เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

แวะกระทู้อีกสักยกก่อนนอน เพราะท่านบก.ใหญ่อุตส่าห์
เข้ามาเฉลยว่า เม็ดลูกอมนั่นคือ "เม็ดพริกคหบดี-หลวงพ่ออี๋" วัดสัตหีบที่ยากจะพบเจอ ยิ่งตัวจริงไม่ต้องพูดถึง พูดแล้วเจ็บคอ...

เก๊าะ มันหายาก จะไปพูดให้คอเจ็บทำไม-ฮ่า!

ส่วนที่ดูเป็นตะกรุด...ที่แท้ ปลัดขิกอาจารย์เฮง ไพรวัลย์...โอ้ พระเจ้าจ็อด ทั้งทองคำกับนาคหาดับเบิ้ลยากเข้าไปอีกหลายต่อ ส่วนดอกเงินขอให้ท่านบก.รื้อกล่องหนมปังเจอ...เจอแล้วไม่อยากรำคาญว่าเก็บยาก จะเอามาทำบุญแถวนี้ก็มิรังเกียจ-ฮ่า (อีกทียังพอไหว)

คุยดับร้อนผ่อนกระหายพอเป็นกระสายก่อนนอน ขอบคุณท่านบก.อีกที แล้วราตรีสวัสดิ์แฟนานุแฟน ร้อนเหลือทนไปนอนตากแอร์ดีกว่า เรื่องการบุญไว้ลุ้นพรุ่งนี้ ขอรื้อ'กล่องหนมปัง' ก่อนว่าจะเจออีหยัง?-กู้ดไนท์ คุณพระคุ้มครองทุกท่านครับ

 

วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

บุญยามเช้าที่เห็นแล้วชื่นใจ เมื่อคุณแม่นำหนูน้อยใส่รถเข็นรับพลังบุญใส่บาตรให้หลวงพี่กับสามเณรและลูกศิษย์ เข้ามาร่วมอนุโมทนาช้าในวันนี้เพราะมีธุระนอกบ้านยาว แต่ก็ยังทันกับความสุขของภาพเช้านี้

 

ท่านบก.ใหญ่จัดชุดใหญ่ให้ตามคำขู่...เอ้ย คำขอ เป็นชุดที่ทำเอาตาลุกเป็นไฟสำหรับคนรักและสาวกเครื่องรางทุกท่าน

ไม่มีอะไรต้องคอมเม้นท์จริงๆ สำหรับมหกรรมเขี้ยว-งาชุดนี้ นอกจากค่อยๆขยายภาพไล่แลตามไปให้จุใจ เคยเห็นบ้างแล้วสำหรับบางชิ้น แต่บางอย่างก็เพิ่งได้ทัศนานี่แหละ ถือเป็นบุญตาและการเรียนรู้ศึกษาอย่างมากของน้องๆรุ่นหลัง

ขอบคุณท่านบก.ใหญ่หลายๆ ที่จัดวิทยาทานแก้ร้อนในวันที่มีบางช่วงอุณหภูมิกระฉูดไปถึง 40° เรียกว่าออกจากรถต้องรีบเข้าที่ร่ม จากทำธุระเสร็จรีบมุดเข้ารถ ห้ามโดนไอแดด ไอร้อนปนฝุ่นพิษ เป็นอันขาด

และอย่าลืมที่ต้องระวังอย่างแรง "คุณโคบ้า" กำลังกลับมาอีกระลอก เหลือเชื่อว่าร้อนตับแตกอย่างนี้ มันกลายพันธุ์ปรับตัวอาละวาดได้ ทั้งที่ตอนแรกยืนยันกันว่ามันเป็นเชื้อไวรัสเมืองหนาวที่แพ้ความร้อน

หยั่งงี้ต้องส่ง "เสือ กับ คชสีห์" ราชันย์โคตรเขี้ยวงาของท่านบก.ไปกระซวก "โค" ให้ไส้แตกหายซ่าส์ ซะเลยเป็นไง?-ฮ่า

