ขอ ท่านที่ปฏิบัติธรรมทุกท่านมา เสวนาในหัวข้อ " พลังจิต " มีจริงหรือ

พลังจิตด้านโทสะ ราคะ ถือเป็นพลังจิตด้านไม่ดี
เคยรู้จักคนนึง เค้ามักจะพูดว่าถ้าเค้าทำชั่วทำไมมันเจริญเอาๆ
เด๋วมีคนโน้นมาช่วยคนนี้มาช่วย แต่พอมาทำดีทำไมมันทำไม่ขึ้น
แถมไม่มีคนคอยช่วยอีกเหนื่อยใจแสนสาหัส ข้าพเจ้าคิดว่า(เฉพาะ
คนนี้นะคะ ไม่เกี่ยวกับคนอื่น)เป็นเพราะเขาเจริญแต่โทสะ โมหะ ราคะ
จนมันกล้าแข็ง มีตบะ เพราะฝึกสมาธิมาหลายชาติ จึงมีพลังจิตสูง
กำลังใจกล้าแกร่ง เวลาคิดชั่วทำชั่วพลังจิตก็มากตาม แบบว่าแช่งใคร
ก็เป็นไปตามความคิดของเขาได้
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k.kwan


จากข้อความด้านบนนี้ นะ
การฝึกสมาธิ มาหลายชาติ ของคนๆนี้นั้น
เป็นความต้องการของเขา ว่า เขาต้องการฝึกสมาธิ เพื่อให้ได้พลังจิต เพื่อทำความชั่ว
แล้วตัวเขาเองก็คิดว่า เขามีพลังจิตที่สูง

ที่จริงแล้วนั้น การฝึกของเขาจะเรียกว่า ฝึกสมาธิเพื่อสร้างพลังจิตไม่ได้ เพราะว่า คนๆๆนี้
เป็นคนไม่ดี จิตไม่ดี หรือว่า จิตหยาบ
เป็นคนที่มี กายหยาบ
เป็นคนที่ก่อกรรมทำเข็ญ มาหลายภพชาติ
เป็นคนที่สะสม เจ้ากรรมนายเวร ไว้ใน ข้อมูลความทรงจำ ของเขา
เป็นคนที่ มีแต่อารมณ์ โทสะ โมหะ ราคะ

 

กายหยาบ 1 จิตหยาบ 1 เจ้ากรรมนายเวรมากๆ 1

ไม่ว่าจะปฏิบัติ มามากน้อย แค่ไหน ก็ไม่สามารถสร้าง พลังจิต ได้
สิ่งที่ได้ ก็จะมีแต่เหงื่อไคล ความเร่าร้อน รุ่มร้อน รุ่มร่าม กลิ่นคาวกายหยาบ กลิ่นอารมณ์โลภ โกรธ หลง กลิ่มกามราคะ กลิ่นความอยาก อยาก อยาก

สิ่งที่ได้ คือ จุดประกายไฟให้กับ เจ้ากรรมนายเวร ที่บันทึกอยู่ในความทรงจำ ในกายของเขาเอง ไฟจะลุกโชติช่วง อยู่ตลอดเวลา
ไฟเผาทั้งจิต เผาทั้งใจ เผาทั้งกาย เผาอารมณ์







​

​

 

แล้วคนแบบนี้ นั้น จะสร้างพลังจิต ได้หรือ

พลังจิต คือ พลังงานที่สามารถขับเคลื่อนจิตคน ให้เดินทางไปสู่การกระทำที่ดี
สำหรับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป พลังจิต ไม่ใช่อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่หมอดู ทำนายทายทัก ไม่ใช่ร่างทรง ไม่ใช่ผู้สูงศักดิ์ ไม่ใช่ผู้ร่ำรวยเงินทอง ไม่ใช่ผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์ ............

