พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=137383

    ให้อภัย ... การให้ที่บริสุทธิ์

    http://hilight.kapook.com/view/26092



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    ข้อมูลจาก Forward mail
    เรื่องโดย อนุสรา ทองอุไร
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

    การแสดงอภัยทาน เป็นการชำระใจ แม้จะดูพูดง่ายแต่ก็ทำได้ยาก หากไม่ฝึกทำจนเป็นปกติ เพื่อให้เข้าใจง่ายและอยากทำให้ได้ ขอให้พิจารณาเหตุผลถึงความต่อเนื่องของผลกรรม ที่มีผลข้ามภพข้ามชาติว่า ให้ผลร้ายแรงเพียงใด เป็นไปได้ไหม? ที่เราต้องการยุติการส่งผลของกรรมกับคนนั้นเพียงภพนี้เท่านั้น หรือว่าอยากจะพบอยากจะใช้กรรมกันต่อไป หลายคนที่รักมาก หลงมาก แค้นมากก็ผูกใจเจ็บไม่ให้อภัย ไม่ยกโทษให้ เหมือนการผูกสิ่งที่ไม่ชอบไว้ที่ตนเองตลอดเวลา . . .

    การให้อภัยจะช่วยให้สามารถยุติปัญหาต่างๆ ได้ เปรียบเสมือนคนล้างแก้วน้ำให้สะอาด ทำให้เหมาะสมที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่ ส่วนหนึ่งจากการเทศนาธรรม จัดโดยสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ร่วมกับบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิสชิ่ง พระศรีญาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ที่มาเทศน์เรื่องการให้อภัยทาน มีเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์นำมาปรับใช้ให้ใจเป็นสุข

    [​IMG]


    [​IMG]ให้อภัยเหมือนล้างใจให้สะอาด

    การให้อภัยจะช่วยให้สามารถยุติปัญหาต่างๆ ได้ เปรียบเสมือนคนล้างแก้วน้ำให้สะอาด ทำให้เหมาะสมที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่ เหมือนการโยนของที่ไม่ชอบทิ้งเสียโดยไม่ต้องเสียดาย การให้อภัยคือการแสดงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อภัยทานเวลาจะให้ไม่ต้องไปขอใคร ไม่เหมือนใครมาขอเงินเรา ที่ต้องควักกระเป๋าให้ แต่การให้อภัยไม่ต้องหาจากไหนและไม่รู้สึกว่าเป็นการสูญเสีย

    ขอให้ภูมิใจเมื่อมีใครมาขอโทษ เมื่อมีใครให้อภัยเราหรือเมื่อสำนึกได้ว่าได้ทำอะไรผิดพลาดไปก็ขอโทษกัน การขอโทษหรือการให้อภัย มิใช่การเสียหน้าหรือเสียรู้ มิใช่การได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด หากแต่เป็นการชำระใจให้สะอาด เหมือนภาชนะสกปรกก็ชำระล้างให้สะอาด ใครจะคิดอย่างไรมิใช่ประเด็น แต่สำหรับผู้แสดงออกว่าเราให้อภัยในเรื่องนี้ต่อบุคคลผู้นี้แล้ว นั่นเป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งนั้นจะถูกบรรจุลงไปในจิตของเรานั่นเอง

    การผูกอาฆาต ความพยาบาท ความอิจฉา โกรธ เกลียด ความคิดแก้แค้น ทิฐิมานะนั้น เป็นเสมือนเชื้อไวรัส อภัยทานคือเครื่องมือแอนตี้ไวรัส ส่วนจิตของเราเหมือนคอมพิวเตอร์ ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้อาจจะดูเหมือนยาว แต่มีใครบอกได้ว่าจะอยู่ได้ปลอดภัยถึงวันไหน เราต้องการความทรงจำที่เลวร้าย หรือต้องการความทรงจำที่ดีในชีวิต ต้องการนั่งนอนอย่างมีความสุข มีชีวิตอยู่ด้วยความอิ่มเอิบหรือต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยการถอนหายใจ ด้วยความทุกข์และกังวลใจ สิ่งเหล่านี้กำหนดได้ที่ตัวเอง

    [​IMG]


