พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    55555กั๊กบ้างครับ
     
  2. khongbeng

    khongbeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +657
    ขณะเข้าเวรไปตรวจดูพวกที่กำลังกลับบ้าน ก็แวะมาทักทายพี่ๆ ซะหน่อย

    มีลาว พม่า เขมรเพียบเลย ก็เลยพามาเลี้ยงข้าวที่ทำงาน

    คิดๆ อยู่ว่าสงกรานต์นี้จะไปไหนดี

    ไหว้พระ 9 วัดเหมือนทุกปีก็น่าจะดีนะ

    ไหว้พระทำบุญต่างจังหวัดก็น่าจะดี

    ไปกินข้าว ดูหนัง อ่านหนังสือก็น่าจะดีเหมือนกัน

    แต่ถ้าไปก็คงใกล้ๆ เผื่อถูกเรียกตัว

    พี่ๆ ไปพักผ่อนที่ไหนก็ฝากเที่ยวเผื่อด้วย เดี๋ยวเฝ้าบ้านให้นะ....
     
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผู้กองเฝ้านี่กลัวว่าพระพิมพ์จะหายครับ5555(eek)
     
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ย่อๆครับก่อนหน้านั้นเป็นคู่แข่งในการทำงานไม่ยอมพูดคุยร่วมมือด้วย...แต่หลังจากนั้น.....กลับเข้ามาสอนและแนะนำในการทำงานให้ผู้ใหญ่พอใจครับ 5555หนาวมั้ยครับ ศัตรูกลายเป็นมิตรครับ;)
     
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    555ผมลืมไปท่านปา-ทานใส่แล้วศัตรูจะกลายเป็นมิตรมั้ยหนอ......อ้อลืมไปอีกแล้วครับว่า ท่านปา-ทานมีแต่คนร๊ากเต็มไปหมดงัยคร๊าบ(kiss)
     
  6. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ได้ร่วมงานบุญเมื่อวันที่ 6/04/51 ที่บ้านปู่ประถม และ ได้สงค์น้ำพระธาตุและองค์หลวงปู่ทั้ง 3 องค์ อืม..และพระอาจารย์อีก 2 องค์ ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ชัยผาผึ้ง 200 บ.งานสร้างศาลาปฏิบัติธรรม 200 บ.งานถวายพระพุทธรูป 100 บ.ถวายพระอาจารย์ 2 องค์ๆละ 200 บาท พระอาจารย์ให้เขียนชื่อหน้าซองจะไปทำบุญให้ต่ออีกครั้ง ช่วยค่าอาหาร 100 บ. พร้อมเป็ดพะโล้ของน้อง MEA. 1ตัว ขอโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ (ส่วนเหตูการดีๆแปลกๆไว้จะเล่าให้ฟังนะครับ)
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อ้านเจี้ยนซางเหริน(暗箭伤人) : ใช้ธนูลอบทำร้ายคน
    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000041087
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 เมษายน 2551 20:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อ่านว่า อ้าน แปลว่า มืด หรือ ไม่เปิดเผย
    อ่านว่า เจี้ยน แปลว่า ธนู
    อ่านว่า ซาง แปลว่า ทำร้าย
    อ่านว่า เหริน แปลว่า คน
      
    สมัยชุนชิว อ๋องรัฐเจิ้งได้รับการสนับสนุนจากรัฐฉี และรัฐหลี่ว์ วางแผนที่จะทำสงครามกับรัฐสี่ว์ (รัฐสี่ว์เป็นรัฐเล็กๆ ปัจจุบันคือเมืองสี่ว์ชางในมณฑลไห่หนาน ส่วนรัฐเจิ้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐสี่ว์ )
      
    ปีหนึ่งในช่วงฤดูร้อน เดือนห้า อ๋องเจิ้งทำการทดสอบความเข้มแข็งของกองทหาร โดยการให้มีการแข่งขันชิงรถม้า ระหว่างแม่ทัพเก่าแก่นามว่า หยิ่งซูเข่า กับแม่ทัพวัยหนุ่มนาม กงซุนจื่อตู ฝ่ายหยิ่งซู่เข่า แม้จะสูงวัยกว่า แต่เป็นแม่ทัพแกล้วกล้ามีกำลังเข้มแข็ง เมื่อมือจับรถม้าได้ก็วิ่งลากออกไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนกงซุนจื่อตู ซึ่งปกติไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา มีความมั่นใจในตัวเองสูง เห็นดังนั้นจึง รีบไล่ตาม แต่เมื่อไล่ตามมาถึงถนนใหญ่ หยิ่งซูเข่าก็ลับหายไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้กงซุนจื่อตูแค้นใจเป็นอันมาก
      
    เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง เดือนเจ็ด อ๋องเจิ้งมีคำสั่งให้ไปโจมตีรัฐสี่ว์ ทหารเจิ้งบุกตีเข้าไปจนถึงเมืองหลวงของรัฐสี่ว์ หยิ่งซูเข่ารบด้วยความกล้าหาญ วิ่งนำกองทัพปีนขึ้นกำแพงเมืองเป็นคนแรก กงซุนจื่อตูเห็นดังนั้นแล้วก็คิดอิจฉาความเข้มแข็งของหยิ่งซูเข่าประกอบกับความแค้นเรื่องชิงรถมาที่ผ่านมา เขาจึงอาศัยช่วงชุลมุนลอบยิงธนูใส่แม่ทัพอาวุโสจนถึงแก่ความตาย

    เนื่องจากความชุลมุนในสงคราม ทำให้แม่ทัพ และทหารเจิ้งต่างพากันคิดว่าแม่ทัพหยิ่งซูเข่าโดนทหารรัฐสี่ว์ฆ่าตาย จึงเกิดเพลิงแค้นบุกตีเมืองหลวงสี่ว์จนราบคาบ ทำให้อ๋องรัฐสี่ว์หนีตายไปหลบยังรัฐเว่ย
      
    เหตุการณ์ “ใช้ธนูลอบทำร้ายคน” ภายหลังได้มีการนำมาเป็นคำเปรียบเทียบกับแผนการ หรือพฤติกรรมลอบทำร้ายผู้อื่น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เป็นกำลังใจสู้ๆกันต่อไปครับ

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ย่อๆครับก่อนหน้านั้นเป็นคู่แข่งในการทำงานไม่ยอมพูดคุยร่วมมือด้วย...แต่หลังจากนั้น.....กลับเข้ามาสอนและแนะนำในการทำงานให้ผู้ใหญ่พอใจครับ 5555หนาวมั้ยครับ ศัตรูกลายเป็นมิตรครับ;)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ของจริงย่อมพิสูจน์ได้แน่นอน ไว้รอชมของผมบ้าง จะเลี่ยมห้อยเป็นชุดๆเลย น่าจะห้อยครบ 9 องค์ครับ
    (||)

    แต่อย่านำไปให้เซียน(กำมะลอ)ดูนะครับ เดี๋ยวจะเป็นการส่งพวกนั้นไปนรกครับ แถมกลับมาเกิดก็มาเป็นเปรตก่อนอีก หุหุหุ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาทุกบุญด้วยนะครับ

    เป็ดพะโล้นี่ ไม่ได้ชิมเลย ฮือออออๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็เลยไม่รู้ว่าอร่อยหรือเปล่า

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1100114


    <TABLE class=tborder id=post1100114 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 01:43 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1100114", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 01:45 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 3,637 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 124 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 32,113 ครั้ง ใน 3,492 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3497 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1100114 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->"ฝรั่งเจอดีลบหลู่วัดพระแก้ว"
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><CENTER>[FONT=ms sans serif,Tahoma]"ฝรั่งเจอดีลบหลู่วัดพระแก้ว[/FONT]</CENTER><CENTER>[FONT=ms sans serif,Tahoma]"[/FONT]</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    [​IMG]



    ฉก 'แก้วมรกต' ฝรั่งเจอดีหลู่วัดพระแก้ว


    ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่า ได้รับการเปิดเผยจาก ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ว่าได้รับแจ้งจากการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ชื่อนายเจอร์เกน ซี. ส่งจดหมายแจ้งความประสงค์ ขอส่งคืนเศษแก้วสีเขียวมรกต ที่เก็บไปจากเจดีย์พระมณฑป ในวัดพระก้ว โดยภายในซองจดหมาย ยังบรรจุแก้วสีเขียวมรกตขนาด 1X1 นิ้ว มาด้วย โดยนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ให้เหตุผลในการนำเศษแก้วมาคืนไว้ว่า ตั้งแต่นำเศษแก้วกลับไปที่ประเทศเยอรมัน ชีวิตมีแต่สิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น


    [​IMG]


    ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จดหมายของ นายเจอร์เกน ซี. ที่เขียนมานั้น ระบุว่า ได้มาท่องเที่ยวที่กรุงเทพมหานครกับแฟนสาวเมื่อ 2-3 ปีก่อน รู้สึกประทับใจวัฒนธรรมของประเทศไทยอย่างมาก และได้ไปเที่ยววัดพระแก้ว โดยระหว่างเดินชมความงดงามของสถาปัตยกรรมภายในวัดอยู่นั้น ได้พบแก้วชิ้นเล็กๆ สีเขียวตกอยู่ที่พื้น เข้าใจว่าเป็นแก้วประดับจากเจดีย์องค์ใดองค์หนึ่งร่วงลงมา ในเวลานั้นคิดว่าเป็นสัญญาณจากพระพุทธเจ้าที่อนุญาต ให้นำชิ้นแก้วเก็บไปเป็นที่ระลึกในการเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามเช่นนี้ จึงได้ถามไกด์ที่นำเที่ยวในวันนั้นว่า สามารถที่จะเก็บเศษแก้วชิ้นนี้กลับไปได้หรือไม่ ซึ่งไกด์ตอบกลับว่า ให้ตนกำหนดจิตและขอจากองค์พระพุทธรูป ขณะนั้นรู้สึกเหมือนได้รับสัญญาณจากองค์พระว่าให้เก็บไปได้ แต่ขณะนี้กลับรู้สึกละอายมากที่เข้าใจผิด ทั้งนี้ เพราะตั้งแต่ได้แก้วชิ้นนี้มามักจะพบแต่เรื่องโชคร้ายตลอด ซึ่งไม่รู้ว่าสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับแก้วที่เก็บมาจากวัด พระแก้วหรือไม่ จึงตัดสินใจว่าจะส่งแก้วคืน เพราะคิดว่าไม่สมควรที่จะเป็นเจ้าของแก้วชิ้นนี้


    [​IMG]


    ม.ร.ว.จักรรถกล่าวอีกว่า ชิ้นแก้วที่นายเจอร์เกน ซี. นำมาคืนนั้น เข้าใจว่า ททท.คงจะนำกลับไปส่งคืนที่วัดพระแก้วแล้ว โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน น่าจะถือเป็นโชคร้ายที่นำของศักดิ์สิทธิ์ไปเป็นของที่ระลึกด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจจะเชื่อกลุ่มมัคคุเทศก์ที่ไม่มีจรรยาบรรณ เพราะคนไทยมีความเชื่อว่าห้ามเก็บสิ่งของต่างๆ ภายในวัดกลับไปไว้ที่บ้านเพราะจะทำให้โชคร้าย ต้องมีอันเป็นไป เช่น เจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ ฯลฯ และตนยังเคยประสบเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เมื่อครั้งไปบูรณะพระธาตุพนม จ.นคร

    [​IMG]

    พนม คนงานที่เข้าไปซ่อมแซมแอบนำโบราณวัตถุกลับบ้าน ทำให้เกิดสิ่งไม่ดีต่อชีวิต จนต้องนำโบราณวัตถุกลับมาคืนและทำพิธีขอขมาที่วัด จากนั้นปัญหาต่างๆก็หมดไป สมบัติของวัด โบราณสถาน โบราณวัตถุ ไม่ว่าจะอยู่บน ดิน ในน้ำ ไม่ใช่สมบัติของใคร และไม่มีใครสามารถนำมาเป็นสมบัติส่วนตัวได้ ของทุกสิ่งมีคำสาป มีคาถากำกับ เพราะไม่ต้องการให้คนนำไปเป็นสมบัติส่วนตัว แต่ให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน

    ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า หลังจากนี้จะเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศิลปากร ททท. มัคคุเทศก์ เพื่อหาแนวทางในการป้องกันสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งแนวทางในการป้องกันพวกที่ชอบงัดแงะ เศษกระเบื้อง หรืออิฐ จากโบราณสถาน จากวัดไปเป็นสมบัติส่วนตัว นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าจะหารือกับนักกฎหมายเพื่อหาทางเพิ่มโทษ เพราะปัจจุบันความผิดเกี่ยวกับการลักขโมย ทำลายโบราณสถาน โบราณวัตถุตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาทนั้นน้อยไป ต้องลงโทษพวกที่นำสมบัติของแผ่นดินไปเป็นสมบัติส่วนตัวให้หนักขึ้น

    ทั้งนี้ ในจดหมายที่นายเจอร์เกน ซี. เขียนมาถึง ททท.นั้น ระบุว่า ตนกับแฟนสาวเดินทางเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ เมื่อ 2-3 ปีก่อน แล้วเดินทางกับคณะทัศนศึกษาจากกรุงเทพฯ มุ่งไปฮ่องกง รู้สึกประทับใจในวัฒนธรรมไทยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการได้ไปเที่ยวชมที่วัดพระแก้ว ที่นี่ตนได้เก็บชิ้นแก้วเล็กๆบนทางขึ้นเจดีย์แห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นได้ถามไกด์นำเที่ยวว่าจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงศาสนา และสถานที่อันงดงามนี้ได้หรือไม่ ไกด์บอกว่าให้อธิษฐานขอกับองค์ พระพุทธเจ้าเอาเอง จึงตั้งสมาธิอธิษฐานชั่วครู่หนึ่งแล้วคิดว่าได้รับประทานอนุญาตแล้ว ซึ่งตนเป็นคนเคารพนับถือศาสนาอย่างจริงจัง

