พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เริ่มมีเฉี่ยวๆกันหลายๆท่านแล้ว
    [​IMG]

    ลองดูกันนะครับ ถ้าทายครบทุกองค์ ถ้าถูกต้องทั้งหมด ผมมีพระพิมพ์มอบให้ แต่จะเป็นพระวังหน้า(ผมเลือกให้เอง)นะครับ สิ้นสุดการทายวันนี้(7/7/2551) เวลา 18.00 น.

    ***มีอยู่ 1 องค์ ที่ไม่ใช่ทั้งพระวังหน้าและวัดระฆังครับ***

    ยกเว้นทุกๆท่านที่เจอกันเมื่อวานนี้ หุหุหุ

    .
     
  3. channarong_wo

    channarong_wo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ท่านประธาน เออ..ผมไม่ได้หวังรางวัลครับ
    ผมจะขอทายอีกซัก 100 ครั้งได้ไหม้ครับ...คิ..คิ..คิ
    ผมว่าองค์สุดท้ายของแถว2จากซ้าย ไม่ช่าย ทั้งวังหน้าและวัดระฆัง คับ
     
  4. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ไม่เป็นไรครับคุณชาญถนัดตอบ ผมถนัดรับรางวัล เราแยกกันทำงานละกัน ทายไปเลยครับ 100 ครั้ง เดี๋ยวผมจะขอกับท่านปาทานให้อนุญาติโดยให้พิจารณาเฉพาะครั้งที่ทายถูก ก็จะไม่น่าเกลียด
    ;26
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทายอีกกี่ครั้งก็ได้ แต่ผมยึดคำตอบสุดท้ายนะครับ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอคำตอบสุดท้าย และต้องทายทุกองค์ด้วยนะครับ

    ผมก็โหดไม่น้อยไปกว่าคุณเพชรครับ

    .
     
  7. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    โหดอาไรกัน ผมว่าใจดี๊ใจดีทั้งคู่แหละ อุตส่าห์เอารูปมาให้ดู
    จริงๆแล้ว ปรารถนาดีด้วยใช่มั้ยครับ สอนให้รู้จักข่มใจไง ทมะ นี่เป็นธรรมชั้นหนึ่งนะ จะทำให้ระงับซึ่งกิเลสได้
    ในโอกาสนี้ขอเรียนเชิญพุทธบริษัทได้สดับพุทธธรรมที่
    สมเด็จพระญาณสังวร
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    วัดบวรนิเวศวิหาร

    ได้ทรงแสดงไว้ โดยขอตัดตอนมาเฉพาะแต่ ทมะ กับ กิเลส ติคตามเต็มๆได้ที่http://www.mahayana.in.th/tsavok/tape/014.htm



