ใครเคยอ่านหนังสือความสำเร็จที่มาจากพระพุทธเจ้าบ้าง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย eka.11@hotmail.com, 27 เมษายน 2008.

  1. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    ขนาดทำสมาธินะ เค้าบอกว่า 15-20 นาทีทุกคนจะได้หนึ่งฌาน เออถ้าฌานมันได้ง่ายๆขนาดนี้ก็ดีสิคงฝึกกันได้เต็มบ้านเต็มเมืองกันหมดแล้ว
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    กรรมฐาน ๕ รูปฌาน ๔ คำภาวนา เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ

    เมื่อถึง ฌาน ๔ ให้ตั้งตัวตรงและอย่ากระดุกกระดิกตัวโดยเด็ดขาด สังเกตุฌาน ๔ เริ่มจับจะทำให้รู้สึกชาที่ข้อมือ และความชาจะลามจากปลายเท้าขึ้นมาที่ขา และบางครั้งจะชาถึงใบหน้า

    และถ้าฌาน ๔ เข้าขั้นอัปปนาสมาธิ ก็จะทำให้ร่างของเราเกิดอาการเกร็งแข็งเหมือนก้อนหิน ซึ่งอัปปนาสมาธินั้นนาน ๆ จะได้สักครั้งหนึ่ง

    และในขณะที่เข้าฌาน ๔ อยู่นั้น ถ้าเกิดการเจ็บหรือปวดตามร่างกาย ก็อย่ากระดุกกระดิกเด็ดขาด เพราะจะทำให้ฌานของเราตกลงได้ และจะทำให้ไม่ถึงฌาน ๔

    หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องทนนั่งเจ็บปวด ก็ขออธิบายว่าการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นกรรมของเราที่ได้ทำมาในอดีตนั่นเอง และการนั่งฌานนั้นจึงถือว่าเป็นการเผาผลาญกรรม หรือเรียกว่านั่งเพื่อชดใช้กรรมให้เบาบางนั่นเอง
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 12:00 AM</TD></TR><TR title="โพส 1151833" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>เด็กโชว์พาว</TD><TD class=alt2>ทำความดีแล้วหวังผลตอบแทน ทำให้ผู้อื่นหลงในฤทธิ์ และอีกมากมาย ผมยังคิดด้วยซ้ำว่ากรมศาสนาไปไหน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่ผมอ่านทำบุญให้หวังได้บุญ หวังได้ แต่อย่าไปอยาก อยากได้จะไม่ได้ ถึงเวลาเมื่อไรได้เอง

    ทำอย่างไรให้ผู้อื่นหลงในฤทธิ์ ที่ผมอ่านเขาก็สอนนั่งฌาน แล้วผลจากการนั่งเขาถอดจิตได้

    บิดเบือนคำสอนหรือครับ

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 12:08 AM</TD></TR><TR title="โพส 1151849" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>เด็กโชว์พาว</TD><TD class=alt2>ขนาดทำสมาธินะ เค้าบอกว่า 15-20 นาทีทุกคนจะได้หนึ่งฌาน เออถ้าฌานมันได้ง่ายๆขนาดนี้ก็ดีสิคงฝึกกันได้เต็มบ้านเต็มเมืองกันหมดแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ก็มันได้จริง ๆ นี้ครับ

    มันคนละอย่างกับการนั่งสมาธิแบบกำหนดลมหายใจครับ

    แบบของ อ.ศิริพงษ์ ไม่เหมือนกับสายอื่น ๆ เลยครับ

    เขาจะให้ท่องคำภาวนาว่า เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ ตโจ ทันตา นขา โลมา เกศา แบบว่าให้เร็ว ต้องท่องให้เร็ว ไม่สนใจลมหายใจครับ