 

อคฺคํ ฐานํ มนุสฺเสสุ มคฺคํ สตฺตวิสุทธิยา

​

มุตโตทัย ​

<DIR>

บันทึกโดยพระอาจารย์วิริยังค์ สิรินฺธโร ( ปัจจุบันพระราชธรรมเจติยาจารย์ วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ )ณ วัดป่าบ้านนามน กิ่ง อ. โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนครพ.ศ. ๒๔๘๖​

ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อธรรมดังต่อไปนี้ ​

</DIR>

<CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=499 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center>๑. การปฏิบัติ เป็นเครื่องยังพระสัทธรรมให้บริสุทธิ์

๒. การฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า
๓. มูลมรดกอันเป็นต้นทุนทำการฝึกฝนตน
๔. มูลฐานสำหรับทำการปฏิบัติ
๕. มูลเหตุแห่งสิ่งทั้งหลายในสากลโลกธาตุ
๖. มูลการของสังสารวัฏฏ์
๗. อรรคฐาน เป็นที่ตั้งแห่งมรรคนิพพาน
๘. สติปัฏฐาน เป็น ชัยภูมิ คือสนามฝึกฝนตน
๙. อุบายแห่งวิปัสสนา อันเป็นเครื่องถ่ายถอนกิเลส
๑๐. จิตเดิมเป็นธรรมชาติใสสว่าง แต่มืดมัวไปเพราะอุปกิเลส
๑๑. การทรมานตนของผู้บำเพ็ญเพียร ต้องให้พอเหมาะกับอุปนิสัย๑๒. มูลติกสูตร
๑๓. วิสุทธิเทวาเท่านั้นเป็นสันตบุคคลแท้
๑๔. อกิริยาเป็นที่สุดในโลก - สุดสมมติบัญญัต
๑๕. สัตตาวาส ๙
๑๖. ความสำคัญของปฐมเทศนา มัชฌิมเทศนา และปัจฉิมเทศนา๑๗. พระอรหันต์ทุกประเภทบรรลุทั้งเจโตวิมุตติ ทั้งปัญญาวิมุตติ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

๗. อรรคฐาน เป็นที่ตั้งแห่งมรรคนิพพาน
อคฺคํ ฐานํ มนุสฺเสสุ มคฺคํ สตฺตวิสุทธิยา

ฐานะอันเลิศมีอยู่ในมนุษย์ ฐานะอันดีเลิศนั้นเป็นทางดำเนินไปเพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ โดยอธิบายว่าเราได้รับมรดกมาแล้วจาก นโม คือ บิดามารดา กล่าวคือตัวของเรานี้แล อันได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นชาติสูงสุด เป็นผู้เลิศตั้งอยู่ในฐานะอันเลิศด้วยดีคือมีกายสมบัติ วจีสมบัติ แลมโนสมบัติบริบูรณ์ จะสร้างสมเอาสมบัติภายนอก คือ ทรัพย์สินเงินทองอย่างไรก็ได้ จะสร้างสมเอาสมบัติภายในคือมรรคผลนิพพานธรรมวิเศษก็ได้ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติพระธรรมวินัย ก็ทรงบัญญัติแก่มนุษย์เรานี้เอง มิได้ทรงบัญญัติแก่ ช้าง มา โค กระบือ ฯลฯ ที่ไหนเลย มนุษย์นี้เองจะเป็นผู้ปฏิบัติถึงซึ่งความบริสุทธิ์ได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรน้อยเนื้อต่ำใจว่า ตนมีบุญวาสนาน้อย เพราะมนุษย์ทำได้ เมื่อไม่มี ทำให้มีได้ เมื่อมีแล้วทำให้ยิ่งได้สมด้วยเทศนานัยอันมาในเวสสันดรชาดาว่า ทานํ เทติ สีลํ รกฺขติ ภาวนํ ภาเวตฺวา เอกจฺโจ สคฺคํ คจฺฉติ เอกจฺโจ โมกฺขํ คจฺฉติ นิสฺสํสยํ เมื่อได้ทำกองการกุศล คือ ให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนาตามคำสอนของพระบรมศาสดาจารย์เจ้าแล้ว บางพวกทำน้อยก็ต้องไปสู่สวรรค์ บางพวกทำมากและขยันจริงพร้อมทั้งวาสนาบารมีแต่หนหลังประกอบกัน ก็สามารถเข้าสู่พระนิพพานโดยไม่ต้องสงสัยเลย พวกสัตว์ดิรัจฉานท่านมิได้กล่าวว่าเลิศ เพราะจะมาทำเหมือนพวกมนุษย์ไม่ได้ จึงสมกับคำว่ามนุษย์นี้ตั้งอยู่ในฐานะอันเลิศด้วยดีสามารถนำตนเข้าสู่มรรคผล เข้าสู่พระนิพพานอันบริสุทธิ์ได้แล
http://www.luangpumun.org/muttothai_1.html#3​