    ทมะ ความข่มใจ
    อีกข้อหนึ่งคือ ทมะ ความข่มใจ หรือความฝึกใจ

    อันมุ่งหมายถึงฝึกใจข่มใจให้ละกิเลสทุกอย่าง
    อันกิเลสที่บังเกิดขึ้นนั้น แม้ว่าผู้ปฏิบัติทำสัญมะคือความสำรวมระวัง
    แต่ก็มีเวลาที่จะเผลอสติ เมื่อเผลอสติอารมณ์ก็เข้ามา
    จิตก็จับอารมณ์เป็นสัญโญชน์ขึ้น ก็เกิดราคะหรือโลภะโทสะโมหะขึ้นในอารมณ์
    และบุคคลสามัญทั่วไปก็ยังมีกิเลสที่เป็นอาสวะอนุสัยดองจิตสันดานอยู่
    ที่ท่านเปรียบเหมือนอย่างว่าตะกอนที่นอนก้นตุ่ม กิเลสเหล่านี้ก็ฟุ้งขึ้นมา
    เป็นนิวรณ์ขึ้นในจิตใจ ก็ปรากฏเป็นกามฉันท์บ้าง พยาบาทบ้าง ความง่วงงุนเคลิบเคลิ้มบ้าง
    ความฟุ้งซ่านรำคาญใจบ้าง ความเคลือบแคลงสงสัยต่างๆบ้าง ยั้วเยี้ยอยู่ในจิตใจ
    ปรากฏอยู่ กำหนดดูที่ใจก็จะเห็นได้
    โทษของกิเลส
    ก็กิเลสเหล่านี้เองเมื่อบังเกิดขึ้นก็เป็นตัวข่มเหงใจ
    และเป็นตัวที่จะฝึกใจนี้ให้ปฏิบัติตามอำนาจของกิเลส
    ดังจะพึงเห็นได้ว่าเมื่อกำหนดดูจิตที่กำลังมีกิเลสกลุ้มกลัดอยู่
    ถ้าหากว่ามีความสำนึกดี ก็จะมีความรู้สึกว่าจิตนี้ในขณะที่มีกิเลสกลุ้มกลัดอยู่นั้น
    เหมือนอย่างบ้านที่กำลังถูกโจรปล้น หรือว่าอย่างบ้านที่หลังคารั่ว
    ฝนตกรั่วรดต้องเปียกมอมแมม ถ้ามีความรู้สึกดีย่อมจะมีความสำนึกดั่งนี้
    และถ้าหากมีความสำนึกอย่างนี้ได้ก็เป็นคุณเป็นประโยชน์ เพราะทำให้เห็นโทษของกิเลส
    เห็นโทษของราคะของโลภะของโทสะของโมหะ ว่าเป็นสิ่งที่ให้เกิดความทุกข์เดือดร้อน
    เมื่อเห็นโทษของกิเลสได้ ก็ย่อมจะทำให้หน่ายในกิเลส
    อันนี้สำคัญ คือให้หน่ายในกิเลส อย่าให้ไปรักกิเลส
    คนสามัญนั้นรักกิเลส รักราคะหรือโลภะ รักโทสะ รักโมหะ เป็นกิเลสซ้อนกิเลส
    เพราะมิได้หัดข่มจิต แต่ให้กิเลสเองเป็นฝ่ายข่มเหงจิต ข่มขู่จิต
    ให้กิเลสเองเป็นฝ่ายที่รังแกจิต ซ้ำกลับรักกิเลสซึ่งเป็นผู้ข่มเหงเป็นผู้รังแกอีกด้วย
    ดั่งนี้ก็คือว่ากิเลสฝึกจิตมา จนเห็นว่ากิเลสดีน่ารัก ก็รักกิเลสชอบกิเลส ไม่หน่ายในกิเลส

    เพราะว่าธรรมชาติของจิตนี้เมื่อเสวนาคุ้นเคยอยู่กับอะไรมาก ก็ย่อมจะน้อมไปในสิ่งนั้นมาก
    เพราะฉะนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสสอนให้กลับมาเป็นฝ่ายฝึกจิต ข่มจิต คือข่มเหงกิเลส
    ข่มกิเลสเสียบ้าง และเครื่องมือที่จะปฏิบัติในการข่มเหงกิเลส หรือข่มกิเลสนั้น
    ไม่มีอะไรดีที่สุดเท่าปัญญา คือความรู้ทั่วถึงความจริง
    ปัญญาที่เห็นโทษของกิเลส
    ปัญญาคือความรู้ทั่วถึงความจริงนี่แหละเป็นตัว ทมะ คือเครื่องข่มเครื่องฝึกอย่างดีเลิศ
    ปัญญาคือความรู้ทั่วถึงความจริงนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนธรรมะนักหนา
    สอนอย่างนั้น สอนอย่างโน้น สอนอย่างนี้ สอนอย่างนั้น ปริยายนี้ ปริยายนั้น มีอุปมาต่างๆ
    ก็เพื่อที่จะจี้ใจบุคคลให้ได้ความสำนึกเกิดปัญญา คือความรู้ทั่วถึงความจริงขึ้นนั้นเอง
    ดังที่ตรัสสอนยกอุปมาถึงหลังคารั่ว ฝนก็รั่วรด ฉันใดก็ดี จิตที่ไม่ได้อบรม กิเลสก็รั่วรด
    หรือแม้อุปมาประการอื่นก็เพื่อที่จะให้เห็นโทษของกิเลส ให้หน่ายในกิเลส รังเกียจกิเลส
    จะได้ไม่รักกิเลส ไม่รักราคะ ไม่รักโลภะ ไม่รักโทสะ ไม่รักโมหะ
    และถ้าหากว่าได้ปัญญาคือความรู้ขึ้นแม้สักนิดหน่อย คือปัญญาที่เห็นโทษกิเลส
    อันทำให้หน่ายในกิเลส คลายความรักในกิเลส ความติดในกิเลสได้แล้ว
    นั่นแหละเป็นอันว่าได้ตัวปัญญาที่มีคุณประโยชน์มาก แม้ว่ายังละไม่ได้ก็ยังดี
    เพราะว่าเมื่อกิเลสโผล่หน้าขึ้นมาก็จะได้ไม่ต้อนรับ รีบบอกว่าให้ไปๆเสีย หรือว่ารีบหนีไปเสีย
    เพราะรู้สึกว่ากิเลสที่บังเกิดขึ้น จะเป็นตัวราคะก็ตาม ตัวโลภะก็ตาม โทสะก็ตาม โมหะก็ตาม
    เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจจริงๆ สะอิดสะเอียนจริงๆ ไม่ชอบหน้าจริงๆ
    แต่ว่าเพราะยังละไม่ได้ ยังมีอาสวะอนุสัยที่ดองจิตสันดานอยู่ กิเลสจึงต้องโผล่หน้าขึ้นมาบ่อยๆ
    หรือนานๆครั้งก็ตาม แต่ว่าเมื่อโผล่ขึ้นมาแล้วก็รังเกียจ รู้สึกว่าไม่สบาย เดือดร้อน