    เริ่มฌาน 1 [​IMG] กระตุกตัวขึ้น ฌาน 2 จะเกิดอาการสั่น [​IMG] กระตุกตัวขึ้นฌาน 3 [​IMG] กระตุกตัวขึ้น ฌาน 4 แล้วนิ่ง [​IMG] ณาน 4 [​IMG] ลดตัวลงมา ฌาน 3 [​IMG] ลดตัวลงมา ฌาน 2 แล้วสั่นมือ [​IMG] ลดตัวลงมาฌาน 1 [​IMG] กระตุกตัวขึ้น (ทำแบบเดิม)


    ไม่กระจ่างครับ

     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เห็นถาม-ตอบเรื่องฌานที่เว็บของ อ. ศิริพงษ์ น่าสนใจดี จึงนำมาให้วิจารณ์ฌานกันหน่อยดังนี้



    ถาม...อยากให้ อ. ศิริพงษ์แนะนำหลักนั่งกรรมฐานค่ะ กำลังตั้งครรภ์ นั่งได้มั้ยคะ
    <O:p</O:p
    ตอบ...สามารถนั่งฌาน ได้ค่ะ แต่ตอนสั่นที่ ฌาน 2 ก็ให้สั่นเบาๆ พอให้ตัวสะเทือนไปทั่วตัว ขอย้ำว่าให้เบาๆ นะคะ
    <O:p</O:p

    ถาม...สงสัยมากเลยครับ ออกฌาน ยังไงถึงไม่ติดฌานครับ อ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ กลัวติดฌาน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ตอบ....ให้ขึ้นและลงจากฌานตามลำดับค่ะ อย่าข้ามขั้นตอนส่วนฌาน 2 ขาลงให้สั่นมากๆ เพื่อสลัดฌานออก ถ้าพบว่ายังมึนๆ ศีรษะหรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ให้ลองเข้าฌานและออกใหม่อีกครั้งเพื่อสลัดออกในฌาน 2อีกครั้ง รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดศึกษาในซีดีคอร์สที่ 1 นะคะ
     
  5. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    กรรมฐานมี 40 กอง...
    หลวงพ่อบอกว่าถ้ายังศึกษาไม่ครบ แล้วมานั่งทะเลาะกัน...มันเป็นตัวมานะ
    มานะตัวเลว แล้วก็ไม่ไปถึงไหน...
    เหมือนเด็กทะเลาะกัน..น่ารำคาญ..
     
  6. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    ถ้าคิดอย่างงั้นก็ขออภัยครับ ถือว่าผมเข้าใจผิดไปเอง และขออภัยไว้ณ ที่นี้ด้วย เดี๋ยวคนที่ชอบคนเขียนหนังสือท่านนี้จะมาว่าผมได้
    แต่สำหรับผมแล้วก็ยังไม่สนับสนุนอยู่ดีนั่นแหละ
     
  7. เทพบุตร

    เทพบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +114
    ผมว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น สอนให้ละ ให้ลด ความโลภ โกรธ หลง หากอาจารย์ก็ดี พุทธบริษัทก็ดี เป็นผู้ชี้นำให้เกิดกิเลสเพิ่มพูนขึ้น ก็ต้องพิจารณา ไต่ตรองให้รอบคอบครับ หนังสือเล่มนี้ผมอ่านแล้ว ให้คะแนน5 เต็ม10ครับ
     
  8. kurochang

    kurochang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +111
    เข้า ฌาณ 4 แบบอ.ศิริพงษ์ ยากไหมคับ อยากฝึกเหมือนกัน แต่อ่านในหนังสือ ไม่เข้าใจ

    เฮีย ขอคำแนะนำหน่อยคับ พอดีผมฝึกที่บ้าน ก็มีแต่ห้องพระ ไม่มีครู อาจารย์ แถมอยู่ต่างจังหวัด

