ขอ ท่านที่ปฏิบัติธรรมทุกท่านมา เสวนาในหัวข้อ " พลังจิต " มีจริงหรือ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย จอมยุทธ์หญิง, 15 กรกฎาคม 2008.

แท็ก: แก้ไข
หน้า 11 ของ 13
  1. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ? ในทางกลับกันคนดีคนเดียวที่หมั่นฝึกตนจนกระทั่งตนบริสุทธิหมดจดสิ้นเชิง ก็จะชักนำคนชั่วออกจากชั่วกลับเป็นคนดีแล้วบริสุทธิตาม..ได้มากมายมหาศาล....มากกว่าคนชั่วมากมายนัก ตัวอย่างเช่น พระพุทธเจ้า และพระอรหันตสาวก เป็นต้น...อีกฝ่ายก็ดังตัวอย่างเช่นพระเทวทัตก็นำคนออกมาได้ส่วนหนึ่งสุดท้ายทั้งหมดก็พ่ายต่อความดี...กลับมาเป็นคนดีทั้งหมดหรือส่วนใหญ่....แม้แต่ตัวท่านเทวทัตเอง....(ขอไม่ยกตัวอย่างมาอิงเพราะจะยาวเกินไป...Google)
    ....และแม้ว่าคนชั่วจะทำชั่วง่าย บ่อยซ้ำๆ ซากๆ ก็ด้วยเพราะยังไม่รู้(หลง) และยังฝึกจิตไม่พอที่จะต้านแรงกิเลส จึงทำดีได้ยากเพราะต้องฝืนแรงกิเลส...จึงรู้สึกฝืนๆ...แต่ก็ใช่ว่าคนชั่วจะทำดีไม่ได้....ดังหลวงปู่มั่น ท่านเทศนาไว้ใน มุตโตทัย ..ดังนี้ "อคฺคํ ฐานํ มนุสฺเสสุ มคฺคํ สตฺตวิสุทธิยา"
    และ
    ๒. การฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า
    ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา
    สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทรมานฝึกหัดพระองค์จนได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พุทฺโธ ผู้รู้ก่อนแล้วจึงเป็น ภควา ผู้ทรงจำแนกแจกธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ สตฺถา จึงเป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้มีอุปนิสัยบารมีควรแก่การทรมานในภายหลัง จึงทรงพระคุณปรากฏว่า กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต ชื่อเสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นเดียวกัน ปรากฏว่าท่านฝึกฝนทรมานตนได้ดีแล้ว จึงช่วยพระบรมศาสดาจำแนกแจกธรรม สั่งสอนประชุมชนในภายหลัง ท่านจึงมีเกียรติคุณปรากฏเช่นเดียวกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าบุคคลใดไม่ทรมานตนให้ดีก่อนแล้ว และทำการจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไซร้ ก็จักเป็นผู้มีโทษ ปรากฏว่า ปาปโกสทฺโท คือเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจตุรทิศ เพราะโทษที่ไม่ทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์สาวกเจ้าในก่อนทั้งหลาย     .......
    http://www.luangpumun.org/muttothai_1.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2008
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #201
  2. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    สมอง(สัญญา) และ ความคิด(สังขาร) ถ้าไม่มีสติคุม ก็จะกระเจิดกระเจิงเดี๋ยวไปโน่น เดี๋ยวคิดนี่ ตามสภาวะที่มากระทบในขณะนั้นจะไม่มีร่องรอยหลักเกณฑ์อะไร...หาสรุปหาใจความไม่ได้...อย่างนี้เรียกว่าอะไร?
     
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #202
  3. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    สติ+ปัญญา สร้าง ความยังยั้งชั่งใจ ตัวเอง ได้
    สติ+ปัญญา รู้ว่า สิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว
    สติ+ปัญญา รู้ว่า ควรทำในสิ่งที่ดี คือ ทำความดี
     
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #203
  4. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ................ เจ้าของกระทู้กระเจิงไปแล้วมั้งนี่;2...........

