เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

พระปิดตาเนื้อข้าวสารดำ
พระสมเด็จฝังข้าวสารดำ
"หลวงปู่โต๊ะ-หลวงพ่อเอีย"
===============

2 สุดยอดอริยสงฆ์ที่ไม่ต้องมีคำโฆษณา หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กับ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีณบุรี นอกจากเป็น "สหธรรมิก"ที่สนิทสนมกันมาก ร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นดัง รุ่นสำคัญด้วยกันบ่อยครั้ง

ทั้ง 2 อริยสงฆ์ ยังสร้างวัตถุมงคลด้วย..."พระแม่โพสพดำ"ิใน ปี 2516 พร้อมกันราวนัดหมายไว้...

หลวงปู่โต๊ะสร้าง พระสมเด็จฐานสิงห์ ด้านหลังยันต์ตรงกลางฝัง"ข้าวสารดำ" ที่มีลูกศิษย์นำมาให้จากกรุเจดีย์เก่าบรมธาตุ เมืองกำแพงเพชร ซึ่งวัตถุอาถรรพ์ "แม่โพสพดำ"นี้ พบมากสุดที่ืจังหวัดเพชรบูรณ์ ในส่วนทุ่งเศรษฐีเมืองกำแพงเพชรก็พบเจอหลายกรุ

หลวงพ่อเอียนั้นเล่า ท่านก็สร้าง "พระปิดตาพิมพ์สมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ" อันเป็นพระปิดตารุ่นมหานิยม ดีที่สุดของท่าน ด้วยการบดผสมเนื้อหา"พระแม่โพสพดำ" ลงไป

ไม่มั่นใจว่า หลวงพ่อเอีย ท่านนำ เนื้อหามวลสาร "ข้าวสารดำ" มาจากหนใด แต่ที่แน่ๆก็คือ ท่านนิมนต์ หลวงปู่โต๊ะ ให้เป็นประธานในพิธีปลุกเสกพระปิดตารุ่นนี้ โดยท่านเป็นรองประธานพิธี และ หลวงปู่โต๊ะ ยังเมตตานำมาเพิ่มพิธีพุทธาฯที่วัดประดู่ฯอีกรอบ ก่อนแบ่งจากหลวงพ่อเอียมาแจกลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง

พระที่มีองค์ประกอบ "แม่โพสพดำ" ทนสิทธิ์แห่งความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ผู้ใดมีไว้ในครอบครองจักไม่ประสบคำว่าขาดแคลน อดอยากความแร้นแค้นในครัวเรือนนี้ิ จึงเป็นสิ่งที่ทั้ง 2 อริยสงฆ์ ต้องแบ่งปัน "วัตถุดิบ-ทนสิทธิ์อาถรรพ์"ให้แก่กันและกันอย่างแน่นอน แม้ไม่มีหลักฐานบันทึกเเป็นทางการ แต่องค์ประกอบแวดล้อมรอบด้าน...ใช่!!!

เชิญชมภาพ พระสมเด็จหลังข้าวสารดำ+พระปิดตาพิมพ์กรมหลวงฯเนื้อข้าวสารดำ นำมาเป็นการประกอบเรื่องราวเท่านั้น


พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ หลังข้าวสารดำ ปี 16ขออนุญาตนำภาพจากหนังสือประวัติหลวงปู่โต๊ะเล่มแดงมาเผยแพร่...หนังสือเล่มนี้จัดทำ ตีพิมพ์ในปี 36โดย เจ้าสัวคมศักดิ์ อำพันยุทธ์ กับ เจ้าสัวสุเทพ กิตติเกษมศักดิ์


ภาพนี้เป็นพระสมเด็จฐานสิงห์ หลังข้าวสารดำ (โปรดสังเกต "ทนสิทธิ์ข้าวสารดำ" ทั้งเม็ด)เช่นกัน วัดประดู่ฉิมพลี สร้างไว้ 2 พิมพ์ องค์โตกว่าสมเด็จทั่วไปเล็กน้อย หาชมยาก หาคนปล่อยขายไม่มี

พระปิดตาพิมพ์กรมหลวงชุมพรฯ ปี16 เนื้อหามวลสาร "พระแม่โพสพดำ"เป็นหลัก ลป.โต๊ะ-ลพ.เอีย ประจุพุทธาคมเป็นที่สุดของที่สุดด้วยกัน!!!