    [​IMG]ฝึกใจให้คิดแต่เรื่องดีๆ

    ความคิดเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก สุขหรือทุกข์ของมนุษย์อยู่ที่วิธีคิด คิดเป็นก็พ้นทุกข์ คิดไม่เป็นแม้แต่เรื่องมิใช่เรื่อง ก็อาจเกิดเรื่องได้ คนเราอยู่ไม่ถึง 100 ปี ทำไมจะเสียเวลามาครุ่นคิดเรื่องไร้สาระ ทำไมจะต้องเสียเวลามาทำเรื่องที่ทำให้เกิดทุกข์ การยอมกันเสียบ้าง ก็เป็นความสุขได้ไม่ยาก เวลาที่โกรธ เกลียด พยาบาทใคร สีหน้าของเราจะเปลี่ยนไปหน้าจะเครียดแดงก่ำ เลือดสูบฉีดเร็ว หัวใจเต้นแรง มือไม้สั่น

    เวลาโกรธจัดจิตที่ถูกครอบงำโดยอารมณ์ร้าย คือ ความหนักใจ เหนื่อยหอบ ทำอะไรก็เป็นทุกข์ไม่มีความสุข แต่พอได้ยกโทษให้ใครเมื่อหายโกรธเหมือนยกภูเขาออกจากใจ จะรู้สึกทันทีว่ายิ้มได้ มีความสบายใจโล่งโปร่งสบาย คิดแต่เรื่องดีๆ จิตใจก็เบิกบานอิ่มเอิบ ที่สำคัญช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ผ่องใส

    เราอาจคิดว่าการให้อภัยบ่อยๆ แก่คนบางคน เขาอาจจะไม่ปรับตัว ยังก่อเหตุอยู่เสมอๆ งานก็ไม่สำเร็จ ยังเหลวไหลอยู่เหมือนเดิม นั่นอาจเป็นเหตุผลในการทำงาน แต่สำหรับเหตุผลของใจนั่น เมื่อให้อภัยใจเราก็เบา เพราะหมดห่วง หมดทุกข์ หมดสนิมที่จะมากัดใจให้ผุกร่อน วิธีคิดมีความสำคัญมากสำหรับชีวิตของคน เรามักได้ยินเสมอว่า แพ้หรือชนะอยู่ที่กำลังใจ แท้จริงแล้วคำว่ากำลังใจก็คือวิธีคิดนั่นเอง พลังที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์คือการที่ใจมีกำลัง และเป็นกำลังจากความคิดที่ดี

    มนุษย์จึงต้องสร้างกำลังใจให้แก่กันและกัน กำลังใจเป็นสิ่งที่ให้ไม่รู้จักหมด ยิ่งให้คนอื่นได้มากเท่าไร กำลังใจก็จะยิ่งเกิดขึ้นแก่เรามากเท่านั้น เหมือนวิชาความรู้ ยิ่งให้ยิ่งพอกพูน ยิ่งหวงไว้เฉพาะตัวก็ยิ่งหดหาย การให้อภัยแม้ยากแต่หากพยายามทำบ่อยๆ ให้กลายเป็นนิสัย จะเป็นความสุขใจในภายหลังเมื่อย้อนนึกถึง ด้วยเหตุนี้จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้ได้ ไม่ให้ใจเป็นถังขยะแต่ให้ใจเป็นหิ้งบูชาพระที่งดงามทุกวัน ด้วยการมองแต่เรื่องดีๆ ของคนให้พบ มองบวกคิดบวกพูดบวก เพราะการทำอะไรเป็นบวกจะทำให้ได้กำไรใจสบาย

    [​IMG]


    [​IMG]ศัตรูก็ควรให้อภัย

    เคยไหมบางคนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่พอเห็นหน้าจะรู้สึกไม่ชอบทันที จะพูดจะทำอะไรดูเกะกะน่ารำคาญไปหมด แม้แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเราก็เช่นเดียวกันนั่นเป็นเพราะอดีตเราไม่ยอมให้อภัยต่อกัน การที่ไม่ยอมให้อภัยเหมือนเราไม่ยอมล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย แม้จะไปที่ไหน สวมใส่เสื้อผ้าชนิดใด งามแค่ไหน ร่างกายของเราก็ยังคงสกปรกและตามไปทุกหนทุกแห่ง การให้อภัยเปรียบเหมือนการอาบน้ำชำระร่างกาย