    ;aa15

    พอเหอะนะ..นะ....ท่านstefa ......เจริญธรรมครับ
     
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #204
  5. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    [​IMG]

    คุณแอ๊บแบ๊ว นี่ ใช่คุณเนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ หรือเป่านี่ อ่ะ
    วงเวียน วนเวียน วกวน ว้าวุ่น
    จิตกลับไป จิตกลับมา จิตขึ้นเหนือ จิตล่องใต้
    ตั้งสติ ตั้งจิต ให้มั่น
    ถ้าไม่ตั้งหลักให้ดี
    ก็ไม่รู้จบ

    ความคิดแบบหมุนวน
    จับเรื่องนู้น มาชนเรื่องนี้
    จับเรื่องนี้ มาชนเรื่องนู้น
    ความสับสน จะเกิดขึ้น

     
    stefa, 26 กรกฎาคม 2008

    #205
  6. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    โลกเรา นี่นะ มี
    หลายประเทศ หลายทวีป หลายชนเผ่า หลายเชื้อชาติ
    บ้านมีหลายแบบ ตามภูมิประเทศ
    ฝรั่งคิดแบบ ไทยอีกแบบ จีนก็อีกแบบ

    ทีนี้ ศาสนา มีมากมาย
    บางศาสนานะ นักบวช ก็มีภรรยา มีลูกได้

    ศาสนาอะไรนะ ที่เขาให้ผู้ชาย มีภรรยา ได้ 4 คน

    นี่คือ ตัวอย่าง ของ ต่างๆนาๆ ต่างๆทัศนะ
    แล้วจะให้อะไรผิด อะไรถูกล่ะ
     
    stefa, 26 กรกฎาคม 2008

    #206
  7. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    สมอง(สัญญา) และ ความคิด(สังขาร) ถ้าไม่มีสติคุม ก็จะกระเจิดกระเจิงเดี๋ยวไปโน่น เดี๋ยวคิดนี่ ตามสภาวะที่มากระทบในขณะนั้นจะไม่มีร่องรอยหลักเกณฑ์อะไร...หาสรุปหาใจความไม่ได้...อย่างนี้เรียกว่าอะไร?

    สติ นี่มีไว้ คุม นะ ถูกแล้ว นะ

    สมอง และ ความคิด จะคิดนู่น คิดนี่ ก็ถูกอีก
    สมอง และ ความคิด คิดกระเจิด กระเจิง คิดได้
    สมอง และ ความคิด มีอิสระ ในการคิด นี่นา
    ไม่จำเป็นต้อง บ้าบอ หรอก

    แต่ว่า ถ้า ไม่มีสติ ก็เลือก ทำผิด ทำถูก
    ไม่ทำถูกอย่างเดียว
    สิ่งที่ทำ ก็ปนเป กันไปหมด







    <!-- / message -->
     
    stefa, 26 กรกฎาคม 2008

    #207
  8. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    สมอง และ ความคิด ทุกคนเกิดมาก็มี นะ
    แต่ว่า เมื่อมีสิ่งยั่วยวน ที่คุณๆทั้งหลายเรียกว่า กิเลส เช่น เงินทอง การคอรัปชั่น อยากรวย อยากมีรถหรูๆ อยากมีบ้านใหญ่โต เป็นต้น ทำให้เกิดความอยากสุมรุมอยู่ในหัวสมอง คิด คิด ทำยังไงนะ ถึงจะมีกับเขาบ้าง
    ? ก็อยากอยู่ในขอบเขตของศีลของธรรม ก็ไม่น่ามีปัญญาหาอะไร
    เพราะกิเลสยังมีอยู่ด้วยกัน....จึงจะพอมีประโยชน์ต่อผู้แสวงหาอยู่บ้าง

    ;aa13

    ? ก็อยากอยู่ในขอบเขตของศีลของธรรม
    สำหรับคนอย่างคุณ แอ๊บแบ๊ว ก็ได้อยู่หรอก ก็ถูกต้อง คนดีมีสตินี่นา
    แต่ว่าคนที่อยากได้ แล้วก็ทำ แบบไม่มีสติ มีไม๊ล่ะ มี ก็เพราะว่า มีแต่สมอง ความคิด ไม่มีสติ

    วนเวียน จิตจะสับสนนะ

    แยกแยะให้ออก แล้วจะไม่ งง



    <!-- / message -->
     
    stefa, 26 กรกฎาคม 2008

    #208
  9. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ทามปายด้าย....นะเออ..นะเออ....
    โน้นไปทดสอบพลังจิตใหม่...กระทู้คุณสันโดษ....อิอิอิ
    (คราวนี้มาแนวไหนนี่..??)
     
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #209
  10. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ................ เจ้าของกระทู้กระเจิงไปแล้วมั้งนี่;2...........