 

อย่างคุณ แอ๊บแบ้ว<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1377634", true); </SCRIPT> นี่ ก็ถือได้ว่า เป็นคนที่มีพลังจิต
แต่ว่า stefa ไม่ต้องมาขยายความในตัวคุณ แอ๊บแบ้ว นะ ว่า คุณเป็นคนมีพลังจิตดี หรือว่า ไม่ดี เพราะว่า
คุณ แอ๊บแบ้ว มีพลังจิต

การที่คุณแอ๊บแบ้ว มีพลังจิต ไม่ใช่ว่า stefa เป็นหมอดู แล้วมาทำนายทายทักนะ stefa ก็ดูจากการที่คุณ แอ๊บแบ้ว โพสต์ ข้อความ ดูมีความจริงใจ แล้วก็บริสุทธิ์ใจ
คุณแอ๊บแบ้ว มีความกระตือรือร้น ในการขยายความ แล้วก็ต่อเนื่องเรื่องราว ให้แจ่มกระจ่างให้มากที่สุด
stefa ไม่ได้รู้จักหรือว่าไปแอบดูคุณ แอ๊บแบ้ว ว่าเป็นใคร แล้วก็มาทำเป็นแบบ สไตล์หมอดู มาอวดอ้าง
stefa รู้ว่า คุณมีความตั้งใจดี ก็แค่นี้แหละ ที่ทำให้รู้ว่า คุณแอ๊บแบ้ว เป็นคนดี เป็นคนมีพลังจิต

 

...... ขอให้ความรู้สึกดีๆ อย่างนี้แผ่ไพศาลไปให้เพื่อนธรรมทุกท่านด้วยนะครับ......หรือว่าสงวนลิขสิทธิอ่ะ?

 

.........................................................
บทกลอน(ขัดแตะ) : มิตรไมตรี
ประพันธ์โดย : แอ๊บแบ้ว 21/7/51
จุดประสงค์เพื่อ : เจริญปัญญา (ถูกผิดโปรดใช้วิจารณญาณ)
มอบแด่ : ท่านเต้าเจียว เพื่อสานคารมความ
.........................................................

วาจาสงวนพึงงาม .....จริงแล
คารมความต่อให้ ......สัมพันธ์
ยามเงียบงันนิ่งวาง.... ใจกลาง
ถูกทั่ว-สมตอบโต้ ......สานมิตรไมตรี


หลายมิตรล้วนควรเลือก.......เห็นด้วย
แต่จริตมิตรย่อมแต่ง ..........แสร้งสร้าง
หากมีศีลเครื่องแสดง..........เห็นได้
ทั้งสังคหธรรมจึงอยู่ ...........คู่ค้า ทานทน
.......................................................................................
นำมาแปะไว้ให้อีกที่หนึ่ง

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ stefa
พลังจิตมีความหมายในตัวสมบูรณ์
พลังจิตมีความหมายในด้านดีด้านเดียว<O
พลังจิตไม่นับรวมพลังจิตที่ไม่ดี<O
พลังจิตไม่มีโทสะราคะ<O
พลังจิตไม่มีคิดชั่วทำชั่ว



</TD></TR></TBODY></TABLE>
<O
ขอขยายความหน่อยครับ ที่ไปที่มาเป็นอย่างไร อะไรเป็นเหตุให้ท่านเข้าใจ อย่างนั้นๆ
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">





</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แอ๊บแบ้ว, stefa+ </TD></TR></TBODY></TABLE></B>
<!-- currently active users -->
เจริญธรรมท่านstefa+ ....หุหุหุ ........... ข้อความดังกล่าวที่มา..ที่ไปเป็นอย่างไรล่ะครับ?
.....................................................................................................
?????????????????????????????????????????????????????????
<O

 

พลังความสุข พลังความทุกข์ เพิ่มพูนได้ เผื่อแผ่ได้ ฝึกฝนได้ ขัดเกลาได้ กำหนดชีวิตได้ คุณล่ะ จะเลือกพลังแบบไหน ^-^

 