    ท่านอาจลืมคิดไปว่าลูกหลานที่เกิดมาแล้วผลาญทรัพย์ทำลายชื่อเสียง ทำให้พ่อแม่เดือนร้อนนอนทุกข์นั้น แท้จริงก็คือศัตรูในชาติที่แล้วที่ไม่ได้อโหสิกรรมแก่กัน กรรมจึงติดตามกันมาเห็นผลถึงชาตินี้ บางทีคนที่เขาโกรธเราหากเราไม่โกรธตอบ ก็จะไม่เป็นการตอบรับกระแสกัน เหมือนโทรศัพท์ถึงกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดโทรศัพท์รับ ฝ่ายที่โทร.ถึงก็หมดสิทธิจะคุยกันเพราะกระแสไม่ถึงกัน การตอบรับซึ่งกันและกันหากเป็นความโกรธ ความแค้น สิ่งที่จะตามมาก็คือการรับรู้และเก็บอารมณ์ทั้งโกรธและเกลียดไว้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

    เมื่อรู้แล้วก็ควรสละอารมณ์นั้นด้วยตัวเราก่อน เพื่อป้องกันจิตมิให้เป็นทุกข์เพราะคนนั้นเป็นเหตุ คิดเสียว่าเขาไม่ได้อยู่ในโลกนี้ ไม่ไปยึดเป็นรักเป็นชัง ก็เมื่อแม้แต่รักพระท่านยังสอนให้ละทิ้ง เพื่อมิให้ยึดติด แล้วทำไมเราจะยังมองเห็นโกรธแค้นเป็นสิ่งที่จะต้องยึดมั่นอยู่ได้ ดังนั้น วิธีการแผ่เมตตาท่านจึงสอนไม่ให้คิดว่าเป็นคนที่รักหรือชัง หากแต่ให้คิดว่าเป็นสรรพสัตว์ที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย ร่วมโลกเดียวกันการคิดเช่นนี้เป็นการปรับอารมณ์ให้สมดุลไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

    [​IMG]


    [​IMG] แผ่เมตตาให้สัตว์ที่กินเป็นอาหาร

    เจ้ากรรมนายเวร คือ สัตว์น้อยใหญ่ที่เรากินเป็นอาหาร ไม่ว่าจะเป็นหมู เนื้อ ไก่ เป็ด ปลา กุ้ง หอย ต่างๆ นับตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันนับไม่ถ้วนกี่ร้อยกี่พันชนิด เนื้อหนังมังสาของเรา อวัยวะทุกส่วนล้วนแล้วแต่มีหุ้นส่วนของสัตว์น้อยใหญ่ทั้งสิ้น อย่าคิดว่าเป็นของเราคนเดียวแล้วไม่เคยแผ่เมตตาให้สัตว์น้อยใหญ่ ที่เรากินเข้าไปทุกวันๆ ทั้งๆ ที่เขาสละชีวิตของเขาเพื่อต่อชีวิตเราให้ยาวออกไป

    หากเขารู้สึกน้อยใจที่ถูกเพิกเฉย ความน้อยใจของเขาบางครั้งทำให้เราเกิดโรคร้าย เช่น มะเร็ง บางคนป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ หมอก็หาโรคไม่เจอ แต่พอแผ่เมตตากลับหายเรื่องเช่นนี้ มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย การแผ่เมตตาให้เขา แท้จริงก็คือแผ่ให้ตัวเรานั่นเองการให้เขาคือการให้เรา เพราะเขาอยู่กับเราเขาคือร่างกายของเรา เขาสละชีวิตเลือดเนื้อมาเป็นพลังงานให้ชีวิตเรา

    การแผ่เมตตาทำได้ง่ายเพียงแต่ให้นึกถึงเขาเสมอๆ คิดถึงความดีของเขาที่ได้ส่งเสริมให้เรามีชีวิตอยู่ การแผ่เมตตาถือเป็นการแสดงความขอบคุณต่อหลายชีวิตที่ถูกปรุงเป็นอาหารอร่อยว างบนโต๊ะอาหารรอเรามาขบเคี้ยว ชีวิตเราถูกเลี้ยงโดยสัตว์อื่นการกินคือการต่ออายุ วันหนึ่งเราต่ออายุ 3 เวลา แต่ละเวลาเราต้องกินอาหารอื่นนับสิบชีวิต