===== ยังมีต่อ =====

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง wanwi และสมาชิกนักขุด

มุคำถามประหลาดมาอีกแล้วค่ะ พระผงที่มีรอยร้าว หรือรอยแตกจะซ่อมหรือบูรณะได้อย่างไรบ้างคะ เห็นบางตำรา เอาไข่ขาวแล้วมาทา บ้างก็มีการทำรอยให้ดูกลมกลืน มีการเอาพระผงใกล้เคียงกันมาอุด มุเลยมาแอบถามคุณลุงและเพื่อนๆก่อนนำพระไปบูรณะค่ะ

เกิดมาไม่เคยต้องไปซ่อมพระ มีงานนี้แหละที่เห็นองค์พระผงแล้ว กัดฟันเลยว่า มุจะนำไปบูรณะเองและปิดทองด้านหน้าให้สวย ตอนนี้เลยได้แต่หาข้อมูลและแวะมาแอบถามเพื่อนสมาชิกค่ะ

 

นิ้วปกติใส่ไม่ได้หรอกครับ หลวม แต่นิ้วโป้งข้างขวา พอได้อยู่เพราะข้อนิ้วใหญ่ 5555 ... ผมชอบสะสมแหวนพระสวยๆ อะคับ ไม่เกี่ยงว่าใส่ได้หรือไม่ได้ ถ้าโดนใจ เป็นต้องสอย ถึงใส่นิ้วไม่ได้ ก็เลี่ยมห้อยคอได้คับ 55555

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

คำถามหนูมุไม่ประหลาดหรอก เพียงแต่ปกติคนทั่วไปจะไม่ค่อยซ่อมพระเอง ยกเว้นนักเล่นพระระดับเข้าขั้น เช่นพวกผม ซึ่งมีพระเยอะ ฝากซ่อมมั่ง จ้างซ่อมบ้าง บางองค์หวงมากไม่อยากไปทิ้งกับใครนานๆก็หาทางซ่อมด้วยตัวเอง โดยเฉพาะ"พระเนื้อผง" เป็นหลัก เนื้อโลหะ กับ ดิน ยากที่จะซ่อมเอง ต้องพึ่งยอดฝีมือแต่ละชนิด

ซึ่งพระเนื้อผงก็ไม่ยากสำหรับรอยร้าว รอยแตก เรานำพระแท้ๆที่แตกหัก แบ่งมาหน่อยบดด้วยถ้วยบดยาคนโบราณ ตอนบดก็เหยาะน้ำทีละหยดอย่าเยอะจนแฉะเอาแค่พอเหนียวๆ ถ้ารอยแตกรอยร้าวน้อยก็ไม่ต้องใส่ตัวประสาร บดจนเนื้อผงละเอียด เวลากวนจะคล้ายแป้งเปียกก็นำโปะที่รอยแตกนั้น เอาพู่กันเกลี่ยไล้ ตบแต่งเหมือนช่างฉาบปูนยาแนว จะใช้วัสดุอะไรก็ได้ที่เราถนัด ดูสีสันของเนื้อผงที่นำมาฉาบให้สีใกล้เคียงองค์พระที่จะซ่อม

ทำไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับผู้หญิงที่มิใช่นักเล่นพระ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแยกหามละกัน พระบางองค์ท่านร้าว-รานธรรมชาติ ต้องปล่อยท่านไว้อย่างนั้น อย่าไปยุ่งขิงมาก

 

แหวนเล็ก-แหวนใหญ่ เห็นหลายท่านเลี่ยมคล้องคอสวยเก๋ บางคนก็ร้อยเชือกคล้องเอาดื้อ ๆ ไม่มีศิลปะในการรักษาของ ฟังน้องสไปฯว่ามาก็สบใจที่เข้าใจดูแลของรักของชอบ เรื่องแบบนี้ เป็นแนวทางของใครของมัน ทำแล้วมีความสุขกับสิ่งที่ชอบ ไม่เดือดร้อนผู้ใด ก็ทำไปโลด