    ไม่ได้อยู่ใน กทม
     
  9. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130

    อนุโมทนา สาธุ

    แล้วแต่จริต ทุกคนเกิดมาไม่เหมือนกัน...ผมให้คะแนนหนังสือเล่มนี้ไม่ได้

    แต่ผม ทำทาน รักษาศีล ๕ ศีล ๘ อุโบสถ นั่งสมาธิ ได้ดีขึ้นเพราะ หนังสือเล่มนี้

    คุณkurochang ลองไปอ่านเว็บ อ.ศิริพงษ์ ครับ

    www.siripong.net

    สมัครสมาชิกได้แล้วมาคุยกัน เพราะสายกรรมฐาน ๕ รูปฌาน ๔ การภาวนาไม่เหมือนใคร
     
  10. เทพบุตร

    เทพบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +114
    เพิ่มเติมอีกนิดครับ ทางสายเอก ที่จะทำให้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน ได้นั้น มีเพียงสายเดียวครับ ไม่ว่าท่านจะชอบหรือไม่ชอบใจ ถูกจริตหรือไม่ถูกใจก็ตาม ก็มีแต่วิปัสสนาทางเดียว เท่านั้นครับ ก็น่าเห็นใจว่า บางท่านยังสับสนกันอยู่ว่า อะไรเป็นสมถะ และอะไรเป็นวิปัสสนา ด้วยเหตุที่หนังสือตำรา ทางพุทธศาสนาในขณะนี้มีมาก ต้องใช้ความสามารถพอสมควรในการค้นคว้าครับ ส่วนของ อาจารย์ ศิริพงษ์ นี้ เป็น "สมถะ" ครับ ขออนุญาติ "ฟันธง"
    วิปัสสนา โดยหลักการ จะใช้รูป-นามเป็นอารมณ์กรรมฐานครับ หากว่ายังใช้นิมิต(การนึก,คิด,สร้างมโนภาพ) ถือว่าเป็น"สมถะ"อยู่ครับ ของ อาจารย์ ศิริพงษ์ นี้ อยู่ในกรณี ที่อารมณ์จดจออยู่กับคำบริกรรมครับ ยังอยู่ในเขตของ"สมถะ"อยู่ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ได้ทรงให้คำจำกัดความอย่างจำง่ายๆดังนี้ครับ "สมถะ คืออุบายทำให้จิตสงบ" "วิปัสสนา คืออุบายทำให้เรืองปัญญา"
    ในการปฏิบัติตามแนวทางของ อาจารย์ ศิริพงษ์นี้ ถึอว่าหากปฏิบัติให้จิตสงบ จะถึอว่าดีมากครับ เพราะพระพุทธองค์ ทรงกล่าวไว้ว่า "สมถะ เป็นมหากุศล"ครับสาธุ
     
  11. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    สาธุ ... ถูกต้องครับ เป็น สมถกรรมฐาน

    ต้นทางของกรรมฐาน ๕ รูปฌาน ๔ ที่ อ.ศิริพงษ์ ได้มาคือ

    ได้มาจากวัดถ้ำขวัญเมือง ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร

    http://www.wattham.com/flowchart.asp

    ลองหาอ่านเพิ่มเติมครับ ว่าจากสมถกรรมฐาน เขาเปลี่ยนเป็น วิปัสสนากรรมฐาน เมื่อถึงเวลาเปลี่ยน
     