ต้องขออภัยที่เล่าไม่ละเอียด ทำให้คุณ stefa เข้าใจผิด
ทำชั่วที่พูดถึงนี้หมายถึงการทำงานให้สำร็จโดยไม่เกี่ยงวิธี
อย่างเช่นทำธุรกิจมีการแข่งขัน อาจทำทุกวิถีทาง
ที่จะชนะ ไม่ยอมแพ้ ประมาณนั้น แต่เขาไม่ได้ทำหรอกเพียงแต่เขารู้สึกว่า
ถ้าทำแล้วรุ่งแน่นอน (แค่เรื่องเล่าเล่นๆ ทำไมซีเรียสจังเนาะ)
จริงๆแล้ว เขาไม่ได้เป็นคนเลวหรอกค่ะ ค่อนข้างจะเป็นคนดีมากๆด้วย
สงสารเมตตาสัตว์มาก แต่เกลียดความเห็นแก่ตัวของมานุดบางคน
เกลียดคนทำชั่ว เพียงแต่ถ้าใครมาทำร้ายเขา เขาจะทำตอบแรงมาก
โทสะแรง โมหะแรง แบบนั้น ถ้าทำงานอะไรแล้วหวังผลสำเร็จได้
เขาไม่ทำร้ายใครก่อน นอกจากโดนกระทำจะเอาคืนเยอะ
ไม่รู้จะอธิบายยังไง บางทีก็ไม่รู้ใครถูกผิด บางทีก็เข้าใจผิด
ถ้าเขารู้สึกว่าโดนกระทำ โทสะมันนำหน้าไปแล้ว เจ้ากรรมนายเวร
มันก็วนเวียนทำกันไปทำกันมา ไม่รู้ใครทำใครก่อน บางทีก็หน้าที่
ที่ต้องทำ ทำให้เกิดเจ้ากรรมนายเวรก็มี แต่เดี๋ยวนี้เขาก็หัดเจริญสติ
รู้ว่าโทสะ รู้ว่าโมหะ ก็ยับยั้งชั่งใจได้ หัดละวางกิเลส
ไม่เอาคืนหนักเหมือนเมื่อก่อนเรื่องพลังจิตไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ
อาจใช้คำผิดก็ขออภัย

 

ภพชาติมนุษย์ สืบสาวกันมายาวนาน
สร้างเวรสร้างกรรม กันมามากมาย
เหมือน บ่วงโซ่ ร้อยเรียงผูกพันกันมา
โซ่เส้นใหญ่ เส้นกลาง เส้นเล็ก ต่างผู้ต่างคน


นิสัย สันดาน ต่างๆ นาๆ
วาจา จาบจ้วง หลากหลาย
โอ้อวด โป้ปด มดเท็จ มากมาย
คุยโต วางกล้าม ยะโส ใหญ่โต

 

ก็แค่เรื่องของคนขี้โม้ เล่านิทานคุณก็คิดมากไปได้

 

พลังจิต คือ พลังแห่งความบริสุทธิ์

คนดี มีพลังจิตได้ โดยไม่ได้ปฏิบัติ ก็มีมากมาย

คนที่ปฏิบัติ แต่ไม่มีพลังจิต ก็มีเยอะแยะ

ขึ้นอยู่กับผลการกระทำ ของแต่ละชาติภพ ของแต่ละคน

stefa คงไม่ต้องมาอธิบายต่อ อีกนะว่า
ความบริสุทธิ์ มีด้านดี กับ ด้านชั่ว
เพราะว่า ความบริสุทธิ์ มี ดี อย่างเดียว

เพราะฉะนั้น พลังจิต ก็คือ ความบริสุทธิ์ แห่ง พลังงาน

 

ก็แค่เรื่องของคนขี้โม้ เล่านิทานคุณก็คิดมากไปได้


พลังจิตสูงมีทั้งพลังจิตดี และพลังจิตที่ไม่ดี

เคยรู้จักคนนึง เค้ามักจะพูดว่าถ้าเค้าทำชั่วทำไมมันเจริญเอาๆ

เวลาคิดชั่วทำชั่วพลังจิตก็มากตาม แบบว่าแช่งใคร
ก็เป็นไปตามความคิดของเขาได้

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k.kwan

stefa ไม่ได้เน้น ในนิทานเรื่องนี้เรื่องเดียว
แต่ว่า stefa อาศัยข้อความแต่ละช่วงเท่านั้น ที่นำมาอธิบายเรื่องของ พลังจิต ให้ชัดเจน