 

น้องปรายจิ้มฯเซย์ ฮัลโหล
สายบ่ายคล้อย ตอบกลับค่ำ

 

ยังๆค่ะ ไม่กล้าค่ะคุณลุง ยิ่งพระของครูบาอาจารย์ มุไม่คิดบูรณะเองค่ะ แต่ที่ต้องศึกษาเยอะเพราะกลัวโดนฟันราคาค่ะ เลยต้องขอข้อมูลเยอะค่ะ ไหนๆแล้วก็ศึกษาไปเลย
รู้อะไรก็เอาให้รู้จริงๆไปเลย มุยังไม่คิดจะสะสมพระเครื่องมากกว่านี้ค่ะ (เยอะเกิน) ฮา เว้นองค์ไหนที่รู้สึกว่าใช่ องค์นี้มุคิดอย่างเดียว มุจะขอมาบูรณะต่อ เสียดายสภาพองค์พระครูบาอาจารย์

มุตั้งใจจะจ้างช่างค่ะ อย่างที่บอกเสียดายองค์พระ และด้านหน้าได้ปิดทองคงจะสวย เคยเจอช่างบอกว่าอันนี้น้ำยาทำให้เก่า นี่แค่ฟังวิธีซ่อมของคุณลุง มุยังร้องฮ๊าเลยค่ะ ไม่กล้าค่ะ มิน่าทำไมเคยเห็นช่างเค้านั่งตำๆบดๆ อ้อเอาผงมาอัดนี่เอง น้ำยาทำให้เก่า ฟังแล้วก็ทำตาปริบๆ)

 

กำเนิด "พระแม่โพสพดำ"
================

'ข้าวสารดำ' เป็นสิ่งที่เกิดด้วยภูมิปัญญาคนโบราณ นานนับพันปี เมื่อมีการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ พระธาตุอรหันต์องค์สำคัญไว้สืบทอดพระศาสนา

ห้องที่บรรจุสิ่งเคารพสูงสุด จะถูกโปรยหว่านด้วย "ข้าวสารดำ" ซึ่งเป็นข้าวที่นำมาเผาจนดำเพื่อป้องกันมดมอดปลวกเอาไปกิน และเคล็ดลับการโปรยข้าวสารดำจำนวนมาก ก็เป็นภูมิปัญญาที่ง่ายระดับ "สูงสุดสู่สามัญ" ก็คือ เผื่อไว้ในยามที่พระเจดีย์เกิดปรักหักพังจะด้วยความเก่า หรือภัยธรรมชาติ คนรุ่นหลังจะได้เห็นความผิดปกติ และรู้ว่าห้องนี้มี "สิ่งสำคัญ"ิถูกเก็บรักษาอยู่

"ข้าวสารดำ" ชนิดนี้ ศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองไม่ต้องปลุกเสก เพราะอยู่รักษาพระบรมธาตุเนิ่นนานเป็นร้อย-พันปี เหล่าเทวเทพที่ดูแลพระบรมธาตุ-พระธาตุ ต่างสวดมนต์เคารพบูชาพระธาตุตลอด ข้าวสารดำ ก็เป็น ทนสิทธิ์มากอิทธิฤทธิ์ในตนไปด้วย

อีกประการหนึ่ง "ข้าวสารดำ"ิเป็นสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติ คล้าย"ฟอสซิล" (ซากพืช-สัตว์ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในชั้นหินจากดึกดำบรรพ์ฯ)แต่ไม่แข็งแกร่งเช่นฟอสซิล สามารถเอานิ้วมือบีบแตกเป็นผงได้ ข้าวสารดำจำพวกนี้ มีมากแถวสุโขทัย,กำแพงเพชร และเมืองบริวารครั้งอดีตที่เป็นจังหวัดเพชรบูรณ์ในปัจจุบัน