    ;aa15

    พอเหอะนะ..นะ (เด๋วไปกันหย่าย)....ท่านstefa ......เจริญธรรมครับ
     
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #210
  11. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    เพราะกิเลสยังมีอยู่ด้วยกัน....

    ;20

    กิเลส มี คุณแอ๊บแบ๊ว กระทำแล้วกระทบกระเทือนคนอื่นไม๊
    เช่น ผิดศีล กาเม ก็ทำให้ครอบครัวตัวเอง และครอบครัวคนอื่นเดือนร้อน
    คุณก็สร้างเวร สร้างกรรม ละ ใช่ไม๊

    ตัว กิเลส มีหลายอย่างนะ รุนแรงมาก รุนแรงน้อย หรือ กลางๆ
    ไปฆ่าคนตาย นี่รุนแรง มากสุดๆ
    ไม่มีสติ แน่นอน

    ตัว กิเลส ถ้ามีสติ เช่น
    เห็นคนอื่น เขามีรถเบ๊นซ์ขับ อยากได้มั่ง มีตังค์ก็ไปซื้อขับเอง ก็ไม่เดือดร้อนใคร คุณก็ยังเป็นคนดี มีพลังจิตอยู่
    หรือว่า คุณมีเงินไม่มาก ซื้อรถยนต์คันเล็กๆ ราคาถูกๆ รถมือ 2 ขับ เท่าที่พอจะเจียดเงินออกมาซื้อได้ ผิดไม๊ ชั่วไม๊
    ก็ไม่ผิดนี่นา ถูกต้อง คุณเป็นคนดีอยู่นะ
    แบบนี้ พลังจิต คุณก็สามารถ กำจัดตัว กิเลส นี่ได้

     
    stefa, 26 กรกฎาคม 2008

    #211
  12. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD background=../pic_rec/m11.gif></TD><TD width=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width=12 background=../pic_rec/m44.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE height=70 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 align=center background=../pics/banner350.gif border=0><TBODY><TR><TD>
    มิลินทปัญหา​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE style="WIDTH: 190px; HEIGHT: 40px" cellSpacing=1 cellPadding=5 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>พระเจ้ามิลินท์กับพระนาคเสน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>- สารบัญ มิลินทปัญหา -
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๑
    [​IMG] คำนมัสการพระรัตนตรัยของพระติปิฎกจุฬาภัยเถระ
    [​IMG] พุทธพยากรณ์ในวันปรินิพพาน
    [​IMG] เรื่องเบื้องต้น บุพพกรรมของบุคคลทั้งสอง
     [​IMG] พระอรหันต์ขึ้นไปเชิญ มหาเสนะเทพบุตร
    [​IMG] พระโรหนเถระได้รับมอบธุระ เพื่อให้นาคเสนกุมารได้บรรพชา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๒
    [​IMG] มหาเสนะเทพบุตรจุติจากเทวโลก
    [​IMG] นาคเสนกุมารศึกษาไตรเพท
    [​IMG] พระโรหนะไปนำนาคเสนกุมารเพื่อจะให้บรรพชา
     [​IMG] นาคเสนกุมารบรรพชา
    [​IMG] พระนาคเสนแสดงธรรมเป็นครั้งแรก
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๓
    [​IMG] พระนาคเสนไปศึกษาพระไตรปิฏกกับพระธรรมรักขิต
    [​IMG] ศึกษาร่วมกับภิกษุชาวลังกา
    [​IMG] พระนาคเสนสำเร็จพระอรหันต์
    [​IMG] พระอรหันต์ให้ทูตไปตามพระนาคเสน
    [​IMG] พระเจ้ามิลินท์เสด็จไปถามปัญหาพระอายุบาล
     [​IMG] กิตติศัพท์ของพระนาคเสน
    [​IMG] พระเจ้ามิลินท์ได้ยินชื่อทรงตกพระทัยกลัว
    [​IMG] พระเจ้ามิลินท์เสด็จไปหาพระนาคเสน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๔
    [​IMG] พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
    [​IMG] มิลินทปัญหา วรรคที่ ๑
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑ ถามชื่อ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๒ ถามพรรษา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๓ ถามลองปัญญา
     [​IMG] ปัญหาที่ ๔ ปัญหาของอันตกายอำมาตย์
    [​IMG] ปัญหาที่ ๕ ถามเรื่องบรรพชา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๖ ถามเรื่องปฏิสนธิ (เกิด)
    [​IMG] ปัญหาที่ ๗ ถามเรื่องมนสิการ (การกำหนดจิต)
    [​IMG] ปัญหาที่ ๘ ถามลักษณะมนสิการ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๙ ถามลักษณะศีล
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๕
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๐ ถามลักษณะศรัทธา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๑ ถามลักษณะวิริยะ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๒ ถามลักษณะสติ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๓ ถามลักษณะสมาธิ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๔ ถามลักษณะปัญญา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๕ ถามหน้าที่แห่งธรรมต่าง ๆ กัน
    [​IMG] จบ มิลินทปัญหา วรรคที่ ๑
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๖
    [​IMG] มิลินทปัญหา วรรคที่ ๒
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑ ถามความสืบต่อแห่งธรรม
    [​IMG] ปัญหาที่ ๒ ถามความรู้สึกของผู้ไม่เกิดอีก
    [​IMG] ปัญหาที่ ๓ ถามที่ดับปัญญา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๔ ถามเรื่องปรินิพพาน
    [​IMG] ปัญหาที่ ๕ ถามเรื่องสุขเวทนา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๗
    [​IMG] ปัญหาที่ ๖ ถามการถือกำเนิดแห่งนามรูป
    [​IMG] ปัญหาที่ ๗ ถามการเกิดอีกแห่งพระนาคเสน
    [​IMG] ปัญหาที่ ๘ ถามเรื่องนามรูป
    [​IMG] ปัญหาที่ ๙ ถามเรื่องกาลนานยืดยาว
    [​IMG] จบ มิลินทปัญหา วรรคที่ ๒

