*เครื่องรางของขลัง/วัตถุมงคล...รายการละ 100 บ./พร้อมส่ง บูชา 3 รายการ แถม 1 รายการ...

รายการที่1004 พระผงเจ้าแม่กวนอิม ๓ เกจิ ลป.วรพรต วัดจุมพล จ.ขอนแก่น,ลพ.เปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม,พระครูปลัดเล็ก วัดปรินายก กรุงเทพฯ เมตตาร่วมอธิฐานจิต ปลุกเสกให้อย่างดี น่าบูชามากๆครับ...ไม่มีกล่องครับ

ตัวอย่างกล่อง

 

รายการที่1005 ผ้ายันต์มหาลาภ รุ่นท่าเรือ อุดมสุข มงคลเลิศ หลวงพ่อสีสุข วัดจังหูนต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขนาด 10 x 17 นิ้ว

 

รายการที่1006 พระสมเด็จพิมพ์แซยิดแขนหักศอก ล.ป.ภู วัดอินทรวิหาร ศิษย์เอกองค์หนึ่งของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดนาเขื่อน สืบสานตำนานการสร้างพระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

พระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทั้งวัดระฆังและวัดบางขุนพรหม ถือเป็นพระเครื่องอันดับหนึ่งในชุดเบญจภาคี เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคน ด้วยพุทธคุณที่ดีครบทุกด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภ เงินทองและคงกะพัน เป็นที่ประจักษ์ตั้งแต่ครั้งอดีต ทำให้ความนิยมและสนนราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนไกลเกินเอื้อม พระแท้มีน้อยแต่ความต้องการมีมาก ทำให้มีพระทำเทียมเลียนแบบมากมาย จนมีคำพูดที่ว่า “พระสมเด็จ เสร็จทุกราย” ไม่นับพระสมเด็จพิมพ์ทรงพิเศษ อย่างพระสมเด็จแจวเรือจ้าง พระสมเด็จหลังก้างปลาและพระสมเด็จฝังเพชรฝังพลอย ซึ่งเล่นหากันเฉพาะกลุ่ม ไม่เป็นที่ยอมรับในวงการพระเครื่อง

พระสมเด็จวัดระฆังและวัดบางขุนพรหม ย้อนยุค รุ่น “จักพรรดิ์พระเครื่อง” สร้างเพื่อให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่เซียนพระ ได้แขวนพระสมเด็จที่มีชนวนมวลสารจากพระสมเด็จแท้ๆและมีพิมพ์ทรงถูกต้องตามมาตรฐาน

พระสมเด็จ รุ่น “จักพรรดิ์พระเครื่อง” ได้สืบสานตำนานการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังและวัดบางขุนพรหม ทั้งพิมพ์ทรงและเนื้อหามวลสาร นอกจากปูนเปลือกหอยแล้ว ยังได้มวลสารศักดิ์สิทธิ์จากพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ , พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย, พระสมเด็จวัดเกศไชโย พิมพ์เจ็ดชั้นและหกชั้นอกตัน, และพระสมเด็จของลูกศิษย์องค์สำคัญอย่าง ล.ป.ภู วัดอินทร์ พิมพ์เจ็ดชั้นและพิมพ์สามชั้น, พระสมเด็จหลังประทุน ล.ป.อ้น วัดบางจาก, พระสมเด็จพระครูสังฆ์ วัดอินทร์ และพระสมเด็จยอดนิยมสำนักต่าง อาทิ สมเด็จพุทธโฆษาจารย์(เจริญ) วัดเทพศิรินทร์ พิมพ์สรงน้ำ, พระวัดปากน้ำ รุ่น 1-4, เจ้าคุณสุนทร วัดกัลยา, พระวัดเงินคลองเตย, พระสมเด็จ วัดสุทัศน์ ปี 95, พระสมเด็จเผ่า วัดอินทร์ ปี 95, วัดประสาทบุญญาวาส, วัดคู้สลอด, พระสมเด็จ 100 ปี วัดระฆัง, ล.พ.หม่น วัดคลองสิบสอง, ล.ป.ทิม วัดละหารไร่ เป็นต้น
คุณphraedhammajak ปิดครับ

 

รายการที่1007 ตะกรุดหนังกลองแตก จารหมึกสีทอง ขนาด 2 นิ้ว ไม่ทราบที่
การสร้างเครื่องรางตะกรุดนั้น มีอยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างจากแผ่นโลหะชนิดต่างๆ นำมาจารอักขระเลขยันต์ การสร้างจากไม้มงคล หนังสัตว์ เช่น หนังเสือ แล้วนำมาปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ หรือจะเป็นการสร้างตะกรุดจาก “หนังกลอง(เพล)แตก”