    และศรัทธาในพระพุทธเจ้าเช่นเดียวกับที่ศรัทธาต่อพระเยซู แต่มาถึงวันนี้รู้สึกว่าเหมือนมีเสียงใครมาคอยบอกว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร และรู้สึกละอายมากที่เข้าใจผิดไปเอง
    "นี่อาจจะเป็นคำสาปแช่งหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ เกิดสิ่งเร้นลับตลอด 2-3 ปีก่อน ตนประสบแต่เรื่องเคราะห์ร้าย มีทั้งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและการงาน จนกระทั่งได้ยินคำร่ำลือถึงอาถรรพณ์ของวัด เลยคิดว่าจะเป็นไปได้หรือ ดังนั้นจึงได้ส่งเศษชิ้นแก้วเล็กๆนี้มาพร้อมกับจดหมายเพื่อนำกลับคืนสู่ที่เดิม และพร้อมที่จะส่งเงินมาบริจาคให้แก่ทางวัด ในการทำพิธีขอขมาเพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งที่เลวร้ายออกไป" นายเจอร์เกนระบุไว้ในจดหมาย.


    ที่มา http://www.thairath.co.th/thairath1/...ov/30/p1_1.php


    .......................................................

    รมต.เตือนพวกซ่า อย่าลอง อาถรรพณ์มีจริ
    จากกรณีนักท่องเที่ยวหนุ่มเมืองเบียร์เจออาถรรพณ์ ของชิ้นแก้วประดับมณฑปที่เก็บ ไปจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ทำให้ชีวิตเดือดร้อน จนต้องนำส่งคืนไทย เป็นข่าวใหญ่โตนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พ.ย. บรรดาผู้รู้เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระแก้ว และวัดวาอารามสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย ต่างออกมายืนยันเรื่องอาถรรพณ์ และความศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่ใช่เรื่องควรลบหลู่หรือลองดี โดยนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมว.วัฒนธรรมกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เคยมีเรื่องแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้น กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นำเศษแก้วจากวัดอรุณราชวราราม กลับบ้านแล้วต้องนำมาคืน เพราะประสบเรื่องเดือดร้อนมาแล้ว เพราะคนต่างชาติมักจะคิดว่าวัดไทย มีแต่ความสวยงาม แต่คิดไม่ถึงว่าวัดไทยคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ แม้แต่นักรบเวลาจะออกรบก็ต้องมาประกอบพิธีกันที่วัด ยิ่งวัดพระแก้วยิ่งสำคัญ รวม ทั้งวัดอื่นๆ ที่สำคัญที่มีอาถรรพณ์ขึ้นชื่อด้วย เช่น พระธาตุพนม จ.นครพนม พระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ฯลฯจึงสั่งการให้กรมศิลปากรประสาน กับการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทยจัดอบรมไกด์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับวัดไทยแล้ว

    ด้านนายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวในวันเดียวกันว่า รมว.วัฒนธรรมได้สั่งการให้จัดอบรมไกด์ทั่วประเทศ เพื่อหามาตรการในการป้องกันโบราณสถานโบราณวัตถุ ตลอดจนวัดสำคัญๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ เหมือนกับที่นายเจอร์เกน ซี. นักท่องเที่ยวเยอรมันเจอ เพราะที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เจอเหตุการณ์แบบเดียวกันคือนำสิ่งของจากวัดกลับบ้าน แล้วต้องเดือดร้อน ประสบปัญหาชีวิตต่างๆ นานา จนต้องนำกลับมาคืน
    ทั้งนี้ นายอารักษ์ยืนยันว่า ชาวต่างชาติและชาวไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ หลายคนชอบลองของ คิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีจริง ที่เจอบ่อยๆ คือ ชอบแอบฉี่ในวัด ซึ่งก็ต้องมีปัญหากับอวัยวะตรงส่วนนั้นๆ บวมบ้าง ฉี่ไม่ออกบ้าง เพราะไปลบหลู่ ไม่รู้จักที่ทาง วัดพระแก้วถือเป็นวัดสำคัญคู่ชาติบ้านเมือง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เพราะสร้างขึ้นพร้อมๆ กับวังคือเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นวัดคู่วัง มีการวางฤกษ์ตามตำราพิชัยสงคราม พระพุทธรูปหรือวัสดุต่างๆ ในวัดสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ให้ปกปักรักษาชาติถือเป็นของมีค่าและศักดิ์สิทธิ์ทุกชิ้น เป็นสมบัติของแผ่นดิน ของในหลวงและของพระพุทธศาสนา ดังนั้น เวลาจะบูรณะวัดต้องมีพิธีบวงสรวง ขอขมา และช่างต้องแต่งชุดขาวหมด

    อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวอีกว่า ไม่เฉพาะวัดพระแก้ว ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามหรือ วัดโพธิ์ วัดอรุณราชวราราม หรือวัดแจ้ง วัดราชบพิธ และวัดใกล้เคียง มีทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หลังจากนำพระ เศษแก้ว กระเบื้องจากวัดกลับบ้านคิดว่าเป็นมงคลคงจะไม่เกิดอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกรายต้องมีอันต้องประสบเคราะห์กรรมหมด

    ขณะที่พระธรรมกิตติเมธี ผช.เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ที่จัดว่าเป็นผู้มีความรู้ด้านการประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดีรูปหนึ่ง กล่าวว่า วัดพระแก้วเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์มาก พระมหากษัตริย์ทรงสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นวัดคู่ชาติบ้านเมือง พระพุทธรูปหรือแม้แต่เศษหิน เศษดินที่อยู่ในบริเวณวัดถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีคำอธิษฐานจิตให้อยู่คู่กับวัด คนโบราณจึงมีคำบอกเล่าต่อกันมาว่า ก่อนออกจากวัดให้ล้างมือล้างเท้าเสียก่อน เพราะกลัวว่าเศษหินเศษดินจะติดกลับบ้าน ดังนั้น คนที่นำของวัดกลับบ้านจึงต้องมีอันเป็นไปทุกคน
    "เคยเจอชายคนหนึ่ง เป็นคนเหนือนำลูกกระจังลายไทยจากวัดพระแก้วกลับบ้าน เพื่อตั้งใจนำไปเป็นของที่ระลึกเลี่ยมใส่ทอง กลับไปไม่ถึงวันมีคนไปตามกลับมาคืนแต่งตัวสีแดง ยืนกอดอกบอก "เอาของกูคืนมาๆ" จนต้องนำกลับมาคืน ทำพิธีขอขมากันยกใหญ่" พระธรรมกิตติเมธียกตัวอย่างพร้อมกล่าวเตือนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งประชาชนทั่วไปว่า เวลาไปตามวัดต่างๆ มีพระนำวัตถุมงคลหรือพระพุทธรูปมาให้บูชา ไม่สมควรที่จะรับ เพราะเราไม่รู้ที่มาและไม่รู้ว่าสร้างพระไว้เพื่ออะไร รับไปแล้วอาจจะให้โทษได้ เช่น พระท่า-กระดานพระท่านสร้างเก็บไว้ในเจดีย์เพื่อให้นักรบนำติดตัวเป็นขวัญกำลังใจ รบเสร็จแล้วก็นำกลับมาเก็บไว้ที่เจดีย์ แต่คนปัจจุบันนำมาสะสม ห้อยคอ ซึ่งไม่ถูกต้อง