    ( เริ่ม ๑๖/๒ )
    เช่นโกรธขึ้นมาก็รู้สึกว่าไม่สบายเดือดร้อน ไม่ชอบหน้าความโกรธ

    ต้องการให้ความโกรธนั้นในจิตใจของตัวเอง รีบๆดับไปเสีย หายไปเสีย
    อยากจะไล่ให้ไปเสีย ไม่อยากที่จะรับรองกิเลสเอาไว้

    ถ้าหากว่าได้ปัญญาที่มีความรู้จักโทษเห็นโทษของกิเลส มีความรู้สึกขึ้นดั่งนี้ได้
    แม้เพียงเท่านี้ก็เป็นประโยชน์ ดั่งนี้แหละคือเป็นตัว ทมะ
    คือตัวปัญญานี้เองที่จะเป็นเครื่องข่มได้อย่างดียิ่ง คือข่มกิเลส
    และเมื่อปฏิบัติอยู่ดั่งนี้แล้ว กิเลสเคยข่มใจบุคคลได้ บุคคลก็เริ่มจะข่มกิเลสได้
    แปลว่าพอจะสู้กับกิเลส เมื่อกิเลสบังเกิดขึ้นก็อาจที่จะระงับได้โดยง่าย
    เพราะว่าเกลียดหน้าอยู่แล้ว ไม่ชอบอยู่แล้ว
    แต่ว่าเพราะอยู่ด้วยกัน จะทำยังไงได้ ก็จะต้องโผล่หน้าเข้ามาเห็น
    ด้วยว่ากิเลสที่เป็นอาสวะอนุสัยดองจิตสันดานอยู่นี้ แปลว่าอยู่ด้วยกัน
    ถึงยังไงๆก็จะต้องโผล่หน้าขึ้นมา น้อยหรือมาก



    เพราะฉะนั้น หากมาปฏิบัติข่มกิเลสเสียเอง
    ด้วยปัญญาตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน โดยที่ไม่นึกว่าจะข่ม
    แต่ว่าเมื่อตั้งใจฟังตั้งใจปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนแล้ว
    ได้สติได้ปัญญาขึ้นมานั่นแหละเป็น ทมะ ขึ้นมาเอง โดยที่ไม่รู้จักว่านี่เป็นตัว ทมะ
    ไม่จำเป็นจะต้องรู้จักสมมติบัญญัติธรรมะก็ได้ว่านี่เป็นตัว ทมะ
    แต่เมื่อปฏิบัติได้ปัญญาขึ้นมา เห็นโทษของกิเลสขึ้นเอง ซึ่งมีอาการดังเช่นที่กล่าวแล้วนี้
    ก็เป็นอันว่าได้ปฏิบัติตัว ทมะ ขึ้นมา ก็เป็นอันว่ามีเครื่องมือที่จะข่มจิตตนเองได้
     
  8. channarong_wo

    channarong_wo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +1,510
    Final....แถวที่1จากซ้าย...องค์ที่1,4 ไม่ใช่วังหน้า องค์ที่2,3ของวังหน้า..ครับ
    องค์ที่ 6,7 วัดระฆัง องค์ที่5,8 บ่ใช่วัดระฆัง..ครับ
    แถวที่2จากซ้าย...องค์ที่ 1-5 วัดระฆัง องค์ที่6 บ่แม่นวัดระฆังเด้อ...ครับ
     
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ท่านปา-ทานให้ผมทายจิงอะ อย่าลืมว่าผมมีตาลุงแกเป็นเซียนเมืองเพชรคอยช่วยอยู่นาครับ
     
  10. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ขอคั่นรายการนิดครับ ตาลุงแกเอาอีกละ แกบอกไปค้นๆหากรอบพระ จ๊ะเอ๋ไปพบองค์นี้มา แกบอกงงครับ ดูไม่ขาด ไม่รู้ไงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  11. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    สนใจและศรัทธาคุณ สิทธิพงษ์มากผมดีใจที่สมัครสมาชิกได้แล้วหลังจากที่ลองตั้งนานมาก ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมไม่ค่อยเก่งเรื่องคอม
     