ทนสิทธิ์อย่างหลัง ไม่ได้เกิดจากการนำข้าวสารปกติมาเผา แต่เกิดจากสิ่งใดตามธรรมชาติก็ยากจะพิสูจน์รู้แจ้ง เมื่อฝนตกหรือดินสไลด์ บางแห่งก็จะมี "ข้าวสารดำ" นี้โผล่ขึ้นมา เป็นสิ่งวิเศษที่คนโบราณนำมาโปรยหว่าน ก่อนกองทัพจะยาตราเข้าสู่สงคราม เสมือนข้าวตอกดอกไม้โปรยรับขวัญส่งพลังแด่ทหารหาญ เป็นพรจากทวยเทพเพื่อชำนะศึก

ข้าวสารดำชนิดนี้กับชนิดแรก บางสถานที่ก็ปนเปกันไป ยากจะแยกเนื้อหาออกได้ เช่น กรุพระบรมธาตุิกำแพงเพชร กับอีกหลายสิบกรุ ซึ่งจะพบ "ข้าวสารดำ" เกลื่อนกลาดพื้นเสมอ แต่นักขุดกรุรุ่นเก่าไม่มองเห็นคุณค่าหรือความสำคัญ คิดแค่เป็นเศษกรวดเศษดินธรรมดา

ต่อเมื่อพระอริยสงฆ์ผ่านไปพบเห็นเข้า ท่านเห็นแจ้งรู้ด้วยตาใน-ญาณวิเศษ ก็จึงนำ "ข้าวสารดำ" มาเป็นส่วนประกอบในการสร้างวัตถุมงคล ดังเช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ธุดงค์ไปยังดินแดนร้อยเจดีย์ลานทุ่งเศรษฐีกำแพงเพชร-สุโขทัย ได้รับมอบดินศักดิ์สิทธิ์แตกหักจากกรุหลายสิบกรุต้องขนใส่ลำเรือมาพระนคร

แน่นอนในดินเหล่านั้นใช่จะมีแต่เศษพระกำแพงซึ่งแตกหักกับสมบูรณ์อย่างเดียว ยังมีข้าวสารดำปะปนอยู่ด้วยมากมาย

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ก็ได้รับข้าวสารดำนี้มาจากกรุเมืองกำแพงเพชรเช่นกัน ส่วนข้าวสารดำจากเมืองเพชรบูรณ์ ก็ถูกนำมาผสมสร้างวัตถุมงคลมากมายในหลายวัดทาง ปราจีณบุรี ซึ่งมีวัดของ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน เป็นหัวหอกริเริ่มนำมวลสารวิเศษ "ข้าวสารดำ" ผสมในองค์พระของท่านเป็นที่ฮือฮาในความแปลกใหม่ และได้รับรู้กันว่า ข้าวสารดำ เป็นทนสิทธิ์พิเศษที่มีคุณสมบัติเป็นสื่อชักนำความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ โภคทรัพย์โภคผลล้นเหลือเมื่อนำมาบูชาและสร้าง-เสกโดยยอดอริยสงฆ์

ใน 2520 ...วัดใหม่โพธิ์เย็น อ.บ้านสร้าง ปราจีณบุรี อำเภอบ้านใกล้เรือนเคียง อ.บ้านด่าน ก็ได้สร้างพระที่ผสมมวล "พระแม่โพสพดำ" ขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อหาทุนสร้างอุโบสถในปี 2521 หรือกว่า 40 ปีที่ผ่านมา

พระแม่โพสพข้าวสารดำ วัดใหม่โพธิ์เย็น บ้านสร้าง ปราจีณบุรี นี่แหละ ที่จะนำมาให้สมาชิกของเราแบ่งปันนำไปบูชาเป็นศิริมงคล จะขึ้นหิ้งหรือขึ้นคอ ก็ไม่ต้องกลัวเป็นรองพระหลักแสน หลักล้าน

พระหลักร้อยด้อยนิทานชุดนี้กินขาด ไม่ต้องพ่นนิยายใดๆประกอบสักเรื่อง

นี่คือ พระที่ หลวงปู่โต๊ะ,หลวงพ่อเอีย ร่วมกันปลุกเสก ให้วัดใหม่ฯนำพระชุดนี้ออกบูชา สร้างโบสถ์ในปี 21เพื่อการพระศาสนาจนสำเร็จ!