    [​IMG] มิลินทปัญหา วรรคที่ ๓
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑ ถามมูลเหตุแห่งกาลทั้ง ๓
    [​IMG] ปัญหาที่ ๒ ถามที่สุดเบื้องต้นแห่งสงสาร
    [​IMG] ปัญหาที่ ๓ ถามความปรากฏแห่งที่สุดเบื้องต้น
    [​IMG] ปัญหาที่ ๔ ถามถึงความเกิดขึ้นแห่งสังขาร
    [​IMG] ปัญหาที่ ๕ ถามถึงความมีขึ้นแห่งสังขารที่ไม่มี
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๘
    [​IMG] ปัญหาที่ ๖ ถามเรื่องผู้ถึงเวทย์
    [​IMG] ปัญหาที่ ๗ ถามถึงความเกี่ยวกับแห่งจักขุวิญญาณกับมโนวิญญาณ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๘ ถามลักษณะผัสสะ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๙ ถามถึงลักษณะเวทนา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๐ ถามลักษณะสัญญา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๑ ถามลักษณะเจตนา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๒ ถามลักษณะวิญญาณ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๓ ถามลักษณะวิตก
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๔ ถามลักษณะวิจาร
    [​IMG] จบ มิลินทปัญหา วรรคที่ ๓

    [​IMG] มิลินทปัญหา วรรคที่ ๔
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑ ถามลักษณะมนสิการ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๒ ถามลักษณะสิ่งที่มีภาวะอย่างเดียวกัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๙
    [​IMG] ปัญหาที่ ๓ ถามการเกิดแห่งอายตนะ ๕
    [​IMG] ปัญหาที่ ๔ ถามเหตุต่าง ๆ กันแห่งกรรม
    [​IMG] ปัญหาที่ ๕ ถามถึงสาเหตุที่ควรให้รีบทำเสียก่อน
    [​IMG] ปัญหาที่ ๖ ถามถึงความร้อนแห่งไฟนรก
    [​IMG] ปัญหาที่ ๗ ถามถึงเรื่องเครื่องรองแผ่นดิน
    [​IMG] ปัญหาที่ ๘ ถามถึงเรื่องนิโรธนิพพาน
    [​IMG] ปัญหาที่ ๙ ถามเรื่องการได้นิพพาน
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๐ ถามเรื่องรู้จักความสุขในนิพพาน
    [​IMG] จบ มิลินทปัญหา วรรคที่ ๔

