พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    870. รูปหล่ออุดกริ่ง หลวงพ่อชื่น วัดกลางคูเวียง รุ่นแรก ปี 2514 ให้บูชา 900 บาท

    upload_2022-10-1_12-32-33.png

    upload_2022-10-1_12-33-45.png

    หลวงปู่ เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว กำหนดฤกษ์ เททอง พร้อม รูปหล่อ องค์ใหญ่ และ ร่วม ปลุกเสก เป็นการหล่อ พระ แบบโบราณ มวลสาร ชาวบ้าน นำ วัสดุ เก่า มาเป็น ชนวน ในการ หล่อ

    พระเครื่องของวัดกลางคูเวียงที่สร้างขึ้นราวปี 2514

    ข้อมูลที่ได้สอบถามจากผู้ที่เคยร่วมในพิธีเททองหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงพ่อชื่นหลายท่านซึ่งปัจจุบันยังคงมีชีวิตอยู่และให้ข้อมูลที่ตรงกันครับว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างในปี พ.ศ.2514 จริง ซึ่งผมก็ได้โพสต์หลักฐานใบปลิวไว้แล้วคงไม่มีใครมีข้อมูลอื่นมายืนยันอีก แต่ถ้ามีก็ดีครับจะได้เป็นข้อมูลเพิ่มเติม พระเครื่องที่สร้างมีดังนี้ครับ
    1.รูปหล่อบูชาขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว
    2.รูปหล่อบูชาขนาดหน้าตัก 3 นิ้ว
    3.พระบูชาสังขจาย
    4.พระสิวลี
    5.รูปหล่อเล็กอุดกริ่ง
    6.เหรียญหล่อไม่มีหู(ชาวบ้านรุ่นแจกแม่ครัว)ใช้พิมพ์เหรียญรุ่นแรก
    พระเครื่องชุดนี้จำนวนการสร้างไม่แน่ชัดครับ แต่พบเจอไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะแจกผู้มาร่วมในงานพิธีเกือบทั้งหมด เกจิอาจารย์ที่ร่วมสร้างก็ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดแต่หลวงปู่เพิ่มเป็นผู้กำหนดฤกษ์ยามและมาร่วมพิธีปลุกเสกอย่างแน่นอนครับ ที่สำคัญกว่านั้นการสร้างพระเครื่องชุดนี้เจตนาการสร้างนั้นไม่มีในเชิงพาณิชย์เหมือนกับในปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากการรวบรวมมวลสารและแร่โลหะต่างๆที่ได้จากชาวบ้านที่นำมาบริจาคเกือบทั้งนั้น
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    871. อริยสงฆ์แห่งบูรพาทิศ วัดบ้านงิ้ว พระสมเด็จ เกลียวเชือก หลวงพ่อทรัพย์ วัดบ้านงิ้ว ชลบุรี ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-10-1_13-10-46.png

    upload_2022-10-1_13-13-44.png


    ชาติภูมิ

    พระครูธรรมธนวัฒน์ สถานะเดิมชื่อ ทรัพย์ ไพรวัลย์ เกิด ณ บ้านงิ้ว หมู่ที่ ๕ ต.หนองกะขะ อ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๖ ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถอะ บิดาชื่อ นายพร้า มารดาชื่อ นางหมา ไพรวัลย์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๔ คน
    การศึกษาเบื้องต้นที่วัดบ้านงิ้ว เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ได้อุปสมบท ณ วัดหนองแช่แว่น ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๗ โดยมี พระวินัยธรถัน วัดเครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการเขียว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธมมธนิโก
    หลังจากได้บวชเรียนแล้ว ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบโดยเคร่งครัด

    การศึกษาของหลวงพ่อทรัพย์ เมื่ออุปสมบท
    พ.ศ. 2475 สอบได้นักธรรมตรี ที่สำนักเรียนวัดบ้านงิ้ว
    พ.ศ. 2484 สอบได้นักธรรมโท ที่สำนักเรียนวัดบ้านงิ้ว

    หน้าที่การงาน และผลงาน
    หลวงพ่อทรัพย์ ท่านเป็นพระนักพัฒนาและปฏิบัติโดยทุก ๆ วัน ท่านจะใช้เวลาทุกนาทีให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ไม่เคยปล่อยเวลาให้สูญเปล่าโดยไร้ค่า ทุก ๆ เช้าท่านจะปลุกพระและชาวบ้านบริเวณใกล้วัดที่หน้ากุฏิท่านด้วยประโยคที่ว่า "ตื่นแต่ดึก ฝึกแต่หนุ่ม ย่อมคุ้มเมื่อแก่ แลก็กว้าง ทางก็มี ไม่ตื่นแต่ดึก ไม่ฝึกแต่หนุ่ม ย่อมไม่คุ้มเมื่อแก่ แลก็ไม่กว้าง ทางก็ไม่มี" ด้วยประโยคนี้ที่ท่านกล่าวทุก ๆ วันผู้คนที่อยู่ใกล้บริเวณวัดที่ยังมีชีวอยู่จะจดจำได้ทุกวันสำหรับหน้าที่การงานต่าง ๆ ที่หลวงพ่อทรัพย์ท่านได้สร้างและปฏิบัติไว้นั้นพอที่จะค้นหาบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ได้ดังนี้
    พ.ศ. 2477 เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านงิ้ว
    พ.ศ. 2477 เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านงิ้ว
    พ.ศ. 2477 เป็นพระครูปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดบ้านงิ้ว
    พ.ศ. 2482 เป็นกรรมการศึกษา ประจำตำบลหนองกะขะ
    พ.ศ. 2484 เป็นคู่สวด ตราตั้งที่ 23/2474
    พ.ศ. 2484 เป็นฐานะนุกรม เจ้าคณะอำเภอ ตำแหน่งพระใบฏีกา
    พ.ศ. 2502 เป็นพระครูประทวน พระครูทรัพย์
    พ.ศ. 2514 เป็นพระครูสัญญาบัตร พระครูธรรมธนวัฒน์
    พ.ศ. 2516 เป็นเจ้าคณะตำบลพานทอง เขต 1
    พ.ศ. 2517 เป็นพระอุปัชฌาย์

    งานการปกครอง-เผยแพร่-ศึกษา
    ท่านได้มีหลักในการดำเนินดังนี้
    1. วางรูปงานในด้าน การปกครองสงฆ์
    2. สร้างความสามัคคีขึ้นในหมู่คณะ
    3. รักษาความสงบสุข และเป็นระเบียบเรียบร้อยในหมู่คณะ
    4. แสดงออกซึ่งความกตัญญู-กตเวที ต่อบูรพาจารย์
    5. สนับสนุนงานคณะสงฆ์
    6. รักษาผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ
    7. ตั้งอยู่ในระเบียบแบบแผนขนบธรรมเนียมประเพณีในทางพระศาสนาด้วยดี
    8. สนใจต่อกิจการ ด้านการสังคมสงเคราะห์

    งานสาธารณูปการ
    หลวงพ่อทรัพย์ท่านมีเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาและรักษาวัดวาอาราม ให้เป็นที่พึ่งทางใจของสาธุชนทั่วไป และเพื่อจรรโลงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสมกับเมืองไทยที่เป็นเมื่องพุทธ ปูชนียสถานและเสนาสนะที่เป็นถาวรวัตถุมีปรากฏให้เห็นจึงถึงปัจจุบันนั้น มีมากมายโดยท่านได้ชักชวนนำคนที่มีกำลังศรัทธาให้มาช่วยเหลือพอจะลำดับได้ดังนี้
    1. สร้างกุฏิขึ้นในวัด และซ่อมแซม คิดเป็นราคาประมาณ 50,000 บาท
    2. สร้างโบสถ์หลังเก่า ราคาประมาณ 80,000 บาท
    3. สร้างศาลาการเปรียญ ราคาประมาณ 30,000 บาท
    4. สร้างพระป่าเลไลย์ ราคาประมาณ 100,000 บาท
    5. สร้างโบสถ์ (หลังใหม่) ราคาประมาณ 1,000,000 บาท

    นอกจากงานด้านก่อสร้างท่านที่ได้บูรณะและปฏิสังขรณ์เสนาสนะในวัดของท่านแล้ว ท่านก็ยังได้ชักชวนสร้างสำนักสงฆ์ ขึ้นอีก 2 แห่ง คือ
    1. สำนักสงฆ์ สันติวัน ตำบลหนองหงษ์ อำเภอ พานทอง จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันได้เลื่อนจากสำนักสงฆ์สันติวัน มาเป็นวัดหนองกาน้ำ
    2. สำนักสงฆ์ ห้วยมะระ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันได้เลื่อนจากสำนักสงค์ห้วยมะระ มาเป็นวัดห้วยมะระ ด้วยเช่นกัน