 

'หลวงปู่แหวน'วัดดอยแม่ปั๋ง
ผ้ายันต์ปักกลดสีแดง-ปี16
===============

ให้สมเป็นวันอาทิตย์-สีแดง จัดผ้ายันต์ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ผืนผ้าแดงเริ่ด-แรงฤทธิ์ จัดสร้างในยุคต้นๆปี 16 เรียกขานว่า "ผ้ายันต์ปักกลด" ให้ร่วมบุญเสมือนหนึ่งมีกลดปกคลุม ปกปักรักษาให้ร่มเย็นเป็นสุขอยู่เสมอ!

เก็บรักษาดีมาก ไม่ผ่านการใช้ ไร้รอยฉีกขาดสมบุกสมบัน ขนาดกว้าง 7 นิ้ว สูง 11 นิ้ว ใส่กรอบไม่เปลืองพื้นที่บูชา มอบพร้อมเหรียญมหาลาภ 399-วปอ.สร้าง "เทพเจ้าด่านขุนทด หลวงพ่อคูณ" สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับในเดือนเมษายนนี้ แต่ผู้ได้แล้ว ขออนุญาตเว้นวรรคครับ...

=======600=======

ถ่ายเต็มผืนอาจไม่ชัดมากเพราะแสงสะท้อนถ่ายยากอยู่ ผืนจริงสวยกว่าภาพถ่ายพอประมาณ

ซ้าย-ความสูง 11 นิ้ว
ขวา-ความกว้าง7 นิ้ว

 

พระผงจักรพรรดิ
พิมพ์'พระนเรศวรฯ'
"หลวงปู่ดู่"-ใบฝอย
==============
***ประเวช ทันตา
***ส่งร่วมบุญ
---------------------

ร้อนอย่างนี้ ทำบุญกันอย่างใจร่มๆ อย่าให้ร้อนกระเป๋ายามควัก แต่ต้องได้ของดีมีคุณค่า คุ้มครองชีวาได้แน่ เหนือกว่าของไร้วิชาที่มีเป็นกระบุงโกย เลือกหาไม่ถูกที่ถูกทาง ก็เหมือนเอาเงินไปทิ้งน้ำ

พระผงมหาจักรพรรดิ ที่ผงพุทธคุณเอกอุรับการอธิษฐานจิตจาก หลวงปู่ดู่ รียบร้อยแล้ว หลวงตาม้า ศิษย์เอก นำมาจัดสร้างเป็นพระพิมพ์ต่างๆเพื่อรักษาชื่อเสียงครูบาอาจารย์ ทั้งส่งเสริมการปฏิบัติธรรมของเหล่าศิษย์ก้าวหน้า

อย่ามีของดีในมือแล้วกลายเป็น "วานรได้แก้ว-ไก่ได้พลอย"

เนื้อหาผงจักรพรรดินี้ยังสามารถนำเป็น"ครู" ดูเนื้อผงเก่ายุค "หลวงปู่ดู่" มีสังขารและสร้าง-เสกอีกด้วย เพราะเป็น "ผงเดียวกัน" เพียงแต่ที่ทันยุค "หลวงปู่ดู่" สร้างจะมีความเก่า ออกเหลือบเหลืองจางๆเท่านั้น ไม่ขาวสะอ้านอย่าง "หลวงตาม้า"สร้าง แต่นานไป รับรองว่าวัตถุมงคลทั้ง "ครูกับศิษย์" ก็จะมีผิวพรรณวรรณะดุจเดียวกัน ไม่ผิดไม่เพี้ยน

นำพิมพ์ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" กับพิมพ์ "หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ให้ร่วมบุญบูชาอย่างละ 1 องค์ เลือกบูชาตามสบาย จะเคาะเดี่ยวหรือเคาะคู่ ก็ราคาบุญเพียงองค์ละ...