  12. radian235

    radian235 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +17
    ผมเป็นคนนึงที่นั่งสมาธิแล้วมีอาการสั่นเหมือนคนทรง จึงเริ่มหาคำตอบ ก้อได้คำตอบที่เว็บ อ.ศิริพงษ์ และที่วัดถ้ำขวัญเมือง ซึ่งได้บอกว่าเป็นอุพเพงคาปิติ เป็นปิติชนิดนึง ที่เกิดในฌานที่ 2 แต่พอเริ่มเข้ามาที่เว็บพลังจิต ได้อ่านคำสอนของหลวงพ่อฤาษีได้ทราบว่ามันเป็นแต่เพียงปิติที่เกิดในอุปจารสมาธิ เพราะปิติในฌานจะมีอาการทางใจไม่ใช่ทางกาย ส่วนตัวผมก็เชื่อในส่วนที่ว่าปิติในฌานจะเป็นอาการทางใจไม่ใช่ทางกาย และก้อได้อ่านเจอคำสอนของพระองค์นึงจำชื่อไม่ได้ ว่า ฌาน 3 และ 4 มันจะวิวัติตัวมันเอง
    ส่วนร่างกายที่ล็อคเกร็ง ผมก็ล็อคออกบ่อยไป เวลานั่งปึ๊บน้อมเมื่อไหร่ล็อคเกร็งลมหายหมด ร่างกายเหมือนจะระเบิด ซักพักมันก็ปรับของมันเอง ผมไม่ค่อยชอบอาการของผมซักเท่าไหร่ ใหม่ ๆ ก้อสนุกดีหรอกครับ มาหลัง ๆชักไม่ค่อยชอบมันผาดโผนเกินไป หรือผมไม่มีวาสนาแนวนี้รึก้อไม่รู้
    ใช้วิจารณญานดูเอาเองนะครับ หรือลองปฏิบัติดูก่อนก้อได้ไม่เสียหาย ชอบไม่ชอบว่ากันทีหลัง อย่าเพิ่งด่วนสรุปจ้า
     
  13. ๋Zeus@

    ๋Zeus@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +1,960
    เป็นอุบาย+กุศโลบายของคุณศิริพงษ์มากกว่าครับ

    เขาเริ่มด้วย พิสูจน์ธรรมมะ ว่ามีจริงไหม (สำหรับคนทั่วไป อย่างผม ที่ไม่ค่อยเชื่อ)
    ทำบุญ แล้วส่งผลกลับมารวย (ใช้อธิษฐานบารมีช่วย สำหรับคนอยากรวย)
    ทำบุญกับวัดและพระที่ศีลครบ 227 ข้อ (หาวัดแบบนี้ยาก รู้ๆ กันอยู่ ครบแบบบริสุทธิ์)

    การนำเสนอแบบที่ว่ามาทำให้ผมซื้อมาอ่าน และทดลองทำตาม
    เพราะหนังสือบอกว่าอย่าเชื่อเขา ให้พิสูจน์เอง

    พอเริ่มสงสัย ก็เลยดูแผนที่ในหนังสือ เดินทางไปวัดถ้ำขวัญเมือง
    เพราะเห็นว่าเป็นอาจารย์คุณศิริพงษ์จริงๆ

    ก็ได้ไปอ่านหนังสือ โลกุตระ ของ หลวงปู่สรวง ถึงได้เห็นคำสอนตรงๆ อีกสไตล์

    ท่านไม่เคยบอกว่าท่านเป็นอะไร ท่านสอนวิธีไปนิพพาน สายตรงๆ
    ไม่ต้องเสียเวลากับสิ่งรอบข้าง ท่านไม่สนับสนุนเครื่องลาง ของคลัง ทุกรูปแบบ
    เพราะก็รู้แก่ใจกันทั้งโลกว่าเป็นอาบัติ...
     
  14. bb.boy

    bb.boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +381
    ^ ^

    ขออนุโมทนาในการศึกษาใฝ่ธรรม ของนักปฏิบัติทุกๆท่านด้วยนะครับ

    โดยส่วนตัวขอเอาข้อสังเกตุที่เคยผ่านตามากล่าวสักนิด

    ผมเป็นคนอ่านหนังสือไม่มากนัก
    แต่เคยจะพอได้ผ่านตา พระสุตตันตปิฎกมาบ้าง (ซึ่งอาจไม่ละเอียด รอบคอบ ถี่ถ้วนนัก ผิดพลาดก็ขอได้ชี้แนะด้วยนะครับ ^ ^ )