รออ่านโพสท์ต่อไป!!!

 

หลวงพ่อขลัง-พระแม่โพสพดำ
หลวงปู่โต๊ะ-ลพ.เอีย เสกปี20
================

แค่นามก็กินขาด "หลวงพ่อขลัง" พระพุทธรูปองค์สำคัญแห่ง วัดใหม่โพธิ์เย็น อ.บ้านสร้าง ปราจีณบุรี

เพียง 2 อริยสงฆ์ หลวงปู่โต๊ะ-หลวงพ่อเอีย ร่วมกันในพิธีเพื่อการพระศาสนา ก็ยิ่งกินขาด

ส่วนผสมมวลสารหลัก ก็นำมาจาก"พระแม่โพสพดำ" จึงตั้งชื่อเรียกขานชุดนี้... "พระนางพญาวัดใหม่ฯ-เนื้อแม่โพสพดำ" !

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีส่วนประกอบของดินศักดิ์สิทธิ์สังเวชนียสถานจากอินเดียซึ่งทำพิธีปลุกเสกมาก่อนทำวัตถุมงคล และอีกมวลสารสุดยอด คือข้าวเปลือกที่รอดพ้นการสี-คัดทิ้ง-การหุง นำมาป่นผสมเป็นมงคลมหาแคล้วคลาดร่วมกับผงใบลาน

วัตถุมงคลชุด "พระแม่โพสพดำ" วัดใหม่โพธิ์เย็น สร้างไว้ 5-6 แบบในปีนั้น มีทั้งรูปแบบพระสมเด็จดำ,พระพิมพ์นางพญาปิดทอง-ไม่ปิดทอง ซึ่งองค์ปิดทองทำน้อยแจกกรรมการ

เนื้อพระแม่โพสพดำล้วนอีกแบบคือ พิมพ์สามเหลี่ยมนางพญาองค์แทน "หลวงพ่อขลัง" บรรจุกล่องเดิมๆตั้งแต่ปีพ.ศ.20 กล่องยุคเก่าที่ไม่มีศิลปะการพิมพ์ใดๆสำหรับวัดบ้านนอกที่ต้องประหยัดต้นทุนในการสร้างและมีจำนวนไม่มากนัก

ขอนำพระพิมพ์สามเหลี่ยม "หลวงพ่อขลัง" เนื้อหาพระแม่โพสพดำ วัดใหม่โพธิ์เย็น บ้านสร้าง ปราจีณฯ ซึ่งสร้างไว้เพียงครั้งเดียว ในปี 20 ปลุกเสกโดย หลวงปู่โต๊ะ-หลวงพ่อเอีย กับเหล่าคณาจารย์อีกนับสิบรูปให้ร่วมบุญบูชาด้วย กล่องเดิมๆจากวัดตั้งแต่ปีพ.ศ.นั้น

จัดให้บูชา 6 องค์ องค์ละ...

======= 500 =======

หลวงพ่อขลัง สุดขลังด้วยเนื้อพระแม่โพสพดำ ในรูปแบบสามเหลี่ยมนางพญา หลังยันต์อุขึ้นอุลงสไตล์หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ปรมาจารย์ใหญ่ของ หลวงพ่อเอีย งดงามดั้งเดิม ไม่เคยต้องมือใครอยู่ในกล่องมากว่า 40 ปี ที่สุดแห่งพระดี พิธีขลังเกินคำบรรยายที่ซ่อนเร้น นำให้บูชาเป็นศิริมงคลไม่ต้องสนพระหลักแสน หลักล้านขี้โม้

ขนาดพระนางพญาที่สวยงามไม่เล็กหรือใหญ่เกิน เหมาะทั้งหญิงและชาย
กล่องเก่าดั้งเดิมแสนเชยสมัยโบราณ รักษาไว้แบบวิน เทจ แท้ๆ ตกมาถึงยุคสมัยนี้ มองมุมไหนก็เท่ เพราะไม่มีโรงงานหรือเครื่องจักรกลรุ่นใหม่ผลิตอีกแล้ว