    [​IMG] มิลินทปัญหา วรรคที่ ๕

    [​IMG] ปัญหาที่ ๑ ถามเรื่องความมีและความไม่มีแห่งพระพุทธเจ้า
    [​IMG] ปัญหาที่ ๒ ถามเรื่องความยิ่งใหญ่แห่งพระพุทธเจ้า
    [​IMG] ปัญหาที่ ๓ ถามเรื่องการรู้ความยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า
    [​IMG] ปัญหาที่ ๔ ถามเรื่องการเห็นธรรม
    [​IMG] ปัญหาที่ ๕ ถามถึงความไม่ก้าวย่างไปแห่งผู้จะเกิด
    [​IMG] ปัญหาที่ ๖ ถามถึงผู้สำเร็จเวทย์
    [​IMG] ปัญหาที่ ๗ ถามถึงการก้าวไปแห่งสภาพ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๘ ถามถึงที่อยู่แห่งผลกรรม
    [​IMG] ปัญหาที่ ๙ ถามถึงความรู้สึกของผู้จะเกิดอีก
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๐ ถามเรื่องที่อยู่ของพระพุทธเจ้าที่ปรินิพพาน

    [​IMG] จบ มิลินทปัญหา วรรคที่ ๕
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๑๐
    [​IMG] มิลินทปัญหา วรรคที่ ๖

    [​IMG] ปัญหาที่ ๑ ถามถึงความรักร่างกายแห่งบรรพชิต
    [​IMG] ปัญหาที่ ๒ ถามถึงเหตุที่ไม่ทรงบัญญติสิกขาบทไว้ล่วงหน้า
    [​IMG] ปัญหาที่ ๓ ถามถึงลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ของพระพุทธมารดาบิดา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๔ ถามถึงความเป็นพรหมจารีของพระพุทธเจ้า
    [​IMG] ปัญหาที่ ๕ ถามถึงการอุปสมบท ไม่อุปสมบท
    [​IMG] ปัญหาที่ ๖ ถามถึงความต่างกันแห่งน้ำตา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๗ ถามถึงความต่างกันแห่งผู้เสวยรส
    [​IMG] ปัญหาที่ ๘ ถามที่ตั้งแห่งปัญญา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๙ ถามเรื่องสงสาร
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๐ ถามถึงเหตุที่ให้ระลึกถึงสิ่งที่ล่วงแล้วได้

     [​IMG] จบ มิลินทปัญหา วรรคที่ ๖
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=22>[​IMG] ตอนที่ ๑๑
    [​IMG] มิลินทปัญหา วรรคที่ ๗

    [​IMG] ปัญหาที่ ๑ ถาม สติเกิดแต่อาการเท่าไร
    [​IMG] ปัญหาที่ ๒ ถามว่า ผู้ที่ทำบาปมาตั้ง ๑๐๐ ปี ถ้าเวลาจะตาย ทำจิตให้ผ่องใสได้ก็ไปสุคคติ จะไปได้จริงหรือ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๓ ถามว่า จะเพียรดับทุกข์ที่ยังไม่มาถึงจะได้หรือไม่
    [​IMG] ปัญหาที่ ๔ ถามเรื่องความไกลแห่งพรหมโลก
    [​IMG] ปัญหาที่ ๕ ถามถึงความไปเกิดในพรหมโลกและเมืองกัสมิระ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๖ ถามถึงวรรณะสัณฐานของผู้ไปเกิดในโลกอื่น
    [​IMG] ปัญหาที่ ๗ ถามเรื่องถือกำเนิดในครรภ์มารดา
    [​IMG] ปัญหาที่ ๘ ถามเรื่องโพชฌงค์ ๗
    [​IMG] ปัญหาที่ ๙ ถามถึงความมากกว่ากันแห่งบาปและบุญ
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๐ ถามถึงการทำบาปแห่งผู้รู้กับผู้ไม่รู้
    [​IMG] ปัญหาที่ ๑๑ ถามถึงผู้ที่ไปอุตตรกุรุทวีปและสวรรค์
    [SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#712"]ปัญหาที่ ๑๒ ถามเรื่องกระดูกยาว[/URL]
    [FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#713"]ปัญหาที่ ๑๓ ถามเรื่องเกี่ยวกับลมหายใจ[/URL]
    [FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#714"]ปัญหาที่ ๑๔ ถามว่าอะไรเป็นสมุทร[/URL]
    [FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#715"]ปัญหาที่ ๑๕ ถามเรื่องการตัดสิ่งที่สุขุม[/URL]
    [FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#716"]ปัญหาที่ ๑๖ ถามความวิเศษแห่งปัญญา[/URL]
    [FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#717"]ปัญหาที่ ๑๗ ถามความต่างกันแห่งวิญญาณเป็นต้น[/URL]
    [FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#718"]ปัญหาที่ ๑๘ ถามถึงเรื่องสิ่งที่ทำได้ยากของพระพุทธเจ้า[/URL]
    [FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2] [IMG]http://www.dhammathai.org/pics/arrowgrey.gif[/IMG] [/SIZE][/FONT][URL="http://www.dhammathai.org/milin/milin11.php?#719"]ปัญหาที่ ๑๙ พระเจ้ามิลินท์ทรงเลื่อมใสได้ปวารณาพระนาคเสน[/URL]