    ผมเองสังเกตุว่า พระพุทธสาวกก็ดี พระอริยสาวกก็ดี พระอรหันตสาวกก็ดี
    ตลอดจนสมเด็จพระชินศรีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี

    ในเรื่องราว อดีตกาล ที่ท่านยกมาเล่า วิสัชนา
    เรื่องในอดีตชาติ เกือบทุกๆท่าน ( หรือจะทุกๆท่านก็ว่าได้ )

    ต่างก็ได้เคยทำบุญ ในพระพุทธศาสนา
    กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกาลก่อนบ้าง
    กับองค์พระปัจเจกพุทธเจ้าในกาลก่อนบ้าง
    กับพระอริยสาวกในกาลก่อนบ้าง
    กับพระสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกาลก่อนบ้าง
    กับพระโพธิสัตว์ครั้งยังไม่สำเร็จ ในกาลยังบำเพ็ญเพียรบ้าง

    แม้ในสมัยกาลนั้น ในคราวที่องค์สมเด็จพระศาสดา ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่
    ก็มีพุทธบริษัท หลายท่านๆ ได้มีโอกาสทำบุญ

    แล้วตั้งจิต อธิฐาน
    ขอโลกียทรัพย์บ้าง โลกุตรทรัพย์บ้าง

    แล้วก็สำเร็จกิจที่ตั้งใจปรารถนา อันเป็นที่มา ในกุศลที่เคยบำเพ็ญ
    จารึกไว้ ให้เราทั้งหลาย ได้เรียนรู้
    เป็นแนวทาง ในการสร้างกุศล ผลบุญ และเดินตามแนวทาง มาถึงในปัจจุบัน


    จากตรงนี้ จึงทำให้ผมเอง ไม่เคยเลยสักครั้ง
    จะทำบุญ กุศลใด ไม่หวังสิ่งที่ได้ลงมือกระทำ
    หากแต่ได้อธิฐานทุกๆครั้ง

    ให้ทุกๆดวงจิต ได้รับกุศลผลบุญเทียมเท่ากัน
    เป็นปัจจัยสู่ความพ้นจากทุกข์ จบกิจวิมุติสู่พระนิพพานโดยกาลอันลัดสั้นรวดเร็วโดยถ้วนหน้ากันเทอญ


    ^ ^

    หากความตั้งใจหวังขอฉันเป็นกิเลส
    ก็ขอให้กิเลสนี้ของฉัน สำเร็จได้ด้วยพระพุทธบารมีด้วยความอัศจรรย์
    ฉันขออาราธนา พระรัตนตรัยทั้งสาม หนุนนำสิ่งที่ฉัน
    อธิฐานมุ่งหวัง สำเร็จได้ดั่งใจเทอญ....
     
  15. para007

    para007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +317
    สาธุ สาธุ แด่ทุกๆท่านที่ใด้วิสัชชนาธรรมในที่นี้ทำให้ผมได้ความรู้ ตาสว่างขึ้นมาอีกขอบคุณครับ
     
  16. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,766
    ได้ความเห็นที่หลากหลาย
    เข้าใจท่านที่เชื่อและได้ผล
    และเข้าใจท่านที่ไม่เชื่อและไม่เห็นด้วย

    ทุกอย่างล้วนมีเหตุ
    วางใจกลาง ๆ ก็จะเห็นสภาพธรรม
    แนวทางปฏิบัติพิสูจน์ธรรมที่ต่างกันไป
    แต่ยังอยู่ในเส้นทางหลักเหมือนกัน
     