    การอาพาธ และ การมรณภาพ
    ตามปกติแล้วหลวงพ่อทรัพย์ท่านเป็นผู้ที่สุขภาพแข็งแรงโรคภัยไข้เจ็บมีน้อยท่านไม่เคยอาพาธถึงกับเข้าโรงพยาบาลเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเป็นเป็นผู้ที่มีความอดทนมากแม้แต่การอาพาธเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่านก็ไม่ค่อยฉันยาและรักษาตัว ต่อมาในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2521 เวลาประมาณ 07.00 น. หลวงพ่อทรัพย์ท่านบอกศิษย์ใกล้ชิดว่าวันนี้ท่านปวดท้อง ท้องไม่ค่อยจะดี จนถึงเวลา 10.00 น. บรรดาลูกศิษย์เห็นหลวงพ่ออาการยังไม่ดีขึ้น จึงได้นิมนต์หลวงพ่อพาไปส่งโรงพยาบาลชลบุรี ต่อมา อาการปวดท้องของหลวงพ่อท่านยังไม่ดีขึ้น ท่านได้บอกกับศิษย์ที่มาเฝ้าไข้ท่านว่าให้พาท่านกลับว่าให้พาท่านกลับวัดเถอะ ท่านไม่อยู่ที่โรงพยาบาลบรรดาลูกศิษย์ได้ขอร้องให้ท่านรักษาตัวให้หายเสียก่อนท่านได้ย้ำคำเดิมว่า ท่านไม่อยู่ ท่านจะไปวันนี้เมื่อท่านพยายามลุกจากเตียงอาการอาพาธของท่านก็ได้ทรุดหนักลงจนถึงเวลา 17.45 น. ของวันเดียวกันท่านก็ถึงแก่การมรณภาพท่ามกลางศานุศษย์และหมอซึ่งได้รับการรักษาเยียวยาอย่างสุดตามสภาวะของสังขารรวมอายุขัยได้ 75 ปี 54 พรรษา
    หลังจากหลวงพ่อทรัพย์ท่านมรณภาพแล้ว กรรมการของวัดได้นำร่างของท่านมาให้ลูกศิษย์กราบไหว้และนำร่างหลวงพ่อเก็บใส่โลงไว้ที่กุฏิของท่านเป็นเวลานานหนึ่งปี จึงจะทำการฌาปนกิจในช่วงเวลาหนึ่งปีนี้ ทางคณะกรรมการได้เตรียมจัดงานและจัดทำหนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพโดยท่านองคมนตรี สัญญา ธรรมศักดิ์ ในสมัยนั้นเป็นพระประธานฝ่ายฆราวาส ก่อนถึงวันงานฌาปนกิจศพของหลวงพ่อคณะกรรมการได้ทำการย้ายโลงท่านจากกุฏิไปไว้ศาลา เพื่อให้ศิษยานุศิษย์กราบไหว้ และไว้อาลัยท่านเป็นครั้งสุดท้าย
    ขณะที่เปลี่ยนโลงใหม่โดยย้ายร่างท่านออกจากโลงเก่า เมื่อเปิดฝาโลงออกคณะกรรมการต่างตะลึง เพราะร่างของหลวงพ่อทรัพทย์ท่านไม่เน่าเปื่อยและมีพระธาตุเกาะขาวทั่วตลอดร่างของท่านทั้งกลิ่นเหม็นก็ไม่มี ที่พิเศษกว่านั้นคือ ผมเล็บของท่านได้งอกออกมาด้วย เมื่อเห็นดังนี้แล้ว คณะกรรมการวัดรีบประชุมปรึกษา และได้ข้อสรุปโดยได้ไปนิมนต์พระธรรมโกษาจารย์ เมื่อเดินทางมาถึงวัดบ้านงิ้วท่านได้พิจารณาร่างของหลวงพ่อทรัพย์ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่าสมควรเก็บไว้ให้ลูกหลานบูชา
    เมื่อร่างจริงเผาไม่ได้จึงต้องมีการเผาหลอกภายในวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2522 ท่านองคมนตรี สัญญา ธรรมศักดิ์ ได้มาเป็นผู้จุดไฟพระราชทานได้เกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์เกิดฝนตกฟ้าร้องอย่างรุนแรง โดยฝนตกอยู่แต่ในบริเวณวัดเท่านั้น และเมื่อคณะกรรมการวัดได้จุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่อทรัพย์ ทั้งลมฝนและฟ้าจึงสงบต่างเป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้ที่มาร่วมงานในวันนั้น
    นับแต่วันที่หลวงพ่อทรัพย์ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2521 จนถึงปัจจุบัน ผ่านมา 19 ปี สังขารของหลวงพ่อก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมเป็นเรื่องแปลกที่ว่าบรรดา มด มอด และแมลงบางชนิดมิได้มารบกวน ทำลายชิ้นส่วนร่างกายของท่านเลยแม้แต่น้อย บรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อจึงเชื่อว่าท่านเป็นอริยสงฆ์ได้อภิญญาบรรลุธรรมชั้นสูงแน่นอน
    จากผลงาน และคุณความดีต่าง ๆ ของหลวงพ่อทรัพย์ได้เป็นที่ยกย่องและกล่าวขานกันมาเนิ่นนาน ไม่ว่าจะเป็นด้านปูชนีย์วัตถุและเป็นที่พึ่งทางใจโดยผู้เขียนจะขอนำข้อความที่ได้พิมพ์ไว้ในหนังสือแจกในงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงพ่อพอแต่สังเขปดังนี้
    "วงการคณะสงฆ์อำเภอพานทอง ต้องสูญเสีย พระสังฆาธิการ ระดับเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาสพระอุปัชฌายะ ผู้เป็นกำลังสำคัญของของพระศาสนาไปรูปหนึ่ง คือพระครูธรรมธนวัฒน์ เมื่อครั้งท่านฉลองสัญญาบัตรพัดยศ คณะกรรมการจัดงานได้อาราธนาหลวงพ่อพระธรรมโกษาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดชลบุรีมาเป็นประธานแสดงพระธรรมเทศนา ตอนหนึ่งหลวงพ่อเจ้าคุณเทศน์ว่าชื่อ "พระครูธรรมธนวัฒน์" นี้เป็นสิริมงคลดีนัก หากญาติโยมจะทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เจิมรถ แต่งงาน ถ้าได้หลวงพ่อทรัพย์เป็นองค์เจิมสิ่งของดังกล่าวจะเกิดสรรพมิ่งมงคลยิ่งญาติโยมทั้งหลายได้รับฟังต่างก็ชื่นใจอนุโมทยาสาธุและปฏิบัติตามตราบเท่าถึงกาลมรณภาพ ฯลฯ
    พระครูสุวรรณเมธากร
    เจ้าคณะอำเภอพานทอง

    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่ทรัพย์
    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อทรัพย์บางรุ่นบางพิมพ์มีการสร้างน้อยมาก โดยเฉพาะเนื้อผงแต่ละรุ่นจะมีการทิ้งช่วง พ.ศ.หลายปี เหตุเพราะไม่นิยมที่จะสร้างวัตถุมงคลให้บูชาท่านมักจะสั่งสอนไม่ให้ไปยึดติดกับวัตถุ แต่ว่าเหล่าลูกศิษย์ได้พยายามรบเร้าให้สร้าง ท่านบอกว่าท่านไม่อยากจะดัง เบื่อที่จะรับแขก อยากจะเอาเวลาไปทำประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า เมื่อบรรดาลูกศิษย์รบเร้าและขอร้องท่านหลาย ๆ ครั้งเข้าท่านจึงยอมสร้างให้
    แต่ว่าวัตถุมงคลของท่านในแต่ละรุ่นถ้าเป็นพระเนื้อผงแล้วจะมีไม่มากเพราะท่านมีความละเอียดมากในการหาผลพุทธคุณและกดพิมด้วยตนเองทุกครั้ง แม้แต่พระเนื้อดินท่านก็ได้พยายามรวบรวมดินเ้จ็ดป่าช้าผสมกับผงพุทธคุณ ดังนั้นวัตถุมงคลของท่านจึงมากไปด้วยอิทธิฤทธิ์และพุทธานุภาพ
    โดยเฉพาะตะตกรุดโทนเมื่อท่านสร้างวัตถุมงคลท่านจะทำตะกรุดโทนควบคู่ไปด้วย แต่ว่าตะกรุดโทนของท่านผู้ที่เป็นฆราวาสน้อยคนที่จะได้ไว้ในครอบครอง เพราะท่านมักจะให้ตะกรุดโทนกับผู้ที่เป็นทหาร ขนาดลูกศิษย์ใกล้ชิดบางคนยังไม่ได้ตะกรุดโทนของท่านเหตุที่ท่านชอบให้ตะกรุดโทนกับทหารเพราะ ท่านบอกว่า พวกเค้าทำงานเสียสละเพื่อประเทศชาติก็ต้องให้ของดีเค้าชาวบ้านไม่จำเป็นต้องนำไปบูชา แค่พระเครื่องของท่านก็พอแล้วในขณะนี้ตะกรุดโทนของหลวงพ่อทรัพย์จึงเป็นของหายากยิ่งแม้ในเขตพื้นที่ยังมีให้เห็นน้อยส่วนด้านสนนราคาของตะกรุดโทน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงกันใหญ่ เพราะผู้ที่มีไว้ในครอบครองต่างหวงแหนมาก ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นเปลี่ยนมือง่าย ๆ เนื่องจากประสบการณ์นั้นมีมากมายโดยเฉพาะความเหนียวและแคล้วคลาดนั้นเยี่ยมจริงๆ ซึ่งผู้เขียนจะกล่าวในโอกาสต่อไป

    สำหรับวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่หลวงพ่อทรัพย์ท่านได้สร้างไว้ พอที่จะรวบรวมไว้ได้ก็มี ดังนี้
    1. รูปถ่าย ขาว-ดำ หลังยันต์จารปากกา สร้างปี พ.ศ. 2489 ประมาณ 100 รูป
    2. ผงรูปเหมือนรุ่นลองพิมพ์ (รุ่นแรก) หลังยันต์ มี 2 เนื้อคือ เนื้อผงว่านผสมกะลาตาเดียว (เนื้อออกโซนน้ำตาล) และ เนื้อดินเผา สร้างปี พ.ศ. 2502 ประมาณ 800 องค์
    3. ผงรูปเหมือนรุ่นลองพิมพ์ (รุ่นแรก) หลังยันต์ พิมพ์พิเศษ ทารักปิดทาทอง และ เนื้อดำ จำนวนการสร้าง ไม่น่าเกิน 20 องค์ เพราะหายากมากไม่มีให้เห็น
    4. ภาพบูชา ขาว-ดำ รุ่นแจกแม่ครัว สร้าง พ.ศ. 2504 ประมาณ 100 ภาพ
    5. รูปถ่าย ขาว-ดำ หลังยันต์จารปากกา สร้างปี พ.ศ. 2504 ประมาณ 300 รูป
    6. เหรียญรูปเหมือนกงจักร หลังยันต์ไม่มี พ.ศ. (รุ่นแรก) มีเนื้อทองแดง ทองแดงรมดำ สร้างปี พ.ศ. 2504 ประมาณ 5,000 องค์
    7. พระผงรูปเหมือน รุ่น 2 มี 2 เนื้อ เนื้อผงผสมกะลาตาเดียว (เนื้อออกโซนสีขาว) เนื้อดินเผา สร้างปี พ.ศ. 2510 ประมาณ 600 องค์
    8. พระสมเด็จใบโพธิ์ เนื้อว่านผสมกะลาตาเดียว (รุ่นแรก) สร้างปี พ.ศ. 2510 ประมาณ 130 องค์ (สร้างแจกพระสงฆ์ในวัด)
    9. พระผงรูปเหมือนเนื้อผง ผสมกะลาตาเดียว หลังพัดยศ สร้างปี พ.ศ. 2514 มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ ประมาณ 2,500 องค์ และพิมพ์เล็กประมาณ 3,000 องค์
    10. พระผงรูปเหมือนเนื้อผง ผสมกะลาตาเดียว หลังพัดยศ สร้างปี พ.ศ. 2514 พิมพ์พิเศษแจกกรรมการ ทารักทาทอง มีไม่เกิน 20 องค์ เนื้อผงกะลาด้านหลังฝังเม็ดมะกล่ำตาหนู มี 99 องค์ และ เนื้อผงผสมเกศาหลวงปู่ ด้านหลังฝังเม็ดมะกล่ำตาหนู มี ประมาณไม่เกิน 20 องค์
    11. รูปถ่ายพัดยศ ขาว-ดำ หลังยันต์ จารปากกา สร้างปี พ.ศ. 2514 ประมาณ 1,000 รูป
    12. รูปเหมือนพิมพ์เหรียญรูปไข่ไม่มีห่วง เนื้อเมฆพัตรหลังยันต์ สร้างปี พ.ศ. 2515 ประมาณ 10,000 องค์
    13. กริ่งรูปเหมือน เนื้อทองเหลือง ผสมโลหะ สร้างประมาณปี พ.ศ. 2515 ประมาณ 4,000 องค์
    14. พระสังกัจจายน์ เนื้อผงผสมกะลาตาเดียว เนื้อดิน สร้างปี พ.ศ. 2516 ประมาณ 500 องค์
    15. สมเด็จเกลียวเชือก เนื้อผง ผสมกะลาตาเดียว สร้างปี พ.ศ. 2515 ประมาณ 3,000 องค์
    16. พระปิดตา หลังตอกโค้ด เนื้อผงผสมกะลาตาเดียว สร้างปี พ.ศ. 2516 ประมาณ 700 องค์
    17. ตะกรุดโทน เริ่มสร้างปี พ.ศ. 2502 สมัยแรก สร้างด้วยทองแดง ฝาบาตร และ ตะกั่ว มีดังนี้ ตะกรุดโทนร้อยเชือกถัก 3 สี ตะกรุดโทนร้อยเชือกถัก 7 สี สร้างจนถึง พ.ศ. 2520 ประมาณ 7,000 ดอก
    18. พระบูชารูปหลวงปู่รุ่นแรก ปี 20 จำนวนการสร้าง 6 องค์ เป็นงานปฏิมากรรม แกะด้วยมือโดยลูกศิษย์หลวงปู่ หน้าตักประมาณ 12 นิ้ว

    ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล
    .....วัตถุมงคลของหลวงพ่อทรัพย์ ที่กล่าวขานกันเป็นอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้น ตะกรุดโทน ในสมัยนั้น ได้มีการทดลองวัตถุมงคลของท่าน โดยจะขอถ่ายทอด คำบอกเล่า ของลุงสาย ใบทองแถม ได้เล่าให้ฟังว่า "สมัย จีไอ มาสร้างสนามบินอู่ตะเภา นายสนั่น ทิวาวรรณ ในยุคนั้นได้ทำงานอยู่กับฝรั่งที่สนามบิน ได้ข่าวว่า หลวงพ่อทรัพย์ท่านสร้างวัตถุมงคลของท่านโดยเฉพาะ ตะกรุดของท่านดังมาก จึงอยากจะหาตะกรุดโทนของหลวงพ่อทรัพย์ไปปล่อยให้พวกอเมริกัน ที่สนามบิน จึงเดินทางมาหาลุงสร้อย น้องชายของหลวงพ่อทรัพย์ เพื่อขอลองตะกรุดว่าจะแน่สักแค่ไหน ถ้ายิงไม่ออก ยินดีจะขอบูชาในราคา 10,000 บาท (สมัยก่อน) ลูกชายของลุงสร้อยจึงนำตะกรุดไปแขวนที่ต้นมะพร้าว นายสนั่น จึงทดลองยิงนัดแรก ออกแต่ไม่โดนตะกรุด ลูกชายลุงสร้อยจึงกล่าวขออาราธนาบอกกล่าวหลวงพ่อก่อน แล้วค่อยยิงใหม่ เมื่อทำพิธีเรียบร้อยแล้ว นายสนั่นจึงได้ทดลองยิงอีกครั้ง แต่ลูกปืนไม่ออก นายสนั่น ยิง 3 ครั้ง ยิงไม่ออกถึง 3 ครั้ง เมื่อเป็นเช่นนั้น นายสนั่นจึงรีบเดินทางเข้าวัดบ้านงิ้วเพื่อมาขอตะกรุดหลวงพ่อ
    .....ส่วนอีกรายหนึ่ง นายสำรวย ไพรวัลย์ (มีศักดิ์เป็นหลานหลวงพ่อทรัพย์) ไปทวงเงินจากเมียเพื่อนที่ยืมเงินของตนไป และได้เกิดมีปากเสียงกันขึ้น สามีของผู้ยืมเงินไม่พอใจ จึงชักปืนขึ้นมา นายสำรวยตกใจ จึงวิ่งหนี ชายผู้นั้นจึงวิ่งตามไป และสับไกปืนไล่หลังมาตลอด แต่ว่าลูกปืนไม่ออก จนนายสำรวยวิ่งเสียหลักล้ม ชายผู้นั้นจึงยืนคล่อมร่างนายสำรวย แล้วเหนี่ยวปืนใส่ทันที นัดเดียว แต่ว่าออก นายสำรวยถึงกับช็อกหมดสติไป ส่วนคนยิงก็วิ่งหนี เพราะยังไงก็ไม่เหลือ รีบเก็บของย้ายไปทันที หลังจากนายสำรวยรู้สึกตัว พบว่ามีรอยไหม้ ที่ราวนมด้านซ้าย เป็นรอยไหม้ออกไปทางรักแร้ ด้านซ้ายไม่มีรอยเลือกหรือบาดแผลใด ๆ ในตัวเลย ซึ่งขณะที่เกิดเหตุ นายสำรวยมีตะกรุดหลวงพ่อทรัพย์เพียงดอกเดียว
    .....นอกจากตะกรุดแล้ว วัตถุมงคลของหลวงพ่อทรัพย์ชนิดอื่นนั้น ผู้ที่มีไว้บูชา กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า แคล้วคลาด และเมตตามหานิยมในการค้าขาย สมัยที่หลวงพ่อทรัพย์มีชีวิตอยู่ ปรารถนาจะสร้างอุโบสถให้สำเร็จ แต่ท่านมรณภาพเสียก่อน ในปี พ.ศ. 2521 หลวงพ่อบุญเรือน มหานาโม เจ้าอาวาสวัดบ้านงิ้ว องค์ต่อมา ได้สร้างอุโบสถสานต่อเจตนารมณ์ ของหลวงพ่อทรัพย์จนสำเร็จลุล่วง ในปี พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นปีที่ฝังลูกนิมิต วัดบ้านงิ้ว ทางวัดได้สร้างวัตถุมงคล ปลุกเสก มีปาฏิหาริย์ผู้ที่แขวนเหรียญ รูปเหมือนหลวงพ่อทรัพย์ปี พ.ศ. 2539 ถูกยิงไม่เข้า เป็นที่เลื่องลือไปทั้งอำเภอพานทอง โดยวัตถุมงคลรุ่นนี้ ได้มีเกจิอาจารย์มาปลุกเสกมากมาย เช่น หลวงพ่อแร่ วัดเซิดสำราญ หลวงพ่อมหาสวัสดิ์ สำนักสงฆ์เม้าสุขา หลวงพ่อจ้อย วัดหนองน้ำเขียว หลวงพ่อโทน วัดเขาน้อยคีรีวัน เป็นต้น
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    872. พระดีน่าบูชา หายากครับ พระผงหลวงพ่อกวยรุ่นย้อนยุควัดซับลำใยปี41-43 เนื้อผงผสมทรายเสก หลวงปู่หมุน วัดบ้านจานร่วมปลุกเสกครับ ปิดรายการครับ

    upload_2022-10-1_13-41-8.png

    upload_2022-10-1_13-36-54.png


    พระผงเนื้อทราย ผง๓๕๐ คณาจารย์ พิมพ์หลวงพ่อกวย(ตัดชิด) ปี๔๑-๔๓ หลวงปู่หมุนเสก ออกวัดซับลำใย สภาพสวยพิมพ์ติดชัด เข้าพิธีใหญ่หลายพิธีครับ แค่มวลสารก็เกินคุ้มแล้วครับ พระพิมพ์หลวงพ่อกวยแค่รูปไม่ต้องเสกก็ขลังแล้ว พิมพ์นี้ได้ทั้งมวลสารระดับหัวกะทิ ได้หลวงปู่หมุนเสก
    ผง๓๕๐คณาจารย์
    ผงสมเด็จที่ชำรุดของหลวงปุ่นาค (พระเทพสิทธินายก) วัดระฆังผงพุทธคุณ ๑๐๘ จากอาจาย์ทั่วประเทศ ได้ทำพิธีที่วัดเบญจมบพิตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ผงจินดามณีของหลวงพ่อเพิ่ม (พระพุทธวิธีนายก) วัดกลางบางแก้วผงมหาราช ผงอิทธิเจ หลวงพ่อเนตร วัดตุ๊กตา จ.นครปฐมผงตรีนิสิงเห ผงปถมัง ของอดีตเจ้าอาวาสวัดปริยายก กทม.ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ได้มาจากอาจารย์ดุลย์ วัดไทยน้อย จ.นนทบุรีผงของหลวงปุ่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงครามผงโลกธาตุ พลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มาเมื่อปี ๒๕๓๑ผงรัตนมาลาของหลวงพ่อสละ เถรปญโญ วัดประดูทรงธรรมผงอิจธิเจ ของหลวงพ่อผล วัดคลองจันทร์ จ.อุทัยธานี ได้มาเมื่อปี ๒๕๒๔ผงตรีนิสิงเห ของหลวงพ่อพรหม แห่งวัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ผงพุทธคุณ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ผงปถมัง หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ผงไตรรัตน์ กับพงอาการ ๓๒ ของหลวงพ่อชื่น วัดญาณเสน จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรีผงโสฬสมงคล ของหลวงพ่อถก จ.กาญจนบุรี ได้มาจากท่านอาจารย์นิวัฒน์ (พระมหานิวัฒน์ ญาณสมปนโน) ได้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๐ผงพรายกุมาร หลวงพ่อทิม อิสรโก วัดระหารไร่ ได้เมื่อปี ๒๕๑๙ผงพุทธคุณของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ที่ได้เก็บสะสมไว้โดยท่านพระอาจารย์สมุห์ภาสน์เองครั้งยังเป็นสามเณรรับใช้หลวงพ่อกวย อยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ – พ.ศ. ๒๕๒๐ผงนางดาราฯ จ.นครศรีธรรมราช ได้จากท่านอาจารย์วัชรินทร์แร่ปรอททองคำ ได้จากผู้เฒ่าที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ผงดินกากยายักษ์และผงว่าน ๑๐๘ จากจังหวัด นครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๒๘ผงพุทธคุณของหลวงพ่อคง ธมมโชโต วัดบางกระพ้อมผงงากำจักกำจาย ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ณ ที่เขาใหญ่ผงมหาราชของหลวงพ่อหยิบ วัดหน้าพระเมรุ จ.อยุธยา ได้จากพระอาจารย์หนู วัดเชิงท่า ลพบุรีผงพราวดี มีอายุเป็นพันปี ได้มาจากพระคำ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ผงจากกรุวัดชนะสงคราม กรุงเทพฯผงของหลวงพ่อบุญสิน วัดปลายคลองพลิ้ว จ.จันทรบุรี ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ผงพุทธคุณของหลวงพ่อชม วัดอินทาราม จ.ชัยนาทผงเมาลี ของหลวงพ่อโต วัดอินทรารามมหาวิหาร กรุงเทพฯผงของหลวงพ่อเปี่ยว วัดเกาะหลัก ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ผงพุทธคุณหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จ.ชัยนาทผงของหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรีผงของหลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรีแป้งเสกของหลวงปู่บุดดา วัดกลางเจริญศรี จ.สิงห์บุรี และผงยาเส้นของหลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่ รวมทั้งผงจากวัดอื่นๆ เกจิอาจารย์ทั้งหลายจนครบ ๓๕๐ อาจารย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2022
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    873. อริยสงฆ์แดนใต้ พระผงรูปเหมือนพ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ อดีตพระเถราจารย์เรืองนามเรืองเวทวิทยาคมแห่ง จ.ปัตตานี พิธีเดียวกันกับหลวงปู่ทวด 5 แชะ ให้บูชา 999 บาท

    upload_2022-10-1_14-58-14.png
    * พ่อท่านแดงผู้สรรค์สร้างพระหลวงพ่อทวด 5 แชะที่โด่งดังเกรียวกราวไปทั่วประเทศ จากการที่มีผู้รอดจากคมกระสุน ที่กระหน่ำยิ่ง 5 นัดอย่างอัศจรรย์
    * จัดสร้างและปลุกเสกด้วยเมื่อปี 2537 ด้วยเนื้อหาและพิธีเดียวกันกับหลวงพ่อทวด 5 แชะ จึงนับเป็นพระดีพระเก่า เปี่ยมพุทธคุณทัดเทียมกัน ควรค่าแก่การบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล

    สำหรับหลวงพ่อทวดบุญญฤทธิ์ หนึ่งในสหธรรมิกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระเครื่องของท่านที่สร้างโดย "หลวงพ่อแดง สุนทโร" เมื่อปีพ.ศ.2518 ได้รับความนิยมสูง เป็นที่หวงแหนของคนที่ครอบครองกันอย่างมาก เพราะมีประสบการณ์เป็นเยี่ยม ห้วงนี้มาแรง!!!
    กล่าวสำหรับ "หลวงพ่อแดง" หรือนามสมณศักดิ์ "พระครูวิรัชโสภณ" ท่านคืออดีตเจ้าอาวาสชื่อดังของวัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นหนึ่งในพระเกจิผู้ร่วมปลุกเสกพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นแรกปี 2497 ซึ่งริเริ่มสร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ หรือ พระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร
    ชาติภูมิของท่านเป็นชาวบ้านปลักเอาะ ต.คลองหรั่ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (ปัจจุบัน ต.คลองหรั่งอยู่ใน อ.นาหม่อม จ.สงขลา) เกิดในสกุล "จินดาวงศ์" เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.2445 ปีขาล เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 5 คนของนายเกื้อและนางพรหม อาชีพทำไร่ ทำนา ทำสวน
    วัยเยาว์ส่อแววถึงความเฉลียวฉลาด เพราะใฝ่ใจการศึกษา ชอบแสวงหาความรู้โดยการสอบถามผู้ใหญ่ พ่อแม่ และผู้สูงอายุ
    ช่วงอายุ 7 ขวบเศษเกิดไข้ทรพิษ(โรคห่า) ระบาดในหมู่บ้าน บิดาจึงย้ายครอบครัวไปอยู่หมู่บ้านกาโผะ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และได้มีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อสีพุฒ (พระครูมนัตสมณคุณ) เจ้าอาวาสวัดกาโผะ (วัดมะเดื่อทอง) เกจิอาจารย์ที่เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ทั้งเก่งกล้าขมังเวท
    ได้ทุ่มเทพลังใจเล่าเรียนภาษาไทย ไสยศาสตร์ คาถา อาคม พระสูตรเจ็ดตำนานและหัดท่องพระปาฏิโมกข์ ตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี กระทั่งสามารถ ท่อง จำได้อย่างขึ้นใจภายในเวลา 2 ปี และบรรพชาเป็นสาม เณรเมื่ออายุ 18 ปี ต่อมาอายุ 21 ปีก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดกาโผะ มีหลวงพ่อสีพุฒเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการสุข วัดปรางมะดัน และพระน่วม วัดกาโผะ เป็นคู่สวดได้รับสมณฉายาว่า "สุนทโร"
    ด้วยความขยันหมั่นเพียร เพียงพรรษาแรกก็ท่องจำตำรับตำราได้แม่นยำและรวดเร็วมีความเข้าใจและเชี่ยวชาญยิ่ง พอถึงพรรษาที่ 3 ก็สอบไล่ได้นักธรรมตรี
    ปีพ.ศ.2483 ได้ไปอยู่จำพรรษาที่วัดโต๊ะเต็ง สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พอเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปีพ.ศ.2484 จึงเดินทางกลับ และได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการเป็นเจ้าอาวาสวัดมะเดื่อทอง เนื่องจากหลวงพ่อสีพุฒมรณภาพ
    ในงานพระราชทานเพลิงศพได้มีการสร้างเหรียญหลวงพ่อสีพุฒขึ้นเป็นรุ่นแรก เพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้ไปร่วมงาน ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเช่นกัน
    ท่านได้ปกครองดูแลวัดมะเดื่อทองนี้อย่างดี นำความเจริญมาสู่ท้องถิ่นมากมาย ทั้งยังเป็นพระผู้นำและเป็นที่พึ่งทางใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างดี
    ปี พ.ศ.2494 พระเทพญาณโมลี วัดตานีนรสโมสร เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี สั่งการให้พระครูญาณวิมล (กิมสุย) เจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ มอบหมายให้ "หลวงพ่อแดง สุนทโร" ไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดร้างเก่าแก่แห่งหนึ่งชื่อ "วัดบ้านดอน" โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านจนสำเร็จลงด้วยดี และเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดศรีมหาโพธิ์" พร้อมกับรับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมา กระทั่งละสังขารเมื่อวันที่ 27 ก.พ.2539 ด้วยวัยที่สูง 94 ปี พรรษา 73
    หลวงพ่อแดงนั้น นับว่าเป็นพระแท้ที่กราบไหว้ได้ตลอดกาล มีคุณธรรมอันแก่กล้า มีพลังจิตสูงส่ง โดยอุทิศชีวิตมุ่งมั่นในการ ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งประกอบด้วยพรหมวิหารธรรม 4 (เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา) อย่างสมบูรณ์
    เชื่อกันว่าอภิญญาฤทธิ์ของท่านนั้นสูงมาก เพราะได้ศึกษามาอย่างถูกต้องและถ่องแท้จากหลวงพ่อสีพุฒ อีกทั้งได้รับการฝึกจิตจากพระอธิการสุข วัดมะปรางดัน จนสำเร็จกสิณ และไปยกครูเป็นศิษย์สำนักพุทธาคมเขาอ้ออันลือลั่นอีกด้วย
    กล่าวขวัญกันว่า ทุกครั้งที่ศรัทธาสาธุชนหรือศิษยานุศิษย์อธิษฐานจิตขอพรจากท่าน โดยมิได้เห็นตัว หรือได้ยินเสียงของกันและกัน แต่ได้ผลสำเร็จทุกครั้ง จนกระทั่งบางคนถึงขนาดเคยเห็นกายทิพย์ของท่านมาปรากฏก็มี หากผู้ใดเป็นนักปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกต้องด้วยแล้ว จะยิ่งสัมผัสอภิญญาฤทธิ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
    ในด้านวัตถุมงคลท่านสร้างตามความศรัทธา ของศิษย์ สร้างตามวิชาที่เรียนมา สร้างเพื่อแผ่บารมีคุ้มครองคนดี และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คน
    ทั้งนี้ ท่านมักพูดเปรียบเทียบให้เห็นถึงวิชาอาคมที่ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ และอยู่ที่ผู้เรียนรู้จะนำมาใช้ให้มีค่า
    โดยกล่าวว่า "เหมือนมีดเราจะใช้ทำอะไรก็ได้ ฆ่าคน ทำร้ายคน หรือนำมาใช้ป้องกันตัว ตัดไม้ ทำอาหาร มีดมิใช่ว่าใช้ทำร้ายอย่างเดียว ประโชน์ต่างๆ ก็มีมาก"
    พระเครื่องรุ่นแรก สร้างปีพ.ศ.2518 เป็นพระชุดหลวงปู่ทวดบุญญฤทธิ์, เหรียญหลวงพ่อแดง สร้างปี พ.ศ.2525, เหรียญฉลองอายุ 83 ปี พ.ศ.2527, พระเครื่องและเหรียญชุดวัดศรีมหาโพธิ์ สร้างปี พ.ศ.2536, พระเครื่องชุดสร้างปี พ.ศ.2537 อาทิ พระเนื้อว่าน, เหรียญรูปไข่, พระเครื่องชุดสร้างปี พ.ศ.2538 อาทิ รูปเหมือนบูชา, พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่านพิมพ์พิเศษ
    วัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมทุกรุ่น และหนึ่งรุ่นที่ฮือฮาสุดๆ ก็คือ พระหลวงพ่อทวดพิมพ์พิเศษ รุ่นประสบการณ์ หรือที่เรียกกันว่า "รุ่น 5 แชะ" ซึ่งโด่งดังเป็นข่าวหน้าหนึ่งทั่วประเทศเมื่อปี พ.ศ.2539
    2 หนุ่มแบงก์ทหารไทยเมืองยะลาห้อย "หลวงปู่ทวด-หลวงปู่แดง" ถูก 2 โจรดักปล้นยิงใส่ระยะเผาขน แต่รอดตายปาฏิหาริย์ เพราะกระสุนทั้ง 5 นัดด้านสนิท
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    874. พระสมเด็จเนื้อผงเกษร108 ปิดทองในพิมพ์ หลังรูปเหมือน หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ปี09 ให้บูชา 1250 บาท



    upload_2022-10-1_15-20-4.png

    พระสมเด็จฯ เนื้อผงเกสร๑๐๘ หลังรูปเหมือน หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี จัดสร้างปี๒๕๐๙ และมีพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับพิมพ์หลังยันต์ โดยมีพระครูวิริยะกิตติ (หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโน ) วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพระเถราจารย์อีกหลายรูปร่วมพิธีปลุกเสก (โดยพิมพ์หลังยันต์บางส่วนได้มอบถวายแก่วัดโบสถ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของหลวงพ่อแพด้วยครับ)
    .. สร้างก่อนสมเด็จฯแพพัน (ปี๒๕๑๐) ที่ราคาทะลุหลายๆหมื่นแล้ว .. พระมาตรฐานวงการ และลูกศิษย์สายหลวงพ่อแพยอมรับ มีในทำเนียบวัดจัดสร้าง

    ลูกศิษย์หลวงพ่อแพท่านหนึ่งเป็นชาวสิงห์บุรี และเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อแพ และเคยเอ่ยถามหลวงพ่อแพ ตอนที่ท่านยังไม่มรณะภาพว่า
    "หลวงพ่อครับ อยากได้สมเด็จฝาบาตรไว้ใช้สักองค์ทำอย่างไรครับ เดียวนี้แพงมากเลย"

    "หลวง พ่อแพท่านบอกว่า ไม่ต้องไปหา ให้ใช้สมเด็จเกสร 108 นั้นแทน พระรุ่นนี้ ดีกว่าเพราะเราทำเต็มที่มีอะไรวิชาอะไรใส่เข้าไปหมด ไม่ต้องไปหาหรอกสมเด็จฝาบาตร

    "ให้ใช้รุ่นนี้แทนรับรองว่าดีแน่นอน"
     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    upload_2022-10-1_16-20-17.png
     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    875. พระดีพิธีใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธชินราช พิธีจักรพรรดิ์ ปี 2515 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ให้บูชา 650 บาท
    ติดจองครับ


    upload_2022-12-4_11-34-59.png



    upload_2022-10-1_16-41-55.png


    พระพุทธชินราช พิธีจักรพรรดิ ปี15 เนื้อดิน พุทธสมาคม เป็นเจ้าภาพ จัดพิธีใหญ่ พิธีจักรพรรดิ ในวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ณ.วัดใหญ่ (นางพญา) พิษณุโลก โดยพระอาจารย์ผ่อง วัดจักรวรรดิ์และอาจารย์เทพย์ สารีกบุตรเป็นเจ้าพิธี สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย ศจ. สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี และนายกพุทธสมาคมเป็นประธานพิธีจุดเทียนชัย หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ประธานบริกรรมปลุกเสก พิธีปลุกเสกแบบนี้จัดได้ยากมากและมีความแตกต่างจากพี่ธีปลุกเสกทั่วไป เกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกจะต้องได้รับการสืบทอดบทสวดต่างๆ