    จากนั้น ผช.เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กล่าวถึง ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระแก้ว ถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ใครจะขอพรให้สมหวังในสิ่งที่มุ่งหวังมักจะไม่พลาด แต่ต้องรู้จักวิธีบูชา คือ ต้องนำอาหารอีสานไม่ต่ำกว่า 8 อย่าง สังฆทาน ไตรจีวร เงินเหรียญเกินอายุ เช่น อายุ 30 ปี ต้องใช้ 31 เหรียญ ไข่ 108 ฟอง เท่ากับจำนวนเทวดา พร้อมกับเตรียมเงินเหรียญ 1 บาท จำนวน 10 บาทไปวางไว้ที่บันไดกลางที่เสด็จพระราชดำเนิน ถ้าต้องการยศ ให้วางด้าน "หัว" ถ้าต้องการทำมาค้าขึ้นให้วางด้าน "ก้อย" แล้วต้องทำสมาธิ จะสำเร็จสมหวังทุกประการ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้าน รวมทั้งนักการเมืองก็ทำกันแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอดทนทำสมาธิ จึงไม่สำเร็จ เมื่อเร็วๆนี้นักการเมืองใหญ่ที่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีก็เคยมาทำพิธี แต่ไม่อดทนและไม่มีความจริงใจเลยไม่ประสบความสำเร็จ
    เช่นเดียวกับนายปกรณ์ ตันสกุล ผอ.กองศาสนูปถัมภ์ กระทรวงวัฒนธรรม ก็กล่าวถึงตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระแก้วนั้นมีมาก เช่น ตอนที่มีการบูรณะใหญ่เมื่อ พ.ศ.2525 กรุงเทพฯตั้งมาครบ 200 ปี คนงานจากกรมศิลปากรแอบขโมยพระออกไปขายให้ร้านทอง ต่อมาร้านทองนั้นเกิดไฟไหม้เป็นข่าวใหญ่โต ส่วนคนขโมยก็มีอันเป็นไป กระนั้นยังมีความพยายามขโมยของออกจากวัดเรื่อยๆ โดยเฉพาะพระที่อยู่ตามผนังโบสถ์ จำนวนมาก เพราะเชื่อว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ แต่ต้องนำมาคืนหมด ฉะนั้น ต้องอย่าลืมว่าพื้นที่สร้างวัดพระแก้วเต็มไปด้วยกระดูกช้างที่โบราณถือว่าศักดิ์สิทธิ์ และวัดสร้างขึ้นจากความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อในหลวง ต่อพระพุทธศา
    สนา
    สำหรับบรรยากาศที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หลังจากที่ข่าวนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เจออาถรรพณ์ วัดพระแก้วแพร่สะพัดออกไป ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชม และกราบไหว้สักการะพระแก้วมรกตและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจกับข่าวที่เกิดขึ้นไม่น้อย แต่ยังคงใช้มือลูบๆคลำๆกระเบื้อง เศษแก้วที่ติดตามพระเจดีย์ มณฑป โบสถ์ต่างๆ รวมทั้งช้างประจำรัชกาล นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านับจากมีข่าวนี้ออกมา เจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยได้เข้มงวดกวดขัน ในการเดินตรวจตรานักท่องเที่ยวและบรรดามัคคุเทศก์ยิ่งขึ้น เนื่องจากเกรงว่าจะมีการงัดแงะ เก็บเศษแก้ว หรือกระเบื้องกลับไป
    อีก
    ทั้งนี้ ข่าวฝรั่งเยอรมันเจออาถรรพณ์วัดพระแก้ว กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากในวันเดียวกัน สำนักข่าว "เอเอฟพี" ได้ประโคมข่าวนี้เต็มที่ โดยอ้าง รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ "ไทยรัฐ" ว่า นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ชื่อนายเจอร์เกน ซี. ได้ส่งเศษแก้วสีเขียวมรกต ที่แอบเก็บไปจากเจดีย์พระมณฑปในวัดพระแก้วเมื่อ 2-3 ปีก่อน คืนให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หวังยุติความโชคร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่นำเศษแก้วไป ซึ่งในจดหมายของนายเจอร์-เกน ซี. ที่ส่งมาพร้อมเศษแก้วสีเขียวกล่าวว่า ไม่รู้ว่าต้องคำสาปหรือไม่ แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่อยู่นอกเหนือธรรมชาติเกิดขึ้น ประสบแต่โชคร้าย ทั้งในด้านการงานและชีวิตส่วนตัว ดังนั้น จึงตัดสินใจส่งเศษแก้วคืน และจะส่งเงินมาบริจาคให้วัดพระแก้ว เพื่อเป็นการขอขมาและขจัดปัดเป่าเคราะห์ร้าย นอกจากนี้ เอเอฟพี รายงานด้วยว่า วัดพระแก้ว ซึ่งมีอายุเก่าแก่ 221 ปี เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ของเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติ



    [FONT=ms sans serif,Tahoma]ที่มา http://www.thairath.co.th/thairath1/...ec/01/p1_1.php[/FONT]
    [FONT=ms sans serif,Tahoma]..........................................................[/FONT]
    <!-- / message --><!-- sig -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กรมที่ดินคุมเข้ม "หมู่บ้านทั่วกรุง" สาธารณูปโภคทรุดโทรมโดนปรับ
    http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9510000041826
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 เมษายน 2551 07:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมที่ดินเข้มโครงการจัดสรรละทิ้งระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ ปล่อยให้ทรุดโทรม ถนนชำรุด ต้องเร่งแก้ไขภายใน 60-90 วัน พ้นกำหนดโดนปรับรายวันๆละ 1,000 บาท ยอมรับปริมาณจัดตั้งนิติบุคคลปัจจุบันมีแค่ 108 ราย เทียบกับ 5,000 โครงการภายใต้กฎหมายการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543

    นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีหมู่บ้านจัดสรรทั้งรายเก่าและใหม่ ในเขตกรุงเทพฯ ที่ได้รับอนุญาตฯ ตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 286 (ปว.286) และ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ของกรมที่ดินไปแล้ว แต่กลับพบว่า หลายรายเมื่อจบการขายแล้ว ไม่สนใจบำรุงรักษาสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะให้อยู่ในสภาพที่ดีตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ผู้อยู่อาศัยเดือดร้อนและร้องเรียนเข้ามาที่กรมที่ดินเป็นจำนวนมาก

