เมื่อเสื่อมบารมีจะตั้งบารมีใหม่ต้องทำอย่างไรขอคำชี้แนะด้วย

ก็บอกแล้ว...

ว่าที่..ครูของมนุษย์ และ เทวดา..

ที่มาเกิดนี่ เพื่อมาทำหน้าที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา..

ถ้าใครรอดตายจากภัยทั้งปวงได้ ก็ได้พบเราตัวเป็นๆ..

อีกไม่นานเกินรอ..

ถ้าใครตายก่อนหากได้ไปสุคติ ก็ถามท่านท้าวผู้ปกครองแดนที่พวกท่านได้ไปอยู่เอาเอง ว่าเราเป็นใครมาเกิด..

 

จิ เจ รุ นิ..

ปล่อยวางจิต เจตสิกก็ดับ..

ปล่อยวางกาย นิพพานก็ปรากฏ..

นี่ไงวิธีฝึกของเราทั้งหมด..

 

ลองตามนี้ดูก่อนครับ..(อย่าพึ่งเชื่อ)
1.เอาที่สบายกาย / สบายใจ แต่ต้องรู้ว่า "ฐานจิต" ของเราตั้งอยู่ที่ไหน..?? (ฐานจิต นะครับ มิใช่ จิต เพราะแรก ๆ มันยังไม่เห็นจิตชัดหรอก เบื้องต้นแค่ให้รู้ฐานจิตก่อน / ก่อนที่จะไปรู้จิตตัวเอง / ครับ)
2.ส่วนจะภาวนา หรือ ไม่ นั้น ให้ย้อนกลับไปดูข้อ 1. อีกที / ถ้าสมาธิเริ่มทรงตัวแล้วอาจไม่ต้องภาวนาก็ได้ /ครับ
(ย้ำ อย่าพึ่งเชื่อนะครับ)

 

เริ่มจากผู้ตั้งกระทู้ถามการตั้งบารมีใหม่ หลังจากที่คิดว่าตนเองเสื่อมบารมี มาถึง ณ เวลานี้พอทราบว่าหลายท่านแนะนำให้ปฏิบัติธรรม ทางนี้ก็อยากเสริมให้อีกนอกเหนือไปจากการปฏิบัติธรรมที่ต้องทำเป็นกิจวัตรแล้วก็คือ
1.สวดชุมนุมเทวดา สวดมนต์ไหว้พระ แล้วอธิษฐานจิตมุ่งปรารถนาในบารมีในด้านใดๆ
2.สร้างพระไตรปิฎก เพื่อเผยแพร่แก่คนทั้งหลาย แล้วอธิษฐานจิตมุ่งปรารถนาในบารมีในด้านใดๆ
3.บริจาคปัจจัยสี่ที่จำเป็นแก่คนทั้งหลาย แล้วอธิษฐานจิตมุ่งปรารถนาในบารมีในด้านใดๆ
4.สร้างพระพิมพ์ขนาดเล็ก พระพุทธรูป พระเจดีย์ เพื่ออุทิศให้กับผู้ที่เราเคยเกี่ยวข้อง ที่เราได้ทำทางดีและไม่ดีแก่เขารวมถึงเทวดาทั้งหลาย แล้วอธิษฐานจิตมุ่งปรารถนาในบารมีในด้านใดๆ (พระพิมพ์เหล่านี้จะแจกจ่าย หรือบรรจุกรุตามโบสถ์เจดีย์ที่วัดก็ได้)
5.สร้างพระพิมพ์ขนาดเล็ก พระพุทธรูป พระเจดีย์ ขึ้นเฉพาะเพื่อมุ่งสร้างเป็นบารมีให้กับตนเอง
ทั้ง 5 ข้อนี้ ให้ทำตลอดอายุขัยตามกำลังและฐานะ

 

กะว่าที่คูรนี้วิเศษเนาะ
เห็นหลวงปู่มั่นเล่าตอนพระพุทธเจ้าเปิดโลก
ท่านกะอฐิฐานท่านว่าคนอฐิฐานกันเกือบหมด
ผู้วิเศษเต็มไปหมดเลยเนาะ55

 

มี2ทาง..