    ย่อเก็บ พิธีมหาจักรพรรดิ์ หรือ พิธี "จักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก" ที่เราเคยได้ยินได้รับทราบกันมาหลายๆ ครั้ง โดยเฉพาะพิธีมหาจักพรรดิ์ที่จัดขึ้น ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิการ หรือวัดใหญ่ จ.พิษณุโลก เมื่อปี 2515 มีความเป็นมาอย่างไร วันนี้ผมนำมาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับ

    พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ... ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ๒๐ มกราคม ๒๕๑๕

    เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ พุทธสมาคมพิษณุโลก ได้จัดพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ขึ้น ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสก .. วัตถุมงคลในรุ่นนี้มี พระพุทธชินราชจำลอง พระชัยวัฒน์ พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ พระพิมพ์ และเหรียญมหาจักรพรรดิ์ ฯลฯ

    พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เป็นพิธีที่ใหญ่มาก ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถา และพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" นี้ ครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ ๑ และได้มีการกระทำพิธีนี้อีก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๙ หลังนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำพิธีฯ นี้อีกเลย

    เจ้าพิธี พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพมหานคร และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

    ประธานฝ่ายสงฆ์ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริมหาเถร) เป็นประธานจุดเทียนชัย

    ประธานฝ่ายฆราวาส ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย

    ประธานฝ่ายสงฆ์ดับเทียนชัย พระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร พิษณุโลก

    ประธานบริกรรมปลุกเสก พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี

    พระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก 109 รูป ดังรายนามด้านล่างนี้

    พระครูวิริยะโสภิต (หลวงพ่อทอง) วัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี
    พระราชธรรมมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    พระครูจันทรโสภณ (หลวงพ่อนาค) วัดทัศนารุณสุนทริการาม กรุงเทพ
    พระครูญาณวิลาศ (หลวงพ่อแดง) วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
    พระครูภาวนาณุโยค (หลวงพ่อหอม) วัดชากหมาก จ.ระยอง
    หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
    พระครูวิจิตนชัยการ (หลวงพ่อสด) วัดหางน้ำสาคร จ.ชัยนาท
    พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
    พระครูประดิษฐ์นวการ (หลวงพ่อบุญ) วัดวังมะนาว จ.ราชบุรี
    พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่ออยู่) วัดใหม่หนองพะองค์ จ.สมุทรสาคร
    พระครูธรรมสาคร (หลวงพ่อกรับ) วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร
    พระครูปัญญาโชติ (หลวงพ่อเจริญ) วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
    พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
    หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเลา จ.ลพบุรี
    พระครูสนิทวิทยการ วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี
    พระครูปิยธรรมภูสิต (หลวงพ่อคำ) วัดบำรุงธรรม จ.สระบุรี
    พระครูกิตพิจารณ์ (หลวงพ่อผัน) วัดราษฎร์เจริญ จ.สระบุรี
    พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
    พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (หลวงพ่อมุ่ย) วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
    พระวินัยรักขิตาวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
    พระวิบูลเมธาจารย์ (หลวงพ่อเก็บ) วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    พระครูอภัยภาดาทร (หลวงพ่อขอม) วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
    พระครูกิตตินนทคุณ (หลวงพ่อกี๋) วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
    พระอาจารย์สมภพ เตชปุญโญ วัดสาลีโข จ.นนทบุรี
    พระครูประกาศสมาธิคุณ (หลวงพ่อสังเวียน) วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพ
    พระเทพเจติยาจารย์ (อาจารย์วิริยัง) วัดธรรมมงคล กรุงเทพ
    พระเทพโสภณ (สมเด็จพระมหาธีราจารย์) (นิยม) วัดชนะสงคราม กรุงเทพ
    หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    พระครูสาธุกิจวิมล (หลวงพ่อเล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
    พระวิสุทธิรังษี (หลวงพ่อเปลี่ยน) วัดชัยชุมพลฯ (วัดใต้) จ.กาญจนบุรี
    พระครูอุดมสิทธาจารย์ (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    พระครูจันทสโรภาส (หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี
    พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    พระอาจารย์ผ่อง (จินดา) วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพ
    พระครูศรีปริยัตยานุรักษ์ (ครูบาใฝ) วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่
    พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิทย์ (ครูบาสิงห์คำ) วัดเจดีย์สถาน จ.เชียงใหม่
    พระครูมงคลคุณาธร วัดหม้อคำตวง จ.เชียงใหม่
    หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสต๋อย จ.เชียงใหม่
    หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จ.ลำปาง
    หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง
    พระครูสุเวทกิตติคุณ (หลวงพ่อบุญชุบ) วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง
    หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
    หลวงพ่อบุญสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง
    พระวิบูลวชิรธรรม (เจริญ) วัดท่าพุทรา (วัดคฤหบดีสงฆ์) จ.กำแพงเพชร
    หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
    หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
    พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด) วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
    พระครูไพโรจน์อรัญญคุณ (หลวงพ่อคัด) วัดท่าโบสถ์ จ.ชัยนาท
    หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท
    พระครูสุจิตตานุรักษ์ (หลวงพ่อจวน) วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    พระครูสุวรรณสุตาคม (หลวงพ่อดวง) วัดทอง จ.สิงห์บุรี
    พระครูอาทรสิกขการ (หลวงพ่อโต๊ะ) วัดสระเกศไชโย จ.อ่างทอง
    พระครูสันทัศธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง จ.อยุธยา
    พระครูประภาสธรรมคุณ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดวังแดงเหนือ จ.อยุธยา
    พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
    พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
    พระครูสาธรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    พระครูวิเศษมงคลกิจ (หลวงพ่อมิ่ง) วัดกก กรุงเทพ
    พระครูอนุกูลวิทยา (หลวงพ่อเส็ง) วัดน้อยนางหงส์ กรุงเทพ
    พระครูพิริยกิจติ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพ
    พระครูภาวณาภิรมย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพ
    พระครูโสภณกัลป์ยานุวัฒน์ (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพ
    พระครูพินิจสมาจารย์ (หลวงพ่อโด่) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี
    พระครูภาวนาภิรัต (หลวงปู่ทิม อิสริโก) วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    พระครูวชิรรังสี วัดมฤคทายวัน จ.ประจวบคีรีขันธ์
    พระครูวชิรคุณาญาณ วัดในกลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์
    พระครูสุทธาจารคุณ (หลวงพ่ออ่ำ อินฺทโชโต) วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
    พระครูอุดมศีลจารย์ (พ่อท่านเย็น) วัดโคกสะท้อน จ.พัทลุง
    พระครูพิศาลพัฒนกิจ (พ่อท่านพระครูปลัดบุญรอด) วัดประดู่พัฒนาราม จ.นครศรีธรรมราช
    พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    พระครูพิพัฒน์สิริธร (หลวงพ่อคง สิริมโต) วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
    หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร
    หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น
    หลวงปู่จันทร์ วัดสำราญ จ.อุบลราชธานี
    หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์
    หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น จ.ตาก
    พระครูนันทิยคุณ (ครูบาตัน นนฺทิโย) วัดเชียงทอง จ.ตาก
    หลวงพ่อเกตุ สุวรรโณ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
    พระครูสุวิชานวรวุฒิ (หลวงพ่อปี้) วัดบ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
    พระครูคีรีมาสธรรมคุณ วัดวาลุการาม จ.สุโขทัย
    พระครูพิลาศธรรมคุณ (หลวงปู่โถม) วัดธรรมปัญญาราม จ.สุโขทัย
    พระครูไกรลาศสมานคุณ (หลวงพ่อย่น) วัดกงไกรลาศ จ.สุโขทัย
    พระอาจารย์พวง วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร จ.สุโขทัย
    พระอาจารย์ฉลอง วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร จ.สุโขทัย
    พระครูพินิจธรรมภาณ (สมจิตร) วัดวังแดง จ.พิจิตร
    พระครูพิมลธรรมานุศิษฐ์ (หลวงพ่อขวัญ) วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร
    พระอาจารย์ชัย วัดกลาง จ.อุตรดิตถ์
    หลวงพ่อบุญ อุตตโม วัดน้ำใส จ.อุตรดิตถ์
    พระครูนวการโฆษิต (หลวงพ่อจันทร์) วัดหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์
    พระพิษณุบุราจารย์ (แพ พากุโล) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
    พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนี วัดอรัญญิก) หลวงตาละมัย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
    พระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สมฺปนฺโน) วัดสระแก้วปทุมทอง จ.พิษณุโลก
    พระครูอภัยจริยาภิรมณ์ วัดใหม่อภัยยาราม จ.พิษณุโลก
    พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา จ.พิษณุโลก
    พระครูประภาสธรรมมาภรณ์ (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
    พระครูศรีรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อไช่) วัดศรีรัตนาราม จ.พิษณุโลก
    หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
    หลวงพ่อเฉลิม วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
    หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์โต วัดสมอแข จ.พิษณุโลก
    พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน จ.พิษณุโลก
    พระครูวิจารณ์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทอง จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์นวล วัดนิมิตธรรมาราม จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์ธงชัย วัดวชิรธรรมราชา จ.พิษณุโลก
    พระราชมุนี (โฮม) วัดสระปทุม กรุงเทพ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2022
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    876.ศิษย์สายหลวงพ่อกวยครับ พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก ปิดรายการครับ


    upload_2022-10-1_22-29-50.png

    upload_2022-10-1_22-29-43.png

    upload_2022-10-1_22-41-21.png

    upload_2022-10-1_22-47-56.png

    ปี พ.ศ.2533 ที่ใด้สร้างเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ของท่านขึ้น
    เพื่อหาปัจจัยสร้างโบสถ์ เมรุเผาศพและกุฏิ ที่พักอาศัยของพระ เณร เหรียญรุ่นแรก
    ปลอดภัย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "เหรียญปิดตา" (พระควัมบดี)
    สร้างไว้หลายแบบด้วยกัน มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน(ต้องสั่งจอง) เนื้อทองแตงธรรมดา รมดำ กะไหล่นาก และกะไหล่ทองสำหรับแจกกรรมการ แถะยังมีรูปเหมือนบูชาขนาด หน้าตัก 5 นิ้ว รุ่นแรก อีกด้วย ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2537