ผู้คนจะได้ไม่เข้าใจผิด เดี๋ยวจะอ้างอิงกันไปใหญ่ แล้วนำเอาคำว่า มีพลังจิต ไปใช้ในทางที่ผิด ทางที่หากินกัน หลอกลวงคนไปทั่ว


<!-- / message --><!-- sig -->

 

หลวงพ่อสุข วัดป่าพรหมวิหาร บอกว่า พลังจิต คือ กำลังจิตดี เหนือกว่าความชั่วทั้งปวง เอาชนะความชั่วได้ ไม่ตกอยู่ใต้ความชั่วทุกอย่าง.

 

คำว่า อรหันต์ stefa จะไม่นำมาใช้ในการโพสต์ มาตลอด
ทุกคนไปไล่อ่านได้หมด

อีกคำหนึ่ง คือ คำว่า นิพพาน stefa ก็ไม่นำมาอ้างอิงเหมือนกัน

2 คำนี้ ใครๆก็ อยากมี อยากได้ อยากถึง อยากพบ อยากเจอ อยาก.................

 

นั่นแหละ วิภวตัณหา

 

Stefa เเจ่ม เเล้ว เจริญ ใน จินตนาการต่อ นะเอย นะเอย

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ฐาณัฏฐ์, stefa+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

หากเราสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราไม่ปราถนาได้โดยไม่รู้สึกอยากหนี
หรืออึดอัด หรืออยากทำลาย หรือมีอคติจิต อย่างใดอย่างหนึ่ง
คือ ปล่อยไปตามธรรมชาติใจ สักว่ารู้โดยไม่เข้าไปกระทำกรรมใหม่
เพียงจิตแว๊บแรกเกิดขึ้นแล้วตัดเป็นวางโดยไม่รู้สึก ข่ม หรือฝืนทน
นั่นแหละ อุเปกขาจิต

เสริมอีกหน่อย จิตดวงนี้แหละ ความปกติของใจ
เป็นทั้งบาท ทั้งฐานของสมาธิ ปัญญา และความเป็นธรรมดาของธาตุรู้

 

หลวงพ่อสุข วัดป่าพรหมวิหาร บอกว่า พลังจิต คือ กำลังจิตดี เหนือกว่าความชั่วทั้งปวง เอาชนะความชั่วได้ ไม่ตกอยู่ใต้ความชั่วทุกอย่าง.
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ผู้พันจุ่น


กำลังจิตดี เหนือกว่าความชั่วทั้งปวง
กำลังจิตดี จะต้องมาจากคนที่มีพลังจิต ซึ่งคือ คนที่มีพลังงานบริสุทธิ์
คนที่มีพลังงานบริสุทธิ์ สามารถเอาชนะความชั่ว ที่เข้ามากระทบชีวิตของคนที่มีพลังจิตนี้ ได้อย่างแน่นอน
ความชั่วนี้ ต้องอยู่นอกกายนะ ไม่ใช่นำมาคิดรวมเอาอยู่ในกายของคนที่มีพลังงานบริสุทธิ์ อย่านำมาปะปนกัน

ความชั่วที่อยู่ในกายคน หรือว่า กายคนที่มีเจ้ากรรมนายเวรอยู่ ก็คือ คนที่สร้างเวรสร้างกรรม มาในชาติภพใดก็ตาม
คนแบบนี้ จะต้องชดใช้กรรม นะ
การชดใช้ จะไปทำบุญ กรวดน้ำ ต่างๆ............. เพื่อที่จะมาชดใช้กรรม ไม่ได้หรอก
การชดใช้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ คนชั่วคนนี้ได้มาเกิดมาชนพอดิบพอดีกับ ชาติภพของ เจ้ากรรมนายเวร ที่ตนเองได้ทำกับเขาไว้
ชาติภพ ของมนุษย์ จะต้องหมุนเวียนเกิดตายกันไปตามกาลเวลา

การชดใช้นั้น จะเป็นอย่างไร ก็ต้องว่ากันไปตามกรณีนั้นๆ
จะมากจะน้อย จะรุนแรงอย่างไร แค่ไหน ก็ต้องแล้วแต่บ่วงโซ่ของแต่ละคู่กรณี