ซึ่งในแถบอีสานเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับตะกรุดที่ทำจากหนังกลองเพล เพราะเป็นกลองที่ใช้สำหรับตีให้เกิดเสียงดัง เพื่อเรียกบรรดาพระสงฆ์และสามเณรในวัดให้มาฉันเพล ฉะนั้นจึงถือคติความเชื่อว่า หากนำหนังกลองเพลแตกไปทำเป็นตะกรุดแล้ว คนที่บูชาตะกรุดไป จะมีกินมีใช้ ไม่อดอยาก มีความบริบูรณ์ในอาหารการกิน
เสียงกลองเพลที่ดังกังวาน ยังมีคติความเชื่อเกี่ยวกับชื่อเสียง กิตติศัพท์ที่ดังกังวานไปไกล กลองเพลยังใช้สำหรับตีเพื่อเป็นสัญญาณให้พระสงฆ์ทำกิจต่างๆอย่างพร้อมเพรียงกัน จึงทำให้เกิดอานุภาพในตนเอง มีความขลังอยู่ในตัว เพราะกลองเพลอยู่ในสถานที่มงคล ถูกใช้ในกิจอันเป็นมงคลมาอย่างยาวนาน ซึ่งกลองเพลในแต่ละวัด จะถูกใช้มานานหลายปี และการใช้แต่ละครั้ง ก็เป็นในเรื่องมงคลทั้งนั้น และกว่ากลองเพลจะแตกก็ใช้เวลานานเช่นกัน

เมื่อหนังกลองเพลแตกแล้ว สมัยก่อนก็จะนำมาสร้างเป็นตะกรุด เพราะเชื่อว่าจะเกิดอำนาจแห่งเมตตามหานิยม มีแต่คนรักใคร่ มีชื่อเสียงโด่งดังในทางที่ดี มีความอุดมสมบูณ์ในทรัพย์สินเงินทอง และเป็นของดีในด้านการเสริมวาจาให้เป็นมงคล โดยเฉพาะคนประกอบอาชีพเกี่ยวกับการเจรจา ค้าขาย หรือคนที่ต้องใช้เสียงทำมาหาเลี้ยงชีพ เช่น นักร้อง เพราะกลองเพล เมื่อตีแล้วทำให้เกิดเสียงดังกังวาน จึงเชื่อว่าตะกรุดหนังกลองเพลจะเสริมมงคลและให้คุณด้านนี้ มีความเป็นมงคลแก่ผู้ครอบครอง

สำหรับตะกรุดหนังกลองเพลที่นิยมบูชากัน อาทิ ตะกรุดหนังกลองเพลแตก หลวงปู่ญาท่านสวน , ตะกรุดหนังกลองเพลแตก หลวงพ่อสุพจน์ และอีกหลายๆท่าน หนึ่งในนั้นคือ ตะกรุดหนังกลองแตกของหลวงพ่อรักษ์ อนาลโย วัดสุทธาวาสวิปัสสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่นิยมบูชากัน เพราะในปัจจุบันหาตะกรุดชนิดนี้ได้ยาก เนื่องจากนานๆครั้งกว่าหนังกลองเพลจะแตกนั่นเอง จึงเป็นของดี ของหายากที่ควรบูชาติดตัวไว้เพื่อเป็นสิริมงคล
คุณyaboyabo ปิดครับ

 

รายการที่1008 พระพุทธ พิมพ์ขี่เม่น อุดผง เนื้อดิน ไม่ทราบที่

 

รายการที่1009 นกสาริกาคู่ไม้แกะ ไม่ทราบที่

 

รายการที่1010 พระสมเด็จ วัดปราสาทสิทธิ์ ต.ปราสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ฉลองวิหาร ปี 2539

 