    [/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE]    [SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][FONT=Tahoma][SIZE=2][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE][/FONT][/SIZE] [​IMG] จบ มิลินทปัญหา วรรคที่ ๗
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] จบ มิลินทปัญหา​


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.dhammathai.org/milin/milin.php
    ปัญหาที่ ๗ ถามเรื่องมนสิการ (การกำหนดจิต)

    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า
    " ข้าแต่พระนาคเสน ผู้ใดไม่เกิดอีกผู้นั้นย่อมไม่เกิดอีกด้วย โยนิโสมนสิการ (คือการกำหนดจิตด้วยอุบายที่ชอบธรรม) ไม่ใช่หรือ ? "
    พระเถระตอบว่า
    " ขอถวายพระพร บุคคลไม่เกิดอีกด้วย โยนิโสมนสิการ คือด้วย ปัญญา และด้วย กุศลธรรมอื่น ๆ "
    " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โยนิโสมนสิการ กับ ปัญญา เป็นอันเดียวกันหรืออย่างไร ? "
    " ไม่ใช่อย่างเดียวกัน คือ โยนิโสมนสิการ ก็อย่างหนึ่ง ปัญญา ก็อย่างหนึ่ง แพะ แกะ สัตว์เลี้ยง กระบือ อุฐ โค ลา เหล่าใดมีมนสิการ แต่ปัญญาย่อมไม่มีแก่สัตว์เหล่านั้นขอถวายพระพร "
    " ชอบแล้ว พระนาคเสน "

    (อ่านต่อ http://www.dhammathai.org/milin/milin.php )
    -----------------------------------------------------------------------
    ปัญหาที่ ๘ ถามลักษณะมนสิการ

    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามต่อไปว่า
    " ข้าแต่พระนาคเสน มนสิการ มีลักษณะอย่างไร ปัญญา มีลักษณะอย่างไร ? "
    พระนาคเสนตอบว่า
    " มหาราชะ มนสิการ มีความ อุตสาหะ เป็นลักษณะ และมีการ ถือไว้ เป็นลักษณะ ส่วน ปัญญา มีการ ตัด เป็นลักษณะ "
    " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า มนสิการ มีการถือไว้เป็นลักษณะอย่างไร ปัญญา มีการตัดเป็นลักษณะอย่างไร ขอจงอุปมาให้แจ้งด้วย ? " ............
    (อ่านต่อ http://www.dhammathai.org/milin/milin.php )
    ...........................................................................................................
    ปัญหาที่ ๑๒ ถามลักษณะสติ
     
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #212
  13. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    สติ+ปัญญา สร้าง ความยังยั้งชั่งใจ ตัวเอง ได้ อย่างไร?
    สร้าง ความยังยั้ง = สติ = มีการเตือนเป็นลัษณะ
    ชั่งใจตัวเองได้ = ปัญญา = มีการตัดเป็นลักษณะ
    สติ+ปัญญา รู้ว่า สิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว อย่างไร?
    รู้(ระลึกรู้) = สติ = มีการเตือนเป็นลัษณะ
    รู้ว่า สิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว = ปัญญา = มีการตัดเป็นลักษณะ
    สติ+ปัญญา รู้ว่า ควรทำในสิ่งที่ดี คือ ทำความดี
    รู้(ระลึกรู้) = สติ = มีการเตือนเป็นลัษณะ
    รู้ว่า ควรทำในสิ่งที่ดี คือ ทำความดี = ปัญญา = มีการตัดเป็นลักษณะ
     
    แอ๊บแบ้ว, 26 กรกฎาคม 2008

    #213
  14. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    ? ในทางกลับกันคนดีคนเดียวที่หมั่นฝึกตนจนกระทั่งตนบริสุทธิหมดจดสิ้นเชิง ก็จะชักนำคนชั่วออกจากชั่วกลับเป็นคนดีแล้วบริสุทธิตาม..ได้มากมายมหาศาล....มากกว่าคนชั่วมากมายนัก
    ;19;19