 

ร่วมบุญครับ

 

ถ้าคิดว่าองค์ท่านควรซ่อมจริงๆก็ฝากไว้กับฝีมือช่างถูกต้องแล้ว ซ่อมเสร็จ-ปิดทองไว้ใช้เองดังตั้งใจก็เยี่ยม

เรื่องน้ำยาทำให้พระเก่ามีมาแต่นานแสนนาน พระสมเด็จนั่นแหละตัวดีนัก เซียนชอบซื้อพระเนื้อหาเก่าๆ เหล่าเสี้ยนก็ผลิตออกมาให้ถูกใจเซียน แล้วเหล่าเสี่ย ก็ฟังนิยาย-นิทานสืบต่อควักเงินล้านซื้อจากเซียนกันไป ส่วนพระสมเด็จที่เก็บเก่าไม่เคยใช้ ดูเนื้อหาใหม่กิ๊ก เซียนมักไม่ชอบ เพราะพระร้อยกว่าปี ไม่เก่าเลย แต่งนิยายขายยาก ต่อให้ "ถูกพิมพ์เป๊ะ" ดังที่ชอบบรรยายกันว่าต้อง "เล่นพิมพ์"ก่อน ก็เถอะ

 

พระแม่โพสพดำองค์แรกมอบท่านคนคลองฯ ไม่ต้องเอาไปทำอะไรเพิ่มความขลัง เพราะท่าน"ขลัง"ตั้งแต่ชื่อ ยันคนเสกที่ขอบอกว่า นับแต่หลัง 2500 เป็นต้นมาหาเท่าเทียมคู่นี้ยาก

โม้ไปก็เท่านั้น พระหลักร้อย อย่าโม้ให้เป็นหลักหมื่น,แสนเลย เอาไปบูชาเอง ย่อมรู้ดีที่ซู้ดว่า เผลอๆหลักล้านก็ชิดซ้าย!

 

ร่วมบุญครับ

 

ทนสิทธิ์อาถรรพ์องค์ที่ 2 จัดท่านขึ้นเหนือให้น้องณัฐวุฒิ ความขลังที่เดินทางไปพร้อมกับความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ไม่มีสิ่งใดเด็ดขาดปานนี้อีกแล้ว

 

ร่วมบุญครับ

 

น้องบานชื่นแวะยามดึก ก็ต้องจัดท่านแอ่วเหนืออีกองค์ เป็นลำดับที่ 3 ทุกองค์กล่องเดิมงามเสมอเหมือนกัน

นี่เป็นพระที่ซ่อนเร้นในซอกหลืบมานาน ผมได้มาจากลูกศิษย์หลวงปู่โต๊ะจำนวนหนึ่งยี่สิบกว่าปีแล้วรู้ประวัติแล้วยังนึกขำในใจ..เออหนอ คนเล่นพระมากมาย เล่นพระด้วยหูของจริง พระออกใหม่ๆไม่รู้ปลุกเสกแบบไหน ยังแพงกว่าพระสุดยอดด้วยเนื้อหา และยอดอริยสงฆ์องค์แท้ องค์ทองคำอธิษฐานจิตเมื่อเก่าก่อน

หรือว่าเรายิ่งเล่นพระ ยิ่งโง่รึนี่?

 

ร่วมบุญครับ

 

ร่วมบุญ 1 องค์ครับ

 

น้องแดงก็ยังไม่นอน จัดองค์ที่4 ให้ท่านเดินทางอยู่ในเมืองกรุง อย่ามุ่งออกต่างจังหวัดเสียหมด พระชุดแห่งความอุดมสมบูรณ์ของแท้ ที่อยากมอบให้สมาชิกได้นำไปบูชาด้วยใจจริง จึงตั้งราคาเพียงนี้ จะตั้งหลักพันหรือหลายพันก็ได้ เพราะพระดีย่อมไม่ยั่นต่อคำครหา ใครไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร เก็บเป็นศิริมงคลต่อไป

โมทนาน้องแดง รับประกันว่าไม่มีคำว่าผิดหวังกับพระชุดนี้