  12. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    จริงๆแล้วผมสะสมพระมาประมาณ 30 ปีแล้วที่บ้านมีพระมากๆทั้งพระที่หายากและเช่ามาในราคาถูกจนถึงราคาสูงจนกระทั่งผมได้อ่านกระทู้นี้ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าปัจจุบันนี้ทำให้ผมสนใจพระวังหน้าและพระที่ท่านเจ้าคุณพุฒาจารย์เสกจนผมได้มาสิบกว่าองค์แล้วและผมก็อาราธนาติดต้วตลอด ผมขอขอบคุณที่เป็นผู้จุดประกายให้ผมนะครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไอ้หย๋า เฮียมูมาถึงนี่แล้ว จะมีเวลามาคุยกันหรือครับ ตอนนี้เห็นได้ข่าวว่า จะซื้อแลมพาร์ด ตกลงซื้อได้หรือเปล่า
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไว้มาเฉลยหลังหกโมงเย็นดีกว่า หุหุหุ

    .
     
  16. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ผมพยายามใช้ชื่อหลายๆชื่อแล้วแต่ไม่เคยสมัครได้เลยครับพอดีน้องๆที่บริษัทรู้ว่าผมเป็นแฟนบอลเชลซีเวลามีแข่งกีฬาภายในของบริษัท MD ชอบแซวผมเป็นมูริญโญ่ ลูกน้องเลยเสนอให้ลองใช้ชื่อนี้ดู ถึงมันจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่เพราะผมอายุมากแล้ว 51 แต่พอเอามาใช้สมัครก็ผ่านฉลุยเลยครับ
     
  17. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ สะสมโดยไม่ได้คำนึงถึงราคาและการเก็งกำไรครับ ดีหรือไม่ พระหรือเณร ตัวท่านเท่านั้น จะเป็นผู้ตัดสินครับ ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่เริ่มจากความไม่รู้ และได้ศึกษาหาความรู้จากระทู้นี้เช่นกันครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ความรู้ที่ผมได้นำมาถ่ายทอดลงในกระทู้พระวังหน้าฯ จริงๆต้องยอมรับกันว่า ผมไม่ได้นำมาถ่ายทอดทั้งหมดที่รู้ และผมเองไม่ได้รู้ทั้งหมดที่ครูบาอาจารย์มีความรู้อยู่ ผมนำมาถ่ายทอดไม่ถึง 2 % เท่านั้น ยังมีเรื่องราวต่างๆอีกมากมายที่ผมรู้แต่ไม่ได้นำมาบอกกล่าว ทั้งความรู้จากในหนังสือ , ทั้งความรู้จากครูบาอาจารย์ , ทั้งความรู้จากท่านผู้รู้หลายๆท่านที่ได้ถ่ายทอดให้ผม และความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ตรงของตัวผมอง

    ผมเองไม่ใช่เก่งอะไร ยังต้องขอความรู้จากครูบาอาจารย์อีกมาก ,ยังต้องค้นคว้าจากหนังสืออีกเยอะ ครูบาอาจารย์ผมได้สอนผมไว้ว่า "การเรียนรู้ เรียนกันทั้งชีวิต ไม่มีวันจบสิ้นสำหรับ พระวังหน้า ,พระวังหลวง และพระพิมพ์,วัตถุมงคลต่างๆที่ครูบาอาจารย์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ที่ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิต ที่ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าและวังหลวงเมตตาได้ช่วยกันสร้างขึ้น จากพระราชดำรัชของรัชกาลที่ 4 ,รัชกาลที่ 5 ,รัชกาลที่ 6 ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบัณฑูรหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ

    เมื่อวานนี้ ท่านอาจารย์ประถม ท่านบอกกับทุกๆคนที่ไปหาท่านว่า ไม่เคยเห็นพระรุ่นนี้ ที่องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านอธิษฐานจิต ซึ่งไม่ใช่พิมพ์พระสมเด็จ แต่เป็นพิมพ์อื่น ท่านอาจารย์ประถม ท่านอายุถึง 87 ปี ได้เห็นพระพิมพ์ต่างๆ ผ่านตาท่านมาเป็นจำนวนมาก ในสมัยก่อน ท่านตรียัมปวายก็ยังต้องไปหาและแลกเปลี่ยนความรู้กับท่านอาจารย์ประถม หรืออย่างท่านพันเอกชม สุคันธรัตน์ ก็เช่นกัน ถ้าเป็นเซียนพระรุ่นโบราณ ต้องรู้จักกับท่านอาจารย์ประถม แน่นอน เรื่องบางอย่างผมทราบดี เซียนพระบางคนก็ไปหาท่านอาจารย์ประถม สส.บางท่านก็ไปหาท่านอาจารย์ประถม หรืออีกหลายๆคน หลายๆอาชีพก็ไปหาท่านกันเยอะ แต่ผมเองไม่สามารถบอกออกอากาศได้