    เรื่องพระพุทธเจ้า กับพระเทวทัต นั้น
    ทั้ง 2 ท่าน ได้ผ่านชาติภพ ได้เจอะเจอกันมาก่อน
    ทั้ง 2 ท่าน ได้มีเวรกรรมผูกพันกันมาก่อน
    เมื่อ ทั้ง 2 ท่าน ได้มีการชนชาติภพ กันเกิดขึ้น ในสมัยนั้น
    เจอกันพอดิบพอดี การสะสาง จึงได้เกิดขึ้น
    การชดใช้ระหว่างกันและกัน แบบนี้ก็เป็นตัวอย่างอันดี

    การเกิดเหตุการณ์ต่างๆ การไม่ลงรอยกัน การลอบทำร้ายพระพุทธเจ้า การที่พระพุทธเจ้าได้รับบาดเจ็บบ้าง เกิดความวุ่นวายมากมาย ขึ้นในคณะสงฆ์
    เรื่องแบบนี้ สาเหตุ ก็มาจากการ ชนชาติภพ
    การชนชาติภพ ต้องชดใช้กันและกัน ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด เมื่อสะสางกันจนหมดเรื่องราวในอดีต ในชาติภพที่เคยผ่านมา
    จะใช้เวลาเท่าไหร่ ยาวนานแค่ไหน ก็แล้วแต่กรณี

    ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับผลของการกระทำ ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้า จะไม่ได้รับผลกรรมนั้น ท่านก็โดนเหมือนกัน

     
    stefa, 26 กรกฎาคม 2008

    #214
  15. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    มีจริงสิ่ค่ะ

    ทำได้ด้วย
     
    mamboo, 26 กรกฎาคม 2008

    #215
  16. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    ....และแม้ว่าคนชั่วจะทำชั่วง่าย บ่อยซ้ำๆ ซากๆ ก็ด้วยเพราะยังไม่รู้(หลง) และยังฝึกจิตไม่พอที่จะต้านแรงกิเลส จึงทำดีได้ยากเพราะต้องฝืนแรงกิเลส...จึงรู้สึกฝืนๆ...แต่ก็ใช่ว่าคนชั่วจะทำดีไม่ได้....

    ;18

    คนชั่ว 1 คน
    คนชั่ว ก็คือ คน มีการดำเนินชีวิตบนโลกนี้ ได้ทั่วไป
    กิน อยู่ หลับ นอน ได้หมด
    ทำชั่วมั่ง ทำดีมั่ง เป็นเรื่องธรรมดา
    แต่ว่า มีความชั่ว อยู่ในรหัสกรรม ของตัวเองไม๊ ก็มีอีก
    ตัวชั่ว ในรหัสกรรม ยังไม่ได้สะสาง ก็เก็บสะสมไว้อยู่
    ตัวชั่ว มีมากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่ แต่ละคน

    สำหรับความดี คนชั่วก็ทำได้ ทำบุญมั่ง ช่วยเหลือคนอื่นมั่งก็มีนะ ทำได้ ไม่ใช่ทำไม่ได้ ก็ไม่เห็นว่า จะแปลกอะไร

    แต่ว่า ความดี กับ ความชั่ว
    การกระทำดีต้องแยกตัว แยกห่างจากกัน ไม่นำมาปะปนกันกับความชั่ว
    ดี ก็อยู่ส่วน ดี
    ชั่ว ก็อยู่ส่วน ชั่ว
    จะนำมาหักล้างกันไม่ได้
    คนชั่วทำบุญ เพื่อมาลบล้าง ความผิด ไม่ได้หรอก
     
    stefa, 26 กรกฎาคม 2008

    #216
  17. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    ;k01;k01;k01;k01

    คนอ้วนพี สาวอ้วนพี ชายอ้วนพี
    อ้วนมาก อ้วนน้อย อ้วนกลาง

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ทำไมถึง ไม่มีพลังจิต

    ทำไมถึง ไม่มีสติ

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    ทำไมถึงไม่ได้เป็นคนดี

    ดูๆไปเค้าก็ไม่ได้เป็นคนชั่วนี่นา

    เค้าเคยทำสิ่งที่ไม่ดีมาก่อนหน้า หรือ ชาติภพ ก่อนหรือ
     
    stefa, 27 กรกฎาคม 2008

    #217
  18. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    [​IMG]