=======300=======

อย่าลืมมอบ เหรียญ"หลวงพ่อคูณ" รุ่นกาญจนาภิเษก ปี 2539 สร้างโดย วปอ.399 ให้ด้วย สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับ

พิมพ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระผู้ทรงกู้ชาติอย่างยิ่งใหญ่ และสร้างอาณาจักรไทย หรือ กรุงศรีอยุธยาเป็นที่คร้ามเกรงไร้ศึกมาแผ้วพาลนาน 200 ปี ก่อนจะเสียกรุงหนที่ 2

(((ภาพและเรื่องกระโดด ความร้อนทำเครื่องกลรวน ต่อกระทู้ถัดไปครับ)))

 

(ต่อ)ผงจักรพรรดิ
=============

พิมพ์"หลวงปู่ดู่" มีรอยเนื้อหลุดตรงขอบด้านบน(ซ้ายมือเรา) แต่ไม่กระเทือนรูปทรงองค์พระแต่อย่างใด เหมาะบูชาด้วยการนั่งกำ-ทำกรรมฐานตามหลักวิชาที่หลวงปู่สอน และ "หลวงตาม้า" นำมาสอนต่อยอด ตามรอยครูได้อย่างเยี่ยมยุทธ

ด้านหลังกับขนาดของทั้ง
2 องค์เหมือนกัน-เนื้อหา
เดียวกัน

ซ้าย-บทสวดพระคาถา
มหาจักรพรรดิ(ขวา)เป็น
ถุงและซองบรรจุดั้งเดิม
เรียกว่า 'อ็อปชั่น' ครบ!

 

"หลวงปู่สิม"-ปี18-รุ่น26
โบสถ์ 'เม็งรายมหาราช'
===============

เคยเล่าแล้วว่า วัตถุมงคล หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ถูกจัดสร้าง "มากที่สุด" ในช่วงปี 2517-18

นั่นหมายถึงชื่อเสียง ความเกริกไกร ความขลังเข้มแห่งวิทยาคุณของหลวงปู่เป็นที่ประจักษ์แก่เหล่าศิษย์ทุกหมู่เหล่าทุกระดับชั้น ตั้งแต่ยากจนไปถึงหูตาชาวรั้วเวียงวัง

ประกอบกับ หลวงปู่สิม นั้นมากเมตตา วัดใดที่ขาดแคลนปัจจัยทำนุบำรุงหรือก่อสร้างเสนาสนะ มาขอบารมีท่านก็จัดให้ทันทีไม่รีรอ หลวงปู่สิมจึงเป็นหนึ่งในอริยสงฆ์ที่อยู่ป่าดงพงลึกไกลปืนเที่ยง...

แต่สร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างสถานปฏิบัติธรรม มากที่สุดรูปหนึ่งระดับหัวแถวของประเทศเลยก็ว่าได้!!!

ด้วยมหาบารมีและมหาเมตตาท่วมท้นล้นเหลือนี่เอง เหรียญรุ่น 26 จึงบังเกิดขึ้นในปี 2518 เมื่อ "วัดเม็งรายมหาราช" แห่งจังหวัดเชียงราย ต้องการสร้างโบสถ์ให้แล้วเสร็จ หลวงปู่ก็อนุญาต อธิษฐานจิตแบบจัดเต็ม เพราะถือว่า พ่อขุนเม็งรายมหาราช คือหนึ่งบูรพมหากษัตริย์ไทยผู้ยิ่งใหญ่ สร้างบ้าน-กู้เมืองเติบใหญ่ส่งต่อสู่ลูกหลานเชื้อสายไทยยืนยาว คนรุ่นหลังไม่ลืมเลือนพระมหากรุณาธิคุณ มอบสมญา "มหาราช" แด่พระองค์อย่างสมพระเกียรติ

หนึ่งยอด เหรียญดี ปีลึก ยอดอริยสงฆ์ที่สืบไปวันข้างหน้าจักอยู่ในดวงใจของผู้บูชาวัตถุมงคลของท่านไม่มีวันเสื่อมคลาย มอบเหรียญสวยสดงดงามไม่ผ่านการใช้ให้ร่วมบุญ