    โดยทางกรมที่ดิน ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ ในโครงการบ้านจัดสรร เฉพาะที่ได้รับอนุญาตในเขตกทม.ว่า มีสภาพดีพร้อมใช้งานหรือไม่ หากพบว่า มีข้อบกพร่อง จะต้องให้เจ้าของโครงการแก้ไขทันที ทั้งนี้ เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัย จำนวน 97 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551) ร้องทุกข์มายังกรมที่ดิน ว่า เจ้าของโครงการละเลยไม่บำรุงรักษาสาธารณูปโภค และบริการสาธารณะให้อยู่ในสภาพที่ดี ทำให้เกิดความเดือดร้อน ซึ่งพบว่ามีทั้งบริษัทพัฒนาที่ดินรายเล็ก ไปจนถึงบริษัทรายใหญ่

    " ปัญหาที่ร้องเรียนมากที่สุด ได้แก่ ถนนทรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ท่อระบายน้ำที่ฝังตามแนวถนนแตกทำให้น้ำเอ่อล้นผิวถนน ระบบบำบัดน้ำเสียรวมไม่ทำงาน เพราะเกิดจากการประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าของเจ้าของโครงการ ตลอดจนการนำทรัพย์ส่วนกลางไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ ซึ่งในเบื้องต้น คณะทำงานจะลงพื้นที่สำรวจหมู่บ้านตามที่ร้องเรียน โดยร่วมกับสำนักงานที่ดินแต่ละเขต หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยจริง จะทำหนังสือแจ้งต่อเจ้าของโครงการให้แก้ไขภายใน60-90 วัน และหากไม่ดำเนินการตามที่กำหนด จะถูกปรับรายวันๆละ 1,000 บาท จนกว่าจะแก้ไขเรียบร้อย" อธิบดีกรมที่ดินกล่าว

    อย่างไรก็ดี มีปัญหาว่า กฎหมายจัดสรรกำหนดบทลงโทษเบาเกินไป ดังนั้น กรมที่ดินจึงพิจารณาแก้ไขเพิ่มโทษปรับ 50,000-100,000 บาท (ตัวเลขที่เหมาะสมอยู่ระหว่างพิจารณา) เนื่องจากเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ทันทีที่คณะทำงานเข้าไปพบเห็น นอกจากนี้ จะพิจารณาเพิ่มโทษปรับผู้บริหารนิติบุคคลบ้านจัดสรรด้วย ในกรณีที่เจ้าของโครงการยกสาธารณูปโภคให้ผู้อยู่อาศัยดูแล โดยรวมตัวกันตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรรขึ้นมา แต่ภายหลังผู้อยู่อาศัยร้องเรียนว่า นิติบุคคลไม่ดูแลสาธารณูปโภคให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์จะเข้าข่ายถูกปรับด้วย

    สำหรับ สถิติโครงการจัดสรรที่ดินทั้งรายเก่าที่ได้รับอนุญาตจากปว.286 ปี 2515 และ พ.ร.บ. การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 เฉพาะในเขตกทม.มีจำนวน กว่า 5,000 โครงการ ( ปี 2515-ปัจจุบัน) และกรมที่ดินได้รวบรวมโครงการเพื่ออยู่ในข่ายตรวจสอบก่อน ตั้งแต่ปี 2538-ปัจจุบัน จำนวน 1,169 โครงการ เนื่องจาก โครงการเก่ามากๆ เจ้าของอาจยกเลิกบริษัท ทำให้ไม่สามารถเอาผิดได้

    " มีทางเดียว คือ ผู้อยู่อาศัยต้องรวมตัวกันตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรรขึ้นมาดูแล เพื่อเก็บค่าส่วนกลางและนำเงินที่ได้บำรุงรักษาสาธารณูปโภคต่อไป จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มีโครงการบ้านตั้งนิติบุคคลแล้ว 108 ราย ถ้าเทียบกับปริมาณบ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นถือว่าน้อยมาก" นายชัยฤกษ์กล่าว พร้อมระบุว่า ทางผู้อยู่อาศัยสามารถขอความช่วยเหลือมาได้ที่สำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กรมที่ดิน โทร. 0-2222-6824 และ 0-2222-3271