    ขอให้เราฝึกให้อภัยทุกวัน ทำเหมือนที่เราแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ ขอให้เราทำทุกครั้ง ทำเหมือนกรวดน้ำหลังทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สรรพสัตว์น้อยใหญ่ การให้อภัยแก่ใครนั้นเป็นเรื่องง่ายดาย เป็นเรื่องธรรมดาๆ คือทำได้โดยไม่ต้องฝืนใจทำ

    เมื่อให้อภัยเสียแล้วใครๆ ที่ผูกอาฆาตพยาบาทเราไว้ แรงพยาบาทของเขาก็จะหมดโอกาสติดตามเรา เพราะกรรมนั้นหมดแรงส่ง เนื่องจากเราได้อโหสิเสียแล้ว ยุติสนิมในใจคือความพยาบาทอาฆาตให้หมดสิ้นไปจากใจของเราเสียแต่บัดนี้ ​
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kaicp [​IMG]
    ผมได้บูชาพระไรพินาศเมื่อประมาณ 3 ปี ที่แล้วจากเพื่อน
    พร้อม ๆ กับทำบุญบูชาสมเด็จโต หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เทพโลกอุดร
    และหลวงปู่อีกหลายท่าน

    ด้วยความเชื่อมั่นในบุญบารมีของหลวงปู่ทุก ๆ ท่าน
    หมั่นทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระ เท่าที่สามารถทำได้
    ปรากฎผลดีทั้งตัวเอง ใจเป็นสุข ครอบครัวสบายใจมากขึ้น งานดีขึ้นเรื่อย ๆ

    รูปที่ 1 ผมถ่ายรูปไว้ เมื่อประมาณ ส.ค 2548 เกือบ 3 ปีที่แล้ว
    รูปที่ 2 เพิ่งถ่ายเมื่อประมาณต้นปี 2551 นี้

    เชื่อมั่น บูชา ทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ และหมั่นทำความดีเถอะ
    ผลดีจะเกิดกับตัวเอง ครอบครัวและสังคมที่อยู่ด้วยครับ
    [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนบางกลุ่มบางพวก พวกบัวใต้น้ำ ที่ไม่เคยปฎิบัติธรรม ไม่เคยรู้ถึงบาป ถึงกรรม จะไม่สนใจ คงต้องให้เป็นไปตามกรรมที่คนเหล่านั้นกระทำ

    จะบอกว่า ให้คนบางกลุ่มบางพวก พวกบัวใต้น้ำทั้งหลาย รีบปรามาสเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นก่อนและหลังอาหารเช้า ,ช่วงเบรคเช้า ,ก่อนและหลังอาหารกลางวัน ,ช่วงเบรคบ่าย ,ก่อนและหลังอาหารเย็น ,เวลาพักผ่อนตอนหัวค่ำ และก่อนนอน ให้ปรามาสทุกๆเวลาที่นึกได้ จะเป็นการพิสูจน์ว่า พระวังหน้าฯมีจริงหรือไม่ อย่างไร ให้ปรามาสเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ปรามาสบ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    พระวังหน้าหรือพระวังหลวง ที่สร้างโดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง หรือช่างราษฎร์ นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษก ที่วังหน้าหรือวังหลวง องค์ผู้อธิษฐานจิต หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์(หรือพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง หรือสอง,สาม,สี่,ห้าพระองค์) ,หลวงปู่แสง ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ,หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ,หลวงปู่สมเด็จกรมพระยาปวเรศ ,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ,หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งแล้วแต่รุ่นที่สร้าง แล้วแต่ระยะเวลาที่สร้าง แล้วแต่วาระและโอกาสต่างๆครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ตอนนี้ จิตผมคิดอกุศลมากๆ ต้องการให้คนบางกลุ่มบางพวก พวกบัวใต้น้ำ ให้รับกรรมให้เร็วที่สุด ให้รับกรรมหนักทั้งๆตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ และหลังจากตายไปแล้ว ซึ่งจะให้รับกรรมให้นานแสนนาน

    หมายเหตุ ระวังเรื่องของการกดอนุโมทนาด้วยครับ
    .
     