    เรื่องราว ประสบการณ์ ต่าง ๆ
    1.การลองยิงเหรียญปิดตา
    การลองในครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2534 โดยมี พ.ต.ท.พอพล
    เพิ่มชัยสุข เป็นผู้ทำการยิงทดสอบ โดยใช้ปืนสั้นขนาด.38 และลูกปืนใหม่เอี่ยมที่ซื้อ
    มาจากร้านขายอาวุธปืน ประภาศรีในตลาดเดิมบางนางบวชจ.สุพรรณบุรี ซึ่ง
    ก่อนทดสอบก็ได้ลองยิงหลายนัดปรากฏว่ากระสุนมีประสิทธิภาพดีทุกนัด เหรียญ
    ไห้ถูกนำไปแขวนบนกิ่งไม้ ตรงศาลาชายน้ำ ห่างจากผู้ยิงประมาณ 3 วา ต่อหน้า
    ผู้ที่เป็นสักชีพยานในเหตุการณ์หลายร้อยคน โดย 2 นัดแรกนั้นยิงไม่ติด นัดที่ 3
    ยิงออกเป็นประกายไฟพุ่งออกจากลำกล้องแต่ไปได้ไม่ไกล นัดที่ 4 และ 5 ยิงออก
    ดังปังแต่ลูกกปืนคาลำกล้องต้องใช้เวลากระทุ้งออกอยู่นาน และได้นำกระสุน 2
    นัดแรกที่ยิงไม่ติดใส่ปืนกระบอกเดี่ยวกันเล็งไปอีกทางนึง ปรากฏว่ายิงออกทั้ง
    2 นัด
    หลังจากทดสอบเหรียญครั้งนี้ หลวงพ่อได้เขียนไปปิดประกาศ
    ให้ประชาชนได้ทราบว่าไม่มีเจตนาอวดอ้างวิชาของท่าน แต่เนื่องจากมีญาติโยม
    หลายคนมาขอร้องวิงวอนอยากจะเห็นวิชาอุดปืนว่ามีจริงหรือไม่ หลวงพ่อเลยต้อง
    ขออนุญาตครูบาอาจารย์ที่เรียนมาในสมัยที่ธุดงค์อยู่ในป่าอาศัยอยู่ตามถ้ำ ทดสอบ
    เหรียญรุ่นแรกของท่าน โดยหลวงพ่อท่านให้สัจจะว่าจะไม่ลองให้ใครดูอีกเด็ดขาด
    เพราะการลองครั้งนี้ถือว่ามีพยานรู้เห็นเพียงพอแล้ว หลวงพ่อได้เตือนไว้ว่าเมื่อ
    ได้เหรียญของท่านไปแล้วอย่าได้ไปลองอีกจะทำให้ใช้ของขลังไม่ได้ผลเพราะขาด
    ความศรัทธาและความเชื่อมั่น เหรียญของท่านก็จะไม่ศักดิ์สิทธิ์เต็มที่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2022
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    877. ดินดีแห่งสุพรรณบุรี พระขุนแผนไข่ผ่า เนื้อดินผสมผง108 หลวงปู่ถิร วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี พิเศษมีเข็มฝังใต้องค์พระ หายากมากครับ ให้บูชา 750 บาท (1 ใน 9 พระเกจิที่หลวงปู่ดู่ รับรองว่าเก่งจริง!!!) ปิดราายการครับ

    upload_2022-10-2_14-19-10.png
    upload_2022-10-2_14-40-3.png

    upload_2022-10-2_14-40-14.png

    upload_2022-10-2_14-40-41.png
    upload_2022-10-2_14-41-18.png

    เกี่ยวกับเรื่องการสร้างพระของหลวงพ่อถิร มีคนที่อยู่รับใช้ลพ.ถิรมาก่อนเมื่อสมัยเขายังเป็นเด็กได้ก้นกุฎิได้เล่าถ่ายทอดให้ฟังว่า การสร้างพระเนื้อดินของท่านเมื่อปี พ.ศ.2495 ได้ทำจากเนื้อพระกรุเก่า เช่นขุนแผนวัดพระรูป ขุนแผนบ้านกร่าง เอาเศษพระที่หักชำรุดนั้นมาทำพิธีบวงสรวงขขอขมาก่อน แล้วนำมาบดจนละเอียดเป็นผง ส่วนที่ยังหยาบคือพวกหินแร่ต่างๆที่อยู่ในเนื้อ แล้วเอาผงดินนั้นมาผสมกับน้ำอ้อยข้นและน้ำมันตั้งอิ้วและตำผสมในครกจนเหนียวหนึบแล้วแบ่งเป็นก้อนๆ นำไปกดพิมพ์พระ คนหนึ่งกด คนหนึ่งปั๊มตราหลัง บางทีหยิบพระออกมาแรง ด้านหลังพระก็จะเป็นจีบ เมื่อสร้างพระเสร็จตามจำนวนที่ท่านต้องการแล้ว ก็ปลุกเสกอยู่อีก 1 ไตรมาส

    พิมพ์ของท่านสร้างไว้ส่วนมากจะเป็นพิมพ์ให้โชคให้ลาภท่านจะชอบ มีทั้งองค์ขนาดเขื่องและเล็กจิ๋วเท่าข้อนิ้วก็มี รูปแบบนั้นมีหลากหลาย เช่นขุนแผนแบบต่างๆ พระสังกัจจายน์ (บางคนก็เรียกขุนช้าง), ผงสุพรรณ ถ้ำเสือก็มี รวมไปถึงล้อพิมพ์พระกรุเก่าอื่นๆอีกมาก สำหรับพระรุ่นแรกเมื่อปลุกเสกแล้วได้นำออกให้ประชาชนทำบุญผ้าป่าวันนั้นตรงกับงานวันลอยกระทงของปี 2495 พอดี

    ตราสัญลักษณ์ที่ด้านหลังของวัตถุมงคลจากวัดป่าเลไลยก์นั้น หลวงพ่อถิรท่านได้อัญเชิญสัญลักษณ์ที่ประดิษฐานอยู่บนหน้าบรรณของอุโบสถวัดป่าเลไลยก์มาไว้นั่นเอง
    (ลักษณะการกดจมลงไปแบบเดียวกันกับตราบนเงินพดด้วงที่ใช้กันในสมัยร.4 )
    ตรารูปมงกุฏ เป็นสัญลักษณ์แทนองค์ "เจ้าฟ้ามงกุฎ" ซึ่งเป็นพระนามเดิมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 ซึ่งพระองค์เคยเสด็จธุดงค์มาพบวัดป่าเลไลยก์นี้รกร้างมาก สมัยเมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่ ภายหลังเมื่อได้เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว ได้ทรงมาปฏิสังขรณ์วัดนี้
    (บางครั้งตราสัญลักษณ์ที่องค์พระก็จะมีเลข ๔ อยู่ใต้พระมงกุฎด้วย)

    ส่วนพระขุนแผนของท่านบางองค์จะมีเหล็กดำๆเสียบอยู่ที่ข้างใต้ นั่นก็คือเข็มของเครื่องเล่นแผ่นเสียงเพราะมีเคล็ดว่าจะได้ดีมีชื่อเสียงเป็นที่โด่งดัง เป็นมงคล ฯลฯ ท่านจึงนำมาเสียบไว้ใต้ฐานของพระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2022
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    upload_2022-10-2_15-8-16.png

    upload_2022-10-2_15-8-22.png


    เครื่องรางวัดหนังแห่งตำนาน
    ตำนานเชือกผูกคอเด็กวัดหนัง
    เชือกผูกคอเด็ก สำนักวัดหนัง เครื่องรางประสบการณ์ของเด็กวัดหนัง
    เชือกผูกคอเด็ก หลวงตาช้วน วัดหนัง
    เรื่องเกี่ยวกับ เชือกผูกคอเด็ก หรือ เชือกกันเด็กตกน้ำตาย ถ้าเผื่อเด็กตกน้ำไม่จมลงไปในน้ำ คือต้องลอยขึ้นผิวน้ำ ธรรมดาคนเราตกลงไปในน้ำแล้วไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เมื่อตกน้ำแล้วจะต้องจมลงไปในน้ำก่อน เพราะแรงน้ำหนักถ่วงลง แล้วจะต้องทะลึ่งโผล่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หรืออาจหลายครั้งจนกว่าจะดื่มน้ำเข้าไปเต็มท้อง จมอยู่ในน้ำนานทีเดียว แล้วจึงจะลอยขึ้นบนผิวน้ำ แต่สำหรับเด็กที่มีเชือกผูกคอของ วัดหนัง แล้วจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อตกจมลงไปทะลึ่งโผล่ขึ้นมาแล้ว จะลอยอยู่อย่างนั้นไม่จมลงไปอีกจะเป็นเหมือน ดำผุดดำโผล่อยู่อย่างนั้น เว้นแต่ว่าจะติดขัดอยู่กับรากไม้หรือขั้นบันได ไม่สามารถจะโผล่ขึ้นมา ถ้าเป็นเช่นนั้นก็สุดวิสัย ถ้าเด็กนอนหงายก็มีโอกาสหายใจได้มาก ถ้านอนคว่ำมีดอกาสหายใจได้น้อย แต่ถ้าไม่นานนัก เด็กอาจไม่ตายเพราะมีคนเห็นแล้วช่วยทัน แต่ถ้าถึงตายก็จะลอยอยู่อย่างนั้น ไม่ลำบากในการตามหาศพ

    วิธีการทำเชือก ต้องทำจากด้ายดิบ คือเอาด้ายมารวมกัน นับให้ได้ 32 เส้น รูดด้วยเทียนขี้ผึ้ง ขวั้นด้ายให้เขม่งแล้วถักเป็นสะดือทะเลเหมือนตัวหนอน 2 ข้างๆละ 16 ชั้น เมื่อนับรวมกันจะได้ 32 ชั้นแล้วขวั้นให้เป็นเกลียวขมวดปมปลายด้ายที่ขวั้นไว้เพื่อกันเกลียวคลายออก เมื่อได้เชือกแล้วหลวงปู่จะปลุกเสก แต่ต้องปลุกเสกในพรรษาเท่านั้น เมื่อออกพรรษาจึงจะแจก ในการแจกจะแจกหมดไม่ได้ ต้องเหลือไว้เส้นหรือ 2 เส้น เพื่อเป็นเชื้อในการทำครั้งต่อไป แต่ถ้าแจกหมด ต้องรอพรรษาหน้า ถ้ามีคนมาขอจะบอกว่าหมดไม่ได้ ถ้าบอกหมดจะทำไม่ขึ้นไม่ขลัง

    ***ถ้าเชือกขาด ห้ามทิ้งลงน้ำเด็ดขาด ให้เผาไฟทิ้งเท่านั้น ครับ***
     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    878. เหรียญ น.ว.ม. เจ้าคุณนรฯ ดอกบัวข้าง ปี2515 เนื้อทองแดง ตอก 4 โค๊ตนิยม หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ร่วมเสก ปิดรายการครับ

    upload_2022-10-2_17-2-40.png

    upload_2022-10-2_17-2-55.png

    upload_2022-10-2_17-3-5.png
    เหรียญรูปเหมือนท่าน ธมมวิตกโกภิกขุ น.ว.ม.ดอกบัว2ข้าง วัดเทพศิรินทร์ทราวาสที่ระลึกวันเสด็จพระราชกุศลเปิดอาคารโรงเรียน น.ว.ม.ราชานุสรณ์ พ.ศ.2515พิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพ โดยมีสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น ปุณณสิริ)เป็นประธานสงฆ์ท่านเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารจุดเทียนกะบะมุกและมีคณาจารย์จำนวนมากร่วมปลุกเสก เช่นหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ท่านเจ้าคุณโพธิวรคุณวัดโพธินิมิตร พระพุทธโฆษาจารยื(วาส) องค์สมเด็จพระสังฆราช หลวงพ่อเส่งวัดกัลยานิมืตร พระธรรมไตรโลกกาจารย์รองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ร่วมทำพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันจันทร์ที่3ก.ค.2515ตอกโค๊ดตัว อุ ด้านหลังขวา