    นายอิสระ บุญยัง อุปนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ค่อนข้างเห็นด้วยกับการจัดตั้งคณะอนุกรรมการของกรมที่ดินขึ้นมา เพื่อดูแลโครงการจัดสรรต่างๆ เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภค ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทางผู้ประกอบการทุกๆโครงการพร้อมและต้องการจัดตั้ง เพียงแต่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เช่น ตามพ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ระบุว่า ทางผู้จัดสรรต้องสมทบเงินจัดตั้งนิติบุคคลประมาณ 7% ซึ่งบางโครงการผู้ซื้อก็คิดว่าเหมาะสม แต่บางแห่งลูกค้าคิดว่าทางผู้จัดสรรยังสมทบเงินน้อยเกินไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ย่อๆครับก่อนหน้านั้นเป็นคู่แข่งในการทำงานไม่ยอมพูดคุยร่วมมือด้วย...แต่หลังจากนั้น.....กลับเข้ามาสอนและแนะนำในการทำงานให้ผู้ใหญ่พอใจครับ 5555หนาวมั้ยครับ ศัตรูกลายเป็นมิตรครับ;)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    555ผมลืมไปท่านปา-ทานใส่แล้วศัตรูจะกลายเป็นมิตรมั้ยหนอ......อ้อลืมไปอีกแล้วครับว่า ท่านปา-ทานมีแต่คนร๊ากเต็มไปหมดงัยคร๊าบ(kiss)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, อดุลย์ เมธีกุล </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ท่านผู้อ่าน จงพึงสังวรไว้ให้มากๆ หากไม่รู้จริงๆ ดูไม่ขาดจริงๆ ไม่สามารถตรวจพลังอิทธิคุณได้จริงๆ และเนื้อหาทรงพิมพ์นั้น ที่ผมเคยบอกไว้หลายต่อหลายครั้ง หากตำผงปูนเพชรไม่ถึง 4 ชั่วโมง เนื้อหาก็จะแตกต่างกันกับตำผงปูนเพชร 2 หรือ 3 ชั่วโมง อีกทั้งมวลสารที่ผสมอีก ทั้งสามสี่เรื่องนี้ ถ้าไม่ตรวจสอบกันจริงๆแล้ว เกิดไปปรามาสเข้า ไปนรกสถานเดียว ไปน๊านนาน กลับขึ้นมาเกิดก็ไปเป็นเปตรก่อนอีก ลำบากนะครับ

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ดีแล้วครับ ความกตัญญูรู้คุณคน เป็นสิ่งที่ทั้งคนไทย - คนจีน หรือ คนตะวันออก ปฎิบัติกันจนเป็นประเพณีสืบมายาวนาน

    วันนี้อย่าลืมนะครับ จะถวายพระสมเด็จ(ที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2415 และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านอธิษฐานจิต) จำนวน 200 องค์ ก็แล้วแต่จะจัดสรรไปถวายที่ไหนบ้าง

    เป็นพระสมเด็จรุ่นเดียวกันกับที่ไปมอบให้น้องเอ ตอนที่น้องเอบวชพระ แล้วแจกกับผู้ที่ไปร่วมงานบวชน้องเอครับ

    น้องchaipat ครับ อย่าลืมนำน้ำมนต์ที่ได้ในวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2551 ขอขมาสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีและเทวดาประจำองค์พระพิมพ์ แล้วนำน้ำมนต์พรมอีกครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลกับผู้ที่ได้รับพระสมเด็จไปบูชาครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมมีพระสมเด็จอยู่รุ่นนึง ซึ่งยังไม่ได้ให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ชมกัน จะบอกว่า รุ่นนี้ก็ดีมากๆเช่นกัน เป็นพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วังหน้า ที่สำคัญที่สุดก็คือ หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ,หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี(ท่านยังมิได้ทิวงคต) ส่วนพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่องค์อื่นๆ ไม่ทราบพระนาม อธิษฐานจิต

    เนื้อหาค่อนข้างสวย มีหลายพิมพ์ แถมยังมีพิมพ์วันทาเสมา(ทั้งใหญ่และเล็ก) และมีพิมพ์อื่นๆอีก

    มีเพียงน้องเอ ที่ได้เห็นแล้วครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 11 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, aries2947+, jongjing.s, narongwate, พุทธันดร+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ไม่รู้ว่าน้องเอจะจำได้หรือเปล่าเนี่ย

    ไว้น้องเอมาครั้งหน้า จะนำมาให้ชมนะครับ

    .
     
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มาบอกเล่าผลการอาราธนาพระสมเด็จ...น้ำว่านขึ้นคอวันนี้วันแรก และเป็นการแขวนเดี่ยวเปิดหน้าหลัง(อิทธิคุณเข้า และออกแบบสุดๆ)

    ผลการพูดคุยวันนี้ ๒ รอบกับชาวต่างชาติ(CFO) และคนไทย(HR)วันนี้ ได้ผลตอบรับที่ดีมาก มาถึงท่านก็อธิบายโครงสร้างบริษัท แผนงาน สินทรัพย์รวม และแนวโน้มที่จะเป็นไปในปีนี้ และสอบถามความคิดเห็นผมเล็กน้อย ก็ผลสำเร็จประมาณ ๙๕% ก็รอเพียงหนังสือยืนยันการตอบรับก่อนครับ ถึงจะครบ ๑๐๐%
     

แชร์หน้านี้

Loading...