุย post ในกระทู้นี้ เมื่อถึงเวลาจองหนังสือที่พิมพ์จำนวนจำกัดเพียง ๕๐๐ เล่มนี้ ก็หมดสิทธิ์ได้รับ ท่านใดทราบ style ของคุณหนุ่มก็หมั่นเข้ามาพูดคุยให้เห็นตัวตนกัน ไม่อย่างนั้นหมดสิทธิ์แน่ แล้วจะหาว่าไม่เตือนกัน อิ..อิ..อิ...เขาทำไม่เอากำไรครับ และกะไม่วางจำหน่ายด้วย ถือเป็นวงใน และในวงเท่านั้น...ผมคนเดียวก็ ๑๐ เล่มแล้ว...
     
  10. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เพชร


    [​IMG][​IMG]

    ขอบคุณนะครับ ..... ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆเลยครับ Oh...My God
    เพิ่งมีวาสนาเห็นนะครับ
     
  11. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมเองมีความตั้งใจที่จะเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับพระวังหน้าอยู่เช่นกัน แต่ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ อีกทั้งต้องรวบรวมพระพิมพ์ต่างๆ เท่าที่สามารถทำได้ เนื่องจากพระพิมพ์ของวังหน้าและวังหลวงมีเป็นจำนวนมาก มีมากมายหลายพิมพ์ เพียงแค่ชุด 2408 ก็มี 2 ชุดแล้ว มีทั้งชุดที่มี 44 พิมพ์ และ 8 พิมพ์ มีทั้งหน้าเดียวและสองหน้า แค่นี้ก็จำกันค่อนข้างยากแล้ว ยังมีพิมพ์อื่นๆอีกมาก และเนื้ออื่นๆอีกมากเช่นกัน



    ผมจองด้วยนะครับจองเผื่อเพื่อนด้วยได้ไหมครับ พิมพ์เมื่อไหร่อย่าลืมบอกนะครับ
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอาไว้ให้คุณหนุ่มพาไปรู้จัก"วัดไอ....." ไปขอท่าน "เจ้าสำนัก หรือเจ้าอาวาส" ชมพระวังหน้า วังหลวงทั้งหมดแล้ว ความลังเลสงสัยทั้งหมดจะมลายหายไป หันมาเป็นกระบอกเสียงที่เสียงดังฟังชัด...แค่นี้ยังเป็นส่วนน้อยครับ 555555
     
  13. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมจะมอบพระพิมพ์ให้ 1 องค์(ผมเลือกให้เอง ห้ามเลือกเองนะครับ) สำหรับท่านใด(ต้องเคยร่วมทำบุญกับ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ,ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ,ร่วมทำบุญกับสภากาชาดไทย ,มูลนิธิชัยพัฒนา ,มูลนิธิพระดาบส และสมาชิกชมรมพระวังหน้า) ที่โพสข้อความในโพสที่ 20001 หน้าที่ 1000 เป็นท่านแรกครับ
    แต่ต้องซื่อสัตย์กับเพื่อนๆด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าแอบไปลบโพสของตนที่เป็นโพสเก่าๆ เพื่อให้ตนเองได้เลื่อนขึ้นมา ผมต้องบอกไว้ก่อน อย่าหาว่าอย่างโน้น อย่างนี้เลยนะครับ


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    โธ่สบายครับท่านปาทาน คืนนี้ดึกๆผมก็มาลงโพสคนเดียวไปเรื่อยๆจนถึงหน้าที่1000เองครับ อ่ะเฉียบแหลมมั้ย หุ หุ แต่โดนคนทั่วไปหรือผู้คุ้มกฎเค้าด่ารึเปล่า อีกเรื่องครับ หึ หึ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ไม่ต้องห่วงครับผมจาอยู่เป็นเพื่อน ..... คุณ nongnooo คนแรกผมขอเป็นคนที่ 2 ก็แล้วกันนะครับ
     
  14. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 1427061" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>sithiphong</TD><TD class=alt1>ขอแสดงความยินดีกับคุณเพชร ในวันครบรอบวันแต่งงาน ผมแสดงความยินดีย้อนหลังนะครับ ขอให้มีความสุขในชีวิตคู่มากๆ (ผมขอไม่แจ้งว่าวันที่เท่าไหร่นะครับ)

    รักเพื่อนเสมอครับ
    sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    อ่ายินดีด้วยเช่นกันครับ :z4
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ผมขออนุญาติร่วมยินดีด้วยครับ
     
  15. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ขอแสดงความยินดีกับคุณเพชรด้วยครับ:z8
    ;aa54 :z14
     
  16. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    แก่แล้ว อย่านอนดึกมากนะลุง ก็ตอนนี้ว่างไม่ใช่รึ จะมัวรออะไรอยู่ล่ะ ;aa21
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บอกได้ว่า ลำบากครับ ที่จะพาใครๆไปได้ ต้องถามเจ้าสำนักก่อน
    ระดับนั้นผมบอกว่า พี่เขาไม่สนใจ ขนาดมีอัยการท่านนึง จะขอเข้าไปกราบ พี่ท่านนี้บอกว่า ก็กราบด้านนอกก็เหมือนกัน

    .
     
  18. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ขอบพระคุณครับ ถือว่าได้รับเสมือนการหลั่งน้ำพระพุทธมนต์จากผู้หลักผู้ใหญ่อีกท่านครับ
    วันงานนั้นเป็นที่ปลาบปลื้มปิติของผมบ่าวสาว เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ท่านให้เกียรติมางาน จนมือของผมทั้งสองเปื่อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผมได้รับความเมตตากรุณาจากท่านทั้งหลาย

    แอบกระซิบว่าผมปลาบปลื้มจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ด้วยครับ เพราะคำอวยพรของแต่ละท่านนั้นทำให้ผมปิติจริงๆครับ ตอนแรกเจ้าสาวหลั่งน้ำตา ผมก็ยังกลั้นไหว ไปๆมาๆก็กลั้นไม่อยู่กันทั้งคู่ครับ นึกถึงแล้วก็ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกท่านจริงๆครับ
     
  19. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    อ่านแล้วยิ่งศรัทธาครับ แสดงว่าท่านละแล้วซึ่งกิเลสลาภยศสรรเสริญ จึงไม่ต้องการคำเยินยอ หรือว่าเลือกพบแต่ผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กว่าที่ผมจะพาใครไป ต้องรู้จักกันมากพอสมควร ถึงจะขออนุญาตได้ ผมเองจะเป็นผู้ที่การันตีผู้ที่จะไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...