=======1,200=======

รมดำเต็ม บางส่วนมีจางเล็กน้อยด้วยกาลเวลาเฉียด 50 ปี ไม่ใช่เพราะการใช้บูชา เป็นเหรียญกลมครึ่งองค์ที่แกะพิมพ์หลวงปู่ได้งดงามและเหมือนมากรุ่นหนึ่ง รักษาไว้ดีเยี่ยม ห่วง-หูอยู่ครบสมบูรณ์ ปกติเหรียญเก่าจะไม่ค่อยเจอห่วงเพราะเจ้าของมักเลี่ยมบูชา

"พ่อขุนเม็งรายมหาราช" หนึ่งใน"มหาราช"ยุคต้นของอาณาจักรสยามโบราณ ยุคที่ยังไม่รวมชาติ แต่รวม"เชื้อชาติ"ไว้แล้วว่า ใครเป็นไท เป็นมอญ เป็นแขก เป็นจีน-จามฯ ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน จารึกไว้หลายตำนานทั้งเรื่องเล่าพื้นบ้าน และหลักฐานเชิงประจักษ์ด้านโบราณคดี เป็นบรรพบุรุษที่เราควรภาคภูมิใจว่า เชื้อชาติไทยเรานี้มี "รากแท้" ของจริง ไม่ใช่เชื้อชาติทาสมาจากแดนดินไกลโพ้น เป็นคนป่าคนดอยหารากเหง้าแห่งประวัติศาสตร์ชนชาติตัวเองไม่เจอเหมือนหลายๆประเทศในโลก

เหรียญดี-ปีลึกไม่ผ่านการใช้
ควรมีขอบข้าง-รอยตัดให้ชม
ส่วนขนาดก็ใหญ่กว่า10บาท
ไม่มากนัก เหมาะแขวนบูชา!

 

วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
อนุโมทนาบุญกับอาจารย์ฯ พี่น้องทุกท่าน
ขอให้บุญกุศลหนุนนำให้ชีวิตมีความก้าวหน้า รุ่งเรือง ร่ำรวย มีความสุขความเจริญ เฮงๆรวยๆทุกท่าน สาธุ

 

ร่วมบุญครับ

 

มาชมภาพพระกรุวัดกระชาย ที่บูชาไปจากพี่วัน ล้างขัดสีฉวีวรรณแล้วดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอีกครับ ภาพผมกดเรียงลำดับหน้า หลัง... แต่ระบบประมวลผลใหม่ตามนี้เลยครับ

 

เช้าวันจันทร์ผันผายมาพร้อมกับหยาดฝนโปรยปรายนิดนึงในกทม. พอกำราบความร้อนรุ่มได้เล็กน้อย เหมือนภาษิตเก่าบอก...ยามไร้เด็ดดอกหญ้า แซมผม คือมีให้ชื่นใจบ้าง ก็ดีกว่าไม่มีเลย

เข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญยามเช้ากับหลวงพี่ที่ชุมพร เป็นกำลังใจสู้งานประจำสัปดาห์อย่าท้อถอยกันต่อไป

 

สุพรรณฯเป็นอู่ข้าวอู่น้ำแห่งหนึ่งของภาคกลาง ร้อนแล้งขนาดนี้ ต้นข้าว-พืชพันธุ์ต่างๆน่าจะแหงนชะเง้อรอน้ำจากฟ้า เทวดาปราณีอยู่เหมือนกัน

ขอพรอันดีจากน้องน้อต รี่กลับคืนเมืองสุพรรณฯ ถึงเทพเทวาโปรดส่งฝนฟ้ามาตามฤดูกาล อย่าทิ้งช่วงนานเด้อท่านพระพิรุณ

ขอบคุณน้องน้อตกับสิ่งดีๆทุกวันจันทร์ครับ

 