    คนอ้วน อ้วนพี อ้วนมาก อ้วนจนเดินไปไหนมาไหนไม่ได้
    สักแต่ว่า นั่งกิน นอนกิน
    ต้องลำบากให้คนอื่น ดูแล กิน อยู่ นอน เตรียมอาหาร ทำความสะอาดบ้านช่อง เสื้อผ้าให้
    ทำมาหากินลำบาก บางแห่งเค้าก็ไม่รับคนอ้วนเข้าทำงาน
    ก็เลยต้องมีคนทำมาหาเลี้ยงคนอ้วน อีก

    แถมยังมีโรคภัยไข้เจ็บ อีกมากมาย

    สาวอ้วนบางคน อยากลดความอ้วน ต้องเสียเงินทองอีกมากมาย
    ลดแล้วลดอีก ทนไม่ไหว ก็กิน ก็กลับมาอ้วนอีก

    คนอ้วน สร้างกรรม สร้างเวร มาอย่างแน่นอน
    กรรมมาก ก็อ้วนมาก ทุกข์มาก
    กรรมน้อย ก็อ้วนน้อย ทุกข์น้อย
     
    stefa, 27 กรกฎาคม 2008

    #218
  19. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    [​IMG]

    ขอยกตัวอย่างในประวัติศาสตร์นะ
    แต่ไม่ระบุ สถานที่ เวลา บุคคล

    กษัตริย์ ปกครองดินแดน กักตุนเสบียงอาหารไว้มากมาย
    เก็บภาษี เป็นเงิน ทอง แร่ธาตุ ข้าวสาร อาหารต่าง หรือ.......
    เก็บภาษี มาก บ้าง หรือ น้อย บ้าง ก็แล้วแต่นะ

    ถ้าเก็บมาก ประชาชนก็แทบไม่พอเหลือประทังชีวิต
    ทำนา ปลูกข้าว เก็บเกี่ยวนาข้าว แค่ส่งกษัตริย์ ก็ยังไม่พอส่ง
    เลย
    แล้วจะเอาอะไรเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัว
    รีดนาทาเร้น
    ประชาชน ก็เลยผอมโซ เพราะอดอยาก
    เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ไม่มีเงินซื้อยา

    พอถึงหน้าแล้ง อากาศไม่ดี ทำไร่ทำนาไม่ได้
    แต่ว่า ในวัง กลับสุขสำราญ
    อิ่มหมีพีมัน สุรา นารี เพียบพร้อม
    อาหารที่สั่งมา ดื่ม กิน นะ กินเรี่ย กินราด กินทิ้ง กินขว้าง
    กินเหลือ กินค้าง โยนทิ้งขยะซะ

    ประชาชน ได้รับการแบ่งปัน อาหาร มั่งไม๊ ไม่ได้
    ประชาชน ไม่ได้รับความเอื้อเฟื้อ เจือจาน ความเมตตา ความสงสาร
    ประชาชน อดอยาก หิวโซ น้ำตาเล็ด

    นี่แหละ คือ รหัสกรรมของกษัตริย์
    นี่แหละ คือ ความชั่วที่กษัตริย์ได้ทำไว้
    นี่แหละ คือ เจ้ากรรมนายเวรของกษัตริย์

    ประชาชน ในการปกครองที่อดอยากมากมายแค่ไหน
    ต้องได้รับความทุกข์ทรมาน
    ประชาชน หลายๆชีวิต อด ตาย ก็มี
    เดี๋ยวคนนู้นตาย เดี๋ยวคนนี้ตาย




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2008
    stefa, 27 กรกฎาคม 2008

    #219
  20. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ที่นี่ ก็รู้แล้วนะ ว่า ทำไมคนๆๆนี้ ถึงได้อ้วน
    ประชาชนอดอยาก จนกระทั่ง ตาย
    กษัตริย์ บอก เค้าตายเอง
    กษัตริย์ ไม่ได้ฆ่าประชาชนให้ตายด้วยมือตัวเอง
    แต่ สาเหตุที่ประชาชนอดตาย ก็สืบเนื่องมาจากไหน ล่ะ
    เมื่อสืบ ย้อน กลับไป ก็สาเหตุมาจากในวัง และพวกพ้องทั้งหลาย


    ในวังไม่แยแส ไม่แคร์ ไม่สนใจ ความเป็นอยู่ ของประชาชน
    ประชาชน จะอยู่อย่างไร จะตายอย่างไร ก็ไม่สน
    สนใจแต่ว่า ตัวเองจะมีกินดี กินเยี่ยม กินมาก กินแบบหรูหรา
     
    stefa, 27 กรกฎาคม 2008

    #220
หน้า 11 ของ 13

แชร์หน้านี้

Loading...