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  6. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    โมทนาเฉพาะที่หมายเหตุครับ คิคิ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อิ่มบุญครับ วันนี้ได้ไปอัญเชิญสิ่งสักการะสูงสุดมาที่พักอาศัย ขึ้นลงอยู่ ๖ เที่ยว บอกเล่าอธิบายละเอียดมากไม่ได้ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่ไม่รู้ว่าจะบอกไปทำไม คนใช้ปัญญามากกว่าศรัทธา ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่เสียเวลานานหน่อยก็เท่านั้น หากอยากทราบความจริงต้องขวนขวายหาความจริง ต้องมีวาระของการได้พบ และได้เห็นของจริงด้วย หากไม่มีวาระต้องกันประจวบกัน ความพยายามก็ไร้ผล มันอาจจะขัดกับหลักการที่ว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นอยู่บ้าง พวกมีวาระก็มีอยู่ทุกวัน ทุกอาทิตย์ ทุกเวลา มักจะแปลกใจเองว่า ทำไมเจออีกแล้ว(วะ ..ขอโทษเสียงฟิล์ม) พวกไม่มีวาระ ก็หาไปเถอะ ไม่มีโอกาส และวาสนาได้พบ สมบัติมีค่า คนไม่ดีมาขุดหา สมบัตินั้นก็มุดหนี ต่อให้วางอยู่ตรงหน้า ก็ยังแยกแยะไม่ออกว่าสิ่งใดจริง สิ่งใดเท็จ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ได้ยินได้เห็นเรื่องที่พวกเขาคุยกัน ก็ได้แต่ขำๆ พวกที่ไม่รู้เขาคุยกัน เราจะฟัง"พวกไม่รู้เรื่อง"เขาคุยให้ฟังได้อย่างไร และจะฟังให้เข้าใจ และให้รู้ได้อย่างไร เสียเวลาเปล่า <!-- / message --><!-- sig -->
     
  8. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>วิธีปฏิบัติของผู้เล่าเรียนมาก ...พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ

    ผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์วินัยมาก มีอุบายมากเป็น ปริยายกว้างขวาง ครั้งมาปฏิบัติทางจิต จิตไม่ค่อยจะรวม ง่าย ฉะนั้นต้องให้เข้าใจว่าความรู้ที่ได้ศึกษามาแล้วต้อง เก็บใส่ตู้ใส่หีบไว้เสียก่อน ต้องมาหัดผู้รู้คือจิตนี้ หัดสติให้เป็นมหาสติ หัดปัญญาให้เป็นมหาปัญญา กำหนดรู้เท่ามหาสมบัติ-มหานิยม อันเอาออกไปตั้งไว้ว่าอันนั้นเป็นอันนั้น เป็นวันคืนเดือนปี เป็นดินฟ้า อากาศกลางหาว ดาวนักขัตฤกษ์สารพัดสิ่งทั้งปวง อันเจ้าสังขารคืออาการจิต หากออกไปตั้งไว้บัญญัติไว้ว่าเขาเป็นนั้นเป็นนี้ จนรู้เท่าแล้ว เรียกว่า กำหนดทุกข์ สมุทัย เมื่อทำให้มาก-เจริญให้มาก รู้เท่าเอาทันแล้ว จิตก็จะ รวมลงได้ เมื่อกำหนดอยู่ก็ชื่อว่าเจริญมรรค หากมรรคพอแล้ว นิโรธ ก็ไม่ต้องกล่าวถึง หากจะปรากฏชัดแก่ผู้ปฏิบัติเอง เพราะศีลก็มีอยู่ สมาธิก็มีอยู่ ปัญญาก็มีอยู่ในกาย วาจา จิต นี้ที่เรียกว่าอกาลิโก ของมีอยู่ทุกเมื่อโอปนยิโก เมื่อผู้ ปฏิบัติมาพิจารณาของที่มีอยู่ ปจฺจตฺตํ จึงจะรู้เฉพาะตัว คือ มาพิจารณากายอันนี้ให้เป็นของอสุภะเปื่อยเน่า แตกพังลง ไป ตามสภาพความเจริญของภูตธาตุ ปุเพสุ ภูเตสุ ธมฺเมสุ ในธรรมอันมีมาแต่เก่าก่อนสว่างโร่อยู่ทั้งกลางวันและ กลางคืน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้มาปฏิบัติพิจารณาพึงรู้อุปมารูปเปรียบดังนี้ อันบุคคลผู้ทำนาก็ต้องทำลงไปในแผ่นดิน ลุยตมลุย โคลนตากแดดกรำฝน จึงจะเห็นข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าว สุกมาได้และได้บริโภคอิ่มสบาย ก็ล้วนทำมาจากของมีอยู่ ทั้งสิ้นฉันใด ผู้ปฏิบัติก็ฉันนั้น เพราะศีล สมาธิ ปัญญา ก็อยู่ใน กาย วาจา จิต ของ ทุกคนฯ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (ธรรมเทศนาในปัจฉิมสมัยของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระซึ่ง พระภิกษุทองคำ ญาโณภาโส และ พระภิกษุวัน อุตตโม จดบันทึกไว้)
    จาก http://www.schoolofdhamma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5363367&Ntype=1<o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder style="BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: Re: ขอสอบถามครับ</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->[​IMG] เมื่อวานนี้, 09:58 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>กันนะ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 06:54 PM
    วันที่สมัคร: Jan 2008
    ข้อความ: 396
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 12
    ได้รับอนุโมทนา 604 ครั้ง ใน 237 โพส
    พลังการให้คะแนน: 84 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->Re: ขอสอบถามครับ
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กันนะ
    [​IMG]ไม่ทราบว่าองค์ที่เป็นพระสมเด็จ องค์ด้านขวา(ไม่ใช่องค์รูปหลวงปู่โตนะครับ ผมตัดรูปไม่เป็น) ยังพอมีไหม และทันหลวงปุ่โตเสกหรือเปล่าครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมขอตอบบนบอร์ด(กระทู้พระวังหน้าฯ หมวดพระเครื่องและวัตถุมงคล) ได้หรือเปล่าครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ได้ครับ
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    *********************************************************

    ผมจะบอกว่า พระพิมพ์นี้ เป็นพิมพ์ที่สร้างและเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง เมื่อปี พ.ศ.2451 แน่นอนว่า ไม่ทันองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แต่องค์อภิญญาใหญ่(หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ,หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ฯลฯ) เป็นองค์อธิษฐานจิตครับ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผู้ที่มีวาสนาบารมีและผู้ที่เป็นเจ้าของเดิมหรือผู้ที่........ ก็มักจะได้มาเสมอๆ เพื่อไว้ทำประโยชน์กับพุทธศาสนา และเผื่อแผ่ไปยังกับผู้คนอีกจำนวนมากให้ได้มีโอกาสได้สักการะสิ่งที่เป็นมงคลสูงสุด

    เป็นเรื่องของวาสนาและบารมีโดยแท้

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ดีใจที่ได้เจอพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ รวมทั้งลุงข้างบ้าน ป้าข้างบ้าน อาข้างบ้าน นั่งคุยกันไป ขำกันไป น้องที่นั่งข้างขวาก็นั่งกำ....แล้วนั่งกลืน...... กำอะไรรู้หรือเปล่า ไว้เดี่ยวเฉลย ส่วนลุงที่นั่งข้างซ้ายผมก็นั่งไปส่ายหน้าบ้าง ถอนหายใจบ้าง เอ้ยไม่บ้างครับ บ่อยเลย

    ป้าข้างบ้านผมนี่ก็ วันนี้สงสัยว่า ต้องไปหาผ้าชุบน้ำอุ่น ประคบตา ผมกลัวว่าตาจะอักเสบจริงๆ

    เกือบลืม น้องที่นั่งข้างขวาผม นั่งกำ เอ้ กำอะไรดีครับ อ่ะบอกก็ได้ว่า กำพระสมเด็จกลักไม้ขีด ไม่วางเลย กำแล้วกำอีก กำแล้วก็นั่งกลืนน้ำลาย เห็นแล้วก็มองแล้วมองอีก แซวเล่นนะศิษย์น้อง