ผ้ายันต์ปักกลด-หลวงปู่แหวน สงบอยู่ในกล่องขนมปังนานแสนนาน ได้เวลาย้ายไปปักกลดส่งความร่มเย็นเป็นสุขกับน้องเสฯ

มอบเหรียญไร้ห่วงระดับแชมเปี้ยน หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ให้ไปด้วย เหรียญวปอ.399 นี้ ไม่พูดแบบเข้าข้างตัวเอง ถ้าหลุดออกมาหมุนเวียนมากพอ จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นของ "เทพเจ้าด่านขุนทด" ที่มีราคาเล่นหากันแน่นอน

อย่าลืมว่า วัตถุมงคล หลวงพ่อคูณ หลายสิบรุ่นถูก "ชาวจีน" กว้านซื้อ กว้านเล่นมานานแล้ว เพราะ ชื่อ"คูณ" เป็นนามมงคลที่คนจีนถือว่า ทำอะไรก็กำไรคูณสองคูณสาม คูณไปเรื่อย บางทึอาจคูณล้าน กำไรเละเทะไปเลยก็มี

ท่านกำลังเดินทางพร้อมผ้ายันต์ปักกลด อีกสักพักม้าด่วนกลับมาจากธุระหลายแห่งค่อยลงเลขให้ชม โมทนาครับผม

 

น้องเดฯทำความสะอาดพระกรุเหมือน"เงาะถอดรูป" จากที่เคยเขรอะเดิมๆไม่แม้แต่จะปัดฝุ่น ก็เปิดหน้า เปิดองค์สวยงาม โดยไม่ต้องเสริมสวยเพิ่ม

ความจริงการล้างพระ-ทำความสะอาดพระ เป็นเรื่องถกเถียงกันบ่อยในหมู่นักสะสมว่า....ควรทำหรือมิควร?

ในทัศนะของผม ขอบอกว่า อยู่ที่สถานการณ์วัตถุมงคลชิ้นนั้นๆ ถ้าหากเขรอะเปรอะเปื้อนมาก ดูไม่ได้เลย ก็สมควรปัดสีฉวีวรรณให้เห็นโฉมหน้าค่าตา เพื่อจะได้รู้แน่ชัดว่า เป็นพระอะไร?พิมพ์อะไร?

เหรียญที่โดน "สนิมเขียว-ทังสเตน" กินเป็นขุมหรือกำลังจะเป็นก็ต้องล้าง ขืนปล่อยไว้อีกไม่นานก็จะ "ผิวพรุน" สิ้นค่า หมดราคาทันที แต่ถ้าเป็นเหรียญที่เขรอะไม่มาก ใช้ "ลูกหนู" ซึ่งเป็นลูกยางเป่าลม เป่าฝุ่นออกก็พอ บางเหรียญโดนน้ำก็ไม่ดี แต่ส่วนใหญ่ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ โดนได้อย่าไปกลัว

เหรียญหลักแสน-หลักล้านที่เห็นสวยๆงามๆสร้างตั้งแต่กือบ 100 ปีที่แล้ว ขอโทษเถอะ ผ่านการเสริมสวยขั้น "เซียนเหยียบเมฆ" มาทั้งนั้น แม้แต่สมเด็จวัดระฆัง-บางขุนพรหม ผมเคยเห็นเซียนรุ่นเก่าเปิดก็อกน้ำประปาราด เอาแปรงสีฟันขนอ่อนขัดอย่างเมามัน(บางขุนพรหม-กรุใหม่) ขัดเสร็จไม่กี่วันก็ขายไปหลักแสน ตอนซื้อ ซื้อแค่หลักหมื่นต้น (เมื่อ40ปีที่แล้ว)

ดังนั้นการล้างทำความสะอาดพระ เป็นสิ่งที่ทำได้ และต้องทำในกรณีท่านสกปรกมาก อย่าเชื่อใครว่าทำแล้ว พระเสียราคา ถ้าหาก..."ท่านทำเป็น"!!!