รายการที่1011 รูปหล่อท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ หลวงพ่อบ๋าวเอิง วัดสมณานัมบริหาร ( วัดญวนสะพานขาว ) กรุงเทพ ลงยา เลี่ยมเดิม
เหมาะสำหรับบูชาไว้ เพื่ออธิษฐานให้ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ ผู้ที่นำไปใช้ต่างก็มีประสบการณ์เป็นอันมาก เพราะหมอชีวก ฯ ท่านเป็นหมอประจำพระองค์ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้รับยกย่องว่าเป็นเลิศในด้านการแพทย์ ซึ่งในยุคสมัยนั้นยังไม่เจริญก้าวหน้า แต่ท่านสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ให้ผู้เจ็บป่วยหายได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ท่านยังปฏิบัติธรรมจนได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน รูปหล่อและเหรียญของท่านทุกรุ่นล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ และหาชมได้ยาก ส่วนรุ่นนี้ก็เป็นรูปหล่อในตำนานที่หาชมได้ยาก ของ “ บรมครูแพทย์ ชีวกโกมารภัจจ์
(หลวงพ่อบ๋าวเอิง) วัดสมณานัมบริหาร (วัดญวน สะพานขาว) ท่านเป็นพระญวนที่เก่ง และเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าท่านสามารถติดต่อกับเทพ เทวดาได้ ท่านรู้จักและติดต่อกับหมอชีวก ฯ โดยทางญาณ ท่านจึงได้สร้างรูปหล่อ และเหรียญของท่านหมอชีวก ฯ ไว้ให้คนบูชาโดยสร้างจากรูปในนิมิตของท่าน เพื่ออธิษฐานให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายทั้งปวง วัดสมณานัมบริหาร เป็นวัดอนัมนิกาย ตั้งอยู่ ริมคลองผดุงกรุงเกษม แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานครมีความสำคัญในฐานะที่เป็นวัดในพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์กลางของชุมชนสะพานขาวและบริเวณใกล้เคียง ทั้งยังเป็นที่บรรจุ องสรภาณมธุรสของ หลวงพ่อบ๋าวเอิง ซึ่งที่เคารพบูชาของบุคคลทั่วไป เดิมชื่อ วัดเกี๋ยงเพื้อกตื่อ ชาวญวนที่อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้สร้างขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๔๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดสมณานัมบริหาร รูปหล่อท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ ที่วัดวัดสมณานัมบริหาร นี้เกิดจากการที่หลวงพ่อบ๋าวเอิง อัญเชิญให้มาปรากฏบนนิ้วมือเพราะท่านต้องการปั้นพระพักตร์ของท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ ไว้สำหรับเคารพบูชาในฐานะที่ตัวหลวงพ่อเองท่านเป็นพระที่รักษาโรคแก่คนทั่วไปด้วย ท่านเล่าว่าได้ติดต่อช่างปั้นคนหนึ่งชื่อว่า “นายโชติ สโมสร” ขณะนั้นนายโชติกำลังรับปั้นรูปหล่อหลวงพ่อคง ของสำนักท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี นายโชติได้ตกลงรับงานนี้และได้นำดินน้ำมันมาลองปั้นโดยหะแรกเข้าใจว่าท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นชาวจีน เพราะเห็นว่าหลวงพ่อบ๋าวเอิงท่านเป็นคนญวน รูปปั้นจึงน่าจะออกมาในลักษณะแบบนั้น และด้วยเหตุผลที่เกิดจากการคิดไปเอง นายโชติจึงได้ปั้นพระพักตร์ของท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ออกมาเป็นหน้าตาแบบคนจีน เมื่อทราบว่าตนเองปั้นผิดเพราะท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นพราหมณ์ หน้าตาต้องเป็นแบบอินเดีย ครั้นจะเริ่มใหม่...ก็เกิดปัญหา คือ นายโชติจินตนาการไม่ออก หลวงพ่อบ๋าวเอิง ท่านจึงตัดสินใจที่จะอัญเชิญท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์มาปรากฏบนนิ้วมือของท่านเพื่อให้นายโชติได้เห็นอย่างชัดเจน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น นายโชติได้บันทึกไว้ดังนี้ “ผมได้ชวนคุณเฉลิมและคุณจุไรรัตน์ มาเป็นเพื่อนเพื่อพิสูจน์ความจริง เมื่อมาถึงวัดหลวงพ่อได้ให้พวกผมขึ้นไปบนกุฎิพร้อมกับท่าน หลวงพ่อได้ทำพิธีอัญเชิญ ผมได้สนใจเฝ้าดูหลวงพ่อทุกอิริยาบถและรู้สึกว่าการทำพิธีอัญเชิญนั้นง่ายเหลือเกินและแปลกกว่าความคาดหมายของผม.. หลวงพ่อได้จุดธูปและปักตามที่บูชาต่างๆในกุฏิ จากนั้นท่านได้ว่าคาถาเป็นภาษาญวนปนไปกับภาษาบาลี ซึ่งผมเองก็ฟังไม่รู้เรื่อง จิตใจของผมในขณะนั้นอยากจะเห็นภาพและทำการปั้นเพื่อพิสูจน์ความจริง คุณเฉลิมและคุณจุไรรัตน์ ได้ขึ้นมานั่งดูอยู่ด้วย.. หลวงพ่อได้นั่งบนอาสนะ มือถือธูปที่จุดแล้วกำมือและหัวแม่มือชูขึ้น สายตาของผมจ้องจับอยู่ที่หัวแม่มือของหลวงพ่อ ในไม่ช้าก็ปรากฏเห็นเป็นจุดขาวและจุดขาวนั้นได้ขยายตัวโตขึ้นๆ จนเห็นเป็นภาพ แต่ไม่ชัด ผมตอนนั้นจิตใจรู้สึกตื่นเต้นเพราะได้ประจักษ์สิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หลวงพ่อได้เปลี่ยนที่นั่งใหม่ ซึ่งมีแสงสว่างน้อย คราวนี้ภาพที่หัวแม่มือของหลวงพ่อได้ปรากฏแจ่มชัด ผมเริ่มปั้นตามภาพใบหน้าที่เห็นในภาพนั้นทันที ใจผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ได้ปั้นตามภาพที่ปรากฏให้เห็นนั้น.. ผมใช้เวลาถึงสองชั่วโมงจึงปั้นเสร็จเรียบร้อย คุณเฉลิมและคุณจุไรรัตน์ ที่ผมชวนมาด้วยก็เห็นภาพนั้นเช่นเดียวกับผมและยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏที่หัวแม่มือหลวงพ่อเหมือนกับรูปที่ผมปั้นทุกประการ..” เชื่อกันว่ารูปท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ ที่ถือกำเนิดจากฝีมือของนายโชติ สโมสร และอำนาจพลังจิตของหลวงพ่อบ๋าวเอิง ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปว่าเป็น... ”รูปหมอชีวกโกมารภัจจ์ที่ปรากฏเป็นลักษณะองค์จริงครั้งแรกของโลก...” หลวงพ่อบ๋าวเอิงได้ขนานนามรูปหล่อท่านชีวกโกมารภัจจ์ว่า " บรมครูแพทย์ ชีวกโกมารภัจจ์ " หมอชีวกโกมารภัจจ์ (อ่านว่า ชี-วะ-กะ-โก-มา-ระ-พัด) บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ (แพทย์แผนไทย) เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา เรื่องราวขีวิตของท่านมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกและคัมภีร์อรรถกถา ตลอดชีวิตของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ได้บำเพ็ญแต่คุณงามความดี ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้โดยไม่เลือกฐานะ จนได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า เป็นเอตทัคคะ ผู้เลิศกว่าอุบาสกทั้งปวงในทาง "เป็นที่รักของปวงชน" ในวงการแพทย์แผนโบราณในปัจจุบันนี้ ถือว่าหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็น บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ เป็นที่เคารพของประชาชนทั่วไป
คาถาหมอชีวกโกมารภัจจ์ คาถารักษาโรค ตั้งนะโม 3 จบ โอม นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง กะรุณิโก สัพพะสัทธานัง โอสะภะ ทิพพะมันตัง ประภาโส สุริยาจันทัง โกมารภัจจ์โต ประภาเสสิ วันทามิ ปัณฑิโต สุเมทะโส อะโรคา สุมนาโหมิ ให้สวด คาถารักษาโรค หรือ คาถาหมอชีวกโกมารภัจจ์ 3 จบ คาถาหมอชีวกโกมารภัจจ์ อีกบทหนึ่ง นะอะนะวะ โรคา พยาธิ วินาสสันติ สวด 3 จบ เหมือนกัน
คุณshaj ปิดครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ

 

รายการที่1012 ผ้ายันต์เมตตามหานิยมตำหรับล้านนา สร้างตามตำราของ พระครูมงคลรังษี (หลวงปู่ครูบาก๋ง) วัดศรีมงคล อ.ท่าวังผา จ.น่าน
ผ้ายันต์เมตตามหานิยม - ม้าชมนาง - พญาควายเขาคำ - จิ้งจกสองหาง - ทิพพญาธร - แม่นางกวัก - หนูกินน้ำนมแมว เป็นตำหรับยัต์ของล้านนาที่เก่าแก่สืบทอดมาแต่โบราณ ท่านได้กล่าวไว้ว่าอานุภาพมากมาย เด่นทางเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ เป็นมงคลโชคลาภทุกประการ
ครูบาก๋ง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีมงคล จ.น่าน ท่านเชี่ยวชาญวิชาทางล้านนาอย่างรู้ลึกรู้จริง แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว (ไม่เน่า) แต่ตำหรับตำราของท่านยังอยู่ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้สืบตำราต่อและได้จัดสร้างผ้ายันต์ตามแบบฉบับท่านสืบมาจนถึงปัจจุบัน
คุณshajปิดครับ

 

รายการที่1012 หัวใจ"รวย" พระอาจารย์แป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ จ นครปฐม

 

รายการที่1013 ตะกรุดเชือกถัก ขนาด 2 นิ้ว ไม่ทราบที่

 

รายการที่1014 ตะกรุดโทน ขนาด 4 นิ้ว ไม่ทราบที่

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ..ขอบคุณครับ

 

รายการที่1014 ผ้ายันต์แดงนกคุ้ม หลวงพ่อเคน วัดถ้ำเขาอีโต้ ปราจีนบุรี อายุครบ 100 ปี
คุณshaj ปิดครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ...ขอบคุณครับ

 

รายการที่1014 รูปถ่าย ครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี ... อัดพลาสติกกันน้ำเดิมๆ ขาวดำ ครับ ขนาดรูป 1.5 x 1.0 เซ็นติเมตร
คุณseaown ปิดครับ