    นอกจากนี้ยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกถึง 9 พิธีเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น

    ครั้งที่1 วันเสาร์ที่24ก.พ.2516โดยท่านพระศีลขันธ์โสภณ(สนิท)เจ้าคณะอำเภอโพธิ์ทอง จ.อ่างทองเป็นผู้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ.พระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ทราวาสเนื่องในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสจากพระธรรมทัตชมุนีเป็นพระสาศนโสภณ

    ครั้งที่2 วันเสาร์ที่7เม.ย.2516ตรงกับวันขึ้น5ค่ำเดือน5นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกโดยท่านเจ้าคุณศีลขันธ์โสภณ ที่วัดศีลขันธารามอ.โพธิ์ทองจ.อ่างทอง

    ครั้งที่3 วันพุธที่11เม.ย.2517คุณถนอมศักดิ์ อนุกุลได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดเจดีย์หลวงจ.เชียงใหม่ ที่ระลึกในงานหล่อรูปปั้นพระอาจารย์ มั่น โดยท่านเจ้าคุณเทพสารวาทีอนุญาตให้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญหลวงปู่แหวน สุจินโณ อายุครบ7รอบ ซึ่งมีพระคณาจารย์จำนวนมากร่วมทำพิธี เช่นหลวงพ่อสิม,หลวงปู่คำแสน,หลวงปู่คำมี,หลวงพ่อตื้อ ประจำ4ทิศ(ตอกโค๊ดตัว จล ด้านหน้าซ้าย)

    ครั้งที่4 วันพุธที่23และวันพฤหัสที่24ต.ค.2517คุณถนอมศักดิ์ อนุกุลได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวโดยหลวงพ่อสิม พุทธาจาโรรวม2คืน ที่สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่องอ.เชียงดาวจ.เชียงใหม่ (ตอกโค๊ดตัว ส ด้านหลังซ้าย)

    ครั้งที่5 วันเสาร์ที่30พ.ย.2517ได้ร่วมเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวพร้อมกับพระปิดตาอุตตะมะ โดยหลวงพ่อเมือง อุตตมภิกขุ วัดท่าแหวนอ.แม่ทะจ.ลำปาง ที่ระลึกในงานฉลองอายุหลวงพ่อครบ7รอบ(ตอกโค๊ดตัว อุ ด้านหน้าขวา)

    ครั้งที่6 วันพุธที่25-วันศุกร์ที่27ธ.ค.2517คุณทวีดวงดาราได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวโดยท่านเจ้าคุณพระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิตร ตลาดพลู ก.ท.ม.รวม3คืน

    ครั้งที่7 วันศุกร์ที่14ก.พ.2518ท่านเจ้าอาวาสวัดน้อย(เป้า)อ.เมืองจ.ชลบุรีได้นำเข้าพิธีปลุกเสกองค์เดียวดัวยพระคาถาชินบัญชรโดยหลวงพ่อไพศาลวิสุทธิคุณ(สาลี)เจ้าอาวาสวัดห้วยยางอ.พานทองจ.ชลบุรี

    ครั้งที่8 วันเสาร์ที่15ก.พ.2518 ท่านเจ้าอาวาสวัดน้อย(เป้า)อ.เมืองจ.ชลบุรี ได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวโดยหลวงปู่ทิม อิสรโก วัดละหารไร่อ.บ้านค่ายจ.ระยอง

    ครั้งที่9 วันอาทิตย์ที่16ก.พ.2518 ท่านพระครูบรรณกิจสุนทร ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองหญ้าปล้องอ.บ้านโป่งจ.ราชบุรี ได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียว โดยหลวงพ่อหอม จันทโชโต วัดชานหมากอ.เมืองจงระยอง นี้คือความพิเศษของเหรียญนี้แล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2022
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    879. พระสมเด็จคะแนน หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เนื้อผงน้ำมัน ปี 18 ให้บูชา 2550 บาท

    upload_2022-10-2_18-53-22.png

    upload_2022-10-2_18-53-30.png
    ปี2518 ทางวัดเขาถ้ำบุญนาค ก็ดำเนินการจัดสร้าง สมเด็จหลังรูปเหมือนหลวงปู่สี ขึ้นมา2รุ่น คือพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก(คะแนน) สร้างรุ่นละประมาณ 5000 องค์ สำหรับสมเด็จพิมพ์ใหญ่ มีเนื้อเดี่ยว คือเนื้อผงน้ำมัน
    พระสมเด็จหลังรูปเหมือนพิมพ์เล็ก(คะแนน) เท่าที่พบเจอมีด้วยกัน 3 เนื้อ(โทนสี)
    1. เนื้อโทนสีที่พบเจอมากที่สุด คือเนื้อเทียน โทนสีจะออกน้ำตาลอ่อนๆ
    2. เนื้อขาว เนื้อนี้จะพบได้น้อย หายากกว่าเนื้ออื่นๆครับ
    3. เนื้อที่ได้รับความนิยมสุด คือน้ำตาลเข้มแกมแดงหรือเนื้อช็อคโกแล็ต สาเหตุที่ได้รับความนิยม ก็คือเนื้อรุ่นนี้ได้นำ เศษจีวร ชานหมาก น้ำหมากของหลวงปู่สี เป็นมวลสารสำคัญ

     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    880. ท่านเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครในแดนใต้ พระผงรูปเหมือนทรงสี่เหลี่ยม เนื้อผงพุทธคุณ รุ่น นอโม พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ ปิดรายการครับ

    upload_2022-10-2_20-48-33.png

    upload_2022-10-2_20-49-1.png



    ในปี 2528 พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อใด้อนุญาติมอบหมายให้คณะศิษย์จัดสร้างวัตถุมลคลรุ่นนอโมขึ้น เพื่อหาปัจจัยมาร่วมบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดทุ่งหล่อ
    * วัตถุมงคลรุ่นนี้ท่านกำหนดให้จัดสร้าง เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมซุ้มประตู กึ่งกลางเป็นรูปองค์ท่านเต็มองค์ นั่งสมาธิอยู่บนบฐานขาโต๊ะ ด้านข้างศรีษะท่านทั้งสองด้านจารึกอักขระคำว่านอโม อันเป็นที่มาแห่งนามอันเป็นมหามงคลของวัตถุมงคลรุ่นนี้
    * จัดสร้างขึ้นสองแบบ คือเนื้อโลหะผสมรมดำและเนื้อผงพุทธคุณ ส่วนด้านหลังประทับใว้ด้วยพระยันต์พุทธซ้อนที่ท่านใช้อยู่เสมอ
    * วัตถุมงคลรุ่นนอโมมีคุณวิเศษ ที่โดดเด่นหลายประการ กล่าวคือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำแบบรุ่นใดๆ มีศิลปรูปแบบและรายละเอียดที่สวยงามคมชัด มีชนวนมวลสารมงคลมากมายเป็นส่วนผสม มีพุทธคุณที่เข้มขลังเอกอุ เพราะผ่านพิธีกรรมปลุกเสกเดี่ยวจากพ่อท่านแก่นรวมระยะเวลา 9 วัน 9 คืน มีประวัติการจัดสร้างตามหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน
    * วัตถุมงคลรุ่นนอโมนับเป็นเหรียญและพระผงรุ่นแรกที่จัดสร้างด้านหน้าในลักษณะรูปเหมือนนั่งเต็มองค์ อีกทั้งนับเป็นวัตุมงคลที่เป็นรูปเหมือนรุ่นสุดท้ายที่มีการจัดสร้างในสมัยท่านยังครองสังขารอยู่

    พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ศิษย์เอกพ่อท่านซัง วัดวัวหลุง ปลุกเสกเหรียญขลังจนกระโดด แม้ให้หวยยังแม่นฉมังจนเจ้ามือขอร้อง..
    พระเกจิอาจารย์ดังขมังเวทเบอร์หนึ่งแห่ง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ต้องยกให้ พระครูอรรถธรรมรส หรือ”พ่อท่านซัง” อดีตเจ้าอาวาสวัดวัวหลุง เจ้าของเหรียญเบญจภาคีที่แพงที่สุดของเมืองคอน แม้เหรียญรูปเหมือนของท่านทุกรุ่นจะเป็น”เหรียญตาย” คือสร้างหลังจากท่านมรณภาพแล้วก็ตาม แต่มีราคาค่านิยมในการเช่าหาสะสมสูง แถมมีประสบการณ์ให้กล่าวขานไม่รู้จบ
    พ่อท่านซังเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังทางวิทยาคม จนเป็นที่นับถือศรัทธาของชาวบ้านทางภาคใต้ ตลอดเข้าไปถึงประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ตะกรุดโทนกับเชือกคาดเอวของท่านมีประสบการณ์ทางคงกระพัน และมหาอุดโชกโชน ท่านสร้างลูกศิษย์สืบทอดวิชาอาคมไว้หลายองค์ อาทิ พ่อท่านเมือง วัดปากบางท่าพญา,พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ, พ่อท่านเดช วัดควนเกย, พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ฯลฯ
    พ่อท่านแก่น ธัมมสาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งหล่อ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช คือหนึ่งในศิษย์พุทธาคมสายตรงของพ่อท่านซัง ท่านได้รับการยกย่องเป็นพระเกจิอาจารย์ทางคงกระพัน พระเครื่องของท่านได้ฉายาว่า”ยอดพระคงกระพันแห่งเมืองคอน” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แค่เมืองคอนเท่านั้น ปัจจุบันเล่นหาเป็นสากลและมีประสบการณ์ขลังไปทั่วประเทศ
    เชื่อกันว่าท่านสำเร็จอภิญญาสามารถแสดงปาฏิหาริย์ลงสรงน้ำในกาน้ำ ประกาศิตแปรธาตุน้ำเป็นธาตุดินถึงขั้นเดินบนผิวน้ำได้ นอกจากนี้ ยังหยุดฟ้าห้ามฝน หยุดกระสุน หยุดรถไฟ และกระทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้หลายอย่าง คนเมืองคอนต่างเคารพศรัทธาท่านเสมอมา แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปกว่า ๓๐ ปีแล้ว
    พ่อท่านแก่นเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๕ เม.ย. ๒๔๔๙ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีจอ เป็นบุตรชายคนเดียวของนายทับ และนางเนี่ยว นามสกุล “ทองชุม” สมัยเด็กแก่นและซุกซนมากพ่อแม่จึงเรียกว่า “แก่น” ครั้นเจริญวัยก็แก่นสมชื่อ คือมีจิตใจกว้างขวาง กล้าหาญ ด้วยความที่เกิดวันแข็งคือ เสาร์ ๕ เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ จึงออกจะมีความขลังอยู่ในตัวเอง ชอบด้านอิทธิฤทธิ์ มีสมัครพรรคพวกมาก กระทำสิ่งใดเด็ดเดี่ยว และสนใจวิชาไสยศาสตร์ตั้งแต่วัยหนุ่ม โดยได้ไปศึกษาวิชาอาคมกับพ่อท่านซัง วัดวัวหลุง
    เมื่อศึกษาอาคมก็ทดลองทำได้เป็นผลเป็นที่อัศจรรย์ใจและพอใจแก่พ่อท่านซังเป็นอย่างมาก เพราะท่านเรียนไสยศาสตร์ได้ผลมากกว่าคนอื่นเนื่องจากมีจิตใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญนั่นเอง จึงมีสมัครพรรคพวกมาก ไปไหนมาไหนคุ้มครองเพื่อนได้ เรื่องเลือดออกให้เห็นเป็นลืมไปได้
    กระทั่งอายุ ๒๑ ปี โยมทั้งสองเล็งเห็นว่าปล่อยช้านานลูกชายอาจจะไปในทางผิด จึงให้อุปสมบทที่วัดวัวหลุง โดยมีพระครูอรรถธรรมรส ( พ่อท่านซัง) เป็นอุปัชฌาย์ ได้ฉายา “ธมมสาโร” จากนั้นได้บวชเรียนอยู่กับพ่อท่านซัง และศึกษาวิชาจนแตกฉานถึงกับไม่ยอมสึก
    แต่บิดามารดาขอร้องให้ออกมาช่วยทำไร่ ทำนา ท่านจึงยอมสึกออกมา แต่ก็ยังคิดถึงเพศสมณะอยู่มิขาด ได้แต่ท่องมนต์บ่นคาถาทบทวนเป็นประจำ และช่วยรักษาชาวบ้านเรื่องแขนหัก กระดูกแตกหักอยู่เรื่อยมา โดยวิธีเอาน้ำมันทาแล้วเป่าด้วยคาถาเท่านั้นก็เห็นผลทันตา
    หลังจากช่วยงานบ้านได้อยู่ประมาณ ๑๐ ปี เห็นว่าพอจะคลายความเดือดร้อนของชาวบ้านได้แล้ว ท่านจึงกลับไปอุปสมบทอีกครั้ง ขณะมีอายุได้ ๓๑ ปี โดยมีพระครูชลาการสุมน (พ่อท่านเดช วัดควนเกย ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งพ่อท่านเดชก็เป็นลูกศิษย์พ่อท่านซัง พ่อท่านทัศน์ วัดหนองแคเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาเดิมคือ “ธมมสาโร”
    หลังอุปสมบทครั้งที่ ๒ แล้ว พ่อท่านแก่นก็เร่งทบทวน วิปัสสนาสมาธิ ฝึกฝนวิชาการต่างๆที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์องค์สำคัญๆ คือ พ่อท่านซัง พ่อท่านเดช พ่อท่านทัศน์ พ่อท่านเกลี้ยง ซึ่งเกจิอาจารย์ทั้ง๒ องค์นี้เป็นพี่น้องกันอยู่วัดหนองแค
    คนร่อนพิบูลย์สมัยก่อนนับถือกันมาก หลวงพ่อทั้งสองนี้เก่งทางวิปัสสนาและคาถาอาคมได้ถ่ายทอดให้พ่อท่านแก่นจนหมดสิ้น เพราะรักมาก โดยพ่อท่านแก่นไปฝากตัวศึกษาตั้งแต่สมัยก่อนบวช เมื่อบวชแล้วก็ไปฝึกวิปัสสนาสมาธิอยู่ด้วยจนกล้าแกร่ง นับว่าเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อทั้งสองที่ท่านรักมาก เพราะสอนวิชาใดให้พ่อท่านแก่นก็ทำได้เห็นผลทันตา
    ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงพ่อท่านเกลี้ยง พ่อท่านทัศน์ คนเมืองนครส่วนใหญ่จะรู้จัก เพราะชื่อเสียงดังพอๆกับ “หลวงพ่อซัง วัดวัวหลุง” เพียงแต่ไม่ค่อยมีการนำเสนอเรื่องราวของท่านทั้งสอง ที่สำคัญ เหรียญหลวงพ่อเกลี้ยงและหลวงพ่อทัศน์ นับเป็นเหรียญยอดนิยมและดังมาก แถมหายากยิ่งในเมืองนคร
    เมื่อทบทวนวิชาต่างๆแล้ว พ่อท่านแก่นก็ไปจำวัดที่วัดทุ่งหล่อ เพราะเห็นว่าสงบวังเวงดี ควรแก่การเจริญวิปัสสนาสมาธิ ซึ่งสมัยนั้นการเดินทางไปมาลำบากมาก แต่ด้วยบุญบารมี อิทธิฤทธิ์ อภินิหาร จริยาวัตรงดงาม ทำให้ผู้คนดั้นด้นไปหาท่านอย่างไม่ย้อท้อ โดยท่านได้ทำการพัฒนาวัดพร้อมไปกับพัฒนาจิตใจของผู้คนละแวกนั้นไปด้วย
    วัดทุ่งหล่อมีเนื้อที่ ๒๑ ไร่ เป็นเนินโคก ตั้งอยู่ในหมู่ที่ ๗ ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เดิมนั้นเป็นวัดร้าง ซึ่งพระอาจารย์สังข์ วัดสระเรียง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ธุดงค์มาปักกลดบำเพ็ญภาวนาในบริเวณนี้ ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษาโดยช่วยกันโค่นต้นไม้ถางป่าสร้างกุฏิให้
    เมื่อพระอาจารย์สังข์มรณภาพลง ชาวบ้านจึงนิมนต์ “พระอาจารย์แก่น” หรือพ่อท่านแก่น มาเป็นเจ้าอาวาส ขณะอายุได้ ๔๔ ปี ๑๕ พรรษ โดยได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑๗ เม.ย. ๒๕๐๐
    เรื่องที่สร้างความฮือฮาให้ชาวบ้านอย่างมากคือ พ่อท่านแก่นท่านให้หวยแม่นมาก ไม่ว่าบอกเลขไหนก็เข้าตรงๆทุกงวด จนกระทั่งเจ้ามือบุกมาหาถึงวัดเพื่อขอร้องให้ท่านเลิกให้หวย ปรากฏว่าท่านเผลอปากไปว่า “เออ กูไม่ขอยุ่งอีก และจะหยุดพูดเล่นเพียงเท่านี้” และหลังจากนั้นก็ไม่เคยให้หวยแก่ผู้ใดอีกเลย
    พระเครื่อง และวัตถุมงคลพ่อท่านแก่นนั้น ท่านสร้างขึ้นเพื่อแจกแก่ผู้ที่ไปขอเฉพาะบุคคล เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ ท่านจะเขียนด้วยมือทุกครั้งไปและปลุกเสกมอบให้ โดยไม่เรียกร้องสิ่งใดทั้งสิ้น และไม่ยอมรับของตอบแทนทุกอย่าง โดยกล่าวว่าท่านให้ด้วยเมตตามิใช่ค้าขาย

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2022
  15. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,176
    ค่าพลัง:
    +903
    จอง876 880
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    รับทราบครับพี่ ขอบคุณมากครับ
     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    881. พระดีในตำนาน เหรียญจอบหล่อโบราณหลวงพ่อเงิน วัดวังสำโรง เนื้อทองประสม ปี2460 ให้บูชา 1550 บาท อง์จริงสวยมากครับ


    upload_2022-10-6_11-34-58.png



    upload_2022-10-3_15-15-43.png

    เหรียญจอบหล่อโบราณหลวงพ่อเงิน วัดวังสำโรง เนื้อทองประสมเก่าจัด สนิมแดงและรอยตามุ้งคลุม พุทธคุณเป็นเลิศในด้านแคล้วคาด ป้องกันภยันอันตราย ไม่ตายโหง คนแก่สมัยก่อนเล่าว่า องค์พระเป็นส่วนที่เหลือ จากการหล่อพระประธานในโบสถ์เก่า วัดวังสำโรง อาจจะไม่เเพงในหมู่พระเครื่งถ้าเทียบกับที่ออกงัดบางคลาน เเต่ใช้ได้เลยเพราะทันหลวงพ่อเงินปลุกเสก ช่วงที่ทำพิธีเททองหล่อได้เกิด ลมพัดแรงคลายฝนจะตกหนัก แต่ไม่ตก และเกิด ปรากฎการณ์ ราหูอมจันทร์ จนหมดไปชั่วขณะ ทางคณะกรรมการและพระทางวัด จึงตั้ง ชื่อพระประธานในอุโบสถ ว่าหลวงพ่อ จันทร์คาด เรียกสั้นกัน ว่าหลวงพ่อจันทร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2022
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    882. พระพุทธปางประทานพร (พระพุทธนิมิต) พ.ศ.๒๕๒๙ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก -เนื้อผงมหาจักรพรรดิ์ ให้บูชา 1650 บาท

    upload_2022-10-12_11-36-41.png

    หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า ข้าเสกไว้ดีแล้วอธิษฐานตามความชอบ จะมีแต่เจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย กันผีปีศาจกันคุณไสยต่าง ๆ กันกระทำย่ำยี แม้ติดตัวไปที่ใดเทวดาเทพพรหมเห็นผู้ที่นำพระไปใช้ปฏิบัติและภาวนาอยู่เป็นเนืองนิจว่า "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ"เขาเหล่านั้นอยู่ในที่ใด ผีปีศาจวิญญาณ เทพพรหมทั้งปวง ก็จะอนุโมทนาบุญด้วยและคอยปกปักรักษาเขาเหล่านั้นตลอดไป...

    พุทธคุณครบทุกด้าน
    พระเครื่องที่พระอรหันต์สร้างเสก ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ
    เป็นพระนิรันตราย อันตรายมลายสิ้น ปลอดภัย แคล้วคลาด เหมือนได้รับพรอันวิเศษจากหลวงปู่ตลอดเวลาครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2022
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467
    883.พระผงน้ำมัน พิมพ์สามเกลอ วัดสว่างฟ้า อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จัดสร้างและปลุกเสกพร้อม วัดบ่อวิน ปี 15-16 หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ร่วมปลุกเสก ด้านหลังมียันต์ นะโมพุทธายะ ให้บูชา 800 บาท

    upload_2022-10-3_20-51-31.png

    พระชุดวัดบ่อวิน อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิเป็นผู้ดำเนินการ จัดสร้างเมื่อราวปี พ.ศ.2515-2516 มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง เนื้อผงพุทธคุณต่างๆ, ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม, จีวร, เกศาของหลวงปู่ทิม, หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง จากคำบอกเล่า ของครูดุก พัทยา ผู้เคยบวชร่วมสมัยกับพระอาจารย์กิม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของคุณมาโนช ผู้สร้างพระชุดนี้ครับ) เมื่อแล้วเสร็จคุณมาโนช ได้นำไปถวายให้พระอาจารย์สายกรรมฐาน เมตตาอธิษฐานจิตในวาระแรก รายนามพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน 1.หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร 2.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง 3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี 4.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล 5.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม 6.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั่ง 7.หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม 8.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก หลังจากนั้นก็นำเข้าพิธีต่างๆ ในแถบภาคตะวันออกอีกไม่ต่ำกว่า 9 พิธี วาระสุดท้าย ได้นำไปถวายให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้ ตั้งแต่ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2517 จนถึง วันที่ 29 กรฎาคม พ.ศ.2518 เป็นระยะเวลานานมากถึง 9 เดือน 20วัน ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่าอย่าง แท้จริง
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +467

แชร์หน้านี้

Loading...