มีบางกรณีเท่านั้นที่ห้ามล้าง ห้ามขัด ซึ่งก็อยู่ที่ "เนื้อพระ-สภาพพระ" เป็นรายๆไป ไม่ใช่ทุกราย

ดูสารคดีนักล่าสมบัติทั้งในท้องทะเล และในพื้นปฐพี ได้สมบัติขึ้นมาจะเป็นอะไรก็ตาม ต้องทำความสะอาดตามหลักวิชาด้วยกรรมวิธีชั้นครู ใช้น้ำยาชั้นยอด ใช้เครื่องมือชั้นเยี่ยม จัดการปลุกชีวิตวิญญาณสมบัติเหล่านั้นให้กลับมาเกิดใหม่เสมือนหนึ่งหวนย้อนไปสู่วันที่โดนผลิตเมื่อหลายร้อยหรือพันปีก่อน

พวกขุดกรุขุดขุมทรัพย์ในดินเช่นกัน ต้องทำความสะอาดสมบัติที่ขุดได้ทุกชิ้นเพื่อขายมีราคา ถ้าของมอมแมมถูกกดราคาหัวทิ่ม ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกชิ้นของวัตถุมีวิธีทำความสะอาด มีวิธี"ล้าง"ทั้งสิ้น อย่านึกว่าจะจับล้าง ก็ล้างส่งๆไป

พระบูชา-พระเครื่องเก่าแก่ที่จมดิน โคลนเลน คลุกฝุ่นมายาวนาน เก็บรักษาไม่ดี ท่านก็ต้องการให้ชำระสระสรงสนานให้ความงามดั้งเดิมกลับมาฉายแสง รวมทั้ง "เทวดา" ที่ดูแลรักษาประจำองค์พระ ก็คงรังเกียจมากหากปล่อยท่านคลุกความสกปรกอยู่อย่างนั้น

นึกถึงตัวเราเป็นคนธรรมดา ยังต้องการอยู่บ้านสะอาด ห้องนอนสดชื่น สวมเสื้อผ้าถึงจะเก่าแต่ก็ต้องสะอาด...ฉันใดก็ฉันนั้น!!!!

ขอบคุณน้องเดฯที่ปลุกวิญญาณ "พระกรุกระชาย" ดั้งเดิมกลับคืนมา พระที่เราปรารถนาไว้บูชาเป็นศิริมงคลชีวิต เหมาะสมแล้วครับที่จะรักษาทำความสะอาดท่านเช่นนี้

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 4532 5075 7 TH จตุจักร

 

ผมโอนเงินให้คุณน้ำฝนเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนเกินขอร่วมบุญอื่นๆกับท่านอา Wanwi ด้วยครับ

 

น้องเสฯส่งปัจจัยบุญบวกด้วยจิ้มทานบารมีเพิ่มเติมมาเป็นปกติ ของเดิมก็ยังอยู่มาก ของใหม่สมทบเข้าไปก็ยิ่งมากทวีคูณ แต่เรื่องบุญ-ทานไม่มีคำว่ามากเกิน สามารถทำกันได้ตลอดเวลา เฉกเช่นน้ำในมหาสมุทรที่ไม่มีวันเหือดแห้ง

แล้วก็เป็นเรื่องแปลก เมื่อเขียนเรื่อง"มาเก๊า" เสริมในเรื่องที่น้องเสฯเล่า ผมก็ได้รับการติดต่อจากเพื่อนรุ่นพี่ที่ห่างหายกันไป 2-3 ปีเพราะเจ้าโคบ้าอาละวาด

จำเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยเล่าว่า ใช้ชีวิตยังกับในหนังเจมส์ บอนด์ ได้ไหมครับ?