    วันนี้ผมแจกพระ.......เนื้อวัดระฆัง ที่องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านบอกกับพี่ใหญ่ว่า "ปู่เสกเองจ๊า" (หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตไว้ก่อนปี พ.ศ.2415) ส่วนท่านที่ไปก่อน ผมแจกพระ..... เนื้อสีแดงและสีเขียว ส่วนท่านที่ไปทีหลัง พระ...หมดก็เลยไม่ได้แจก แถมผมแจกพระสมเด็จหลังเบี้ย ซึ่งมีบางแห่งให้เช่าองค์ละ 5,000 - 12,000 บาท แต่ผมแจกฟรี

    นอกจากนี้ ทุกๆท่านที่ได้ไป ได้รับแจกพระ.....และพระ...... ทุกๆคนดีใจกันมากๆๆๆๆๆ แค่พระ.....เนื้อวัดระฆัง องค์เดียวก็เหลือกินเหลือใช้แล้ว ลองนำไปห้อยเดี่ยวดูนะครับ

    วันนี้นั่งคุยกันไป นั่งหัวเราะกันไป เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ แป๊บๆก็สามโมงเย็น ตอนกลางวันไปนั่งทานอาหารกันข้างนอก ป้าข้างบ้านผม ปกติทานจานเดียว แต่วันนี้พิเศษครับ สองจาน เห็นตัวเล็กๆอย่างนั้น กินจุเหมือนกัน สงสัยเหนื่อยมาก นัยตาล้า ก็เลยกินเยอะเพื่อเสริมกำลังลูกตา ช่วงบ่ายจะได้มีแรงส่องต่อ

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ส่วนคุณnongnooo วันนี้นำพระมาให้ชมกันหลากหลายองค์เหมือนกัน แต่ละคนที่เห็นพระคุณnongnooo ต่างบอกว่า สวยจริงๆ

    เป็นไงบ้างครับ สมเด็จ....... สวยหรือเปล่าครับ พลิกแผ่นดินหา หาเจอแล้ว ดีใจกับทุกๆท่านด้วยครับ

    วันนี้ผมไปเลี่ยมแล้วนะครับ สำหรับพระปิดตา ซึ่งพระปิดตาองค์นี้ ต่อให้พลิกแผ่นดินหา ก็หาได้ยากกกกกกกกกกกกกมากกกกกกกกกกกกกกก พิเศษก็คือ เนื้อจะมีผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ องค์ผู้อธิษฐานจิตมีสามพระองค์คือ หลวงปู่พระสิวลีเถระเจ้า ,หลวงปู่พระอนุรุทเถระเจ้า และหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ซึ่งได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในชุดพิเศษ 2

    วันนี้ หลายๆคนได้ชมพระกรุวัด..... (อายุเป็นพันปี) ที่คุณnongnooo ห้อยมา เป็นไงครับ สวยซึ้งตรึงตาตรึงใจกันล่ะสิ ไว้นัดกันใหม่แล้วให้คุณnongnooo นำไปให้ชมกันอีก
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอ..ป้าข้างบ้านนี่สงสัยป้าตุ่น..ลุงข้างบ้านนี่สงสัย ลุงน้องนู๋..
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระมือผี หรือเปล่าครับ องค์นี้...กรอบกระจก เกศทะลุซุ้ม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ผมเองนำพระของอาข้างบ้าน ผมขออนุญาตอาข้างบ้าน นำไปให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ลุงข้างบ้าน ป้าข้างบ้าน นั่งชมกัน

    เป็นวันนึงที่หัวเราะกันมากๆๆๆๆๆจริงๆ แต่อาข้างบ้านผมเครียด เล่นเจาะกล่องดวงใจซะนี่ เหอๆๆๆๆ

    .
     
  18. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    วันนี้ขอร่วมบริจาคเงิน 400 บาท เป็นค่าจัดส่งพระกับคุณสิทธิพงศ์นักบุญของกลุ่มพระวังหน้า ขออนุโมทนาบุญกับท่านด้วยครับ
     
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แล้วองค์นี้ล่ะ..มือผีป่าว......
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...