  17. Arwritz

    Arwritz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +14
    ขออนุญาตแสดงค.เห็นนะคะ
    โดยส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้ายอมรับค่ะว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรก
    ที่ทำให้ข้าพเจ้าสนใจในพระพุทธศาสนา อยากทดลองเรื่องสมาธิ
    โดยปกติคนทั่วไป ต้องอยากเป็นธรรมดา หนังสือเล่มนี้เขียนออกแนว
    เรื่องอิทธิฤทธิ์ อธิษฐานให้เป็นไปตามใจต้องการ
    นั่นคือแรงบันดาลใจครั้งแรกของข้าพเจ้า ต้องขอบคุณอ.ศิริพงศ์ ค่ะ
    ที่ทำให้ข้าพเจ้าเข้าทางธรรม(แบบหวังทางโลก) และศึกษาพุทธศาสนาเรื่อยมา

    แต่พอผ่านมาก็รู้ว่านั่นไม่ใช่ทางสายกลาง ไม่พ้นทุกข์
    ตอนนี้ หันมาปฏิบัติแบบวิปัสสนากรรมฐานหลวงพ่อจรัญแล้วค่ะ
    นับถือท่านมากๆเลยค่ะ

    ยังไงก็อยากเชิญชวนให้ทุกๆคนหันมาศึกษาปฏิบัติกรรมฐานสติปัฏฐานสี่นะคะ
    พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่านั่นคือทางสายเอกเพื่อพ้นทุกข์
    ^^

     
  18. Arwritz

    Arwritz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +14
    เห็นด้วยกับค.เห็นนี้มากๆค่ะ
    ทางสายเอก มีอยู่สายเดียว นั่นคือการเจริญวิปัสสนา
    การเจริญวิปัสสนาก็เพื่อให้เกิดปัญญารู้แจ้งแทงตลอด
    ส่วนวิธีการเจริญวิปัสสนา ต้องเป็นอารมณ์ปรมัตถ์
    โดยยึดรูป-นามเป็นอารมณ์นั่นเอง(ก็คือกาย-ใจเรา)
    เรียกว่า สติปัฏฐานสี่ นั่นเองคร่า ^^

    แต่ในเรื่องของสมาธิและปัญญา
    นั่นก็สำคัญไม่แพ้กัน
    เพราะสมาธิ จะเป็นแรงพลังให้เกิดปัญญาเห็นตามจริงได้ง่าย
    ไม่ถูกกิเลสอคติในใจและสิ่งแวดล้อมถาโถมง่ายๆ
    คุณของสมาธิทำให้มีจิตใจที่มั่นคงหนักแน่น

    ข้าพเจ้าคิดว่าหนทางที่ดีที่สุดคือ
    ต้องบริบูรณ์ต้องครบทั้ง 3 อย่าง
    ทั้งทาน ศีล ภาวนา(สมาธิ และปัญญา)
    เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ผลอันสมควรย่อมเกิดแน่นอน


    ผิดถูกประการใด ขออภัยด้วยเด้อ ^^ rabbit_scary
     
  19. ๋Zeus@

    ๋Zeus@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ใจเย็นครับ หนังสือ สอนฌาน4 ครับ ไม่ใช่ไปนิพพาน เรื่องที่มากกว่านี้ ต้องไปที่วัด หรือ อ่านของหลวงปู่ อีกเล่มหนึ่ง
     
  20. ๋Zeus@

    ๋Zeus@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +1,960
    หากต้องการฝึกขั้นสูงกว่าฌาน หรือ "วิปัสสนา"
    ต้องตามไปอ่านของหลวงปู่สรวง (ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของคุณศิริพงษ์อีกที)
    ชื่อว่าหนังสือ "โลกกุตระ"

    ของคุณศิริพงษ์เน้นการท้าทายเพื่อพิสูจน์ ธรรมมะ สำหรับนักวิทยาศาสตร์ ทั้งหลาย
    ผู้ไม่เชื่อทั้งหลาย ผู้อยากเชื่ออย่างมีเหตุผล ผู้อยากทดลอง
    ผู้ที่ปรามาศว่า ธรรมมะ ไม่มีจริง
    พระพุทธเจ้า ไม่มีจริง....
    ใจเย็นๆ นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...