เขาเดินทางไปทั่วทุกคาสิโนในโลก พร้อมกับประสบการณ์มหัศจรรย์พันลึกที่น้อยคนนักจะทำได้ "นักพนัน-ผู้หญิงสวย อาหารดี-ที่พักสุดหรูเลิศ-ทุกอย่าง 5 ดาว" ฯลฯ ใช้ชีวิตเหมือนในภาพยนตร์ที่เราดูแล้วรู้เลยว่า ยากจะมีในชีวิตจริง แต่เพื่อนรุ่นพี่คนนี้เขาทำได้ และทำมาแล้วค่อนชีวิต

เมื่อวันอาทิตย์ผมไปหาตามนัด ก็ได้รับเทปบันทึกเสียงมาหนึ่งตลับ พี่เขาบอกว่า...

"ติดค้างเรื่องราวไว้กับน้องหลายปี เอาบันทึกเสียงนี่ไปลองฟังแล้วกัน ผมเล่าเนื้อๆ ถ้าไหวก็เขียนถ่ายทอด เติมแต่งสำนวนเอาตามถนัด ผมเชื่อฝีมือ"

ขอบอกก่อนว่า พี่เขาได้เข้ามาอ่านข้อเขียนในเรื่องเล่าฯหลังจากที่ผมบอกจุดประสงค์เมื่อหลายปีก่อน จากนั้นเมื่อมีเวลาว่างก็ทำการบันทึกเรื่องราว โดยใช้คอนเซ็ปท์ ดังนี้...

"ผมไม่อยากเล่าเรื่องยาวต่อเนื่องเหมือนนิยาย แต่จะเล่าประสบการณ์เป็นช่วงๆตามแต่จะนึกได้และที่บันทึกไว้บ้างในสมุดส่วนตัว อ่านที่น้องเขียนแล้ว ผมจึงรู้แนวทาง ขอให้เขียนเรื่องผมเป็น "มินิ-ซีรี่ส์" แต่ละเรื่องจบในตอน ไม่ต้องเป็นเรื่องยาว จะดีและสนุกกว่ามาก ไม่เยิ่นเย้อ"

ผมรับเทป ใช้เวลาเปิดฟังเป็นชั่วโมง สรุปความเห็นกับตัวเองว่า....โคตรสนุก คุ้มค่าการรอคอย 3-4 ปี !!!

อาจเป็นเพราะพี่เขา เข้ามาอ่านวิธีเขียนนักขุดกรุ จึงใช้วิธีเล่าเรื่องตัวเองคล้ายๆกัน และเป็นเรื่องจริงทั้งดุ้น จากประสบการณ์จริงของชีวิตทั้งสิ้นทั้งมวล

ผมจะถ่ายทอดออกมาทีละตอน แซ่บยิ่งกว่าต้มยำกุ้งอาหารไทยเบอร์ 1 ของโลก ขอเวลาฟังและทำความเข้าใจกับวิธีของนักพนัน เงินตรา สถานที่ในเรื่องซึ่งเป็นคาสิโนระดับโลกของแต่ละประเทศไปทีละสเต็ป เพื่อให้การเขียนสามารถถ่ายทอดให้คุณผู้อ่านเข้าใจโลกอีกโลกหนึ่งได้ง่ายโดยไม่ต้องเอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีเป็น "ผีพนัน"!

และนี่ไม่ใช่โลกของนักพนันซังกะบ๊วย เล่นสิบ หยิบร้อย สอยเงินพัน แต่เป็นโลกของนักได้-เสียระดับเงินแสน-เงินล้าน ซึ่งชั่วพริบตาเดียวอาจเปลี่ยนเศรษฐีเป็นยาจก หรือเปลี่ยนคนพอมีสตังค์เป็นเศรษฐีชั่วคราวได้แค่ข้ามคืน!

ความบังเอิญไม่มีในโลก ขอบคุณน้องเสฯเช่นกันที่เล่าเรื่อง เจ้าแม่กวนอิม และท่านก็ประทานเรื่องราวดีๆมาให้พวกเราได้อ่านต่อเนื่อง..รออ่านครับ ภายในวันสองวันนี้แหละ!