"ฝึกพิจารณาลอกหนังออก แล้วแยกออกเป็นชิ้นส่วนใคร ส่วนมัน.."

"พิจารณาให้เห็นความเปื่อยเน่า ตั้งแต่เริ่มตาย จนขึ้นอืด น้ำเลือดน้ำหนองไหลเยิ้ม จนถึงขนาดหนอนไต่ยั๊วเยี้ยๆ.."

พิจารณากลับไปกลับมาไม่หยุด ทำบ่อยๆ พิจารณาบ่อยๆ..

 

นิยตะ น่ะ ลูกเอ๊ย!!!


ลูกไม่เข้าใจหรอก ลูกยังโง่อยู่มาก..

 

กลับ เข้า กลด ก่อน ละ..

แยกย้ายได้ พ่อจะพักแล้วลูกๆของพ่อ..

 

ปฎิบัติธรรมเพื่อลดละกิเลส
บ่แม่นเป็นผู้วิเศษ

 

แม่ข่อย72แล้วซิเอาแกอยู่ดิคือลามกแท้

 

5555555555

ลูกยังโง่อยู่มาก ลูกเอ๊ย!!!!

วิบากกรรมลูกก็มาก ตอนนี้เหมือนตายทั้งเป็นเลยนะลูก..

 

ถ้าเอาที่สบายใจก็ ทำอารมณ์ให้ไกล้ภวังค์่(หลับ)แต่ให้มีสติรู้ตัวอยู่ จิตอยู่กับคำภาวานาก็มีสติรู้ว่าจิตอยู่กับภาวนา จิตรู้อยู่กับลมหายใจก็มีสติรู้ว่าติตอยู่กะลมหายใจ จิตรู้เวทนาก็มีสติรู้ว่าจิตอยู่กับเวทนา ..
พอไม่มีสติก็ตกภวังค์ หลับสบาย เหลวเป๋วเลย555

 

แม่เจ้าก็เป็นลูกของพ่อ เช่นเดียวกันนะ ลูกๆ ของพ่อ..


พวกเจ้าหลงมาเกิดบนโลกมนุษย์น่ะ ลูกเอ๊ย!!

จิตพวกเจ้าหลงเข้ามาในวัฏฏะน่ะลูกเอ๊ย!!

 

เห็นโลกเป็นธรรม
เห็นธรรมเป็นโลก
เพราะไม่รู้จัก
คุมความสนุกตัวเอง

 

ลุงเณรฝึกธรรมกลายนะ ถ้าไม่ชอบก้อฝึกตามวิธีตัวเองดีแล้ว

 

กลับ เข้า กลด ก่อน ละ..

แยกย้ายได้ พ่อจะพักแล้วลูกๆของพ่อ..

คืนนี้ค่อยเจอกันนะ ลูกๆทุกคนของพ่อ

 

นิมิตที่เห็นเชื่อได้แค่20เปอเซนว่าจรืง
คนฉลาดเข้าบ่เอามาเป็นแก่นสารชีวิตหลอกหนูน้อย

 

/ ดูแล้ว.. ให้พิจารณาไปเรื่อย ๆ จนจิตมันคลาย มันเห็น มันเข้าใจ แล้วมันก็จะหน่ายไปเอง เพราะอะไร มันเที่ยงมั้ย มันยังสวยอยู่มั้ย ยังอยากเข้าไปกอดอีกมั้ย..
/ แต่มิใช่... ดูจนเบื่อจนเซ็ง แล้วไปสรุป ว่าไม่เห็นมีอะไร ก็ งั้น ๆ ไม่อยากดูแล้ว /อย่างงี้.. มันก็ไม่เกิดประโยชน์

 

วิชาที่มีอยู่บนโลก ถ้าเราเจอวิชาไหน เราก็ฝึกอันนั้น..

เราเป็นสายพิสูจน์รู้ด้วยตนเอง..

เราไม่ปลงใจเชื่อใครหน้าไหนทั้งนั้น ถ้าเรายังไม่ได้พิสูจน์รู้ด้วยตนเอง

ย้ำ "เราสายพิสูจน์รู้ด้วยตนเอง"

**รู้แล้ววาง**

 

ตามนั้น..

เมื่อเห็นตามจริง จิตก็คลายกำหนัดไปเอง..