    เรื่องความรู้ก็เช่นกัน กว่าผมจะมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับพระพิมพ์,วัตถุมงคลต่างๆที่ครูบาอาจารย์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ที่ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิต ที่ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าและวังหลวงเมตตาได้ช่วยกันสร้างขึ้น จากพระราชดำรัชของรัชกาลที่ 4 ,รัชกาลที่ 5 ,รัชกาลที่ 6 ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบัณฑูรหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ผมได้ผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย เสียเงิน เสียเวลาไปมาก แต่ความรู้ที่ได้กลับมานั้น คุ้มค่ายิ่งนัก แต่(อีกแล้ว) ความรู้ที่ได้กลับมานั้น เมื่อเทียบกับครูบาอาจารย์แล้ว ต้องนับว่ายังห่างไกลมากจริงๆ

    ผมจะบอกว่า ใจต้องรักและเชื่อมั่นจริงๆ รักทั้งศิลป ,รักทั้งองค์ผู้อธิษฐานจิต ,รักในประวัติศาสตร์ และรักในทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับพระวังหน้าหรือพระวังหลวง เมื่อศึกษาค้นคว้าอย่างจริงๆจังๆ กับผู้รู้จริง แล้วจะหลงไหลในความมหัศจรรย์ ,ความพิศดารของคนโบราณ ว่า ท่านเหล่านั้น คิดมาได้อย่างไร , ทำไมถึงต้องสร้างขึ้นมา , สร้างขึ้นมาเพื่อประโยชน์อะไร ฯลฯ

    อย่าเชื่อผม ผมเองไม่เคยเชื่อใคร ต้องพิสูจน์เองด้วยตัวเอง แล้วนำเรื่องราวที่ได้พิสูจน์ไปสอบถามครูบาอาจารย์ว่า สิ่งที่เรารู้และเข้าใจนั้น ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร ลองดูนะครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ส่วนเพื่อนบ้านของผม นำมาลงไม่ได้ ผมลืมสายลงเครื่องจากที่ทำงานมาที่บ้าน ไว้วันพรุ่งนี้ ผมจะนำลงให้ชมกันบ้าง อย่าลืมเตือนผมอีกครั้งนะครับ

    .



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระพิมพ์ของเพื่อนบ้านผม

    [​IMG]

    ลองทายดูนะครับว่า มีองค์แท้กี่องค์ องค์เก๊กี่องค์
    แท้หรือเก๊ของวังหน้า,วัดระฆังหรือที่อื่น

    การตอบ ให้ตอบลักษณะอย่างนี้ผมยกตัวอย่างให้ดูว่า จะเขียนอย่างไร

    แถวบน องค์ที่ 5 จากซ้ายมือ หรือองค์ที่ 4 จากขวามือ แท้วังหน้า
    แถวล่าง องค์ที่ 6 จากซ๊ายมือ หรือองค์แรกจากขวามือ แท้วัดระฆัง

    ลองตอบกันดู แต่ไม่มีของรางวัลครับ

    ช่วยดูให้เพื่อนบ้านผมหน่อย
    <!-- / message --><!-- sig -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมเฉลยนะครับ

    [​IMG]

    แถวบน จากซ้าย องค์ที่ 1 , 2 , 3 , 4 , 6 , 7 , 8 เป็นพระวังหน้า แต่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านอธิษฐานจิตเดี่ยว

    แถวบน จากซ้าย องค์ที่ 5 เป็นพระสมเด็จ ที่สร้างขึ้นที่วัดระฆัง แต่มีการนำไปบรรจุตามวัดต่างๆ หลายๆแห่ง เป็นพระสมเด็จที่หาได้ค่อนข้างยาก (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านอธิษฐานจิต แต่ส่วนองค์อธิษฐานจิตองค์อื่น อีก 3 พระองค์ ผมขอไม่แจ้งให้ทราบครับ)

    แถวล่าง จากซ้าย องค์ที่ 1 , 2 , 3 , 4 , 5 เป็นพระของวังหน้าเช่นกัน แต่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านอธิษฐานจิตเดี่ยว

    แถวล่าง จากซ้าย องค์ที่ 6 เป็นพระวังหน้าเหมือนกันอีก แต่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรอธิษฐานจิต (ขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งว่า หลวงปู่พระองค์ไหนอธิษฐานจิตครับ)

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...